คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4471

โพสต์

VIB007 เขียน:
babyboom เขียน:ผมเข้าถามแต่ว่าหนังสือยังไม่มาเลยครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" รออ่านครับพี่วิบูลย์
viim เขียน:เสาร์ที่แล้วก็ถามครับ ยังไม่มาเลย เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก
ใจเย็นๆ
เพิ่งพิมพ์เสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง
ภายในหนึ่งถึงสองอาทิตย์น่าจะวางแผงได้
ลองไปดูสักอาทิตย์ละครั้งนะครับที่ซีเอ็ด
มาแล้วครับ ลองไปดูได้ที่ซีเอ็ด ครับผม
เล่มสีดำ
viim
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4472

โพสต์

สอยมาแล้วและอ่านนจบแล้วครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" ได้อะไรเพิ่มเติมเยอะเลย ได้ทราบเกี่ยวกับชาลี มังเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นจอหงวนและเพื่อนคู่คิดที่สุดยอดของบัพเฟต อ่านเพลินดีครับ ได้ทราบ GYP คืออะไร ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับสิ่งดีๆอีกแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นตัวไหนเลย แต่มีรายชื่อบริษัทที่อยู่ใน list ที่จะศึกษาเชิงคุณภาพประมาณ 10 กว่าตัว แต่เวลาเริ่มจริงๆ คงจะเริ่มจากเงินซัก1-2 แสน ชิงลางดูก่อน เพราะ ดร.นิเวศน์บอกว่า คู่มือนักลงทุน ต้องมี 3 อย่าง คือ 1. ข้อมูล 2. ความรู้ และ 3. ประสบการณ์ และอาจารย์แนะนำว่าให้เริ่มต้นทีละน้อยจากนั้นเราจะค่อยๆรู้เองจากการลงทุน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น ว่าเราควรจะลงทุนเท่าไหร่ จริงๆผมมีทุนที่ไม่มาก และมีทุนเพิ่มขึ้นสำหรับลงทุนเดือนละ 3 หมื่นบาท แต่คิดว่ากะจะเก็บไว้เป็นเงินสดก่อน แล้วนานๆเมื่อมีราคาที่หมาะสมค่อยเข้าซื้อ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4473

โพสต์

viim เขียน:สอยมาแล้วและอ่านนจบแล้วครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" ได้อะไรเพิ่มเติมเยอะเลย ได้ทราบเกี่ยวกับชาลี มังเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นจอหงวนและเพื่อนคู่คิดที่สุดยอดของบัพเฟต อ่านเพลินดีครับ ได้ทราบ GYP คืออะไร ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับสิ่งดีๆอีกแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นตัวไหนเลย แต่มีรายชื่อบริษัทที่อยู่ใน list ที่จะศึกษาเชิงคุณภาพประมาณ 10 กว่าตัว แต่เวลาเริ่มจริงๆ คงจะเริ่มจากเงินซัก1-2 แสน ชิงลางดูก่อน เพราะ ดร.นิเวศน์บอกว่า คู่มือนักลงทุน ต้องมี 3 อย่าง คือ 1. ข้อมูล 2. ความรู้ และ 3. ประสบการณ์ และอาจารย์แนะนำว่าให้เริ่มต้นทีละน้อยจากนั้นเราจะค่อยๆรู้เองจากการลงทุน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น ว่าเราควรจะลงทุนเท่าไหร่ จริงๆผมมีทุนที่ไม่มาก และมีทุนเพิ่มขึ้นสำหรับลงทุนเดือนละ 3 หมื่นบาท แต่คิดว่ากะจะเก็บไว้เป็นเงินสดก่อน แล้วนานๆเมื่อมีราคาที่หมาะสมค่อยเข้าซื้อ
เงินน้อยเงินมากไม่สำคัญ
สำคัญที่ความคิดที่ถูกต้อง
ค่อยๆครับ ไม่ต้องรีบ
เริ่มด้วยเงินไม่มาก เสียหายยังหาใหม่ได้
ถ้าเริ่มด้วยเงินมากๆ เสียหายแล้วมันหาใหม่ยาก
ลงทุนไปเรื่อยๆ เดือนละ 3 หมื่นสามปีแค่เงินเก็บก็ได้เป็นล้านแล้วหละ
ลงทุนแบบวีไอ มันได้น้อยช่วงแรกๆ ปีละ 10-20%
ต่อๆไปจะเป็นมหัศจรรย์เงินทบต้นได้

โชคดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4474

โพสต์

สวัสดีครับ พี่วิบูลย์ พอดีผมลองประมาณการณ์กำไรของ PTTEP ดูนะครับ เลยอยากให้พี่ช่วย comment หน่อยนะครับ

ปี ---------------------------------- 2011 ---------- 2012 ---------- 2013 --------- 2014 --------- 2015
กำลังการผลิตต่อวัน (BOED)
Gas ---------------------------- 191,100 ------- 191,400 ------- 205,260 ------ 228,900 ----- 227,520
Liquid -------------------------- 81,900 -------- 127,600 ------- 105,740 ------- 98,100 ------ 88,480

ราคาขาย Gas ปี 2006-2010 เป็นดังนี้ ($/MMBTU) 4.16 ---> 4.57 ---> 5.17 ---> 5.19 ---> 5.51 โดย 5.8 MMBTU ~ 1 BBL
ราคาขาย Liquid ปี 2006-2010 เป็นดังนี้ ($/BBL) 60.54 ---> 67.37 ---> 91.38 ---> 57.67 ---> 73.73

สมมติฐานว่า อัตราการผลิตอยู่ที่ 95%, ราคาขายปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีล่ะ 5% โดยกำหนดให้ปี 2011 มีราคาขาย Gas = 6 $/MMBTU ~ 34.8 $/BBL
และราคาขาย Liguid = 80 $/BBL จะได้ดังนี้

