เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
-
- Verified User
- โพสต์: 172
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 33
สามัญชน เขียน:กลับมาเรื่องจิตวิทยาวิวัฒนาการ
นิยามตามที่ดร.สรุปก็คือ
นักจิตวิทยามาตรฐานนั้นเปรียบง่ายๆเหมือนสมองของคนในวันที่เกิดนั้นว่างเปล่า เป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ที่มีแต่ "เครื่อง" แต่ยังไม่ได้ลง "โปรแกรม" เลย ดังนั้น ถ้าเราต้องการให้เขาเป็นอย่างไร เราก็สอน หรือลง "โปรแกรม" ให้เขาเป็นอย่างนั้นได้
ส่วนนักจิตวิทยาวิวัฒนาการนั้นเชื่อว่า ในสมองของเรานั้น มี "โปรแกรมพื้นฐาน" หรือระบบแนวคิด และพฤติกรรมที่ถูก "ถ่ายเท" และ "ปรับแต่ง" หรือวิวัฒนาการ มาจากบรรพบุรุษมานานเป็นแสนเป็นล้านปีแล้ว
ที่ผมเห็นว่าถูกก็เพราะในกระบวนการวิวัฒนาการนั้นจะต้องมีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านทางยีนเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านทางยีนแล้วจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น
อันนี้คือถูกต้องตามกฎธรรมชาติ. ทั้งแนวคิดและพฤติกรรมถูกถ่าเทลงมาในยีนและส่งมาสู่สมองตั้งแต่ต้น อันที่จริงทฤษฎีนี้ก็เป็นการ copy แนวคิดของชาร์ลมานั่นเอง
ทีนี้ทำไมผมถึงคิดว่าถูกตามกฎธรรมชาติแต่ไม่ถูกในสังคมมนุษย์
เพราะทฤษฎีของชาร์ลนั้นถือว่าธรรมชาติเป็นใหญ่และเป็นผู้ตัดสินแบบไม่มีความลำเอียงรวมทั้งไม่มีความเมตตาปรานีใดๆในการคัดเลือกหรือไม่เลือก
เขาถึงตั้งชื่อว่า natural selection
ยีราฟคอสั้นกินอาหารไม่ได้ ธรรมชาติพิพากษาให้ตาย มีลูกมากน้อยแค่ไหนธรรมชาติก็กำหนดให้ตายเหมือนเดิม ทุกวันนี้จึงมีแต่ยีราฟคอยาว
แต่ในสังคมมนุษย์เรื่องจิตวิทยาวิวัฒนาการนี้เป็น human selection
สังคมไม่ปล่อยให้มนุษย์อดตายและตัดโอกาสในการสืบทอดเผ่าพันธ์ด้วยเหตุผลว่ายากจนหรือโง่
ถ้าสมัยสองสามพันปีก่อนก็มีโรงทานเลี้ยงอาหารคนยากคนจน
ต่อมาก็มีศาสนาสอนให้เมตตาต่อกัน
ต่อมาก็มีการค้นพบการผลิตอาหารจำนวนมากที่เรียกว่าการปฏิวัติทางการเกษตร
ต่อมาก็มีลัทธิทางการเมือง
ปัจจุบันหลายๆประเทศต่างก็มุ่งไปสู่รัฐสวัสดิการ
เมื่อสาเหตุที่จะทำให้ตายและไม่ได้สืบพันธ์ถูกมนุษย์เข้ามาจัดการแบบนี้
กฎนี้จึงไม่เกิดผลในสังคมมนุษย์
เมื่อยีราฟคอสั้นถูกอุ้มชูดูแล ยีราฟคอสั้นก็จะไม่สูญพันธ์
ดังนั้นเราจึงจะยังเห็นผู้ที่มียีนของโรคธาลัสซีเมียอยู่ในสังคม
ยังเห็นผู้ป่วยฮีโมฟีเลียต่อไป
ยังเห็นคนขยันทำมาหากินและคนขี้เกียจ
ยังเห็นคนฉลาดและคนโง่
ยังเห็นคนดีและคนชั่ว
ยังเห็นวีไอและนักเก็งกำไรอยู่คู่กันต่อไป
และด้วยพฤติกรรมหลายๆอย่างของสังคม
สัดส่วนของคนฉลาดต่อทั้งหมดควรจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนฉลาดมีโอกาสรวยกว่า เก่งกว่า น่าจะถูกเลือกเพื่อมีลูกมีหลานที่มากกว่า
แต่เพราะเป็น human selection และความซับซ้อนองมนุษย์ทำให้สัดส่วนคนฉลาดน้อยลงเรื่อยๆในทุกประเทศ
มีการพบว่าผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีขึ้นไปมักจะแต่งงานช้า
นอกจากช้าแล้วจำนวนลูกยังน้อยด้วย
ในขณะที่ผู้ที่เรียนไม่สูงมักมีลูกเร็วและมาก เป็นต้น
