การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
sorn adis
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
tt เขียน:ถ้าทุกคนคิดแบบนี้เยอะๆไม่อยากคิดถึงอนาคตของประเทศเลย
หมอไม่อยากทำงาน
วิศวะไม่อยากทำงาน
ทุกท่านมีสิทธิ์วางแผนชีวิตของตัวเองครับ
แต่ถ้าretire แล้ว ได้ทำงานตามที่ตนเองชอบและถนัด
โดยไม่ต้องโดนบีบบังคับตามตารางการทำงานและหัวโขน
ผมกลับมองว่าส่งผลดีต่อสังคมและครอบครัวมากกว่าครับ
หมอได้ตรวจผู้ป่วยโดยใช้เวลาตรวจแต่ละคนให้มากขึ้น
มองผู้ป่วยในภาพรวมมากขึ้นทั้งจิตใจ ร่างกายและสังคม
ไม่ใช่ว่าโดนบีบบังคับให้ต้องตรวจผู้ป่วยคนละ 2-3 นาที
ดังเช่นระบบในปัจจุบันนี้
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
-
sorn adis
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
jek ae เขียน:2BOK เขียน:ยินดีด้วย
มีเวลาว่างแล้ว ถ้ามาหาดใหญ่อย่าลืมโทรมาเลี้ยงข้าวผมนะ
meeting หาดใหญ่ครั้งหน้าจะไปขอความรู้อ.อดิศรครับ
ความรู้ไม่มีครับพี่เอ๋ มีแต่black หรือ gold lebel ไว้ต้อนรับ
แต่ไม่ต้องห่วงครับ มีความรู้เพียบทั้งจากอ.โจ อ.ตี้ อ.วรพงศ์
และเพื่อนๆท่านอื่นๆ รอพี่เอ๋อยู่ครับ
คาถาลงทุน
BuVaPiCaMos
-
jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 1
tt เขียน:ถ้าทุกคนคิดแบบนี้เยอะๆไม่อยากคิดถึงอนาคตของประเทศเลย
หมอไม่อยากทำงาน
วิศวะไม่อยากทำงาน
ผมยังสนุกกับการทำงานครับ คุณtt เพียงแต่เลือกทำในฐานะนักลงทุนเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ยังต้องขวนขวายหาความรู้ด้านการลงทุนเพิ่มเติมอยู่ทุกวันครับ อ่านหนังสือมากกว่าตอนเป็นหมอซะอีก
เรื่องหมอที่หายไปไม่ต้องกังวลหรอกครับ ทั้งประเทศตอนนี้มีหมอเกือบ 40000 คน เฉลี่ยแล้ว หมอ 1 คน/ประชากร 1500 คนแค่นั้นเอง ไม่เหมือน16-17 ปีที่แล้ว ที่ผมอยู่รพช.คนเดียวกับประชากร 30000คน
อีกอย่างนึงถ้ากลุ่มหมอ วิศวะ หรือวิชาชีพอื่นใดหันมาเป็น value investor กันมากขึ้นน่าจะเกิดผลดีมากกว่าเสียนะอย่างน้อย gdp ก็น่าจะสูงขึ้น
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
-
KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
จะมากไปไหม ถ้าจะบอกว่า
มาตามทาง ของ ดร. แล้ว ก็ตั้งเป้าให้เหมือน ดร. ซะเลย
และใช้วิถีชีวิต เหมือน ดร.
แต่ต้องหาเมียก่อนนะ เพราะต้องใช้ชื่อเมียถือหุ้น ขาดอยู่ข้อเดียวที่ไม่เหมือน ดร. :lovl: :lovl:
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
-
tradtrae
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้ อืม... จะครบ 2 ปีแล้ว พี่ๆ ที่คุยๆ กัน คงใกล้ความฝันกันแล้วมั้ง
ส่วนผมเพิ่งจะเริ่มลงทุนด้วยทุนอันน้อย แต่ก็ชักติดใจ ติดใจในอัตราเงินปันผลที่ดูหอมหวนเหลือเกิน จนเกิดความคิดว่า ...
