คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 31
ผมเคยแต่ถือ TUF ตั้งแต่ราคา 14 บาท ถือมานานมากจนเงินปันผลคุ้มค่าหุ้นไปแล้วอ่ะครับ แบบนี้ถือว่าต้นทุนเป็น 0 ได้ไหมครับ
หรืออย่าง MBK ที่พ่อผมถือก็เหมือนกันครับ ถือตั้งแต่ตอนเข้าตลาดมาจนถึงวันนี้เลยครับ เงินปันผลเกินมูลค่าหุ้นที่ลงทุนไปมากแล้วครับ
หรืออย่าง MBK ที่พ่อผมถือก็เหมือนกันครับ ถือตั้งแต่ตอนเข้าตลาดมาจนถึงวันนี้เลยครับ เงินปันผลเกินมูลค่าหุ้นที่ลงทุนไปมากแล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 33
ููู^
^
^
ง่ายกว่ากันเยอะ :lol:
^
^
ง่ายกว่ากันเยอะ :lol:
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 35
ผมคิดจะทำแบบนี้เหมือนกันครับ (ขายลดต้นทุน) แต่ไม่ได้กะเภณฑ์ว่าได้เกิน 100% แล้วขาย รอบนี้ผมรอมันขึ้นไปให้สูงที่สุดแล้วค่อยขายออกครับ ขายหุ้นแต่ละครั้งก็พยายามคิดมากๆก่อนขาย ไม่ยอมขายง่ายๆ ทำให้เหมือนตอนจะซื้อครับคิดหาเหตุผลให้รอบคอบก่อนซื้อขายทุกครั้ง ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครทายอนาคตได้ล่วงหน้าว่าหุ้นมันจะขึ้นไปแค่ไหน แค่พยายามหาจุดที่ขายได้สูงที่สุด ซึ่งมันยากมากแน่ๆ เหตุผลส่วนตัวคือหุ้นบางตัวของผม ต้นทุน (mos)มันน่าเป็นห่วงเหมือนกัน ถ้าไม่ได้ขายออก
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 962
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 36
ไม่เคยคิดเลยครับ
เพราะว่าผมคิดเสมอว่ากำไรที่ผมได้มา มันก็คือทุนในตอนนี้
ดังนั้นถ้าผมจะลดทุนให้เหลือ 0 ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
อีกอย่าง ผมจะใส่ทุนไปเรื่อยๆ มันเลยจำไม่ได้ว่าทุนจริงๆเป็นเท่าไร :oops:
เพราะว่าผมคิดเสมอว่ากำไรที่ผมได้มา มันก็คือทุนในตอนนี้
ดังนั้นถ้าผมจะลดทุนให้เหลือ 0 ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
อีกอย่าง ผมจะใส่ทุนไปเรื่อยๆ มันเลยจำไม่ได้ว่าทุนจริงๆเป็นเท่าไร :oops:
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 37
เป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้ที่ยังบริหารจัดการอารมณ์ตัวเองได้ไม่มั่นคงครับ
แต่วิธีที่ดีกว่าคือการพยายามควบคุมอารมณ์ในการลงทุน อย่าให้อารมณ์ของนายตลาดมาอยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจ
แต่วิธีที่ดีกว่าคือการพยายามควบคุมอารมณ์ในการลงทุน อย่าให้อารมณ์ของนายตลาดมาอยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 38
[quote="zephyr"]ไม่เคยคิดเลยครับ
เพราะว่าผมคิดเสมอว่ากำไรที่ผมได้มา มันก็คือทุนในตอนนี้
ดังนั้นถ้าผมจะลดทุนให้เหลือ 0 ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