credit : p-achblog.exteen.com คับ
ไม่ประมาท
- densin
- Verified User
- โพสต์: 1073
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 34
เวลาเล่นไพ่ที่เป็นการลงทุนแบบกินตังค์กัน ถ้าเราไม่รู้ว่าใครเป็นหมูกันแน่ ตัวเราคือหมูนั่นเองครับ
ดังนั้นถ้าไม่รู้ว่าเราเป็นกวางหรือเสือ แต่วิ่งตามฝูงชนอยู่ ขอให้รู้ตัวว่าตัวเองเป็นกวางไว้ก่อน
กวางแม้ไม่ได้วิ่งเร็วเท่าเสือ แต่ก็มีกลยุทธให้อยู่รอดได้ โดยไม่วิ่งเป็นตัวสุดท้ายของฝูง ไม่งั้นจะโดนเสือจับกินก่อน
ดังนั้นขอให้เหลียวหลังบ่อยๆว่าเราใช่กวางตัวท้ายๆใช่หรือไม่?
ดังนั้นถ้าไม่รู้ว่าเราเป็นกวางหรือเสือ แต่วิ่งตามฝูงชนอยู่ ขอให้รู้ตัวว่าตัวเองเป็นกวางไว้ก่อน
กวางแม้ไม่ได้วิ่งเร็วเท่าเสือ แต่ก็มีกลยุทธให้อยู่รอดได้ โดยไม่วิ่งเป็นตัวสุดท้ายของฝูง ไม่งั้นจะโดนเสือจับกินก่อน
ดังนั้นขอให้เหลียวหลังบ่อยๆว่าเราใช่กวางตัวท้ายๆใช่หรือไม่?
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
-
- Verified User
- โพสต์: 22
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 35
ด้วยพฤติกรรมหลายๆอย่างของสังคม
สัดส่วนของคนฉลาดต่อทั้งหมดควรจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนฉลาดมีโอกาสรวยกว่า เก่งกว่า น่าจะถูกเลือกเพื่อมีลูกมีหลานที่มากกว่า
แต่เพราะเป็น human selection และความซับซ้อนองมนุษย์ทำให้สัดส่วนคนฉลาดน้อยลงเรื่อยๆในทุกประเทศ
มีการพบว่าผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีขึ้นไปมักจะแต่งงานช้า
นอกจากช้าแล้วจำนวนลูกยังน้อยด้วย
ในขณะที่ผู้ที่เรียนไม่สูงมักมีลูกเร็วและมาก
สนใจในประเด็นของคุณ สามัญชน ข้างต้นครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่า สังคมที่เป้นอยุ่ ณ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภาวะที่เสียสมดุลอย่างมาก เพราะทิศทางมันตรงกันข้ามกับหลักการวิวัฒนาการหมดเลย
หรือสุดท้ายแล้ว การปรับตัวเข้าสู่สมดุลจึงมักจะเป็นไปด้วยความรุนแรงอย่างที่เห็น
สัดส่วนของคนฉลาดต่อทั้งหมดควรจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนฉลาดมีโอกาสรวยกว่า เก่งกว่า น่าจะถูกเลือกเพื่อมีลูกมีหลานที่มากกว่า
แต่เพราะเป็น human selection และความซับซ้อนองมนุษย์ทำให้สัดส่วนคนฉลาดน้อยลงเรื่อยๆในทุกประเทศ
มีการพบว่าผู้ที่เรียนจบปริญญาตรีขึ้นไปมักจะแต่งงานช้า
นอกจากช้าแล้วจำนวนลูกยังน้อยด้วย
ในขณะที่ผู้ที่เรียนไม่สูงมักมีลูกเร็วและมาก
สนใจในประเด็นของคุณ สามัญชน ข้างต้นครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่า สังคมที่เป้นอยุ่ ณ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภาวะที่เสียสมดุลอย่างมาก เพราะทิศทางมันตรงกันข้ามกับหลักการวิวัฒนาการหมดเลย
หรือสุดท้ายแล้ว การปรับตัวเข้าสู่สมดุลจึงมักจะเป็นไปด้วยความรุนแรงอย่างที่เห็น
- honey_lady
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 36
เป็นบทความที่จิ้มใจดำดีจริงๆค่ะ ขอคาระวะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 37
นึกออกแล้ว ........... พี่สามัญชนมีลูกหลานเยอะๆสิครับ ถือเป็นการช่วยประเทศชาติ !
