VI กับการใช้ Margin
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 3
ปกติ VI จะใช้ Margin เวลาโลภจัดๆ... หน้ามืดตามัวเห็นว่าหุ้นตัวนี้มัน Under สุดๆ เลยนี่นา... อยากอัดเพิ่ม แต่ไม่มีตังค์อัดแล้ว...
ความโลภมันบดบังความจริง... คิดว่า... ยังไงมันก็ต้องขึ้น โลภจนลืมเรื่องความเสี่ยงพวก Tail Risk ไป...
และเมื่อใช้ จิ้น แล้ว... เราก็จะเป็นทาสของมันตลอดไป... ผมเองก็ติดอยู่ในบ่วงของการใช้มาร์จิ้น... การมีมาร์จิ้นอยู่ในพอร์ตจะทำให้ระดับของความโลภและความกลัวของเราเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ... โดยเฉพาะคนที่เคยได้กำไรจากมันมากๆ และเคยขาดทุน ทนทุกข์ทรมาน เพราะ มัน...
เหมือนยาเสพติด... ที่ใช้แล้วเลิกไม่ได้...
จริงๆ แล้ว... มาร์จิ้นเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับ VI พันธุ์แท้เอาซะเลย... เพราะ VI พันธุ์แท้ Cut Loss ไม่เป็น แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินพอดี จากความเชื่อที่ว่าตลาดไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้เป็นพวกที่มีความเสี่ยงในการโดน Force Sell สูงกว่านักลงทุนประเภทอื่นๆ...
เพราะ เวลาหุ้นลง MOS จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งตามแนวคิดของ VI เราควรที่จะซื้อเพิ่ม แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อหุ้นลง ความเสี่ยงที่จะโดน Call Margin หรือโดน Force Sell จะสูงขึ้น... จึงเป็น Dilemma ของนักลงทุน VI ที่ใช้มาร์จิ้น...
ถ้าคุณเป็น VI พันธุ์แท้... คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่อง Risk Management หรือ Technical Analysis คุณก็สามารถที่จะลงทุนเอาตัวรอดไปได้...
แต่ถ้าคุณใช้มาร์จิ้น... คุณควรที่จะรู้เรื่อง Risk Management กับ Technical Analysis เพื่อลดความเสี่ยงที่คุณจะโดน Force Sell ลง
สำหรับผม... เวลาผมอัดจิ้น... ผมมี Level ที่ผมจะ Stop Loss อยู่ตลอดเวลา... Review มันทุกวันๆ... มีการวิเคราะห์ Risk/Return อยู่สม่ำเสมอ... และก็มีไม้ตายที่เตรียมเอาไว้ในใจ...
ระดับการ Cut Loss ขั้นสูงสุดที่ผมเตรียมใจไว้ คือ หนี้ท่วมหัว ขายบ้าน ขายสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีในชีวิต แล้วหนีหนี้ออกบวช...
:lol: :lol: :lol:
คิดจะใช้มาร์จิ้น... คุณเตรียมใจเอาไว้ขนาดไหนครับ???
ความโลภมันบดบังความจริง... คิดว่า... ยังไงมันก็ต้องขึ้น โลภจนลืมเรื่องความเสี่ยงพวก Tail Risk ไป...
และเมื่อใช้ จิ้น แล้ว... เราก็จะเป็นทาสของมันตลอดไป... ผมเองก็ติดอยู่ในบ่วงของการใช้มาร์จิ้น... การมีมาร์จิ้นอยู่ในพอร์ตจะทำให้ระดับของความโลภและความกลัวของเราเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ... โดยเฉพาะคนที่เคยได้กำไรจากมันมากๆ และเคยขาดทุน ทนทุกข์ทรมาน เพราะ มัน...
เหมือนยาเสพติด... ที่ใช้แล้วเลิกไม่ได้...
จริงๆ แล้ว... มาร์จิ้นเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับ VI พันธุ์แท้เอาซะเลย... เพราะ VI พันธุ์แท้ Cut Loss ไม่เป็น แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินพอดี จากความเชื่อที่ว่าตลาดไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้เป็นพวกที่มีความเสี่ยงในการโดน Force Sell สูงกว่านักลงทุนประเภทอื่นๆ...
เพราะ เวลาหุ้นลง MOS จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งตามแนวคิดของ VI เราควรที่จะซื้อเพิ่ม แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อหุ้นลง ความเสี่ยงที่จะโดน Call Margin หรือโดน Force Sell จะสูงขึ้น... จึงเป็น Dilemma ของนักลงทุน VI ที่ใช้มาร์จิ้น...
ถ้าคุณเป็น VI พันธุ์แท้... คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่อง Risk Management หรือ Technical Analysis คุณก็สามารถที่จะลงทุนเอาตัวรอดไปได้...
แต่ถ้าคุณใช้มาร์จิ้น... คุณควรที่จะรู้เรื่อง Risk Management กับ Technical Analysis เพื่อลดความเสี่ยงที่คุณจะโดน Force Sell ลง
สำหรับผม... เวลาผมอัดจิ้น... ผมมี Level ที่ผมจะ Stop Loss อยู่ตลอดเวลา... Review มันทุกวันๆ... มีการวิเคราะห์ Risk/Return อยู่สม่ำเสมอ... และก็มีไม้ตายที่เตรียมเอาไว้ในใจ...
ระดับการ Cut Loss ขั้นสูงสุดที่ผมเตรียมใจไว้ คือ หนี้ท่วมหัว ขายบ้าน ขายสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีในชีวิต แล้วหนีหนี้ออกบวช...
:lol: :lol: :lol:
คิดจะใช้มาร์จิ้น... คุณเตรียมใจเอาไว้ขนาดไหนครับ???
