quality of earnings

[areliang]

จะยึดไปใยจะเกาะ ยิ่งแน่นหนามิอาจจะหลุดพ้น
ถ้าอยากทำ ทำดีได้ ก็มีสุขคุณอเนกอนันต์
แต่ถ้าไม่อยากทำ ทำไปจะทุกข์ไหม ถ้าไม่ทุกข์ สุขได้ก็ทำไป
ทำดีเถอะมีแต่คุณ

[viim]

ผมรู้สึกดีใจที่พวกเราคุยกันในเรื่องแบบนี้ ผมเห็นด้วยที่พวกเรามีศักยภาพสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมส่วนใหญ่ได้ เนื่องจากพวกเราส่วนใหญ่ถนัดเรื่องการลงทุน ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถสูงและส่วนหนึ่งได้เกษียณจากงานประจำทั้งๆที่ยังมีศักยภาพสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศได้ ผมเสนอว่าพวกเราน่าจะสละเงินส่วนหนึ่งมารวมกันแล้วให้เหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญใน thaivi มาบริหาร port โดยมีคณะกรรมการชุดหนึ่งคอยกำกับดูแล แล้วเรานำเม็ดเงินที่ได้จากเงินปันผลไปทำประโยชน์ ซึ่งผมเห็นด้วยกับหลายคนที่อยากทำประโยชน์ด้านการศึกษา ซึ่งผมเห็นว่าถ้าเป็นไปได้เราช่วยกันทำอะไรที่มากกว่าการบริจาคเงินได้เช่นสร้างโรงเรียน ห้องสมุดประชาชน จ้างครูดีๆสอนผ่าน teleconference ในถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ หรือเมื่อเกิดภัยพิบัติเราก็นำเงินปันผลส่วนนี้มาบริจาค เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี 20 ปี ผมว่า port น่าจะเติบโตและทำประโยชน์ที่ใหญ่มากขึ้นได้เรื่อยๆ ผมมองว่ามันจะยั่งยืนและคงอยู่กับ thaivi ตลอดไปครับ

-------------------------
Good idea มากเลย ในฐานะที่ผมอยู่ในวงการศึกษา มีความรู้สึกว่านักศึกษาปัจจุบันนี้ต่างกับคนรุ่นเก่าๆมาก อย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็เช่น จะเอาแต่เกรดดีๆ คะแนนดีๆ ไม่ชอบทำงานหนัก ไม่ชอบทำการบ้าน ไม่เป็นนักอ่าน ขาดความอยากรู้อยากเห็น จะทำอะไรก็ชอบอยากเห็นผลไวๆ ซึ่งแนวคิดแบบนี้จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำปุ๊บอยากได้ปั๊บ แบบเร็วๆ เรียนหนังสือแบบไม่ค่อยฝึกวิธีคิด ซึ่งผมว่าอันตรายมากต่อระบบการศึกษาของประเทศ

ผมเชื่อว่าพี่ๆ เพื่อนๆที่เป็นเซียนที่ประสบความสำเร็จในนี้ทุกท่าน เป็นคนชอบอ่าน ชอบค้น ชอบแงะ ฝึกฝนประสบการณ์ และทำงานหนักทุกคน กว่าเขาจะมีวันนี้

[คลายเครียด]

ยอมรับว่าที่มาของรายได้เกือบทั้งหมด
ถ้าตีความตามที่คุณเด็กใหม่ไฟแรงว่าไว้

รายได้ของผม ก็จัดเป็นรายได้ที่ไม่มีคุณภาพ

ในเมื่อรายได้เราไม่มีคุณภาพ
ก็คงมีอีกทางที่เราพอจะทำได้ก็คือ

ทำให้รายจ่ายของเรามีคุณภาพครับ


ไม่ใช้จ่ายไปเพื่อทำให้คนรอบตัวมีความทุกข์
เช่นเสพติดการเที่ยวกลางคืน ดื่มสุรา เข้าบ่อน ฯลฯ

พอเลยไปจากคนรอบตัว
ก็จ่ายคืนให้กับสังคม
ตาม margin of satisfaction ของตัวเองเช่น
เจอกล่องรับบริจาคที่ไหน น่าสนใจก็หยอดเงินลงไป ตามที่อยากจะบริจาค
เจอมูลนิธิไหนน่าสนใจ เดินผ่านไปเจอ ก็แวะเข้าไปบริจาค
มีจดหมายมาเชิญชวนบริจาค ก็บริจาคตามที่เราเห็นสมควร

