จะมาเมื่อไหร่ crisis....
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 1
ผมลงทุนในหุ้น100เปอเซนต์ รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องเจอ crisis เข้าซักวัน ตอนแฮมเบอร์เกอร์crisis มีผลกับพอร์ทไม่มาก แต่ขนาดว่าไม่มากยังตั้งเกือบ20เปอเซนต์ของพอร์ต โชคดีที่เศรษฐกิจฟื้นเร็ว ถือไม่ถึงปีก็เด้งกลับมาที่เก่า แต่ผมคิดว่าcrisisครั้งต่อไปอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้ก็ได้ ทำให้เป็นวิตกกังวล แม้พอร์ตจะโตแบบทบต้นเฉลี่ย40กว่าเปอเซนต์ต่อปี ใน4ปีก็ตาม
สมมุติว่า ลงหุ้น100เปอเซนต์ตลอดเวลา โตแบบทบต้นปีละ30เปอเซนต์ ไป10ปี ปีที่11เกิดcrisis (เช่น ไข้หวัด2015เป็นแล้วตายเลย อเมริกาบอมซาอุฯ กรุงเทพฯจมอยู่ใต้น้ำถาวรเหตุจากดินทรุดและโลกร้อน น้ำมันขึ้นไป200เหรียญต่อบาเรล ฯลฯ) ทำให้พอร์ตลดลงทันที50-70เปอเซนต์ เท่ากับว่าที่ทำผลตอบแทนมาต่อเนื่อง10ปีแทบสูญเปล่า เพราะพอร์ตปีที่11เป็นเงินสะสมมา10ปี อยากทราบว่า วิธีการคาดการณ์crisis ทำอย่างไร มีอะไรบ้าง ไม่เอากรณีตัวเลขearning ออกมาโชว์ในงบนะครับ เพราะตอนนั้นไม่จำเป็นแล้วเพราะขายไม่ทันแล้ว ใครมีความคิดดีๆเอามาแชร์กันนะครับ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว
สมมุติว่า ลงหุ้น100เปอเซนต์ตลอดเวลา โตแบบทบต้นปีละ30เปอเซนต์ ไป10ปี ปีที่11เกิดcrisis (เช่น ไข้หวัด2015เป็นแล้วตายเลย อเมริกาบอมซาอุฯ กรุงเทพฯจมอยู่ใต้น้ำถาวรเหตุจากดินทรุดและโลกร้อน น้ำมันขึ้นไป200เหรียญต่อบาเรล ฯลฯ) ทำให้พอร์ตลดลงทันที50-70เปอเซนต์ เท่ากับว่าที่ทำผลตอบแทนมาต่อเนื่อง10ปีแทบสูญเปล่า เพราะพอร์ตปีที่11เป็นเงินสะสมมา10ปี อยากทราบว่า วิธีการคาดการณ์crisis ทำอย่างไร มีอะไรบ้าง ไม่เอากรณีตัวเลขearning ออกมาโชว์ในงบนะครับ เพราะตอนนั้นไม่จำเป็นแล้วเพราะขายไม่ทันแล้ว ใครมีความคิดดีๆเอามาแชร์กันนะครับ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 2
เออ... กังวลมากไปหรือเปล่าครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 4
ถ้าผมวิตกกังวลไปเองก็ดีสิครับ แต่ในตลาดหุ้นผมมักจะเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดเสมอๆ ยกตัวอย่าง10ปีที่ผ่านมา เหตุ911ที่ตึกเวิลเทรด ระเบิดรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน อเมริกาบุกอิรัก ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู ซึนามิ พายุนากีสที่พม่า แผ่นดินไหวที่จีน ฯลฯ
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 134
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 8
bubble จิงๆแล้วน่าจะสามารถคาดการณ์ได้ แต่ปัญหาหลักๆน่าจะอยู่ที่เรื่องๆ timing และ วิธีการณ์ในการหาตังค์จากวิกฤตนั้นๆมากกว่า นอกจากนั้นยังต้องมี conviction อย่างมากในการที่จะเชื่อว่าวิกฤตนั้นมันต้องเกิดขึ้นๆจริงๆ เพราะว่าราคาบ้านที่ขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น มันขึ้นมาเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวและแพงแล้วก็ยังมีแพงกว่า ถ้าเราพยายามจะ short อะไรซักอย่างที่พ่วงกับมูลค่าบ้าน เราอาจจะทำเร็วเกินไปมากๆ ราคาซึ่งขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆอาจจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องมาบีบเราให้ออกจาก position ไปซะก่อน
ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้นะครับ มีคนทำได้ที่เราไม่รู้อีกมากแต่ผมก็คิดว่าคงเป็นแค่ส่วนน้อย เพราะอันนี้ก็คล้ายหลักการ vi ซึ่งต้องอิงข้อมูลและที่สำคัญที่สุดต้องมี conviction อย่างมาก
ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้นะครับ มีคนทำได้ที่เราไม่รู้อีกมากแต่ผมก็คิดว่าคงเป็นแค่ส่วนน้อย เพราะอันนี้ก็คล้ายหลักการ vi ซึ่งต้องอิงข้อมูลและที่สำคัญที่สุดต้องมี conviction อย่างมาก
- aviruth
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 9
ผมว่าสังเกตจากสถาบันการเงินครับถ้าสถาบันการเงินใหญ่ๆล้ม คาดได้เลยว่าวิกฤตจะมา
อย่างคราวที่ผ่านมา ก็ เลย์แมน อีกอย่างหุ้นไม่ได้ใช้เวลาวันเดียวตกนะครับน่าจะพอขายทันบ้าง
อย่างคราวที่ผ่านมา ก็ เลย์แมน อีกอย่างหุ้นไม่ได้ใช้เวลาวันเดียวตกนะครับน่าจะพอขายทันบ้าง
อย่าคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างด้วยการทำแบบเดิม
- Jazzman
- Verified User
- โพสต์: 388
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 10
ผมก็เคยกังวลนะ แต่ถ้ามองอีกแง่ นึ่ง ตราบใดที่ยังมีการค้าขาย การค้าระหว่างประเทศ และการลงทุน ต่างๆ ตลาดหุ้นก็ยังคงอยู่ต่อไป นอกจากว่า จะมีเหตุการร้ายแรงที่สุดที่ทำให้โลกเราแตก ย้ำแตกจริงๆ :lol:
ถ้าเหุตการเหล่านั้นเกิดขึ้น ทุกอย่างก็คงได้รับผลกระทบหมด ไม่ว่าคุณจะ ทำธุรกิจอะไรก็ตาม หรือว่า ลงทุนในตลาดเงิน ส่วนพวกก่อการร้าย หรือ ภัยพิบัติ ต่างๆมาแล้วก็คงผ่านไป เพียงแต่มันใช้เวลาในการฟื้นตัว
ถ้าคนยังใช้เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนสินค้า ตลาดเงิน ก็น่าจะยังคงอยู่คับ
ส่วนผลกระทบต่างๆ ในระยะสั้นนั้น เราควรมองที่ตัวธุรกิจ และประเมินความเสี่ยง น่าจะดีกว่า ว่าจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างหากเหตุการนั้นเกิดขึ้น.
สุดท้าย หากธุรกิจนั้นสามารถยืนอยู่ได้ ราคาหุ้นก็จะกลับมาเอง และอาจจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในอนาคต ฉะนั้นอาจารย์เลยบอกว่า ตัวธุรกิจ นั้นสำคัญมากๆ ถ้าเราสามารถเลือกธุรกิจที่ดี ในราคาที่ยังถูก ก็แทบจะไม่ต้องไปกังวลกับมันเลย
ถ้าเหุตการเหล่านั้นเกิดขึ้น ทุกอย่างก็คงได้รับผลกระทบหมด ไม่ว่าคุณจะ ทำธุรกิจอะไรก็ตาม หรือว่า ลงทุนในตลาดเงิน ส่วนพวกก่อการร้าย หรือ ภัยพิบัติ ต่างๆมาแล้วก็คงผ่านไป เพียงแต่มันใช้เวลาในการฟื้นตัว
ถ้าคนยังใช้เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนสินค้า ตลาดเงิน ก็น่าจะยังคงอยู่คับ
ส่วนผลกระทบต่างๆ ในระยะสั้นนั้น เราควรมองที่ตัวธุรกิจ และประเมินความเสี่ยง น่าจะดีกว่า ว่าจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างหากเหตุการนั้นเกิดขึ้น.