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1661
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 4
ส่วนผมพยายามใช้ margin ทุกครั้งที่ซื้อหุ้นครับ
เพราะผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ใช่แค่ควรจะ แต่ต้องใช้ครับ
แต่...เป็น margin of safety นะครับ :lol:
(อืม ไอ้หมอนี่หาสาระไม่ได้เลยแฮะ )
เพราะผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ใช่แค่ควรจะ แต่ต้องใช้ครับ
แต่...เป็น margin of safety นะครับ :lol:
(อืม ไอ้หมอนี่หาสาระไม่ได้เลยแฮะ )
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 6
จำเป็นจริงๆครับsathaporne เขียน:ส่วนผมพยายามใช้ margin ทุกครั้งที่ซื้อหุ้นครับ
เพราะผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ใช่แค่ควรจะ แต่ต้องใช้ครับ
แต่...เป็น margin of safety นะครับ :lol:
(อืม ไอ้หมอนี่หาสาระไม่ได้เลยแฮะ )
แต่นอกประเด็นไปหน่อยนะ :lol:
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 22
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 8
ขอแชร์แนวทางการใช้ margin ที่ใช้อยู่
ในทุกสถานะการณ์
1. Take loan ไม่เกิน 50% , ถ้ามี E=2 จะใช้ L<=1 , MM ประมาณตารางคุณ newbie_12 (ขอบคุณครับ)
เสมือนผมรันบริษัทด้วย D/E <= 0.5 ในสถานะการณ์ที่ไม่ผิดปกติจนเกินไป โอกาสโดนเรียก จะน้อยถึงน้อยมาก
2. ถ้าโดนดอกที่ 6% บริษัทที่ลงทุน ต้องมีผลตอบแทนในรูปปันผลอย่างน้อยที่สุด 2% ( 6%/3, 3 คือ E 2 ส่วนและ L 1 ส่วน)
ปันผลต้องครอบคลุมดอกที่จ่าย ให้มันเลี้ยงตัวเอง
3. เตรียมทางออกไว้ล่วงหน้า ขาบนยังไม่เท่าไหร่ แต่ขาล่างต้องมีในใจ
4. รอมันโต
ในทุกสถานะการณ์
1. Take loan ไม่เกิน 50% , ถ้ามี E=2 จะใช้ L<=1 , MM ประมาณตารางคุณ newbie_12 (ขอบคุณครับ)
เสมือนผมรันบริษัทด้วย D/E <= 0.5 ในสถานะการณ์ที่ไม่ผิดปกติจนเกินไป โอกาสโดนเรียก จะน้อยถึงน้อยมาก
2. ถ้าโดนดอกที่ 6% บริษัทที่ลงทุน ต้องมีผลตอบแทนในรูปปันผลอย่างน้อยที่สุด 2% ( 6%/3, 3 คือ E 2 ส่วนและ L 1 ส่วน)
ปันผลต้องครอบคลุมดอกที่จ่าย ให้มันเลี้ยงตัวเอง
3. เตรียมทางออกไว้ล่วงหน้า ขาบนยังไม่เท่าไหร่ แต่ขาล่างต้องมีในใจ
4. รอมันโต
- Joga Bonito
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 10
ผมหาหุ้นไม่ค่อยเก่ง แค่ลำพังตัวที่ซื้อ ก็กลัวว่า mos จะน้อยไป
ถ้าซัด margin ไปอีก เกรงว่าจะไม่เหลือ mos
เลยเปิดไว้แต่ไม่ได้ใช้
ถ้าซัด margin ไปอีก เกรงว่าจะไม่เหลือ mos
เลยเปิดไว้แต่ไม่ได้ใช้
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 12
ผมเป็นคนโลภครับ เรียกได้ว่าโลภมากด้วยwoody เขียน:รีบกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ถ้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือ ก็คงต้องไปดูว่าบริหารเงินสดผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากได้กำไรเยอะๆ เร็วๆ ก็ต้องไปถามตัวเองต่อว่านี่คือวิถีของ vi ใช่หรือไม่
เป็นคนกิเลสหนา ปัญญาน้อย อยากหลุดอยากพ้นเหมือนกัน แต่ยังมีความกล้าหาญเพียรพยายามไม่มากพอ เลยต้องเตรียมใจเอาไว้เยอะๆ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 13
+2woody เขียน:รีบกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ถ้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือ ก็คงต้องไปดูว่าบริหารเงินสดผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากได้กำไรเยอะๆ เร็วๆ ก็ต้องไปถามตัวเองต่อว่านี่คือวิถีของ vi ใช่หรือไม่
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 15
อันนี้ผมขอแชร์ความคิดของผมแบบนี้นะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจริงๆแล้ววิธีแบบนี้เค้าเรียกว่า vi หรือเปล่าwoody เขียน:รีบกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ถ้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือ ก็คงต้องไปดูว่าบริหารเงินสดผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากได้กำไรเยอะๆ เร็วๆ ก็ต้องไปถามตัวเองต่อว่านี่คือวิถีของ vi ใช่หรือไม่
ผมคิดว่าการใช้ margin ไม่ได้เป็นการโลภหรือรีบเร่งอะไร เพราะในการลงทุนของผมเทียบกันได้กับการทำธุรกิจอันหนึ่ง ซึ่งธุรกิจโดยทั่วไป ไม่ว่าจะธุรกิจ SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ก็ล้วนกู้เงินมาลงทุนด้วยกันทั้งนั้น จริงๆแล้วธุรกิจดังกล่าวถ้าจะเทียบความเสี่ยงกันแล้วผมคิดว่าเค้าเสี่ยงมากกว่าผมอีก