[คนขายของ]

ขอตัดตอนเอามาบางส่วนของหนังสือ พระอานนท์ พุทธอนุชา

ของท่าน วศิน อิทสระ เพื่อให้ท่านทั้งหลายลองพิจารณาดู

ขอเชิญท่านทัศนาได้ ณ บัดนี้

----------------------------------------------------------------------------------------

วันรุ่งขึ้นนางวิสาขาได้ทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าและภิกษุสาวก เพื่อเสวยภัตตาหารที่บ้านตน พระพุทธองค์ทรงรับอาราธนาแล้วเสด็จสู่บ้านของนางวิสาขา เมื่อเสวยเสร็จแล้วมีพระพุทธประสงค์จะทรงอนุโมทนาและแสดงธรรมพอเป็นเครื่องปลื้มใจแห่งผู้ถวาย นางวิสาขาจึงให้คนไปเชิญบิดาสามีมาเพื่อร่วมฟังอนุโมทนาด้วย ตามปกติเศรษฐีไม่เลื่อมใสในพุทธศาสนา เวลานั้นยังศรัทธาคำสอนของนิครนถ์นาฏบุตรอยู่ ไม่ปรารถนาจะมาเฝ้าพระศาสดาเลย แต่ด้วยความเกรงใจลูกสะใภ้จึงมา พระผู้มีพระภาคทรงทราบอุปนิสัยและความรู้สึกของเศรษฐีดีอยู่แล้ว จึงทรงหลั่งพระธรรมเทศนาอันประกอบด้วยเหตุผล แพรวพราวไปด้วยเทศนาโวหารและอุทาหรณ์ พระองค์ตรัสว่าข้าวเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรือของที่บุคคลหวงแหน อย่างใดอย่างหนึ่ง รวมทั้งทาสกรรมกร คนใช้และผู้อาศัยอื่นๆ ทั้งหมดนี้บุคคลนำไปไม่ได้ ต้องทอดทิ้งไว้ทั้งหมด แต่สิ่งที่บุคคลทำด้วยกายวาจา หรือด้วยใจนั่นแหละที่จะเป็นของเขา เป็นสิ่งที่เขาต้องนำไปเหมือนเงาตามตัว เพราะฉะนั้นผู้ฉลาดพึงสั่งสมกัณยาณกรรมอันจะนำติดตัวไปสู่สัมปรายภพได้ เพราะบุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

พระองค์ตรัสว่าทรงเห็นด้วยกับคำกล่าวของบัณฑิตผู้หนึ่งที่ว่า "เมื่อไฟไหม้บ้าน ภาชนะเครื่องใช้อันใดที่เจ้าของนำออกไปได้ของนั้นก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ที่นำออกไม่ได้ถูกไฟไหม้วอดวายอยู่ ณ ที่นั้นเองฉันใด เมื่อโลกนี้ถูกไฟคือความแก่ความตายไหม้อยู่ก็ฉันนั้น คือผู้ฉลาดย่อมนำของออกด้วยการให้ทาน ของที่บุคคลให้แล้ว ชื่อว่านำออกดีแล้ว มีความสุขเป็นผล ส่วนของที่ยังไม่ได้ให้หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่โจรอาจขโมยเสียบ้างไฟอาจจะไหม้เสียบ้าง อีกอย่างหนึ่งเมื่อความตายมาถึงเข้า บุคคลย่อมละทรัพย์สมบัติและแม้สรีระของตนไว้ นำไปไม่ได้เลย ผู้มีปัญญารู้ความจริงข้อนี้แล้ว พึงบริโภคใช้สอย พึงให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เมื่อได้ให้ ได้บริโภคตามสมควรแล้ว เป็นผู้ไม่ถูกติเตียนย่อมเข้าสู่ฐานะอันประเสริฐ"

พระพุทธองค์ตรัสต่อไปว่า "ความตระหนี่ลาภเป็นความโง่เขลา เหมือนชาวนาผู้ไม่ฉลาดไม่ยอมหว่านพันธุ์ข้าวลงในนา เขาเก็บพันธุ์ข้าวปลูกไว้จนเน่าและเสียไม่สามารถจะปลูกได้อีก ข้าวเปลือกที่หว่านลงแล้ว ๑ เมล็ดย่อมได้ผล ๑ รวงฉันใด ทานที่บุคคลทำแล้วก็ฉันนั้น ย่อมมีผลมากผลไพศาล การรวบรวมทรัพย์ไว้โดยมิได้ใช้สอยให้เป็นประโยชน์ ทรัพย์นั้นจะมีคุณแก่ตนอย่างไร เหมือนผู้มีเครื่องประดับอันวิจิตรตระการตา แต่หาได้ประดับไม่เครื่องประดับนั้นจะมีประโยชน์อะไร รังแต่จะก่อความหนักใจในการเก็บรักษา