ปี ---------------------------------- 2011 ---------- 2012 ---------- 2013 --------- 2014 --------- 2015
รายได้ (ล้านเหรียญ) ------------- 4,565 ---------- 6,125 ---------- 5,948 -------- 6,330 -------- 6,303
OPEX (ล้านเหรียญ) -------------- 1,325 ---------- 1,041 ---------- 1,050 -------- 1,076 -------- 1,208
ค่าภาคหลวง (ล้านเหรียญ) -------- 548 ------------ 735 ------------ 714 ---------- 760 -----------756
DD&A (ล้านเหรียญ) -------------- 1,444 ---------- 1,759 ---------- 1,995 -------- 2,206 -------- 2,369
Operating Profit (ล้านเหรียญ) --- 1,249 ---------- 2,590 ---------- 2,190 -------- 2,289 -------- 1,970
สมมติว่าใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 30 บาทต่อ $
Operating Profit (ลบ.) ---------- 37,464 -------- 77,705 -------- 65,686 ------ 68,678 ------- 59,111
ดอกเบี้ยจ่าย (ลบ.) ---------------- 2,872 --------- 3,941 --------- 3,832 --------- 3,170 -------- 2,890
ภาษีเงินได้ (ลบ.) ----------------- 13,837 -------- 29,505 -------- 24,742 ------ 26,203 ------- 22,488
กำไรสุทธิ (ลบ.) ------------------ 20,755 -------- 44,258 -------- 37,112 ------- 39,305 ------- 33,732

โดย ค่าภาคหลวง คิดที่อัตราเก็บ 12% จากรายได้จากการขายปิโตรเลียม
และ DD&A ประมาณโดยใช้ DD&A + 1/10 ของยอด CAPEX ปีที่ผ่านมา
ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเนื่องจากสิ้นปี 2010 บริษัทมีหนี้ 77,800 ลบ. ดอกเบี้ยเฉลี่่ยที่ 3.69% ผมลองคำนวณดู FCF ในปี 2011 แล้วคิดว่าคงต้องกู้เงินเพิ่มอีกเกือบ 1,000 ล้านเหรียญ ถ้าลงทุนขนาดนี้จริงๆ แล้วคงลดลงในปีถัดๆไป ภาษีเงินได้ก็ใช้อัตราภาษีที่ 40% ครับ จากที่เทียบสัดส่วนที่จากในอดีตดู

ซึ่งตรงส่วนนี้ยังไม่รวม รายได้จากท่อส่งก๊าซ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน กำไรพิเศษจากค่าสินไหมทดแทนที่จะเข้ามาในปี 2011 และรายได้อื่นๆ อีกนะครับ

มั่วๆเอานะครับ ไม่ได้เรียนทางนี้โดยตรงเลยอยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4475

โพสต์

กำลังการผลิตต่อวัน (BOED)
Gas ---------------------------- 191,100 ------- 191,400 ------- 205,260 ------ 228,900 ----- 227,520
Liquid -------------------------- 81,900 -------- 127,600 ------- 105,740 ------- 98,100 ------ 88,480

ดูกำลังการผลิต Liquid ลดลงหลังจากปี 2012
อันนี้มาจากประมาณการของบริษัทหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็น่าเป็นห่วง
เพราะจะทำให้รายได้แบะกำไรในปีหลังๆลดลง
ไม่เพียงพอต่อการขยายตัวในอนาคตแน่นอน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4476

โพสต์

เป็นประมาณการณ์ของบริษัทครับ โดยยังไม่รวมส่วนที่ทำการสำรวจเพิ่มเติมอยู่ กับนโยบายทำ M&A ในอนาคตอีก

ผมกลัวว่าบริษัทจะเร่งขยายการลงทุนมากเกินไปเพื่อสนองนโยบายด้านพลังงานของประเทศ (ข่าวก็มีออกมาว่าอาจต้องเพิ่มทุน หรือออกหุ้นกู้เพิ่มด้วย) ผลตอนแทนอาจจะได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนะครับ
aonanfield
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4477

โพสต์

เข้ามาสวัสดีและ ขอบคุณ พี่วิบูลย์ครับ สำหรับหนังสือ เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก ซึ่งผมได้อุดหนุนเรียบร้อยแล้ว

ขอชื่นชมว่าเนื้อหาต่างๆในเล่ม มีประโยชน์มากๆ รวบรวมแนวคิดสำคัญๆของนักลงทุนระดับโลกแนว VI ไว้หลากหลายเลยครับ

โดยส่วนตัวผมศึกษาและลงทุนแนว VI มา 3 ปีนิดๆแล้วครับ แต่ยอมรับเลยครับว่า เพิ่งจะเริ่มเข้าใจแนวคิดการลงทุนแบบ VI เมื่อไม่นานนี้เอง และยังคงต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป

อยากถามความคิดเห็นพี่วิบูลย์ครับ ว่าทำไมคนที่สนใจการลงทุนแนวนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกที่จบ สายวิทย์ เช่นพวก หมอ-วิศวะ เป็นต้น ส่วนพวกที่จบทางสายศิลปะ หรือภาษาจะมีสัดส่วนน้อยกว่า

แล้วส่วนตัวพี่คิดว่าการเรียนสายวิทย์กับสายศิลป์ มีผลในการลงทุนแบบ VI มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4478

โพสต์

Saran เขียน:เป็นประมาณการณ์ของบริษัทครับ โดยยังไม่รวมส่วนที่ทำการสำรวจเพิ่มเติมอยู่ กับนโยบายทำ M&A ในอนาคตอีก