เพราะถ้าหากว่าเราลงทุนไปแล้ว เกิดการผิดพลาด เราสามารถขายหุ้น รับผลขาดทุนนั้นได้เนื่องจากตลาดมันมีสภาพคล่อง แต่ในขณะที่ถ้าเราทำธุรกิจทั่วไป การจะขายสินทรัพย์ออกมาให้ได้เงินโดยเร็วนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุผลอย่างที่ว่า คนอื่นๆเสี่ยงกว่าผมเยอะ ทำไมผมจะรับความเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้หล่ะครับ อีกอย่างนึง ดอกเบี้ยที่ทางบริษัทหลักทรัพย์คิด ก็ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ก็อยู่ที่ 5% เท่านั้น (สำหรับของผมเอง) เทียบกับธุรกิจจริงที่เค้ากู้กันแล้ว ดอกของผมถูกกว่าเยอะครับ
ทีนี้การที่จะกู้เงินมาลงทุน ก็จะต้องมีวิธีในการจัดการกะเงินกู้ของเราให้มากกว่าที่เราใช้เงินเย็นมาลงทุนด้วยอีกนิดหน่อย กลาวคือ เราต้อง limit ว่าเราจะกู้ไม่เกินเท่าไหร่ แล้วจะต้องรู้ว่า จุดที่จะโดน call โดน force มันอยู่ที่จุดไหน ดังตารางที่ผมโพสให้ดูณ ความคิดเห็นก่อน ก็น่าจะพอบอกได้ว่าถ้าเราใช้ margin ในจำนวนที่พอสมควร เช่นใช้ซัก 35% ของ E โอกาสที่จะถูก call นี่ยากมาก
กรอบการลงทุนของผม เป็นแบบระยะยาวนะครับ ไม่ใช่การซื้อๆขายๆ คิดว่าถ้าเรามองกรอบการลงทุนไม่เหมือนกัน อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อก็ได้
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 17
ก็ถ้าไม่รีบ ทำไมถึงต้องใช้หรือครับ? ก็ลงทุนแบบไม่ต้องใช้ก็ได้ไม่ใช่หรือครับ อีกอย่างเรื่อง subprime ครั้งที่ผ่านมานี่มันตีกลับแบบตัววีครับ แต่ถ้าครั้งหน้าไม่ใช่หล่ะจะทำอย่างไร? ไม่ได้มีอะไรเป็นตัวการันตีว่าวิกฤติคราวหน้าจะจบช้าหรือเร็วครับpasaaris เขียน:ไม่น่าจะเกี่ยวกับรีบหรือไม่รีบ แต่ถ้าใช้ไม่เยอะมาก โอกาศโดน call หรือ force ก็น้อยจริงๆนะครับ ผมก็ใช้ margin ผ่าน subprime มาแบบสบายๆ
อีกอย่าง มันคงต้องดู wealth และ cashflow ประกอบด้วยครับว่าเหมาะขนาดไหน
ปล. เก่งครับ ที่ผ่าน subprime พร้อม margin มาได้แบบสบายๆ
Impossible is Nothing
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 18
อ่านของ พี่โต็ส แล้วสนุกทุกที เหมือน Load of the ring เลยpicatos เขียน:...
และเมื่อใช้ จิ้น แล้ว... เราก็จะเป็นทาสของมันตลอดไป... ...
แต่แฝงความรู้ไว้นะครับ ถ้าใช้ Margin หุ้นลง ถึงจุด Cut ต้องขาย ไม่งั้นหมดตัวได้ง่าย ๆ
คำว่า "ถึงจุด Cut ต้องขาย" ก็ไม่ใช่แนวทาง VI นะครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 19
1. ส่วนตัวผมคงไม่เรียกว่า vi ครับnewbie_12 เขียน:อันนี้ผมขอแชร์ความคิดของผมแบบนี้นะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจริงๆแล้ววิธีแบบนี้เค้าเรียกว่า vi หรือเปล่าwoody เขียน:รีบกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ถ้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือ ก็คงต้องไปดูว่าบริหารเงินสดผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากได้กำไรเยอะๆ เร็วๆ ก็ต้องไปถามตัวเองต่อว่านี่คือวิถีของ vi ใช่หรือไม่
ผมคิดว่าการใช้ margin ไม่ได้เป็นการโลภหรือรีบเร่งอะไร เพราะในการลงทุนของผมเทียบกันได้กับการทำธุรกิจอันหนึ่ง ซึ่งธุรกิจโดยทั่วไป ไม่ว่าจะธุรกิจ SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ก็ล้วนกู้เงินมาลงทุนด้วยกันทั้งนั้น จริงๆแล้วธุรกิจดังกล่าวถ้าจะเทียบความเสี่ยงกันแล้วผมคิดว่าเค้าเสี่ยงมากกว่าผมอีก
เพราะถ้าหากว่าเราลงทุนไปแล้ว เกิดการผิดพลาด เราสามารถขายหุ้น รับผลขาดทุนนั้นได้เนื่องจากตลาดมันมีสภาพคล่อง แต่ในขณะที่ถ้าเราทำธุรกิจทั่วไป การจะขายสินทรัพย์ออกมาให้ได้เงินโดยเร็วนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุผลอย่างที่ว่า คนอื่นๆเสี่ยงกว่าผมเยอะ ทำไมผมจะรับความเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้หล่ะครับ อีกอย่างนึง ดอกเบี้ยที่ทางบริษัทหลักทรัพย์คิด ก็ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ก็อยู่ที่ 5% เท่านั้น (สำหรับของผมเอง) เทียบกับธุรกิจจริงที่เค้ากู้กันแล้ว ดอกของผมถูกกว่าเยอะครับ
