คิดว่าทำถูกหรือไม่ อย่างไรครับนางอารยา เตชานันท์ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ บมจ.ไว้ท์กรุ๊ป (WG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เดอะคอลัมน์ จำนวน 100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.36 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทฯ เป็นจำนวนหุ้น 10 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.26 ของกองทุน โดยมีระยะเวลาการลงทุน 10 ปี นับจากวันเริ่มทำรายการคือวันที่ 30 มีนาคม 2548 และสามารถไถ่ถอนได้ ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการฝากเงินกับสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยระหว่าง ร้อยละ 1.375 -2.0 ต่อปี แหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากกำไรสะสมของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันฝากไว้กับสถาบันการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจัดการ ส่วนผู้ดูแลผลประโยชน์ คือ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.2548 - 31 ธ.ค. 2549 ได้รับเงินปันผลร้อยละ 5.75 และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2550 ได้รับเงินปันผลตามอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับเงินกู้ (MLR) เฉลี่ยจากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารขนาดใหญ่ 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่วนการจ่ายปันผล จะจ่ายทุกสิ้นไตรมาส
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เดอะคอลัมน์ เป็นหน่วยลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด มีจำนวนเงินทุน 1,900 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10 บาท จำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 190 ล้านหน่วย
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 1
Expecto Patronum!!!!!!
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 2
เอารายละเอียดเพิ่มเติมมาให้นะครับ
ที่ ตล009/48
วันที่ 28 มีนาคม 2548
เรื่อง การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการบริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่
28 มีนาคม 2548 ได้มีมติอนุมัติให้ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ชื่อกองทุน
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
เป็นหน่วยลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด มีจำนวนเงินทุน
1,900 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10 บาท จำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 190 ล้านหน่วย
วัตถุประสงค์ของการลงทุน
เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการฝากเงินกับสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยระหว่าง
ร้อยละ 1.375 -2.0 ต่อปี การลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ จะได้รับผล ตอบแทนดังนี้
- ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2548 - 31 ธ.ค. 2549 ได้รับเงินปันผลร้อยละ 5.75
- ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2550 ได้รับเงินปันผลตามอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับ
เงินกู้ (MLR) เฉลี่ยจากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารขนาดใหญ่ 3 ธนาคาร
ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- การจ่ายปันผล จะจ่ายทุกสิ้นไตรมาส
จำนวนเงินลงทุน
100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.36 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทฯ
เป็นจำนวนหุ้น 10 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.26 ของกองทุนระย ะเวลาการลงทุน
เริ่มทำรายการ 30 มีนาคม 2548 ระยะเวลาการลงทุน 10 ปี สามารถไถ่ถอนได้
ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
แหล่งเงินทุน
จากกำไรสะสมของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันฝากไว้กับสถาบันการเงิน
ความเสี่ยง
คณะกรรมการบริษัทฯได้พิจารณาแล้วว่าการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวนับว่า
มีอัตราเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเป็นการลงุทนในโครงการที่ขณะนี้มีผู้เช่าแล้ว
คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่เช่าทั้งหมด และคาดว่าจะสามารถมีผลกำไรได้ตั้งแต่
ปี 2549 เมื่อมีผู้เช่าร้อยละ 60 คณะกรรมการยังได้พิจารณาว่า เนื่องจากจำนวน
เงินที่บริษัทฯร่วมลงทุนคิดเป็นร้อยละ 14.36 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ซึ่งถือว่า
เป็นความเสี่ยงที่บริษัทฯ สามารถรับได้
การเกี่ยวโยง
การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์ครั้งนี้ ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงของบริษัทฯ
ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์
ข้อมูลของกองทุน
รายละเอียดของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
ชนิดของหน่วยลงทุน : เป็นหน่วยลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน
คณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด และผู้ถือหน่วยลงทุน
จะรับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในรูปของเงินปันผล
และการลดทุน
วันที่จดทะเบียน : วันที่ 26 มกราคม 2547
อายุโครงการ : ไม่กำหนด
จำนวนเงินทุนของโครงการ: 1,900 ล้านบาท
มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วยลงทุน: 10.- บาท
จำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น: 190 ล้านหน่วย
บริษัทจัดการ : บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ผู้ดูแลผลประโยชน์: ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
ผู้สอบบัญชี : นายสมชาย คุรุจิตโกศล
บริษัท เอส เค แอคเคาน์แต้นท์เซอร์วิสเซส จำกัด
นโยบายการลงทุน: บริษัทจัดการ จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่วยลงทุน
ของกองทุนรวมไปซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
โครงการเดอะคอลัมน์ จากเจ้าของเป็นระยะเวลา 30 ปี
และเมื่อก่อสร้างเสร็จ ก็จะให้เช่าพื้นที่อาคาร
สถานที่ตั้งโครงการ: ศูนย์กลางธุรกิจ บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกอโศก - สุขุมวิท
จำนวนที่ดิน: 4 - 3 - 25 ไร่
พื้นที่อาคารให้เช่า: อาคารสูง 42 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ารวม 52,086 ตร.ม. ประกอบด้วย
ร้านค้า 1,300 ตรม.
