อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อตลาดหุ้นมั้ยครับ?
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อตลาดหุ้นมั้ยครับ?
โพสต์ที่ 2
ในระดับนึงก็ใช่ ราคาหุ้นจะสูงจน dividend yield มันต่ำกว่าดอกเบี้ยระยะยาว 5 ปีของตราสารอย่างพันธบัตรไม่ได้นานหรอกครับ ถึงแม้หุ้นจะมี growth รวมลงไปด้วย เพราะว่าความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนมันก็ต้องสูงขึ้นครับ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องต้นทุนทางการเงินของบริษัท ที่เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น บริษัทที่มีหนี้ที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ก็ย่อมจะมีค่าใช้จ่ายทางการเิงินเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องต้นทุนทางการเงินของบริษัท ที่เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น บริษัทที่มีหนี้ที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ก็ย่อมจะมีค่าใช้จ่ายทางการเิงินเพิ่มขึ้น
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อตลาดหุ้นมั้ยครับ?
โพสต์ที่ 3
ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น มีผลครับ
ถ้าเอาแบบมองภาพเป็นบริษัทๆ ไป
ดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นกระทบต่อบริษัทที่กู้เงินมากๆ
ทำให้บริษัทนั้นมีภาระมาก
(WACC เพิ่ม WACC ประกอบด้วย ต้นทุนเงินกู้ที่สามารถเครมภาษีได้ส่วนหนึ่ง+prefer stock (เมืองไทยไม่ค่อยได้เห็นล่ะ)+ต้นทุนของเจ้าของ
ตัวที่เพิ่มคือ ต้นทุนเงินกู้เพิ่ม)
เมื่อดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม ทำให้บ้างโครงการกระทบว่าไม่สามารถทำได้ คือ ทำแล้วไม่คุ้มค่า กับดอกเบี้ยจ่ายไป
กระแสเงินสดทั้งโครงการติดลบนั้นเอง หรือ เท่ากับ 0 ก็ไม่ทำกันแล้ว (หรือดูว่า ผลตอบแทนที่เป็น % ต่ำกว่าดอกเบี้ยจ่าย)
แล้วต้องถามนักลงทุนว่า เอาอะไรเทียบคือเอาดอกเบี้ยเงินฝากเทียบหรือเปล่า
ถ้าใช่ถือว่ายังไม่เป็นตัววัดที่ดีพอเพราะว่า ดอกเบี้ยเงินฝากของเหล่าธนาคารไทยนั้น
บิดเบือนระบบไว้ เพราะ ธนาคารถือตัวว่าสามารถจัดการเรื่อง เงินไหลเข้าเงินออกได้ดี มีอำนาจในการกินส่วนต่างของดอกเบี้ย จึงกดดอกเบี้ยเงินฝากไว้ และ ให้ดอกเบี้ยเงินสูงไว้ เพื่อให้ส่วนต่างๆมากๆ ตัวเองนอนสบาย
แต่ปัจจุบันแข่งขันกันรุนแรงเลยทำให้ เรียกเก็บค่าธรรมเนี่ยมแทนได้มากกว่า ส่วนต่างของดอกเบี้ย
ถ้าเอาแบบมองภาพเป็นบริษัทๆ ไป
ดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นกระทบต่อบริษัทที่กู้เงินมากๆ
ทำให้บริษัทนั้นมีภาระมาก
(WACC เพิ่ม WACC ประกอบด้วย ต้นทุนเงินกู้ที่สามารถเครมภาษีได้ส่วนหนึ่ง+prefer stock (เมืองไทยไม่ค่อยได้เห็นล่ะ)+ต้นทุนของเจ้าของ
ตัวที่เพิ่มคือ ต้นทุนเงินกู้เพิ่ม)
เมื่อดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม ทำให้บ้างโครงการกระทบว่าไม่สามารถทำได้ คือ ทำแล้วไม่คุ้มค่า กับดอกเบี้ยจ่ายไป
กระแสเงินสดทั้งโครงการติดลบนั้นเอง หรือ เท่ากับ 0 ก็ไม่ทำกันแล้ว (หรือดูว่า ผลตอบแทนที่เป็น % ต่ำกว่าดอกเบี้ยจ่าย)
แล้วต้องถามนักลงทุนว่า เอาอะไรเทียบคือเอาดอกเบี้ยเงินฝากเทียบหรือเปล่า
ถ้าใช่ถือว่ายังไม่เป็นตัววัดที่ดีพอเพราะว่า ดอกเบี้ยเงินฝากของเหล่าธนาคารไทยนั้น
บิดเบือนระบบไว้ เพราะ ธนาคารถือตัวว่าสามารถจัดการเรื่อง เงินไหลเข้าเงินออกได้ดี มีอำนาจในการกินส่วนต่างของดอกเบี้ย จึงกดดอกเบี้ยเงินฝากไว้ และ ให้ดอกเบี้ยเงินสูงไว้ เพื่อให้ส่วนต่างๆมากๆ ตัวเองนอนสบาย
แต่ปัจจุบันแข่งขันกันรุนแรงเลยทำให้ เรียกเก็บค่าธรรมเนี่ยมแทนได้มากกว่า ส่วนต่างของดอกเบี้ย