เริ่มมีอาการเป็นเช่นนั้นครับพี่ Jeng ด้วยความเคารพ แต่ไม่ได้เป็น ดัชนีชี้วัดใดๆ สำหรับผม ผมยังถือคำ ดร. ที่ว่า Stay calm Stay investJeng เขียน:แล้วตอนนี้เป็นอย่างนั้นหรือไม่ครับDekfaifah เขียน:ตลาดหุ้นจะบูมมาก ที่ผมมองเห็นก็ตอนที่ เพื่อนๆ เห็นผมเริ่มมีกำไร เริ่มมาถามว่า กำไรหุ้นหรอ เริ่มอยากเล่นหุ้น ปากต่อปาก จากเพื่อน สู่เพื่อนของเพื่อน เป็นวงกว้าง
ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบมมาก
โพสต์ที่ 31
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบมมาก
โพสต์ที่ 32
ครับ ก็คร่าวๆก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับDekfaifah เขียน:เริ่มมีอาการเป็นเช่นนั้นครับพี่ Jeng ด้วยความเคารพ แต่ไม่ได้เป็น ดัชนีชี้วัดใดๆ สำหรับผม ผมยังถือคำ ดร. ที่ว่า Stay calm Stay investJeng เขียน:แล้วตอนนี้เป็นอย่างนั้นหรือไม่ครับDekfaifah เขียน:ตลาดหุ้นจะบูมมาก ที่ผมมองเห็นก็ตอนที่ เพื่อนๆ เห็นผมเริ่มมีกำไร เริ่มมาถามว่า กำไรหุ้นหรอ เริ่มอยากเล่นหุ้น ปากต่อปาก จากเพื่อน สู่เพื่อนของเพื่อน เป็นวงกว้าง
ปีเตอร์ ลินก็บอกว่า ให้ระวัง ตอนที่คนเข้ามาเล่นหุ้นกันเยอะๆ
น่าจะเป็นดัชนีชีวัดได้ครับ
- blackninja
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 33
ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นไทยถึง 700% ตั้งแต่ปี 2538 ที่ผ่านมา โดยหุ้นอินโดนีเซียทำระดับสูงสุดใหม่ไปแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีส่วนลด 36% จากระดับสูงสุดที่ 1,754 จุด ในปี 2537 โดย UBS ประเมินช่องว่างระหว่าง GDP ของไทยและความสัมพันธ์กับ SET Index และพบว่าเริ่มเห็นช่องว่างที่ลดลง และเป็นรูปแบบเดียวกับประเทศอินโดนีเซีย โดยตลาดหุ้นไทยคาดว่าหากช่องว่างดังกล่าวจะสมดุลกันตลาดหุ้นไทยยังขึ้นได้อีก 30% จากระดับราคาปัจจุบัน ที่มาจาก บล.UBS
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 34
คนที่เคยผ่านประสบการณ์ปี 40 จะรู้เองว่าฟองสบู่เป็นอย่างไร? ใกล้แตกหรือยัง?
บรรยากาศช่วงนั้นฮึกเหิมมาก
เล่นหุ้นเหมือนปาเป้า ตัวไหนก็ได้เงิน
ตื่นเช้าขึ้นมาต้องมีหุ้น ceiling อย่างน้อยหนึ่งตัว
แม้แต่บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุน หุ้นก็ขึ้น ...ไม่รู้จักคำว่า dilute
เป้าหมายดัชนี 2000 จุด
เงินทองหาง่ายไปหมด เหมือนเงินลอยอยู่ในอากาศ
คนไทยสนุกสนานกันมาก กินโต๊ะจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย
หารู้ไม่ว่าฝรั่งเขาลุกกันไปหมดแล้ว
หารู้ไม่ว่าเจ้าหนี้มายืนทวงหนี้อยู่หน้าประตูแล้ว
สุดท้ายคนไทยลุกเป็นคนสุดท้าย ต้องเป็นผู้จ่ายทั้งโต๊ะรอบวง
บรรยากาศช่วงนั้นฮึกเหิมมาก
เล่นหุ้นเหมือนปาเป้า ตัวไหนก็ได้เงิน
ตื่นเช้าขึ้นมาต้องมีหุ้น ceiling อย่างน้อยหนึ่งตัว
แม้แต่บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุน หุ้นก็ขึ้น ...ไม่รู้จักคำว่า dilute
เป้าหมายดัชนี 2000 จุด
เงินทองหาง่ายไปหมด เหมือนเงินลอยอยู่ในอากาศ
คนไทยสนุกสนานกันมาก กินโต๊ะจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย
หารู้ไม่ว่าฝรั่งเขาลุกกันไปหมดแล้ว
หารู้ไม่ว่าเจ้าหนี้มายืนทวงหนี้อยู่หน้าประตูแล้ว
สุดท้ายคนไทยลุกเป็นคนสุดท้าย ต้องเป็นผู้จ่ายทั้งโต๊ะรอบวง
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 35
ปัจจัย ลบ บ้าง..
