ไข้เลือดออก เป็นแล้วตายด้วยหรือคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 280
- ผู้ติดตาม: 0
ไข้เลือดออก เป็นแล้วตายด้วยหรือคับ
โพสต์ที่ 4
ตายได้ครับ
ผมเคยเป็นมาแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน
โรคนี้น่ากลัวนะครับ เพราะอาการคล้ายเป็นไข้ธรรมดาเลย
ผมเคยเป็นมาแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน
โรคนี้น่ากลัวนะครับ เพราะอาการคล้ายเป็นไข้ธรรมดาเลย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ไข้เลือดออก เป็นแล้วตายด้วยหรือคับ
โพสต์ที่ 5
ถ้าเลือดออกในอวัยวะภายใน (ไต ตับ ปอด) โอกาสตายสูงมากครับ
ผมเคยเป็นตอน ม. 6 แต่เลือดออกแค่ทางผิวหนังและมือ หมอบอกว่า
ถ้าถ่ายเป็นเลือด (สีดำ) หรือมีไข้สูง ต้อง admit ทันที
คราวนั้นดีที่ไม่ได้ทานยาลดไข้เลย ทำให้หมอวินิจฉัยได้เร็ว
ผมเคยเป็นตอน ม. 6 แต่เลือดออกแค่ทางผิวหนังและมือ หมอบอกว่า
ถ้าถ่ายเป็นเลือด (สีดำ) หรือมีไข้สูง ต้อง admit ทันที
คราวนั้นดีที่ไม่ได้ทานยาลดไข้เลย ทำให้หมอวินิจฉัยได้เร็ว
- ksnk
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 414
- ผู้ติดตาม: 0
ไข้เลือดออก เป็นแล้วตายด้วยหรือคับ
โพสต์ที่ 7
สาเหตุ
เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อ Denque virus มีตัวยุงลาย (Aedes aegypti)เป็นพาหะของโรค
อาการ
พบบ่อยในเด็กต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะช่วงอายุ 2-8 ปี
อาการสำคัญ 4 ประการคือ
1. ไข้สูงลอย : ไข้ 39-40, มักมีหน้าแดง, โดยมักไม่ค่อยมีอาการน้ำมูกไหลหรือไอเด็กโตอาจมีอาการ
ปวดเมื่อยตามตัว และปวดศีรษะ อาการไข้สูงมักมีระยะ 4-5 วัน
2. อาการเลือดออก : เลือดกำเดาไหล, เลือดออกตามไรฟัน, เลือดออกในกระเพาะ โดยจะมีอาการ
อาเจียนเป็นเลือด หรือ ถ่ายดำ, จุดเลือดออกตามตัว
3. ตับโต
4. ความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด หรือ ช็อค : มักจะเกิดช่วงไข้จะลดโดย
ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่ายมือเท้าเย็น รอบปากเขียว อาจมีอาการปวดท้องมาก ก่อนจะมีอาการช็อค
ชีพจรเบาเร็ว ความดันต่ำ
การรักษา
1. ให้ยาลดไข้, เช็ดตัวลดไข้ ยาลดไข้ที่ควรใช้คือ Paracetamol ไม่ควรใช้ยาจำพวกแอสไพริน
เนื่องจากจะทำให้เกร็ดเลือดผิดปกติ และระคายกระเพาะอาหาร
2. ให้สารน้ำชดเชย เนื่องจากผู้ป่วยมักมีภาวะขาดน้ำ เนื่องจากไข้สูง เบื่ออาหาร และอาเจียน
ในรายที่พอทานได้ให้ดื่มน้ำเกลือแร่บ่อยๆ ในรายที่ขาดน้ำมาก หรือ มีภาวะเลือดออก เช่น อาเจียน
หรือ ถ่ายเป็นเลือดต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล เพื่อให้สารน้ำทางเส้นเลือด
