ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่....
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่....
โพสต์ที่ 1
วันนี้งบการเงินรายปี ของทุกบริษัทน่าจะออกมาจนครบหมดแล้ว
ปัญหาที่ผมถามตัวเองบ่อยๆคือ
เราก็รู้แค่ ข้อมูลอดีต ที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ในขณะที่ มีคนบางกลุ่มรู้ข้อมูลสดๆอยู่ตลอดเวลา ???
คนกลุ่มไหน คงไม่ต้องบอก
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
สำหรับนักลงทุนแนว PS (Price Speculator)
คงจะตอบว่า เขาจะบริหาร MOI
ด้วยการจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นผ่านกราฟ
ตามความเห็นของผม
บางทีอินไซด์จะไปออกอาการที่กราฟ ก่อนที่จะออกอาการผ่่านปัจจัยพื้นฐานในอดีต
ปัญหาที่ผมถามตัวเองบ่อยๆคือ
เราก็รู้แค่ ข้อมูลอดีต ที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ในขณะที่ มีคนบางกลุ่มรู้ข้อมูลสดๆอยู่ตลอดเวลา ???
คนกลุ่มไหน คงไม่ต้องบอก
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
สำหรับนักลงทุนแนว PS (Price Speculator)
คงจะตอบว่า เขาจะบริหาร MOI
ด้วยการจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นผ่านกราฟ
ตามความเห็นของผม
บางทีอินไซด์จะไปออกอาการที่กราฟ ก่อนที่จะออกอาการผ่่านปัจจัยพื้นฐานในอดีต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 3
ความจริงอยากจะถามต่อว่า
ในแต่ละบริษัทมีผู้รู้ข้อมูลผลประกอบการอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดกี่คน ?
คนที่รู้แน่ๆ เพราะประชุมกันทุกอาทิตย์คือ
กรรมการบริหาร และ md
พวกที่รู้ต่อมาคือ
สมุห์บัญชี พนักงานฝ่ายบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชี
พนักงานระดับหัวหน้าฝ่ายขาย เป็นต้น
แค่คนเหล่านั้น นำข้อมูลสดๆของบริษัทออกไปบอกต่อ
คนที่รู้ข่าววงในของบริษัท ก็น่าจะมีเป็นร้อยแล้ว ???
และถ้าคนที่รู้ข่าววงใน เป็นเงินที่มีอำนาจซื้อนำในหุ้นตัวนั้นเข้าไปอีก
ราคาหุ้นน่าจะเดินตามหลังผลประกอบการที่ประกาศในตลาดนับเป็นเดือน
และสิ่งที่ทุกคนรู้แก่ใจดีคือ
ไม่มีใครใช้ชื่อตัวเองซื้อหุ้นหรอก
เขาใช้แม่ยายกับน้องเมียซื้อขายทั้งนั้น
ในแต่ละบริษัทมีผู้รู้ข้อมูลผลประกอบการอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดกี่คน ?
คนที่รู้แน่ๆ เพราะประชุมกันทุกอาทิตย์คือ
กรรมการบริหาร และ md
พวกที่รู้ต่อมาคือ
สมุห์บัญชี พนักงานฝ่ายบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชี
พนักงานระดับหัวหน้าฝ่ายขาย เป็นต้น
แค่คนเหล่านั้น นำข้อมูลสดๆของบริษัทออกไปบอกต่อ
คนที่รู้ข่าววงในของบริษัท ก็น่าจะมีเป็นร้อยแล้ว ???
และถ้าคนที่รู้ข่าววงใน เป็นเงินที่มีอำนาจซื้อนำในหุ้นตัวนั้นเข้าไปอีก
ราคาหุ้นน่าจะเดินตามหลังผลประกอบการที่ประกาศในตลาดนับเป็นเดือน
และสิ่งที่ทุกคนรู้แก่ใจดีคือ
ไม่มีใครใช้ชื่อตัวเองซื้อหุ้นหรอก
เขาใช้แม่ยายกับน้องเมียซื้อขายทั้งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 4
กำลังคิดในประเด็นนี้พอดี ขอบคุณพี่คลาดเครียดครับพี่ตั้งกระทู้
- jek ae
- Verified User
- โพสต์: 899
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 5
คงได้แต่ทำใจครับ ถึงอย่างไร insider investor ก็เหนือกว่านักลงทุนทุกสปีชี่ส์อยู่แล้ว
แต่พอมีวิธีที่อาจผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้างครับอย่างเช่น
-ลงทุนในกิจการที่ผ่านการวิเคราะห์ทั้งทางคุณภาพและปริมาณมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เฟ้นหากิจการที่ติดตามการดำเนินงานได้ง่าย หลีกเลี่ยงธุรกิจที่มีความผันผวน และที่สำคัญจังหวะที่ลงทุนควรมีส่วนเผื่อความปลอดภัยเยอะๆ
-แปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าเก่งทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเชี่ยวชาญเทคนิคอลประดุจดั่ง
