มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 1
ผลวิจัยเตือนชาเขียวพร้อมดื่มร้ายยิ่งกว่าน้ำอัดลม คาเฟอีน น้ำตาลสูงปรี๊ด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2548 15:56 น.
เผยพบชาเขียวพร้อมดื่มมีคาเฟอีน-น้ำตาลสูงปรี๊ด โดยเฉพาะสูตรผสมน้ำผึ้ง น้ำตาล ร้ายยิ่งกว่าน้ำอัดลม แถมไร้คำเตือน ฉลากไม่ถูกต้อง เด็กและสตรีมีครรภ์ควรระมัดระวัง ส่ง 43 ตัวอย่างให้ม.มหิดลตรวจพบสารคาเฟอีนต่อขวดปริมาณสูง กระตุ้นอย.ตรวจเฝ้าระวังเข้มงวด พัฒนาฉลากโภชนาการเสริมภูมิคุ้มกันผู้บริโภค
วันนี้(5 เมษายน)ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดแถลงข่าว เรื่องชาเขียวพร้อมดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือคาเฟอีนซ่อนรูป โดยนายอิฐบูรณ์ อ้นวงศา ผู้ประสานงานฝ่ายเผยแพร่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณคาเฟอีนในชาเขียวแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ 2548 ที่ผ่านมาปรากฏว่า ชาเขียวบางรุ่นบางยี่ห้อไม่มีการแสดงปริมาณคาเฟอีนซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อผู้บริโภค โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้นำชาเขียวพร้อมดื่ม 43 ตัวอย่างส่งให้สถาบันวิจัยโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลทำการวิเคราะห์หาปริมาณคาเฟอีนทั้งหมด นำเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมอยู่โดยธรรมชาติและเติมเข้าไป พบว่า ชาเขียวพร้อมดื่มมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าคาเฟอีนในเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ชาเขียวพร้อมดื่มขนาดบรรจุ 500 มิลลิลิตร จากทั้งหมด 23 ตัวอย่าง มีถึง 15 ตัวอย่างหรือคิดเป็นร้อยละ 65.22 มีปริมาณคาเฟอีนเกิน 50 มิลลิกรัม/ขวด คือเฉลี่ยมีปริมาณคาเฟอีน 23.76-76.02 มิลลิกรัม/ขวด และขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ตัวอย่าง ตรวจพบปริมาณคาเฟอีนตั้งแต่ 77.27-103.48 มิลลิกรัมต่อขวด ในขณะที่ปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายรับได้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งในชีวิตประจำวันเราอาจได้รับสารคาเฟอีนจากอาหารอื่นๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น กาแฟ โกโก้ หรือเครื่องดื่มโคล่า เมื่อบริโภคชาเขียวพร้อมดื่มเข้าไปก็อาจทำให้ปริมาณสารคาเฟอีนในร่างกายสูงเกินมาตรฐานได้
นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากคาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่มชาเขียวแล้ว ความหวานในชาเขียวก็แฝงอันตรายสู่เด็กและวัยรุ่นด้วย ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดการบริโภคน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 10 ช้อนชา ซึ่งโครงสร้างร่างกายมีการเผาผลาญได้ 6 ช้อนชา ขณะที่สินค้าประเภทเครื่องดื่มชาเขียวเมื่อสำรวจข้อมูลด้านโภชนาการ โดยเฉพาะสูตรมีน้ำตาลหรือผสมน้ำผึ้งพบว่า มีหลายยี่ห้อมีปริมาณน้ำตาลในระดับที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคด้วยการบริโภคเพียงขวดเดียว