3. ติดตามดูอาการใกล้ชิด ถ้ามีอาการปวดท้อง ปัสสาวะน้อยลง กระสับกระส่าย มือเท้าเย็น
โดยเฉพาะในช่วงไข้ลด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
4. ตรวจนับจำนวนเกร็ดเลือดและความเข้มข้นของเลือดเป็นระยะเพื่อใช้พิจารณาปริมาณการให้สารน้ำชดเชย
การป้องกัน
1. ควบคุมยุงลาย โดยให้สุขศึกษากับประชาชนให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ส่วนใหญ่มักเป็น
ภาชนะเก็บน้ำในบ้าน เช่น โอ่งน้ำ, ถ้วยรองขาตู้กันมด แจกันดอกไม้ หรือนอกบ้าน
เช่น จานรองกระถางต้นไม้, ยางรถยนต์
2. ป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ยุงลายที่เป็นพาหะไข้เลือดออก เป็นยุงตัวเมีย มักชอบกัด เวลากลางวัน
ส่วนวัคซีนไข้เลือดออกขณะนี้อยู่ในขั้นค้นคว้าทดลอง
สาเหตุที่ตายเกิดจากการที่มีผนังเส้นเลือดรั่ว(นำ,serumซึมออก)และเลือดออก ทำให้ shock และเกิดไตวาย ตับวาย การหายใจล้มเหลวตามมาครับ
เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อ Denque virus มีตัวยุงลาย (Aedes aegypti)เป็นพาหะของโรค
อาการ
พบบ่อยในเด็กต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะช่วงอายุ 2-8 ปี
อาการสำคัญ 4 ประการคือ
1. ไข้สูงลอย : ไข้ 39-40, มักมีหน้าแดง, โดยมักไม่ค่อยมีอาการน้ำมูกไหลหรือไอเด็กโตอาจมีอาการ
ปวดเมื่อยตามตัว และปวดศีรษะ อาการไข้สูงมักมีระยะ 4-5 วัน
2. อาการเลือดออก : เลือดกำเดาไหล, เลือดออกตามไรฟัน, เลือดออกในกระเพาะ โดยจะมีอาการ
อาเจียนเป็นเลือด หรือ ถ่ายดำ, จุดเลือดออกตามตัว
3. ตับโต
4. ความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด หรือ ช็อค : มักจะเกิดช่วงไข้จะลดโดย
ผู้ป่วยจะมีอาการกระสับกระส่ายมือเท้าเย็น รอบปากเขียว อาจมีอาการปวดท้องมาก ก่อนจะมีอาการช็อค
ชีพจรเบาเร็ว ความดันต่ำ
การรักษา
1. ให้ยาลดไข้, เช็ดตัวลดไข้ ยาลดไข้ที่ควรใช้คือ Paracetamol ไม่ควรใช้ยาจำพวกแอสไพริน
เนื่องจากจะทำให้เกร็ดเลือดผิดปกติ และระคายกระเพาะอาหาร
2. ให้สารน้ำชดเชย เนื่องจากผู้ป่วยมักมีภาวะขาดน้ำ เนื่องจากไข้สูง เบื่ออาหาร และอาเจียน
ในรายที่พอทานได้ให้ดื่มน้ำเกลือแร่บ่อยๆ ในรายที่ขาดน้ำมาก หรือ มีภาวะเลือดออก เช่น อาเจียน
หรือ ถ่ายเป็นเลือดต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล เพื่อให้สารน้ำทางเส้นเลือด
3. ติดตามดูอาการใกล้ชิด ถ้ามีอาการปวดท้อง ปัสสาวะน้อยลง กระสับกระส่าย มือเท้าเย็น
โดยเฉพาะในช่วงไข้ลด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
4. ตรวจนับจำนวนเกร็ดเลือดและความเข้มข้นของเลือดเป็นระยะเพื่อใช้พิจารณาปริมาณการให้สารน้ำชดเชย
การป้องกัน