เหล็งฮู้ชงในตอนจบที่สำเร็จทั้งเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดายและคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น แต่อันนี้ผมคงขอผ่านกลัวธาตุไฟแทรกครับ
-เพิ่มสัดส่วนการลงทุนจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ คราวนี้ insider ก็จะทำอะไรเราไม่ได้เพราะเราจะเป็น insider เสียเอง
แต่พอมีวิธีที่อาจผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้างครับอย่างเช่น
-ลงทุนในกิจการที่ผ่านการวิเคราะห์ทั้งทางคุณภาพและปริมาณมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เฟ้นหากิจการที่ติดตามการดำเนินงานได้ง่าย หลีกเลี่ยงธุรกิจที่มีความผันผวน และที่สำคัญจังหวะที่ลงทุนควรมีส่วนเผื่อความปลอดภัยเยอะๆ
-แปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าเก่งทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเชี่ยวชาญเทคนิคอลประดุจดั่ง
เหล็งฮู้ชงในตอนจบที่สำเร็จทั้งเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดายและคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น แต่อันนี้ผมคงขอผ่านกลัวธาตุไฟแทรกครับ
-เพิ่มสัดส่วนการลงทุนจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ คราวนี้ insider ก็จะทำอะไรเราไม่ได้เพราะเราจะเป็น insider เสียเอง
เหลือขุนเขาแมกไม้ มิต้องวิตกไร้ฟืนไฟ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 6
โอ้โฮ สุดยอดเคล็ดวิชาjek ae เขียน:-เพิ่มสัดส่วนการลงทุนจนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ คราวนี้ insider ก็จะทำอะไรเราไม่ได้เพราะเราจะเป็น insider เสียเอง
http://www.youtube.com/watch?v=zrrAWjin ... re=related
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 7
ตั่วเฮียครับ ผมใช้วิธี
1.มองยาวๆ หาหุ้นเติบโต มองแค่เป้าหมาย รายทางไม่เกี่ยว
2.ถ้าเป็นไปได้ หาผู้บริหารที่ทำมาหากินอย่างเดียว ไม่ยุ่งกับการซื้อขายของหุ้น
3.มองหาปัจจัยเสี่ยงให้ออก ถ้าสงสัยในเรื่องไหน ให้ถาม ถาม ถาม ถ้ามีอะไรที่ปิดบังในอนาคต น่าจะมีพิรุธบ้างนะครับ
1.มองยาวๆ หาหุ้นเติบโต มองแค่เป้าหมาย รายทางไม่เกี่ยว
2.ถ้าเป็นไปได้ หาผู้บริหารที่ทำมาหากินอย่างเดียว ไม่ยุ่งกับการซื้อขายของหุ้น
3.มองหาปัจจัยเสี่ยงให้ออก ถ้าสงสัยในเรื่องไหน ให้ถาม ถาม ถาม ถ้ามีอะไรที่ปิดบังในอนาคต น่าจะมีพิรุธบ้างนะครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 8
มิได้เป็นเหล็งฮู้ชงครับ เรื่องพื้นฐานงูๆ ปลาๆ เรื่องกราฟถูๆ ไถๆ แต่ผมคิดว่าการลงทุนไม่ได้จำเป็นต้องแบ่งพรรคแบ่งพวกอะไรกันมากมาย มีอาวุธอะไรในมือก็ใช้ๆ ไป สู้กับใครแล้วแพ้ตั้งแต่ในมุ้งก็อย่าไปสู้
"คนอ่านกราฟหรือจะสู้คนเขียนกราฟ คนอ่านงบหรือจะสู้คนเขียนงบ"
สำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรให้อยู่รอดในตลาดให้นานที่สุดโดยไม่หมดตัวไปเสียก่อน เฮียเอนโดอยู่ในตลาดมาหลายสิบปี ผ่านแครชมามากกว่าคนอื่นหลายรอบนัก ผมคิดว่าถ้าใครทำได้อย่างเฮียก็นับว่าประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้วครับ
ผมคิด (เอง) อีกว่าตลาดเป็นระบบการคัดเลือกตามธรรมชาติ คนที่เล่นหุ้นไม่ถึง 25 ปี (รวมทั้งผมด้วย) แล้วบอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วนั้น ถือว่าหลงตัวเองเกินไปหน่อย เพราะอาจจะไปสรุปแล้วว่าหงส์ทุกตัวเป็นสีขาว โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่ามีหงส์สีดำอยู่ในโลกนี้ด้วย
ในพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า "พระเจ้าทรงต่อสู้กับผู้ที่หยิ่งผยอง แต่ประทานกรุณาแก่ผู้มีใจถ่อม" สุดท้ายคนที่ทระนงว่าตนเองเอาชนะตลาดได้ตลอดเวลา ก็จะต้องพ่ายแพ้ให้กับตลาดในที่สุด
"คนอ่านกราฟหรือจะสู้คนเขียนกราฟ คนอ่านงบหรือจะสู้คนเขียนงบ"
สำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรให้อยู่รอดในตลาดให้นานที่สุดโดยไม่หมดตัวไปเสียก่อน เฮียเอนโดอยู่ในตลาดมาหลายสิบปี ผ่านแครชมามากกว่าคนอื่นหลายรอบนัก ผมคิดว่าถ้าใครทำได้อย่างเฮียก็นับว่าประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้วครับ
ผมคิด (เอง) อีกว่าตลาดเป็นระบบการคัดเลือกตามธรรมชาติ คนที่เล่นหุ้นไม่ถึง 25 ปี (รวมทั้งผมด้วย) แล้วบอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วนั้น ถือว่าหลงตัวเองเกินไปหน่อย เพราะอาจจะไปสรุปแล้วว่าหงส์ทุกตัวเป็นสีขาว โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่ามีหงส์สีดำอยู่ในโลกนี้ด้วย
ในพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า "พระเจ้าทรงต่อสู้กับผู้ที่หยิ่งผยอง แต่ประทานกรุณาแก่ผู้มีใจถ่อม" สุดท้ายคนที่ทระนงว่าตนเองเอาชนะตลาดได้ตลอดเวลา ก็จะต้องพ่ายแพ้ให้กับตลาดในที่สุด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 9
ประเด็นนี้น่าสนใจครับ ผมเคยลองนั่งคิดๆดู
น่าจะมีทางออก
1.เราก็ลงทุนในบริษัทที่ข้อมูล insider ทำอะไรไม่ได้ นั่นคือบริษัทที่รายได้ไม่ผันผวน กำไรสม่ำเสมอ ผู้บริหารสื่อสารกับนักลงทุนตลอดเวลา พูดคำไหนคำนั้น โดยรวมๆ สิ่งข้างต้นทำให้เรานักลงทุนเดาผลประกอบการได้ insider ไม่มีผลครับ
2.บริษัทไหนที่ผลประกอบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ราคาก่อนงบออกเปลี่ยนแปลงด้วย ถ้าเกิดบ่อยๆ แสดงว่าบริษัทนั้นมีปัญหาในการเปิดเผยข้อมูล ควรแจ้ง กลต.ให้ตรวจสอบ (ทำได้ง่ายๆผ่านเวป) หรือไปประจานเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ถ้าผู้บริหารทำเอง คงรู้สึกผิดบ้าง ถ้าคนอื่นทำจะได้หาทางตรวจสอบว่ารั่วที่ใคร
3.คนที่รู้คำตอบก่อน ไม่ต้องใช้ความคิดมาก ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นเซียนหุ้นได้ในระยะยาว เพราะคงไม่มีใครเป็นพ่อตาแม่ยายลูกเขยได้ทุกๆบริษัท และแน่นอนว่าถึงมีเงินก็ไม่ใช่เงินที่น่าภูมิใจเท่าไหร่ ขอเป็นรวยเงิน "รวยความภาคภูมิใจ"ด้วยน่าจะดีกว่า
น่าจะมีทางออก
1.เราก็ลงทุนในบริษัทที่ข้อมูล insider ทำอะไรไม่ได้ นั่นคือบริษัทที่รายได้ไม่ผันผวน กำไรสม่ำเสมอ ผู้บริหารสื่อสารกับนักลงทุนตลอดเวลา พูดคำไหนคำนั้น โดยรวมๆ สิ่งข้างต้นทำให้เรานักลงทุนเดาผลประกอบการได้ insider ไม่มีผลครับ
2.บริษัทไหนที่ผลประกอบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ราคาก่อนงบออกเปลี่ยนแปลงด้วย ถ้าเกิดบ่อยๆ แสดงว่าบริษัทนั้นมีปัญหาในการเปิดเผยข้อมูล ควรแจ้ง กลต.ให้ตรวจสอบ (ทำได้ง่ายๆผ่านเวป) หรือไปประจานเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ถ้าผู้บริหารทำเอง คงรู้สึกผิดบ้าง ถ้าคนอื่นทำจะได้หาทางตรวจสอบว่ารั่วที่ใคร
3.คนที่รู้คำตอบก่อน ไม่ต้องใช้ความคิดมาก ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นเซียนหุ้นได้ในระยะยาว เพราะคงไม่มีใครเป็นพ่อตาแม่ยายลูกเขยได้ทุกๆบริษัท และแน่นอนว่าถึงมีเงินก็ไม่ใช่เงินที่น่าภูมิใจเท่าไหร่ ขอเป็นรวยเงิน "รวยความภาคภูมิใจ"ด้วยน่าจะดีกว่า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 10
ประเด็นน่าสนใจมากครับ
ผมชอบคำตอบของนริศกับลูกอิสานนะครับ
และถ้าทำได้ตามนั้นก็น่าจะเซฟตัวเองได้เยอะ
ประเด็น อินไซเดอร์นี้ จะเป็นข้อเสียเปรียบของรายย่อยไปอีกนานแสนนาน
แม้ในประเทศที่อ้างว่าพัฒนาแล้วก็ยังมีประเด็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ
ประเทศเราคงเป็นอย่างที่เห็น ตรั้นจะรอให้ใครมาแก้ให้ก็คงอีกนาน
เราพึ่งตัวเองไปพลางๆก่อน
ผมว่า ความสามารถในการประเมินมูลค่าน่าจะพอช่วยได้
ผมมีตัวอย่างที่เห็นบ่อยๆคือ
๑ คนที่รู้งบก่อนว่าจะขาดทุน ก็เลยชิงขายก่อน พองบออก กลายเป็นราคาหุ้นขึ้นสวนแทน แบบนี้ก็มี