"จากการเปรียบเทียบน้ำตาลกับเครื่องดื่มโคล่า ที่เรามีความพยายามให้คนลดการบริโภคมาตลอด กลับพบว่าเครื่องดื่มชาเขียวจำพวกผสมน้ำผึ้งมีน้ำตาลถึง 13.75 ช้อนชาต่อขวด ขณะที่น้ำอัดลมมีน้ำตาล 13 ช้อนชาต่อชวด ซึ่งไม่แตกต่างกันเลย ส่วนชาเขียวผสมน้ำตาล พบว่ามีน้ำตาลสูงถึง 15.6 ช้อนชาต่อขวด และยิ่งกินทุกวัน วันละหลายๆ ขวด ทั้งปริมาณน้ำตาลและคาเฟอีนก็จะยิ่งสูงขึ้น จึงอยากให้ข้อมูลผู้บริโภคชี้ให้เห็นว่าเรากำลังบริโภคเพื่อสุขภาพหรือทำลายสุขภาพกันแน่ และขอเตือนอย่าให้เพลินไปกับการโปรโมทสินค้าที่กระตุ้นยอดขายเช่นการชิงโชคที่ไม่รู้ว่ากินกี่ขวดแล้วจะได้ แต่ผู้บริโภคกลับตกเป็นเหยื่อถูกชักจูงโดยทิศทางทางการตลาดโดยไม่รู้ตัว
นายอิฐบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคคือ ฉลากสินค้า ซึ่งในการประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 277 ซึ่งออกมาตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2546 ได้กำหนดให้ชาพร้อมดื่มต้องแสดงปริมาณคาเฟอีนหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิกรัม ด้วยอักษรสีเข้มเส้นทึบขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ที่อ่านได้ชัดเจนอยู่ในกรอบพื้นที่สีขาว บริเวณเดียวกับชื่ออาหารหรือชื่อสินค้า แต่พบว่า เครื่องดื่มที่มีการแสดงฉลากในตำแหน่งที่ถูกต้อง มียี่ห้อเดียวคือ ยี่ห้อซัมเมอร์ นอกจากนั้นไม่มียี่ห้อใดเลยที่แสดงตำแหน่งถูกต้อง แถมบางยี่ห้อไม่มีการแสดงปริมาณคาเฟอีนด้วย
นายอิฐบูรณ์ กล่าวว่า ข้อมูลในวันนี้เพื่อต้องการแจ้งเตือนผู้บริโภคทั้งกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มเสี่ยงคือเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี สตรีมีครรภ์ให้ความระมัดระวังในการบริโภค เนื่องจากอย.ยังไม่มีคำเตือนที่ชัดเจน เราจึงพยายามกดดันให้เก็บสินค้าที่ผิดกฎหมายออกไปตามที่อย.ได้ประกาศไว้ และหากผู้ฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
นอกจากนั้นอย.ควรดำเนินการเฝ้าระวังหมั่นตรวจสอบตลอดเวลา และเราจะนำข้อมูลที่ได้นี้ส่งต่อให้กับอย.ต่อไป ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานราชการปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนเรื่องปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มชาเขียวก็ควรมีการพัฒนาฉลากโภชนาการ เนื่องจากปัจจุบันนี้ถือเป็นความสมัครใจของเจ้าของสินค้าที่จะแสดงหรือไม่ก็ได้ ซึ่งอย.มีอำนาจที่จะบังคับให้สินค้าแสดงปริมาณน้ำตาล เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สุดท้ายอยากให้ผู้ประกอบการมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2548 15:56 น.