"นกชื่อมัยหกะชอบเที่ยวไปตามซอกเขา และที่ต่างๆ มาจับต้นเลียบที่มีผลสุกแล้วร้องว่า "ของกู ของกู" ในขณะที่มันร้องอยู่นั่นเอง หมู่นกเหล่าอื่นบินมากินผลเลียบตามต้องการแล้วจากไป นกมัยหกะก็ยังคงร้องว่า "ของกู ของกู" อยู่นั่นเอง ข้อนี้ฉันใด บุคคลบางคนในโลกนี้ก็ฉันนั้น รวบรวมสะสมทรัพย์ไว้มากมาย แต่ไม่สงเคราะห์ญาติตามที่ควร ทั้งมิใช้สอยเองให้ผาสุกมัวเฝ้ารักษาและภูมิใจว่า "ของเรามี ของเรามี" ดังนี้เมื่อเขาประพฤติอยู่เช่นนี้ทรัพย์สมบัติย่อมเสียหายไป ทรุดโทรมไปด้วยเหตุต่างๆ มากมาย เขาก็คงคร่ำครวญอยู่อย่างเดิมนั่นเอง และต้องเสียใจในของที่เสียไปแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ฉลาดหาทรัพย์ได้แล้ว พึงสงเคราะห์คนที่ควรสงเคราะห์มีญาติเป็นต้น

"ดู ก่อนท่านทั้งหลาย!" พระศาสดาตรัสต่อไป "ทรัพย์ของคนไม่ดีนั้นไม่สู้อำนวยประโยชน์แก่ใครเหมือนสระโบกขรณีอันตั้ง อยู่ในที่ไม่มีมนุษย์ แม้จะใสสะอาดจืดสนิท เย็นดี มีท่าลงสะดวกน่ารื่นรมย์ แต่มหาชนก็หาได้ดื่ม อาบ หรือใช้สอยตามต้องการไม่ น้ำนั้นมีอยู่อย่างไร้ประโยชน์ ทรัพย์ของคนตระหนี่ก็ฉันนั้น ไม่อำนวยประโยชน์สุขแก่ใครๆ เลย รวมทั้งตัวเขาเองด้วย

"ส่วนคนดีเมื่อมีทรัพย์แล้ว ย่อมบำรุงมารดา บิดา บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ให้เป็นสุข บำรุงสมณพราหมณาจารย์ให้เป็นสุข เปรียบเหมือนสระโบกขรณีอันอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านหรือนิคม มีท่าลงเรียบร้อยสะอาดเยือกเย็นน่ารื่นรมย์ มหาชนย่อมได้อาศัยนำไปอาบดื่มและใช้สอยตามต้องการ โภคะของคนดีย่อมเป็นดังนี้ หาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่

"ดู ก่อนท่านทั้งหลาย! นักกายกรรมผู้มีกำลังมากหรือนักมวยปล้ำซึ่งมีพลังมหาศาลนั้น ก่อนที่จะได้กำลังมาเขาก็ต้องออกกำลังไปก่อน การเสียสละนั้นคือการได้มาซึ่งผลอันเลิศในบั้นปลาย ผู้ไม่ยอมเสียสละอะไรย่อมไม่ได้อะไร จงดูเถิด! มนุษย์ทั้งหลายย่อมรดน้ำต้นไม้ที่โคน แต่ไม้นั้นย่อมให้ผลที่ปลาย ท่านทั้งหลายจงพิจารณาดูความจริงตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งเถิด คือแม่น้ำสายใดเป็นแม่น้ำตาย ไม่ไหลไม่ถ่ายเทไปสู่ที่อื่น หยุดนิ่ง ขังอยู่ที่เดียว แม่น้ำสายนั้นย่อมพลันตื้นเขินและสกปรกเน่าเหม็นเพราะสิ่งสกปรกลงมามิได้ ถ่ายเท นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ แม่น้ำสายนั้นจะหาพืชพันธุ์ธัญญาหารที่สวยสดก็หายาก แต่แม่น้ำสายใดไหลเอื่อยลงสู่ทะเล หรือแตกสาขาออกไปไหลเรื่อยไป มันไม่รู้จักหมดสิ้น คนทั้งหลายได้อาศัย อาบดื่ม และใช้สอยตามปรารถนา มันจะใสสะอาดอยู่เสมอไม่มีวันเหม็นเน่าหรือสกปรกได้เลย พืชพันธุ์ธัญญาหาร ณ บริเวณใกล้เคียงก็เขียวสดสวยงาม