๒ คนที่รู้งบก่อนว่ากำไรจะโตมหาศาล เลยซื้อดักก่อน พองบออก กลายเป็นราคาร่วงเอาๆ เพราะ sale on fact ก็มี
๓ ลูกสาวของบริษัทแห่งหนึ่งรู้ว่าบริษัทกำลังจะได้งานชิ้นหนึ่ง เลยใช้นอมินีไปซื้อดักก่อน ภายหลังได้งาน
ตามนั้นจริงได้กำไรตามนั้นจริง แต่ราคาหุ้นก็ยังสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ เขาก็งง งงหลายๆครั้ง ขาดทุนหลายๆครั้งตอนนี้เลิกเล่นหุ้นไปแล้วรอรับปันผลอย่างเดียว ผมเดาว่าเขาขาดความสามารถในการประเมินมูลค่าหุ้นแม้จะรู้กำไร
๔ md ของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง มีลูกน้องเป็นนักวิเคราะห์มากมายจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลลึกๆได้ก่อนใคร เลยแอบใช้นอมินีซื้อหุ้น ปรากฏว่ากำไรบ้างขาดทุนบ้าง แต่ขาดทุนจะเยอะกว่า ตอนหลังเลยเลิกเล่นหุ้นไปแล้ว เป็นเอ็มดีอย่างเดียวดีกว่า สิ้นเดือนก็รับเงินเดือนชัวร์ๆ
๕ บริษัทแห่งหนึ่ง ผู้บริหารคร่ำหวอดในวงการมายาวนาน ก็ตัดสินใจขายสินค้าล่วงหน้าจำนวนมากเพราะเห็นราคาวิ่งขึ้นมาเยอะและมั่นใจอย่างสูงใครห้ามก็ไม่ฟัง อ้างว่าตนเองรู้ลึกรู้จริงกว่าใครๆ แต่กลายเป็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์เพราะราคาวิ่งขึ้นไปกว่าที่ล็อคราคาไว้เยอะ ในภายหลังผู้บริหารคนนี้ก็ถูกให้ออกโดยผู้ถือหุ้นใหญ่
๖ เมื่อหกปีก่อนเจ้าของบริษัทเดินเรือแห่งหนึ่ง ตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองออกทั้งหมดที่ราคาเอ็กซ์. นักลงทุนก็พากันหนีตายไปด้วยเพราะเห็นว่าเจ้าของขายทิ้งทั้งหมด แต่ภายหลังจากนั้นไม่นาน ราคาหุ้นปรับตัวไปเป็นสองเอ็กซ์กว่าๆท่ามกลางความงวยงงของเจ้าของ
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างที่พอจะให้รายย่อยมีแรงสู้ขึ้นบ้าง
คนที่มองใกล้เกินไปภาพก็เบลอโดยธรรมชาติ
มองไกลนักก็เห็นแค่ลางๆไม่รู้อะไรเป็นอะไร
บางทีระยะการมองที่พอดีๆและมีเครื่องมือที่ดีน่าจะดี
ผมชอบคำตอบของนริศกับลูกอิสานนะครับ
และถ้าทำได้ตามนั้นก็น่าจะเซฟตัวเองได้เยอะ
ประเด็น อินไซเดอร์นี้ จะเป็นข้อเสียเปรียบของรายย่อยไปอีกนานแสนนาน
แม้ในประเทศที่อ้างว่าพัฒนาแล้วก็ยังมีประเด็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ
ประเทศเราคงเป็นอย่างที่เห็น ตรั้นจะรอให้ใครมาแก้ให้ก็คงอีกนาน
เราพึ่งตัวเองไปพลางๆก่อน
ผมว่า ความสามารถในการประเมินมูลค่าน่าจะพอช่วยได้
ผมมีตัวอย่างที่เห็นบ่อยๆคือ
๑ คนที่รู้งบก่อนว่าจะขาดทุน ก็เลยชิงขายก่อน พองบออก กลายเป็นราคาหุ้นขึ้นสวนแทน แบบนี้ก็มี
๒ คนที่รู้งบก่อนว่ากำไรจะโตมหาศาล เลยซื้อดักก่อน พองบออก กลายเป็นราคาร่วงเอาๆ เพราะ sale on fact ก็มี
๓ ลูกสาวของบริษัทแห่งหนึ่งรู้ว่าบริษัทกำลังจะได้งานชิ้นหนึ่ง เลยใช้นอมินีไปซื้อดักก่อน ภายหลังได้งาน
ตามนั้นจริงได้กำไรตามนั้นจริง แต่ราคาหุ้นก็ยังสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ เขาก็งง งงหลายๆครั้ง ขาดทุนหลายๆครั้งตอนนี้เลิกเล่นหุ้นไปแล้วรอรับปันผลอย่างเดียว ผมเดาว่าเขาขาดความสามารถในการประเมินมูลค่าหุ้นแม้จะรู้กำไร
๔ md ของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง มีลูกน้องเป็นนักวิเคราะห์มากมายจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลลึกๆได้ก่อนใคร เลยแอบใช้นอมินีซื้อหุ้น ปรากฏว่ากำไรบ้างขาดทุนบ้าง แต่ขาดทุนจะเยอะกว่า ตอนหลังเลยเลิกเล่นหุ้นไปแล้ว เป็นเอ็มดีอย่างเดียวดีกว่า สิ้นเดือนก็รับเงินเดือนชัวร์ๆ
๕ บริษัทแห่งหนึ่ง ผู้บริหารคร่ำหวอดในวงการมายาวนาน ก็ตัดสินใจขายสินค้าล่วงหน้าจำนวนมากเพราะเห็นราคาวิ่งขึ้นมาเยอะและมั่นใจอย่างสูงใครห้ามก็ไม่ฟัง อ้างว่าตนเองรู้ลึกรู้จริงกว่าใครๆ แต่กลายเป็นว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์เพราะราคาวิ่งขึ้นไปกว่าที่ล็อคราคาไว้เยอะ ในภายหลังผู้บริหารคนนี้ก็ถูกให้ออกโดยผู้ถือหุ้นใหญ่