สุดท้าย หากธุรกิจนั้นสามารถยืนอยู่ได้ ราคาหุ้นก็จะกลับมาเอง และอาจจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในอนาคต ฉะนั้นอาจารย์เลยบอกว่า ตัวธุรกิจ นั้นสำคัญมากๆ ถ้าเราสามารถเลือกธุรกิจที่ดี ในราคาที่ยังถูก ก็แทบจะไม่ต้องไปกังวลกับมันเลย
ลงทุนในสิ่งที่เพิ่ม " ค่า " ไปเรื่อยๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณทุกข้อความเลยครับมีประโยชน์มากๆจริงๆ
เสริมคำถามหน่อยครับ มีแนวคิดการลงทุนอย่างไร หรือ วางกลยุทธ์การจัดพอร์ตยังไง หรืออะไรก็ตามแต่ ที่เป็นkey success ในการลงทุนแบบvi
นอกเหนือจาก พื้นฐานต่างๆของvi เช่น การดูงบบริษัทที่มีROEสูงๆ ROAสูงๆกำไรเยอะๆ หนี้น้อย หรือไม่มีหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้มาก เงินสดเยอะ มาเก็ตแชร์เป็นเบอร์1 บุ๊คต่ำกว่า1 ยอดขายและกำไรโตอย่างมีนัยทุกปี ปันผลสูง ฯลฯ อาจตอบว่าไม่มีวิธีอื่นนอกจากดูงบและวิเคราะห์ธุรกิจ ก็ได้นะครับ ผมแค่อยากจะรู้ในสิ่งที่ผมคิดไม่ถึง ขอบคุณครับ
เสริมคำถามหน่อยครับ มีแนวคิดการลงทุนอย่างไร หรือ วางกลยุทธ์การจัดพอร์ตยังไง หรืออะไรก็ตามแต่ ที่เป็นkey success ในการลงทุนแบบvi
นอกเหนือจาก พื้นฐานต่างๆของvi เช่น การดูงบบริษัทที่มีROEสูงๆ ROAสูงๆกำไรเยอะๆ หนี้น้อย หรือไม่มีหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้มาก เงินสดเยอะ มาเก็ตแชร์เป็นเบอร์1 บุ๊คต่ำกว่า1 ยอดขายและกำไรโตอย่างมีนัยทุกปี ปันผลสูง ฯลฯ อาจตอบว่าไม่มีวิธีอื่นนอกจากดูงบและวิเคราะห์ธุรกิจ ก็ได้นะครับ ผมแค่อยากจะรู้ในสิ่งที่ผมคิดไม่ถึง ขอบคุณครับ
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
- PrasertsakK
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 14
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับวิธีมองหรือเปล่าว่าเราจะวัดผลกัน ณ เวลาไหน อย่าง buffet เอง ถ้าไปคำนวนตอนวิกฤตพอ มูลค่าพอร์ดก็ลดลงไปมาก 40-50% เหมือนกัน ผมว่าเขาคงไม่ได้เสียดายที่มูลค่ามันลดอะไร เพราะเหตุการณ์นั้นเป็นแค่ชั่วคราว แต่เขากลับดีใจที่จะได้ซื้อหุ้นเพิ่ม
ผมว่าแทนที่จะมานั่งดูว่า ใครจะทำสงครามกับใคร น้ำจะท่วมกรุงเทพไหม แล้วมันจะกระทบกับตลาดเมื่อไร เราก็มาพิจรณา ไอ้เหตุการณ์ที่เราพูดถึงถ้ามันเกิดแล้วมันกระทบกับบริษัทแค่ไหน และถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ๆ แล้วเราจะขาย หรือ จะซื้อดีกว่าไหมครับ เพราะว่า เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าหุ้นมันจะขึ้นจะลงเมื่อไร เราสามารถเพียงใช้ความรู้มันน้อยนิด วิเคราะห์ว่าหุ้นมันดีหรือไม่ดี ส่วนกำไรจากหุ้นมันจะเพิ่มขึ้นเร็วหรือช้าหรือขาดทุนไปเลย ก็รอว่าสิ่งที่เรารู้และวิเคราะห์มามันถูกต้องหรือเปล่า
(ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยครับ)