1. ควบคุมยุงลาย โดยให้สุขศึกษากับประชาชนให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ส่วนใหญ่มักเป็น
ภาชนะเก็บน้ำในบ้าน เช่น โอ่งน้ำ, ถ้วยรองขาตู้กันมด แจกันดอกไม้ หรือนอกบ้าน
เช่น จานรองกระถางต้นไม้, ยางรถยนต์
2. ป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ยุงลายที่เป็นพาหะไข้เลือดออก เป็นยุงตัวเมีย มักชอบกัด เวลากลางวัน
ส่วนวัคซีนไข้เลือดออกขณะนี้อยู่ในขั้นค้นคว้าทดลอง
สาเหตุที่ตายเกิดจากการที่มีผนังเส้นเลือดรั่ว(นำ,serumซึมออก)และเลือดออก ทำให้ shock และเกิดไตวาย ตับวาย การหายใจล้มเหลวตามมาครับ
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
ไข้เลือดออก เป็นแล้วตายด้วยหรือคับ
โพสต์ที่ 9
ผมเคยเป็นมา 2 ครั้งแล้วไข้เลือดออก เนี่ยะ
ครั้งนึงตอนเป็นเด็ก อีกครั้งนึงเป็นตอนเป็นหมอที่เกาะช้างนี่แหละ เป็นตอนผมกำลังรณรงค์เรื่องไข้เลือดออกพอดี แต่ตัวเองกลับมาเป็น อายมากๆ เพราะบังเอิญไปติดไข้เลือดออกมาจากเขมร
แต่ก่อนไข้เลือดออก ตายกันเป็นเบือนะครับ ตอนนี้ตายน้อยลง เพราะมีโครงการรณรงค์ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยหมอหรือโรงพยาบาลที่รักษาไข้เลือดออกตาย ต้องโดยสอบสวน ตอนข่าวออกมาเมื่อ 3-4 ปีก่อน หมอที่รักษาเครียดกันเป็นแถวๆ เพราะคนเป็นไข้เลือดออกไม่สมควรตาย
อาการของน้องที่ตายที่รามา ต้องบอกว่าหนักจริงๆ เลือดออกจากอวัยวะภายในเกือบทั้งตัว
เคยมีอาจาร์ยอาวุโสที่รามา ท่านนึง เคยสอนว่า ถ้ามี organ นึงในร่างกายล้มเหลว จะมี mortality rate ประมาณ 30% ของน้องคนนี้ มี ที่ไต ที่ตับ ที่ปอด 3 ที่นี้ก็อัตราการตายก็เกือบ 90% แล้วซึ่งต่อมามีหัวใจด้วย
ระวังยุงลายกัดกันนะครับ พี่ๆเพื่อนๆ
ครั้งนึงตอนเป็นเด็ก อีกครั้งนึงเป็นตอนเป็นหมอที่เกาะช้างนี่แหละ เป็นตอนผมกำลังรณรงค์เรื่องไข้เลือดออกพอดี แต่ตัวเองกลับมาเป็น อายมากๆ เพราะบังเอิญไปติดไข้เลือดออกมาจากเขมร
แต่ก่อนไข้เลือดออก ตายกันเป็นเบือนะครับ ตอนนี้ตายน้อยลง เพราะมีโครงการรณรงค์ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยหมอหรือโรงพยาบาลที่รักษาไข้เลือดออกตาย ต้องโดยสอบสวน ตอนข่าวออกมาเมื่อ 3-4 ปีก่อน หมอที่รักษาเครียดกันเป็นแถวๆ เพราะคนเป็นไข้เลือดออกไม่สมควรตาย
อาการของน้องที่ตายที่รามา ต้องบอกว่าหนักจริงๆ เลือดออกจากอวัยวะภายในเกือบทั้งตัว
เคยมีอาจาร์ยอาวุโสที่รามา ท่านนึง เคยสอนว่า ถ้ามี organ นึงในร่างกายล้มเหลว จะมี mortality rate ประมาณ 30% ของน้องคนนี้ มี ที่ไต ที่ตับ ที่ปอด 3 ที่นี้ก็อัตราการตายก็เกือบ 90% แล้วซึ่งต่อมามีหัวใจด้วย
ระวังยุงลายกัดกันนะครับ พี่ๆเพื่อนๆ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company