สำนักงานชั้น 1 - 24 32,656 ตร.ม.
ห้องชุดให้เช่า ชั้น 25 - 42 18,130 ตร.ม.
อาคารที่จอดรถ 7 ชั้น สามารถจอดรถได้ 876 คัน
ขณะนี้มีผู้เช่าที่ได้มีการตกลงเช่าพื้นที่แล้วคิดเป็น 40% ของพื้นที่
กำหนดการเปิดโครงการ: ไตรมาสสุดท้ายของปี 2548
ประมาณการผลการดำเนินงานของโครงการ: (หน่วย : ล้านบาท)
2549 2550 2551 2552 2553
อัตราการเช่าพื้นที่ 60% 70% 80% 85% 85%
รายได้จากการดำเนินงาน 126 172 227 262 272
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 34 40 66 73 76
กำไรจากการดำเนินงาน 91 132 161 188 196
**กองทุนได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล**
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(อารยา เตชานันท์)
กรรมการและเลขานุการ
เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยแต่ปัญหาคือ เขาลงทุนกับเอาเงินมาจ่ายปันผลเพิ่มแล้วให้เราลงทุนกันเองใครจะเก่งกัน.........ที่สุดเขาก็แก้ปัญหา เงินล้นบริษัท ไปด้านหนึ่งครับ
ที่ ตล009/48
วันที่ 28 มีนาคม 2548
เรื่อง การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการบริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่
28 มีนาคม 2548 ได้มีมติอนุมัติให้ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ชื่อกองทุน
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
เป็นหน่วยลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด มีจำนวนเงินทุน
1,900 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10 บาท จำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 190 ล้านหน่วย
วัตถุประสงค์ของการลงทุน
เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการฝากเงินกับสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยระหว่าง
ร้อยละ 1.375 -2.0 ต่อปี การลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ จะได้รับผล ตอบแทนดังนี้
- ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2548 - 31 ธ.ค. 2549 ได้รับเงินปันผลร้อยละ 5.75
- ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2550 ได้รับเงินปันผลตามอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับ
เงินกู้ (MLR) เฉลี่ยจากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารขนาดใหญ่ 3 ธนาคาร
ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- การจ่ายปันผล จะจ่ายทุกสิ้นไตรมาส
จำนวนเงินลงทุน
100 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.36 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทฯ
เป็นจำนวนหุ้น 10 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.26 ของกองทุนระย ะเวลาการลงทุน
เริ่มทำรายการ 30 มีนาคม 2548 ระยะเวลาการลงทุน 10 ปี สามารถไถ่ถอนได้
ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป
แหล่งเงินทุน
จากกำไรสะสมของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันฝากไว้กับสถาบันการเงิน
ความเสี่ยง
คณะกรรมการบริษัทฯได้พิจารณาแล้วว่าการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวนับว่า
มีอัตราเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเป็นการลงุทนในโครงการที่ขณะนี้มีผู้เช่าแล้ว
คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่เช่าทั้งหมด และคาดว่าจะสามารถมีผลกำไรได้ตั้งแต่
ปี 2549 เมื่อมีผู้เช่าร้อยละ 60 คณะกรรมการยังได้พิจารณาว่า เนื่องจากจำนวน