ผมกลัวว่าบริษัทจะเร่งขยายการลงทุนมากเกินไปเพื่อสนองนโยบายด้านพลังงานของประเทศ (ข่าวก็มีออกมาว่าอาจต้องเพิ่มทุน หรือออกหุ้นกู้เพิ่มด้วย) ผลตอนแทนอาจจะได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนะครับ
ถ้าบริษัทเร่งขยายงานมากเกินไป
อาจทำให้เกิดผลเสียได้
ถ้าการตัดสินใจไม่รอบคอบ

อย่าง Canada OilSand สำหรับผมไม่ค่อยเห็นด้วย
เพราะลงทุนไปมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
แต่รายได้และกำลังการผลิตต้องรอไปอีกเป็นสิบปีกว่าจะผลิตได้เต็มที่
ปีแรกๆทำรายได้ได้นิดเดียว
สู้ไปซื้อแหล่งที่ทำเงินตั้งแต่วันแรกเลยจะดีกว่า

ยิ่งถ้าราคาน้ำมันลดลง
OilSand จะขากทุนก่อน Conventioanl Oil แน่นอน
เพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า

ธุรกิจแบบ ปตท สผ ต้องระมัดระวังมากเรื่องขุดไปไม่เจอน้ำมันหรือแกส
เพราะค่าใช้จ่ายต่อหลุมสูงมาก
เท่าที่ทราบหลุมหลังๆไม่ค่อยเจอสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อิหร่าน อัลจีเรีย

เป็นความเสี่ยงของธูรกิจอย่างหนึ่ง
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4479

โพสต์

aonanfield เขียน:เข้ามาสวัสดีและ ขอบคุณ พี่วิบูลย์ครับ สำหรับหนังสือ เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก ซึ่งผมได้อุดหนุนเรียบร้อยแล้ว

ขอชื่นชมว่าเนื้อหาต่างๆในเล่ม มีประโยชน์มากๆ รวบรวมแนวคิดสำคัญๆของนักลงทุนระดับโลกแนว VI ไว้หลากหลายเลยครับ

โดยส่วนตัวผมศึกษาและลงทุนแนว VI มา 3 ปีนิดๆแล้วครับ แต่ยอมรับเลยครับว่า เพิ่งจะเริ่มเข้าใจแนวคิดการลงทุนแบบ VI เมื่อไม่นานนี้เอง และยังคงต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป

อยากถามความคิดเห็นพี่วิบูลย์ครับ ว่าทำไมคนที่สนใจการลงทุนแนวนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกที่จบ สายวิทย์ เช่นพวก หมอ-วิศวะ เป็นต้น ส่วนพวกที่จบทางสายศิลปะ หรือภาษาจะมีสัดส่วนน้อยกว่า

แล้วส่วนตัวพี่คิดว่าการเรียนสายวิทย์กับสายศิลป์ มีผลในการลงทุนแบบ VI มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณที่อุดหนุนครับ

โดยส่วนตัวผม
ผมไม่คิดว่าคนเรียนสายศิลป์จะเข้าใจวีไอน้อยกว่าคนสายวิทย์
เพียงแต่คนที่ลงทุนด้านนี้มาจากสายวิทย์เสียเยอะกว่าเท่านั้นเอง

นอกเหนือจากการคำนวณแล้ว
จิตวิยาการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับวีไอ
สายวิทย์สายศิลป์ไม่น่าต่างกัน
เพราะต่างมีความโลกและความกลัวเหมือนกัน

นักลงทุนระดับโลกอย่างปีเตอร์ ลินซ์จบสายศิลป์ด้านปรัชญาและบริหาร
หรือบิล มิลเลอร์จบป.ตรี ปรัชญา
จริงๆแล้วอาจารย์เบนจามิน เกรแฮมจบด้านปรัชญาเช่นเดียวกันนะครับ
ไม่ได้จบวิศวหรือหมอสักคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4480

โพสต์

กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4481

โพสต์

hongvalue เขียน:กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
ไปซื้อดิ มีขายทุกร้านหละตอนนี้
จะรอของฟรีคงไม่มีให้นะ เพราะได้มาน้อยแจกหมดแล้วด้วย ฮา
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4482

โพสต์

VIB007 เขียน:
hongvalue เขียน:กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
ไปซื้อดิ มีขายทุกร้านหละตอนนี้
จะรอของฟรีคงไม่มีให้นะ เพราะได้มาน้อยแจกหมดแล้วด้วย ฮา

แหม นึกว่ามากรี๊ดแล้วจะได้ของฟรี
อิอิ ล้อเล่น ไปซื้ออยู่แล้วหนังสือดีๆแบบนี้
ต้องสนับสนุน 1 เล่มครับ
aonanfield
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4483

โพสต์

ขอบคุณความเห็น พี่วิบูลย์เกี่ยวกับเรื่องสายวิทย์ สายศิลป์มากๆเลยครับ

ตอนนี้กำลังอยากเริ่มอ่านกระทู้นี้ของพี่วิบูลย์ซ้ำอีกรอบ หลังจากอ่านจบมาแล้ว 1 รอบ เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน

คิดว่าอ่านรอบนี้คงได้อะไรเพิ่มเยอะขึ้นกว่าตอนอ่านรอบแรกครับ หลังจากได้ผ่านประสบการณ์โดยตรงจากตลาดหุ้นมาบ้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4484

โพสต์

พี่ครับ ซึนามิที่ญี่ปุ่น พี่ว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจโลกมากเจค่ไหนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
extraordinary
Verified User
โพสต์: 122
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4485

โพสต์

สวัสดีครับพี่วิบูลย์
ผมอ่านกระทู้พี่เป็นกระทู้แรกของที่นี่เลย
ได้หลักคิดเรื่องการลงทุนมากๆเลยครับ