ถ้าได้เงินปันผลแค่ปีละล้าน ก็น่าจะพอให้เราอยู่กินแบบสบายๆ ได้แล้ว
ไม่ต้องหรูหราฟุ่มเฟือย แค่มีกินมีใช้ไม่อดตายแบบนี้ ก็คงจะเกษียณตัวเองได้แล้วแหละ
คิดๆ แล้ว ตัวเองต้องมีทุนสัก 10 ล้านเป็นอย่างน้อย และหาหุ้นที่จ่ายปันผลปีละ 10% ให้ได้เสียก่อน ฝันนั้นถึงจะเป็นจริงได้
แต่ความฝันนี้ ช่างยาวไกลยิ่งนัก
-
SOIVEGA
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
เราตั้งเป้าไว้ไม่เกิน 40 ปี port 4 ล้าน มีเงินปันผล 6% รวมเครดิตภาษี ประมาณ เดือนละ สองหมื่น เราก็พอใช้แล้วคะ พนักงานรายวันเงินเดือนยังถึง 20000 ยังอยู่ได้เลย แต่คิดว่ายังทำงานอยู่คะ แต่ทำแบบสบายๆ ไม่เครียด อยากทำอะไรตามใจตัวเองคะ
-
daydreamee
- Verified User
- โพสต์: 14
- ผู้ติดตาม: 0
ตั้งเป้าไว้ว่าอยากมีมูลค่าหุ้นในพอร์ทซัก 20 ล้าน
หาผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวเฉลี่ยปีละ 10-14 %
เพื่อนำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ทั้งหมด 8 คน มีเวลาอยู่ด้วยกัน
เหลือจากการใช้จ่ายก็นำมาลงทุนต่อ เก็บเงินสดเผื่อฉุกเฉิน
อยากเอาชนะความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่เกินความจำเป็น
ถ้าพอ เร็ว ก็ retire เร็วครับ ใช้เหมือนตอนเรามีรายได้ไม่มาก ตามความจำเป็น
ทำตัว low profile
แบ่งปัน แนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง และเหมาะสม กับคนรอบข้าง ตามโอกาส
ตามรู้ ตามดู อยู่เสมอ
-
kopoko
- Verified User
- โพสต์: 383
- ผู้ติดตาม: 0
ทำงานจนถึง ประมาณ 40 -45 มั้ง พอร์ตใหญ่พอที่จะใช้ในชีวิตประจำวันได้อ่ะ แบบว่าแค่ปันผลก็พอกิน
ปล.อีกนาน ผมยังหนุ่ม
ไม่เป็นจึงต้องเรียน ไม่รู้จึงต้องถาม
-
harikung
- Verified User
- โพสต์: 2236
- ผู้ติดตาม: 0
ของผมครับ เงินสด+มุลค่าในพอร์ท
30ปี = 200ล้าน
40ปี = 1000ล้าน
55ปี = 5000ล้าน
จากนั้นเลิกทำงาน อยู่บ้านพักผ่อน ออกไปขับรถเล่นบ้าง ไปช้อปปิ้งบ้างครอบครัว เอาเงินไปช่วยสังคมตอบแทนสังคมบางส่วนครับ
(ตอนนี้อายุ 25ครับ)
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
supparoj
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 395
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ ตอนนี้ผม40แล้ว เล่นหุ้นมา4-5ปี ผมกำลังเกษียณจากงานประจำภายในเดือนสองเดือนนี้เพื่อออกมาให้เวลากับการลงทุนเต็มเวลาครับ พอร์ทผมไม่มากแต่ก็เพียงพอที่จะไม่ต้องทำงานประจำ
เป้าหมายไม่มีครับ แต่อยากให้พอร์ตเติบโตชนะsetทุกปี ผมมีวิธีคิดสำหรับคนทำงานกินเงินเดือนมาฝากครับ
1. ทำงานให้ดีให้มีโอกาสก้าวหน้าให้ได้เงินเดือนสูงสักหน่อย
2. ใช้จ่ายแต่น้อย เก็บเงินเพื่อลงทุนให้มากที่สุด (อย่างน้อยควรจะมากกว่า 50%ของเงินเดือน)
3. ศึกษาการลงทุนให้ดี ถ้าให้ง่ายควรซื้อหุ้นบริษัทที่รู้จักเช่นเป็นลูกค้าเราและเรารู้ว่าบริษัทนี้กำลังเติบโตดีแต่ราคาหุ้นยังไม่แพง เมื่อซื้อแล้วถือให้นานจนกว่าบริษัทจะไม่ดีหรือราคาแพงเกินไป
4. เมื่อเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือได้รับโบนัสควรใช้จ่ายเท่าเดิมแต่เอาเงินส่วนที่เพิ่มมาลงทุน
5. การผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำเพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากเงินเก็บลดลง