๖ เมื่อหกปีก่อนเจ้าของบริษัทเดินเรือแห่งหนึ่ง ตัดสินใจขายหุ้นของตัวเองออกทั้งหมดที่ราคาเอ็กซ์. นักลงทุนก็พากันหนีตายไปด้วยเพราะเห็นว่าเจ้าของขายทิ้งทั้งหมด แต่ภายหลังจากนั้นไม่นาน ราคาหุ้นปรับตัวไปเป็นสองเอ็กซ์กว่าๆท่ามกลางความงวยงงของเจ้าของ
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างที่พอจะให้รายย่อยมีแรงสู้ขึ้นบ้าง
คนที่มองใกล้เกินไปภาพก็เบลอโดยธรรมชาติ
มองไกลนักก็เห็นแค่ลางๆไม่รู้อะไรเป็นอะไร
บางทีระยะการมองที่พอดีๆและมีเครื่องมือที่ดีน่าจะดี
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 11
อีกอย่างก็คือ ไม่หาเศษหาเลยในระยะสั้นๆ
ข้อนี้ผมเองก็ทำไม่ได้บ่อยๆ
เป็นวิบากกรมจากชาตินี้แหละ
ยังดีที่ทำแค่นิดๆหน่อยๆพอขำๆ
ข้อนี้ผมเองก็ทำไม่ได้บ่อยๆ
เป็นวิบากกรมจากชาตินี้แหละ
ยังดีที่ทำแค่นิดๆหน่อยๆพอขำๆ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ดีๆครับ
แต่ยังไงผมก็คิดว่า ความสำคัญอันดับต้นๆของการซื้อหุ้นตัวนั้นๆน่าจะเป็น
ธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัท
เพราะเจ้าของบริษัท เป็นบุคลลเดียวหรือคณะบุคคลเดียว
ที่ทำได้ทั้งหุ้นดีๆ หุ้นเน่าๆ ตามผลประกอบการ
และทำให้ราคาหุ้นดีๆเน่าๆ ได้ตามสภาวะของตลาด
หุ้นดีๆ หุ้นเน่าๆ เกิดจากการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียน
ส่วน ราคาหุ้นดีๆ ราคาหุ้นเน่าๆ
เกิดจากการกระทำของเงินที่อำนาจซื้อนำในหุ้นตัวนั้น ๆ
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมบางทีเจ้าของไม่สามารถคุมราคาหุ้นไว้ได้
เพราะหุ้นกับราคาหุ้น มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
แต่ยังไงผมก็คิดว่า ความสำคัญอันดับต้นๆของการซื้อหุ้นตัวนั้นๆน่าจะเป็น
ธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัท
เพราะเจ้าของบริษัท เป็นบุคลลเดียวหรือคณะบุคคลเดียว
ที่ทำได้ทั้งหุ้นดีๆ หุ้นเน่าๆ ตามผลประกอบการ
และทำให้ราคาหุ้นดีๆเน่าๆ ได้ตามสภาวะของตลาด
หุ้นดีๆ หุ้นเน่าๆ เกิดจากการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียน
ส่วน ราคาหุ้นดีๆ ราคาหุ้นเน่าๆ
เกิดจากการกระทำของเงินที่อำนาจซื้อนำในหุ้นตัวนั้น ๆ
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมบางทีเจ้าของไม่สามารถคุมราคาหุ้นไว้ได้
เพราะหุ้นกับราคาหุ้น มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 13
+ ล้าน ไปเลยครับเฮียคลายเครียด เขียน:
ธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัท
Like Like Like
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- แงซาย
- Verified User
- โพสต์: 847
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 14
เห็นบางคนเขาใช้วิธี company visit จริงๆการทําcompany visit ก็เหมือนการขอดูข้อสอบ ขอดูเฉลย ก่อนประกาศผลสอบดีดีนั่นแหละ ...........คลายเครียด เขียน:
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
แต่ก็เคยมีนักลงทุน VI ไป company visit แล้วได้ข้อสอบมาผิดฉบับ ได้เฉลยมาแบบผิดๆ โดนเต็มๆครับ ตายด้วยความมั่นใจ อย่าให้บอกเลยว่าหุ้นตัวไหน ..........................
Free your life , Fly your love
- แงซาย
- Verified User
- โพสต์: 847
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 15
case นั้นนี่ เขาเตี๊ยมกันไว้ทั้งโรงงาน นักลงทุนVI จะไปถามพนักงานคนไหน ดีหมด เจ๋งหมด เยี่ยมหมด โตโลดดดดดดดดดด ......แงซาย เขียน:เห็นบางคนเขาใช้วิธี company visit จริงๆการทําcompany visit ก็เหมือนการขอดูข้อสอบ ขอดูเฉลย ก่อนประกาศผลสอบดีดีนั่นแหละ ...........คลายเครียด เขียน:
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
แต่ก็เคยมีนักลงทุน VI ไป company visit แล้วได้ข้อสอบมาผิดฉบับ ได้เฉลยมาแบบผิดๆ โดนเต็มๆครับ ตายด้วยความมั่นใจ อย่าให้บอกเลยว่าหุ้นตัวไหน ..........................
