รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 1
หลังเลือกตั้ง ถึง 4-8-2554 ต่างชาติซื้อสุทธิ กว่า 49,000 ล้าน
วันนี้ panic ราคาหุ้นตัวใหญ่ไม่ใช่แค่ใกล้เคียง 4-7-2554 มีหลายตัวต่ำกว่าอีกด้วย
ผมจะรีบสรุปไปหรือไม่? ว่ารอบนี้ต่างชาติอยู่ดอย 49,000 ล้าน
วันนี้ panic ราคาหุ้นตัวใหญ่ไม่ใช่แค่ใกล้เคียง 4-7-2554 มีหลายตัวต่ำกว่าอีกด้วย
ผมจะรีบสรุปไปหรือไม่? ว่ารอบนี้ต่างชาติอยู่ดอย 49,000 ล้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 3
เค้ามียุทธวิธีเยอะนะครับ ทั้งอนุพันธ์ ตราสารหนี้ เข้านี่ออกโน่น กองทัพเล็ก ๆ รบกับกองทัพใหญ่ต่อให้เก่งกว่าก็เสียเปรียบอยู่ดี แค่เค้าคิดจะทำ SAP + เล่นอนุพันธ์ตาม เราก็เอาไม่อยู่แล้วครับ เผลอ ๆ ฟันกำไรมากกว่าถือหุ้นอีกpakhakorn เขียน:หลังเลือกตั้ง ถึง 4-8-2554 ต่างชาติซื้อสุทธิ กว่า 49,000 ล้าน
วันนี้ panic ราคาหุ้นตัวใหญ่ไม่ใช่แค่ใกล้เคียง 4-7-2554 มีหลายตัวต่ำกว่าอีกด้วย
ผมจะรีบสรุปไปหรือไม่? ว่ารอบนี้ต่างชาติอยู่ดอย 49,000 ล้าน
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 4
กองทุนพวกนี้ส่วนหนึ่งเล่นเก็งกำไร ยิ่งทิ้งหุ้นรายย่อยส่วนหนึ่งก็ตกใจทิ้งตาม (พวกเดย์เทรดหรือเก็งกำไรระยะสั้น) ถ้าทิ้งลงจนถึงจุดหนึ่ง คนที่ต้องยอมก่อนคือคนที่เล่นมาร์จิ้น ถ้าเลวร้ายจนถึงขนาดฟอร์ซเซลกันก็ยิ่งเข้าทางเค้า หุ้นก็จะยิ่งลง ขายตอน panic เลยมักจะได้ผล รายย่อยสัดส่วนเยอะจริงครับ แต่ไม่เป็นกลุ่มก้อนพลังในการต้านมันเลยไม่มีประสิทธิภาพleky เขียน:เค้ามียุทธวิธีเยอะนะครับ ทั้งอนุพันธ์ ตราสารหนี้ เข้านี่ออกโน่น กองทัพเล็ก ๆ รบกับกองทัพใหญ่ต่อให้เก่งกว่าก็เสียเปรียบอยู่ดี แค่เค้าคิดจะทำ SAP + เล่นอนุพันธ์ตาม เราก็เอาไม่อยู่แล้วครับ เผลอ ๆ ฟันกำไรมากกว่าถือหุ้นอีกpakhakorn เขียน:หลังเลือกตั้ง ถึง 4-8-2554 ต่างชาติซื้อสุทธิ กว่า 49,000 ล้าน
วันนี้ panic ราคาหุ้นตัวใหญ่ไม่ใช่แค่ใกล้เคียง 4-7-2554 มีหลายตัวต่ำกว่าอีกด้วย
ผมจะรีบสรุปไปหรือไม่? ว่ารอบนี้ต่างชาติอยู่ดอย 49,000 ล้าน
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1049
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณพี่ ที่ค่อยชี้แนะครับ เกือบหลงไปกับอารมณ์ตลาดซะแล้วchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
ยอมรับเลยคัรบ ปอดรั่วมาก แต่ไม่รู้ทำอะไรดี เลยปิดจอ ลุ้นงบบริษัทดีกว่า
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 915
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 10
เห็นโบรกคาดการณ์ว่าต่างชาติจะขายต่ออีกถึง 1 หมื่นล้านบาท
วันนี้ขายไป ประมาณ 6 พันล้าน ก็เหลืออีกประมาณ 4 พันล้าน
เพื่อรอดู QE3 ก็รอดูว่าจะจริงแค่ไหน วันจันทร์รอพิสูจน์
โบรกฯ คาดยังเห็นต่างชาติเทขายต่ออีก 1 หมื่นลบ. เชื่อกลับมาหลังQE3ชัด
Source - IQ ข่าวหุ้น
Friday, 05 August 2011 16:20
โบรกเกอร์คาดนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายทำกำไรหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากที่ขายออกไปแล้ว 4 พันล้านบาท เชื่อจะกลับมาอีกครั้งหากเห็นความชัดเจนออก QE3 แนะเลี่ยงหุ้นรับเหมาก่อสร้าง กล่มส่งออก แต่แนะเก็บหุ้นแบงก์ ค้าปลีกและสิ่งพิมพ์ ด้าน TDRI คาดหวังรัฐบาลใหม่ช่วยดูแลเงินเฟ้อ และนโยบายการคลัง หลังผุดนโยบายประชานิยมออกมาก ระบุ"ธีระชัย"ยังขาดความรู้เศรษฐกิจมหภาค
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประทศไทย) เปิดเผยในงานสัมนา" วิพากษ์นโยบายยิ่งลักษณ์ หุ้นไหนควรลงทุน - หุ้นไหนควรหลีกเลี่ยง"ว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่อง โดยประเมิน 3 วันทำการ ( 5 - 9 ส.ค) นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องสุทธิรวม 1 หมื่นล้านบาท จากวันนี้ที่คาดว่าจะขายสุทธิ 4 พันล้านบาท เนื่องจาก จิตวิทยาในช่วงสั้นในการขายทำกำไรของนักลงทุน จากก่อนหน้านี้ที่ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ถึง 13% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมทั้งกองทุนต่างประเทศขาย เพื่อคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วย