อีกอย่าง ผมจะใส่ทุนไปเรื่อยๆ มันเลยจำไม่ได้ว่าทุนจริงๆเป็นเท่าไร
เพราะว่าผมคิดเสมอว่ากำไรที่ผมได้มา มันก็คือทุนในตอนนี้
ดังนั้นถ้าผมจะลดทุนให้เหลือ 0 ก็คงไม่ต้องลงทุนแล้วล่ะครับ
อีกอย่าง ผมจะใส่ทุนไปเรื่อยๆ มันเลยจำไม่ได้ว่าทุนจริงๆเป็นเท่าไร
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 39
การขายออกเพื่อให้ต้นทุนเหลือ 0 ไม่เคยทำครับ
แต่ที่ทำคือการบริหารต้นทุน เช่น ขายบางส่วนของตัว A ที่มี mos น้อยลงไปซื้อเพิ่มในตัว B ที่เราถืออยู่แล้วแต่มี mos มากกว่า แล้วพอ ตัว B ขึ้นมาจน mos น้อยลงเราก็จะไปเปรียบเทียบกับ mos ของตัว A หากเท่ากันก็จะยังไม่มีการเทรด แต่หาก ตัว B มี mos น้อยและเป็นจังหวะที่ ตัว A มี mos มากก็จะขายบางส่วนของตัว B กลับมาซื้อตัว A คืน แต่ผมไม่ได้จับคู่หุ้นนะครับใช้ดูในกลุ่มที่เราถืออยู่ทั้งกลุ่มแล้วเปรียบเทียบ mos เอาครับและจะไม่ซื้อนอกกลุ่มที่ถืออยู่ เพราะยังไม่ได้วิเคราะห์ เท่าที่ทำมาก็ได้ผลดีพอควรทำให้ต้นทุนหุ้นที่เราถืออยู่ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆครับแต่โอกาสในการทำอย่างนี้คือต้องนั่งเฝ้าราคา เพื่อหาจังหวะ ระหว่าง mos ครับ ทำให้เสียเวลาอยู่กับหน้าจอคอมมากพอควรครับ แต่ช่วงหลังก็พยายามเปลี่ยน เป็นการถือยาวเพื่อรอให้ราคาเกิน ราคาเป้าหมายที่คิดลด แล้วค่อยหาจังหวะเทรดครับ คือพยามยามเทรดให้น้อยลงและจะเทรดต่อเมื่อ mos ต่างกันมากขึ้นจริงๆเท่านั้น หากต่างกันไม่มากก็พยายามจะไม่เทรดครับ
แต่ที่ทำคือการบริหารต้นทุน เช่น ขายบางส่วนของตัว A ที่มี mos น้อยลงไปซื้อเพิ่มในตัว B ที่เราถืออยู่แล้วแต่มี mos มากกว่า แล้วพอ ตัว B ขึ้นมาจน mos น้อยลงเราก็จะไปเปรียบเทียบกับ mos ของตัว A หากเท่ากันก็จะยังไม่มีการเทรด แต่หาก ตัว B มี mos น้อยและเป็นจังหวะที่ ตัว A มี mos มากก็จะขายบางส่วนของตัว B กลับมาซื้อตัว A คืน แต่ผมไม่ได้จับคู่หุ้นนะครับใช้ดูในกลุ่มที่เราถืออยู่ทั้งกลุ่มแล้วเปรียบเทียบ mos เอาครับและจะไม่ซื้อนอกกลุ่มที่ถืออยู่ เพราะยังไม่ได้วิเคราะห์ เท่าที่ทำมาก็ได้ผลดีพอควรทำให้ต้นทุนหุ้นที่เราถืออยู่ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆครับแต่โอกาสในการทำอย่างนี้คือต้องนั่งเฝ้าราคา เพื่อหาจังหวะ ระหว่าง mos ครับ ทำให้เสียเวลาอยู่กับหน้าจอคอมมากพอควรครับ แต่ช่วงหลังก็พยายามเปลี่ยน เป็นการถือยาวเพื่อรอให้ราคาเกิน ราคาเป้าหมายที่คิดลด แล้วค่อยหาจังหวะเทรดครับ คือพยามยามเทรดให้น้อยลงและจะเทรดต่อเมื่อ mos ต่างกันมากขึ้นจริงๆเท่านั้น หากต่างกันไม่มากก็พยายามจะไม่เทรดครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 40
เห็นด้วยครับ
ต้องแยกแยะประเด็น ระหว่าง...