พอดีอ่านหนังสสือเล่มใหม่ของพี่ แล้วมีจุดนึงที่ผมสงสัย
เรื่องGYP ratioอ่ะครับ

ค่าGYP ถ้าเปนของหุ้นเฉพาะตัวผมก็พอคิดแบบคร่าวๆได้อ่ะครับ
แต่เหนในหนังสือบอกว่า เนฟฟ์ให้ความสำคัญกับGYPของพอร์ทเทียบกับตลาดมากกว่า
หากตลาดขึ้นสูงมากจนราคาหุ้นสูงเกินไปให้เปลี่ยนมาถือเงินสดไว้ราว 20%
เพื่อเตรียมตัวสำหรับโอกาสครั้งหน้า

GYP ของพอร์ท เราเอาของหุ้นแต่ละตัวมาถ่วงน้ำหนักแล้วเฉลี่ยออกมาใช่ไหมครับ
แล้วถ้าเป็นของเซตเราคิด earning growthมันยังไงอ่ะครับ
เอาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเซตแบบหยาบๆที่10% มาแทนได้ไหม

อีกข้อคือจุดที่เนฟฟ์ให้เปลี่ยนมาถือเงินสด20%นี้GYP ของพอร์ทกับเซตต้องอยุ๋ถึงระดับไหนครับเราถึงลดพอร์ท
จุดนี้ผมรุ้สึกว่าค่อนข้างมีปัญหาสำหรับผม เลยอยากถามพี่วิบูลย์ดู
เพราะว่าเวลาที่ตลาดกระทิง มีแนวโน้มที่ผมจะถือหุ้นไปเรื่อยๆเพราะเอนจอยราคาหุ้นโดยไม่สนพื้นฐาน
ที่ผ่านมาก็อาศัยว่าปรับเป็นตัวๆไป ขายตัวนุ้นไปซื้อตัวนี้ ถ้าตลาดพานิกจริงๆผมก็คงไม่รอดอยุ่ดี

ผมว่าจังหวะการถือเงินสดนี่ก็สำคัญมากๆเพราะมันช่วยให้ปลอดภัยเวลาตลาดลงหนัก
(ซึ่งผมเองยังไม่เคยผ่านมันเลย)
เลยอยากรุ้ว่าจุดที่ผู้รุ้ที่มีประสบการณ์บอกว่าตลาดโดยรวมเริ่มแพงแล้วนี่ดูยังไง

อย่างตอนต้นปีผมฟังดร.นิเวศน์ ท่านก็บอกว่าถ้าปีนี้setขึ้นไป30% ท่านจะเริ่มลดพอร์ทแล้ว
ผมก็สงสัยอยุ่ว่าทำไมต้องเป็นที่30% เป็น20% ก็ลดเลยไม่ได้เหรอ หรือ รอซัก50%ก่อน
ดร.ท่านก็คงมีวิธีการที่จะดูตลาดเหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4486

โพสต์

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆครับ พี่วิบูลย์

ตอนนี้กำลังอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" อยู่ครับ

กะซื้ออีก 2 เล่ม แจกให้เพื่อนอ่านด้วย หนังสือดีๆต้องสนับสนุน
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4487

โพสต์

Saran เขียน:ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆครับ พี่วิบูลย์

ตอนนี้กำลังอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" อยู่ครับ

กะซื้ออีก 2 เล่ม แจกให้เพื่อนอ่านด้วย หนังสือดีๆต้องสนับสนุน
ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4488

โพสต์

Juninho เขียน:พี่ครับ ซึนามิที่ญี่ปุ่น พี่ว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจโลกมากเจค่ไหนครับ
ขอโทษที่มาตอบช้า
ระยะสั้นคงมีผลกระทบมาก
เพราะโรงงานหลายโรงหยุด
ญี่ปุ่นเป็นซัพพลายเออร์ในส่วนอุปกรณ์ไฮเทคอยู่เยอะเหมือนกัน
ผู้บริโภคญี่ปุ่นคงช็อคกับเหตุการณ์นี้
ตนไม่ค่อยมีกระจิตกระใจอยากช๊อป
อาจทำให้เศรษฐกิจโลกสะดุดนิดหน่อย
โดยเฉพาะในแวดวงที่ต้องอาศัยสินค้าจากญี่ปุ่น
และส่งออกสินค้ามาที่ญี่ปุ่น
รวมถึงการหวาดกลัวกัมมันตภาพรังสีในสินค้าญี่ปุ่นด้วย

แต่ในระยะกลางและยาวแล้ว
น่าเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเองและโลก
และรัฐบาลและคนของญี่ปุ่นต้องนำเงินออกมาก่อสร้างซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
ทั้งบ้านเรือน โรงงาน ถนน สถานที่ราชการต่างๆ
ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อีกครั้ง
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4489

โพสต์

extraordinary เขียน:สวัสดีครับพี่วิบูลย์
ผมอ่านกระทู้พี่เป็นกระทู้แรกของที่นี่เลย
ได้หลักคิดเรื่องการลงทุนมากๆเลยครับ

พอดีอ่านหนังสสือเล่มใหม่ของพี่ แล้วมีจุดนึงที่ผมสงสัย
เรื่องGYP ratioอ่ะครับ

ค่าGYP ถ้าเปนของหุ้นเฉพาะตัวผมก็พอคิดแบบคร่าวๆได้อ่ะครับ
แต่เหนในหนังสือบอกว่า เนฟฟ์ให้ความสำคัญกับGYPของพอร์ทเทียบกับตลาดมากกว่า
หากตลาดขึ้นสูงมากจนราคาหุ้นสูงเกินไปให้เปลี่ยนมาถือเงินสดไว้ราว 20%
เพื่อเตรียมตัวสำหรับโอกาสครั้งหน้า

GYP ของพอร์ท เราเอาของหุ้นแต่ละตัวมาถ่วงน้ำหนักแล้วเฉลี่ยออกมาใช่ไหมครับ
แล้วถ้าเป็นของเซตเราคิด earning growthมันยังไงอ่ะครับ
เอาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเซตแบบหยาบๆที่10% มาแทนได้ไหม