Free your life , Fly your love
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 16
เรื่องธรรมาภิบาลผมก็ให้เป็นอันดับต้นๆเช่นเดียวกันคลายเครียด เขียน:ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ดีๆครับ
แต่ยังไงผมก็คิดว่า ความสำคัญอันดับต้นๆของการซื้อหุ้นตัวนั้นๆน่าจะเป็น
ธรรมาภิบาลของเจ้าของบริษัท
เพียงแต่คำว่าอันดับต้นๆอาจจะเป็นอันดับหนึ่งหรือสองหรือสามก็ได้
ไม่ทราบว่าท่านคลายเครียดจะพอเผยมุมมองได้ไหมว่าอันดับหนึ่งสองสามคืออะไร
อันนี้เป็นมุมมองของผม
สามัญชน เขียน:บริษัทที่มีธรรมาภิบาลดีๆมีไม่กี่แห่งในตลาดหลักทรัพย์ นับตัวได้ไม่ถึงยี่สิบบริษัท
ที่ผมพอรู้ๆฟังๆมาครับซึ่งที่คิดว่ารู้เอาเข้าจริงก็ไม่ชัวร์เท่าไหร่
ที่เหลือก็กลางๆพอรับได้ที่จริงอาจจะดีก็ได้หรือไม่ดีก็ได้. เพราะไม่รู้ชัดและไม่มีหลักฐานพยานไปพิสูจน์
และส่วนน้อยที่แย่จริงๆจนรับไม่ได้
และบริษัทที่ลือๆกันว่าธรรมาภิบาลแย่ๆ เอาเข้าจริงก็ไม่ได้แย่ตามที่ลือๆกันก็มี อันที่แย่กว่าที่ลือไม่ค่อยมี
เข้าข่ายข่าวลือมักจะถูกใส่สีตีไข่เพิ่มความเข้มข้นจนเกินจริง
อันที่ลือๆแล้วจางลงจนน้อยกว่าความจริงนั้นไม่ค่อยเจอ
เรื่องธรรมาภิบาลผมเลยใช้หลักกลางๆเข้าไปจับ
หลายๆเรื่องออกอาการให้รู้ว่าธรรมาภิบาลอาจจะไม่ดีแต่ก็ยังซื้อ
ถ้าไม่เข้านิยามต่อไปนี้
1. ตกแต่งงบการเงิน. อันนี้ต่อให้กำไรมากแค่ไหนก็ไม่อยากซื้อเพราะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และกำไรที่เห็นว่าดีอาจจะเป็นอย่างไรก็ได้ ที่จริงอาจจะขาดทุนก็ได้
ข้อนี้ความเห็นของผู้สอบบัญชีก็พอจะช่วยได้บ้าง ช่วยไม่ได้ทั้งหมดแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
2. ไซฟ่อนเงิน ดูจากประวัติว่าเคยให้บริษัทลูกหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยืมเงินแล้วกลายเป็นหนี้เสียบ้างไหม เคยซื้อ/ขายอะไรที่ไม่โปร่งใสไหมในรายการเกี่ยวโยงระหว่างกัน หรือรายการอื่นๆที่เป็นสัญญาณว่ามีการถ่ายเทเงินออกอย่างไม่สมควร เป็นต้น
คิดออกแค่สองข้อครับสรุปว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆ เรื่องอื่นๆก็พอทนได้
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 17
ฟังน้ำเสียงเหมือนจะเยาะเย้ยชาววีไอแงซาย เขียน:case นั้นนี่ เขาเตี๊ยมกันไว้ทั้งโรงงาน นักลงทุนVI จะไปถามพนักงานคนไหน ดีหมด เจ๋งหมด เยี่ยมหมด โตโลดดดดดดดดดด ......แงซาย เขียน:เห็นบางคนเขาใช้วิธี company visit จริงๆการทําcompany visit ก็เหมือนการขอดูข้อสอบ ขอดูเฉลย ก่อนประกาศผลสอบดีดีนั่นแหละ ...........คลายเครียด เขียน:
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
แต่ก็เคยมีนักลงทุน VI ไป company visit แล้วได้ข้อสอบมาผิดฉบับ ได้เฉลยมาแบบผิดๆ โดนเต็มๆครับ ตายด้วยความมั่นใจ อย่าให้บอกเลยว่าหุ้นตัวไหน ..........................
ถ้าผมฟังผิดก็ขออภัย
การคอมวิสิทเป็นการเพิ่มความรู้ให้นักลงทุน
ใหม่ๆอาจจะมีมือใหม่โดนหลอก หรือมือเก่าก็อาจจะโดนด้วย
แต่คงไม่โดนหลอกตลอดกาลหรอกมั้งครับ
แต่โดยรวมกิจกรรมนี้มีประโยชน์มากกว่าโทษนะครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- แงซาย
- Verified User
- โพสต์: 847
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 18
อีกวิธีที่ผมเคยใช้และคิดว่าwork พอสมควร ก้อคือการทํา informal company visit ครับ ..........
เพื่อแก้ปัญหา formal company visit แล้วโดนเตี๊ยม จัดฉาก หรือpresentหรูๆ ..........
เพื่อแก้ปัญหา formal company visit แล้วโดนเตี๊ยม จัดฉาก หรือpresentหรูๆ ..........
Free your life , Fly your love
- แงซาย
- Verified User
- โพสต์: 847
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 19
แบบนั้นไม่มีในความคิดเลยครับ พี่หมอสามัญชน.............สามัญชน เขียน:ฟังน้ำเสียงเหมือนจะเยาะเย้ยชาววีไอแงซาย เขียน:case นั้นนี่ เขาเตี๊ยมกันไว้ทั้งโรงงาน นักลงทุนVI จะไปถามพนักงานคนไหน ดีหมด เจ๋งหมด เยี่ยมหมด โตโลดดดดดดดดดด ......แงซาย เขียน:เห็นบางคนเขาใช้วิธี company visit จริงๆการทําcompany visit ก็เหมือนการขอดูข้อสอบ ขอดูเฉลย ก่อนประกาศผลสอบดีดีนั่นแหละ ...........คลายเครียด เขียน:
อยากจะถามว่า
นักลงทุนแนว VI (Value Investor)
มีวิธีบริหาร MOI ( Margin of Information ) กันอย่างไรบ้างครับ
แต่ก็เคยมีนักลงทุน VI ไป company visit แล้วได้ข้อสอบมาผิดฉบับ ได้เฉลยมาแบบผิดๆ โดนเต็มๆครับ ตายด้วยความมั่นใจ อย่าให้บอกเลยว่าหุ้นตัวไหน ..........................
ถ้าผมฟังผิดก็ขออภัย
การคอมวิสิทเป็นการเพิ่มความรู้ให้นักลงทุน
ใหม่ๆอาจจะมีมือใหม่โดนหลอก หรือมือเก่าก็อาจจะโดนด้วย
แต่คงไม่โดนหลอกตลอดกาลหรอกมั้งครับ
แต่โดยรวมกิจกรรมนี้มีประโยชน์มากกว่าโทษนะครับ
จริงๆอันนั้นมันมีประโยชน์ครับ มันคงไม่ได้หลอกกันทุกบริษัทหรอกครับ แต่อยากให้ระวังกันไว้บ้างเพราะมันเคยมีcase ......