ขายเพื่อชักเอาทุนออก ทิ้งกำไรไว้ เพื่อบริหารใจ
หรือบริหารความเสี่ยง
หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่
กับ การปรับพอร์ต เมื่อเจอหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจ
ก็ต้องเลือกขายหุ้นตัวเก่าบางส่วนออกไป
โดยไม่จำเป็นว่าต้นทุนของหุ้นตัวเก่าจะต้องเหลือเท่าไหร่
ต้องแยกแยะประเด็น ระหว่าง...
ขายเพื่อชักเอาทุนออก ทิ้งกำไรไว้ เพื่อบริหารใจ
หรือบริหารความเสี่ยง
หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่
กับ การปรับพอร์ต เมื่อเจอหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจ
ก็ต้องเลือกขายหุ้นตัวเก่าบางส่วนออกไป
โดยไม่จำเป็นว่าต้นทุนของหุ้นตัวเก่าจะต้องเหลือเท่าไหร่
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 41
ทำแล้วลง ตัดสินใจถูก อย่างน้อย ถ้าจะซื้อคืนในจำนวนเท่าเดิมในราคาที่น้อยลง หรือ จำนวนหุ้นมากขึ้นด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม ถ้าหุ้นยังดี ก็ได้จำนวนหุ้นมากขึ้น
แต่ถ้าคิดว่า ลงแน่นนอน เขวี้ยงหมดก่อน แล้วค่อยเก็บใหม่ เมื่อลง
แต่ถ้าทำแล้ว ขึ้นไปต่อ = ขายหมู
ถ้าทำแล้ว ตัวที่ขายขึ้นต่อ แต่เราเอาเงินไปซื้อ ตัวที่ นิ่ง
เรียก ว่า ขายหมู ไปซื้อกระบือ
ถ้าทำแล้วตัวที่ขายขึ้น แต่ เราเอาเงินไปซื้อตัวที่ ลง
เรียกว่า ขายหมู ไปซื้อ งูพิษ
แต่ถ้าคิดว่า ลงแน่นนอน เขวี้ยงหมดก่อน แล้วค่อยเก็บใหม่ เมื่อลง
แต่ถ้าทำแล้ว ขึ้นไปต่อ = ขายหมู
ถ้าทำแล้ว ตัวที่ขายขึ้นต่อ แต่เราเอาเงินไปซื้อ ตัวที่ นิ่ง
เรียก ว่า ขายหมู ไปซื้อกระบือ
ถ้าทำแล้วตัวที่ขายขึ้น แต่ เราเอาเงินไปซื้อตัวที่ ลง
เรียกว่า ขายหมู ไปซื้อ งูพิษ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- เหล็งฮู้ชง
- Verified User
- โพสต์: 275
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 42
ผมมีหุ้น อยู่ 3 ตัวที่ต้นทุนใกล้ เคียง ศูนย์
โดยผมจะทยอยขายเพื่อลดต้นทุนไปเรื่อยๆ
ปัจจุบันก็ดูมันปันผล และราคาขึ้นๆลงๆ
แบบหุ้นไข่ห่านทองคำ
โดยผมจะทยอยขายเพื่อลดต้นทุนไปเรื่อยๆ
ปัจจุบันก็ดูมันปันผล และราคาขึ้นๆลงๆ
แบบหุ้นไข่ห่านทองคำ
จงอยู่ด้วยความไม่ประมาท
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 43
ผมก็ทำนะครับ แต่จะขายเมือคิดว่าราคาแพงไปแล้วสำหรับปีหน้า
เพราะ ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งมาก ควรจะรักษาต้นทุนไว้ให้ได้ก่อน