ผมว่าแทนที่จะมานั่งดูว่า ใครจะทำสงครามกับใคร น้ำจะท่วมกรุงเทพไหม แล้วมันจะกระทบกับตลาดเมื่อไร เราก็มาพิจรณา ไอ้เหตุการณ์ที่เราพูดถึงถ้ามันเกิดแล้วมันกระทบกับบริษัทแค่ไหน และถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ๆ แล้วเราจะขาย หรือ จะซื้อดีกว่าไหมครับ เพราะว่า เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าหุ้นมันจะขึ้นจะลงเมื่อไร เราสามารถเพียงใช้ความรู้มันน้อยนิด วิเคราะห์ว่าหุ้นมันดีหรือไม่ดี ส่วนกำไรจากหุ้นมันจะเพิ่มขึ้นเร็วหรือช้าหรือขาดทุนไปเลย ก็รอว่าสิ่งที่เรารู้และวิเคราะห์มามันถูกต้องหรือเปล่า
(ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 15
เรื่อวของความกังวล ผมคิดว่าทำให้เราไม่ประมาทเหมือนพี่ฉัตรว่าครับ แต่บางเคสผมคิดว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ครับถ้าไม่มีสัญญาณ เช่น 911 คูเวต แต่บางอย่างก้อสามารถหาสัญญาณนำบางอย่างได้เช่น sub prime ซึ่งสิ่งที่เราควรกังวลนั้นผมว่าเป็นตัวของกิจการว่ามีความสามารถในการต้านทานต่อสภาวะแวดล้อมแค่ไหนเช่น หุ้นมามา ที่ทนต่อการตกต่ำได่ทุกภาวะ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 58
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 16
...
ผมนึกถึงการลงทุนหุ้น ปูนใหญ่ ของคุณวิกรม เกษมวุฒิ ครับ
ปูนใหญ่เข้าตลาดครั้งแรก ปี 2518 ราคาปิด 167 (par=100) เท่ากับ ราคา 1.67 (par=1)
วันที่ 26/10/2553 ราคาปิด 330 บาท (par = 1)
ผ่านไป 35 ปี ราคาขึ้นมา 197 เท่า
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้นปีละ 16% (นี่ยังไม่รวมปันผลที่ได้รับ)
มาดูวิกฤติตลอด 35 ปีที่ผ่านมา
- 2522 วิกฤตน้ำมันขาดแคลน, ปัญหาราชาเงินทุน
- 2524 ลดค่าเงินบาท สองครั้ง +รัฐประหาร
- 2527 ลดค่าเงินบาท ครั้งที่ 3
- 2530 Black monday
- 2533 สงครามอ่าวเปอร์เซีย
- 2534 รัฐประหาร รสช.
- 2535 พฤษภาทมิฬ
- 2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง
- 2544 ถล่มตึกเวิล์ดเทรด (911)
- 2549 รัฐประหาร คมช.
- 2551 น้ำมันแพง ถึงลิตรละ 40 บาท
- 2551 ซับไพร์ม, แฮมเบอร์เกอร์บูด
- 2553 จราจลเผากรุง
- 2554 ...
มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ ที่ปูนใหญ่ผ่านทุกวิกฤตมาได้ โดยไม่เคยเพิ่มทุนเลยตลอด 35 ปี
ถ้าลงทุนซื้อปูนใหญ่ในวันเปิดตลาดหุ้น ในปี 2518 ด้วยจำนวนเงิน 16,700 บาท (คือซื้อแค่ 100 หุ้น @ 167)
และถือผ่าน 35 ปีจนถึงวันนี้ 26/10/2553 จะมีมูลค่าหุ้น = 3,300,000 บาท
:lol:
ผมนึกถึงการลงทุนหุ้น ปูนใหญ่ ของคุณวิกรม เกษมวุฒิ ครับ
ปูนใหญ่เข้าตลาดครั้งแรก ปี 2518 ราคาปิด 167 (par=100) เท่ากับ ราคา 1.67 (par=1)
วันที่ 26/10/2553 ราคาปิด 330 บาท (par = 1)
ผ่านไป 35 ปี ราคาขึ้นมา 197 เท่า
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้นปีละ 16% (นี่ยังไม่รวมปันผลที่ได้รับ)
มาดูวิกฤติตลอด 35 ปีที่ผ่านมา
- 2522 วิกฤตน้ำมันขาดแคลน, ปัญหาราชาเงินทุน
- 2524 ลดค่าเงินบาท สองครั้ง +รัฐประหาร
- 2527 ลดค่าเงินบาท ครั้งที่ 3
- 2530 Black monday
- 2533 สงครามอ่าวเปอร์เซีย
- 2534 รัฐประหาร รสช.