1. ดอกเบี้ย ขึ้นมา หลายครั้งแล้ว และ กำลังจะขึ้น อีก เป็น 3.75%
ถ้า risk free rate สูง ตลาดก็ต้องให้ premium ที่ สูงขึ้น ก็ จะ หาหุ้น ยาก ขึ้น
2. เงินเฟ้อสูงมากๆ ราคา ไข่ไก่ เดี๋ยวนี้ ขาย 10 ฟอง ข้าวแกงฟูดเซนเตอร์ กับ 2 อย่าง แต่ ก่อน 25บาท now 45บาท
น้ำอัดลมแก้วละ 20บาท ที่ ฟูดเซ็นเตอร์ แบบนี้ คนกินเงินเดือน จะมี เงินเก็บเหลือซักเท่าไร
ถ้า ดอลล่าร์ตก น้ำมันก็ต้องขึ้น เงินเฟ้อก็มาอีก
3. คอนโดก็ ออกมามาเหลือเกินใน 2-3ปี นี้
4. รถไฟฟ้าแน่น เป็น ปลากระป๋อง แถมแต่ ก่อน สถานนี้ เดียว 10บาท เดี๋ยวนี้ 15
5. ถ้าขึ้น ค่าแรง 300 บาท โรงงาน ต่างๆ จะกำไร น้อยลง? เช่น พวก เสื้อ เฟอร์นิเจอร์ หรือ สร้างบ้าน
6. ต่างประเทศ ยุโรป อเมริกาแย่ แล้ว ส่งออก ยังจะโตได้ อีกเท่าไหร่
7. ภัยธรรมชาติ ก็ บ่อยขึ้น น้ำท่วม ทุกปี
8. การเมืองดีขึ้น ..แต่ก็ยังไม่ ลงหลักปักฐานมั่นคง อะไรได้
1. ดอกเบี้ย ขึ้นมา หลายครั้งแล้ว และ กำลังจะขึ้น อีก เป็น 3.75%
ถ้า risk free rate สูง ตลาดก็ต้องให้ premium ที่ สูงขึ้น ก็ จะ หาหุ้น ยาก ขึ้น
2. เงินเฟ้อสูงมากๆ ราคา ไข่ไก่ เดี๋ยวนี้ ขาย 10 ฟอง ข้าวแกงฟูดเซนเตอร์ กับ 2 อย่าง แต่ ก่อน 25บาท now 45บาท
น้ำอัดลมแก้วละ 20บาท ที่ ฟูดเซ็นเตอร์ แบบนี้ คนกินเงินเดือน จะมี เงินเก็บเหลือซักเท่าไร
ถ้า ดอลล่าร์ตก น้ำมันก็ต้องขึ้น เงินเฟ้อก็มาอีก
3. คอนโดก็ ออกมามาเหลือเกินใน 2-3ปี นี้
4. รถไฟฟ้าแน่น เป็น ปลากระป๋อง แถมแต่ ก่อน สถานนี้ เดียว 10บาท เดี๋ยวนี้ 15
5. ถ้าขึ้น ค่าแรง 300 บาท โรงงาน ต่างๆ จะกำไร น้อยลง? เช่น พวก เสื้อ เฟอร์นิเจอร์ หรือ สร้างบ้าน
6. ต่างประเทศ ยุโรป อเมริกาแย่ แล้ว ส่งออก ยังจะโตได้ อีกเท่าไหร่
7. ภัยธรรมชาติ ก็ บ่อยขึ้น น้ำท่วม ทุกปี
8. การเมืองดีขึ้น ..แต่ก็ยังไม่ ลงหลักปักฐานมั่นคง อะไรได้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 36
ขอบคุณครับ ช่วยกันมองลบให้มากๆด้วยครับ จะได้มีมุมมองที่กว้างขวางขึ้นimerlot เขียน:ปัจจัย ลบ บ้าง..
