น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 1
ในการบริหาร port นะครับ หรือจะบริหารหุ้นรายตัวก็ได้
การที่มันกระทบการตัดสินใจของคุณ assume โดย fix ว่าน้ำหนักความน่าเป็นห่วงอยู่ที่ระดับปานกลาง (ไม่แน่ใจเหมือนกัน ระดับความน่าเป็นห่วงคง subjective แต่ เพื่อให้ตอบง่ายขึ้น fix ไว้ระดับกลาง)
เต็ม 100% คุณให้น้ำหนักเท่าไหร่ครับ
PS. ขอเป็นตัวเลขนะครับ อธิบายนิดก็ได้ว่าทำไม แต่ผมไม่ต้องการจะสร้างกระทู้นี้ให้เป็นประเด็นการเมือง ประเด็นที่ผมสนใจคือเรื่องน้ำหนักต่อการตัดสินใจ กระทู้นี้จะได้ไม่ถูกลบ ผมอยากเห็นสัดส่วนของคนในนี้ (assume ว่าทุกคนมี mindset ความเป็น VI อย่างน้อย 80% ) ที่มีแนวโน้ม short against the port ออกไปก่อนยามเวลาการเมืองคลุมเคลือ หรือปรับ port ออกไปเข้าหุ้นที่ reception to political movement ต่ำ
การที่มันกระทบการตัดสินใจของคุณ assume โดย fix ว่าน้ำหนักความน่าเป็นห่วงอยู่ที่ระดับปานกลาง (ไม่แน่ใจเหมือนกัน ระดับความน่าเป็นห่วงคง subjective แต่ เพื่อให้ตอบง่ายขึ้น fix ไว้ระดับกลาง)
เต็ม 100% คุณให้น้ำหนักเท่าไหร่ครับ
PS. ขอเป็นตัวเลขนะครับ อธิบายนิดก็ได้ว่าทำไม แต่ผมไม่ต้องการจะสร้างกระทู้นี้ให้เป็นประเด็นการเมือง ประเด็นที่ผมสนใจคือเรื่องน้ำหนักต่อการตัดสินใจ กระทู้นี้จะได้ไม่ถูกลบ ผมอยากเห็นสัดส่วนของคนในนี้ (assume ว่าทุกคนมี mindset ความเป็น VI อย่างน้อย 80% ) ที่มีแนวโน้ม short against the port ออกไปก่อนยามเวลาการเมืองคลุมเคลือ หรือปรับ port ออกไปเข้าหุ้นที่ reception to political movement ต่ำ
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 2
0.00
- watermusic
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 3
ส่วนตัวคิดว่า
ในระยะยาว การเมืองไม่มีผลต่อหุ้นเท่าไหร่ ยกเว้นหุ้นบางตัว ของบางตระกูล
แต่ก็เคยอ่านในตำราว่า
"การเมืองดี ไม่ได้ทำให้หุ้นดีขึ้น แต่การเมืองแย่ทำให้หุ้นแย่ลงไปด้วย"
ในระยะยาว การเมืองไม่มีผลต่อหุ้นเท่าไหร่ ยกเว้นหุ้นบางตัว ของบางตระกูล
แต่ก็เคยอ่านในตำราว่า
"การเมืองดี ไม่ได้ทำให้หุ้นดีขึ้น แต่การเมืองแย่ทำให้หุ้นแย่ลงไปด้วย"
สิ่งมีชีวิตซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกลัวและความโลภ
- izicado
- Verified User
- โพสต์: 102
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 6
30% ครับ
ความคิดของผมการเมืองสำคัญกับหุ้นกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจ โดยเป็นที่รู้กันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี จำเป็นต้องอาศัยการเมืองที่มีเสถียรภาพ