- 2535 พฤษภาทมิฬ
- 2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง
- 2544 ถล่มตึกเวิล์ดเทรด (911)
- 2549 รัฐประหาร คมช.
- 2551 น้ำมันแพง ถึงลิตรละ 40 บาท
- 2551 ซับไพร์ม, แฮมเบอร์เกอร์บูด
- 2553 จราจลเผากรุง
- 2554 ...
มันเหลือเชื่อจริงๆ ครับ ที่ปูนใหญ่ผ่านทุกวิกฤตมาได้ โดยไม่เคยเพิ่มทุนเลยตลอด 35 ปี
ถ้าลงทุนซื้อปูนใหญ่ในวันเปิดตลาดหุ้น ในปี 2518 ด้วยจำนวนเงิน 16,700 บาท (คือซื้อแค่ 100 หุ้น @ 167)
และถือผ่าน 35 ปีจนถึงวันนี้ 26/10/2553 จะมีมูลค่าหุ้น = 3,300,000 บาท
:lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 17
ผมเริ่มลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มานานพอควร ตั้งแต่ปี 2533 ปีนี้ก็ครบ 20 ปีพอดี
ถ้าวิกฤตที่เรากำลังคุยกันอยู่ ผมก็ผ่านมาหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มเล่นใหม่ๆ ตั้งแต่อิรักบุกยึดคูเวต ปฎิวัติรัฐบาลชาติชาย พฤษภาทมิฬ ช่วงลดค่าเงินบาท 911 สึนามิ ฟองสบู่อินเตอร์เน็ตที่สหรัฐแตก นโยบาย 30% ปฎิวัติรัฐบาลทักษิณ และล่าสุด Sub Prime
จะเห็นได้ว่า วิกฤตแต่ละครั้ง จะมีเหตุปัจจัยค่อนข้างแตกต่างกัน วิกฤตบางครั้งก็มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ก็อาจจะล่วงหน้านานเป็นปีๆ (จนบางครั้งก็คิดว่าหรือว่าจะไม่มีวิกฤต) เช่น ครั้งล่าสุด ก็มีสัญญาณเตือนมานานพอควร
บางครั้งก็มีสัญญาณเตือนไม่นานก็เริ่มมีปัญหา เช่น ช่วงลดค่าเงินบาท
แต่บางครั้งก็ไม่รู้ตัวมาก่อน เช่น อิรักบุกคูเวต 911 สึนามิ
ระยะเวลาก็ยาวนานไม่เท่ากัน หลายครั้งก็มีปัญหาแค่ระยะเวลาสั้นๆ บางครั้งก็ลากยาวนาน จะเร็วหรือช้า ก็คงขึ้นอยู่กับปัญหาว่าถูกแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นหรือยาวนาน
และสุดท้าย ผลกระทบ บางครั้งก็ไม่มากนัก แล้วก็กลับไปที่เดิมได้เร็ว จนนักลงทุนหลายคนกล้าที่จะเสี่ยงกับระเบิด ซื้อหุ้นตอนที่คิดว่าวิกฤตสุดๆแล้ว ซึ่งก็ทำให้นักลงทุนที่มีแนวคิดอย่างนั้นขาดทุนอย่างหนักตอนเกิดวิกฤตลดค่าเงินบาท เพราะตกหนัก ตกนานหลายปี
ส่วนที่คิดว่า แค่มีเงินเย็นก็พอ คงอาจจะไม่ใช่คำตอบ เพราะวิกฤตลดค่าเงินบาท หุ้นของหลายบริษัทกลายสภาพเป็นกระดาษที่ระลึกเท่านั้น
วิธีที่ดีที่สุดในความคิดของผมก็คือ เราควรลงทุนในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากๆตลอดเวลาครับ
ถ้าวิกฤตที่เรากำลังคุยกันอยู่ ผมก็ผ่านมาหลายครั้ง ตั้งแต่เริ่มเล่นใหม่ๆ ตั้งแต่อิรักบุกยึดคูเวต ปฎิวัติรัฐบาลชาติชาย พฤษภาทมิฬ ช่วงลดค่าเงินบาท 911 สึนามิ ฟองสบู่อินเตอร์เน็ตที่สหรัฐแตก นโยบาย 30% ปฎิวัติรัฐบาลทักษิณ และล่าสุด Sub Prime
จะเห็นได้ว่า วิกฤตแต่ละครั้ง จะมีเหตุปัจจัยค่อนข้างแตกต่างกัน วิกฤตบางครั้งก็มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ก็อาจจะล่วงหน้านานเป็นปีๆ (จนบางครั้งก็คิดว่าหรือว่าจะไม่มีวิกฤต) เช่น ครั้งล่าสุด ก็มีสัญญาณเตือนมานานพอควร
บางครั้งก็มีสัญญาณเตือนไม่นานก็เริ่มมีปัญหา เช่น ช่วงลดค่าเงินบาท