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 38
picatos เขียน:ฝีมือผมอ่อนด้อยครับ... ไม่ได้เล่นมานานแล้วครับ...Voldtrest เขียน:รบกวนพี่ picatos ชี้แนะสักกระดานครับ อยากชม อานุภาพกำแพงหมาก ของพี่เป็นบุญตาสักครั้งpicatos เขียน:"เพราะไม่คิดจะเอาชนะ จึงชนะ" หลักการของ โกะ กับของ วีไอ ก็มีส่วนที่คล้ายๆ กันอยู่... ในเกมการเล่นโกะ หลักวิธีคิด จะไม่ใช่การไล่ล่าฆ่าคู่ต่อสู้ แต่จะมีการใช้เม็ดหมาก ตาเดินแต่ละตา ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด... ซึ่งในการเดินให้เกิดประสิทธิภาพไปเรื่อยๆ ก็มีการกินกันบ้าง หรือถูกเค้ากินบ้าง ก็หาเป็นสาระสำคัญไม่ หากการกินเค้าหรือถูกเค้ากินแลกเปลี่ยนมากับสิ่งที่คุ้มค่า...
เก๋าๆ ต้องคุณ airazoc ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์สอนผมเล่นโกะ... ตาคนนั้นเค้าหลายดั้งครับ...
ช่วยสั่งสอนผมด้วยครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 279
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 40
densin เขียน:เวลาเล่นไพ่ที่เป็นการลงทุนแบบกินตังค์กัน ถ้าเราไม่รู้ว่าใครเป็นหมูกันแน่ ตัวเราคือหมูนั่นเองครับ
ดังนั้นถ้าไม่รู้ว่าเราเป็นกวางหรือเสือ แต่วิ่งตามฝูงชนอยู่ ขอให้รู้ตัวว่าตัวเองเป็นกวางไว้ก่อน
กวางแม้ไม่ได้วิ่งเร็วเท่าเสือ แต่ก็มีกลยุทธให้อยู่รอดได้ โดยไม่วิ่งเป็นตัวสุดท้ายของฝูง ไม่งั้นจะโดนเสือจับกินก่อน
ดังนั้นขอให้เหลียวหลังบ่อยๆว่าเราใช่กวางตัวท้ายๆใช่หรือไม่?
เอ่อ...กวางเหลียวหลัง บ่อยๆ....จะดีเหรอครับพี่ ^^"
แอบมาแซว
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 41
มีความคิดว่า มนุษย์มีความประเสริฐ มีสมองแตกต่าง มีความคิดซับซ้อนกว่า มีการพัฒนา มีการขัดเกลา มีศึลธรรม เมื่อกินอิ่มแล้วและมีเหลือเฝือมากจึงอยากแบ่งปันให้เผ่าพันธ์ตนดำรงต่อไป ถ้ายามคับขัน สัญชาตญานดิบก็ออกมาเองตามธรรมชาติ เมื่อต้องการอยู่รอด คิดเห็นแบบนี้ไม่รู้ถูกต้องรึเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 42
ถ้าช่วงนี้ รู้สึกเหมือนกันครับkoh เขียน:ไม่รู้เป็นไง รู้สึกแจ๊ดๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 227
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 43
คิดว่ามนุษย์น่าจะเป็นสัตว์ที่ขี้กลัวที่สุดในโลกและน่าจะเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สะสมทรัพยากรไว้ใช้ในยามจำเป็นได้ อย่างเสือมันจะล่าเหยื่อเมื่อหิวเท่านั้น และมันกินเท่าที่มันอิ่ม มันจะไม่ฆ่ากันเป็นจำนวนเยอะอย่างมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มนุษย์สะสมทรัพยากรเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอสักที ถึงแม้ทรัพยากรที่มีจะเหลือเฟือต่อการดำรงชีวิตทั้งชีวิต ก็ยังคงสะสมต่อไป แม้ว่าจะเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์หรือธรรมชาติก็ตาม อาจเพราะมนุษย์กลัวอดตาย กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่มีกิน กลัวความไม่แน่นอน ก็อาจเป็นไปได้ว่ายีนส์เก็บความทรงจำสมัยบรรพบุรุษที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติหรืออะไรก็ตามแต่ เหตุผลหนึ่งที่มนุษย์ที่ต้องการศาสนาเพราะว่ามนุษย์กลัวตาย และไม่ต้องการรับรู้ว่าถ้าตายไปแล้วจะหมดสิ้น ไม่เหลือตัวตนใดใดในโลกอีก การสืบพันธ์ก็น่าจะเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะเหลือผลผลิตของตัวตนให้ดำรงอยู่ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและไม่ค่อยต้องการแปลกแยกจากฝูง เพราะกลัวการไม่ยอมรับจากฝูง โดยส่วนใหญ่มักจะชอบเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า ถ้าในสังคมนั้นมีอะไร มนุษย์ส่วนใหญ่ก็พยายามทำและปรับตัวให้มีตามสังคมนั้น เช่น รถ บ้าน มือถือ...etc. มนุษย์ยังสามารถนำทรัพยากรในอนาคตมาใช้ได้ก่อนอีกด้วย(บัตรเครดิต บัตรเงินสด) มนุษย์บางทีก็แปลก ดูเหมือนกับไม่รู้ว่าสิ่งใดมีค่า สิ่งใดไม่มีค่า ก้อนหินขนาดเล็กสีสวย แวววาว กินไม่ได้(0 Kcal) มีราคากว่าอาหารทั้งปีเสียอีก อาจเป็นเพราะว่ามนุษย์เกือบทั้งโลกเชื่อว่ามันมีค่า มันก็เลยมีค่า มนุษย์บางพื้นที่ของโลกเค้าฆ่ากันเพื่อก้อนหินขนาดเล็กเหล่านี้เลยทีเดียว บางคนยอมเสี่ยงชีวิต(สิ่งที่มีค่าที่สุด???) เพื่อค้นหามันก็มาก หลายสิ่งในโลกมันจะมีค่า ก็ต่อเมื่อคุณเชื่อว่ามันมีค่า หนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณเชื่อ สิ่งนั้นคือ ยี่ห้อ (brand) ต่อให้กระเป๋าของคุณลักษณะทางกายภาพมันดีสักแค่ไหน แต่ทุกคนไม่ยอมรับ ทุกคนไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา มันก็คือของที่ไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 46
ตลาดหุ้นอยู่ในยุคหินนั่น ทำให้ผมนึกถึงสารคดีปลาปีรันย่าแดงในลุ่มแม่น้ำอเมซอน ในฤดูน้ำหลากปลาปิรันย่าแดงคือราชาแห่งแม่น้ำสายนี้อย่างแท้จริง แต่พอถึงฤดูน้ำแล้งเมื่อหน้าร้อนมาเยี่ยนปลาปิรันย่าแดงบางส่วนกลับกลายเป็นเหยื่ออันโอชาของสรรพสัตว์ทั้งหลายรวมถึงสัตว์ที่เคยเป็นเหยื่อของตนเองด้วยครับ
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 48
....สามัญชน เขียน:ทำไมดร.รู้หลักการวีไอแล้ว
ไม่เก็บเงียบไว้คนเดียว
เหมือนเสือค่อยๆจับกินกวางวันละตัวๆ
ผลิตเสือสิงห์กระทิงแรดจำนวนมากมาแย่งกินกวางทำไม
หนังสือทั้งหลายที่ดร.เขียน ผมว่าลงทุนลงแรงไปไม่น้อย
ได้ตังค์มาแค่นี้ผมว่าน้อยมากเมื่อเทียบกำไรจากหุ้น
และที่ออกมาเตือนนี้ก็น่าจะด้วยหวังดีนะครับ
เคยเห็นเสือเตือนกวางแบบนี้ไหมครับ
อ่า...ผมอ่านของคุณหมอแล้ว
....
.....ไม่รู้นะครับ ทำไม....พออ่านแล้วผมตีความไปว่า....ดร. ท่านเป็นเสือเหรอครับ
ผมว่า ท่านใจดีออก ท่านเป็นคนน่ารักทีเดียวครับ
ในเรื่องการเผื่อแผ่ ท่านดีมากๆครับ
เห็นบทความอันนี้ ดีใจครับ ที่ท่านเตือนสติ คนใหม่ๆ ทีเข้ามาในวงการ ให้เข้าใจถึงความเป็นจริง ในวงการ
แม้ว่าเวบนี้จะเป็นเวบ การลงทุน ที่ดูเหมือนสถานที่ดีมากๆ เวบนึง
มันก็เหมือนกับในวัดดีๆ ที่เป็นสถานที่ดีๆ ที่ทุกคนเข้าได้ ในกลุ่มคนที่เข้ามานั้น ก็อาจจะมีกลุ่มคนบางคน ทำสิ่งที่ไม่เรียกว่าดี หาประโยชน์ จากความหวังดี ความคิดดึ ของคนดีๆ จนคนดีๆ ต้องทำใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นวัดที่ดีๆ
ประเด็นอยู่ที่คน....
ท่านเตือนได้ดีครับ ให้เข้าใจความจริงของมนุษย์
ถ้าเราไม่ป้องกันตัวเอง โดยทำความเข้าใจความเป็นจริงแล้ว แล้วใครจะป้องกันเรา
ไม่มีใครรักเราจริง....เท่าตัวเรา
ระยะหลัง ท่านเขียนในแนวนี้ บ่อยขึ้น
แสดงว่า....ท่านคงเห็นอะไรมากมายที่เกิดขึ้นในระยะ 1 ปี หลัง
......
คนใหม่ๆหลายคนที่เข้าเวบนี้ ก็คงคิดว่าเข้าในสถานที่ ที่ดี แล้ว คงไม่เป็นไร
.......ผิดก็ตรงที่มีความคิดแบบนี้นะครับ
ผี ไม่น่ากลัวหรอกครับ เพราะว่าเรารู้ว่ามันคือผี
.......มนุษย์ที่แปลงกายแล้ว...จะน่ากลัวกว่าผีครับ
ต้องขอบคุณ ดร ที่ยังสร้างสรรผลงานดีๆ ออกมาเตือนได้ดีมากๆครับ
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 49
อ่า.....ที่งับไป....นั่น เนื้อแขนของผมรึป่าวครับpicatos เขียน:อ่านบทความนี้ของอาจารย์ แล้วรู้สึกแปลกดีครับ...
.........
ยังไงก็ขออภัย... หากผมเผลอไปกิน เผลอไปงับเพื่อนๆ เข้าแบบไม่รู้ตัวนะครับ... ผมไม่ได้มีเจตนา...
ช่วย.......คายออกมาด้วยครับ
555
ขอบคุณ รุ่นพี่ๆ รุ่นน้องๆ ครูบา อาจารย์ ในนี้ ที่แนะนำเรื่อง วิธีการลงทุนที่ดี นะครับ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
อ. โจ กับ พี่พอใจ ยังเป็นขวัญใจ เสมอครับ
วันนี้ อ. โจ ได้ลง นสพ ด้วย .....อิอิอิ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 50
+1ยังไงก็ขออภัย... หากผมเผลอไปกิน เผลอไปงับเพื่อนๆ เข้าแบบไม่รู้ตัวนะครับ... ผมไม่ได้มีเจตนา...
In search of super stocks
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 51
นิทานเซ็น
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
ท่านรินไซได้ไปเป็นศิษย์ของท่านฮวงโปอยู่ 3 ปี ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด วันหนึ่งเพื่อนของท่านให้ไปถามท่านอาจารย์ฮวงโปว่า
"แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออะไร ?"
คำตอบที่ท่านได้รับก็คือ ถูกท่านฮวงโปตีด้วยไม้เท้า 3 ทีโดยไม่อธิบายอะไรเลย ท่านรินไซน้อยใจจึงคิดจะลาไปยังสำนักอื่น ท่านฮวงโปจึงแนะนำให้ไปหาพระอาจารย์ต้ายู้ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเคาอัน ท่านต้ายู้พอทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงบอกกับท่านรินไซว่า
"ที่ท่านฮวงโปตีเจ้านั้น ก็เพื่อปลดเปลื้องเจ้าให้ออกจากความทุกข์ต่างหากเล่า"
ท่านรินไซพิจารณาแล้วก็รู้แจ้งว่า
"พุทธธรรมนั้น น้อยนิดยิ่งนัก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำใจไม่ให้เป็นทุกข์เท่านั้น"
ไม่มีความทุกข์เหลืออยู่อีกเลยเพราะหยุดคิดปรุงแต่งด้วยกิเลสเสียแล้ว ท่านได้กลับไปหาท่านฮวงโปอีกครั้ง และเล่าให้ฟังถึงการสนทนาธรรมและสิ่งที่ท่านได้รับจากท่านต้ายู้ ท่านอาจารย์ฮวงโป จึงคิดจะทดลองดูว่า ศิษย์รู้แจ้งในธรรมจริงแท้แค่ไหน จึงกล่าวว่า
"เจ้าต้ายู้นี่มันเพ้อเจ้อเหลือเกิน มาคราวหน้าถ้าพบกันอีกต้องตีเสียให้เข็ด"
"จะรอถึงคราวหน้าทำไม ทำไมไม่ตีเสียเลยคราวนี้"
ท่านรินไซกล่าวตอบ ว่าแล้วท่านก็ตบหน้าท่านฮวงโปฉาดใหญ่ ความปล่อยวางเกิดขึ้นในขณะเดียวกันทั้งศิษย์และอาจารย์ ท่านฮวงโปเพียงแต่พูดว่า
"เจ้าบ้าคนนี้ มันกำลังลูบหนวดเสือ"
เป็นการสอบไล่ขั้นสุดท้ายแบบเซ็น และทดสอบด้วยว่าอาจารย์เก่งจริง หมดกิเลสจริงหรือเปล่า เราท่านกล้าใช้วิธีนี้หรือเปล่า ?
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
ท่านรินไซได้ไปเป็นศิษย์ของท่านฮวงโปอยู่ 3 ปี ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด วันหนึ่งเพื่อนของท่านให้ไปถามท่านอาจารย์ฮวงโปว่า
"แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออะไร ?"
คำตอบที่ท่านได้รับก็คือ ถูกท่านฮวงโปตีด้วยไม้เท้า 3 ทีโดยไม่อธิบายอะไรเลย ท่านรินไซน้อยใจจึงคิดจะลาไปยังสำนักอื่น ท่านฮวงโปจึงแนะนำให้ไปหาพระอาจารย์ต้ายู้ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเคาอัน ท่านต้ายู้พอทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงบอกกับท่านรินไซว่า
"ที่ท่านฮวงโปตีเจ้านั้น ก็เพื่อปลดเปลื้องเจ้าให้ออกจากความทุกข์ต่างหากเล่า"
ท่านรินไซพิจารณาแล้วก็รู้แจ้งว่า
"พุทธธรรมนั้น น้อยนิดยิ่งนัก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำใจไม่ให้เป็นทุกข์เท่านั้น"
ไม่มีความทุกข์เหลืออยู่อีกเลยเพราะหยุดคิดปรุงแต่งด้วยกิเลสเสียแล้ว ท่านได้กลับไปหาท่านฮวงโปอีกครั้ง และเล่าให้ฟังถึงการสนทนาธรรมและสิ่งที่ท่านได้รับจากท่านต้ายู้ ท่านอาจารย์ฮวงโป จึงคิดจะทดลองดูว่า ศิษย์รู้แจ้งในธรรมจริงแท้แค่ไหน จึงกล่าวว่า
"เจ้าต้ายู้นี่มันเพ้อเจ้อเหลือเกิน มาคราวหน้าถ้าพบกันอีกต้องตีเสียให้เข็ด"
"จะรอถึงคราวหน้าทำไม ทำไมไม่ตีเสียเลยคราวนี้"
ท่านรินไซกล่าวตอบ ว่าแล้วท่านก็ตบหน้าท่านฮวงโปฉาดใหญ่ ความปล่อยวางเกิดขึ้นในขณะเดียวกันทั้งศิษย์และอาจารย์ ท่านฮวงโปเพียงแต่พูดว่า
"เจ้าบ้าคนนี้ มันกำลังลูบหนวดเสือ"
เป็นการสอบไล่ขั้นสุดท้ายแบบเซ็น และทดสอบด้วยว่าอาจารย์เก่งจริง หมดกิเลสจริงหรือเปล่า เราท่านกล้าใช้วิธีนี้หรือเปล่า ?
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 52
หนังสือ ที่น่าจะตรง กับ บทความนี้ มากเล่ม 1 คือ " Selfish Genes" ครับ
ลองหาอ่านกันดูครับ Mission หลัก คือ ถ่ายทอดยีนส์ คือ การสืบพันธ์
อ่านแล้ว นึกถึง ทําไมบ้านคนจีนถึงชอบมีลูกชาย มากกว่าลูกสาว เพราะกลัวสกุลจะสูญสิ้น
ต้องการให้เผ่าพันธ์ ยีนส์ ดํารงอยู่
ลองหาอ่านกันดูครับ Mission หลัก คือ ถ่ายทอดยีนส์ คือ การสืบพันธ์
อ่านแล้ว นึกถึง ทําไมบ้านคนจีนถึงชอบมีลูกชาย มากกว่าลูกสาว เพราะกลัวสกุลจะสูญสิ้น
ต้องการให้เผ่าพันธ์ ยีนส์ ดํารงอยู่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 53
ชอบสองบรรทัดสุดท้ายจังเลยครับ
โดนใจ
โดนใจ
แลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนได้ครับ
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B ... you_manage
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B ... you_manage
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 54
ตลาดหุ้นเป็นสถานที่แห่งควาามโลภและมนุษย์กินคน
ผมก็เห็นด้วยในมุมมองหนึ่ง
แต่บางทีสิ่งที่สําคัญอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นคิดอย่างไร
แต่อยู่ที่ตัวเราเองคิดอย่างไร
สําหรับผมตลาดหุ้นคือสถานที่ซึ่งเรา
ใช้เงินทุนสติปัญญาทักษะความสามารถในการเอาชนะ
เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินและมาตรฐานความเป็นอยู่
สัาหรับผมตลาดหุ้นเป็นintellectual game
ที่ได้รางวัลเป็นตัวเงินตอบแทน
เวลผมชนะได้เงินผมไม่คิดว่าผมกินเลือดเนื้อใคร
เวลาผมแพ้ผมก็ไม่คิดว่าใครกินเลือดเนื้อผม
ถ้าผมคิดว่าตลาดหุ้นคือการกินเลือดเนื้อกันผมคงเลิกเล่น
ถ้าตลาดหุ้นไม่มีความสนุกและบันเทิงปัญญาผมก็คงเลิกเล่น
Buffetชนะคนทั้งโลก
แต่บริจาคทรัพย์สิน90%เข้าองค์กรการกุศล
buffetกินเลือดเนื้อใครหรือเปล่า โลภมากไปหรือไม่
สัาหรับผมปรัชญาและทัศนคติมีผลกับการดําเนินชีวิต
ผมจึงเลือกเชื่อปรัชญาที่ทําให้จิตใจผมสงบมีความสุข
และมีมุมมองแง่บวก
ปรัชญาในแง่ลบถึงแม้เป็นความจริง
แต่ผมไม่มีความสุขที่จะเชื่อหรือยึดถือ
ผมก็ปล่อยมันผ่านไป
ผมก็เห็นด้วยในมุมมองหนึ่ง
แต่บางทีสิ่งที่สําคัญอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นคิดอย่างไร
แต่อยู่ที่ตัวเราเองคิดอย่างไร
สําหรับผมตลาดหุ้นคือสถานที่ซึ่งเรา
ใช้เงินทุนสติปัญญาทักษะความสามารถในการเอาชนะ
เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินและมาตรฐานความเป็นอยู่
สัาหรับผมตลาดหุ้นเป็นintellectual game
ที่ได้รางวัลเป็นตัวเงินตอบแทน
เวลผมชนะได้เงินผมไม่คิดว่าผมกินเลือดเนื้อใคร
เวลาผมแพ้ผมก็ไม่คิดว่าใครกินเลือดเนื้อผม
ถ้าผมคิดว่าตลาดหุ้นคือการกินเลือดเนื้อกันผมคงเลิกเล่น
ถ้าตลาดหุ้นไม่มีความสนุกและบันเทิงปัญญาผมก็คงเลิกเล่น
Buffetชนะคนทั้งโลก
แต่บริจาคทรัพย์สิน90%เข้าองค์กรการกุศล
