<<ตลาดทรงประสิทธิภาพ>>

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

ราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวสารทุกอย่างหมดแล้ว

เพื่อนๆเชื่อคำพูดนี้ไหมครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

[Stock Broker]

เลือนลอยครับ

ในเมื่อแต่ละคนตัดสินใจรับความเสี่ยงและผลตอบแทนไม่เท่ากัน รวมทั้งยังคาดหวังอนาคตไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะรับทราบข่าวสารพร้อมๆ กันได้ (ซึ่งในทางปฏิบัติเองก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี คนใกล้ชิดยังไงก็รู้ก่อน) ก็ยังตัดสินใจไม่เหมือนกัน

คนๆ เดียวกันให้ตัดสินใจ 2 ครั้ง บางทียังเปลี่ยนใจเลย นับประสาอะไรกับตลาดหุ้นที่มีผู้เล่นเข้าๆ ออกๆ ตลอดเวลาครับ

[คัดท้าย]

.........

[เพื่อนพูห์]

"ผมคงจะต้องถือกระป๋อง ขอทานไปตามท้องถนน ถ้าหากว่าตลาดมีประสิทธิภาพ" - วอเรนท์ บัฟเฟต

ถึงว่า...
ทำไมมิสเตอร์บัฟเฟตไม่มาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเลย
เพราะตลาดหุ้นไทย ทรงประสิทธิภาพมั๊กๆ

[Muffin]

เฮ้อ.....

[อินทรีทอง]

เพราะตลาดหุ้นไทย ทรงประสิทธิภาพมั๊กๆ

ในเรื่องการเอาเปรียบรายย่อยหรือเปล่าครับ

[adi]

ไม่เชื่อแต่ไม่ประมาท

[สามัญชน]

:lol: :lol: :lol: :lol:

อืม.........นั่นสิครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีคนมหาศาลเชื่ออย่างสนิทใจได้อย่างไร

:lol: :lol: :lol: :lol:

[yoyo]

:lovl: ก๊ากๆๆๆๆๆๆกกกๆๆๆ :lovl:

[yoyo]

ขอลองเล่นกะเค้าบ้าง


:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:


เบี๊ยวแฮะ

[Dech]

โอโฮ้ ท่าน yoyo สามารถมากๆ

ทรงประสิทธิภาพแบบ ชิวๆ หมายถึงตลาดนะครับ ไม่ใช่ท่าน yoyo :lol: :lol:

[ลูกอิสาน]

คำตอบจากคุณ FE ชัดเจนมากครับ

เป็นทฤษฎีที่มีในตำราเท่านั้น
แต่ไม่มีจริงในโลกการเงินครับ

[chatchai]

ตอนเรียน MBA วิชาที่ผมให้ความสนใจน้อยที่สุดก็คือ Investment นี้ละครับ

ทฤษฎีส่วนใหญ่ มักจะเน้นไปทางสถิติ อย่างสูตรคำนวณราคา Warrant ที่นักวิเคราะห์ทั้งหลายชอบใช้กัน

ผมว่ามันไม่เห็นจะสอดคล้องกับความจริงกันเลย

และนักวิเคราะห์ทั้งหลายจะมีซักกี่คนที่เข้าใจถึงที่มาของสูตรในการคำนวณ หรือรู้แค่ว่าค่าต่างๆนำมาจากไหน แล้วก็คำนวณตามสูตรไป

[Tongue]

กำลังคิด เกี่ยวกับอันนี้พอดีครับหลังจากได้เรียน econometrics มา

ผมคิดว่า
มันจะมีประสิทธิภาพได้ ถ้าคุณสามารถ เขียน function เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ถูกต้องครับ
Y = beta1 + beta2 X1 +beta3 X2 +... U

ซึ่ง ถ้าผมเก่งขนาดเขียน model ได้ ผมก็คงจะไปขาย model มากกว่า เอาสูตรมาลงทุนเอง 555