อีกข้อคือจุดที่เนฟฟ์ให้เปลี่ยนมาถือเงินสด20%นี้GYP ของพอร์ทกับเซตต้องอยุ๋ถึงระดับไหนครับเราถึงลดพอร์ท

เรื่อง GYP นี่ผมก็ไม่เคยใช้หรอกครับ
เป็นแนวทางของ John Neff
ซึ่งถ้าจะใช้ก็ใช้ได้ซึ่งเป็นการปรับสัดส่วนลงทุนของพอร์ตแบบออโต
GYP สัมพันธ์กับ SET อย่างไรผมไม่ได้ศึกษาครับ
ลองทำดู
ได้อย่างไรบอกกันด้วย

extraordinary เขียน: จุดนี้ผมรุ้สึกว่าค่อนข้างมีปัญหาสำหรับผม เลยอยากถามพี่วิบูลย์ดู
เพราะว่าเวลาที่ตลาดกระทิง มีแนวโน้มที่ผมจะถือหุ้นไปเรื่อยๆเพราะเอนจอยราคาหุ้นโดยไม่สนพื้นฐาน
ที่ผ่านมาก็อาศัยว่าปรับเป็นตัวๆไป ขายตัวนุ้นไปซื้อตัวนี้ ถ้าตลาดพานิกจริงๆผมก็คงไม่รอดอยุ่ดี

ผมว่าจังหวะการถือเงินสดนี่ก็สำคัญมากๆเพราะมันช่วยให้ปลอดภัยเวลาตลาดลงหนัก
(ซึ่งผมเองยังไม่เคยผ่านมันเลย)
เลยอยากรุ้ว่าจุดที่ผู้รุ้ที่มีประสบการณ์บอกว่าตลาดโดยรวมเริ่มแพงแล้วนี่ดูยังไง

ถ้าเป็นวีไอ
ดูที่ตัวธุรกิจมากกว่าตลาด
เราไม่รู้หรอกว่าตลาดจะไปทางไหน
เมื่อไหร่ต่ำสุด
เมื่อไหร่สูงสุด
ดังนั้นให้ดูธุรกิจที่เราถืออยู่
ถ้าราคาไม่สูงเกินพื้นฐานก็ถือต่อได้
ตลาดตก เดี๋ยวก็กลับมาเอง (แต่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่)

ส่วนการถือเงินสดนั้น
บางคนบอกว่าเป็นการเสียโอกาส
แต่ผมมองว่าถ้าเรามีเงินสด เราก็มีโอกาส
ดังนั้นเรามีเงินสดก็เมื่อเราหาหุ้นที่ลงทุนในราคาที่ดีไม่ได้
ก็ถือเงินสดไป ไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ
ไม่มีกฏที่บอกว่าห้ามถือเงินสดนะ
แต่ถือมากถือน้อย ไม่ถือเลยก็ได้
ถามว่าเมื่อไหร่นั้น
ถ้าเราไม่ได้เก็งดัชนี ไม่สนตลาด มันก็ตอบไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่ควรขายล้างพอร์ต
หรือขายหุ้นเมื่อดัชนีไปเท่าไหร่
ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า

ขอย้ำอีกทีว่า
ไม่มีใครรู้ว่า
เมื่อไหร่ดัชนีจะต่ำสุด
เมื่อไหร่ดัชนีจะสูงสุด
อย่าเดาตลาด
ให้ดูที่มูลค่าธุรกิจเทียบกับราคา

extraordinary เขียน: อย่างตอนต้นปีผมฟังดร.นิเวศน์ ท่านก็บอกว่าถ้าปีนี้setขึ้นไป30% ท่านจะเริ่มลดพอร์ทแล้ว
ผมก็สงสัยอยุ่ว่าทำไมต้องเป็นที่30% เป็น20% ก็ลดเลยไม่ได้เหรอ หรือ รอซัก50%ก่อน
ดร.ท่านก็คงมีวิธีการที่จะดูตลาดเหมือนกัน
ผมเดาว่าท่านคงไม่ได้ดูดัชนี
แต่ดูที่ราคาหุ้นที่ท่านถืออยู่ราคาเท่าไหร่
สูงกว่ามูลค่าหรือยัง
เพราะเราเดาดัชนีไม่ได้ถูกต้องตลอดไป

แต่บางครั้งเราขายหุ้นออกไป
แต่ราคาหุ้นยังเพิ่มขึ้นได้นะ
และเป็นบ่อยเสียด้วย

อย่างบัฟเฟตขายหุ้นปิโตรไชนาไป
ราคาหุ้นปิโตรไชน่ายังขึ้นต่อได้อีก..เป็นต้น
ลองหาหนังสือเคล็ดลับเซียหุ้นมาอ่านดู
มีเรื่องนี้ด้วย.......เชียร์หนังสือตัวเอง
chatchaithai
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4490

โพสต์

สวัสดีพี่วิบูลย์ครับ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ประมาณ 30 หน้าแล้วครับกำลังพยายามอ่านอยู่ได้ความรู้มาก มีเรื่องอยากเรียนถามพี่วิบูลย์เรื่องเงินเฟ้อครับว่าทำไมถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธปท.จึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระงับเงินเฟ้ออยากรบกวนพี่วิบูลย์ช่วยอธิบายเหตุผลที่มาที่ไปด้วยครับ ขอบคุณครับ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4491

โพสต์

chatchaithai เขียน:สวัสดีพี่วิบูลย์ครับ ผมอ่านกระทู้พี่ได้ประมาณ 30 หน้าแล้วครับกำลังพยายามอ่านอยู่ได้ความรู้มาก มีเรื่องอยากเรียนถามพี่วิบูลย์เรื่องเงินเฟ้อครับว่าทำไมถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ธปท.จึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อระงับเงินเฟ้ออยากรบกวนพี่วิบูลย์ช่วยอธิบายเหตุผลที่มาที่ไปด้วยครับ ขอบคุณครับ