เงินที่บริษัทฯร่วมลงทุนคิดเป็นร้อยละ 14.36 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ซึ่งถือว่า
เป็นความเสี่ยงที่บริษัทฯ สามารถรับได้
การเกี่ยวโยง
การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์ครั้งนี้ ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงของบริษัทฯ
ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์
ข้อมูลของกองทุน
รายละเอียดของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดอะคอลัมน์
ชนิดของหน่วยลงทุน : เป็นหน่วยลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน
คณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด และผู้ถือหน่วยลงทุน
จะรับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในรูปของเงินปันผล
และการลดทุน
วันที่จดทะเบียน : วันที่ 26 มกราคม 2547
อายุโครงการ : ไม่กำหนด
จำนวนเงินทุนของโครงการ: 1,900 ล้านบาท
มูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วยลงทุน: 10.- บาท
จำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น: 190 ล้านหน่วย
บริษัทจัดการ : บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ผู้ดูแลผลประโยชน์: ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
ผู้สอบบัญชี : นายสมชาย คุรุจิตโกศล
บริษัท เอส เค แอคเคาน์แต้นท์เซอร์วิสเซส จำกัด
นโยบายการลงทุน: บริษัทจัดการ จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่วยลงทุน
ของกองทุนรวมไปซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์
โครงการเดอะคอลัมน์ จากเจ้าของเป็นระยะเวลา 30 ปี
และเมื่อก่อสร้างเสร็จ ก็จะให้เช่าพื้นที่อาคาร
สถานที่ตั้งโครงการ: ศูนย์กลางธุรกิจ บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกอโศก - สุขุมวิท
จำนวนที่ดิน: 4 - 3 - 25 ไร่
พื้นที่อาคารให้เช่า: อาคารสูง 42 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ารวม 52,086 ตร.ม. ประกอบด้วย
ร้านค้า 1,300 ตรม.
สำนักงานชั้น 1 - 24 32,656 ตร.ม.
ห้องชุดให้เช่า ชั้น 25 - 42 18,130 ตร.ม.
อาคารที่จอดรถ 7 ชั้น สามารถจอดรถได้ 876 คัน
ขณะนี้มีผู้เช่าที่ได้มีการตกลงเช่าพื้นที่แล้วคิดเป็น 40% ของพื้นที่
กำหนดการเปิดโครงการ: ไตรมาสสุดท้ายของปี 2548
ประมาณการผลการดำเนินงานของโครงการ: (หน่วย : ล้านบาท)
2549 2550 2551 2552 2553
อัตราการเช่าพื้นที่ 60% 70% 80% 85% 85%
รายได้จากการดำเนินงาน 126 172 227 262 272
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 34 40 66 73 76
กำไรจากการดำเนินงาน 91 132 161 188 196
**กองทุนได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล**
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(อารยา เตชานันท์)
กรรมการและเลขานุการ
เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยแต่ปัญหาคือ เขาลงทุนกับเอาเงินมาจ่ายปันผลเพิ่มแล้วให้เราลงทุนกันเองใครจะเก่งกัน.........ที่สุดเขาก็แก้ปัญหา เงินล้นบริษัท ไปด้านหนึ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 3
บริษัทตังค์เหลือเยอะ คงเอามาหาดอกเบี้ยเพิ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 6
New Berkshire Hathaway of Thailand?
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 7
New Berkshire Hathaway of Thailand?
ว่าแต่ quick reply หายไปไหนครับ...
ว่าแต่ quick reply หายไปไหนครับ...