แต่บางครั้งก็ไม่รู้ตัวมาก่อน เช่น อิรักบุกคูเวต 911 สึนามิ
ระยะเวลาก็ยาวนานไม่เท่ากัน หลายครั้งก็มีปัญหาแค่ระยะเวลาสั้นๆ บางครั้งก็ลากยาวนาน จะเร็วหรือช้า ก็คงขึ้นอยู่กับปัญหาว่าถูกแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้นหรือยาวนาน
และสุดท้าย ผลกระทบ บางครั้งก็ไม่มากนัก แล้วก็กลับไปที่เดิมได้เร็ว จนนักลงทุนหลายคนกล้าที่จะเสี่ยงกับระเบิด ซื้อหุ้นตอนที่คิดว่าวิกฤตสุดๆแล้ว ซึ่งก็ทำให้นักลงทุนที่มีแนวคิดอย่างนั้นขาดทุนอย่างหนักตอนเกิดวิกฤตลดค่าเงินบาท เพราะตกหนัก ตกนานหลายปี
ส่วนที่คิดว่า แค่มีเงินเย็นก็พอ คงอาจจะไม่ใช่คำตอบ เพราะวิกฤตลดค่าเงินบาท หุ้นของหลายบริษัทกลายสภาพเป็นกระดาษที่ระลึกเท่านั้น
วิธีที่ดีที่สุดในความคิดของผมก็คือ เราควรลงทุนในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากๆตลอดเวลาครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- HARINLUX
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 19
วิกฤติที่น่าเป็นห่วงหลักๆ น่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจFlashy เขียน:ผมห่วงวิกฤตครั้งหน้าจริงๆ
เราจะเห็นว่าวิกฤตที่เกิดขึ้น มักจะมามุกใหม่เรื่อยๆ
แล้วครั้งหน้าจะมามุกไหน อะไรคือสัญญาณ
ประสบการณ์ผมยังด้อยนัก ไม่เคยผ่านวิกฤตเล้ย
ลองติดตามอ่านบทความของ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ครับ จะได้ความรู้ด้านเศรษฐกิจมหภาค และปัญหาค่าเงิน อ่านแล้ว ผมว่าเราจะได้ความรู้และเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นครับ
ใน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ใน ceo blogs จะนำบทความของอาจารย์ศุภวุฒิ ฯ มาลงเป็นประจำครับ
--------------------------
ความรู้ คู่คุณธรรม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 20
เมื่อเรารับข่าวสารมากขึ้น โลกเชือมโยงกันมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อกันเร็วขึ้น
ทำให้เรารับรู้ความเสี่ยงมากขึ้น และต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่า ไม่ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ
ดังนั้น เราก็ต้องลงทุนอยู่บนความเสี่ยงทีผ่านการประเมินมาแล้ว
เพราะถ้ากลัวเกินไป เราก็คงเสียโอกาส
แต่ถ้าเรากล้าเกินไป เราก็คงเสียเงิน
ทำให้เรารับรู้ความเสี่ยงมากขึ้น และต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่า ไม่ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ
ดังนั้น เราก็ต้องลงทุนอยู่บนความเสี่ยงทีผ่านการประเมินมาแล้ว
เพราะถ้ากลัวเกินไป เราก็คงเสียโอกาส
แต่ถ้าเรากล้าเกินไป เราก็คงเสียเงิน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 23
[quote="porzilla"]ผมลงทุนในหุ้น100เปอเซนต์ รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องเจอ crisis เข้าซักวัน ตอนแฮมเบอร์เกอร์crisis มีผลกับพอร์ทไม่มาก แต่ขนาดว่าไม่มากยังตั้งเกือบ20เปอเซนต์ของพอร์ต โชคดีที่เศรษฐกิจฟื้นเร็ว ถือไม่ถึงปีก็เด้งกลับมาที่เก่า