อันนี้เป็นทฤษฏีเศรษฐศาตร์ครับ
เรื่องกระแสของเงิน (Monetary Velocity)
โดยมิลตัน เฟรดแมนแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก
ผู้ได้รับรางวัลโนเบิลสาขาเศรษฐศาตร์

สมัยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอเมริกา 1929
นักเศรษฐศาตร์สำนักเคนส์นำโดย
John Maynard Keynes
เสนอให้รัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเรียกว่าเป็นการใช้ Fiscal Policy
ซึ่งรัฐบาลในสมัยนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้
แต่พอเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
รัฐบาลนำเงินงบประมาณมาใช้ในการสงคราม
ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาหลุดพ้นจากภาวะถอถอยได้

รัฐบาลในสมัยต่อมาทั่วโลกจึงใช้หลักการของเคนส์
ต่อสู้กับความตกต่ำของเศรษฐกิจตลอดมา

แต่เมื่อปี 1970
โอเปคตัดการส่งน้ำมันให้อเมริกา
ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมาก
เกิดภาวะ Stagflation
นั่นคือราคาสินค้าสูงขึ้น เงินเฟ้อมากขึ้น
แต่เศรษฐกิจโดยรวมตกต่ำ

การแก้ปัญหาด้วย Fiscal Policy ก็ไม่ดีขึ้น
ยิ่งรัฐบาลเพิ่มเงินงบประมาณ
กลับทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
และเศรษฐกิจก็ไม่ได้กระเตื้องขึ้น

คราวนี้ถึงทีของพระเอกขี่ม้าขาว
นั่นคือมิลตัน เฟรดแมนออกมาเสนอทฤษฏี Monatary Policy
นั่นคือการควบคุมปริมาณเงินในระบบ
เพราะเป็นสาเหตุของเงินเฟ้อ

เฟรดแมนบอกว่า
ถ้ามีเงินในระบบมากเกินไปจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น
วิธีที่จะทำให้ปริมาณเงินในระบบลดลงคือ
การขึ้นดอกเบี้ย
และการออกพันธบัตรของเฟดเพื่อดึงเงินกลับออกจากระบบ

ประธานเฟดในขณะนั้นคือ Paul A. Volcker
นำนโยบายของเฟรดแมนมาใช้ในการควบคุมกระแสเงินในระบบ
โดยการขึ้นดอกเบี้ยและออกพันธบัตร
ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาหลุดออกจากภาวะ Stagflation ได้

หลังจากนั้นหน้าที่ของ Fed ก็คือการใช้ Inflation Target
เป็นเป้าหมายในการดำเนินงานตลอดมา

ถามว่าเกิดเงินเฟ้อทำไมต้องขึ้นดอกเบี้ย
ก็เพราะทำให้การหมุนเวียนของเงินในระบบลดลงนั่นเอง

พอเข้าใจไหมครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4492

โพสต์

มีเรื่องรบกวนถามพี่วิบูลย์ครับ
คำถามคงดูง่ายมากสำหรับพี่เลยทีเดียว
ผมงงเรื่อง spread กับ product to feed margin น่ะครับ
เช่น atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน
ที่ผมงงๆคือผมเฉลี่ยกันออกมามันดันได้ p2f
เหลือแค่ 100 เศษๆ งงอะครับ
ปกติถ้า spread 450 กับ 400 ตัวเลขน่าจะออกมาซัก 425
ไม่ใช่เหรอครับทำไมมันลดไปเหลือแค่ 100 กว่าๆอะครับ

แบบนี้เวลาเราประมาณการกำไรเราต้องใช้ p2f แทน spread ถูกไหมครับ

ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4493

โพสต์

ลืมถามไปอีกข้อครับพี่วิบูลย์

ผมไปดู spread px สมัยก่อนช่วงปี 2000-2002 มันอยู่แถวๆ 200เศษแล้วเป็นขาขึ้นในปี 2003-2004 ตอนนั้น demand ไม่ได้มากกว่า supply เลยสิ่งที่เกิดขึ้น capacity surplus มันลดลงและกำลังการผลิตขึ้นไปถึงเกือบระดับ 90% แบบนี้แสดงว่าจริงๆกำลังการผลิตเนี้ยใช้เต็มไม่ได้ก็คือ
สมมุติ capacity 100
production อาจจะสูงสุดแค่ 90 เพราะว่าเครื่องจักรหลายเครื่องที่เก่าไม่สามารถเดินได้เต็มที่ 100% ดังนั้นถ้า capacity เกือบๆ 90% spread ก็วิ่งได้แล้วผมเข้าใจถูกไหมครับพี่ิวิบูลย์

ข้อ 2 นะครับพี่วิบูลย์
ถ้าโรงงาน pta เกิดจะทำให้ px ราคาสูงขึ้นถูกไหมครับ
ถ้าใช่ล่ะก็ประเด็นก็คือเวลาหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นจะขึ้นจากปลายน้ำก่อนหรือเปล่าครับ
เช่น ptl ขึ้นเพราะ spread bopet ราคาดีซึ่งถ้า bopet ขายดีก็จะมีความต้องการ pta สำหรับทำเม็ด pet resin มากขึ้นทำให้ px ขึ้น
แต่ถ้าปลายน้ำไม่ดีเช่น bopet ลดลงก็ทำให้ความต้องการ pta ลดลงส่งผลไปถึงดีมานของ px แล้วก็กระทบมาที่ต้นน้ำอย่าง pttar อีกที

