คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 31
money is extremely important in the areas in which it works,
and
extremely unimportant in the areas in which it doesn't.
secret of the millionair mind
t. harv eker
and
extremely unimportant in the areas in which it doesn't.
secret of the millionair mind
t. harv eker
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
- ^^
- Verified User
- โพสต์: 519
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 32
ผมชอบมากเลยครับประโยคนี้ มันสะกิดทัศนคติบางอย่างของผมมากเราทำหน้าที่(แต่ต้องเป็นกรรมดี)ที่ควรทำ และตอนกระทำก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย ส่วนผลที่ได้ไม่ต้องไปคาดหวัง เพราะความคาดหวังคือกิเลส ส่วนการปฏิบัติตามหน้าที่เป็นธรรม
ขอบคุณสำหรับผู้ประสบความสำเร็จทุกท่านครับ
สำหรับผม เงินเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ได้ต้องการขนาดโลภ โกงคน เพื่อให้ได้เงินมา
ให้คนที่ผมรักอยู่ได้ก็เพียงพอ
ผมชอบแนวคิดช่วยเพื่อนมนุษย์ครับ ญี่ปุ่นที่โดนสึนามิ ทำให้ผมระลึกว่า
คนที่มีเงินมากที่สุดอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ได้รับการช่วยเหลือมากที่สุดก็ได้
เพราะเขาไม่เคยเผื่อแผ่ใคร และเมื่อเงินไม่มีค่า
เราก็จะมองกันที่ความดีที่ช่วยเหลือกันมามากกว่าเงินของใครมากกว่ากันในธนาคาร
อีกนัยหนึ่งก็คือ หากเงินไม่มีค่า จะมีคนช่วยผมด้วยใจมากมายนั่นเอง หากผมเผื่อแผ่เขายามเดือดร้อน
ทุกวันนี้ยังช่วยคนได้ไม่เยอะเลยครับ กะว่าก่อนตายของไล่อายุแต่เด็กมา
จะมีความดีที่เราจำได้มากมายจนเล่าไม่หมด ไม่อยากแบบว่า
เฮ้ย ทำความดีไรมั่ง จำไม่ได้อ่ะ เอ๊ะหรือว่าแค่ไปทำบุญทุกวันพระแล้วใส่เงิน
ปล.ไม่ใช่เซียน แต่กระทู้นี้มีหลายประโยคจุดประกายจนอยากแชร์ครับ
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
- แงซาย
- Verified User
- โพสต์: 847
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 33
สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต !!!
http://www.4shared.com/document/A2szZD_u/_online.html
คนเราตายวัน ตายพรุ่งไม่มีใครรู้ อะไรดีดี ความฝันดีดี ที่ยังไม่ได้ทําก็รีบทําเสียครับ .............
ดีกว่ามาเสียใจตอนนอนพะงาบพะงาบ ว่า " รู้งี้ " ................
ชีวิตมันจะจบแบบไม่จบน่ะครับ............
http://www.4shared.com/document/A2szZD_u/_online.html
คนเราตายวัน ตายพรุ่งไม่มีใครรู้ อะไรดีดี ความฝันดีดี ที่ยังไม่ได้ทําก็รีบทําเสียครับ .............
ดีกว่ามาเสียใจตอนนอนพะงาบพะงาบ ว่า " รู้งี้ " ................
ชีวิตมันจะจบแบบไม่จบน่ะครับ............
Free your life , Fly your love
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 34
สูงสุดคืนสู่สามัญ
ขอบคุณในคำถาม
นับถือในคำตอบ
ขอบคุณในคำถาม
นับถือในคำตอบ
สงบสยบการเคลื่อนไหว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 289
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 35
ผมเห็นพี่ๆหลายๆท่านในเว็บนี้เน้นศึกษาและปฏิบัติธรรมกันอย่างจิงจัง
และก็เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงด้วย
ผมเลยสงสัยว่า...
