หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 1
1. นโยบาย QE ของประเทศพัฒนาแล้ว อเมริกา ญี่ปุ่น อียู จะทำให้ปริมาณเงินมีมหาศาล
2. เมื่ออเมริกา เป็นหนี้มหาศาล นโยบายที่ดีที่สุดของ อเมริกา คือ ทำให้ USD เฟ้อ ทำให้หนี้ที่แท้จริงของ อเมริกาลดลง
3. มาตราฐานการครองชีพที่สูงของประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง (เอาเปรียบประเทศจนมานาน)
4. ประเทศทีจนจะมีมาตราฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ยิ่งถ้ารัฐบาลไม่โกง ช่วงนี้เหมาะที่ประเทศไทยจะสร้าง Infrastructure อย่างมาก
(แทนที่จะมี USD ล้นประเทศก็เปลี่ยนเป็น รถไฟ รถไฟฟ้า บ่อน้ำ โรงไฟฟ้า ค่าเงินบาทก็จะไม่แข็งเกินไป)
5. หุ้นที่ดีของประเทศจน ก็จะซื้อในราคาพีอีมากกว่าประเทศรวย (เพราะบริษัทที่ดีในประเทศจนยังขยายตัวได้อีกมาก)
6. โชคดีแล้วที่เกิดในเมืองไทย เพราะเงินประมาณ 5 ล้านบาท มีหุ้นหลายตัวที่ให้เงินปันผล 3-5แสนบาทซึ่งถ้าใช้อย่างประหยัดก็อาจจะเรียกว่า
มีอิสระภาพทางการเงินได้
2. เมื่ออเมริกา เป็นหนี้มหาศาล นโยบายที่ดีที่สุดของ อเมริกา คือ ทำให้ USD เฟ้อ ทำให้หนี้ที่แท้จริงของ อเมริกาลดลง
3. มาตราฐานการครองชีพที่สูงของประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง (เอาเปรียบประเทศจนมานาน)
4. ประเทศทีจนจะมีมาตราฐานการครองชีพที่สูงขึ้น ยิ่งถ้ารัฐบาลไม่โกง ช่วงนี้เหมาะที่ประเทศไทยจะสร้าง Infrastructure อย่างมาก
(แทนที่จะมี USD ล้นประเทศก็เปลี่ยนเป็น รถไฟ รถไฟฟ้า บ่อน้ำ โรงไฟฟ้า ค่าเงินบาทก็จะไม่แข็งเกินไป)
5. หุ้นที่ดีของประเทศจน ก็จะซื้อในราคาพีอีมากกว่าประเทศรวย (เพราะบริษัทที่ดีในประเทศจนยังขยายตัวได้อีกมาก)
6. โชคดีแล้วที่เกิดในเมืองไทย เพราะเงินประมาณ 5 ล้านบาท มีหุ้นหลายตัวที่ให้เงินปันผล 3-5แสนบาทซึ่งถ้าใช้อย่างประหยัดก็อาจจะเรียกว่า
มีอิสระภาพทางการเงินได้
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 2
เลือกหุ้น แบบ วอเรนบัฟเฟต แล้วกัน
Blueplanet
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 3
โลกทุกวันนี้ซับซ้อนกันมากขึ้นกว่าเดิมมาก
เศรษฐกิจของเอเชียเติบโต ไทยเติบโต
เศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป มีปัญหา
แต่ไม่ได้หมายความว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทเอกชนในสหรัฐ ยุโรป จะย่ำแย่
ไม่ได้หมายความว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐ ยุโรป จะแย่เสมอไป เพราะปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่กลายเป็นบริษัทข้ามชาติไปหมดแล้ว
เศรษฐกิจของเอเชียเติบโต ไทยเติบโต
เศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป มีปัญหา
แต่ไม่ได้หมายความว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทเอกชนในสหรัฐ ยุโรป จะย่ำแย่
ไม่ได้หมายความว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐ ยุโรป จะแย่เสมอไป เพราะปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่กลายเป็นบริษัทข้ามชาติไปหมดแล้ว
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 4
หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับบริษัทยอดเยี่ยม ราคา undervalued
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 5