1. ดอกเบี้ย ขึ้นมา หลายครั้งแล้ว และ กำลังจะขึ้น อีก เป็น 3.75%
ถ้า risk free rate สูง ตลาดก็ต้องให้ premium ที่ สูงขึ้น ก็ จะ หาหุ้น ยาก ขึ้น
2. เงินเฟ้อสูงมากๆ ราคา ไข่ไก่ เดี๋ยวนี้ ขาย 10 ฟอง ข้าวแกงฟูดเซนเตอร์ กับ 2 อย่าง แต่ ก่อน 25บาท now 45บาท
น้ำอัดลมแก้วละ 20บาท ที่ ฟูดเซ็นเตอร์ แบบนี้ คนกินเงินเดือน จะมี เงินเก็บเหลือซักเท่าไร
ถ้า ดอลล่าร์ตก น้ำมันก็ต้องขึ้น เงินเฟ้อก็มาอีก
3. คอนโดก็ ออกมามาเหลือเกินใน 2-3ปี นี้
4. รถไฟฟ้าแน่น เป็น ปลากระป๋อง แถมแต่ ก่อน สถานนี้ เดียว 10บาท เดี๋ยวนี้ 15
5. ถ้าขึ้น ค่าแรง 300 บาท โรงงาน ต่างๆ จะกำไร น้อยลง? เช่น พวก เสื้อ เฟอร์นิเจอร์ หรือ สร้างบ้าน
6. ต่างประเทศ ยุโรป อเมริกาแย่ แล้ว ส่งออก ยังจะโตได้ อีกเท่าไหร่
7. ภัยธรรมชาติ ก็ บ่อยขึ้น น้ำท่วม ทุกปี
8. การเมืองดีขึ้น ..แต่ก็ยังไม่ ลงหลักปักฐานมั่นคง อะไรได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 37
4 มค 2537 SET ทำจุดสูงสุด 1789 จุด หลังจากผ่านปีแห่งความสุข นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่าในปี 37 SET จะเดินหน้าต่อจากแรงซื้อของต่างชาติ แต่ผิดคาดเปิดตลาดหลังปีใหม่นลท.ตปท.ทุบแบบไม่ยั้ง นลท.ไทยคิดว่าแค่ตลาดปรับฐานหวังเข้าไปรับของถูก หุ้นถูกแล้วมีถูกอีกขายให้แบบกระหน่ำ สุดท้ายตลาดไหลลงมายาว หลายคนหมดตัวสาปส่งตลาดหุ้นหลัง จากเหตุการณ์ครั้งนั้นนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศข่าวหนึ่งคือมีนลท.รายย่อยที่หมดตัวเพราะถูกฟอร์ซเซลจากการเล่นหุ้นมาร์จิ้น พยายามจะฆ่าตัวตายโดยใช้ปืนจ่อที่คอที่ตึกของตลาดหลักทรัพย์จนผจก.ตลาดในขณะนั้นต้องลงมาเจรจาด้วยตัวเองtech เขียน:คนที่เคยผ่านประสบการณ์ปี 40 จะรู้เองว่าฟองสบู่เป็นอย่างไร? ใกล้แตกหรือยัง?
บรรยากาศช่วงนั้นฮึกเหิมมาก
เล่นหุ้นเหมือนปาเป้า ตัวไหนก็ได้เงิน
ตื่นเช้าขึ้นมาต้องมีหุ้น ceiling อย่างน้อยหนึ่งตัว
แม้แต่บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุน หุ้นก็ขึ้น ...ไม่รู้จักคำว่า dilute
เป้าหมายดัชนี 2000 จุด
เงินทองหาง่ายไปหมด เหมือนเงินลอยอยู่ในอากาศ
คนไทยสนุกสนานกันมาก กินโต๊ะจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย
หารู้ไม่ว่าฝรั่งเขาลุกกันไปหมดแล้ว
หารู้ไม่ว่าเจ้าหนี้มายืนทวงหนี้อยู่หน้าประตูแล้ว
สุดท้ายคนไทยลุกเป็นคนสุดท้าย ต้องเป็นผู้จ่ายทั้งโต๊ะรอบวง
ไม่มีอะไรครับเห็นมีการย้อนหลังประวัติศาสตร์กัน ผมเองก็ไม่ทันเหตุการนั้นทั้งหมด แต่เข้ามาตลาดหลังจากนั้น 1 ปี สภาพเงียบเหงา ซื้อหุ้นตัวนึงจะกำไร 10-20% ยังยากเลยครับ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้นถ้าสัดส่วนนลท.ต่างประเทศลดลงกว่านี้ เพราะกองทุนต่างชาติส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นกองทุนเก็งกำไรครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 38
นั่นซิครับ เพราะเห็นว่าหุ้นขึ้นมาเยอะ ตั้ง 1789 ก็เลยคิดว่าจะไปต่อleky เขียน:4 มค 2537 SET ทำจุดสูงสุด 1789 จุด หลังจากผ่านปีแห่งความสุข นักลงทุนในตลาดคาดหวังว่าในปี 37 SET จะเดินหน้าต่อจากแรงซื้อของต่างชาติ แต่ผิดคาดเปิดตลาดหลังปีใหม่นลท.ตปท.ทุบแบบไม่ยั้ง นลท.ไทยคิดว่าแค่ตลาดปรับฐานหวังเข้าไปรับของถูก หุ้นถูกแล้วมีถูกอีกขายให้แบบกระหน่ำ สุดท้ายตลาดไหลลงมายาว หลายคนหมดตัวสาปส่งตลาดหุ้นหลัง จากเหตุการณ์ครั้งนั้นนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศข่าวหนึ่งคือมีนลท.รายย่อยที่หมดตัวเพราะถูกฟอร์ซเซลจากการเล่นหุ้นมาร์จิ้น พยายามจะฆ่าตัวตายโดยใช้ปืนจ่อที่คอที่ตึกของตลาดหลักทรัพย์จนผจก.ตลาดในขณะนั้นต้องลงมาเจรจาด้วยตัวเองtech เขียน:คนที่เคยผ่านประสบการณ์ปี 40 จะรู้เองว่าฟองสบู่เป็นอย่างไร? ใกล้แตกหรือยัง?
