อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [2557]
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 112
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 4
ผมมานั่งนึกข่าวนี้น่าจะกระทบหลายกิจการในตลาดset ตั้งแต่ ผู้ผลิต[ทำเหมือง] ผู้นำเข้าถ่านหิน ผู้ใช้ เช่นโรงปูน ผู้ผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน ช่วงนี้ถ้าจะลงทุนในกิจการดังกล่าว อย่างไงก็ศึกษาผลกระทบใหดีๆก่อนนะครับ
- ler109
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 6
อินโดฯเตรียมหยุดส่งออกทรัพยากรแร่ภายใน 3 ปี หวังปกป้องทรัพยากร-อุตฯในประเทศ
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 2 สิงหาคม 2554 17:56:59 น.
อินโดนีเซียวางแผนที่จะยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ภายในปี 2557 เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศและอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
การส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันจะทำให้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติถูกนำไปใช้จนหมด ขณะเดียวกันยังจะทำให้ภาคอุตสาหรรมของประเทศทรุดตัวเนื่องจากขาดเชื้อเพลิงที่ผลิตจากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต
นายอกุส จาฮาจานา ผู้อำนวยการประสานงานอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า แผนระงับการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวจะนำมาใช้กับทุกประเทศที่เคยเป็นตลาดส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ นายอกุสยังเผยด้วยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้มีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อเรียกเก็บภาษีส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เพิ่ม ก่อนที่จะบังคับใช้นโยบายยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ในปี 2557
"เราจำเป็นต้องเก็บภาษีขาออกสูงขึ้นในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ จนกว่าจะมีการบังคับใช้นโยบายดังกล่าว" นายอกุสกล่าววานนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดรับซื้อสินค้าจากทรัพยากรแร่รายใหญ่ของอินโดนีเซียคือจีน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (บีพีเอส) เปิดเผยว่า 3 ประเทศผู้รับซื้อแร่ธาตุส่งออกจากอินโดนีเซียสูงสุดในเดือนที่แล้วคือ จีน (1.94 พันล้านดอลลาร์) ญี่ปุ่น (1.63 พันล้านดอลลาร์) และสหรัฐอเมริกา (1.34 พันล้านดอลลาร์)
บีพีเอสยังระบุด้วยว่า สินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นกระดูกสันหลังของสินค้าส่งออกของประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 15.40% หรือประมาณ 1.218 หมื่นล้านดอลลาร์ จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมดกว่า 9.86 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับตัวเลขส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซียในครึ่งปีแรกนี้สูงว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 32.27% โดยปีที่แล้วตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 9.21 พันล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 2 สิงหาคม 2554 17:56:59 น.
อินโดนีเซียวางแผนที่จะยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ภายในปี 2557 เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศและอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
การส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันจะทำให้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติถูกนำไปใช้จนหมด ขณะเดียวกันยังจะทำให้ภาคอุตสาหรรมของประเทศทรุดตัวเนื่องจากขาดเชื้อเพลิงที่ผลิตจากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต
นายอกุส จาฮาจานา ผู้อำนวยการประสานงานอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า แผนระงับการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวจะนำมาใช้กับทุกประเทศที่เคยเป็นตลาดส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ นายอกุสยังเผยด้วยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้มีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อเรียกเก็บภาษีส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เพิ่ม ก่อนที่จะบังคับใช้นโยบายยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ในปี 2557
"เราจำเป็นต้องเก็บภาษีขาออกสูงขึ้นในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ จนกว่าจะมีการบังคับใช้นโยบายดังกล่าว" นายอกุสกล่าววานนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดรับซื้อสินค้าจากทรัพยากรแร่รายใหญ่ของอินโดนีเซียคือจีน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (บีพีเอส) เปิดเผยว่า 3 ประเทศผู้รับซื้อแร่ธาตุส่งออกจากอินโดนีเซียสูงสุดในเดือนที่แล้วคือ จีน (1.94 พันล้านดอลลาร์) ญี่ปุ่น (1.63 พันล้านดอลลาร์) และสหรัฐอเมริกา (1.34 พันล้านดอลลาร์)
บีพีเอสยังระบุด้วยว่า สินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นกระดูกสันหลังของสินค้าส่งออกของประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 15.40% หรือประมาณ 1.218 หมื่นล้านดอลลาร์ จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมดกว่า 9.86 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับตัวเลขส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซียในครึ่งปีแรกนี้สูงว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 32.27% โดยปีที่แล้วตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 9.21 พันล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: [email protected]--
Never say die!!!
- ler109
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 7
จาก 56-1 ของบ้านปู
2.6 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และนโยบายในประเทศที่บริษัทฯ ลงทุน
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย รัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้ออกกฎหมายเหมืองแร่ใหม่ (New Mining Law) อาจจะส่งผลให้มีการออกกฎระเบียบที่เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาทำเหมือง (Coal Contract of Work) จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ผลิตถ่านหินในอนาคต นอกจากนี้รัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำลังอยู่ระหว่างการเริ่มบังคับใช้กฎหมาย DMO (Domestic Market Obligation) จะเป็นการกำหนดให้ผู้ผลิตถ่านหินในประเทศต้องมีการจำหน่ายถ่านหินในประเทศในสัดส่วนหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ภายในประเทศให้เพียงพอ และกฎหมาย Price Regulation ซึ่งเป็นการกำหนดราคาจำหน่ายถ่านหินขั้นต่ำสำหรับส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ผลิตไม่ขายถ่านหินออกไปต่างประเทศในราคาที่ต่ำเกินไป จะทำให้รัฐบาลเก็บภาษี (Royalty fee) ได้น้อย อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่กระทบกับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทฯ ได้มีแผนเพิ่มสัดส่วนการขายถ่านหินในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียให้มากขึ้น รวมทั้งใช้กลไกต่างๆ ตามที่รัฐบาลอนุญาต ที่จะช่วยให้บริษัทฯ เพิ่มปริมาณการขายถ่านหินในประเทศได้ สำหรับ Price Regulation จะเป็นการตกลงราคาขายในแต่ละปีที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในขณะนั้น นอกจากนั้น รัฐบาลอินโดนีเซียยังได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่มีสาระสำคัญต่อผลกระทบการออกใบอนุญาตป่าไม้ต่อบริษัทฯ บ้าง บริษัทฯ ได้บริหารความเสี่ยงโดยการวางแผนขอใบอนุญาตที่สำคัญไว้ล่วงหน้าให้ระยะยาวขึ้น ทั้งนี้การรักษาสิ่งแวดล้อมในป่าอนุรักษ์ก็เป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดมา
เหมือนจะมีเค้ารางมาก่อนแล้วนะครับ แต่ไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดข่าวด้านบนครับ
2.6 ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และนโยบายในประเทศที่บริษัทฯ ลงทุน
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย รัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้ออกกฎหมายเหมืองแร่ใหม่ (New Mining Law) อาจจะส่งผลให้มีการออกกฎระเบียบที่เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาทำเหมือง (Coal Contract of Work) จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ผลิตถ่านหินในอนาคต นอกจากนี้รัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียกำลังอยู่ระหว่างการเริ่มบังคับใช้กฎหมาย DMO (Domestic Market Obligation) จะเป็นการกำหนดให้ผู้ผลิตถ่านหินในประเทศต้องมีการจำหน่ายถ่านหินในประเทศในสัดส่วนหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ภายในประเทศให้เพียงพอ และกฎหมาย Price Regulation ซึ่งเป็นการกำหนดราคาจำหน่ายถ่านหินขั้นต่ำสำหรับส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ผลิตไม่ขายถ่านหินออกไปต่างประเทศในราคาที่ต่ำเกินไป จะทำให้รัฐบาลเก็บภาษี (Royalty fee) ได้น้อย อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่กระทบกับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทฯ ได้มีแผนเพิ่มสัดส่วนการขายถ่านหินในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซียให้มากขึ้น รวมทั้งใช้กลไกต่างๆ ตามที่รัฐบาลอนุญาต ที่จะช่วยให้บริษัทฯ เพิ่มปริมาณการขายถ่านหินในประเทศได้ สำหรับ Price Regulation จะเป็นการตกลงราคาขายในแต่ละปีที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในขณะนั้น นอกจากนั้น รัฐบาลอินโดนีเซียยังได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่มีสาระสำคัญต่อผลกระทบการออกใบอนุญาตป่าไม้ต่อบริษัทฯ บ้าง บริษัทฯ ได้บริหารความเสี่ยงโดยการวางแผนขอใบอนุญาตที่สำคัญไว้ล่วงหน้าให้ระยะยาวขึ้น ทั้งนี้การรักษาสิ่งแวดล้อมในป่าอนุรักษ์ก็เป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดมา
เหมือนจะมีเค้ารางมาก่อนแล้วนะครับ แต่ไม่น่าจะรุนแรงถึงขนาดข่าวด้านบนครับ
Never say die!!!
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 225
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 9
ข่าวจาก Bloomberg
"Indonesia plans to ban overseas sales of coal with energy of less than 5,100 kilocalories a kilogram,
requiring miners to upgrade the burning value if they want to export, according to a draft of a ministerial
decree posted on the Directorate General of Coal and Minerals’ website.
The government had earlier proposed halting sales of grades with a value below 5,600 kilocalories."
กระทบกับบริษัทที่ใช้ถ่านหินที่ให้ค่าความร้อนต่ำกว่า 5,100 กิโลแคลอรี่กิโลกรัม ซึ่งก็จะเป็นช่วงค่าความร้อนของ
ซัพบิทูมินัส(4,500-5,500) และนิกไนต์(3,000-4,000) ที่เหลือลองไปดูต่อกันครับว่าจะกระทบกับบริษัทไหนบ้าง
link ข่าวครับ
http://www.bloomberg.com/news/2011-07-2 ... -says.html
"Indonesia plans to ban overseas sales of coal with energy of less than 5,100 kilocalories a kilogram,
requiring miners to upgrade the burning value if they want to export, according to a draft of a ministerial
decree posted on the Directorate General of Coal and Minerals’ website.
The government had earlier proposed halting sales of grades with a value below 5,600 kilocalories."
กระทบกับบริษัทที่ใช้ถ่านหินที่ให้ค่าความร้อนต่ำกว่า 5,100 กิโลแคลอรี่กิโลกรัม ซึ่งก็จะเป็นช่วงค่าความร้อนของ
ซัพบิทูมินัส(4,500-5,500) และนิกไนต์(3,000-4,000) ที่เหลือลองไปดูต่อกันครับว่าจะกระทบกับบริษัทไหนบ้าง
link ข่าวครับ
http://www.bloomberg.com/news/2011-07-2 ... -says.html
Someone’s sitting in the shade today because someone planted a tree a long time ago - Warren Buffett
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 10
ไม่แน่ใจว่าเป็นข่าวตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2554 หรือไม่ วานท่านผู้รู้ช่วยตรวจสอบให้ด้วย
และทำไมพึ่งจะนำมาลงข่าวในวันนี้ ขอบคุณครับ
Indonesia’s Coal-Export Ban May Deter Investments, Mulyono Says
QBy Yoga Rusmana - Jul 28, 2011 3:28 PM GMT+0700
และทำไมพึ่งจะนำมาลงข่าวในวันนี้ ขอบคุณครับ
Indonesia’s Coal-Export Ban May Deter Investments, Mulyono Says
QBy Yoga Rusmana - Jul 28, 2011 3:28 PM GMT+0700
-
- Verified User
- โพสต์: 1904
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 11
ก็ถ้าเค้ายิ่งเก็บนานเค้าก็ยิ่งขายได้ราคา คิดในแง่เขามันก็ถูกนะครับ เรื่องไรต้องขายถ่านในราคาถูกๆไปด้วยล่ะ น้ำมันยังขึ้นได้ทำไมถ่านหินจะขึ้นบ้างไม่ได้ ... แต่ในแง่พวกเราที่ต้องซื้อเค้ามาใช้ คงแย่แน่ๆ ราคาอาจแพงไปเป็นเท่าตัว ค่าไฟคงแพงหูฉี่แหงๆ บริษัทถ่านหินที่ไปขุดกะเค้ามาขายคงโดนบังคับให้ขายแต่ในอินโด แล้วมันจะขายได้สักเท่าไหร่กัน มิน่าหุ้นถ่านหินถึงนิ่งๆชอบกล
-
- Verified User
- โพสต์: 204
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 13
ถ้าถ่านหินถูกจำกัดการส่งออกจากอินโด ปริมาณจะหายไปจากตลาดโลกซักกี่%ครับ
แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ปริมาณถ่านหินที่หายไปจะต้องถูกชดเชยด้วยพลังงานอย่างอื่น
ในระยะสั้นก็น่าจะเป็นน้ำมัน .... อย่างนี้น้ำมันพุ่งแน่ แต่ในระยะต่อๆมาพลังงานทดแทน
ต่างๆก็น่าจะเริ่มเข้ามาทดแทนมากขึ้น
แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ปริมาณถ่านหินที่หายไปจะต้องถูกชดเชยด้วยพลังงานอย่างอื่น
ในระยะสั้นก็น่าจะเป็นน้ำมัน .... อย่างนี้น้ำมันพุ่งแน่ แต่ในระยะต่อๆมาพลังงานทดแทน
ต่างๆก็น่าจะเริ่มเข้ามาทดแทนมากขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 112
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกแร่ [รวมถ่านหิน] ภายใน3ปี [25
โพสต์ที่ 14
รบกวนผู้รู้หรือมีข้อมูลว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ระหว่าง ปี2558 อินโดห้ามส่งออกถ่านหินทั้งหมด หรือ ปี2558อินโดให้ส่งออกได้เฉพาะถ่านหินที่ให้ความร้อนสูง คือว่าปัจจุบัน อินโดก็ให้ส่งได้เฉพาะถ่านหินที่ให้ความร้อนสูงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะออกข่าวอีกทำไมถ้าเป็นกรณีหลัง แต่ถ้าเป็นกรณีแรก ผมว่าจะมีผลกระทบต่อหลายๆกิจการค่อนข้างมาก