หากว่าประเมินผิดพลาดจะเจ็บตัวน้อย แล้วจะได้ไม่ต้องไปกังวลว่าราคาจะเป็นยังไงต่อ รอดูแต่ผลประกอบการ
แต่พอขายออกมา ก็จะแบ่งไปทำบุญก่อน
และค่อยดูว่าจะมีบริษัทไหนน่าสนใจอีกบ้าง ไม่ก็รอจนหุ้นตัวเดิมลงต่ำค่อยซื้อเพิ่ม
ซึ่งความคิดผมได้อิทธิพลมาจาก กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ เช่นกันครับ
จากที่ผมเคยได้พูดคุยกับ คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์
ท่านก็บอกว่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับลดความเสี่ยงในความไม่รู้ นะครับ
ท่านบอกว่า ท่านไม่ใช่คนเก่งที่จะประเมินมูลค่าหุ้นได้ถูกต้องหรือแม่นยำ อะไรมาก จึงเลือกใช้วิธีนี้
ดังนั้นผมคิดว่า ก็เป็นวิธีบริหารความเสี่ยงแบบนึงที่ดีนะครับ
เพราะ ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งมาก ควรจะรักษาต้นทุนไว้ให้ได้ก่อน
หากว่าประเมินผิดพลาดจะเจ็บตัวน้อย แล้วจะได้ไม่ต้องไปกังวลว่าราคาจะเป็นยังไงต่อ รอดูแต่ผลประกอบการ
แต่พอขายออกมา ก็จะแบ่งไปทำบุญก่อน
และค่อยดูว่าจะมีบริษัทไหนน่าสนใจอีกบ้าง ไม่ก็รอจนหุ้นตัวเดิมลงต่ำค่อยซื้อเพิ่ม
ซึ่งความคิดผมได้อิทธิพลมาจาก กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ เช่นกันครับ
จากที่ผมเคยได้พูดคุยกับ คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์
ท่านก็บอกว่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับลดความเสี่ยงในความไม่รู้ นะครับ
ท่านบอกว่า ท่านไม่ใช่คนเก่งที่จะประเมินมูลค่าหุ้นได้ถูกต้องหรือแม่นยำ อะไรมาก จึงเลือกใช้วิธีนี้
ดังนั้นผมคิดว่า ก็เป็นวิธีบริหารความเสี่ยงแบบนึงที่ดีนะครับ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 44
มะเคยครับ เพราะมะค่อยสนใจกำไรในพอร์ทที่แสดงในเวปเท่าไหร่่ครับ
สนใจแต่กำไรทั้งพอร์ท และUpsideที่เหลืออยู่ในแต่ตัวเท่านั้นครับ
แต่กำไรขาดทุนในworksheetที่ทำไว้จดบันทึกหุ้น ต้นทุนผมมันขึ้นว่าติดลบครับ งงๆอยู่เหมือนกันครับ ลองมาดูดีๆเพิ่งจะเข้าใจครับ
สมมุติซื้อหุุ้้้้นA 10*10,000=100,000บาท หุ้นไป15บาท กำไร50,000แล้วขายออกไป จะมีกำไรสะสมที่50,000
พอกลับมาซื้อตัวเดิมแต่ซื้อแค่15*1,000หุ้น=15,000บาท-50,000กำไรสะสม=-35,000บาท
-35,000/1000=-35บาท
ดังนั้นแทนที่พอร์ทผมจะมีต้นทุน0บาทเหมือน จขกท แต่พอร์ทผม ต้นทุน-35บาท จากราคาล่าสุด15บาท แปลกดีนะครับเอาไว้ดูเล่นๆหนุกๆครับ