บรรยากาศช่วงนั้นฮึกเหิมมาก
เล่นหุ้นเหมือนปาเป้า ตัวไหนก็ได้เงิน
ตื่นเช้าขึ้นมาต้องมีหุ้น ceiling อย่างน้อยหนึ่งตัว
แม้แต่บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุน หุ้นก็ขึ้น ...ไม่รู้จักคำว่า dilute
เป้าหมายดัชนี 2000 จุด
เงินทองหาง่ายไปหมด เหมือนเงินลอยอยู่ในอากาศ
คนไทยสนุกสนานกันมาก กินโต๊ะจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย
หารู้ไม่ว่าฝรั่งเขาลุกกันไปหมดแล้ว
หารู้ไม่ว่าเจ้าหนี้มายืนทวงหนี้อยู่หน้าประตูแล้ว
สุดท้ายคนไทยลุกเป็นคนสุดท้าย ต้องเป็นผู้จ่ายทั้งโต๊ะรอบวง
ไม่มีอะไรครับเห็นมีการย้อนหลังประวัติศาสตร์กัน ผมเองก็ไม่ทันเหตุการนั้นทั้งหมด แต่เข้ามาตลาดหลังจากนั้น 1 ปี สภาพเงียบเหงา ซื้อหุ้นตัวนึงจะกำไร 10-20% ยังยากเลยครับ ตลาดหุ้นไทยจะมีเสถียรภาพมากขึ้นถ้าสัดส่วนนลท.ต่างประเทศลดลงกว่านี้ เพราะกองทุนต่างชาติส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นกองทุนเก็งกำไรครับ
โดยเศรษฐกิจอะไรต่างๆ ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่าจะดีนี่ครับ
คือคิดไปเองด้วยความฮึกเหิม และความโลภ
มกราคม 2537 pe เฉลี่ยของตลาด 26.73 ครับผม
แล้วมันจะไปต่อได้อย่างไร pe เฉลี่ยตั้ง 26.73
อย่างไรก็ตาม ผมสังเกต ดัชนี เทียบ ptt แล้วก็แปลกใจว่า ทำไม ptt 440 ดัชนี ยังต่ำกว่า ปัจจุบัน ที่ ptt 350 ครับผม
ก็เลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อจะได้มาถกกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 39
อีกนิดหนึ่งนะครับ มุมมองเรื่องการเพิ่มทุนของบ.ในสมัยนั้นจะไม่เหมือนสมัยนี้ครับtech เขียน:คนที่เคยผ่านประสบการณ์ปี 40 จะรู้เองว่าฟองสบู่เป็นอย่างไร? ใกล้แตกหรือยัง?
บรรยากาศช่วงนั้นฮึกเหิมมาก
เล่นหุ้นเหมือนปาเป้า ตัวไหนก็ได้เงิน
ตื่นเช้าขึ้นมาต้องมีหุ้น ceiling อย่างน้อยหนึ่งตัว
แม้แต่บริษัทที่ประกาศเพิ่มทุน หุ้นก็ขึ้น ...ไม่รู้จักคำว่า dilute
เป้าหมายดัชนี 2000 จุด
เงินทองหาง่ายไปหมด เหมือนเงินลอยอยู่ในอากาศ
คนไทยสนุกสนานกันมาก กินโต๊ะจีนกันอย่างเอร็ดอร่อย
หารู้ไม่ว่าฝรั่งเขาลุกกันไปหมดแล้ว
หารู้ไม่ว่าเจ้าหนี้มายืนทวงหนี้อยู่หน้าประตูแล้ว
สุดท้ายคนไทยลุกเป็นคนสุดท้าย ต้องเป็นผู้จ่ายทั้งโต๊ะรอบวง
สมัยนี้มองว่าการเพิ่มทุนคือการไดลูทกำไร ข่าวเพิ่มทุนส่วนใหญ่ทำให้หุ้นตก
สมัยนั้นมองว่าการเพิ่มทุนบ.จะยิ่งโตขึ้นเพราะมีการลงทุนเพิ่ม บ.ที่ไม่ดีก็มองว่าจะเอาเงินไปล้างหนี้ลดภาระดอกเบี้ย ยิ่งมีข่าวลือเรื่องเพิ่มทุน หุ้นจะขึ้นไม่หยุด จะหยุดขึ้นก็ต่อเมื่อข่าวเป็นความจริง
ตอนนั้นคนทำงานไฟแนนซ์ถูกเรียกว่า "มนุษย์ทองคำ" โบนัสที่ได้กันระดับเกือบปี (ที่ได้ยินมา)
ไม่ทราบว่าใครมีประสบการณ์วันที่ 4 มค. ที่หุ้นไหลลงอย่างรุนแรง อยากให้เล่าสู่กันฟังหน่อยครับ อารมณ์ ความรู้สึก โดยเฉพาะคนที่อยู่ในห้องค้า กว่านลท.ไทยจะรู้ว่าต่างชาติทิ้งตลาดไทยก็กลับตัวแทบไม่ทันแล้ว
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 40
PE ตั้ง 26.73 ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าสูงจนคิดว่ามันไม่น่าจะไปต่อ แต่ตอนนั้นคนกลับคิดว่าจะไปต่อจริง ๆ ครับ แต่ลักษณะการขึ้นในสมัยนั้นเวลาเงินต่างชาติเข้าหุ้นจะขึ้นรุนแรงกว่าตอนนี้ อีกอย่างซิลลิ่งก็แค่ 10% บางครั้งหุ้นที่ดินหรือไฟแนนซ์ซิลลิ่งยกกลุ่มเลยJeng เขียน:
นั่นซิครับ เพราะเห็นว่าหุ้นขึ้นมาเยอะ ตั้ง 1789 ก็เลยคิดว่าจะไปต่อ
โดยเศรษฐกิจอะไรต่างๆ ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่าจะดีนี่ครับ
คือคิดไปเองด้วยความฮึกเหิม และความโลภ
มกราคม 2537 pe เฉลี่ยของตลาด 26.73 ครับผม
แล้วมันจะไปต่อได้อย่างไร pe เฉลี่ยตั้ง 26.73
อย่างไรก็ตาม ผมสังเกต ดัชนี เทียบ ptt แล้วก็แปลกใจว่า ทำไม ptt 440 ดัชนี ยังต่ำกว่า ปัจจุบัน ที่ ptt 350 ครับผม
ก็เลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อจะได้มาถกกันครับ
ในแง่ของ PE เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อขี่กระทิงวิ่งราวเซียน จะมีอยู่หน้าหนึ่งที่นำภาพ SET ย้อนหลังมาให้ดู ถ้าไม่นับเหตุการณ์วันที่ 4 มค. 37 ที่ PE ตลาดปาเข้าไปประมาณ 30 มีประเด็นที่น่าสนใจคือทุกครั้งที่ PE ของ SET เข้าไปใกล้ 14 มักจะกลายเป็นขาลง มันอาจจะเป็นธรรมชาติของตลาดหุ้นไทยหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับที่ PE มักจะต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ตรงนี้ผมคงต้องบอกไว้ก่อนครับว่าสถิติมันก็คือสถิติ ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ตลาดกำลังจะลงนะครับ เล่าสู่กันฟังครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 41
pe ตลาดย้อนหลัง
http://www.set.or.th/static/mktstat/Table_PE.xls?004
ดัชนีตลาดหุ้นย้อนหลัง
http://www.set.or.th/static/mktstat/Table_Index.xls?001
Market cap ตลาดย้อนหลัง
http://www.set.or.th/static/mktstat/Tab ... ap.xls?002
http://www.set.or.th/static/mktstat/Table_PE.xls?004
ดัชนีตลาดหุ้นย้อนหลัง
http://www.set.or.th/static/mktstat/Table_Index.xls?001
Market cap ตลาดย้อนหลัง
http://www.set.or.th/static/mktstat/Tab ... ap.xls?002
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 42
เท่าทีดู อยู่ที่ผลประกอบการณ์ ถ้าออกมาดี แล้ว pe ลดลง หุ้นก็ขึ้นต่อครับleky เขียน:PE ตั้ง 26.73 ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าสูงจนคิดว่ามันไม่น่าจะไปต่อ แต่ตอนนั้นคนกลับคิดว่าจะไปต่อจริง ๆ ครับ แต่ลักษณะการขึ้นในสมัยนั้นเวลาเงินต่างชาติเข้าหุ้นจะขึ้นรุนแรงกว่าตอนนี้ อีกอย่างซิลลิ่งก็แค่ 10% บางครั้งหุ้นที่ดินหรือไฟแนนซ์ซิลลิ่งยกกลุ่มเลยJeng เขียน:
นั่นซิครับ เพราะเห็นว่าหุ้นขึ้นมาเยอะ ตั้ง 1789 ก็เลยคิดว่าจะไปต่อ
โดยเศรษฐกิจอะไรต่างๆ ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่าจะดีนี่ครับ
คือคิดไปเองด้วยความฮึกเหิม และความโลภ
มกราคม 2537 pe เฉลี่ยของตลาด 26.73 ครับผม
แล้วมันจะไปต่อได้อย่างไร pe เฉลี่ยตั้ง 26.73
อย่างไรก็ตาม ผมสังเกต ดัชนี เทียบ ptt แล้วก็แปลกใจว่า ทำไม ptt 440 ดัชนี ยังต่ำกว่า ปัจจุบัน ที่ ptt 350 ครับผม
ก็เลยตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อจะได้มาถกกันครับ
ในแง่ของ PE เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อขี่กระทิงวิ่งราวเซียน จะมีอยู่หน้าหนึ่งที่นำภาพ SET ย้อนหลังมาให้ดู ถ้าไม่นับเหตุการณ์วันที่ 4 มค. 37 ที่ PE ตลาดปาเข้าไปประมาณ 30 มีประเด็นที่น่าสนใจคือทุกครั้งที่ PE ของ SET เข้าไปใกล้ 14 มักจะกลายเป็นขาลง มันอาจจะเป็นธรรมชาติของตลาดหุ้นไทยหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับที่ PE มักจะต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ตรงนี้ผมคงต้องบอกไว้ก่อนครับว่าสถิติมันก็คือสถิติ ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ตลาดกำลังจะลงนะครับ เล่าสู่กันฟังครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1401
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 43
เข้ามาอ่านประดับความรู้ มาเติมเต็มความไม่รู้ครับ ผมว่าตราบใดที่คนเรายังกลัววิกฤตอยุ่ ตอนนั้นแหละจะไม่ิวิกฤต เพราะจะระวังตัวกันและช่วยเหลือกัน แต่เมื่อไหร่ที่หายวิกฤติแล้ว ไม่มีข่าวร้ายๆทางเศรษฐกิจมาให้ตลาดหุ้นตกใจเล่น แต่ละประเทศมีการสร้างโน่นสร้างนี่มากมายจนเหลือเฟือ นั่นแหละจุดเริ่มต้นของวิกฤติ คิดแบบง่ายๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 45
เท่าทีดู อยู่ที่ผลประกอบการณ์ ถ้าออกมาดี แล้ว pe ลดลง หุ้นก็ขึ้นต่อครับ
[/quote]
เป็นไปได้ครับ เพราะสถิติที่บอกกราฟที่ผมเคยดูมันมีถึงแค่ก่อนปี 50 ขอบคุณที่เอามาอัพเดทให้ครับ นอกจากนั้นความสัมพันธ์อันหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยครับ ถ้าเมื่อไหร่ดอกเบี้ยขึ้นเหมือนของแสลงของตลาดครับ แต่อันนี้เป็นการมองภาพรวมนะครับ ผมก็ยังเห็นด้วยว่ากิจการบางอย่างอาจไม่ได้รับผลกระทบ
[/quote]
เป็นไปได้ครับ เพราะสถิติที่บอกกราฟที่ผมเคยดูมันมีถึงแค่ก่อนปี 50 ขอบคุณที่เอามาอัพเดทให้ครับ นอกจากนั้นความสัมพันธ์อันหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยครับ ถ้าเมื่อไหร่ดอกเบี้ยขึ้นเหมือนของแสลงของตลาดครับ แต่อันนี้เป็นการมองภาพรวมนะครับ ผมก็ยังเห็นด้วยว่ากิจการบางอย่างอาจไม่ได้รับผลกระทบ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 46
เป็นไปได้ครับ เพราะสถิติที่บอกกราฟที่ผมเคยดูมันมีถึงแค่ก่อนปี 50 ขอบคุณที่เอามาอัพเดทให้ครับ นอกจากนั้นความสัมพันธ์อันหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยครับ ถ้าเมื่อไหร่ดอกเบี้ยขึ้นเหมือนของแสลงของตลาดครับ แต่อันนี้เป็นการมองภาพรวมนะครับ ผมก็ยังเห็นด้วยว่ากิจการบางอย่างอาจไม่ได้รับผลกระทบ[/quote]leky เขียน:เท่าทีดู อยู่ที่ผลประกอบการณ์ ถ้าออกมาดี แล้ว pe ลดลง หุ้นก็ขึ้นต่อครับ
หาไม่เจอจริงๆ อัตราดอกเบี้ย แต่ละปี เปรียบเทียบดัชนีหุ้นแต่ละปี
ไม่ทราบว่ามีใครที่พอจะมี ตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แต่ละปี บ้างครับ ย้อนหลังซัก 10 - 20 ปี
ขอบคุณมากครับ
ในหนังสือ the new buffetology ก็พูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ว่าถ้า ดอกเบี้ยเงินฝาก 10 % หุ้นได้ผลตอบแทน 10 % ก็น่าสนใจน้อยลง เพราะมีความเสี่ยง
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 47
หาไม่เจอจริงๆ อัตราดอกเบี้ย แต่ละปี เปรียบเทียบดัชนีหุ้นแต่ละปี
ไม่ทราบว่ามีใครที่พอจะมี ตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แต่ละปี บ้างครับ ย้อนหลังซัก 10 - 20 ปี
http://www.tradingeconomics.com/thailand/interest-rate
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 49
การบริโภคภายในประเทศ เพิ่มขึ้น อาจจะพอช่วยหล่อเลี้ยงระบบ ได้ระยะหนึ่งimerlot เขียน:ปัจจัย ลบ บ้าง..
1. ดอกเบี้ย ขึ้นมา หลายครั้งแล้ว และ กำลังจะขึ้น อีก เป็น 3.75%
ถ้า risk free rate สูง ตลาดก็ต้องให้ premium ที่ สูงขึ้น ก็ จะ หาหุ้น ยาก ขึ้น
2. เงินเฟ้อสูงมากๆ ราคา ไข่ไก่ เดี๋ยวนี้ ขาย 10 ฟอง ข้าวแกงฟูดเซนเตอร์ กับ 2 อย่าง แต่ ก่อน 25บาท now 45บาท
น้ำอัดลมแก้วละ 20บาท ที่ ฟูดเซ็นเตอร์ แบบนี้ คนกินเงินเดือน จะมี เงินเก็บเหลือซักเท่าไร
ถ้า ดอลล่าร์ตก น้ำมันก็ต้องขึ้น เงินเฟ้อก็มาอีก
3. คอนโดก็ ออกมามาเหลือเกินใน 2-3ปี นี้
4. รถไฟฟ้าแน่น เป็น ปลากระป๋อง แถมแต่ ก่อน สถานนี้ เดียว 10บาท เดี๋ยวนี้ 15
5. ถ้าขึ้น ค่าแรง 300 บาท โรงงาน ต่างๆ จะกำไร น้อยลง? เช่น พวก เสื้อ เฟอร์นิเจอร์ หรือ สร้างบ้าน
6. ต่างประเทศ ยุโรป อเมริกาแย่ แล้ว ส่งออก ยังจะโตได้ อีกเท่าไหร่
7. ภัยธรรมชาติ ก็ บ่อยขึ้น น้ำท่วม ทุกปี
8. การเมืองดีขึ้น ..แต่ก็ยังไม่ ลงหลักปักฐานมั่นคง อะไรได้
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 50
ขอบคุณ คุณ imerlot มากครับ สำหรับกรุข้อมูลดีๆimerlot เขียน:หาไม่เจอจริงๆ อัตราดอกเบี้ย แต่ละปี เปรียบเทียบดัชนีหุ้นแต่ละปี
ไม่ทราบว่ามีใครที่พอจะมี ตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แต่ละปี บ้างครับ ย้อนหลังซัก 10 - 20 ปี
http://www.tradingeconomics.com/thailand/interest-rate
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 51
ลองดูจากกราฟนะครับ ดอกเบี้ยขึ้นจาก .25 % ไป 5 % ประมาณ june 04 - apr 06imerlot เขียน:หาไม่เจอจริงๆ อัตราดอกเบี้ย แต่ละปี เปรียบเทียบดัชนีหุ้นแต่ละปี
ไม่ทราบว่ามีใครที่พอจะมี ตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แต่ละปี บ้างครับ ย้อนหลังซัก 10 - 20 ปี
http://www.tradingeconomics.com/thailand/interest-rate
ซึ่งก็น่าจะสรุปได้ว่า หุ้นขึ้นเพราะกำไรกิจการโตขึ้นอยู่ดี เพราะดอกเบี้ยขึ้น ถ้ากิจการยังคงทำกำไรได้มากขึ้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร
จนกว่าดอกเบี้ยที่ขึ้นมากๆ ทำให้กิจการเริ่มกำไรน้อยลงนี่ซิ ถึงทำให้เกิดปัญหา เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าดูผลสรุปไปเลย ว่า Q2 นี้ กำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่
เพราะเป็นผลสรุปอยู่แล้ว รวมการจ่ายดอกเบี้ย อยู่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 52
ถ้าเราคิดว่ามีคนระวังว่าจะเกิดวิกฤติมากกว่าคนไม่ระวัง
วิกฤติก็จะไม่เกิด
แล้วปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังระวังกันอยู่มากน้อยกว่ากันครับ
วิกฤติก็จะไม่เกิด
แล้วปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังระวังกันอยู่มากน้อยกว่ากันครับ
สงบสยบการเคลื่อนไหว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 53
ไม่รู้ซิ เห็นหุ้นขึ้นทีไร คนก็สนใจซื้อทุกทีavatar2009 เขียน:ถ้าเราคิดว่ามีคนระวังว่าจะเกิดวิกฤติมากกว่าคนไม่ระวัง
วิกฤติก็จะไม่เกิด
แล้วปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังระวังกันอยู่มากน้อยกว่ากันครับ
พอหุ้นลงทีไร ก็ไม่มีใครสนใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 54
เมืองนอกดันมี เมืองไทย ดันไม่มี
thailand - National Statistical Data
http://www.tradingeconomics.com/thailand/indicators
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 55
ข้อมูลเยี่ยมครับ ผมว่านะครับ เรื่องดอกเบี้ยถ้าไม่สูงมากมันก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาจริง ๆ เพราะถ้ากิจการยังทำรายได้มากกว่าดอกเบี้ย จะว่าไปก่อนปี 40 สมัยนั้นดอกเบี้ยสูงมาก ก่อนธนาคารจะล้ม ธ.เล็ก ๆ บางแห่งเคยให้ดอกเบี้ยสูงถึงกว่า 15% (เท่าที่จำได้นะครับ)
ผมว่าประเด็นเท่าที่ดูจากข้อมูลไม่ว่าจะเป็น PE เงินเฟ้อหรือดอกเบี้ยที่เราคุยกัน ผมว่าถ้าบ.ยังกำไรดีตลาดก็คงจะไปต่อได้ แต่ถ้ากำไรมันเริ่มจะถึงจุด peak ตลาดมันก็คงจะเริ่มลง แต่ปัญหาคือ
1) เราคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ากำไรมันใกล้จะ peak หรือยัง
2) ตลาดหุ้นมักจะมีทิศทางไม่ว่าดีหรือร้ายก่อนเหตุการณ์จริง 3-6 เดือน นั่นหมายความว่าต่อให้เราคาดการณ์ข้อ 1 ได้เราจะใจแข็งพอที่จะหันหลังให้ตลาดก่อนหรือ
แต่ผมก็เห็นด้วยว่าสัญญาณทางอ้อมบางอย่างมันก็ชวนให้อดคิดไม่ได้ว่าตลาดใกล้จะถึงจุดที่จะไม่ไปต่อหรือยัง เช่น ช่วงนี้คนเล่นหุ้นเยอะและดูคนเหล่านั้นโดยเฉพาะหน้าใหม่ ๆ จะไม่รู้สึกว่ามันเป็นความเสี่ยงถ้าจะเข้ามาเล่น เพื่อนบางคนที่เคยทิ้งตลาดไปเริ่มกลับมาสนใจอีกครั้ง นอกจากนั้นอีกเรื่องหนึ่งคือ หนังสือหุ้นออกเยอะมากครับ อย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ผมว่าประเด็นเท่าที่ดูจากข้อมูลไม่ว่าจะเป็น PE เงินเฟ้อหรือดอกเบี้ยที่เราคุยกัน ผมว่าถ้าบ.ยังกำไรดีตลาดก็คงจะไปต่อได้ แต่ถ้ากำไรมันเริ่มจะถึงจุด peak ตลาดมันก็คงจะเริ่มลง แต่ปัญหาคือ
1) เราคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ากำไรมันใกล้จะ peak หรือยัง
2) ตลาดหุ้นมักจะมีทิศทางไม่ว่าดีหรือร้ายก่อนเหตุการณ์จริง 3-6 เดือน นั่นหมายความว่าต่อให้เราคาดการณ์ข้อ 1 ได้เราจะใจแข็งพอที่จะหันหลังให้ตลาดก่อนหรือ
แต่ผมก็เห็นด้วยว่าสัญญาณทางอ้อมบางอย่างมันก็ชวนให้อดคิดไม่ได้ว่าตลาดใกล้จะถึงจุดที่จะไม่ไปต่อหรือยัง เช่น ช่วงนี้คนเล่นหุ้นเยอะและดูคนเหล่านั้นโดยเฉพาะหน้าใหม่ ๆ จะไม่รู้สึกว่ามันเป็นความเสี่ยงถ้าจะเข้ามาเล่น เพื่อนบางคนที่เคยทิ้งตลาดไปเริ่มกลับมาสนใจอีกครั้ง นอกจากนั้นอีกเรื่องหนึ่งคือ หนังสือหุ้นออกเยอะมากครับ อย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 56
ขอบคุณมากครับimerlot เขียน:เมืองนอกดันมี เมืองไทย ดันไม่มี
thailand - National Statistical Data
http://www.tradingeconomics.com/thailand/indicators
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 57
มุมมองเหตุผลของคนแต่ละสมัยไม่เคยเปลี่ยนแปลง มีแต่สภาวะแวดล้อมทางจิตวิทยาเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไปleky เขียน:มุมมองเรื่องการเพิ่มทุนของบ.ในสมัยนั้นจะไม่เหมือนสมัยนี้ครับ
สมัยนี้มองว่าการเพิ่มทุนคือการไดลูทกำไร ข่าวเพิ่มทุนส่วนใหญ่ทำให้หุ้นตก
สมัยนั้นมองว่าการเพิ่มทุนบ.จะยิ่งโตขึ้น
ถ้าตลาด “ขาขึ้น” ก็จะหาเหตุผลที่ดีเข้าข้างตัวเอง
ถ้าตลาด “ขาลง” ก็จะมองหาแต่เหตุผลด้านลบ
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 58
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยแทบจะไม่มีผลกับตลาดหุ้นJeng เขียน: นอกจากนั้นความสัมพันธ์อันหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยครับ ถ้าเมื่อไหร่ดอกเบี้ยขึ้นเหมือนของแสลงของตลาดครับ
ตราบเท่าที่อัตราการเติบโตหรือกำไรของบริษัทสูงกว่าดอกเบี้ย
แต่โดยทั่วไปแล้วอัตรากำไรเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 15%
เมื่อไหร่ที่ดอกเบี้ยเกิน 15% เมื่อนั้นจะเริ่มส่งผลต่อตลาดหุ้น
เช่นปี 2540 ฟองสบู่แตก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ peak แถว 17%
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ปัจจัยที่หุ้นจะบูมมาก
โพสต์ที่ 59
ผมไม่ได้เขียนแบบนั้นนะtech เขียน:โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยแทบจะไม่มีผลกับตลาดหุ้นJeng เขียน: นอกจากนั้นความสัมพันธ์อันหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยครับ ถ้าเมื่อไหร่ดอกเบี้ยขึ้นเหมือนของแสลงของตลาดครับ
ตราบเท่าที่อัตราการเติบโตหรือกำไรของบริษัทสูงกว่าดอกเบี้ย
แต่โดยทั่วไปแล้วอัตรากำไรเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 15%
เมื่อไหร่ที่ดอกเบี้ยเกิน 15% เมื่อนั้นจะเริ่มส่งผลต่อตลาดหุ้น
เช่นปี 2540 ฟองสบู่แตก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ peak แถว 17%