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาน่าสนใจในการลงทุนอีกครั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่ 3 (QE3) ชัดเจนในวันที่ 9 ส.ค. 54
"เป็นเรื่องปกติที่หุ้นเราปรับลดลง ซึ่งเป็นจิตวิทยาในช่วงสั้นที่เกิดจากปัจจัยในต่างประเทศไม่ดี สหรัฐฯเติบโตต่ำมาก ยุโรปเองก็ยังไม่เห็นการฟื้นตัวเร็วๆ นี้ ดังนั้นตลาดที่ดี ก็ในภูมิภาคเอเชีย แต่การที่ขึ้นมาแรงก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะขายออกมาทำกำไร แต่ QE3 จะกลับมากระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนอีกครั้ง มองแนวรับ 1,050 จุด" นางสาวมยุรี กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มองว่า จะให้ความสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ทั้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นโยบายเงินบาทแข็งค่า และการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% จาก 30% ซึ่งจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มสิ่งพิมพ์
ส่วนกลุ่มน่ากังวล คือ กลุ่มส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องแบกรับกับต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายลดภาษีนิติบุคคล กลุ่มส่งออกก็ไม่ได้ประโยชน์ เนื่องจากส่วนใหญ่ได้สิทธิพิเศษจากบีโอไออยู่แล้ว
รวมทั้งหุ้นบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงคือกลุ่มรับหมาก่อสร้าง เช่น STEC CK และ ITD เนื่องจากได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมากแล้ว หลังจากที่ทราบผลว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ประกอบกับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ ITD และ CK มี D/E ค่อนข้างสูงประมาณ 4 เท่า โดยในส่วน STEC ถือว่าเป็นหุ้นที่มีฐานะทางการ เงินแข็งแกร่ง มี Backlog ค่อนข้างมาก แม้ว่าไม่รวมงานใหม่ที่จะได้รับจากรัฐบาล แต่ STEC ยังมีความสามารถในการทำกำไรได้ดีสำหรับปีนี้
ส่วนหุ้นในกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการเมือง เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากหลังการเลือกตั้งได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว และหลายตัวก็มีความเสี่ยงจากการเพิ่มทุนเพราะขณะนี้มี D/E สูง นอกจากนี้หุ้นหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อราคาปรับลงมาก็ไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจึงต้องระมัดระวัง
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า หุ้นที่น่าจะรับผลดีจาก รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ประมาณ 13 โครงการ จะต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่งผลให้มีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินในประเทศจำนวนประมาณ 6 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนอัตราการเติบโตของสินเชื่อ และทำให้เกิดการลงทุนรอบใหม่
ส่วนกลุ่มพลังงานให้รอจังหวะก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับทิศทางราคาน้ำมัน ขณะกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง คือกลุ่มส่งออกและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะจะต้องเผชิญกับต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น