สนใจแต่กำไรทั้งพอร์ท และUpsideที่เหลืออยู่ในแต่ตัวเท่านั้นครับ
แต่กำไรขาดทุนในworksheetที่ทำไว้จดบันทึกหุ้น ต้นทุนผมมันขึ้นว่าติดลบครับ งงๆอยู่เหมือนกันครับ ลองมาดูดีๆเพิ่งจะเข้าใจครับ
สมมุติซื้อหุุ้้้้นA 10*10,000=100,000บาท หุ้นไป15บาท กำไร50,000แล้วขายออกไป จะมีกำไรสะสมที่50,000
พอกลับมาซื้อตัวเดิมแต่ซื้อแค่15*1,000หุ้น=15,000บาท-50,000กำไรสะสม=-35,000บาท
-35,000/1000=-35บาท
ดังนั้นแทนที่พอร์ทผมจะมีต้นทุน0บาทเหมือน จขกท แต่พอร์ทผม ต้นทุน-35บาท จากราคาล่าสุด15บาท แปลกดีนะครับเอาไว้ดูเล่นๆหนุกๆครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 45
สำหรับผมไม่เคยทำนะ แต่จะใช้วิธีการปรับพอร์ตมากกว่าเนื่องจากผมถือหุ้นเกือบ 100% ตลอดเวลา
โดยผมจะมีหลักเกณฑ์ประมาณนี้
- ขายตัวที่รู้ว่าวิเคราะห์ผิด
- ขายตัวที่ถือมาเกิน 3 ปีแล้วผลตอบแทนรวมทั้งหมดยังได้ไม่เกิน 36% เพราะถือว่าได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่ถือหุ้นมา
- จำนวนหุ้นไม่ให้เกิน 10 ตัว และหุ้นทุกตัวควรมีราคาต่ำกว่า fair value อยู่เสมอ
- หุ้น 1 ตัวไม่ควรมีมูลค่าเกินกว่า 30% ของพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตไม่ให้ผันผวนกับมูลค่าหุ้นตัวเดียวมากเกินไป
(เรามีสิทธิ์ผิดพลาดได้เสมอ อย่าเชื่อมั่นมากจนเกินไป)
โดยผมจะมีหลักเกณฑ์ประมาณนี้
- ขายตัวที่รู้ว่าวิเคราะห์ผิด
- ขายตัวที่ถือมาเกิน 3 ปีแล้วผลตอบแทนรวมทั้งหมดยังได้ไม่เกิน 36% เพราะถือว่าได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่ถือหุ้นมา
- จำนวนหุ้นไม่ให้เกิน 10 ตัว และหุ้นทุกตัวควรมีราคาต่ำกว่า fair value อยู่เสมอ
- หุ้น 1 ตัวไม่ควรมีมูลค่าเกินกว่า 30% ของพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตไม่ให้ผันผวนกับมูลค่าหุ้นตัวเดียวมากเกินไป
(เรามีสิทธิ์ผิดพลาดได้เสมอ อย่าเชื่อมั่นมากจนเกินไป)
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 46
ที่ว่า ไม่ควรให้หุ้นตัวใด เกิน 30%
ตอนนี้ ผมทำไม่ได้
เพราะ เอาเงินที่ได้ จาก ทำต้นทุน เป็น 0
หรือ ขายตัวอื่น
ไปลง ตัวที่สูงสุด จน มันเป็น 47%
ผมเลย มีกระทู้ ต่อเนื่อง ว่า ถือกันกี่ตัว และ top 3 คิดเป็นกี่ %
เจอ คนถือ หนักๆ ในตัวเดียว ในพอร์ทน้อยตัว เหมือนผมครับ
บางท่าน เล่นตัวเดียวเลยด้วยซ้ำ
กระจาย ความเสี่ยง อาจจะดี
แต่ ถ้า เราเข้าใจ ตัวเดียวให้ลึกซึ้ง ไปเลย ก็อาจดีเหมือนกันครับ