สรุปว่า ถ้าไม่มี model ก็ยังเชื่อไม่ได้

ผมอ่านแล้วมันส์ดีครับ แม้จะไม่รู้เรื่องเลย ก็ต้องลองของซะหน่อย 55

Y = beta1 + beta2 X1 +beta3 X2 +... +U
beta1 + beta2 X1 +beta3 X2 = deterministric (systemetric) variables
U = nonsystemetric variable

deterministric variable คือ ผลประกอบการของธุรกิจ
U = nonsystemetric variable ( ความผันผวน ) ไม่สามารถเขียนป็น function ได้ เพราะ intrinsic human randomness และ ข้อจำกัดอื่นๆ อย่าเสียเวลาไปคิดให้เมื่อยตุ้ม

เพราะฉะนั้น
Y = ผลประกอบการ + ความผันผวน
Y = intricsic value + U
( Y =ราคาปัจจุบัน, ราคาของตลาดที่แสนจะทรงประสิทธิภาพ ที่ยังคงไม่มี function ตายตัว)

**หุ้นบางตัว Y = 0.01*intricsic value (ที่แสนห่วย) + U หุ้นพวกนี้ความผันผวนสูงมาก คาดเดาไม่ได้ ไม่ยุ่งดีที่สุด

มันส์ๆ เอาอีกๆ

model ราคา ของตลาด "ไม่มี" ประสิทธิภาพ (y)
เลยต้องเสียเวลามาคิดเอง 55

y = beta1 + beta2 X1 +beta3 X2 +... U (where y = ราคาที่ควรจะซื้อ)
y = determinstric variables + nonsystematic variables

deterministric variables สามารถหา data ได้จากงบการเงิน เรียกว่า intrinsic value
nonsystematic หาลำบาก ไม่ต้องเสียเวลาหา แต่มันมีอยู่จริง จึงควร apply margin of safety rule into the model

*margin of safety ไม่ใช่ U แต่เอามาควบคุม U ฉะนั้น make sure ว่ามันเพียงพอ
ใน intricsic value ก็มี U ในอนาคต (มิติที่ 4) จึงควรนำมาคิดรวมด้วย

ฉะนั้น
y = intrisic value + margin of safety

combine 2 models

Y = intricsic value + U
(Y =ราคาปัจจุบัน, ราคาของตลาดที่แสนจะทรงประสิทธิภาพ ที่ยังคงไม่มี function ตายตัว)

y = intrisic value + margin of safety
(y ราคาทีควรจะซื้อ = ราคาที่ควรจะเป็น + ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย)

assume that

Y = y
intricsic value + U = intrinsic value +margin of safety

then
U = margin of safety

apply idea into real investing world

Y = y means nothing worths
Y < y means margin of safety over U, invest
Y > y means margin of saftey is not enough, wait or sell

สรุปว่า อย่าสนใจ ราคาตลาดที่เกิดจาก U มากนักเลย
สนใจ intricsic value ดีกว่า
เอา margin of safety มาใส่เพื่อความปลอดภัย สบายใจกว่าเยอะ

เอาอีกหน่อย

model ธุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพ
A= X+Y+Z
where
X = ศักยภาพการทำกำไร
Y = ความสามารถในการป้องกัน X
Z = เวลาในการเพิ่มประสิทธิภาพ X กับ Y

model การลงทุนที่ทรงประสิทธิภาพ (อันนี้ของ warren เลย ก็อปมา)
A = X+Y+Z
where
X = look through earnings (การประเมิณ ธุรกิจ)
Y = margin of safety
Z = time

พอดีกว่า เดี๋ยวหัวล้านก่อนวัยอันควร 55

[genie]

เชื่อครับว่าราคาหุ้นสะท้อนข่าวสารแล้ว เพราะราคาหุ้นคือผลลัพธ์ของความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่บริโภคข่าวสารและข้อมูลของหุ้นนั้นๆ "แต่(เน้น)" ผมไม่เชื่อครับว่าข่าวสารที่ถูกสะท้อนออกมาเป็นราคาหุ้นคือมูลค่าของหุ้นที่แท้จริง

[soytee]

อมพระมาพูดก็ม่ายเชื่อ ยากกกกกกส์ :lovl: :lovl: :lovl:

[Mon money]

ตลาดหุ้นหรือตลาดอื่นๆที่มีประสิทธิภาพมักจะสะท้อนข่าวสารข้อมูลครับ แต่ไม่ตลอดเวลา และที่สำคัญวิจารญานของผู้ลงทุนไม่ตรงกัน และจะต้องไม่ตรงกันครับไม่งันไม่มีทางเกิดการซื้อขายกันได้