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 24
ดร.นิเวศน์ แกพูด simple มากเลย
หุ้นดีๆไหนถูก กลั้นใจซื้อๆไปเด๋วก็ดี
บางทีคิดว่าจะ 2-3 ปี แค่ ปีเดียวก็ดีละ
ที่พี่ฉัตรชัยบอกเลย
ไม่แน่ใจว่า ไอ้ที่นรกกลับยิ่งนรกกว่า
นี่หมายถึงหุ้นที่ไม่ค่อยโอเค
หรือหุ้นดีๆก็โดนไปด้วยคับ
เพราะ น้อยคนจะอยู่ในตลาดยาวนานเท่าพี่
หุ้นดีๆไหนถูก กลั้นใจซื้อๆไปเด๋วก็ดี
บางทีคิดว่าจะ 2-3 ปี แค่ ปีเดียวก็ดีละ
ที่พี่ฉัตรชัยบอกเลย
ไม่แน่ใจว่า ไอ้ที่นรกกลับยิ่งนรกกว่า
นี่หมายถึงหุ้นที่ไม่ค่อยโอเค
หรือหุ้นดีๆก็โดนไปด้วยคับ
เพราะ น้อยคนจะอยู่ในตลาดยาวนานเท่าพี่
show me money.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 25
คุณnut776 ครับ แค่40เปอเซนต์ของ2-3ปีนี้ ยังไม่เท่าไรหรอกครับ แถมแพ้ตลาดด้วย ซักตุลาปี51 setลงไป Lowที่300กว่าๆ จากนั้นเดือนสองเดือนวิ่งไป450 ปี52หลังสงกราน setก็วิ่งไปที่600กว่าๆพอปี53ก็ลากยาวมาจน1000ในวันนี้แหล่ะครับ สรุปว่าผลตอบแทนของพอร์ตผมมาจากสภาพตลาดที่เป็นกระทิงเท่านั้นเอง และกับการที่พอร์ตเสียหายในจำนวนปีลงทุนที่มากๆ เสียหายหนักแน่นอนครับ เพราะลงทุน100เปอเซนต์
ข้อแนะนำดีๆของคุณchatchai วิธีที่ดีที่สุดในความคิดของผมก็คือ เราควรลงทุนในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากๆตลอดเวลาครับ
และ ถ้ากลัวเกินไป เราก็คงเสียโอกาส
แต่ถ้าเรากล้าเกินไป เราก็คงเสียเงิน
แต่กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อร่อยจริงๆครับ :lol:
ข้อแนะนำดีๆของคุณchatchai วิธีที่ดีที่สุดในความคิดของผมก็คือ เราควรลงทุนในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากๆตลอดเวลาครับ
และ ถ้ากลัวเกินไป เราก็คงเสียโอกาส
แต่ถ้าเรากล้าเกินไป เราก็คงเสียเงิน
แต่กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อร่อยจริงๆครับ :lol:
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 876
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 26
จำได้ว่าพี่สุมาอี้เคยพูดไว้(ขออภัยถ้าจำผิดนะครับ) ประมาณนี้
"หน้าที่ของเรา(นักลงทุนแนว VI) ไม่ใช่การทำนายว่าจะเกิดพายุเมื่อไหร่ แต่คือการเลือกเรือที่แข็งแรงพอที่จะสามารถนำเราผ่านพายุได้"
"หน้าที่ของเรา(นักลงทุนแนว VI) ไม่ใช่การทำนายว่าจะเกิดพายุเมื่อไหร่ แต่คือการเลือกเรือที่แข็งแรงพอที่จะสามารถนำเราผ่านพายุได้"
Take care of your loss and profit will take care itself.
- halfofw
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
จะมาเมื่อไหร่ crisis....
โพสต์ที่ 28
ไม่ธรรมดาจริง ๆNoonino เขียน:จำได้ว่าพี่สุมาอี้เคยพูดไว้(ขออภัยถ้าจำผิดนะครับ) ประมาณนี้
"หน้าที่ของเรา(นักลงทุนแนว VI) ไม่ใช่การทำนายว่าจะเกิดพายุเมื่อไหร่ แต่คือการเลือกเรือที่แข็งแรงพอที่จะสามารถนำเราผ่านพายุได้"