เท่าที่เข้าใจเกี่ยวกับคำว่า ประสิทธิภาพของตลาด คือความสามารถในการกำหนดราคาซื้อขายให้อยู่ในจุดที่คุ้มค่าทั้งสำหรับคนซื้อและคนขายใช่ไหมครับ
ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพมาก ซื้อหุ้นตัวไหนก็จะคุ้มค่าหมด ไม่ขาดทุนมากไป ไม่กำไรเกินควร
และ VI ชอบตลาดหุ้นที่ไม่มีประสิทธิภาพมากกว่าหรือเปล่าครับเพราะสามารถฉกชิงจังหวะที่ตลาดกำลัง delay แสดงค่าที่แท้จรืงไม่ทัน ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าคุณค่าของมันมาได้
คำว่า "ประสิทธิภาพของตลาด"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 340
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำว่า "ประสิทธิภาพของตลาด"
โพสต์ที่ 2
The Eficient Market Hypothesis (EMH)
เป็นทฤษฎีที่พูดถึงเกี่ยวกับความเร็วของราคาในการสะท้อนข้อมูล
โดยหากตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด ราคาตลาดของหุ้นจะเท่ากับราคาที่เหมาะสม
ซึ่งระดับของประสิทธิภาพของตลาดแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1.Weak-Form Efficiency
ในระดับ Weak-Form นั้นกล่าวว่า ราคาหุ้นในปัจจุบัน ได้สะท้อนข้อมูลของในอดีตทั้งหมดแล้ว ดังนั้น หากตลาดอยู่ในระดับ Weak การลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวได้
2.Semistrong-Form Efficieny
หากตลาดอยู่ในระดับ Semistrong Form แล้ว ราคาปัจจุบันของหุ้นได้สะท้อนข้อมูลสาธารณะทั้งหมดแล้ว ดังนั้นการนำข้อมูลต่างๆที่เปิดเผยสู่สาธารณะแล้ว มาวิเคราะห์(การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน) ไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวได้
3.Strong-Form Efficiency
ในระดับ Strong-Form กล่าวว่า ราคาปัจจุบันของหุ้นได้สะท้อนทั้งข้อมูลที่เปิดเผยในที่สาธารณะและข้อมูลภายในทั้งหมดแล้ว ดังนั้นนักลงทุนจะไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวโดยใช้ข้อมูลภายในได้
จากผลการวิจับพบว่าตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ Weak และ Semistrong นอกจากนี้ Buffett ได้พิสูจน์จากผลตอบแทนการลงทุนของเค้าแล้วว่า ตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา(บางครั้งราคาตลาดก็เป็นราคาเหมาะสมแต่บางครั้งก็ไม่)
เป็นทฤษฎีที่พูดถึงเกี่ยวกับความเร็วของราคาในการสะท้อนข้อมูล
โดยหากตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด ราคาตลาดของหุ้นจะเท่ากับราคาที่เหมาะสม
ซึ่งระดับของประสิทธิภาพของตลาดแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
1.Weak-Form Efficiency
ในระดับ Weak-Form นั้นกล่าวว่า ราคาหุ้นในปัจจุบัน ได้สะท้อนข้อมูลของในอดีตทั้งหมดแล้ว ดังนั้น หากตลาดอยู่ในระดับ Weak การลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวได้
2.Semistrong-Form Efficieny
หากตลาดอยู่ในระดับ Semistrong Form แล้ว ราคาปัจจุบันของหุ้นได้สะท้อนข้อมูลสาธารณะทั้งหมดแล้ว ดังนั้นการนำข้อมูลต่างๆที่เปิดเผยสู่สาธารณะแล้ว มาวิเคราะห์(การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน) ไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวได้
3.Strong-Form Efficiency
ในระดับ Strong-Form กล่าวว่า ราคาปัจจุบันของหุ้นได้สะท้อนทั้งข้อมูลที่เปิดเผยในที่สาธารณะและข้อมูลภายในทั้งหมดแล้ว ดังนั้นนักลงทุนจะไม่สามารถทำกำไรเหนือตลาดในระยะยาวโดยใช้ข้อมูลภายในได้
จากผลการวิจับพบว่าตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ Weak และ Semistrong นอกจากนี้ Buffett ได้พิสูจน์จากผลตอบแทนการลงทุนของเค้าแล้วว่า ตลาดไม่ได้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา(บางครั้งราคาตลาดก็เป็นราคาเหมาะสมแต่บางครั้งก็ไม่)
การเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นจากการยอมรับ