เผยพบชาเขียวพร้อมดื่มมีคาเฟอีน-น้ำตาลสูงปรี๊ด โดยเฉพาะสูตรผสมน้ำผึ้ง น้ำตาล ร้ายยิ่งกว่าน้ำอัดลม แถมไร้คำเตือน ฉลากไม่ถูกต้อง เด็กและสตรีมีครรภ์ควรระมัดระวัง ส่ง 43 ตัวอย่างให้ม.มหิดลตรวจพบสารคาเฟอีนต่อขวดปริมาณสูง กระตุ้นอย.ตรวจเฝ้าระวังเข้มงวด พัฒนาฉลากโภชนาการเสริมภูมิคุ้มกันผู้บริโภค
วันนี้(5 เมษายน)ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดแถลงข่าว เรื่องชาเขียวพร้อมดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือคาเฟอีนซ่อนรูป โดยนายอิฐบูรณ์ อ้นวงศา ผู้ประสานงานฝ่ายเผยแพร่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการสำรวจปริมาณคาเฟอีนในชาเขียวแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ 2548 ที่ผ่านมาปรากฏว่า ชาเขียวบางรุ่นบางยี่ห้อไม่มีการแสดงปริมาณคาเฟอีนซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อผู้บริโภค โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้นำชาเขียวพร้อมดื่ม 43 ตัวอย่างส่งให้สถาบันวิจัยโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลทำการวิเคราะห์หาปริมาณคาเฟอีนทั้งหมด นำเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมอยู่โดยธรรมชาติและเติมเข้าไป พบว่า ชาเขียวพร้อมดื่มมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าคาเฟอีนในเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ชาเขียวพร้อมดื่มขนาดบรรจุ 500 มิลลิลิตร จากทั้งหมด 23 ตัวอย่าง มีถึง 15 ตัวอย่างหรือคิดเป็นร้อยละ 65.22 มีปริมาณคาเฟอีนเกิน 50 มิลลิกรัม/ขวด คือเฉลี่ยมีปริมาณคาเฟอีน 23.76-76.02 มิลลิกรัม/ขวด และขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ตัวอย่าง ตรวจพบปริมาณคาเฟอีนตั้งแต่ 77.27-103.48 มิลลิกรัมต่อขวด ในขณะที่ปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายรับได้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งในชีวิตประจำวันเราอาจได้รับสารคาเฟอีนจากอาหารอื่นๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น กาแฟ โกโก้ หรือเครื่องดื่มโคล่า เมื่อบริโภคชาเขียวพร้อมดื่มเข้าไปก็อาจทำให้ปริมาณสารคาเฟอีนในร่างกายสูงเกินมาตรฐานได้
นายอิฐบูรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากคาเฟอีนที่มีอยู่ในเครื่องดื่มชาเขียวแล้ว ความหวานในชาเขียวก็แฝงอันตรายสู่เด็กและวัยรุ่นด้วย ซึ่งตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดการบริโภคน้ำตาลอยู่ที่ประมาณ 10 ช้อนชา ซึ่งโครงสร้างร่างกายมีการเผาผลาญได้ 6 ช้อนชา ขณะที่สินค้าประเภทเครื่องดื่มชาเขียวเมื่อสำรวจข้อมูลด้านโภชนาการ โดยเฉพาะสูตรมีน้ำตาลหรือผสมน้ำผึ้งพบว่า มีหลายยี่ห้อมีปริมาณน้ำตาลในระดับที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคด้วยการบริโภคเพียงขวดเดียว
