สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 31
back ครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 32
ผมลองมั่วดูนะครับ :lol:blueplanet เขียน:ขอบคุณครับ คุณ แชมป์
http://www.fidelityinstitutional.com/ma ... Clock.html
มีใครพออะบายได้ไม๊ครับ
มั่วดูแล้วก็ make sense นะครับ ว่าเรา move จาก Defensive Growth (modern trade?) => Cyclical Growth (car?, electronics?) ==> Value Growth (commodities?) แล้วคงจะไปจบที่ Value Defensive (utilities? or hospitals?)
ลองอ่าน update ของเค้าดูครับ เหมือนจะเป็น concept ของ asset allocation แบบหนึ่งครับ
https://www.fidelity.co.uk/static/pdf/c ... update.pdf
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- Verified User
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 38
ขอบคุณมากๆครับ
- Packky
- Verified User
- โพสต์: 856
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 43
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 50
ขอบคุณครับ.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 476
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 51
ขอบคุณมากครับ
ช่วงนี้ได้เริ่มวางแผนแนวการลงทุนปีหน้าไว้บ้างแล้ว กระทู้นี้มาช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมากทีเดียว
ช่วงนี้ได้เริ่มวางแผนแนวการลงทุนปีหน้าไว้บ้างแล้ว กระทู้นี้มาช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมากทีเดียว
Simple is Always Best.
นักลงทุนแบบ vi แก่น 4 ประการ 3 กลยุทธ
แก่น vi : เป็นเจ้าของ หามูลค่า มี MOS และ อยู่เหนือนายตลาด
นักลงทุนแบบ vi แก่น 4 ประการ 3 กลยุทธ
แก่น vi : เป็นเจ้าของ หามูลค่า มี MOS และ อยู่เหนือนายตลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 52
ขอบคุณครับคุณแชมป์..
[size=85]http://sarut-homesite.net/%E0% ... 8C/[/size]
ดร.นิเวศน์ : ไม่เดา ปีที่แล้ว 52 มันขึ้นมา 60% ก็เดาว่าปีนี้ 53 มันน่าจะลง มันก้ยังขึ้นต่ออีก 40% ถ้าจะเอาก็คิดว่าปี 54 มันก็ต้องลงบ้างแระ เดาว่าลงเรื่อยๆเดี่ยวมันก้ถูก เพระอะไรที่มันขึ้นยาวนานไม่มี แบบ 2-3ขึ้นต่อเรื่องไม่ค่อยเจอ อะไรที่ขึ้นมาแรงเดี่ยวมันก้ปรับตัว แล้วตอนนี้อะไรๆก็ไม่ถุก pe 14-15 เท่าไม่เหมือนในอดีต โอกาสขึ้นต่อเลยมองว่ามีไม่มาก โอกาสขาดทุนมีสูง ถ้าไปต่อก็ถือเป้นดบนัสแต่การลงทุนปีหน้าเน้นคอนเซอเวทีฟ
[size=85]http://sarut-homesite.net/%E0% ... 8C/[/size]
เช่นนี้แล้ว เวลาที่ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่า 10% ต่อเนื่องกันหลายปี สุดท้ายแล้วความต่อเนื่องนั้นมักจะไม่ยั่งยืนในที่สุด ถึงจุดหนึ่ง ตลาดหุ้นจะต้องถอยกลับลงมาใหม่จนทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของมันยังคง เป็นไปตามศักยภาพที่แท้จริงที่เป็นไปได้คือ 10% ต่อปี ดังนั้น เราจึงไม่มีความจำเป็นต้องกลัวตกรถไฟ ที่สุดแล้ว รถไฟจะกลับมาเราเสมอ
แต่บ่อยครั้งที่การเพิ่มขึ้นของ ราคาหุ้นอย่างต่อเนื่องทั้งที่หุ้นมีราคาแพงอยู่แล้วทำให้เราหวั่นไหว ในที่สุดเราก็ซื้อแพงจนได้เพราะกลัวจะไม่มีโอกาสได้ซื้ออีก สุดท้ายเมื่อ Market Correction มาถึงโดยไม่คาดฝัน เราก็พลาดโอกาสที่จะได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่าเดิม เพราะเราไม่มีเงินเหลือแล้วทุกที
สิ่งที่ยากคือ โดยมากกว่าที่ตลาดจะเกิด Correction นั้นมักกินเวลานานมาก จนยากที่ปุถุชนคนไหนจะอดทนรอได้ไหว ช่วงตลาดหุ้นฟองสบู่ยุคน้าชาติ ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อปีติตต่อกันทุกปีถึง 5 ปี ใครที่ซื้อไม่ทันก็ยากที่จะอดใจไม่กระโดดเข้าไปซื้อในที่สุด เพราะราคาที่แพงขึ้นให้เห็นอีกเรื่อยๆ ปีแล้วปีเล่านั่นเกินห้ามใจเหลือเกิน
เมื่อทุกคนค่อยๆยอมกัดฟันซื้อของ แพงมากขึ้นเรื่อยๆ ราคาหุ้นก็ยิ่งปรับตัวขึ้นได้อีกอย่างไม่น่าเชื่อ แต่สุดท้ายแล้ว ฟองสบู่ก็ต้องแตกในที่สุด เมื่อฟองสบู่แตกแล้ว หุ้นกลับมีราคาถูกกว่าห้าปีที่แล้วอย่างมากและรอให้ทุกคนซื้ออยู่ แต่ทุกคนก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว ใครที่ยังมีเงินเหลืออยู่ตอนนั้นก็ได้ของถูกไปในที่สุด
เมื่อก่อนนี้ ผมคิดว่าทักษะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดคือความอดทนในการถือหุ้นเป็นเวลานานๆ แต่เดี๋ยวนี้ผมคิดว่าทักษะนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากมากนัก เวลาเราซื้อหุ้นแล้วขาดทุนหนัก เราจะรู้สึกอยากถือยาวๆได้เอง ที่จริงแล้วทักษะที่ยากกว่าการถือยาวมากคือ ทักษะในการอดทนรอที่จะไม่ซื้อหุ้นเมื่อราคายังไม่เหมาะสม คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นมักไม่มีทักษะนี้ ดังนั้น ใครที่สามารถฝึกฝนจิตใจของตนจนมีทักษะที่สำคัญอันนี้ถือเป็นความได้เปรียบ อย่างยิ่ง
.
ในรอบหลายๆปี วอเรน บัฟเฟต ถึงจะลุกขึ้นมาช้อปปิ้งครั้งใหญ่สักครั้งหนึ่ง ในตลาดหุ้นมีน้กลงทุนจำนวนน้อยมากๆที่อดทนที่จะไม่ซื้ออะไรเลยเป็นปีๆได้ มันเป็นการรอคอยที่ทรมาน (กระเป๋าร้อน)
.
คิดไว้เสมอว่าอย่ากลัวตกรถไฟ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่ามันจะวิ่งไปไกลมากแค่ไหน มันจะกลับมารับเราอีกเสมอ ขอให้เรามีความสามารถในการรอคอย
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 56
Thank you
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 57
ขอบคุณครับ
บุญรักษา
บุญรักษา
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปงานสัมนา 18 ธันวาคม 2553 ครับ
โพสต์ที่ 60
เหมือนตัวเองไปนั่งอยู่ตรงบันไดเลย ขอบคุณมากครับ