ดังนั้นการเมืองที่ง่อนแง่นจะกระจายความเสียหายไปสู่หุ้นทุกตัวมากบ้างน้อยบ้าง ยกตัวอย่างตรงนี้ผมจะหาดูว่าหุ้นตัวไหนที่สามารถรับมือกับปัญหาการเมืองได้ดีมี Growth ต่อเนื่อง หรือหุ้นตัวไหนที่อั้นมาเต็มที่และพร้อมจะระเบิดกำไรเป็นพลุแตกเมื่อการเมืองลดท่าทีที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญทางเศรษฐกิจ
ผมคิดว่าการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งระยะสั้นและต่อเนื่องไปเป็นระยะยาว โดยเฉพาะการเมืองไทย ถ้าสามารถทำความเข้าใจให้กระจ่างได้แล้วน่าจะมีนัยยะกับประสิทธิภาพในการลงทุนครับ
ความคิดของผมการเมืองสำคัญกับหุ้นกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจ โดยเป็นที่รู้กันว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดี จำเป็นต้องอาศัยการเมืองที่มีเสถียรภาพ
ดังนั้นการเมืองที่ง่อนแง่นจะกระจายความเสียหายไปสู่หุ้นทุกตัวมากบ้างน้อยบ้าง ยกตัวอย่างตรงนี้ผมจะหาดูว่าหุ้นตัวไหนที่สามารถรับมือกับปัญหาการเมืองได้ดีมี Growth ต่อเนื่อง หรือหุ้นตัวไหนที่อั้นมาเต็มที่และพร้อมจะระเบิดกำไรเป็นพลุแตกเมื่อการเมืองลดท่าทีที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญทางเศรษฐกิจ
ผมคิดว่าการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งระยะสั้นและต่อเนื่องไปเป็นระยะยาว โดยเฉพาะการเมืองไทย ถ้าสามารถทำความเข้าใจให้กระจ่างได้แล้วน่าจะมีนัยยะกับประสิทธิภาพในการลงทุนครับ
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 7
0%
Its all about getting alpha.
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: น้ำหนักของเรื่องการเมืองในประเทศที่คุณให้ต่อการลงทุน
โพสต์ที่ 8
ผมว่าการปฏิวิติหรือยุบสภาจริงๆมีผลน้อยต่อหุ้นครับ
แต่นโยบายทางเศรษฐกิจของฝ่ายบริหารมีผลต่อธุรกิจมากกว่า เช่น ที่เพิ่งเกิดเร็วๆนี้
1 ให้ลดส่วนต่างสเปดดอกเบี้ยเงินกูกับเงินฝากของธนาคารพานิชณืทั้งหลายก็ทำให้ธนาคารได้กำไรลดลงได้
2 นโยบายแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งที่กำพลังจะออกมา
3 นโยบายลดภาษีการโอนที่ดินที่กำลังจะเลิกใช้+ นโยบาย LTV คุมสินเชื่ออสังหาฯ แบบอ่อนๆสกัดฟองสบู่ ก็มีผลต่อกลุ่มอสังหาเช่นกัน
4 นโยบาย 3Gในอนาคต ก็มีผลต่อค่ายมือถือ เป็นต้น
แต่นโยบายทางเศรษฐกิจของฝ่ายบริหารมีผลต่อธุรกิจมากกว่า เช่น ที่เพิ่งเกิดเร็วๆนี้
1 ให้ลดส่วนต่างสเปดดอกเบี้ยเงินกูกับเงินฝากของธนาคารพานิชณืทั้งหลายก็ทำให้ธนาคารได้กำไรลดลงได้
2 นโยบายแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งที่กำพลังจะออกมา
3 นโยบายลดภาษีการโอนที่ดินที่กำลังจะเลิกใช้+ นโยบาย LTV คุมสินเชื่ออสังหาฯ แบบอ่อนๆสกัดฟองสบู่ ก็มีผลต่อกลุ่มอสังหาเช่นกัน
4 นโยบาย 3Gในอนาคต ก็มีผลต่อค่ายมือถือ เป็นต้น
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