6. ไม่ควรใช้บัตรเครดิต รูดง่ายก็ใช้เงินง่าย
7. เงินในพอร์ทการลงทุนไม่ควรถอนออกมาใช้ปล่อยให้เติบโตไปเรื่อยๆ ได้รับปันผลก็ซื้อหุ้นเพิ่ม
เมื่อพอร์ตเติบโตในระดับหนึ่งลองเปลี่ยนมาใช้จ่ายจากพอร์ทลงทุน โดยเงินเดือนที่ได้ลองเก็บอย่างเดียว ดูซิว่าถ้าเราไม่ใช้เงินเดือนเลยใช้แต่เงินจากการลงทุนอย่างเดียวแล้วเราอยู่ได้ไหม
ถ้าทำได้สัก1ปีแล้วอยู่ได้ พอร์ทก็ไม่ลดลงแต่ยังสามารถเติบโตขึ้นได้ก็แสดงว่าเราสามารถเกษียณจากงานประจำได้แล้วครับ
-
Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Fifty million by the year 2040....just hope that my masters degree wont eat up my portfolio
Its all about getting alpha.
-
CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
supparoj เขียน:เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ ตอนนี้ผม40แล้ว เล่นหุ้นมา4-5ปี ผมกำลังเกษียณจากงานประจำภายในเดือนสองเดือนนี้เพื่อออกมาให้เวลากับการลงทุนเต็มเวลาครับ พอร์ทผมไม่มากแต่ก็เพียงพอที่จะไม่ต้องทำงานประจำ
เป้าหมายไม่มีครับ แต่อยากให้พอร์ตเติบโตชนะsetทุกปี ผมมีวิธีคิดสำหรับคนทำงานกินเงินเดือนมาฝากครับ
1. ทำงานให้ดีให้มีโอกาสก้าวหน้าให้ได้เงินเดือนสูงสักหน่อย
2. ใช้จ่ายแต่น้อย เก็บเงินเพื่อลงทุนให้มากที่สุด (อย่างน้อยควรจะมากกว่า 50%ของเงินเดือน)
3. ศึกษาการลงทุนให้ดี ถ้าให้ง่ายควรซื้อหุ้นบริษัทที่รู้จักเช่นเป็นลูกค้าเราและเรารู้ว่าบริษัทนี้กำลังเติบโตดีแต่ราคาหุ้นยังไม่แพง เมื่อซื้อแล้วถือให้นานจนกว่าบริษัทจะไม่ดีหรือราคาแพงเกินไป
4. เมื่อเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือได้รับโบนัสควรใช้จ่ายเท่าเดิมแต่เอาเงินส่วนที่เพิ่มมาลงทุน
5. การผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำเพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากเงินเก็บลดลง
6. ไม่ควรใช้บัตรเครดิต รูดง่ายก็ใช้เงินง่าย
7. เงินในพอร์ทการลงทุนไม่ควรถอนออกมาใช้ปล่อยให้เติบโตไปเรื่อยๆ ได้รับปันผลก็ซื้อหุ้นเพิ่ม
เมื่อพอร์ตเติบโตในระดับหนึ่งลองเปลี่ยนมาใช้จ่ายจากพอร์ทลงทุน โดยเงินเดือนที่ได้ลองเก็บอย่างเดียว ดูซิว่าถ้าเราไม่ใช้เงินเดือนเลยใช้แต่เงินจากการลงทุนอย่างเดียวแล้วเราอยู่ได้ไหม
ถ้าทำได้สัก1ปีแล้วอยู่ได้ พอร์ทก็ไม่ลดลงแต่ยังสามารถเติบโตขึ้นได้ก็แสดงว่าเราสามารถเกษียณจากงานประจำได้แล้วครับ
เห็นด้วยครับ จะลองทำดู อายุ 40 (อีก11ปี) จะได้เกษียณ เหมือนพี่บ้าง
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
supparoj เขียน:
เมื่อพอร์ตเติบโตในระดับหนึ่งลองเปลี่ยนมาใช้จ่ายจากพอร์ทลงทุน โดยเงินเดือนที่ได้ลองเก็บอย่างเดียว ดูซิว่าถ้าเราไม่ใช้เงินเดือนเลยใช้แต่เงินจากการลงทุนอย่างเดียวแล้วเราอยู่ได้ไหม
ถ้าทำได้สัก1ปีแล้วอยู่ได้ พอร์ทก็ไม่ลดลงแต่ยังสามารถเติบโตขึ้นได้ก็แสดงว่าเราสามารถเกษียณจากงานประจำได้แล้วครับ
ผมกำลัง ทำอย่างพี่ supparoj อยู่ครับ
เงินเดือนทั้งหมด ทั้งของผมและภรรยา
กำลังจะเอาไปซื้ออสังหา หยุดเติมลงในหุ้นแล้ว
และค่าใช้จ่ายประจำวันได้ จาก รายได้เสริม โอที โบนัท
เงินสำหรับท่องเที่ยว ให้พ่อแม่ ซื้อรถใช้ ฯลฯ