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 10
ยังมีเงินสดเหลืออีกพอสมควร ไม่ทราบว่าจะมีการเอาไปลงทุนแบบนี้อีกหรือไม่ครับ ถ้ามีอีก นักลงทุนที่หวังว่าเงินสดที่เก็บไว้มากมายจะมีโอกาสปันผลพิเศษมาสู่ผู้ถือหุ้น คงผิดหวังไปตามๆกัน
ผมไม่ค่อยเข้าใจผู้บริหารเลยครับ ไม่รู้จะหวงเงินอะไรขนาดนั้น ผลประกอบการห้ามตกเด็ดขาดเลยนะครับ แบบนี้ ...
ผมไม่ค่อยเข้าใจผู้บริหารเลยครับ ไม่รู้จะหวงเงินอะไรขนาดนั้น ผลประกอบการห้ามตกเด็ดขาดเลยนะครับ แบบนี้ ...
It's earnings that count
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 11
ซื้อไป 100 หรือประมาณ 5.6 บาทต่อหุ้น
เดิมฝากธนาคารสมมติว่าได้ดอก 1.7 (เฉลี่ยจาก 1.375 -2.0)
ใหม่ลงกองทุนได้ปันผล 5.75
ผลตอบแทนที่จะได้เพิ่ม = 5.6x(5.75-1.7)/100 = 0.227 ต่อหุ้นต่อปี
คุ้มมั๊ยเอ่ย ... ลองกันคิดดู
เดิมฝากธนาคารสมมติว่าได้ดอก 1.7 (เฉลี่ยจาก 1.375 -2.0)
ใหม่ลงกองทุนได้ปันผล 5.75
ผลตอบแทนที่จะได้เพิ่ม = 5.6x(5.75-1.7)/100 = 0.227 ต่อหุ้นต่อปี
คุ้มมั๊ยเอ่ย ... ลองกันคิดดู
-
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 12
เซอร์ไพรส์จริงๆ!!!
ทั้งๆที่ไม่มีกฏห้ามบริษัทลงทุนในธุรกิจอื่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์
แต่มาลงทุนแบบนี้
ยังกะบริษัทประกันภัย ประกันชีวิต ที่โดนกฏบังคับอยู่เลยนะ
หรือกฏบริษัทกำหนดไว้ที่ไหนหรือเปล่า
หน่วยลงทุนไถ่ถอนได้ในปีที่ 5 แปลว่าอีก 5 ปี คงไม่มีปันผลพิเศษเป็นแน่ครับ
ทั้งๆที่ไม่มีกฏห้ามบริษัทลงทุนในธุรกิจอื่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์
แต่มาลงทุนแบบนี้
ยังกะบริษัทประกันภัย ประกันชีวิต ที่โดนกฏบังคับอยู่เลยนะ
หรือกฏบริษัทกำหนดไว้ที่ไหนหรือเปล่า
หน่วยลงทุนไถ่ถอนได้ในปีที่ 5 แปลว่าอีก 5 ปี คงไม่มีปันผลพิเศษเป็นแน่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 14
สังเกตว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารให้เช่าเพื่อทำสำนักงานถึง
ประมาณ 32,000 ตร.ม. จากทั้งหมด ประมาณ 52,000 ตร.ม.
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าในช่วงนี้กับแนวโน้ม
ในอนาคตว่าจะไปรุ่งไหม เพราะจากข้อมูลเก่าๆ จำได้ว่าพื้นที่อาคารสำนักงานก่อนฟองสบู่แตกยังมีเหลืออยู่ไม่ใช่น้อย(ใครมีข้อมูลก็ขอบิณฑบาตรด้วย)
ส่วนของที่พักอาศัยไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทำเลแถวนั้น (ตรงไหนแน่หว่า)
ก็น่าจะมีคนเช่า แต่คู่แข่งก็เยอะเอาการอยู่ หลังๆ พวกแขกขายผ้ากะแขกขายปืน (จริงๆแล้วก็รวมทั้งไทยจีนฝรั่งด้วย) ไม่ค่อยมีอะไรจะทำก็หันมาสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์กันเป็นว่าเล่น
ถ้าเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง มีชาว ตปท. มาลงทุนเยอะๆ พวกอาคารพวกนี้ก็น่าจะเวิร์ค (ผมเดาเอาว่าเจ้าของโครงการเขาหมายตาพวกฝรั่งทั้งผมแดงผมดำไว้มากกว่าที่จะปล่อยเช่าให้คนไทย)
สันนิษฐานแบบลูกทู่งๆ ครับใครมีข้อมูลแม่นๆ ก็รบกวนด้วย
ประมาณ 32,000 ตร.ม. จากทั้งหมด ประมาณ 52,000 ตร.ม.