ขอบคุณพี่วิบูลย์มากๆครับสำหรับคำชี้แนะ ผมไม่ได้เก่งหุ้นกลุ่มนี้เลยถ้าผมพิมพ์ผิดตรงไหนรบกวนพี่จัดหนักสอนมวยผมแรงๆได้เลยนะครับ ผมถามเพราะต้องการความรู้ไปต่อยอดจริงๆ ไม่มี ego หรืออัตราเหมือนสมัยก่อนแล้วครับพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4494

โพสต์

คำถามสุดท้ายแล้วครับพี่
ในทางกลับกันถ้าต้นน้ำดีก่อนเช่น
ราคา px เพิ่มเพราะ supply ไม่ค่อยมี
ทำให้ต้นน้ำในส่วน aromatic ของ pttar ขายดี
แต่ทำให้พวกปลายน้ำที่ใช้ px เป็นวัตถุดิบอ้อมๆเช่น pta
ลงไปจะกำไรแย่ถูกไหมครับ

สรุปอีกทีก็คือว่า ถ้าต้นน้ำเริ่มดีก่อนพวกปลายน้ำอาจจะแย่
เพราะต้นทุนโดนบีบ แต่ถ้าปลายน้ำดีก่อนพวกต้นน้ำก็จะดีตาม

ชี้แนะด้วยครับพี่ ตีสองกว่าแล้วผมไปนอนก่อนล่ะ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4495

โพสต์

hongvalue เขียน:คำถามสุดท้ายแล้วครับพี่
ในทางกลับกันถ้าต้นน้ำดีก่อนเช่น
ราคา px เพิ่มเพราะ supply ไม่ค่อยมี
ทำให้ต้นน้ำในส่วน aromatic ของ pttar ขายดี
แต่ทำให้พวกปลายน้ำที่ใช้ px เป็นวัตถุดิบอ้อมๆเช่น pta
ลงไปจะกำไรแย่ถูกไหมครับ

สรุปอีกทีก็คือว่า ถ้าต้นน้ำเริ่มดีก่อนพวกปลายน้ำอาจจะแย่
เพราะต้นทุนโดนบีบ แต่ถ้าปลายน้ำดีก่อนพวกต้นน้ำก็จะดีตาม

ชี้แนะด้วยครับพี่ ตีสองกว่าแล้วผมไปนอนก่อนล่ะ


ตอบข้อนี้ก่อน

ใช่แล้ว
ถ้าราคาต้นน้ำสูงๆ พวกตายน้ำก็ตายเพราะต้นทุนสูง
จริงๆมีพวกกลางน้ำด้วยนะ
อย่าง BOPET
ต้นน้ำก็คือ PTTAR ผลิตพาราไซลีน
กลางน้ำคือ IVL เอาพาราไซลีนมาผสมเป็น PET
ปลายน้ำพวกแรกคือ PTL เอา PET มาทำเป็นฟิล์ม
ปลายน้ำสุดท้ายคือ พวกเอาฟิล์มไปทำถุงห่อขนมพิมพ์ลาย

ถ้าปลายน้ำดีก็ทำให้ต้นน้ำดีไปด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ของอย่างนี้ก็ต้องใช้เวลานะ
มันไม่ได้เกิดขึ้นปุ๊บปั๊บ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4496

โพสต์

hongvalue เขียน:ลืมถามไปอีกข้อครับพี่วิบูลย์

ผมไปดู spread px สมัยก่อนช่วงปี 2000-2002 มันอยู่แถวๆ 200เศษแล้วเป็นขาขึ้นในปี 2003-2004 ตอนนั้น demand ไม่ได้มากกว่า supply เลยสิ่งที่เกิดขึ้น capacity surplus มันลดลงและกำลังการผลิตขึ้นไปถึงเกือบระดับ 90% แบบนี้แสดงว่าจริงๆกำลังการผลิตเนี้ยใช้เต็มไม่ได้ก็คือ
สมมุติ capacity 100
production อาจจะสูงสุดแค่ 90 เพราะว่าเครื่องจักรหลายเครื่องที่เก่าไม่สามารถเดินได้เต็มที่ 100% ดังนั้นถ้า capacity เกือบๆ 90% spread ก็วิ่งได้แล้วผมเข้าใจถูกไหมครับพี่ิวิบูลย์
90% ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
บางโรงก็สามารถผลิตได้เกิน 100% นะ
แต่บางช่วงเท่านั้น
เพราะถ้าใช้กำลังการผลิตทั้งปีคงต่ำกว่านั้น
เพราะต้องมีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี


hongvalue เขียน:ข้อ 2 นะครับพี่วิบูลย์
ถ้าโรงงาน pta เกิดจะทำให้ px ราคาสูงขึ้นถูกไหมครับ
ถ้าใช่ล่ะก็ประเด็นก็คือเวลาหุ้นกลุ่มนี้ขึ้นจะขึ้นจากปลายน้ำก่อนหรือเปล่าครับ
เช่น ptl ขึ้นเพราะ spread bopet ราคาดีซึ่งถ้า bopet ขายดีก็จะมีความต้องการ pta สำหรับทำเม็ด pet resin มากขึ้นทำให้ px ขึ้น
แต่ถ้าปลายน้ำไม่ดีเช่น bopet ลดลงก็ทำให้ความต้องการ pta ลดลงส่งผลไปถึงดีมานของ px แล้วก็กระทบมาที่ต้นน้ำอย่าง pttar อีกที
แม่นแล้ว
แต่ก็มีระยะเวลาในผลกระทบนะ
มันจะค่อยๆเป็นไป
ไม่ทันที

hongvalue เขียน:ขอบคุณพี่วิบูลย์มากๆครับสำหรับคำชี้แนะ ผมไม่ได้เก่งหุ้นกลุ่มนี้เลยถ้าผมพิมพ์ผิดตรงไหนรบกวนพี่จัดหนักสอนมวยผมแรงๆได้เลยนะครับ ผมถามเพราะต้องการความรู้ไปต่อยอดจริงๆ ไม่มี ego หรืออัตราเหมือนสมัยก่อนแล้วครับพี่
ใครจะไปกล้าสอน"เซียนฮง"..อิ อิ
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4497