เอามาจาก ดอกผลของพอร์ตครับ หากเหลือก็ใส่คืนพอร์ตไป
หวังว่า ไม่เกิน 3 ปีได้หยุดงานประจำตามเป้าครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
dome@perth เขียน:
What ever it takes...
1. Routine works free in 3 years
2. Financial freedom in 7 years
ปีหน้าก็
What ever it takes...
1. Routine works free in
2 years
2. Financial freedom in 6 years
ดีใจด้วยนะครับ คุณโดม
-
dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Paul VI เขียน:dome@perth เขียน:
What ever it takes...
1. Routine works free in 3 years
2. Financial freedom in 7 years
ปีหน้าก็
What ever it takes...
1. Routine works free in
2 years
2. Financial freedom in 6 years
ดีใจด้วยนะครับ คุณโดม
ขอบคุณครับพี่หมอ
หวังว่าปีหน้าคงไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้พอร์ตลงทุนของผม "โกแบ๊คเวิร์ด" นะครับ
ผมคิดว่า หากทุกคนมีเป้าหมายมีความหวัง มันทำให้เรามีกำลังใจ ที่จะทำครับ
พอมีกำลังใจ การจะหาความสูขเข้ามาร่วมเดินทาง มันง่ายขึ้นมากๆครับ
ตอนนี้ผมมีทั้งเป้าหมาย ความหวัง กำลังใจ และความสูข จากการลงทุนครับพี่หมอ
สวัสดีปีใหม่ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
เกล้า
- Verified User
- โพสต์: 1187
- ผู้ติดตาม: 0
พี่โดมก็เป็นพี่อีกหนึ่งท่านในเว็บนี้ที่เป็นผู้ให้ที่ดีสำหรับผม
และน้องๆอีกหลายคน..และควรปฏิบัติตามเป็นตัวอย่างผม
ขอสวัสดีปีใหม่พี่โดมผ่านกระทู้นี้เลยนะครับและขอให้พี่โดม
มีสุขภาพกายที่ดีและขอให้พี่โดมแข็งแรงด้วยประการต่างๆและ
สุดท้ายให้พี่โดมสมความตั้งใจของพี่โดมในการลงทุนทุก
ประการ(ขอให้น้องมะลิเบิกบานเต็มที่)
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
-
charun
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 360
- ผู้ติดตาม: 0
เป้าหมายแรกของผมถึงแล้ว คือให้ภรรยาเกษียณจากงานประจำ เมื่อเดือน กันยายน ปีนี้ ทำให้เธอ มีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น
ทำในสิ่งที่เธออยากทำมากขึ้น ไม่ต้องเครียดจากงานประจำ เธอมีความสุขมากขึ้น ครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้น เป้าหมายต่อไปผมจะเกษียณจากงานประจำ เวลาที่วางไว้ ใกล้เคียงกับคุณ โดม ขอบคุณกัลยาณมิตร จาก web thaivi ที่ทำให้ผมมีวันนี้ครับ
-
por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
charun เขียน:เป้าหมายแรกของผมถึงแล้ว คือให้ภรรยาเกษียณจากงานประจำ เมื่อเดือน กันยายน ปีนี้ ทำให้เธอ มีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น
ทำในสิ่งที่เธออยากทำมากขึ้น ไม่ต้องเครียดจากงานประจำ เธอมีความสุขมากขึ้น ครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้น เป้าหมายต่อไปผมจะเกษียณจากงานประจำ เวลาที่วางไว้ ใกล้เคียงกับคุณ โดม ขอบคุณกัลยาณมิตร จาก web thaivi ที่ทำให้ผมมีวันนี้ครับ
เราไม่ควรให้เธอรีบเกษียณครับ
เพราะถ้าเธอทำงานอยู่ ไม่มีเวลามาก เราก็แค่ถูกคุมแบบZone
ถ้าเธอเกษียณแล้ว
เราก็จะต้องโดนมาร์คแบบ แมนทูแมน หายใจรดต้นคอ
พอจะขยับก็โดนเตะรวบเสียแล้วครับพี่
เรื่องเลือกหุ้นผมไม่เคยแย้งพี่เลย
แต่เรื่องนี้ผมมิอาจเห็นพ้องกับพี่ได้เสียแล้วละคร้าบ...ฮ่า...