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าในช่วงนี้กับแนวโน้ม
ในอนาคตว่าจะไปรุ่งไหม เพราะจากข้อมูลเก่าๆ จำได้ว่าพื้นที่อาคารสำนักงานก่อนฟองสบู่แตกยังมีเหลืออยู่ไม่ใช่น้อย(ใครมีข้อมูลก็ขอบิณฑบาตรด้วย)
ส่วนของที่พักอาศัยไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทำเลแถวนั้น (ตรงไหนแน่หว่า)
ก็น่าจะมีคนเช่า แต่คู่แข่งก็เยอะเอาการอยู่ หลังๆ พวกแขกขายผ้ากะแขกขายปืน (จริงๆแล้วก็รวมทั้งไทยจีนฝรั่งด้วย) ไม่ค่อยมีอะไรจะทำก็หันมาสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์กันเป็นว่าเล่น
ถ้าเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง มีชาว ตปท. มาลงทุนเยอะๆ พวกอาคารพวกนี้ก็น่าจะเวิร์ค (ผมเดาเอาว่าเจ้าของโครงการเขาหมายตาพวกฝรั่งทั้งผมแดงผมดำไว้มากกว่าที่จะปล่อยเช่าให้คนไทย)
สันนิษฐานแบบลูกทู่งๆ ครับใครมีข้อมูลแม่นๆ ก็รบกวนด้วย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 15
ถ้าถามผมว่าคิดยังไง
พิจารณาจากข้อมูลกองทุนที่ได้รับจากตลาด ผมเข้าใจว่าเป็นลักษณะคล้ายการปล่อยกู้นะครับ เพราะมีผลตอบแทนที่กำหนดตายตัว
ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ ผมคงชอบให้บริษัทจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นออกมาดีกว่าครับ
ทีนี้ลองมาคิดผลตอบแทนที่จะได้รับเพิ่มนะครับ
ผลตอบแทนเดิม 1.70%ต่อปี คิดตาม yoyo หลังหักภาษีจะเหลือ 1.275 ล้านบาท หรือ 0.714 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.0357 บาทต่อหุ้น
ผลตอบแทนใหม่ 5.75%ต่อปี ไม่เสียภาษี จะได้ 5.75 ล้านบาท หรือ 0.3221 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.1611 บาทต่อหุ้น
สรุป ได้กำไรเพิ่มขึ้น 4.475 ล้านบาท หรือ 0.2507 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลเพิ่มขึ้น 0.1254 บาทต่อหุ้น
มีกำไรเพิ่มขึ้นตั้งหนึ่งสลึงครับ
แต่ผมก็ยังคงถือต่อครับ
พิจารณาจากข้อมูลกองทุนที่ได้รับจากตลาด ผมเข้าใจว่าเป็นลักษณะคล้ายการปล่อยกู้นะครับ เพราะมีผลตอบแทนที่กำหนดตายตัว
ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ ผมคงชอบให้บริษัทจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นออกมาดีกว่าครับ
ทีนี้ลองมาคิดผลตอบแทนที่จะได้รับเพิ่มนะครับ
ผลตอบแทนเดิม 1.70%ต่อปี คิดตาม yoyo หลังหักภาษีจะเหลือ 1.275 ล้านบาท หรือ 0.714 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.0357 บาทต่อหุ้น
ผลตอบแทนใหม่ 5.75%ต่อปี ไม่เสียภาษี จะได้ 5.75 ล้านบาท หรือ 0.3221 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.1611 บาทต่อหุ้น
สรุป ได้กำไรเพิ่มขึ้น 4.475 ล้านบาท หรือ 0.2507 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลเพิ่มขึ้น 0.1254 บาทต่อหุ้น
มีกำไรเพิ่มขึ้นตั้งหนึ่งสลึงครับ