"บุคคลผู้ตระหนี่ เมื่อได้ทรัพย์แล้วก็เก็บตุนไว้ ไม่ถ่ายเทให้ผู้อื่นบ้างก็เหมือนแม่น้ำตาย ไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใคร ส่วนผู้ไม่ตระหนี่เป็นเหมือนน้ำที่ไหลเอื่อยอยู่เสมอกระเสก็ไม่ขาด ทั้งยังเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นสาธุชนได้ทรัพย์แล้ว พึงบำเพ็ญตนเสมือนแม่น้ำซึ่งใสสะอาดไม่พึงเป็นเช่นแม่น้ำตาย

[doctornum]

ผมเคยวางแผนไว้ว่าหากผมมีเงินในพอร์ตหุ้น20ล้านเมื่อไหร่
ผมจะนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กเรียนดีแต่ยากจน

+Like ครับ เคยคิดแบบนี้เหมือนกันครับ อยากมีพอร์ต 9 หลัก ถ้าถึงเมื่อไหร่ จะทำประโยชน์ให้สังคมได้ วางแผนจะทำโน่นนี่ แต่ไปอ่านหนังสือเจอบอกว่า ให้ทำเดี๋ยวนี้เลย ถ้าอยากรวย ต้องรู้สึกถึงความมั่งคั่งก่อน ไม่ใช่ตัวเลขถึงเป้าแล้วถึงรู้สึกรวย ถ้ามีจิตใจอยากช่วยเหลือสังคมก็ทำเลยตอนนี้ ไม่ต้องรวยก็ทำได้ เช่นเดิมเคยคิดว่าถ้ารวยจะไปสร้างโรงเรียนให้เด็กในชนบท ก็ทำเลยตอนนี้ไม่ต้องสร้างคนเดียว โอนเงินบริจาคไป หรือสนับสนุนโรงเรียนในตจว. เค้าบอกว่าคุณไม่สามารถให้ในสิ่งที่คุณไม่มี เมื่อคุณเริ่มที่จะให้ จิตใจคุณก็จะเรียนรู้ว่าคุณมีเพียงพอ คุณมีความมั่งคั่งแล้ว ตอนนี้ก็เลยตั้งเป็นกฏว่าเงินเดือนออกทุกเดือนต้องทำบุญ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง 5-10 % (แต่ยังแอบนิดนึง ขอแบบหักภาษีได้นะครับ)

[choku]

In fact, there are numbers of children waiting for helping at YWCA ( at Sathon Rd ) .

Only 1600 baht can help one child for his or her one year of education.

No need to pressure ourself, just a one child of each year should be very very good start.

[Fon^^]

เป็นเหตุผลที่ทำให้ฝนยังทำงานถึงทุกวันนี้ค่ะ ^^

ไม่ได้เข้าเวป และ เล่นเน็ตนาน เปิดเจอกระทู้นี้อันแรก อ่านแล้วรู้สึกดีมากมายค่ะ

[SunShine@Night]

ปีนี้ผมเริ่มบริจาคเงินที่ได้จากการลงทุนในหุ้น มากขึ้นจากที่กัน 10% จากเงินปันผลไปทำบุญแล้ว โดยการติดต่อขอบริจาคทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนประถมที่ผมเคยเรียนอยู่เมื่อเยาว์วัย

ผมแบ่งทุนเป็น 4 ประเภทดังนี้

1. ทุนเรียนดี - คนที่เรียนเก่ง แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่ามีความตั้งใจในการเรียน ผมอยากให้รางวัลกับน้องๆ เหล่านี้เลยขอให้คณะกรรมการโรงเรียน เลือกน้องที่เรียนดีที่สุดมาให้ทุนครับ

2. ทุนตั้งใจเรียนแต่ยากจน - น้องๆ ที่ฐานะทางบ้านไม่ดีแต่มีความตั้งใจในการเรียน ผมก็อยากจะให้เขามีโอกาสทางการเงินเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