ล้อเล่นนะครับพี่...ห้ามฟ้องแฟนพี่นะครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
:lovl:
เห็นด้วยกะพี่ป้อม ครับ
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
charun
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 360
- ผู้ติดตาม: 0
por_jai เขียน:charun เขียน:เป้าหมายแรกของผมถึงแล้ว คือให้ภรรยาเกษียณจากงานประจำ เมื่อเดือน กันยายน ปีนี้ ทำให้เธอ มีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น
ทำในสิ่งที่เธออยากทำมากขึ้น ไม่ต้องเครียดจากงานประจำ เธอมีความสุขมากขึ้น ครอบครัวก็มีความสุขมากขึ้น เป้าหมายต่อไปผมจะเกษียณจากงานประจำ เวลาที่วางไว้ ใกล้เคียงกับคุณ โดม ขอบคุณกัลยาณมิตร จาก web thaivi ที่ทำให้ผมมีวันนี้ครับ
เราไม่ควรให้เธอรีบเกษียณครับ
เพราะถ้าเธอทำงานอยู่ ไม่มีเวลามาก เราก็แค่ถูกคุมแบบZone
ถ้าเธอเกษียณแล้ว
เราก็จะต้องโดนมาร์คแบบ แมนทูแมน หายใจรดต้นคอ
พอจะขยับก็โดนเตะรวบเสียแล้วครับพี่
เรื่องเลือกหุ้นผมไม่เคยแย้งพี่เลย
แต่เรื่องนี้ผมมิอาจเห็นพ้องกับพี่ได้เสียแล้วละคร้าบ...ฮ่า...
ล้อเล่นนะครับพี่...ห้ามฟ้องแฟนพี่นะครับ
พี่ป้อมสบายดีนะครับ พี่ป้อมนี่เป็นสีสรร ของ web จริงๆ โพสแต่ละทีแบบคนอารมย์ดี มีน้องๆเชียร์กันตรึม พี่กำลังจะบอกผมว่า พี่ก็คิดผิดเช่นกันที่ให้แฟนพี่เกษียณใช่ใหมครับ (ล้อเล่นครับ) ผมประวัติดี เครดิตดี ภรรยาไว้วางใจ ไปใหนมาใหนจึงสดวกสบาย ทุกวันนี้มีความสุขกับครอบครัว มีความสุขที่มีเพื่อนที่ดี มีความสุขกับการลงทุน ก็พอใจแล้วครับ
-
kanistapong
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 1
50 ปี หรือ ณ เวลาที่เรามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ทำอะไร อย่างน้อยต้องหาความรู้สำหรับการลงทุนต่อไป เมื่ออายุมากขึ้นก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ส่วนพอร์ต สัก 8 หลักเพียงพอแล้ว
ครึ่งหนึ่งสำหรับลงทุนในตลาดหุ้น อึกครึ่งก็เป็นอย่างอื่นที่มีความเสี่ยงน้อย และมีสภาพคล่องพอสมควร แต่ตอนนี้ฝันอีกไกลพอสมควร แต่อายุไม่ไกล 50 เท่าไหร่ ต้องเร่งเครื่องพอสมควร เนื่องจากมาลงทุนในตลาดทุนเพียง 3-4 ปี เท่านั้น ปีที่สองเจอ แฮมไคร เลย
Win Win
-
simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
supparoj เขียน:5. การผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำเพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากเงินเก็บลดลง
6. ไม่ควรใช้บัตรเครดิต รูดง่ายก็ใช้เงินง่าย
เห็นด้วยกับพี่ทั้งหมดยกเว้นสองข้อนี้