"จากการเปรียบเทียบน้ำตาลกับเครื่องดื่มโคล่า ที่เรามีความพยายามให้คนลดการบริโภคมาตลอด กลับพบว่าเครื่องดื่มชาเขียวจำพวกผสมน้ำผึ้งมีน้ำตาลถึง 13.75 ช้อนชาต่อขวด ขณะที่น้ำอัดลมมีน้ำตาล 13 ช้อนชาต่อชวด ซึ่งไม่แตกต่างกันเลย ส่วนชาเขียวผสมน้ำตาล พบว่ามีน้ำตาลสูงถึง 15.6 ช้อนชาต่อขวด และยิ่งกินทุกวัน วันละหลายๆ ขวด ทั้งปริมาณน้ำตาลและคาเฟอีนก็จะยิ่งสูงขึ้น จึงอยากให้ข้อมูลผู้บริโภคชี้ให้เห็นว่าเรากำลังบริโภคเพื่อสุขภาพหรือทำลายสุขภาพกันแน่ และขอเตือนอย่าให้เพลินไปกับการโปรโมทสินค้าที่กระตุ้นยอดขายเช่นการชิงโชคที่ไม่รู้ว่ากินกี่ขวดแล้วจะได้ แต่ผู้บริโภคกลับตกเป็นเหยื่อถูกชักจูงโดยทิศทางทางการตลาดโดยไม่รู้ตัว
นายอิฐบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคคือ ฉลากสินค้า ซึ่งในการประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 277 ซึ่งออกมาตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2546 ได้กำหนดให้ชาพร้อมดื่มต้องแสดงปริมาณคาเฟอีนหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิกรัม ด้วยอักษรสีเข้มเส้นทึบขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ที่อ่านได้ชัดเจนอยู่ในกรอบพื้นที่สีขาว บริเวณเดียวกับชื่ออาหารหรือชื่อสินค้า แต่พบว่า เครื่องดื่มที่มีการแสดงฉลากในตำแหน่งที่ถูกต้อง มียี่ห้อเดียวคือ ยี่ห้อซัมเมอร์ นอกจากนั้นไม่มียี่ห้อใดเลยที่แสดงตำแหน่งถูกต้อง แถมบางยี่ห้อไม่มีการแสดงปริมาณคาเฟอีนด้วย
นายอิฐบูรณ์ กล่าวว่า ข้อมูลในวันนี้เพื่อต้องการแจ้งเตือนผู้บริโภคทั้งกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มเสี่ยงคือเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี สตรีมีครรภ์ให้ความระมัดระวังในการบริโภค เนื่องจากอย.ยังไม่มีคำเตือนที่ชัดเจน เราจึงพยายามกดดันให้เก็บสินค้าที่ผิดกฎหมายออกไปตามที่อย.ได้ประกาศไว้ และหากผู้ฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
นอกจากนั้นอย.ควรดำเนินการเฝ้าระวังหมั่นตรวจสอบตลอดเวลา และเราจะนำข้อมูลที่ได้นี้ส่งต่อให้กับอย.ต่อไป ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานราชการปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนเรื่องปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มชาเขียวก็ควรมีการพัฒนาฉลากโภชนาการ เนื่องจากปัจจุบันนี้ถือเป็นความสมัครใจของเจ้าของสินค้าที่จะแสดงหรือไม่ก็ได้ ซึ่งอย.มีอำนาจที่จะบังคับให้สินค้าแสดงปริมาณน้ำตาล เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สุดท้ายอยากให้ผู้ประกอบการมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วย
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 2
พักนี้ยิ่งดื่มบ่อยๆอยู่ ใรมีข้อเท็จจริง ช่วยเขียนบอกหน่อย
ถ้าผลการวิจัยชาเขียวมีคาเฟอีนมาก ไม่ได้กำจัดสารพิษ เหมือนงานวิจัยเมื่อก่อน
หุ้นโออิชิ จะเป็นยังไง......................................................
ถ้าผลการวิจัยชาเขียวมีคาเฟอีนมาก ไม่ได้กำจัดสารพิษ เหมือนงานวิจัยเมื่อก่อน
หุ้นโออิชิ จะเป็นยังไง......................................................