ถ้าเรามีเป้าหมายว่า
เราอยากมีปัญญาจากการปฏิบัติ
และปัญญานั้น จะพาเราไปสู่ทางแห่งนิพพานแล้ว
เราจะลงทุนแบบactive เน้นผลตอบแทนที่สูงไปทำไมครับ
ในเมื่อเงินที่เรามีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
และ การมีเงินที่เพิ่มขึ้นน่าจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา
เราควรทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติทำหรือปล่าว?
คือผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่ายังไงชีวิตนี้ต้องมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรมให้ได้
แต่ก็ยังโลภ อยากได้ผลตอบสูงๆอยู่ดี ทั้งๆที่ผลตอบแทนสูงๆ ไม่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเราเลย
เลยขอถามพี่ๆครับ ว่าพี่มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และจะbalance 2สิ่งนี้อย่างไรครับ?
ขอบคุณมากๆครับ
คำท่านพุทธทาส น่าจะตอบโจทย์ได้
คนเราทำได้ และมีได้ทุกสิ่ง แต่อย่ายึดว่าเป็น "ตัวกู ของกู" เท่านั้นเอง
และก็เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงด้วย
ผมเลยสงสัยว่า...
ถ้าเรามีเป้าหมายว่า
เราอยากมีปัญญาจากการปฏิบัติ
และปัญญานั้น จะพาเราไปสู่ทางแห่งนิพพานแล้ว
เราจะลงทุนแบบactive เน้นผลตอบแทนที่สูงไปทำไมครับ
ในเมื่อเงินที่เรามีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
และ การมีเงินที่เพิ่มขึ้นน่าจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา
เราควรทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติทำหรือปล่าว?
คือผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่ายังไงชีวิตนี้ต้องมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรมให้ได้
แต่ก็ยังโลภ อยากได้ผลตอบสูงๆอยู่ดี ทั้งๆที่ผลตอบแทนสูงๆ ไม่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเราเลย
เลยขอถามพี่ๆครับ ว่าพี่มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และจะbalance 2สิ่งนี้อย่างไรครับ?
ขอบคุณมากๆครับ
คำท่านพุทธทาส น่าจะตอบโจทย์ได้
คนเราทำได้ และมีได้ทุกสิ่ง แต่อย่ายึดว่าเป็น "ตัวกู ของกู" เท่านั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1401
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 36
พี่หมอจำคำถามที่มีคนถามอาจารย์ไพบูลย์ได้หรือเปล่า แล้วอาจารย์ไพบูลย์เค้าถามพี่หมอต่อว่าไปเรียน........ที่ไหน แล้วพี่หมอก็ตอบสามัญชน เขียน:ความฝันของผม อยากเป็นผู้มีปัญญาครับ
ไม่อยากทำอะไรแล้ว เพราะเป็นผู้ทำมานานแล้ว
ผู้คิดก็ไม่อยากเป็น เพราะปัญญาจากการคิดไม่ถูกใจผมนัก
ขอปัญญาจากการเป็นผู้รู้ครับ(ถ้ามีบุญพอนะครับ)
ผมเองที่เขียนขึ้นไปถาม เป้าหมายของผมเหมือนพี่หมอเลย ตั้งไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากจะบวชเมื่ีออายุไม่เกิน 60 ตอนนี้เลยต้องรีบหาเงินไว้ให้ลูกเมียใช้ครับ (คิดไว้ถ้ามีบุญพอเหมือนกันครับ)
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 37
ขอบคุณ พี่นริศ พี่ฉัตรชัย และพี่หมอสามัญชน
สำหรับแง่คิด ทุกๆอย่าง มากๆครับ
สำหรับแง่คิด ทุกๆอย่าง มากๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 185
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 38
สาธุครับพี่นาริสnaris เขียน:ถ้าพูดถึงความอยากให้ผลตอบแทนสูงๆ กับการเลือกหุ้นมันคนละประเด็นนะครับMaiFuen เขียน:ขอถามพี่หมอและพี่ๆทุกท่านครับ
ผมเห็นพี่ๆหลายๆท่านในเว็บนี้เน้นศึกษาและปฏิบัติธรรมกันอย่างจิงจัง
และก็เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงด้วย
ผมเลยสงสัยว่า...
ถ้าเรามีเป้าหมายว่า
เราอยากมีปัญญาจากการปฏิบัติ
และปัญญานั้น จะพาเราไปสู่ทางแห่งนิพพานแล้ว
เราจะลงทุนแบบactive เน้นผลตอบแทนที่สูงไปทำไมครับ
ในเมื่อเงินที่เรามีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
และ การมีเงินที่เพิ่มขึ้นน่าจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา
เราควรทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติทำหรือปล่าว?
คือผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่ายังไงชีวิตนี้ต้องมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรมให้ได้
แต่ก็ยังโลภ อยากได้ผลตอบสูงๆอยู่ดี ทั้งๆที่ผลตอบแทนสูงๆ ไม่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเราเลย
เลยขอถามพี่ๆครับ ว่าพี่มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และจะbalance 2สิ่งนี้อย่างไรครับ?
ขอบคุณมากๆครับ
จะคล้ายๆกับคำว่า จงทำงานแบบไม่หวังเงิน
พระอาจารย์ของผมสอนไว้ว่า เราทำหน้าที่(แต่ต้องเป็นกรรมดี)ที่ควรทำ และตอนกระทำก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย ส่วนผลที่ได้ไม่ต้องไปคาดหวัง เพราะความคาดหวังคือกิเลส ส่วนการปฏิบัติตามหน้าที่เป็นธรรม
ผมมาพิจารณาก็เห็นด้วยว่าถ้าเรามุ่งเน้นผลตอบแทน หรือ นำเราไปเทียบกับคนอื่น หรือ ไปสนใจราคาหุ้น สิ่งพวกนี้มีแต่เป็นต้นเหตุของความร้อนในจิตใจ แต่ถ้าเราเลือกกิจการที่เราจะลงทุน เลือกเสร็จก็เสร็จ คอยติดตามทุกไตรมาสเป็นระยะๆ นิสัยผมก็จะเลือกกิจการที่มีเวลาเป็นเพื่อน เพราะกิจการเขาดี กำไรก็วิ่งมาหาเรา อย่างนี้เราเป็นผู้ถือหุ้นก็สบายใจ ไม่ต้องไปเฝ้าหน้าจอ แต่ถ้าเราเลือกกิจการที่ไม่มีพื้นฐาน หรือเป็นหุ้นที่มีระเบิดเวลาวางไว้ในอนาคต เราก็ต้องแอกทีพเสมอๆ ไม่งั้นเงินเรามีโอกาสหาย อย่างนี้ผมไม่เอาครับ เพราะมันจะร้อน
การบาลานซ์สองสิ่งนี้ในคำตอบพี่คือ ไม่ต้องบาลานซ์ เพราะเวลาทำงาน คือเวลาปฎิบัติธรรมครับ
ลงทุนในความรู้ นำไปสู่อิสระภาพทางการเงิน
ลงทุนในบุญกุศล นำไปสู่อิสระภาพทางใจ
ลงทุนในบุญกุศล นำไปสู่อิสระภาพทางใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 39
ผมอยากเป็นคนที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและผู้อื่นครับ
สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากครับ
อยากสร้างโรงอาหารกลางวันฟรีสำหรับคนรายได้น้อย จะได้ท้องอิ่มมีแรงทำงานหารายได้ครับ
อยากสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรี เพื่อคนที่เจ็บป่วยไม่สบายจะได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น
อยากสร้างโรงเรียนเรียนฟรีที่มีคุณภาพเพื่อสอนให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคคลากรที่มีค่าต่อสั่งคม
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมถือว่าสบายมากเมื่อเทียบกับคนอื่นอีกหลายล้านคน ซึ่งก็เป็นกำไรชีวิตที่ได้มาอย่างคุ้มค่าแล้วครับ พอได้รับมาแล้วก็อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยครับ
สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากครับ
อยากสร้างโรงอาหารกลางวันฟรีสำหรับคนรายได้น้อย จะได้ท้องอิ่มมีแรงทำงานหารายได้ครับ
อยากสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรี เพื่อคนที่เจ็บป่วยไม่สบายจะได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น