- เห็นด้วยว่า ผ่อนรถ มันผิดจริงๆครับ สมัยนี้คนคิดกันแค่ว่า ผ่อนรถต่อเดือนกี่บาท ผ่อนไหวก็เอาเลย ซึ่งผิดมากๆ ผ่อนเสร็จไม่กี่ปีก็ต้องขายคันนี้ ไปผ่อนคันใหม่ต่อ อย่างกับว่าทำงานมาจ่ายให้บริษัท โตโยต้า/ฮอนด้า เชียว
- แต่การผ่อนบ้าน สำหรับคนที่เก็บเงินไม่เป็น เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ถ้าได้อัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผลหน่อย appreciationที่ได้จากราคาบ้าน หักลบกับดอกเบี้ยแล้ว เท่ากับขาดทุนไปนิดหน่อย เผลอๆกำไรด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันทำให้คนที่เก็บเงินไม่เป็น ได้หักเงินจากรายได้บางส่วนมาจ่ายค่าบ้าน ไม่งั้นจะซุกหัวนอนที่ไหน
- บัตรเครดิต ถ้าใช้เป็น (ซื้อเท่าที่ซื้อ ไม่ใช่ว่าซื้อเพราะวงเงินซื้อได้) ก็เป็นประโยชน์นะครับ แลกแต้ม ลดราคา etc ระยะหลังๆก็บัตรเครดิตทั้งนั้น ขอให้จ่ายเต็มได้ทุกงวด ซื้อเฉพาะที่ต้องซื้อ ก็กำไรแล้วครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
harikung เขียน:ของผมครับ เงินสด+มุลค่าในพอร์ท
30ปี = 200ล้าน
40ปี = 1000ล้าน
55ปี = 5000ล้าน
จากนั้นเลิกทำงาน อยู่บ้านพักผ่อน ออกไปขับรถเล่นบ้าง ไปช้อปปิ้งบ้างครอบครัว เอาเงินไปช่วยสังคมตอบแทนสังคมบางส่วนครับ
(ตอนนี้อายุ 25ครับ)
หวังผลตอบแทนปีละกี่เปอร์เซ็นครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
tinithemandindang เขียน:พี่โดมก็เป็นพี่อีกหนึ่งท่านในเว็บนี้ที่เป็นผู้ให้ที่ดีสำหรับผม
และน้องๆอีกหลายคน..และควรปฏิบัติตามเป็นตัวอย่างผม
ขอสวัสดีปีใหม่พี่โดมผ่านกระทู้นี้เลยนะครับและขอให้พี่โดม
มีสุขภาพกายที่ดีและขอให้พี่โดมแข็งแรงด้วยประการต่างๆและ
สุดท้ายให้พี่โดมสมความตั้งใจของพี่โดมในการลงทุนทุก
ประการ(ขอให้น้องมะลิเบิกบานเต็มที่)
พึ่งเห็นคำอวยพร ของ " น้อง ที่นี่ผู้ชายดินแดง " :lol:
ขอบคุณมากๆครับ
ขอให้คำอวยพรนั้นจงบังเกิดต่อน้องเช่นกันครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
simplelife เขียน:supparoj เขียน:5. การผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรทำเพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากเงินเก็บลดลง
6. ไม่ควรใช้บัตรเครดิต รูดง่ายก็ใช้เงินง่าย
เห็นด้วยกับพี่ทั้งหมดยกเว้นสองข้อนี้
- เห็นด้วยว่า ผ่อนรถ มันผิดจริงๆครับ สมัยนี้คนคิดกันแค่ว่า ผ่อนรถต่อเดือนกี่บาท ผ่อนไหวก็เอาเลย ซึ่งผิดมากๆ ผ่อนเสร็จไม่กี่ปีก็ต้องขายคันนี้ ไปผ่อนคันใหม่ต่อ อย่างกับว่าทำงานมาจ่ายให้บริษัท โตโยต้า/ฮอนด้า เชียว