ทีนี้การที่จะกู้เงินมาลงทุน ก็จะต้องมีวิธีในการจัดการกะเงินกู้ของเราให้มากกว่าที่เราใช้เงินเย็นมาลงทุนด้วยอีกนิดหน่อย กลาวคือ เราต้อง limit ว่าเราจะกู้ไม่เกินเท่าไหร่ แล้วจะต้องรู้ว่า จุดที่จะโดน call โดน force มันอยู่ที่จุดไหน ดังตารางที่ผมโพสให้ดูณ ความคิดเห็นก่อน ก็น่าจะพอบอกได้ว่าถ้าเราใช้ margin ในจำนวนที่พอสมควร เช่นใช้ซัก 35% ของ E โอกาสที่จะถูก call นี่ยากมาก
กรอบการลงทุนของผม เป็นแบบระยะยาวนะครับ ไม่ใช่การซื้อๆขายๆ คิดว่าถ้าเรามองกรอบการลงทุนไม่เหมือนกัน อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อก็ได้
2. เรื่องการใช้ margin ผมไม่ได้ถือว่าเป็นการโลภครับ แต่ผมว่ารีบแน่ๆ ส่วนเรื่องธุรกิจที่กู้นั้น ผมว่าที่เค้ากู้ได้เพราะส่วนใหญ่ต้องมีหลักประกันที่มันคงครับถึงแม้จะ liquidate ยากกว่าหลักทรัพย์ ซึ่งระหว่างราคาที่ดินกับหุ้นก็คงจะรู้กันดีกว่าอะไรมีความผันผวนมากกว่ากัน เพิ่มเติมคือ บางครั้ง Broker สามารถตัดวงเงินที่จะปล่อย margin แก้หุ้นตัวนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็วทำให้เราต้องรีบเอาเงินไปเติม ฉะนั้นจะเอาไปเทียบกันตรงๆ คงไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะได้เป็น Framework ใหญ่ๆ ก็พอได้แต่ต้องมี Caution ตัวใหญ่ไว้เตือนเสมอๆ
ส่วนเรื่องการจัดการเงินกู้ ผมคงไม่สามารถให้ความเห็นได้ครับ เพราะจากบริบทต่างๆ ที่ผ่านมาทำใ้ห้ผมเข้าใจว่าเวบบอร์ดแห่งนี้ไม่ส่งเสริมเนื้อหาด้าน money management และคิดว่าเนื้อหาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อบอร์ดการลงทุนเ้น้นคุณค่าแห่งนี้ ฉะนั้นผมต้องใส่ Assumptions ว่าที่แห่งนี้จะเน้นเรื่องของ Stock Selection อย่างเดียวครับ
ส่วนกรอบการลงทุนระยะยาว หรือสั้นนั้น ผมเข้าใจครับที่คุณ newbie_12 ต้องการสื่อครับ แต่ผมว่าประเด็นนี้นั้นแล้วแต่ตัวบุคคลครับ ไม่มีใครมีสิทธิ์กำหนดว่าระยะเวลาใดคือยาว และเวลาใดคือสั้นครับ ยิ่งไปกว่านั้นหลายต่อหลายครั้งผมเห็นคนที่อ้างว่าลงทุนแบบระยะยาวซื้อขายบ่อยกว่าคนที่ลงทุนระยะกลางด้วยซ้ำไปครับ
Impossible is Nothing
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 20
น่าสนใจมากครับ พี่woodywoody เขียน: ส่วนเรื่องการจัดการเงินกู้ ผมคงไม่สามารถให้ความเห็นได้ครับ เพราะจากบริบทต่างๆ ที่ผ่านมาทำใ้ห้ผมเข้าใจว่าเวบบอร์ดแห่งนี้ไม่ส่งเสริมเนื้อหาด้าน money management และคิดว่าเนื้อหาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อบอร์ดการลงทุนเ้น้นคุณค่าแห่งนี้ ฉะนั้นผมต้องใส่ Assumptions ว่าที่แห่งนี้จะเน้นเรื่องของ Stock Selection อย่างเดียวครับ
เรื่อง money management ความหมายของพี่ woody คืออะไรครับ
ผมก็คิดอยู่นะครับ เรื่องการ cut loss เพื่อรักษาเงินต้น สรุปผมว่ามันเป็น style ของแต่ละคนนะ
ส่วนตัวผม ก็เจ็บมากจากการ cut loss ไม่เป็นในช่วง sub prime ทำให้ capital หายไปพอสมควร
พอมาย้อนมองดูแล้ว ก็อย่างว่า รู้งี้...รู้งี้...รู้งี้...555
ผมเลยเริ่มมาศึกษา หาหนังสืออ่านมากขึ้น และพยายามสร้างวินัยในรักษาเงินต้นมากขึ้น
ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกครับ...555
แต่บางคนใน web นี้ ผมถือว่า อึดมากๆ มีหลายคนที่ผมรู้จักด้วยครับ
ขึ้นยังงัย ลงยังงัย ก็ยังไม่ขาย ไม่ว่าจะช่วง subprime หรือไม่
แต่จะขาย เมื่อราคาเกินพื้นฐานมามาก และก็ประสบความสำเร็จด้วย
ผ่านช่วง subprime แบบไม่เจ็บตัว หรือเจ็บตัวแบบพอรับได้
ผมว่าอย่างคนพรรณอึดเหล่านี้ ก็ใช้ money management อีกแบบนึง (ซึ่งผมทำไม่ได้แน่นอน)
ประมาณลงทุนกับบริษัท เป็นการให้ บลจ.เหล่านั้น manage money ของเราไปเรื่อยๆ
สุดท้ายผมว่ามันก็อยู่ที่ style ของแต่ละคนครับ
การย้ำทำในสิ่งที่ประสบความสำเร็จนั้นถูกต้องแล้วครับ
หากคิดว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ก็ศึกษาเพิ่มเติม ปรับ style ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 21