Free your life , Fly your love
- nasesus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 20
ขอบคุณครับพี่หมอ พี่หมอมีอะไรดีๆมาฝากเสมอๆชอบท้ายประโยคพี่มากครับอ่านแล้วเข้าใจและเห็นภาพคนที่มองใกล้เกินไปภาพก็เบลอโดยธรรมชาติ
มองไกลนักก็เห็นแค่ลางๆไม่รู้อะไรเป็นอะไร
บางทีระยะการมองที่พอดีๆและมีเครื่องมือที่ดีน่าจะดี
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 21
[quote="สามัญชน
เรื่องธรรมาภิบาลผมก็ให้เป็นอันดับต้นๆเช่นเดียวกัน
เพียงแต่คำว่าอันดับต้นๆอาจจะเป็นอันดับหนึ่งหรือสองหรือสามก็ได้
ไม่ทราบว่าท่านคลายเครียดจะพอเผยมุมมองได้ไหมว่าอันดับหนึ่งสองสามคืออะไร
อันนี้เป็นมุมมองของผม [/quote]
ต้องขอโทษคุณหมอสามัญชนที่เข้ามาตอบช้าครับ
เรียกท่านคลายเครียด อ่านดูแล้วมันพิลึกยังไงไม่รู้ ผมชอบให้คนเรียกว่าเฮีย หรือไม่ก็คุณมากกว่าครับ
สำหรับคำตอบของผมคือ
"ถ้าเป็นหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ผมจัดให้ธรรมาภิบาลเจ้าของบริษัทเป็นอันดับแรก
เพราะผมไม่สามารถหาทางหนีออกจากหุ้นตัวนั้นในทันที ผ่านทางตลาดหุ้นครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าของทึบแสงบ้าง โปร่งแสงบ้าง
ก็ต้องแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นส่วนที่ทึบแสง
ไม่งั้นหลังประชุมสามัญประจำปี
อาจจะเจอเหมือนที่มีคนเล่าให้ผมฟังว่า
หลังเลิกประชุม เจ้าของเดินเข้ามาคุยด้วย
พร้อมคำพูดว่า คุณอย่ามายุ่งกับบริษัทผมเลย โหวตยังไงก็ไม่มีทางชนะ
เพราะผมถือหุ้นเกินครึ่ง "
พูดถึงการตุกติกของเจ้าของบริษัท
บางบริษัทก็แค่ไปตั้งบริษัทลูกอยู่นอกตลาด
โดยไม่มีบริษัทในตลาดเป็นผู้ถือหุ้น
แล้วก็ขายสินค้าราคาถูกๆ ให้กับบริษัทลูกนอกตลาดเอาไปขายต่อในราคาแพงๆ
เรื่องธรรมาภิบาลผมก็ให้เป็นอันดับต้นๆเช่นเดียวกัน
เพียงแต่คำว่าอันดับต้นๆอาจจะเป็นอันดับหนึ่งหรือสองหรือสามก็ได้
ไม่ทราบว่าท่านคลายเครียดจะพอเผยมุมมองได้ไหมว่าอันดับหนึ่งสองสามคืออะไร
อันนี้เป็นมุมมองของผม [/quote]
ต้องขอโทษคุณหมอสามัญชนที่เข้ามาตอบช้าครับ
เรียกท่านคลายเครียด อ่านดูแล้วมันพิลึกยังไงไม่รู้ ผมชอบให้คนเรียกว่าเฮีย หรือไม่ก็คุณมากกว่าครับ
สำหรับคำตอบของผมคือ
"ถ้าเป็นหุ้นไม่มีสภาพคล่อง ผมจัดให้ธรรมาภิบาลเจ้าของบริษัทเป็นอันดับแรก
เพราะผมไม่สามารถหาทางหนีออกจากหุ้นตัวนั้นในทันที ผ่านทางตลาดหุ้นครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าของทึบแสงบ้าง โปร่งแสงบ้าง
ก็ต้องแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นส่วนที่ทึบแสง
ไม่งั้นหลังประชุมสามัญประจำปี
อาจจะเจอเหมือนที่มีคนเล่าให้ผมฟังว่า
หลังเลิกประชุม เจ้าของเดินเข้ามาคุยด้วย
พร้อมคำพูดว่า คุณอย่ามายุ่งกับบริษัทผมเลย โหวตยังไงก็ไม่มีทางชนะ
เพราะผมถือหุ้นเกินครึ่ง "
พูดถึงการตุกติกของเจ้าของบริษัท
บางบริษัทก็แค่ไปตั้งบริษัทลูกอยู่นอกตลาด
โดยไม่มีบริษัทในตลาดเป็นผู้ถือหุ้น
แล้วก็ขายสินค้าราคาถูกๆ ให้กับบริษัทลูกนอกตลาดเอาไปขายต่อในราคาแพงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 297
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 22
จริงด้วย ธรรมาภิบาลสำคัญที่สุด ทุกอย่างดีหมด แต่ผู้บริหารตุกติกก็ไปไม่รอดครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 24
ผมคิดว่า insider trading จะอยู่คู่ตลาดไปชั่วฟ้าดินสลายครับ
วิธีแก้คงต้องอย่างที่พี่ๆบอก คือต้องลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาล คำพูดคำจาตรงกับผลประกอบการ ไม่ได้ซื้อขายหุ้นเป็นกิจวัตร (แต่คนที่ซื้อแล้วใช้ชื่อคนอื่นเราก็ไม่รู้หรอกครับ)