- แต่การผ่อนบ้าน สำหรับคนที่เก็บเงินไม่เป็น เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ถ้าได้อัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผลหน่อย appreciationที่ได้จากราคาบ้าน หักลบกับดอกเบี้ยแล้ว เท่ากับขาดทุนไปนิดหน่อย เผลอๆกำไรด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันทำให้คนที่เก็บเงินไม่เป็น ได้หักเงินจากรายได้บางส่วนมาจ่ายค่าบ้าน ไม่งั้นจะซุกหัวนอนที่ไหน
- บัตรเครดิต ถ้าใช้เป็น (ซื้อเท่าที่ซื้อ ไม่ใช่ว่าซื้อเพราะวงเงินซื้อได้) ก็เป็นประโยชน์นะครับ แลกแต้ม ลดราคา etc ระยะหลังๆก็บัตรเครดิตทั้งนั้น ขอให้จ่ายเต็มได้ทุกงวด ซื้อเฉพาะที่ต้องซื้อ ก็กำไรแล้วครับ
ทั้งหมดทั้งปวง คือ ตั้งอยู่บน "วินัยทางการเงิน" ครับ
วินัยที่เราตั้งขึ้นมา เพื่อจุดมุ่งหมาย "อิสรภาพทางการเงิน"
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
ปีนี้ทำได้ดีกว่าที่คิดครับ
ถึงแม้ว่าจะตั้งไว้ค่อนข้างยาก
เป้าหมายที่วางไว้ ตอนนี้เป็นแบบที่เป็นไปได้ (ถึงแม้จะยากหน่อย)
คือพอร์ทสิบล้านในอีก 4 ปีข้างหน้า
แต่ผมจะออกจากงานประจำในปีที่สามแล้วนะครับ :lovl:
ส่วนไอ้ร้อยล้านที่เคยโำม้ไว้ ลืมๆ มันไปก่อนละกันนะครับ :lovl:
เพราะต้องสร้างธุรกิจของตัวเองให้มีรายได้สองทาง
และธุรกิจต้องประสบความสำเร็จมากๆ อีก
โอกาสเป็นไปได้แค่ 5% แต่ผมก็ยังฝันอยู่นะ
-
ซากคน
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
กล้วยไม้ขาว เขียน:ปีนี้ทำได้ดีกว่าที่คิดครับ
ถึงแม้ว่าจะตั้งไว้ค่อนข้างยาก
เป้าหมายที่วางไว้ ตอนนี้เป็นแบบที่เป็นไปได้ (ถึงแม้จะยากหน่อย)
คือพอร์ทสิบล้านในอีก 4 ปีข้างหน้า
แต่ผมจะออกจากงานประจำในปีที่สามแล้วนะครับ :lovl:
ส่วนไอ้ร้อยล้านที่เคยโำม้ไว้ ลืมๆ มันไปก่อนละกันนะครับ :lovl:
เพราะต้องสร้างธุรกิจของตัวเองให้มีรายได้สองทาง
และธุรกิจต้องประสบความสำเร็จมากๆ อีก
โอกาสเป็นไปได้แค่ 5% แต่ผมก็ยังฝันอยู่นะ
ติดตามผลงานของกล้วยไม้ขาวมาหลายโพสต์แล้ว
ว่าแต่ ออกจากงานในปีที่ 3 มาทำธุรกิจส่วนตัวเต็มเวลา ก็คือนับจากนี้ไปปีที่ 0-3 ทำสองงาน งานประจำทำเสร็จ ชั่วโมงที่เหลืออยู่แต่ละวันก็มาปลุกปั้นธุรกิจส่วนตัว ทุกๆวัน ป่ะครับ
เป้าหมายยาก เป้าหมายง่าย ยังไงก็ต้องเสียเวลาคิดหาทางไปเหมือนกัน
ก็ตั้งไว้ยากๆน่ะดีแล้ว ท้าทายดี ตั้งง่ายเกินไป มันไม่ท้าทาย จะพลอยขี้เกียจไปซะก่อน
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
ปีหน้าผม retire ละครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
prodigy
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่งรู้ว่าพี่โดมลงทุนไม่นาน เวลาอ่านโพสสของพี่รู้สึกว่าคนนี้เก่งจัง :lol:
สำหรับผมเคยคิดเป็นเจ้าของกิจการแต่ไม่เหมาะ แต่ทำงานประจำแล้วรุ่งแต่ไม่ใช่ความฝัน มาเจอการลงทุนนี่หละที่ทำให้ผมค้นพบ passion ตัวเอง แต่เนื่องจากพอร์ตไม่ใหญ่มากเลยคิดว่าอยากจะทำงานประจำไปเรื่อยๆ เพราะความรับผิดชอบจำกัด แล้วก็ลงทุนๆๆให้มากที่สุด 10 ปีผมก็จะเลิกทำงานประจำ ถึงตอนนั้นคง 37-38 ปีหวังว่าจะมีสัก 10-20 ล้าน (อิอิ ตั้งเป้าเยอะๆไว้ก่อนนะ)
ออกจากงานประจำตอนนั้นคงต้องมั่นใจ เพราะเงินเดือนคงเยอะแล้วหละ แต่คิดว่าทำได้เพราะผมอยากเลี้ยงลูกเอง (ตอนนี้ยังไม่แต่งเลย 55) อยากมีเวลาให้เค้าสอนการบ้าน พาไปซ้อมกีฬา และได้ทำงานที่รักคือลงทุน และอาจจะทำกิจการเล็กๆที่ไม่คำนึงเรื่องกำไรมากถ้ามันว่างเกินไป ผมคงไม่ได้คาดหวังว่าชีวิตนี้จะต้องเป็นเศรษฐี แค่อยากมีชีวิตที่เหมือนอยู่ในความฝัน
ตอนนี้ก็ก้มหน้าห้มตาทำงาน ประหยัดให้มากที่สุด คิดเอาไว้ว่าเงินที่เราประหยัด มันจะไปทวีคูณในหุ้น แต่ก็ยังให้บ้าง ทำบุญบ้างเพราะถ้าไม่อย่างนั้นระยะยาวเราจะเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง แย่ไปอีกแบบ
เพ้อเจ้อละผม 55 ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานรับใช้เค้าต่อ 55
-
ssaran
- Verified User
- โพสต์: 344
- ผู้ติดตาม: 0
jek ae เขียน:จริงๆแล้วการเป็นนักลงทุนก็ถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งเหมือนกัน
ผมเองตอนนี้ยอมรับเลยว่าชอบการเป็นนักลงทุนมากกว่าการเป็นแพทย์
และผมเองคงไม่สามารถทำอาชีพทั้งสองอย่างให้ดีในเวลาเดียวกันได้
อีกทั้งผลตอบแทนจากอาชีพนักลงทุนตอนนี้คงสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
ผมก็เลยตัดสินใจเกษียนจากอาชีพแพทย์เพื่อมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว
ข้อดีอีกข้อจากการ retire จากอาชีพแพทย์คือ "เวลา" ครับ
อาชีพแพทย์นี่จะว่าไปเป็นอาชีพที่ใช้ทรัพยากร "เวลา" เปลืองที่สุด ร่วมกับใช้ "แรง " อดตาหลับ ขับตานอน เพื่อแลกผลตอบแทน "เงิน"
สมัยผมเป็นแพทย์ใช้ทุน จบใหม่ ช่วงวัยนั้น มี "แรง" ไม่มี "เวลา" และไม่มี "เงิน"
ช่วงเริ่มสร้างตัว มีครอบครัว ต้องหารายได้เสริม เปิดคลินิก ช่วงนี้ เริ่มมี "เงิน" "แรง"เริ่มถอยเพราะทำแต่งานขาด"เวลา"พักผ่อนและออกกำลังกาย เพื่อนๆแพทย์รุ่นๆเดียวกันกับผมส่วนใหญ่จะอยู่ใน stage นี้
ช่วงฐานะครอบครัวอิ่มตัว (วัย45-55) ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะมี "เงิน" กันถ้วนหน้า เริ่มจะมี "เวลา" กันบ้าง แต่มักจะลงเอยด้วย "แรง" และปัญหาสุขภาพ อาชีพหมอเป็นอาชีพนึงที่อายุขัยเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มประชากรทั่วไป เพราะการตรากตรำสมบุกสมบันในงานจนทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพตัวเองนั่นเอง
เห็นด้วยครับ
margin of safety