ผมว่าพี่กระทิงแดงคงทราบแล้วหล่ะครับว่ามันคืออะไร ผมก็เรียนมาด้วยบทเรียนราคาแพงเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้มาจากเหตุการณ์ subprime ส่วนเรื่องนิยามของผมก็ตามที่โพสท์ครับ ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ณ ที่นี้ครับเพราะเกรงว่าจะผิดกฎ หวังว่าจะเข้าใจผมนะครับกระทิงแดง เขียน:น่าสนใจมากครับ พี่woodywoody เขียน: ส่วนเรื่องการจัดการเงินกู้ ผมคงไม่สามารถให้ความเห็นได้ครับ เพราะจากบริบทต่างๆ ที่ผ่านมาทำใ้ห้ผมเข้าใจว่าเวบบอร์ดแห่งนี้ไม่ส่งเสริมเนื้อหาด้าน money management และคิดว่าเนื้อหาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อบอร์ดการลงทุนเ้น้นคุณค่าแห่งนี้ ฉะนั้นผมต้องใส่ Assumptions ว่าที่แห่งนี้จะเน้นเรื่องของ Stock Selection อย่างเดียวครับ
เรื่อง money management ความหมายของพี่ woody คืออะไรครับ
ผมก็คิดอยู่นะครับ เรื่องการ cut loss เพื่อรักษาเงินต้น สรุปผมว่ามันเป็น style ของแต่ละคนนะ
ส่วนตัวผม ก็เจ็บมากจากการ cut loss ไม่เป็นในช่วง sub prime ทำให้ capital หายไปพอสมควร
พอมาย้อนมองดูแล้ว ก็อย่างว่า รู้งี้...รู้งี้...รู้งี้...555
ผมเลยเริ่มมาศึกษา หาหนังสืออ่านมากขึ้น และพยายามสร้างวินัยในรักษาเงินต้นมากขึ้น
ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกครับ...555
แต่บางคนใน web นี้ ผมถือว่า อึดมากๆ มีหลายคนที่ผมรู้จักด้วยครับ
ขึ้นยังงัย ลงยังงัย ก็ยังไม่ขาย ไม่ว่าจะช่วง subprime หรือไม่
แต่จะขาย เมื่อราคาเกินพื้นฐานมามาก และก็ประสบความสำเร็จด้วย
ผ่านช่วง subprime แบบไม่เจ็บตัว หรือเจ็บตัวแบบพอรับได้
ผมว่าอย่างคนพรรณอึดเหล่านี้ ก็ใช้ money management อีกแบบนึง (ซึ่งผมทำไม่ได้แน่นอน)
ประมาณลงทุนกับบริษัท เป็นการให้ บลจ.เหล่านั้น manage money ของเราไปเรื่อยๆ
สุดท้ายผมว่ามันก็อยู่ที่ style ของแต่ละคนครับ
การย้ำทำในสิ่งที่ประสบความสำเร็จนั้นถูกต้องแล้วครับ
หากคิดว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ก็ศึกษาเพิ่มเติม ปรับ style ที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
Impossible is Nothing
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 22
ผมคิดว่าไม่น่าจะอยู่ในกรอบการลงทุนแบบ vi นะ เพราะ กรอบการลงทุนแบบ vi ที่ท่าน newbie_12 เคยอธิบายไว้ ท่าน ให้ยึดที่มูลค่าของหุ้น อย่ายึดที่ราคาของหุ้นnewbie_12 เขียน:อันนี้ผมขอแชร์ความคิดของผมแบบนี้นะครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจริงๆแล้ววิธีแบบนี้เค้าเรียกว่า vi หรือเปล่าwoody เขียน:รีบกันขนาดนั้นเลยหรือครับ? ถ้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือ ก็คงต้องไปดูว่าบริหารเงินสดผิดพลาดหรือเปล่า ถ้าบอกว่าอยากได้กำไรเยอะๆ เร็วๆ ก็ต้องไปถามตัวเองต่อว่านี่คือวิถีของ vi ใช่หรือไม่
ผมคิดว่าการใช้ margin ไม่ได้เป็นการโลภหรือรีบเร่งอะไร เพราะในการลงทุนของผมเทียบกันได้กับการทำธุรกิจอันหนึ่ง ซึ่งธุรกิจโดยทั่วไป ไม่ว่าจะธุรกิจ SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ก็ล้วนกู้เงินมาลงทุนด้วยกันทั้งนั้น จริงๆแล้วธุรกิจดังกล่าวถ้าจะเทียบความเสี่ยงกันแล้วผมคิดว่าเค้าเสี่ยงมากกว่าผมอีก
เพราะถ้าหากว่าเราลงทุนไปแล้ว เกิดการผิดพลาด เราสามารถขายหุ้น รับผลขาดทุนนั้นได้เนื่องจากตลาดมันมีสภาพคล่อง แต่ในขณะที่ถ้าเราทำธุรกิจทั่วไป การจะขายสินทรัพย์ออกมาให้ได้เงินโดยเร็วนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุผลอย่างที่ว่า คนอื่นๆเสี่ยงกว่าผมเยอะ ทำไมผมจะรับความเสี่ยงแบบนี้ไม่ได้หล่ะครับ อีกอย่างนึง ดอกเบี้ยที่ทางบริษัทหลักทรัพย์คิด ก็ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ก็อยู่ที่ 5% เท่านั้น (สำหรับของผมเอง) เทียบกับธุรกิจจริงที่เค้ากู้กันแล้ว ดอกของผมถูกกว่าเยอะครับ
ทีนี้การที่จะกู้เงินมาลงทุน ก็จะต้องมีวิธีในการจัดการกะเงินกู้ของเราให้มากกว่าที่เราใช้เงินเย็นมาลงทุนด้วยอีกนิดหน่อย กลาวคือ เราต้อง limit ว่าเราจะกู้ไม่เกินเท่าไหร่ แล้วจะต้องรู้ว่า จุดที่จะโดน call โดน force มันอยู่ที่จุดไหน ดังตารางที่ผมโพสให้ดูณ ความคิดเห็นก่อน ก็น่าจะพอบอกได้ว่าถ้าเราใช้ margin ในจำนวนที่พอสมควร เช่นใช้ซัก 35% ของ E โอกาสที่จะถูก call นี่ยากมาก
กรอบการลงทุนของผม เป็นแบบระยะยาวนะครับ ไม่ใช่การซื้อๆขายๆ คิดว่าถ้าเรามองกรอบการลงทุนไม่เหมือนกัน อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อก็ได้