buffetกินเลือดเนื้อใครหรือเปล่า โลภมากไปหรือไม่
สัาหรับผมปรัชญาและทัศนคติมีผลกับการดําเนินชีวิต
ผมจึงเลือกเชื่อปรัชญาที่ทําให้จิตใจผมสงบมีความสุข
และมีมุมมองแง่บวก
ปรัชญาในแง่ลบถึงแม้เป็นความจริง
แต่ผมไม่มีความสุขที่จะเชื่อหรือยึดถือ
ผมก็ปล่อยมันผ่านไป
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 55
picatos เขียน:ถ้าจะตอบตามหลักวิวัฒนาการ และมองโลกในแง่ร้าย โดยมองตลาดหุ้นเป็น Zero-Sum Game เป็นสนามแห่งการฆ่าและแย่งชิงผลประโยชน์ ก็คือ...สามัญชน เขียน:ทำไมดร.รู้หลักการวีไอแล้ว
ไม่เก็บเงียบไว้คนเดียว
เหมือนเสือค่อยๆจับกินกวางวันละตัวๆ
ผลิตเสือสิงห์กระทิงแรดจำนวนมากมาแย่งกินกวางทำไม
หนังสือทั้งหลายที่ดร.เขียน ผมว่าลงทุนลงแรงไปไม่น้อย
ได้ตังค์มาแค่นี้ผมว่าน้อยมากเมื่อเทียบกำไรจากหุ้น
และที่ออกมาเตือนนี้ก็น่าจะด้วยหวังดีนะครับ
เคยเห็นเสือเตือนกวางแบบนี้ไหมครับ
ดร. ได้วิวัฒนาการกลายเป็น ไดโนเสาร์ ที่กินเนื้อจำพวก ทีเร็กซ์ เลยต้อง เพาะ พวก เสือ สิงห์ กระทิง แรด เอาไว้กินเป็นอาหาร เพราะ กิน เสือ สิงห์ กระทิง แรด แล้วมันอิ่มกว่า ไปกินพวกปลาซิว ปลาสร้อย
แต่ถ้ามองโลกในแง่บวก และเชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ Zero-Sum Game ดร. คงจะเป็น เสือโพธิสัตว์ กินแต่พืช ไม่กินเนื้อมั้งครับ
+10
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 56
goodth2011 เขียน:picatos เขียน:ถ้าจะตอบตามหลักวิวัฒนาการ และมองโลกในแง่ร้าย โดยมองตลาดหุ้นเป็น Zero-Sum Game เป็นสนามแห่งการฆ่าและแย่งชิงผลประโยชน์ ก็คือ...สามัญชน เขียน:ทำไมดร.รู้หลักการวีไอแล้ว
ไม่เก็บเงียบไว้คนเดียว
เหมือนเสือค่อยๆจับกินกวางวันละตัวๆ
ผลิตเสือสิงห์กระทิงแรดจำนวนมากมาแย่งกินกวางทำไม
หนังสือทั้งหลายที่ดร.เขียน ผมว่าลงทุนลงแรงไปไม่น้อย
ได้ตังค์มาแค่นี้ผมว่าน้อยมากเมื่อเทียบกำไรจากหุ้น
และที่ออกมาเตือนนี้ก็น่าจะด้วยหวังดีนะครับ
เคยเห็นเสือเตือนกวางแบบนี้ไหมครับ
ดร. ได้วิวัฒนาการกลายเป็น ไดโนเสาร์ ที่กินเนื้อจำพวก ทีเร็กซ์ เลยต้อง เพาะ พวก เสือ สิงห์ กระทิง แรด เอาไว้กินเป็นอาหาร เพราะ กิน เสือ สิงห์ กระทิง แรด แล้วมันอิ่มกว่า ไปกินพวกปลาซิว ปลาสร้อย
แต่ถ้ามองโลกในแง่บวก และเชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ Zero-Sum Game ดร. คงจะเป็น เสือโพธิสัตว์ กินแต่พืช ไม่กินเนื้อมั้งครับ
+10
โอ้ย อีกแล้ว อุดส่าห เลือกหาวัดดีๆๆแล้ว
ก้ต้องมาทำบุญ เสียตังค์ ให้ เจ้าอาวาส เหมือนเดิม
SURVIVAL FOR THE FITTEST
เผลอ โดน เจี้ยะ
- izicado
- Verified User
- โพสต์: 102
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรียนรู้ชีวิต/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 58
ผมคิดว่าบทความนี้ หลักใหญ่ใจความอยู่ที่ "ท่านดร. เตือน VI ไม่ให้ประมาทน่ะครับ"