แต่ผมก็ยังคงถือต่อครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 17
น่าจะมีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่านี้ครับ
อย่างนี้ผู้บริหารแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
จะซื้อหุ้นคืนก็ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10%
หรือนำไปซื้อหุ้นพื้นฐานดีเช่น SCC PTTEP
ผลตอบแทนน่าจะดีกว่า ความเสี่ยงก็น้อย เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว
สภาพคล่องก็สูงกว่ามาก
ลองซักถามผู้บริหาร ในการประชุมผู้ถือหุ้นดูซิครับ
อย่างนี้ผู้บริหารแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
จะซื้อหุ้นคืนก็ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10%
หรือนำไปซื้อหุ้นพื้นฐานดีเช่น SCC PTTEP
ผลตอบแทนน่าจะดีกว่า ความเสี่ยงก็น้อย เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว
สภาพคล่องก็สูงกว่ามาก
ลองซักถามผู้บริหาร ในการประชุมผู้ถือหุ้นดูซิครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 19
สั้นๆ ครับ
ไม่เห็นด้วย
ไม่เห็นด้วย
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 21
ไม่รู้ซิครับ ความเห็นผมคิดว่า ธุรกิจเดิมของ WG ความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์นะchatchai เขียน:ความเห็นผม ผมว่ายังดีกว่านะเงินไปลงทุนในตลาดครับ ผมไม่ชอบความเสี่ยง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 22
กองทุนประเภทที่ WG ลงทุน ผมเข้าใจว่าเป็นการกู้ยืมเงินนะครับ ผลตอบแทนตายตัว ไม่ว่าจะกองทุนจะกำไรหรือขาดทุน ถ้าไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ยก็ยึดทรัพย์ขายเหมือนธนาคารปล่อยกู้โครงการนะครับ เพียงแต่ไม่เสียภาษีครับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 23
แฮะๆๆ ลืมภาษีไปจนได้ .. พี่ chatchai นี่ไม่พลาดเลยจริงๆchatchai เขียน:ถ้าถามผมว่าคิดยังไง
พิจารณาจากข้อมูลกองทุนที่ได้รับจากตลาด ผมเข้าใจว่าเป็นลักษณะคล้ายการปล่อยกู้นะครับ เพราะมีผลตอบแทนที่กำหนดตายตัว
ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ ผมคงชอบให้บริษัทจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นออกมาดีกว่าครับ
ทีนี้ลองมาคิดผลตอบแทนที่จะได้รับเพิ่มนะครับ
ผลตอบแทนเดิม 1.70%ต่อปี คิดตาม yoyo หลังหักภาษีจะเหลือ 1.275 ล้านบาท หรือ 0.714 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.0357 บาทต่อหุ้น
ผลตอบแทนใหม่ 5.75%ต่อปี ไม่เสียภาษี จะได้ 5.75 ล้านบาท หรือ 0.3221 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผล 0.1611 บาทต่อหุ้น
สรุป ได้กำไรเพิ่มขึ้น 4.475 ล้านบาท หรือ 0.2507 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลเพิ่มขึ้น 0.1254 บาทต่อหุ้น
มีกำไรเพิ่มขึ้นตั้งหนึ่งสลึงครับ
แต่ผมก็ยังคงถือต่อครับ