อีกอันที่ผมคิดคือถ้าเรา focus ที่บริษัทนั้นจริง อาจต้องทำตัวเป็น insider ซะเอง ผมคิดว่าถ้าหาวิธีที่จะรู้จักคนตั้งแต่ sales manager ได้ ก็น่าจะพอรู้ว่าสภาพบริษัทตอนนั้นเป็นยังไง ขายดีมั้ย
วิธีแก้คงต้องอย่างที่พี่ๆบอก คือต้องลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาล คำพูดคำจาตรงกับผลประกอบการ ไม่ได้ซื้อขายหุ้นเป็นกิจวัตร (แต่คนที่ซื้อแล้วใช้ชื่อคนอื่นเราก็ไม่รู้หรอกครับ)
อีกอันที่ผมคิดคือถ้าเรา focus ที่บริษัทนั้นจริง อาจต้องทำตัวเป็น insider ซะเอง ผมคิดว่าถ้าหาวิธีที่จะรู้จักคนตั้งแต่ sales manager ได้ ก็น่าจะพอรู้ว่าสภาพบริษัทตอนนั้นเป็นยังไง ขายดีมั้ย
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 26
อ๋อ แก้ได้ สบม. ก็ที่เรากำลังทำอยู่ไงครับ เราเป็นนักลงทุนแบบ vi/เราพยายามศึกษาแนวทางการเป็นนักลงทุน vi (ไม่งั้นเราจะเข้ามาเว็บนี้ทำไม)
-ลงทุนในหุ้นที่จะเติบโต และมีผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว(เก็งกำไรรายไตรมาส ก็มีสิทธิ์เข้าทางของinsider )
ปีเตอร์ ลินซ์ ยังบอกเลยว่าเขาบริหารกองทุน ซื้อ-ขายหุ้นจำนวนมาก และบ่อย แต่ที่ผ่านมาหุ้นที่สร้างผลตอบแทนให้อย่างดีเป็นหุ้นที่เขาถือไว้ 3-4 ปี ขึ้นไป
-ศึกษาและเลือกหุ้นที่ undervalue
ผมเป็นน้องใหม่กำลังพยายามศึกษาและฝึกฝนอยู่ครับ
ขอบคุณเว็บ thai vi และพี่ๆ เพื่อนๆ ในเว็บที่ให้ความรู้การลงทุนแนววีไอ ครับ
ผมได้รับความรู้ และประสบการณ์มากมายจากพี่ๆ เพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งมีค่ามากนอกจากการอ่านหนังสือหาความรู้เอง
-ลงทุนในหุ้นที่จะเติบโต และมีผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว(เก็งกำไรรายไตรมาส ก็มีสิทธิ์เข้าทางของinsider )
ปีเตอร์ ลินซ์ ยังบอกเลยว่าเขาบริหารกองทุน ซื้อ-ขายหุ้นจำนวนมาก และบ่อย แต่ที่ผ่านมาหุ้นที่สร้างผลตอบแทนให้อย่างดีเป็นหุ้นที่เขาถือไว้ 3-4 ปี ขึ้นไป
-ศึกษาและเลือกหุ้นที่ undervalue
ผมเป็นน้องใหม่กำลังพยายามศึกษาและฝึกฝนอยู่ครับ
ขอบคุณเว็บ thai vi และพี่ๆ เพื่อนๆ ในเว็บที่ให้ความรู้การลงทุนแนววีไอ ครับ
ผมได้รับความรู้ และประสบการณ์มากมายจากพี่ๆ เพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งมีค่ามากนอกจากการอ่านหนังสือหาความรู้เอง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 27
support เขียน:inside กำลังจะเก็บของจะออกข่าวร้าย
inside กำลังจะปล่อยของจะออกข่าวดี
อะไรเป็นแรงจูงใจให้ inside ต้องทำอย่างนั้น
ผมเคยดูหนังเรื่องวอลสตรีทภาคหนึ่ง
จำประโยคเด็ดที่มาร์เก็ตติ้งอาวุโส พูดกับไอ้หนุ่มบัด ฟอกซ์ได้ดีมาก
"ผมไม่รู้ว่าคุณได้ข่าวมาจากไหน แต่ผมไม่ชอบมัน
เรื่องสำคัญเกี่ยวกับเงินคือ มันทำให้คุณต้องทำในสิ่งที่คุณอาจจะไม่อยากทำ"
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 29
หลายบริษัทก็อยากให้ราคาหุ้นบริษัทตัวเองมีราคาเพิ่มขึ้น
ทำทุกรูปแบบ
วิสิตบ้าง ลง นสพ บ้าง
แต่ก้ไม่มีอะไรดีขึ้น
ความน่าจะเป็น ประวัติที่ผ่านมาไม่รู้ว่าไปทำอะไรไว้เรื่องธรรมาภิบาล
ทำทุกรูปแบบ
วิสิตบ้าง ลง นสพ บ้าง
แต่ก้ไม่มีอะไรดีขึ้น
ความน่าจะเป็น ประวัติที่ผ่านมาไม่รู้ว่าไปทำอะไรไว้เรื่องธรรมาภิบาล
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไงดี? เรารู้ข้อมูลแค่อดีตเมื่อสองเดือนก่อน ในขณะที่.
โพสต์ที่ 30
หมายถึงบริษัทการเงินตัวนั้นน่ะเหรอครับ
ก็ ผมก็ตามมาตั้งแต่แรกนะ
พยายามทำตัวให้ใกล้กับการเป้นInsiderมากๆ
ตอนนี้จะเดินตามรอยกอร์ดอนให้ได้ละ
ก็ ผมก็ตามมาตั้งแต่แรกนะ
พยายามทำตัวให้ใกล้กับการเป้นInsiderมากๆ
ตอนนี้จะเดินตามรอยกอร์ดอนให้ได้ละ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.