ตอนนี้ ผมทำไม่ได้
เพราะ เอาเงินที่ได้ จาก ทำต้นทุน เป็น 0
หรือ ขายตัวอื่น
ไปลง ตัวที่สูงสุด จน มันเป็น 47%
ผมเลย มีกระทู้ ต่อเนื่อง ว่า ถือกันกี่ตัว และ top 3 คิดเป็นกี่ %
เจอ คนถือ หนักๆ ในตัวเดียว ในพอร์ทน้อยตัว เหมือนผมครับ
บางท่าน เล่นตัวเดียวเลยด้วยซ้ำ
กระจาย ความเสี่ยง อาจจะดี
แต่ ถ้า เราเข้าใจ ตัวเดียวให้ลึกซึ้ง ไปเลย ก็อาจดีเหมือนกันครับ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 47
ผมซื้อ Global ที่ 2.51 บาท พอขึ้นไป 5.0 บาท ก็ขายออกครึ่งนึง แล้วหุ้นก็ขึ้นต่อจนตอนนี้ 10.6 บาทแล้วครับ
ถามว่าเสียดายมั้ยก็คงเสียดาย แต่ส่วนนึงก็สบายใจเพราะไม่มีต้นทุนเหลืออยู่แล้ว คงจะถือเอาไว้อีกนานครับ
อาจจะรอจนเค้าไม่ขยายสาขาเพิ่ม หรือถ้าลงมาก็อาจจะซื้อเพิ่ม แต่คงลงบัญชีแยกเป็นอีกชุด
เงินจากการขายยังไม่ได้ซื้อหุ้นอะไรเลย เพราะวิเคราะห์ไม่เก่ง ผมรอเข้าตอนมีวิกฤติดีกว่า 3ปี 5ปี หรือ 10 ปีก็จะมีลดราคา
ครั้งยิ่งใหญ่สักครั้ง mos เยอะ และ cap gain ก็เยอะกว่า
ถามว่าเสียดายมั้ยก็คงเสียดาย แต่ส่วนนึงก็สบายใจเพราะไม่มีต้นทุนเหลืออยู่แล้ว คงจะถือเอาไว้อีกนานครับ
อาจจะรอจนเค้าไม่ขยายสาขาเพิ่ม หรือถ้าลงมาก็อาจจะซื้อเพิ่ม แต่คงลงบัญชีแยกเป็นอีกชุด
เงินจากการขายยังไม่ได้ซื้อหุ้นอะไรเลย เพราะวิเคราะห์ไม่เก่ง ผมรอเข้าตอนมีวิกฤติดีกว่า 3ปี 5ปี หรือ 10 ปีก็จะมีลดราคา
ครั้งยิ่งใหญ่สักครั้ง mos เยอะ และ cap gain ก็เยอะกว่า
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 49
เรื่องนี้ผมว่า.. พูดยาก
เพราะต้องสัมผัสเอง
มันเป็นศิลปะ
แฮ ...
ส่วนตัว.. เคยมาแล้วทั้ง...
ถือหุ้นตัวเดียว 100%
แต่ความรู้สึก.. เฉยๆ
กับการถือหุ้นบางตัวแค่ 50%
แต่ความรู้สึก.. ตระหนก
เพราะต้องสัมผัสเอง
มันเป็นศิลปะ
แฮ ...
ส่วนตัว.. เคยมาแล้วทั้ง...
ถือหุ้นตัวเดียว 100%
แต่ความรู้สึก.. เฉยๆ
กับการถือหุ้นบางตัวแค่ 50%
แต่ความรู้สึก.. ตระหนก
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 51
ซื้อ n-park ซิครับ เป็น 0 แน่ๆ
value trap
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดจะทำต้นทุนหุ้นในเป็น 0 บ้างไหมครับ
โพสต์ที่ 52
ยังไม่แน่หรอกครับวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ซื้อ n-park ซิครับ เป็น 0 แน่ๆ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld