ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 1
เมื่อต้นปี2553 ผมได้ซื้อหุ้นไว้1 ตัว ปรกติจะลงทุนแค่1-2ตัวเท่านั้นเพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างมาก ต่อครับ ตอนนั้นซื้อ ที่ราคา 3 บาทกว่า แล้วก็คำนวนด้วยdcf ว่า ราคาที่เต็มมูลค่าอยู่ที่7บาท ซึ่งตอนนี้ก็ถึงมูลค่าของมันแล้ว ผมก็ขายออกแล้วเอาเงินมาไว้ที่ออมทรัพย์ ปัญหาคือ ณ ตอนนี้หุ้นทุกตัวที่ผมศึกษาไว้ เต็มมูลค่าหมดแล้ว บางตัวล้นเลยด้วยซ้ำ ผมควรทำยังไงดี รอให้หุ้นตก หรือ ซื้อหุ้นตัวเดิมแล้วรอปันผลไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันจะขึ้นหรือลง เพราะมันเต็มมูลค่าที่ผมคำนวนแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 3
อยู่เฉยๆครับไม่ต้องทำอะไร ไม่เหนื่อยด้วย
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 4
ปกติผมมักจะขายเมื่อมีทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
แต่ถ้าตราบใดที่ยังไม่มี
การนอนอยู่บ้านแล้าอ่านนิยายจีนกำลังภายใน
กับนิยายไทยกำลังภายนอก
ก็ดีมิใช่น้อย ...
แต่ถ้าตราบใดที่ยังไม่มี
การนอนอยู่บ้านแล้าอ่านนิยายจีนกำลังภายใน
กับนิยายไทยกำลังภายนอก
ก็ดีมิใช่น้อย ...
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 6427
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 5
ถ้าตอนนี้เป็นหน้าหนาว ก็ไปเที่ยวแถวๆที่มีหิมะ
และถัดไปก็จะเป็นหน้าใบไไม้ผลิ ก็ไปหาดอกไม้สวยๆดู (ซากุระ ต้อนแถวๆต้น เมษานี้ก็คงจะสวยน่าดูนะครับ)
และถ้าเข้าหน้าร้อน ก็เล่นทะเลแถวๆบ้านเราก็แล้วกัน :lol: :lol:
แล้วค่อย มาซื้อตัวต่อไปที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างรอบด้านแล้ว
และถัดไปก็จะเป็นหน้าใบไไม้ผลิ ก็ไปหาดอกไม้สวยๆดู (ซากุระ ต้อนแถวๆต้น เมษานี้ก็คงจะสวยน่าดูนะครับ)
และถ้าเข้าหน้าร้อน ก็เล่นทะเลแถวๆบ้านเราก็แล้วกัน :lol: :lol:
แล้วค่อย มาซื้อตัวต่อไปที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างรอบด้านแล้ว
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 6
ผมว่า พยายามค้นหาต่อไป หุ้นดีราคาถูกยังพอมีอยู่นะครับ
ไม่หยุดหา สักวันต้องเจอ อ่านเยอะๆครับ
ไม่หยุดหา สักวันต้องเจอ อ่านเยอะๆครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 4395
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 7
ซื้อหุ้นแล้วขายเมื่อถึงราคาที่เราตั้งเป้าไว้
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านให้อ้วนแล้วขายไป
ซื้อหุ้นแล้วถือรอรับปันผลตราบจนปันผลแพ้เงินเฟ้อบวกดอกธนาคารแล้วขาย
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านไว้กินไข่จนห่านไม่ค่อยมีไข่แล้วขายไป
แล้วรอซื้อหุ้นตัวใหม่ต่อไป
เปรียบเหมือนรอซื้อลูกห่านรุ่นต่อไป
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านให้อ้วนแล้วขายไป
ซื้อหุ้นแล้วถือรอรับปันผลตราบจนปันผลแพ้เงินเฟ้อบวกดอกธนาคารแล้วขาย
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านไว้กินไข่จนห่านไม่ค่อยมีไข่แล้วขายไป
แล้วรอซื้อหุ้นตัวใหม่ต่อไป
เปรียบเหมือนรอซื้อลูกห่านรุ่นต่อไป
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 8
ปัญหาเรื่องการขายเป็นเรื่องที่คลาสสิคมาก หลายๆคนขายเมื่อคิดว่าเต็มมูลค่า ขายเมื่อเจอตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า ขายเมื่อพื้นฐานเปลี่ยน
บางคนขายเพราะตื่นกลัว สำหรับผมการขายเพราะเหตุผลเต็มมูลค่าเป็นเหตุผลสุดท้ายที่ทำให้ผมขาย เพราะว่า......
1. ผมไม่แน่ใจว่าเต็มมูลค่าจริง ๆหรือเปล่า ตอบยากถ้าไม่เห็นแบบชัดเจนจริง ๆ
2. กลัวหาตัวอื่นที่น่าสนใจไม่เจอ
ถ้าคุณอยากขายเพราะคิดว่าเต็มมูลค่า ลองกลับไปประเมินมูลค่าอีกซักครั้งก่อนตัดสินใจ ที่บอกว่าใช้ DCF ในการประเมิน ซึ่งวิธีการนี้ให้ผล
ค่อนข้างแปรปรวนมากเนื่องจากตัวแปรที่ใส่เข้าไปในสูตร ยิ่งถ้ากระแสเงินสดอนาคตมีความผันผวนสูง ยิ่งให้ผลแตกต่างกันมากทีเดียว
บางทีตอนนี้คุณอาจจะมีข้อมูลใหม่ ๆเข้ามาอาจให้ผลการคำนวนเปลี่ยนไปได้
สุดท้ายแม้ว่าคุณจะตัดสินใจขาย ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ใช้เหตุผลอย่างรอบคอบ ไม่ได้ใช้อารมณ์ วิธีการคิดที่ถูก
ต้อง ยังดีกว่าผลลัพธ์ที่ถูกโดยการคิดที่ผิด โชคดีครับ
บางคนขายเพราะตื่นกลัว สำหรับผมการขายเพราะเหตุผลเต็มมูลค่าเป็นเหตุผลสุดท้ายที่ทำให้ผมขาย เพราะว่า......
1. ผมไม่แน่ใจว่าเต็มมูลค่าจริง ๆหรือเปล่า ตอบยากถ้าไม่เห็นแบบชัดเจนจริง ๆ
2. กลัวหาตัวอื่นที่น่าสนใจไม่เจอ
ถ้าคุณอยากขายเพราะคิดว่าเต็มมูลค่า ลองกลับไปประเมินมูลค่าอีกซักครั้งก่อนตัดสินใจ ที่บอกว่าใช้ DCF ในการประเมิน ซึ่งวิธีการนี้ให้ผล
ค่อนข้างแปรปรวนมากเนื่องจากตัวแปรที่ใส่เข้าไปในสูตร ยิ่งถ้ากระแสเงินสดอนาคตมีความผันผวนสูง ยิ่งให้ผลแตกต่างกันมากทีเดียว
บางทีตอนนี้คุณอาจจะมีข้อมูลใหม่ ๆเข้ามาอาจให้ผลการคำนวนเปลี่ยนไปได้
สุดท้ายแม้ว่าคุณจะตัดสินใจขาย ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ใช้เหตุผลอย่างรอบคอบ ไม่ได้ใช้อารมณ์ วิธีการคิดที่ถูก
ต้อง ยังดีกว่าผลลัพธ์ที่ถูกโดยการคิดที่ผิด โชคดีครับ
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- supparsorn
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 77
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 11
เห็นด้วยกับคุณ yoko ผมก็ใช้หลักการนี้เหมือนกันครับyoko เขียน:ซื้อหุ้นแล้วขายเมื่อถึงราคาที่เราตั้งเป้าไว้
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านให้อ้วนแล้วขายไป
ซื้อหุ้นแล้วถือรอรับปันผลตราบจนปันผลแพ้เงินเฟ้อบวกดอกธนาคารแล้วขาย
เปรียบเหมือนเลี้ยงห่านไว้กินไข่จนห่านไม่ค่อยมีไข่แล้วขายไป
แล้วรอซื้อหุ้นตัวใหม่ต่อไป
เปรียบเหมือนรอซื้อลูกห่านรุ่นต่อไป
"ข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 ใช้อะไรสู้กัน แต่สงครามโลกครั้งที่ 4 จะต่อสู้กันด้วยท่อนไม้และก้อนหิน"
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
-
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 12
ผมว่าถ้าหุ้นตัวที่ว่านั้นมันยังเติบโตไปได้เรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ DCF ที่เกิดจากการคำนวณของหุ้นตัวนั้นๆ จะสูงขึ้นทุกปีครับ ดังนั้นหากเป็นธุรกิจที่มี DCA ( Durable competitive advantage ) ค่อนข้างชัดเจน ก็ไม่จำเป็นต้องขายและถือไปได้เรื่อยๆ ครับ
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 13
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
...........................................วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
...........................................วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
- MYBIZ
- Verified User
- โพสต์: 888
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัญหาใหญ่ที่ แก้ไม่ได้
โพสต์ที่ 14
ถ้าคิดว่าหุ้นที่มองอยู่มันเต็มมูลค่าก็รอเวลาที่มันลดราคา พอใจราคาไหนก็ซื้อเลย
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าที่ลงมาเพราะพื้นฐานไม่ดีแล้วหรือแค่ตลาดผันผวนชั่วคราว
การลงทุนในหุ้นคือการมองอนาคตของบริษัทที่เราจะลงทุน ถ้ายังขยายสาขา ยังโตได้อยู่
ยังมีกำไรโตดี ก็แสดงว่ามูลค่ามันยังไม่เต็มมูลค่าหรอกครับ อิอิๆๆ
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าที่ลงมาเพราะพื้นฐานไม่ดีแล้วหรือแค่ตลาดผันผวนชั่วคราว
การลงทุนในหุ้นคือการมองอนาคตของบริษัทที่เราจะลงทุน ถ้ายังขยายสาขา ยังโตได้อยู่
ยังมีกำไรโตดี ก็แสดงว่ามูลค่ามันยังไม่เต็มมูลค่าหรอกครับ อิอิๆๆ
จุดหมายปลายทาง อาจไม่ใช่ที่สุดของความงดงาม