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 3
ดื่มชาเขียวร้อนวันละ2-4แก้ว ไม่ใส่น้ำตาล ดีกว่า
ไม่ควรแช่ใบชาทิ้งไว้ในน้ำนานเกิน แช่ประมาณ1-2นาที
รสชาติกำลังดี สารคาเฟอีนไม่ออกมามากเกิน และสารอะไรจำไม่ได้ที่ทำให้ท้องผูกไม่ออกมาเกินถึงกลับทำให้ท้องผูก
ไม่ควรแช่ใบชาทิ้งไว้ในน้ำนานเกิน แช่ประมาณ1-2นาที
รสชาติกำลังดี สารคาเฟอีนไม่ออกมามากเกิน และสารอะไรจำไม่ได้ที่ทำให้ท้องผูกไม่ออกมาเกินถึงกลับทำให้ท้องผูก
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 118
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 5
งั้นผมกลับไปกินน้ำอัดลมดีกว่านะซิ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 7
8) ที่จริงแล้วไม่ใช่ข่าวใหม่เลย
อย่างกาแฟกระป๋อง ของเพื่อนซี้นายก คาเฟอีนสูงกว่า
ถ้ารัฐบาลแน่จริง
เขียนกฏหมายออกมาเลย
ว่าเครื่องดื่มต้องมีคาเฟอีนไม่เกินเท่าไหร่
ถ้าเกินจับบริษัทผลิตปรับให้ล้มละลายยึดทรัพย์ไปเลย จับเจ้าของบริษัท ไปติดคุกเลย
นี่เป็นแผนการตลาดชัดๆ ชี้ให้ อย. ออกมาเบรกตลาด
ดีแต่พูด แต่ไม่มีมาตรการชัดเจน
กำหนดบทลงโทษมาซิถ้าแน่จริง
ก็เพราะเจ้าเก่า พวกกาแฟกระป๋อง น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
ถูกแชร์ส่วนแบ่งจนทนไม่ได้
ถ้าคนรู้จริง เข้ามาอ่าน
บอกให้รู้หน่อยซิ
ระหว่างกาแฟกระป๋อง พวก เบรอแล้วพี่ (เบอ-ดี้)
ใครมีคาเฟอีนมากกว่ากัน
แล้วอย่างงี้ชาขาว คงศึกหนัก จะตายก่อนคลอดหรือเปล่า
แต่ผมว่า ทานน้ำเปล่าดีกว่า ไม่มีอะไรให้ว่ากัน หุหุ
อย่างกาแฟกระป๋อง ของเพื่อนซี้นายก คาเฟอีนสูงกว่า
ถ้ารัฐบาลแน่จริง
เขียนกฏหมายออกมาเลย
ว่าเครื่องดื่มต้องมีคาเฟอีนไม่เกินเท่าไหร่
ถ้าเกินจับบริษัทผลิตปรับให้ล้มละลายยึดทรัพย์ไปเลย จับเจ้าของบริษัท ไปติดคุกเลย
นี่เป็นแผนการตลาดชัดๆ ชี้ให้ อย. ออกมาเบรกตลาด
ดีแต่พูด แต่ไม่มีมาตรการชัดเจน
กำหนดบทลงโทษมาซิถ้าแน่จริง
ก็เพราะเจ้าเก่า พวกกาแฟกระป๋อง น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
ถูกแชร์ส่วนแบ่งจนทนไม่ได้
ถ้าคนรู้จริง เข้ามาอ่าน
บอกให้รู้หน่อยซิ
ระหว่างกาแฟกระป๋อง พวก เบรอแล้วพี่ (เบอ-ดี้)
ใครมีคาเฟอีนมากกว่ากัน
แล้วอย่างงี้ชาขาว คงศึกหนัก จะตายก่อนคลอดหรือเปล่า
แต่ผมว่า ทานน้ำเปล่าดีกว่า ไม่มีอะไรให้ว่ากัน หุหุ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 9
คาเฟอีน เป็นยาเสพติด อย่างหนึ่งนะครับ
เด๊ยวใส่น้อยไป ก็ไม่ดีครับ เด๊ยวไม่ติด คนก็ไม่กินของเค้า ยอดก็ตกสิครับ
เด๊ยวใส่น้อยไป ก็ไม่ดีครับ เด๊ยวไม่ติด คนก็ไม่กินของเค้า ยอดก็ตกสิครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 10
คือผมว่ามันเป็นเพราะ กาแฟเนี่ยคนทั่วไปรู้อยู่แล้วว่ามีคาเฟอีน แล้วก็มีกฎหมายสั่งให้ติดปริมาณข้างกระป๋องแ้ล้วหนิครับ
แต่ชาเขียวเนี่ย โฆษณากันว่าดีต่อสุขภาพ ไม่มีพูดถึงคาเฟอีนเลย
แต่ชาเขียวเนี่ย โฆษณากันว่าดีต่อสุขภาพ ไม่มีพูดถึงคาเฟอีนเลย
_________
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 11