อยากสร้างโรงเรียนเรียนฟรีที่มีคุณภาพเพื่อสอนให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคคลากรที่มีค่าต่อสั่งคม
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมถือว่าสบายมากเมื่อเทียบกับคนอื่นอีกหลายล้านคน ซึ่งก็เป็นกำไรชีวิตที่ได้มาอย่างคุ้มค่าแล้วครับ พอได้รับมาแล้วก็อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยครับ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 40
แค่คิดก็ได้บุญแล้วครับ ลงมือยิ่งได้มากขึ้นไปอีก996gt3 เขียน:ผมอยากเป็นคนที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและผู้อื่นครับ
สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากครับ
อยากสร้างโรงอาหารกลางวันฟรีสำหรับคนรายได้น้อย จะได้ท้องอิ่มมีแรงทำงานหารายได้ครับ
อยากสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรี เพื่อคนที่เจ็บป่วยไม่สบายจะได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น
อยากสร้างโรงเรียนเรียนฟรีที่มีคุณภาพเพื่อสอนให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคคลากรที่มีค่าต่อสั่งคม
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมถือว่าสบายมากเมื่อเทียบกับคนอื่นอีกหลายล้านคน ซึ่งก็เป็นกำไรชีวิตที่ได้มาอย่างคุ้มค่าแล้วครับ พอได้รับมาแล้วก็อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 289
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 41
เมื่อเป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้รู้แล้ว คิดว่าอยากหรือไม่อยากทำอะไรต่อไปอีกครับสามัญชน เขียน:ความฝันของผม อยากเป็นผู้มีปัญญาครับ
ไม่อยากทำอะไรแล้ว เพราะเป็นผู้ทำมานานแล้ว
ผู้คิดก็ไม่อยากเป็น เพราะปัญญาจากการคิดไม่ถูกใจผมนัก
ขอปัญญาจากการเป็นผู้รู้ครับ(ถ้ามีบุญพอนะครับ)
ห้ามตอบว่า ...เป็นผู้รู้ก่อนแล้วถึงจะรู้...
-
- Verified User
- โพสต์: 1187
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์ที่ 42
ผมว่าผู้รู้ในความหมายของพี่หมอสามัญชนคือผู้รูแจ้งแทงตลอด
ถ้าพูดในภาษาพระท่านก็คงเข้าใจกันดีว่าหมายถึงอะไร..แต่สิ่งนี้
จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องประกอบ ด้วย ทาน ศิล ภาวนาประกอบกันจน
เต็มกำลังของแต่ละบุคคลที่พึงประกอบกันมาจนส่งผลน้อมนำส่ง
ผลบุคคลที่พึงประพฤติไปถึงฝั่งฝัน..จนขาดจากอาสวะต่างๆภายใน
จิตใจโดยสิ้นเชิงไม่มีเชื้อแห่งทุกข์ไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิด..และโลกของ
วัฎสงสาร...การกลับมาเกิดแก่เจ็บตายก็คงไม่มีอีกแล้ว..อันนี้พระท่านว่าไว้
ไม่ใช่ผมนะ(กลายเป็นกระทู้ธรรมไปซะงั้น)
ถ้าพูดในภาษาพระท่านก็คงเข้าใจกันดีว่าหมายถึงอะไร..แต่สิ่งนี้
จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องประกอบ ด้วย ทาน ศิล ภาวนาประกอบกันจน
เต็มกำลังของแต่ละบุคคลที่พึงประกอบกันมาจนส่งผลน้อมนำส่ง
ผลบุคคลที่พึงประพฤติไปถึงฝั่งฝัน..จนขาดจากอาสวะต่างๆภายใน
จิตใจโดยสิ้นเชิงไม่มีเชื้อแห่งทุกข์ไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิด..และโลกของ
วัฎสงสาร...การกลับมาเกิดแก่เจ็บตายก็คงไม่มีอีกแล้ว..อันนี้พระท่านว่าไว้
ไม่ใช่ผมนะ(กลายเป็นกระทู้ธรรมไปซะงั้น)
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..