3. ทุนมารยาทดี - เด็กๆ เหล่านี้ น่าจะเป็นอย่างที่ดีแก่คนอื่นๆ ได้บ้าง

4. ทุนช่วยกิจกรรมโรงเรียน - จะได้กระตุ้นให้น้องๆ คนอื่นเห็นว่าการมีจิตอาสา ก็ไม่ทำแล้วเสียเปล่า ยังมีคนเห็น

[Onokung]

ปีนี้ผมเริ่มบริจาคเงินที่ได้จากการลงทุนในหุ้น มากขึ้นจากที่กัน 10% จากเงินปันผลไปทำบุญแล้ว โดยการติดต่อขอบริจาคทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนประถมที่ผมเคยเรียนอยู่เมื่อเยาว์วัย

เสี่ยซัน หน้าตาหล่อแล้วยังใจบุญด้วย

[investment biker]

ขอลองเสนอไอเดียหน่อย อาจเป็นลักษณะตั้งมูลนิธิให้ทุนการศึกษาเด็กคล้าย ๆ กับ world vision หรือ CCF (แต่ว่าองค์กรเหล่านี้มีค่า administrative expenses ทำให้เงินผู้บริจาคไม่ไปถึงเด็กทั้งหมด)

มีอยู่องค์กรหนึ่ง คล้าย ๆ กับ 2 องค์กรข้างต้น แต่เจ้าของมูลนิธิ commit ว่าเงินผู้บริจาคไปถึงเด็กทั้งหมด เจ้าของมูลนิธิเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบริหารมูลนิธิเอง น่าลองศึกษา model ของเค้าดู www.oceanwis.org เป็นมูลนิธิที่บริหารโดยหนูดี หนูหวาน 2 พี่น้อง

ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่รู้จักทั้ง 3 องค์กรข้างต้นเป็นการส่วนตัว เบื่องต้นผมแค่ลองอุปการะเด็ก ที่ละคน เพื่อเปรียบเทียบว่าต่างกันอย่างไร ของอย่างนี้ต้องดูกันนาน ๆ ว่าดีหรือเปล่า

ข้อดีคือผู้อุปการะสามารถช่วยเด็กได้ในระยะยาว เป็น long term commitment ส่วนตัวผมตั้งใจว่าจะส่งให้จบมหาวิทยาลัยทุกคน อีกหน่อยถ้า port ใหญ่ขึ้น คงเพิ่มจำนวนเด็กมากขึ้น แบบ snow ball
ค่าใช้จ่ายต่อคนต่อปีประมาณ 6,000 บาท

ข้อกังวลคือ ผมไม่แน่ใจว่าองค์กรข้างต้นมี efficiency ในการบริหารงานขนาดไหน เท่าที่ประสบมา พวก world vision, CCF ชอบส่ง marketing materials มาค่อนข้างบ่อย ทำให้สงสัยว่าค่าใช้จ่ายน่าจะสูงอยู่

ถ้าเป็นมูลนิธิ นริศและเพื่อน เน้นช่วยเด็กแถว ๆ ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคึยง ผมกะว่าจะอุปการะเด็กซัก 10 คนทันทีเลยครับ

[เด็กใหม่ไฟแรง]

ถ้าเป็นมูลนิธิ นริศและเพื่อน เน้นช่วยเด็กแถว ๆ ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคึยง ผมกะว่าจะอุปการะเด็กซัก 10 คนทันทีเลยครับ

ขอมีส่วนด้วยครับ

อาจจะเพิ่มอย่างอื่นๆด้วยก็ได้นะครับ
เช่น ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก คนเจ็บคนป่วย หรือญาติคนเจ็บป่วยที่มาดูแลคนป่วย
หรืออุปฐากสมณะที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ผมอยากมีส่วนทำบูญ ผ่านผู้ที่ตั้งใจทำบุญและมีบารมี(ทางธรรม)อยู่ด้วย

..................
เรื่องการช่วยอุปถัมภ์ญาติผู้ป่วยนี่ ผมเคยเห็นเคยพบมาหลายครั้งนะครับ
ผู้ป่วยมีคนช่วย มีการรักษาฟรี มียา มีหมอ มีที่นอน
แต่ญาติที่มาดูแล ไม่มีเงิน ไม่มีอาหาร ไม่มีที่นอน ไม่มีค่ารถ ไม่รู้จะไปไหนตอนกลางคืน
เพราะเขาห้ามญาตินอน ในห้องนอนคนไข้รวม
ลองถามพี่หมอๆที่ทำงาน รพ.รัฐดูก็ได้ครับ
ผมเห็นที่ศิริราชก็หลายครั้งครับ
ครั้งหนึ่ง แม่มาผ่าตัดหัวใจ ลูกสาวมาเฝ้า
ไม่มีเงิน ไม่มีที่นอนตอนกลางคืน
หายไปแอบนอนที่ไหนก็ไม่รู้ เช้ามาอยู่ก้บแม่ใหม่
ผมเชื่อว่า รพ.ต่างจังหวัดอย่างขอนแก่น เลย จะยิ่งมีมากครับ
...............

[dome@perth]

ถ้าเป็นมูลนิธิ นริศและเพื่อน เน้นช่วยเด็กแถว ๆ ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคึยง ผมกะว่าจะอุปการะเด็กซัก 10 คนทันทีเลยครับ

ขอมีส่วนด้วยครับ

อาจจะเพิ่มอย่างอื่นๆด้วยก็ได้นะครับ
เช่น ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก คนเจ็บคนป่วย หรือญาติคนเจ็บป่วยที่มาดูแลคนป่วย
หรืออุปฐากสมณะที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ผมอยากมีส่วนทำบูญ ผ่านผู้ที่ตั้งใจทำบุญและมีบารมี(ทางธรรม)อยู่ด้วย

..................
เรื่องการช่วยอุปถัมภ์ญาติผู้ป่วยนี่ ผมเคยเห็นเคยพบมาหลายครั้งนะครับ
ผู้ป่วยมีคนช่วย มีการรักษาฟรี มียา มีหมอ มีที่นอน
แต่ญาติที่มาดูแล ไม่มีเงิน ไม่มีอาหาร ไม่มีที่นอน ไม่มีค่ารถ ไม่รู้จะไปไหนตอนกลางคืน
เพราะเขาห้ามญาตินอน ในห้องนอนคนไข้รวม
ลองถามพี่หมอๆที่ทำงาน รพ.รัฐดูก็ได้ครับ
ผมเห็นที่ศิริราชก็หลายครั้งครับ
ครั้งหนึ่ง แม่มาผ่าตัดหัวใจ ลูกสาวมาเฝ้า
ไม่มีเงิน ไม่มีที่นอนตอนกลางคืน
หายไปแอบนอนที่ไหนก็ไม่รู้ เช้ามาอยู่ก้บแม่ใหม่
ผมเชื่อว่า รพ.ต่างจังหวัดอย่างขอนแก่น เลย จะยิ่งมีมากครับ
...............

ผมขอร่วมด้วยคนครับ
ใครจะเป็นคนเริ่ม เป็นตัวตั้งครับ
ผมอยู่ไกล คงช่วยได้แต่ทรัพย์สิน
คงช่วยเรื่องแรงไม่ได้ แต่หากได้กลับไปมีเวลา จะช่วยเต็มที่ครับ

[surachaichia]

"ดู ก่อนท่านทั้งหลาย!" พระศาสดาตรัสต่อไป "ทรัพย์ของคนไม่ดีนั้นไม่สู้อำนวยประโยชน์แก่ใครเหมือนสระโบกขรณีอันตั้ง อยู่ในที่ไม่มีมนุษย์ แม้จะใสสะอาดจืดสนิท เย็นดี มีท่าลงสะดวกน่ารื่นรมย์ แต่มหาชนก็หาได้ดื่ม อาบ หรือใช้สอยตามต้องการไม่ น้ำนั้นมีอยู่อย่างไร้ประโยชน์ ทรัพย์ของคนตระหนี่ก็ฉันนั้น ไม่อำนวยประโยชน์สุขแก่ใครๆ เลย รวมทั้งตัวเขาเองด้วย

"ส่วนคนดีเมื่อมีทรัพย์แล้ว ย่อมบำรุงมารดา บิดา บุตร ภรรยา บ่าวไพร่ให้เป็นสุข บำรุงสมณพราหมณาจารย์ให้เป็นสุข เปรียบเหมือนสระโบกขรณีอันอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านหรือนิคม มีท่าลงเรียบร้อยสะอาดเยือกเย็นน่ารื่นรมย์ มหาชนย่อมได้อาศัยนำไปอาบดื่มและใช้สอยตามต้องการ โภคะของคนดีย่อมเป็นดังนี้ หาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่

[happymom]

ถ้ามีกิจกรรมเกิดขึ้นจริง ยินดีเข้าร่วมตามกำลังค่ะ ได้กุศลและอยากตอบแทนweb นี้ด้วยค่ะ