ตลาดหุ้นทุกที่ขับดันด้วยความกลัวและความโลภซึ่งเกิดจากการรับรู้ข่าวสารข้อมูลครับ เมื่อข่าวยังไม่ชัดเจนก็จะเกิดการเก็งกำไร แต่เมื่อข่าวเริ่มชัดจะเกิดการแปลความหมายแตกต่างกัน บางคนบอกแพงแล้วจึงขาย บางคนบอกยังซื้อได้จึงซื้อ จนสุดท้ายเกิดสมดุลย์ช่วงสั้นๆ(สั้นมากๆขอบอก) แล้วจะกระตุกไปกระตุกมาตามเดิม

ตามทฤษฎีก็ต้องตั้งสมมุติฐานซักอย่าง จะบอกว่าไม่สะท้อนก็ไม่ถูก สะท้อนหมดจดก็ไม่ได้

แต่ขอบอกว่าบ้านเรามันสะท้อนข่าวสารข้อมูลครับ แต่มันถูกกลุ่มคนทำให้ความหนักแน่นของข้อมูลเปลี่ยนไป เพราะรู้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่หนักแน่น เช่นนั้นเอง

[เพื่อน]

คุณมน อธิบายเฉียบจริงๆ...ได้แง่คิดดีครับ
นับถือ นับถือ

[por_jai]

คุณเพื่อน รูปประกอบชื่อเนี่ย หนูน้อยบีเว่อร์ ใช่อะป่าว
ตอนเด็กๆติดงอมแงม จำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้ จำได้ว่ามีพี่ชายชื่อวิลลี่
มีคนบอกว่าคนจะแก่เนี่ย ต้องมีองค์ประกอบ3อย่าง
ชอบของขม ชมหญิงสาว แล้วก็ เล่าความหลัง จิงป่าวหว่า...

[Mon money]

ผมว่าผมก็เข้าข่ายนั้นเลยครับ

กินยาขมแก้ร้อนในได้อย่างสบาย ไม่เหมือนเมื่อก่อน

พักนี้เด็กสาวข้างบ้านดตขึ้นมากและสวยเสียด้วย

ชอบเล่าความหลังบ่อยๆ

หลายคนบอกว่าผมแก่แล้ว โดยเฉพาะผบ.ทบ.ที่บ้าน

[เพื่อน]

คุณเพื่อน รูปประกอบชื่อเนี่ย หนูน้อยบีเว่อร์ ใช่อะป่าว

ใช่แล้วครับ หนูน้อย บีเวอร์ ชื่อจริง(ในหนัง) ทีออดอร์ เคลวเวอร์ บีเวอร์ มีพี่ชายชื่อ วอลลี่ ครับ ไม่ใช่วิลลี่.... :lol: :lol: :lol:
จำได้ว่าหนังสนุก น่ารักมากๆ แต่จำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้เหมือนกันครับ อยากให้มีคนเอากลับมาฉายใหม่จัง

แสดงว่า คุณpor_jai ก็คงแก่พอๆกับคุณมน สิครับ
ผมคงยังไม่แก่มั้งครับ เพราะไม่ชอบของขม แต่หญิงสาวเนี่ยชอบมากมานานแล้วครับ เห็นทีไรแพ้ทุกที รู้สึกวิงเวียนคล้ายๆจะเป็นลม...... :lol: :lol: :lol:

รู้สึกไม่ค่อยเกี่ยวกับ ตลาดทรงประสิทธิภาพ แล้วนะครับ...

[ch_army]

ผมว่าจะเกิดแบบนั้นได้ ทุกคนต้องมีสติปัญญาที่ค่อนข้างเท่าเทียมกัน และมีมุมมองเพียงแค่ ขาย หรือซื้อไม่มีสองจิตสองใจ ทำการลงทุนอย่างมีเหตุผลมากๆ และมีอารมณ์เพียงเล็กน้อย จึงจะอำนวยให้ระบบ สะท้อนราคาที่อิงตามความเป็นจริงๆได้มากๆครับ