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 24
ผมว่าก็โอเคนะ อย่างน้อยก็พยายามปรับตัว (แม้ว่าจะไม่ยอมจ่ายปันผลก็เถอะ)
ถ้าไม่ปันผลอย่างนี้ก็พอรับได้ แม้ว่าอยากให้ซื้อหุ้นคืนมากกว่าก็ตาม ส่วนซื้อหุ้นในตลาดนั้นไม่เห็นด้วยเลยครับ หน้าที่นั้นเป็นของนักลงทุน ไม่ใช่ของบริษัท
ถ้าไม่ปันผลอย่างนี้ก็พอรับได้ แม้ว่าอยากให้ซื้อหุ้นคืนมากกว่าก็ตาม ส่วนซื้อหุ้นในตลาดนั้นไม่เห็นด้วยเลยครับ หน้าที่นั้นเป็นของนักลงทุน ไม่ใช่ของบริษัท
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 25
เรื่องซื้อหุ้นคืนให้ผลตอบแทนสูงกว่าเหมือนที่พี่ลูกอิสานพูดไว้
ผมเห็นด้วยครับ
มองกันแบบนี้.....ถ้าไม่บริษัทไม่ซื้อหุ้นคืน แสดงว่า
ในสายตาผู้บริหาร WG ....หุ้น WG มีความเสี่ยงสูงกว่า
หรือมีค่าน้อยกว่ากองทุนอสังหากองนี้อีกหรือครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมนักลงทุนไม่ขายหุ้น WG ไปซื้อกองทุนนี้ล่ะ
หรือกลับกัน ถ้าคิดว่า หุ้น WG มีค่าสูงกว่ากองทุนนี้
แล้วทำไมผู้บริหารถึงซื้อกองทุนนี้ แทนที่จะซื้อหุ้น WG คืน
ถ้ามีข่าวดี ซื้อหุ้นคืน ต่อจากนี้.... ยังถือว่าผู้บริหารคิดว่าหุ้นWG ยังมีค่าอยู่ครับ
เอาใจช่วยผู้ถือหุ้นทุกท่านครับ
ผมเห็นด้วยครับ
มองกันแบบนี้.....ถ้าไม่บริษัทไม่ซื้อหุ้นคืน แสดงว่า
ในสายตาผู้บริหาร WG ....หุ้น WG มีความเสี่ยงสูงกว่า
หรือมีค่าน้อยกว่ากองทุนอสังหากองนี้อีกหรือครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมนักลงทุนไม่ขายหุ้น WG ไปซื้อกองทุนนี้ล่ะ
หรือกลับกัน ถ้าคิดว่า หุ้น WG มีค่าสูงกว่ากองทุนนี้
แล้วทำไมผู้บริหารถึงซื้อกองทุนนี้ แทนที่จะซื้อหุ้น WG คืน
ถ้ามีข่าวดี ซื้อหุ้นคืน ต่อจากนี้.... ยังถือว่าผู้บริหารคิดว่าหุ้นWG ยังมีค่าอยู่ครับ
เอาใจช่วยผู้ถือหุ้นทุกท่านครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 26
WG ตัดสินใจแบบนี้เห็นด้วยครับ
เพราะดีกว่า เอาเงินไปฝังตุ่มไว้แบบเดิม
ส่วนเรื่องที่ WG จะเอาเงินไปต่อเงินในตลาด ไม่เห็นด้วยครับ ( เดี๋ยวจะเสียการ เสียงาน มัวแต่ไปเล่นหุ้น )
เรื่องปันผล เห็นด้วยครับ ถ้าปันมากขึ้น
เช่นกำไร เท่าไร ก็ปันเท่านั้นไปเลย แค่นี้ หุ้นก็วิ่งแล้ว
เพราะดีกว่า เอาเงินไปฝังตุ่มไว้แบบเดิม
ส่วนเรื่องที่ WG จะเอาเงินไปต่อเงินในตลาด ไม่เห็นด้วยครับ ( เดี๋ยวจะเสียการ เสียงาน มัวแต่ไปเล่นหุ้น )
เรื่องปันผล เห็นด้วยครับ ถ้าปันมากขึ้น
เช่นกำไร เท่าไร ก็ปันเท่านั้นไปเลย แค่นี้ หุ้นก็วิ่งแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
WG ครับ พี่ฉัตรชัย และผู้ถือหุ้นทุกท่าน
โพสต์ที่ 30
พี่ฉัตรชัย "ถือต่อ"
ตอนนี้ราคาลดลงมาอีก มีข่าวแบบนี้ พี่จะ "ซื้อเพิ่ม" ไหมครับ
ตอนนี้ราคาลดลงมาอีก มีข่าวแบบนี้ พี่จะ "ซื้อเพิ่ม" ไหมครับ
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com