"แต่ที่หมอฝนยังเป็นห่วงเรื่องความเสี่ยง พี่คิดว่ามันเป็นความเสี่ยงที่อยู่นอกกรอบของการลงทุนแบบ vi เช่นความเสี่ยงเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ ความเสี่ยงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง etc. ซึ่งความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้ จะมีผลมากกับ"ราคา" ของหุ้นที่เราถือ แต่จะส่งผลน้อยกับ "มูลค่า" ของหุ้นที่เราถือ แต่ vi เรา focus เฉพาะมูลค่าของกิจการ ดังนั้นผลการขาดทุนทางบัญชีใน port ไม่ได้มีสาระสำคัญในทาง vi เราครับ
ซึ่งการใช้มาร์จินจะบังคับ ให้เราถือหุ้นผ่านความเสี่ยงต่างๆเหล่านั้นไม่ได้ ส่วนถ้าจะคัทลอสโดยมูลค่าพื้นฐานยังดีอยู่ ก็คงไม่ใช่วิถีทาง vi ที่ท่านใช้เช่นกัน หรือ ผมเข้าใจสิ่งที่ท่านนำเสนอมาตลอดผิด ก็บอกได้นะครับ ผมจะได้ปรับความคิดใหม่ว่า "ถ้าราคาลงมาถึงจุดนึงโดยมูลค่าพื้นฐานยังดีอยู่ก็ต้องขาย"
สำหรับ ธุรกิจจริงที่กู้เงินมาถ้าจะเปรียบเทียบไปแล้วนั่นเป็นการลงทุนแบบ vi ขนานแท้นะครับความเสี่ยงจะต่ำกว่ามาก เพราะความเสี่ยงทั้งหมด อยู่ที่ตัวธุรกิจเอง ถ้าตัวธุรกิจยังไปได้ แม้ปัจจัยภายนอกจะแย่แค่ไหน ก็สามารถผ่อนต้น จ่ายดอกได้เรื่อยๆครับ ราคาธุรกิจไม่ได้มามีผลให้ธนาคารบังคับขายเลย แตกต่างกับการใช้มาร์จินมาซื้อหุ้นครับ สิ่งที่เปรียบเทียบมา ผมเลยว่าตรรกะมันไม่ตรงครับ
สำหรับกรอบการลงทุนผมไม่เคยกำหนดครับ เพราะผมมองทุกอย่างเป็นไดนามิค มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ไม่ทราบว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อมั้ยนะครับ
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 23
เอาใหม่
ถ้าถือ margin ซัก 30-35% โอกาสที่จะโดน call มีน้อยมาก เท่านั้นหล่ะครับที่ผมต้องการสื่อ ส่วนการ cut ไม่ cut ผมว่าผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ในport ผมก็ยังไม่เคย MM จะลงไปเฉียด call
สงสัยผมคงต้องโดนซักทีละมั้ง ถึงจะเข้าใจ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อของผมแบบนี้ก่อนครับ
ถ้าถือ margin ซัก 30-35% โอกาสที่จะโดน call มีน้อยมาก เท่านั้นหล่ะครับที่ผมต้องการสื่อ ส่วนการ cut ไม่ cut ผมว่าผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ในport ผมก็ยังไม่เคย MM จะลงไปเฉียด call
สงสัยผมคงต้องโดนซักทีละมั้ง ถึงจะเข้าใจ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อของผมแบบนี้ก่อนครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 24
ถ้าผมมีพ่อตารวยๆและเต็มใจให้ผมกู้นี่ ผมกล้ามาร์จินเต็มที่เลยครับ เพราะไม่มีโอกาสโดน force sell :lol: ไม่ได้พูดเล่นนะครับ มีคนทำอย่างนี้จริงๆและได้ผลดี
แต่ถ้าใช้เงินกู้จากโบรคนี่คงต้องคิดอีกแบบ เผื่อการโดน force sell ไว้ด้วย คนที่กลัวๆแบบผมถ้าใช้ก็น้อยมากๆ ถึงเส้นชัยแล้วไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็น เวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น เทขายที่ฟลอร์ยังขายไม่ได้เลยครับ ดังนั้นการใช้เงินกู้ยังไงก็เพิ่มความเสี่ยง
แต่ถ้าทุกอย่างดูดีมากๆ หมายถึงราคาหุ้นมี MOS สูงมากๆผมก็วางแผนจะเพิ่มการใช้เงินมาร์จินเหมือนกัน รอบที่แล้วมัวแต่ตกใจ จนพลาดโอกาส คราวหน้าผมจะทำให้ดีกว่าเดิม
แต่ถ้าใช้เงินกู้จากโบรคนี่คงต้องคิดอีกแบบ เผื่อการโดน force sell ไว้ด้วย คนที่กลัวๆแบบผมถ้าใช้ก็น้อยมากๆ ถึงเส้นชัยแล้วไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็น เวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น เทขายที่ฟลอร์ยังขายไม่ได้เลยครับ ดังนั้นการใช้เงินกู้ยังไงก็เพิ่มความเสี่ยง
แต่ถ้าทุกอย่างดูดีมากๆ หมายถึงราคาหุ้นมี MOS สูงมากๆผมก็วางแผนจะเพิ่มการใช้เงินมาร์จินเหมือนกัน รอบที่แล้วมัวแต่ตกใจ จนพลาดโอกาส คราวหน้าผมจะทำให้ดีกว่าเดิม
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 25
คงมีสักวันครับคุณ newbie_12 ที่พวกเรา ทั้งผม ทั้งคุณ newbie_12 จะโดน call กัน...newbie_12 เขียน:เอาใหม่
ถ้าถือ margin ซัก 30-35% โอกาสที่จะโดน call มีน้อยมาก เท่านั้นหล่ะครับที่ผมต้องการสื่อ ส่วนการ cut ไม่ cut ผมว่าผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ในport ผมก็ยังไม่เคย MM จะลงไปเฉียด call
สงสัยผมคงต้องโดนซักทีละมั้ง ถึงจะเข้าใจ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อของผมแบบนี้ก่อนครับ
สุดท้ายก็แล้วแต่บุญแต่กรรมละครับ...
ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน... วันดีคืนดี... อาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ก็ได้ใครจะรู้ วันดีคืนดีประเทศเพื่อนบ้านอาจจะประกาศสงคราม โจรก่อการร้ายขึ้นมาป่วนที่กทม. ก็ได้ ใครจะรู้...
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 26
สวัสดีครับ อาจารย์โจ นาน ๆ เจอที ต้องขอทักทายก่อน
ผมก็เรียนการ Value มูลค่าหุ้นจากกระทู้ คุณโจนี่ล่ะครับ
************************
ผมเองก็ใช้ Margin เหมือนกันครับ แต่แนวทางจะคล้าย ๆ ทางคุณ Picatos
คือ มีจุด Cut ที่จุด ๆ หนึ่ง แต่ จะ ทยอยขายเมื่อราคามันไหลลง เพื่อ maintenance margin ไว้ที่จุด ยินต็ก
เขียนขำ ๆ นะครับ แต่เวลามันทะลุแล้วไม่ขำนะครับ :lol:
สาเหตุที่ใช้ มาจาก ความโลภ มันบัง ตา
แต่เซียนบางคน ซื้อของประมาณนี้ (ยกตัวอย่างนะครับ)
ซื้อของ มูลค่า 1 บาท ที่ราคา 25 ตังค์ ใช้ Margin 50% ที่ 25 ตังค์ และก็ถือยาว
ตอนนี้ราคาตลาด 50 ตังค์
กรณีนี้ % โดน Force ก็น่าจะต่ำมาก
แต่ตอนใช้ Margin 50% ที่ 25 ตังค์ นั้น มีความรู้และมั่นใจได้อย่างไร ว่าจะไม่โดน Force และมีวิธี Manage อย่างไร ???
ประเด็นก็คือ วิธีการลงทุนของตนเอง และความรู้และเข้าใจในวิธีการลงทุนของตนเอง น่าจะเป็นจุดสำคัญ
รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร อยู่ และมีวิธี ควบคุม ความเสี่ยงอย่างไร
แต่พอความโลภมา มันบังตา จริง ๆ นะ
คราวหน้าผมจะไม่ใช้แล้ว (หรือใช้ ให้น้อยลง ดี หว่า )
ผมก็เรียนการ Value มูลค่าหุ้นจากกระทู้ คุณโจนี่ล่ะครับ
************************
ผมเองก็ใช้ Margin เหมือนกันครับ แต่แนวทางจะคล้าย ๆ ทางคุณ Picatos
คือ มีจุด Cut ที่จุด ๆ หนึ่ง แต่ จะ ทยอยขายเมื่อราคามันไหลลง เพื่อ maintenance margin ไว้ที่จุด ยินต็ก
เขียนขำ ๆ นะครับ แต่เวลามันทะลุแล้วไม่ขำนะครับ :lol:
สาเหตุที่ใช้ มาจาก ความโลภ มันบัง ตา
แต่เซียนบางคน ซื้อของประมาณนี้ (ยกตัวอย่างนะครับ)
ซื้อของ มูลค่า 1 บาท ที่ราคา 25 ตังค์ ใช้ Margin 50% ที่ 25 ตังค์ และก็ถือยาว
ตอนนี้ราคาตลาด 50 ตังค์
กรณีนี้ % โดน Force ก็น่าจะต่ำมาก
แต่ตอนใช้ Margin 50% ที่ 25 ตังค์ นั้น มีความรู้และมั่นใจได้อย่างไร ว่าจะไม่โดน Force และมีวิธี Manage อย่างไร ???