โพสต์

hongvalue เขียน:มีเรื่องรบกวนถามพี่วิบูลย์ครับ
คำถามคงดูง่ายมากสำหรับพี่เลยทีเดียว
ผมงงเรื่อง spread กับ product to feed margin น่ะครับ
เช่น atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน
ที่ผมงงๆคือผมเฉลี่ยกันออกมามันดันได้ p2f
เหลือแค่ 100 เศษๆ งงอะครับ
ปกติถ้า spread 450 กับ 400 ตัวเลขน่าจะออกมาซัก 425
ไม่ใช่เหรอครับทำไมมันลดไปเหลือแค่ 100 กว่าๆอะครับ

แบบนี้เวลาเราประมาณการกำไรเราต้องใช้ p2f แทน spread ถูกไหมครับ

ช่วยชี้แนะด้วยครับ


อ่านไม่เข้าใจนะ
ช่วยเขียนอธิบายการคำนวณทั้งหมดหน่อย
ตามไม่ทันว่า 100 มาจากไหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4498

โพสต์

[quote="VIB007"]
อ่านไม่เข้าใจนะ
ช่วยเขียนอธิบายการคำนวณทั้งหมดหน่อย
ตามไม่ทันว่า 100 มาจากไหน[/quote]

ยกตัวอย่างนะครับ
จากโจทย์เดิมคือ
สมมุติว่า atc สมัยก่อนมี spread px 450 benzene 400
สมมุติว่า px ราคา 1050 benzene ราคา 1000
condensate ราคา 600
ตามหลักคือเขาให้ดูว่าเราผลิตเท่าไหร่เช่นถ้า
3 แสนตันเป็น px 2 แสน benzene 1 แสน
ใช้คอนเดนเสท 3 แสนก็เอามาเฉลี่ยกัน

p2f = (sale/ton product)-(feed cost/ton feed)
(px*pxprice)+(benzene*benzeneprice)-(condensate*consensate price)
=(0.2*1050+0.1*1000)-(.3*600)
=(210+100)-(180)
= 130 เหรียญต่อตัีน

อันนี้คือคำนวนออกมาได้ที่ 130 แต่จริงๆแล้วพอเราดูที่แต่ spread แต่ละตัวค่ามันคือ 450 กับ 400 แต่ทำไมพอมาเฉลี่ยต้นทุนกันแล้ว p2f มันเหลือแค่ 130 ล่ะครับพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4499

โพสต์

มีคำถามอยากถามเพิ่มครับ
อย่าง pet เนี้ยเขาแยกได้เป็น 3 แบบอีกคือ
1.pet bottle ที่ irp ทำ
2.pet film ที่ ptl ทำ
3.pet fibre&yarn(เส้นใยสังเคราะห์) ที่ tr ทำ

แบบนี้ก็คือว่าทั้งสามชนิดนี้ยังไงก็ใช้ต้นทุนมาจาก pet resin เหมือนกันหมด
ผมเข้าใจถูกไหมครับ ? อันนี้คำถามแรก

คำถามที่สองนะครับ
สมมุติว่าผมสนใจหุ้นที่ทำ pet film แล้วความต้องการ pet film ไม่ได้ขึ้นหรอกแต่ว่าความต้องการ pet fibre ขึ้นแบบนี้จะส่งผลให้ pet film ดีหรือแย่ลงครับ

-ในส่วนที่แย่ก็คือว่าพอมีความต้องการมากขึ้นก็ผลิตมากขึ้น pet fibre จึงซื้อ pet resin มากขึ้นซึ่งกระทบไปถึงต้นทุนของ pet film ไปด้วย


-ส่วนกรณีที่อาจจะดีคือ มันสามารถทำให้ pet โดยรวมมี demand มากขึ้นได้หรือเปล่าครับไม่ว่าจะเป็น pet bottle หรือ pet film ก็เถอะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
hongvalue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2703
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์ที่ 4500

โพสต์

คำถามสุดท้ายแล้วครับ


bopet ที่ราคาขึ้นเพราะมันมีเป็นแบบ thick film ที่บางเป็นพิเศษที่สามารถนำไปทำ solar cell และ lcd ได้
ในขณะที่ฟิลม์แบบ bopp กับ bopa ไม่มีชนิด thick ซึ่งจะบางพอที่จะทำ solar cell และ lcd ได้จึงเป็นสาเหตุให้ spread bopet enjoy ได้มากกว่าถูกต้องใช่ไหมครับ

คำถามต่อมานะครับ
ในกรณีของ bopet นั้นมีต้นทุนสองอย่างคือ pta กับ meg
ที่คุยกันไปก่อนหน้านี้คือ bopet ราคาดีความต้องการ pta สูงขึ้น
pttar enjoy มากขึ้น
ที่นี้ pttch ก็ต้อง enjoy มากขึ้นเช่นกันถูกไหมครับในส่วนของ meg
เพราะว่าเป็นต้นทุนของส่วนนึงด้วย

ถ้าใช่ที่นี้มีอีกประเด็นคือว่า ถ้าฟิลม์ bopp ราคาดีต้นน้ำที่สูงขึ้นไปคือ
polypropylene ก็ควรจะดีขึ้นตามถูกไหมครับ ถ้าถูกหุ้นต้นน้ำตัวไหนจะได้ประโยชน์จากกรณีที่ bopp ราคาสูงขึ้นครับ ที่ถามเพราะว่า bopp spread สูงขึ้นแต่ bopet ลงครับข้อมูลนี้ได้มาจาก aj ผมเลยสนใจจะไล่ว่ากรณีนี้ต้นน้ำของใครจะได้ประโยชน์

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