ด้านนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับการใช้นโยบายประชานิยมว่า อยากให้ทำประชานิยมแบบดั้งเดิม คือการช่วยเหลือรากหญ้าอย่างแท้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพราะในระยะหลังนโยบายประชานิยมกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งผิดเพี้ยนไปจากรูปแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงนโยบายการคลังในระยะยาว เนื่องจากหากรัฐบาลกู้เงิน 8 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุน และนโยบายจำนำข้าว ที่ต้องใช้วงเงิน 5 แสนล้านบาท/ปี จะส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะให้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะที่มองว่าความจำเป็นในการกู้เงินสูงขนาดนั้นมีน้อยเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะโดยเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันไม่ต้องใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจมากขนาดนั้น และอยากให้ดูแลเงินเฟ้อ เพราะไม่ใช่เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เพียงฝ่ายเดียว รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท หากบังคับใช้ทั่วประเทศจะส่งผลกระทบด้านลบให้กิจการปิดตัว และการถูกยกเลิกจ้าง โดยเฉพาะธุรกิจ SME เป็นการเพิ่มค่าจ้าง 80-90% และไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกกองทุนน้ำมัน เพราะมองว่าเป็นการเสียภาษีในรูปแบบหนึ่ง
ส่วนมาตราการภาครัฐ ที่สนับสนุน ในเรื่องภาษีนิติบุคคล ควรขยายฐานกลุ่มผู้เสียภาษีให้กว้างขึ้น เช่น ภาษีบุคคล ภาษีนิติบุคคล และภาษีที่ดิน โดยปัจจุบันประชาชนที่มีศักยภาพในการเสียภาษีสูงถึง 1.6 ล้านครอบครัว แต่ไม่ถูกเสียภาษี
นายสมชัยให้ความเห็นกรณีที่นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล ติดโผเป็นรมว.คลังว่า ถือเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะเพราะมีความรู้ตลาดเงินตลาดทุน แต่ควรมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งในเรื่อง เศรษฐกิจมหภาค , รักษาวินัยการคลัง ,ทำงานร่วมกับธปท.ได้ดี และรับผิดชอบสังคม
"คุณธีระชัยก็เคยทำงานในแบงก์ชาติมาก่อน และรู้เรื่องในตลาดเงินและที่ผ่านมาก็ทำงานที่ ก.ล.ต. ก็ทำให้มีความรู้ด้านตลาดทุน ผมก็มองว่าน่าจะโอเคระดับหนึ่ง แต่ผู้ที่จะมารับตำแหน่งควรมีคุณสมบัติให้ครบเหมือนกันเพื่อนำพาประเทศชาติไปได้" นายสมชัย กล่าว
วันนี้ขายไป ประมาณ 6 พันล้าน ก็เหลืออีกประมาณ 4 พันล้าน
เพื่อรอดู QE3 ก็รอดูว่าจะจริงแค่ไหน วันจันทร์รอพิสูจน์
โบรกฯ คาดยังเห็นต่างชาติเทขายต่ออีก 1 หมื่นลบ. เชื่อกลับมาหลังQE3ชัด
Source - IQ ข่าวหุ้น
Friday, 05 August 2011 16:20
โบรกเกอร์คาดนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายทำกำไรหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากที่ขายออกไปแล้ว 4 พันล้านบาท เชื่อจะกลับมาอีกครั้งหากเห็นความชัดเจนออก QE3 แนะเลี่ยงหุ้นรับเหมาก่อสร้าง กล่มส่งออก แต่แนะเก็บหุ้นแบงก์ ค้าปลีกและสิ่งพิมพ์ ด้าน TDRI คาดหวังรัฐบาลใหม่ช่วยดูแลเงินเฟ้อ และนโยบายการคลัง หลังผุดนโยบายประชานิยมออกมาก ระบุ"ธีระชัย"ยังขาดความรู้เศรษฐกิจมหภาค
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประทศไทย) เปิดเผยในงานสัมนา" วิพากษ์นโยบายยิ่งลักษณ์ หุ้นไหนควรลงทุน - หุ้นไหนควรหลีกเลี่ยง"ว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่อง โดยประเมิน 3 วันทำการ ( 5 - 9 ส.ค) นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องสุทธิรวม 1 หมื่นล้านบาท จากวันนี้ที่คาดว่าจะขายสุทธิ 4 พันล้านบาท เนื่องจาก จิตวิทยาในช่วงสั้นในการขายทำกำไรของนักลงทุน จากก่อนหน้านี้ที่ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ถึง 13% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมทั้งกองทุนต่างประเทศขาย เพื่อคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วย
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาน่าสนใจในการลงทุนอีกครั้งจากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่ 3 (QE3) ชัดเจนในวันที่ 9 ส.ค. 54
"เป็นเรื่องปกติที่หุ้นเราปรับลดลง ซึ่งเป็นจิตวิทยาในช่วงสั้นที่เกิดจากปัจจัยในต่างประเทศไม่ดี สหรัฐฯเติบโตต่ำมาก ยุโรปเองก็ยังไม่เห็นการฟื้นตัวเร็วๆ นี้ ดังนั้นตลาดที่ดี ก็ในภูมิภาคเอเชีย แต่การที่ขึ้นมาแรงก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะขายออกมาทำกำไร แต่ QE3 จะกลับมากระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนอีกครั้ง มองแนวรับ 1,050 จุด" นางสาวมยุรี กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มองว่า จะให้ความสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ทั้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นโยบายเงินบาทแข็งค่า และการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% จาก 30% ซึ่งจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มสิ่งพิมพ์
ส่วนกลุ่มน่ากังวล คือ กลุ่มส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพราะต้องแบกรับกับต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายลดภาษีนิติบุคคล กลุ่มส่งออกก็ไม่ได้ประโยชน์ เนื่องจากส่วนใหญ่ได้สิทธิพิเศษจากบีโอไออยู่แล้ว
รวมทั้งหุ้นบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงคือกลุ่มรับหมาก่อสร้าง เช่น STEC CK และ ITD เนื่องจากได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมากแล้ว หลังจากที่ทราบผลว่าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ประกอบกับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะ ITD และ CK มี D/E ค่อนข้างสูงประมาณ 4 เท่า โดยในส่วน STEC ถือว่าเป็นหุ้นที่มีฐานะทางการ เงินแข็งแกร่ง มี Backlog ค่อนข้างมาก แม้ว่าไม่รวมงานใหม่ที่จะได้รับจากรัฐบาล แต่ STEC ยังมีความสามารถในการทำกำไรได้ดีสำหรับปีนี้
ส่วนหุ้นในกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการเมือง เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากหลังการเลือกตั้งได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว และหลายตัวก็มีความเสี่ยงจากการเพิ่มทุนเพราะขณะนี้มี D/E สูง นอกจากนี้หุ้นหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อราคาปรับลงมาก็ไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนจึงต้องระมัดระวัง
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า หุ้นที่น่าจะรับผลดีจาก รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ประมาณ 13 โครงการ จะต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่งผลให้มีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินในประเทศจำนวนประมาณ 6 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนอัตราการเติบโตของสินเชื่อ และทำให้เกิดการลงทุนรอบใหม่
ส่วนกลุ่มพลังงานให้รอจังหวะก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับทิศทางราคาน้ำมัน ขณะกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง คือกลุ่มส่งออกและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะจะต้องเผชิญกับต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น
ด้านนายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เกี่ยวกับการใช้นโยบายประชานิยมว่า อยากให้ทำประชานิยมแบบดั้งเดิม คือการช่วยเหลือรากหญ้าอย่างแท้จริง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพราะในระยะหลังนโยบายประชานิยมกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งผิดเพี้ยนไปจากรูปแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงนโยบายการคลังในระยะยาว เนื่องจากหากรัฐบาลกู้เงิน 8 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุน และนโยบายจำนำข้าว ที่ต้องใช้วงเงิน 5 แสนล้านบาท/ปี จะส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะให้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะที่มองว่าความจำเป็นในการกู้เงินสูงขนาดนั้นมีน้อยเมื่อเทียบกับในอดีต เพราะโดยเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันไม่ต้องใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจมากขนาดนั้น และอยากให้ดูแลเงินเฟ้อ เพราะไม่ใช่เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เพียงฝ่ายเดียว รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท หากบังคับใช้ทั่วประเทศจะส่งผลกระทบด้านลบให้กิจการปิดตัว และการถูกยกเลิกจ้าง โดยเฉพาะธุรกิจ SME เป็นการเพิ่มค่าจ้าง 80-90% และไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกกองทุนน้ำมัน เพราะมองว่าเป็นการเสียภาษีในรูปแบบหนึ่ง
ส่วนมาตราการภาครัฐ ที่สนับสนุน ในเรื่องภาษีนิติบุคคล ควรขยายฐานกลุ่มผู้เสียภาษีให้กว้างขึ้น เช่น ภาษีบุคคล ภาษีนิติบุคคล และภาษีที่ดิน โดยปัจจุบันประชาชนที่มีศักยภาพในการเสียภาษีสูงถึง 1.6 ล้านครอบครัว แต่ไม่ถูกเสียภาษี
นายสมชัยให้ความเห็นกรณีที่นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล ติดโผเป็นรมว.คลังว่า ถือเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะเพราะมีความรู้ตลาดเงินตลาดทุน แต่ควรมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งในเรื่อง เศรษฐกิจมหภาค , รักษาวินัยการคลัง ,ทำงานร่วมกับธปท.ได้ดี และรับผิดชอบสังคม
"คุณธีระชัยก็เคยทำงานในแบงก์ชาติมาก่อน และรู้เรื่องในตลาดเงินและที่ผ่านมาก็ทำงานที่ ก.ล.ต. ก็ทำให้มีความรู้ด้านตลาดทุน ผมก็มองว่าน่าจะโอเคระดับหนึ่ง แต่ผู้ที่จะมารับตำแหน่งควรมีคุณสมบัติให้ครบเหมือนกันเพื่อนำพาประเทศชาติไปได้" นายสมชัย กล่าว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณครับ พี่ฉัตร จะพยายามฝึกปรือ ครับchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
เพียงแต่ครั้งนี้ผมมีความรู้สึกคาใจอยู่ว่า จะมีเหตุการณ์หุ้นลงรอบใหญ่มากๆ แล้วนิ่งอีกพักก่อนขึ้นรอบใหม่หรือเปล่า? คล้ายเหตุการณ์ ปี 40 หลังจากจบการขึ้นรอบใหญ่ ก็ลงลึกๆอีกรอบ แล้วเราจะหาสัญญาณอะไรให้รู้ หรือสังเกตุระวังไว้ก่อน (เหมือนรอบที่ผ่านมาไม่กระทบบริษัทไทยเราโดนตรง แต่หุ้นไทยก็ลงลึกเช่นกัน)
ซึ่งครั้งนี้ถ้าหากต่างชาติยอมขายทิ้งทั้งก้อน ที่เพิ่งซื้อเข้าไป มือใหม่อย่างผมกลัวจะอดทนไม่พอครับ กลัวถูกแล้วมีถูกกว่าครับ (แล้วกระสุนหมดเสียอีก)
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 13
+1 likechatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 1024
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 14
ปิดจอ มานั่งรองบ Q2 กลางเดือนนี้กันดีกว่า
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
-
- Verified User
- โพสต์: 353
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 15
แล้วพี่วิเคราะห์ fundflow ด้วยปะครับ พอดีผมยังไม่เป็นซะด้วยchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 17
คิดว่าคนอื่นติดดอย แล้วจะได้สบายใจ ?
ผมจะกังวลกว่านี้เยอะเลย ถ้างบออกแล้วรายได้/กำไรไม่ได้เพิ่มอย่างที่หวัง
ผมจะกังวลกว่านี้เยอะเลย ถ้างบออกแล้วรายได้/กำไรไม่ได้เพิ่มอย่างที่หวัง
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 18
simplelife เขียน:คิดว่าคนอื่นติดดอย แล้วจะได้สบายใจ ?
ผมจะกังวลกว่านี้เยอะเลย ถ้างบออกแล้วรายได้/กำไรไม่ได้เพิ่มอย่างที่หวัง
ส่วนตัวผม ไม่ได้สบายใจ..ที่เห็นคนอื่นติดดอย ครับ
แต่จะตกใจเวลาอยู่บนดอยแล้วยังต้องโดดลงมาไม่รอคนไปรับ (เคยทำแล้วมันเจ็บจริงๆ เลยยังปอดๆอยู่ครับ )
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 19
ผมลงทุนในบริษัท เพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญกับพื้นฐานของกิจการที่ผมเป็นเจ้าของมากกว่าที่จะสนใจว่าวันนี้จะมีใครสนใจอยากซื้อหุ้นของบริษัทที่ผมเป็นเจ้าของมากน้อยแค่ไหนsylph เขียน:แล้วพี่วิเคราะห์ fundflow ด้วยปะครับ พอดีผมยังไม่เป็นซะด้วยchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 20
ถ้าหุ้นลง ก็จะมีเหตุผลภายหลังว่า ลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เศรษฐกิจโลกซบเซา
ถ้าหุ้นขึ้น ก็จะมีเหตุผลว่า ตลาดสหรัฐ ยุโรป ไม่ดี เงินทุนก็เลยไหลเข้ามาเอเชีย
แล้วเราจะเชื่อเหตุผลไหนดี
ถ้าหุ้นขึ้น ก็จะมีเหตุผลว่า ตลาดสหรัฐ ยุโรป ไม่ดี เงินทุนก็เลยไหลเข้ามาเอเชีย
แล้วเราจะเชื่อเหตุผลไหนดี
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณครับ พี่ฉัตรชัย โดนใจจริงๆ ครับchatchai เขียน: ผมลงทุนในบริษัท เพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญกับพื้นฐานของกิจการที่ผมเป็นเจ้าของมากกว่าที่จะสนใจว่าวันนี้จะมีใครสนใจอยากซื้อหุ้นของบริษัทที่ผมเป็นเจ้าของมากน้อยแค่ไหน
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 22
chatchai เขียน:ถ้าหุ้นลง ก็จะมีเหตุผลภายหลังว่า ลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เศรษฐกิจโลกซบเซา
ถ้าหุ้นขึ้น ก็จะมีเหตุผลว่า ตลาดสหรัฐ ยุโรป ไม่ดี เงินทุนก็เลยไหลเข้ามาเอเชีย
แล้วเราจะเชื่อเหตุผลไหนดี
แนบไฟล์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 351
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 23
ผมคิดเหมือนคุณ chatchai เลยchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
นั่งรอประกาศงบการเงินในสัปดาห์หน้าอย่างใจจดใจจ่อ
ใน 1 ปีก็จะมีความสุข 4 ครั้ง ในการรออ่านและลุ้นผลประกาศงบการเงินแต่ละไตรมาสครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 24
อืม น่าเสียดาย ที่ไม่มีความสุข 24 ชม ต่อวัน 365 วันต่อปี ที่มีคนทำงานแทนเราJPrince เขียน:ผมคิดเหมือนคุณ chatchai เลยchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
นั่งรอประกาศงบการเงินในสัปดาห์หน้าอย่างใจจดใจจ่อ
ใน 1 ปีก็จะมีความสุข 4 ครั้ง ในการรออ่านและลุ้นผลประกาศงบการเงินแต่ละไตรมาสครับ
ล้อเล่นนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 25
โดนใจมากเลยคะ อยากให้ตลาดทุนไทยแข็งแกร่งchatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
เมื่อลงทุน จงทำให้เรียบง่าย ชัดเจน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
อย่าพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน
จากคำถามที่ซับซ้อน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 26
chatchai เขียน:สำหรับผมแล้ว คงไม่มานั่งคิดว่าต่างชาติจะซื้อหรือขาย แต่จะพิจารณางบการเงินของบริษัทที่เราสนใจที่กำลังจะประกาศออกมามากกว่าครับ
จะขอคำแนะนำกลยุทธพี่ฉัตรชัยว่า หากบริษัทที่เราถือดังว่า ผลงานผิดไปจากที่ควรเป็นกี่ไตรมาสเราควรสละปล่อยมันไป(จากกำไรดี เป็นกำไรลดลง ไม่ถึงขาดทุน)chatchai เขียน:ผมลงทุนในบริษัท เพื่อเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญกับพื้นฐานของกิจการที่ผมเป็นเจ้าของมากกว่าที่จะสนใจว่าวันนี้จะมีใครสนใจอยากซื้อหุ้นของบริษัทที่ผมเป็นเจ้าของมากน้อยแค่ไหน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 27
คงไม่สามารถตอบได้เป็นจำนวนกี่ไตรมาส แต่ผมใช้หลักง่ายๆ คือpakhakorn เขียน:จะขอคำแนะนำกลยุทธพี่ฉัตรชัยว่า หากบริษัทที่เราถือดังว่า ผลงานผิดไปจากที่ควรเป็นกี่ไตรมาสเราควรสละปล่อยมันไป(จากกำไรดี เป็นกำไรลดลง ไม่ถึงขาดทุน)
เวลามีการประกอบงบการเงินออกมา เราก็นำตัวเลขล่าสุดมาทำการประมาณการงบการเงินใหม่หมด ทำการคำนวณหาราคาพื้นฐานใหม่ แล้วก็เปรียบเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบันว่า น่าซื้อ น่าถือ ไม่น่าถือ
เรียกว่า ก็ทำกระบวนการใหม่หมดตั้งแต่ต้น
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 28
chatchai เขียน:คงไม่สามารถตอบได้เป็นจำนวนกี่ไตรมาส แต่ผมใช้หลักง่ายๆ คือpakhakorn เขียน:จะขอคำแนะนำกลยุทธพี่ฉัตรชัยว่า หากบริษัทที่เราถือดังว่า ผลงานผิดไปจากที่ควรเป็นกี่ไตรมาสเราควรสละปล่อยมันไป(จากกำไรดี เป็นกำไรลดลง ไม่ถึงขาดทุน)
เวลามีการประกอบงบการเงินออกมา เราก็นำตัวเลขล่าสุดมาทำการประมาณการงบการเงินใหม่หมด ทำการคำนวณหาราคาพื้นฐานใหม่ แล้วก็เปรียบเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบันว่า น่าซื้อ น่าถือ ไม่น่าถือ
เรียกว่า ก็ทำกระบวนการใหม่หมดตั้งแต่ต้น
หลักง่ายๆของพี่ฉัตรชัย แต่สำหรับผมยังยากอยู่พอควรครับ ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับบัญชีมา แกะงบไม่ค่อยเป็น จะพยายามฝึกต่อไป(อ่านรายงานงบ..แต่คิดว่าตัวเองยังแปรความหมายมันไม่ค่อยเป็น) มีสิ่งหนึ่งที่ทำแล้วคือ...เปรียบเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบันว่า น่าซื้อ น่าถือ ไม่น่าถือ (แต่กลัวแปรผิดหรือมองข้าม และหาราคาพื้นฐานใหม่พลาด)
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณ ครับ อยากได้อ่านเรืองเล่ามันส์ๆอีกครับareliang เขียน:ถ้าติดดอย กับ อยู่ปากเหว
อยู่ดอยดีกว่าเนอะ
แต่เอ....ผมว่า..ติดดอย กับ อยู่ปากเหว....สถานที่มันชอบอยู่ที่เดียวกันครับ
ผมเคยใหม่ๆก็คิดว่า..ตัวเองติดดอย แต่พอโดดลงจากดอย...ผลเจ็บหนัก ...
เลยนึกได้ว่า... ตัวเองอยู่...บนปากเหวต่างหาก ถึงได้เจ็บอย่างงี้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รอบนี้ ถ้าผมคิดว่าต่างชาติอยู่ดอย 49,000ล้าน จะถูกไหม?
โพสต์ที่ 30
มีสถิติเล็กๆปีนี้ ที่ผมเก็บมาดูอยู่ ที่อาจจะไม่ตรงประเด็นในห้อง vi ถ้าไม่เหมาะก็ลบเลย นะครับ
03-1-54 ถึง 15-2-54 ต่างชาติ -32,797.83
16-2-54 ถึง 29-4-54 ต่างชาติ +64,634.96
03-5-54 ถึง 28-6-54 ต่างชาติ -47,887.74
29-6-54 ถึง 04-8-54 ต่างชาติ +53,599.46 (ช่วงก่อน+หลังเลืกตั้ง)
สรุป
03-1-54 ถึง 04-8-54 ต่างชาติ +34,640.10
03-1-54 ถึง 15-2-54 ต่างชาติ -32,797.83
16-2-54 ถึง 29-4-54 ต่างชาติ +64,634.96
03-5-54 ถึง 28-6-54 ต่างชาติ -47,887.74
29-6-54 ถึง 04-8-54 ต่างชาติ +53,599.46 (ช่วงก่อน+หลังเลืกตั้ง)
สรุป
03-1-54 ถึง 04-8-54 ต่างชาติ +34,640.10