ประเด็นก็คือ วิธีการลงทุนของตนเอง และความรู้และเข้าใจในวิธีการลงทุนของตนเอง น่าจะเป็นจุดสำคัญ
รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร อยู่ และมีวิธี ควบคุม ความเสี่ยงอย่างไร
แต่พอความโลภมา มันบังตา จริง ๆ นะ
คราวหน้าผมจะไม่ใช้แล้ว (หรือใช้ ให้น้อยลง ดี หว่า )
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- BABY TERMITE
- Verified User
- โพสต์: 368
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 27
ถ้างั้นขออณุญาติถามท่าน newbie_12 เลย ล่ะกันครับnewbie_12 เขียน:เอาใหม่
ถ้าถือ margin ซัก 30-35% โอกาสที่จะโดน call มีน้อยมาก เท่านั้นหล่ะครับที่ผมต้องการสื่อ ส่วนการ cut ไม่ cut ผมว่าผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ในport ผมก็ยังไม่เคย MM จะลงไปเฉียด call
สงสัยผมคงต้องโดนซักทีละมั้ง ถึงจะเข้าใจ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อของผมแบบนี้ก่อนครับ
ถ้าเกิดเหตุการณ์ปัจจัยภายนอกที่ไม่ดี ที่ส่งผลถึงราคาของบริษัท ทำให้ราคาลดลงเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงจุดที่จะโดน force โดยที่มูลค่าพื้นฐานยังดีอยู่นั้น ท่านจะทำอย่างไร
ยอมขายออกไปก่อน หรือ ลุ้นไปเลย force ก็ยอม
คือแม้โอกาสเกิดมันจะน้อยไม่บ่อยแน่ๆ แต่มันก็มีใช่มั้ยครับ ปี 51 คงเป็นภาพที่ชัดนะครับ
คนที่สนใจจะได้มีแนวทางหรือมีข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ได้ดีขึ้นน่ะครับ หรือจะเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมกับมีแผนการจัดการพอร์ทเพิ่มเติม
แหะๆ คือผมก็ไม่เคยใช้น่ะครับ
ปลวกน้อยคอยวันเติบใหญ่
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 28
โบราณท่านว่า เมื่อได้ลิ้มลองแล้ว มักจะทำใจตีจากได้ยากแต่พอความโลภมา มันบังตา จริง ๆ นะ
คราวหน้าผมจะไม่ใช้แล้ว (หรือใช้ ให้น้อยลง ดี หว่า )
ปีที่แล้วช่วง set 900-1000 จุด มีกระแสล้าง port กันเข้ามาเยอะมาก แต่ผมแค่ทำใจจะ clear margin ออก ยังทำได้ยากเลยครับ ได้แต่ถือไปขาก็สั่นไป
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 29
จริงๆแล้วตอนนี้ผมยังไม่เฉียดไปถึงขนาดนั้นเลยครับ เพราะตอน subprime ยังมือใหม่ แค่ถือหุ้นเต็ม port พลังวัตรยังไม่สูงขนาดเรียกกำลังเสริมด้วย margin ได้BABY TERMITE เขียน:ถ้างั้นขออณุญาติถามท่าน newbie_12 เลย ล่ะกันครับnewbie_12 เขียน:เอาใหม่
ถ้าถือ margin ซัก 30-35% โอกาสที่จะโดน call มีน้อยมาก เท่านั้นหล่ะครับที่ผมต้องการสื่อ ส่วนการ cut ไม่ cut ผมว่าผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ในport ผมก็ยังไม่เคย MM จะลงไปเฉียด call
สงสัยผมคงต้องโดนซักทีละมั้ง ถึงจะเข้าใจ
แต่ตอนนี้ผมเชื่อของผมแบบนี้ก่อนครับ
ถ้าเกิดเหตุการณ์ปัจจัยภายนอกที่ไม่ดี ที่ส่งผลถึงราคาของบริษัท ทำให้ราคาลดลงเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงจุดที่จะโดน force โดยที่มูลค่าพื้นฐานยังดีอยู่นั้น ท่านจะทำอย่างไร
ยอมขายออกไปก่อน หรือ ลุ้นไปเลย force ก็ยอม
คือแม้โอกาสเกิดมันจะน้อยไม่บ่อยแน่ๆ แต่มันก็มีใช่มั้ยครับ ปี 51 คงเป็นภาพที่ชัดนะครับ
คนที่สนใจจะได้มีแนวทางหรือมีข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่ใช้ได้ดีขึ้นน่ะครับ หรือจะเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมกับมีแผนการจัดการพอร์ทเพิ่มเติม
แหะๆ คือผมก็ไม่เคยใช้น่ะครับ
เอาไว้ใกล้จะโดน แล้วจะมาบอกก็แล้วกันครับ ว่าผมควรจะทำยังไงดี
คิดว่าคุณ picatos ก็คงต้องร่วมชะตากรรมกับผมไปด้วยอีกคนแน่ครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 1
Re: VI กับการใช้ Margin
โพสต์ที่ 30
กู้เงินมาลงทุน เป็นเรื่องธรรมดาของระบบทุนนิยมครับ บางท่านสไตล์ชอบเก็บหอมรอมริบไปเรื่อยๆ บางท่านก็ถนัดกับการกู้เงินเพื่อมาลงทุนทำธุรกิจ ส่วนการกู้มาเพื่อเก็งกำไร หรือเล่นพนัน คงไม่ดีแน่ๆไม่ว่าในตลาดหรือในภาคจริง
ผมเองก็ลงทุนหุ้นโดยใช้เงินกู้ โชคดีที่เงินกู้ทีได้มาไม่มีการคอลหรือฟอร์ซ ส่วนนึงได้มาจากแม่ยาย และอีกส่วนนึงมาจากวงเงินโอดีของผมเอง โชคดีที่การลงทุนเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ถึงจุดนึงที่ผมพอใจผมก็เคลียร์เงินกู้ออก
ถ้ามีโอกาสอีกผมก็คงใช้อีก แต่ก็ต้องอยู่ในหลักการของการลงทุนที่มีส่วนเผื่อของความปลอดภัยเพียงพอ ถึงอาจมองดูว่านี่คือความโลภ แต่ถ้ายังอยู่ในขีดความสามารถที่ผมยัง handle ได้ ผมก็ยินดีจะโลภอีกหลายครั้ง
ผมเองก็ลงทุนหุ้นโดยใช้เงินกู้ โชคดีที่เงินกู้ทีได้มาไม่มีการคอลหรือฟอร์ซ ส่วนนึงได้มาจากแม่ยาย และอีกส่วนนึงมาจากวงเงินโอดีของผมเอง โชคดีที่การลงทุนเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ถึงจุดนึงที่ผมพอใจผมก็เคลียร์เงินกู้ออก
ถ้ามีโอกาสอีกผมก็คงใช้อีก แต่ก็ต้องอยู่ในหลักการของการลงทุนที่มีส่วนเผื่อของความปลอดภัยเพียงพอ ถึงอาจมองดูว่านี่คือความโลภ แต่ถ้ายังอยู่ในขีดความสามารถที่ผมยัง handle ได้ ผมก็ยินดีจะโลภอีกหลายครั้ง
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