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 6
สมเหตุ สมผล ทีเดียวครับ ผมเห็นตรงกับ จขกท เลย
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นยังขึ้นได้อีกเยอะ สำหรับตลาดเกิดใหม่
โพสต์ที่ 8
แต่กระทู้นี้ โพสต์วันที่ 20/4/2554 วันที่ 21/4/2554 ขึ้น ไป 1113
แล้วลงตลอดจนต่ำสุดที่ 998 ผมรู้สึกว่าความเชื่อกับความจริงทำไมมันต่างกันมาก
แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังเชื่อว่าแนวโน้มใหญ่หุนก็ยังขึ้น(หุ้นที่ดี)
ขณะนี้หุ้นขึ้นมาสูงมาก(เทียบกับอดีตร) บางคนกลัววิกฤติต่าง
เมื่อเกิดแล้วจะกระทบกับหุ้นอย่างแรง แต่ผมไม่กลัววิกฤตเลย
วิกฤตที่เชื่อว่าจะทำให้หุ้นตกอย่างแรงจะแบ่งได้เป็น 5 ชนิด
1.ภัยธรรมชาติอย่างร้ายแรง แผ่นดินไหว ซึนามิ น้ำท่วม
2.อุบัติเหตุร้ายแรง
3.ก่อการร้ายขนาดใหญ่
4.สงคราม
5.เศรษฐกิจ ฟองสบู่ต่างๆ ดอกทิวลิป อสังหา ดอทคอม อีเล็คโทรนิค
ข้อ 1,2,3 ถึงจะเกิด ก็กระทบต่อหุ้นไม่มากและเป็นเวลาไม่นาน
ยกเว้น บริษัท หรือ โรงงาน โดนโดยตรง อย่างนั้นก็หนักหน่อย
แต่ก็มีทางหลีกเลี่ยงได้ และเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยเกิดแล้วค่อยมาว่ากัน
ข้อ 4.ถ้าเป็นสงครามเล็ก ก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นสงครามโลกก็ช่างมันเหอะเงิน
ที่มีก็ไร้ค่าเหมือนกัน
ข้อ 5.เป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว เช่นในปี 1929 หุ้นตกอย่างรุนแรงภายใน 3ปี
หุ้นเหลือ 10% ส่วนฟองสบู่ต่างๆก็ทำให้ทรัพย์สินมีค่าลดลงอย่างมาก
รวมทั้งหุ้น แต่ข้อนี้ผมก็เลิกกลัวแล้วหลังจาก ที่อเมริกา ใช้ QE1 QE2
เพราะต่อไปนี้สิ่งที่จะด้อยค่าไม่ใช่ทรัพย์สิน(ที่ก่อให้เกิดรายได้)แต่เป็นเงิน
ต่างหากที่จะด้อยค่า เลือกหุ้นที่ดีแล้ว อะไรจะเกิดก็ช่างหัวมัน
แล้วลงตลอดจนต่ำสุดที่ 998 ผมรู้สึกว่าความเชื่อกับความจริงทำไมมันต่างกันมาก
แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังเชื่อว่าแนวโน้มใหญ่หุนก็ยังขึ้น(หุ้นที่ดี)
ขณะนี้หุ้นขึ้นมาสูงมาก(เทียบกับอดีตร) บางคนกลัววิกฤติต่าง
เมื่อเกิดแล้วจะกระทบกับหุ้นอย่างแรง แต่ผมไม่กลัววิกฤตเลย
วิกฤตที่เชื่อว่าจะทำให้หุ้นตกอย่างแรงจะแบ่งได้เป็น 5 ชนิด
1.ภัยธรรมชาติอย่างร้ายแรง แผ่นดินไหว ซึนามิ น้ำท่วม
2.อุบัติเหตุร้ายแรง
3.ก่อการร้ายขนาดใหญ่
4.สงคราม
5.เศรษฐกิจ ฟองสบู่ต่างๆ ดอกทิวลิป อสังหา ดอทคอม อีเล็คโทรนิค
ข้อ 1,2,3 ถึงจะเกิด ก็กระทบต่อหุ้นไม่มากและเป็นเวลาไม่นาน
ยกเว้น บริษัท หรือ โรงงาน โดนโดยตรง อย่างนั้นก็หนักหน่อย
แต่ก็มีทางหลีกเลี่ยงได้ และเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยเกิดแล้วค่อยมาว่ากัน
ข้อ 4.ถ้าเป็นสงครามเล็ก ก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นสงครามโลกก็ช่างมันเหอะเงิน
ที่มีก็ไร้ค่าเหมือนกัน
ข้อ 5.เป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว เช่นในปี 1929 หุ้นตกอย่างรุนแรงภายใน 3ปี
หุ้นเหลือ 10% ส่วนฟองสบู่ต่างๆก็ทำให้ทรัพย์สินมีค่าลดลงอย่างมาก
รวมทั้งหุ้น แต่ข้อนี้ผมก็เลิกกลัวแล้วหลังจาก ที่อเมริกา ใช้ QE1 QE2
เพราะต่อไปนี้สิ่งที่จะด้อยค่าไม่ใช่ทรัพย์สิน(ที่ก่อให้เกิดรายได้)แต่เป็นเงิน
ต่างหากที่จะด้อยค่า เลือกหุ้นที่ดีแล้ว อะไรจะเกิดก็ช่างหัวมัน
Blueplanet