บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตอนนี้ บล.กรุงศรีอยุธยา ประกาศ ตั้งแต่วันท่ี 1 กรกฎาคมนี้ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่ีเก่ียวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดหลักเกณฑ์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ตามขั้นบันได ซ่ึงมีผลตั้งแต่วันท่ี 1 มกราคม 2554 โดยบล.รับภาระเเทน สำหรับมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อวันท่ีมีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาทเป็นระยะเวลาหน่ึงแล้วนั้น โดยค่าธรรมเนียมท่ีเรียกเก็บเพ่ิมประกอบด้วย

- ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เรียกเก็บตามอัตรลขั้นบันได โดยคำนวณตามมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ ฯ 0.005 % ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ 0.001 % ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล 0.0018 % ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน

เลยอยากรู้ว่า จะทำให้ต้นทุนในการซื้อขายเพ่ิมขึ้นมาก-น้อยขนาดไหน? แล้วมี บล.ไหนจะเรียกเก็บอีกไหม รวมทั้งมี บล.ไหนท่ีไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นตำ่ในการซื้อขายบ้างครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1286
ผู้ติดตาม: 1

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:8) อึม ที่เอเชียพล้สก็แจ็งมาเหมือนกันครับ
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
                                           วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
Notelio
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1021
ผู้ติดตาม: 1

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 3

โพสต์

จะทำให้ต้นทุนในการซื้อขายเพ่ิมขึ้นมาก-น้อยขนาดไหน? แล้วมี บล.ไหนจะเรียกเก็บอีกไหม รวมทั้งมี บล.ไหนท่ีไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นตำ่ในการซื้อขายบ้างครับ?


เท่าที่ทราบส่วนที่เพิ่มนี้เป็นส่วนที่ต้องนำส่งให้ตลท. ส่วนที่เพิ่มก็คิดง่ายๆ เมื่อก่อนเทรด 1 ล้าน จ่ายค่าคอม 2500 บาท ก็เพิ่มอีก 78 บาท เป็น 2578 บาท จริงๆ ส่วนนี้เขาเก็บกันก่อนหน้านี้ระยะนึงแล้วสำหรับลูกค้าที่ เทรดเกิน 5 ล้านขึ้นไป ส่วนคนที่เทรดต่ำกว่า 5 ล้านต่อวัน ทางโบรกชดเชยส่วนนี้ให้ แต่ตอนนี้เหมือนกับทุกโบรคจะพร้อมใจผลักส่วนนี้คืนให้กับนักลงทุนลักษณะก็เหมือน vat น่ะแหละครับ ว่าผู้ขายจะรับภาระ หรือจะผลักให้ผู้ซื้อรับแทน
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 4

โพสต์

รู้สึกว่า หลาย บล.มีการประกาศในลักษณะนี้แล้วนะครับ มีบล.ไหนท่ียังไม่ประกาศบ้างครับ แล้วมีผลกับนักลงทุนรายย่อยอย่างไรบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 5

โพสต์

KimEng ก็เก็บเพิ่มครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Taonoi
Verified User
โพสต์: 103
ผู้ติดตาม: 0

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้างั้นก็หมายความว่า เราต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มจากที่ต้องมีการจ่ายขั้นต่ำด้วยใช่ไหมครับ อ่านแล้ว งง ๆ ครับ สมมุติว่าถ้าเราซื้อ 10,000 บาท นี่ ต้องเสียทั้งหมดเท่าไรครับ นอกจากขั้นต่ำ 50 บาท บวก 7% vat
MrRobot
Verified User
โพสต์: 1291
ผู้ติดตาม: 0

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 7

โพสต์

รวมทั้งหมดก็เพิ่มขึ้น 0.0078% ครับ

ดังนั้น
Rate 0.25% ก็จะเป็น 0.2578%, Trade 1,000,000 จะเสียค่าโบรค 2578 บาทไม่รวม Vat
Rate 0.20% ก็จะเป็น 0.2078%, Trade 1,000,000 จะเสียค่าโบรค 2078 บาทไม่รวม Vat
Rate 0.15% ก็จะเป็น 0.1578%, Trade 1,000,000 จะเสียค่าโบรค 1578 บาทไม่รวม Vat
VI Robot The Great
ภาพประจำตัวสมาชิก
coffee.tum
Verified User
โพสต์: 163
ผู้ติดตาม: 0

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 8

โพสต์

บล.ธนชาต ก็เก็บครับ...

น่าจะเก็บเหมือนกันหมดนะครับ.....

:oops: :oops:
_________________________________________
http://www.facebook.com/diaryinvestment ===>Page ผมเองครับ
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

Re: บล.กรุงศรีอยุธยา เก็บค่าซื้อขายหุ้นเพ่ิมเร่ิม 1ก.ค.2554

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ASP เก็บเพิ่มเหมือนกัน ซึ่งมีหนังสือ เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีว่า
ซื้อขายน้อยกว่า 5 ล้านบาทไม่ต้องเสียในส่วนนี้

แสดงว่า พฤติกรรมการซื้อขายเปลี่ยนแปลง ทำให้ภาระโบรกเกอร์เพิ่มขึ้น
ประกอบกับยอดการซื้อขายรวมของตลาดหดตัวลดลง โบรกเกอร์แบกภาระไม่ไหวแล้วตอนนี้

ก้าวต่อไปคือ
ตลท และ กลต เก็บค่าต๋งมาเกินไปหรือเปล่า
เดี๋ยวถ้าหาก Broker จับ Matching กันเองล่ะเดี๋ยวหาไม่ออกแน่นอน
:)
:)
โพสต์โพสต์