ที่พูดว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วทำไม คาเฟอีนและน้ำตาลถึงได้สูงนักละครับ
การเปิดเผยข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชนรับทราบเป็นสิ่งที่ดีครับ
แล้วผมก็มีความเห็นว่าตลาดชาเขียวน่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากตลาดน้ำอัดลมและตลาดน้ำผลไม้มากกว่ากาแฟนะครับ
การเปิดเผยข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชนรับทราบเป็นสิ่งที่ดีครับ
แล้วผมก็มีความเห็นว่าตลาดชาเขียวน่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากตลาดน้ำอัดลมและตลาดน้ำผลไม้มากกว่ากาแฟนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 12
กาแฟกระป๋อง เท่าที่รู้(ผมเคยอยู่บริษัทที่พี่ปรัชญาว่าถึงข้างบน)
แย่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจากพวกสิงห์รถบรรทุก โดยเฉพาะกระป๋องคาดแดง
ขนาดของเพื่อนนายก ทำทีหลังแย่งแชร์ไม่ได้ซักที (ทิ้งห่างเรื่อยๆ)
ชาเขียว น่าเข้าข่ายเดียวกับกาแฟกระป๋อง คือต้องแจ้งปริมาณคาเฟอีนซึ่ง
อย ยอมให้มีได้สูงกว่าพวกชูกำลัง เนื่องจากคาเฟอีนของกาแฟกับชามาจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ
ขณะที่พวกชูกำลัง มีการเติมเข้าไปตามสูตร
แย่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจากพวกสิงห์รถบรรทุก โดยเฉพาะกระป๋องคาดแดง
ขนาดของเพื่อนนายก ทำทีหลังแย่งแชร์ไม่ได้ซักที (ทิ้งห่างเรื่อยๆ)
ชาเขียว น่าเข้าข่ายเดียวกับกาแฟกระป๋อง คือต้องแจ้งปริมาณคาเฟอีนซึ่ง
อย ยอมให้มีได้สูงกว่าพวกชูกำลัง เนื่องจากคาเฟอีนของกาแฟกับชามาจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ
ขณะที่พวกชูกำลัง มีการเติมเข้าไปตามสูตร
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- zolomon
- Verified User
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 14
แต่ผมสงสัยอย่าง วันนี้ซื้อชาพร้อมดื่มของเนสเล่ย์ ที่เป็นกล่องคล้าย ๆ นม
ก็ไม่เห็นบอกว่ามีคาแฟอีนเลย ไม่เขียนเลยด้วย แต่ทีของชาเขียว บอกผิดตำแหน่งยังเอามาลงกัน
สมกันที่เค้าลือกันว่า สององค์กรนี้ มีอะไรลับลมคมใน
ก็ไม่เห็นบอกว่ามีคาแฟอีนเลย ไม่เขียนเลยด้วย แต่ทีของชาเขียว บอกผิดตำแหน่งยังเอามาลงกัน
สมกันที่เค้าลือกันว่า สององค์กรนี้ มีอะไรลับลมคมใน
“If we wait for the moment when everything, absolutely everything is ready, we shall never begin.”
Ivan Turgenev
Ivan Turgenev
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
มีข่าวเด่น ดื่มชาเขียวมากเป็นอันตราย
โพสต์ที่ 16
เนสเล่ย์ ถ้าเข้าตลาดแล้วไม่น่าเหมือน TNX กับ TFI ครับ เพราะคนละเจ้าของ
เพื่อนนายก เป็นแค่หุ้นส่วนของโรงงานผลิตกาแฟเท่านั้นครับ
แต่ถ้าเนสเล่ย์เข้าตลาดยังไงก็คงไม่เข้าตลาดไทยหรอกครับ...........มันเล็กไป
เพื่อนนายก เป็นแค่หุ้นส่วนของโรงงานผลิตกาแฟเท่านั้นครับ
แต่ถ้าเนสเล่ย์เข้าตลาดยังไงก็คงไม่เข้าตลาดไทยหรอกครับ...........มันเล็กไป
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan