ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
-
- Verified User
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 1
๔. อาชีวปาริสุทธิศีล
หมายถึง ความบริสุทธิ์ในเรื่องของอาชีพ ถ้าโดยทั่วไปแล้ว ก็หมายถึง
อาชีพที่บริสุทธิ์ หรือ อาชีพที่พระพุทธเจ้าห้าม เช่น ไม่ขายสัตว์ให้เขาเอา
ไปฆ่า ไม่ขายมนุษย์ ไม่ขายอาวุธ ไม่ขายยาพิษ ไม่ขายสุราสิ่งเสพย์ติด
(นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ก็เป็นอาชีพที่บริสุทธิ์) ชาวพุทธจะต้องเว้น
จากอาชีพทั้ง ๕ อย่างนี้
รวมถึงการเป็นผู้ร่วมทุนด้วยหรือเปล่า มาตรฐานของคุณอยู่แค่ไหน
หมายถึง ความบริสุทธิ์ในเรื่องของอาชีพ ถ้าโดยทั่วไปแล้ว ก็หมายถึง
อาชีพที่บริสุทธิ์ หรือ อาชีพที่พระพุทธเจ้าห้าม เช่น ไม่ขายสัตว์ให้เขาเอา
ไปฆ่า ไม่ขายมนุษย์ ไม่ขายอาวุธ ไม่ขายยาพิษ ไม่ขายสุราสิ่งเสพย์ติด
(นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ก็เป็นอาชีพที่บริสุทธิ์) ชาวพุทธจะต้องเว้น
จากอาชีพทั้ง ๕ อย่างนี้
รวมถึงการเป็นผู้ร่วมทุนด้วยหรือเปล่า มาตรฐานของคุณอยู่แค่ไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 2
ผมก็พยายามจะถือศีลนี้เหมือนกัน ผลลัพธ์ก็คือ ไม่ได้ ซื้อหุ้นของบริษัท ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ศีลข้อ 8 นี่ครับ แต่จริงๆแล้ว โครงสร้างทาง เศรษฐกิจจริงๆแล้ว ทุกๆธุรกิจไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความเกี่ยวโยงกันเสมอๆ ถ้ามองในแง่ extreme นั้น ผมก็ไม่ควรจะซื้่อหุ้นอะไรเลยซะมากกว่า
ก็ขอเดินสายกลาง โดยไม่ซื้อหุ้นของกิจการที่เกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้โดยใกล้ชิดละกันครับ
แต่ผมไม่ได้ว่า ว่าคนที่ซื้อหุ้นของกิจการพวกนี้ หรือเจ้าของที่เป็นคนสร่้างเป็นคนไม่ดีนะครับ ที่ผมถือศีลเพราะผมศรัทธาเท่านั้นเอง
ก็ขอเดินสายกลาง โดยไม่ซื้อหุ้นของกิจการที่เกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้โดยใกล้ชิดละกันครับ
แต่ผมไม่ได้ว่า ว่าคนที่ซื้อหุ้นของกิจการพวกนี้ หรือเจ้าของที่เป็นคนสร่้างเป็นคนไม่ดีนะครับ ที่ผมถือศีลเพราะผมศรัทธาเท่านั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 3
ส่วนตัวยึดทางสายกลางครับ หากเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าวโดยตรงคงไม่ลงทุน แต่ทางอ้อมก็ไม่ได้ซีเรียสมาก เช่น หุ้นของห้างสรรพสินค้าที่อาจมีการขายเหล้า บุหรี่ในห้าง หรือขายมีดซึ่งอาจเอาไปเป็นอาวุธได้ หรือขายยาเบื่อหนูในห้างด้วย หรือหุ้นธนาคารที่อาจมีการปล่อยกู้ให้ธุรกิจเหล่านี้บ้าง ก็ไม่ได้ถึงกับตัดทิ้งไปเลย เพราะหากจะลงทุนแล้วต้องมองจุดนี้ละเอียดมากๆคงเหนื่อยที่ต้องไปค้นหาข้อมูลเหล่านี้ และบางทีอาจหาไม่ได้ด้วย
หากจะถามถึงเรื่องเบียร์ช้าง ส่วนตัวคงไม่ซื้อ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าคนที่ซื้อจะผิดอะไร เป็นสิทธิส่วนบุคคลมากกว่า มาตรฐานของเราก็ใช้กับตัวเราเอง ไม่ได้ใช้กับคนอื่น ทำตัวเองให้ดี ดีกว่าพยายามเปลี่ยนคนอื่นๆครับ
หากจะถามถึงเรื่องเบียร์ช้าง ส่วนตัวคงไม่ซื้อ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าคนที่ซื้อจะผิดอะไร เป็นสิทธิส่วนบุคคลมากกว่า มาตรฐานของเราก็ใช้กับตัวเราเอง ไม่ได้ใช้กับคนอื่น ทำตัวเองให้ดี ดีกว่าพยายามเปลี่ยนคนอื่นๆครับ
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- Verified User
- โพสต์: 118
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 4
น่าจะจัดให้มีหุ้นในหมวดศีลธรรม (Moral) และ หมวดอบายมุข (Temptation)
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 5
ผมว่าลงทุนในหุ้นอะไรก็ได้ ที่ไม่ทำธุรกิจตามหลักข้อห้าม
เช่น หุ้นเบียร์ เหล้า บุหรี่ ผมไม่ซื้อแน่นอน เพราะกำไรจากเงินปันผล ( หรือ cap gain ) ก็เสมือนรายได้จากอาชีพที่ผลิต และจำหน่าย เป็นเงินผลตอบแทนที่ได้มา บนความฉิบหายของสังคม
ธุรกิจค้ามนุษย์ ค้ายาพิษ ยังไม่เห็นมีจดทะเบียนในตลาด
ธุรกิจขายสัตว์ให้เขาเอาไปฆ่า --> อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่าน่าจะลงทุนได้ เพราะศาสนาพุทธ สอนไม่ให้เราเบียดเบียนสัตว์ แต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามว่า ห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ ( แม้แต่พระก็ไม่มีข้อห้าม ) อาจเป็นเพราะความจำเป็นในการดำรงเผ่าพันธ์มนุษย์ หรือเป็นเหตุผลทางธรรมชาติวิทยาที่ปุถุชนอย่างเรา ๆ ไม่สามารถเข้าใจได้ เอาเป็นว่า ถ้าเราไม่ได้จงใจที่จะเลือกรังแก เบียดเบียน สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง ก็ไม่น่าจะเป็นบาปหนักหนา อาจมีเศษกรรมบ้างเล็กน้อย
ธุรกิจบางประเภท ที่ทำนาบนหลังคนผมก็ไม่สนใจลงทุน เช่น ธุรกิจบัตรเครดิต ทราบมาจากเพื่อนที่อยู่ในธุรกิจนี้ว่า กำไรหลัก ๆ มาจาก ค่าธรรมเนียม+ดอกเบี้ยที่สูงมาก โดยเฉพาะกรณีไม่ชำระเต็มยอด หรือ ผิดนัดชำระ ถ้าคุณชำระตรงตามกำหนด โดยจ่ายเต็มจำนวน เค้าจะไม่ได้กำไรมากนัก แม้บัตรเครดิตดูเหมือนจะดีต่อการช่วยให้ผู้คนมีการจัดจ่ายใช้สอยกันอย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่ผมว่ามันยิ่งทำให้คนอื่น ๆที่ไม่รู้จักใช้ ใช้เงินเกินตัวมากกว่า --> ผมเชื่อว่าธุรกิจบัตรเครดิตก่อให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวมากกว่า และ ผิด concept ของเศรษฐกิจพอเพียง ผม prefer บัตรเดบิตมากกว่าบัตรเครดิตครับ แม้ส่วนตัวก็ใช้บัตรเครดิต แต่จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง และไม่คิดจะซื้อหุ้นบัตรเครดิตครับ
เช่น หุ้นเบียร์ เหล้า บุหรี่ ผมไม่ซื้อแน่นอน เพราะกำไรจากเงินปันผล ( หรือ cap gain ) ก็เสมือนรายได้จากอาชีพที่ผลิต และจำหน่าย เป็นเงินผลตอบแทนที่ได้มา บนความฉิบหายของสังคม
ธุรกิจค้ามนุษย์ ค้ายาพิษ ยังไม่เห็นมีจดทะเบียนในตลาด
ธุรกิจขายสัตว์ให้เขาเอาไปฆ่า --> อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่าน่าจะลงทุนได้ เพราะศาสนาพุทธ สอนไม่ให้เราเบียดเบียนสัตว์ แต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามว่า ห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ ( แม้แต่พระก็ไม่มีข้อห้าม ) อาจเป็นเพราะความจำเป็นในการดำรงเผ่าพันธ์มนุษย์ หรือเป็นเหตุผลทางธรรมชาติวิทยาที่ปุถุชนอย่างเรา ๆ ไม่สามารถเข้าใจได้ เอาเป็นว่า ถ้าเราไม่ได้จงใจที่จะเลือกรังแก เบียดเบียน สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง ก็ไม่น่าจะเป็นบาปหนักหนา อาจมีเศษกรรมบ้างเล็กน้อย
ธุรกิจบางประเภท ที่ทำนาบนหลังคนผมก็ไม่สนใจลงทุน เช่น ธุรกิจบัตรเครดิต ทราบมาจากเพื่อนที่อยู่ในธุรกิจนี้ว่า กำไรหลัก ๆ มาจาก ค่าธรรมเนียม+ดอกเบี้ยที่สูงมาก โดยเฉพาะกรณีไม่ชำระเต็มยอด หรือ ผิดนัดชำระ ถ้าคุณชำระตรงตามกำหนด โดยจ่ายเต็มจำนวน เค้าจะไม่ได้กำไรมากนัก แม้บัตรเครดิตดูเหมือนจะดีต่อการช่วยให้ผู้คนมีการจัดจ่ายใช้สอยกันอย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่ผมว่ามันยิ่งทำให้คนอื่น ๆที่ไม่รู้จักใช้ ใช้เงินเกินตัวมากกว่า --> ผมเชื่อว่าธุรกิจบัตรเครดิตก่อให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวมากกว่า และ ผิด concept ของเศรษฐกิจพอเพียง ผม prefer บัตรเดบิตมากกว่าบัตรเครดิตครับ แม้ส่วนตัวก็ใช้บัตรเครดิต แต่จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง และไม่คิดจะซื้อหุ้นบัตรเครดิตครับ
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 6
ผมไม่มีหุ้นที่ทำธุรกิจโดยตรงตามหลักข้อมิควรทั้งห้า (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว)
ผมไม่มีหุ้นพวกบัตรเงินยืม เงินเชื่อ เงินกู้ ต่างๆเช่นกัน (ความเชื่อส่วนตัวเหมือนกัน)
ผมไม่มีหุ้นที่ทำการตลาดด้วยการขายความหวังด้วย (ความเชื่อส่วนตัวอีกนั่นแหละ)
กำไรน้อยหน่อย แต่สบายใจ หุ้นไม่ขึ้นมาก ก็เฉยๆ แต่คนใช้สินค้าของเราแล้วสะดวก
สบาย ทำให้ชีวิตดีขึ้น เราได้ค่าตอบแทนจากการลงทุนตามสมควร ไม่เหนื่อย ไม่ต้อง
ดูแลอะไรมากนัก ก็พอใจแล้ว
ผมไม่มีหุ้นพวกบัตรเงินยืม เงินเชื่อ เงินกู้ ต่างๆเช่นกัน (ความเชื่อส่วนตัวเหมือนกัน)
ผมไม่มีหุ้นที่ทำการตลาดด้วยการขายความหวังด้วย (ความเชื่อส่วนตัวอีกนั่นแหละ)
กำไรน้อยหน่อย แต่สบายใจ หุ้นไม่ขึ้นมาก ก็เฉยๆ แต่คนใช้สินค้าของเราแล้วสะดวก
สบาย ทำให้ชีวิตดีขึ้น เราได้ค่าตอบแทนจากการลงทุนตามสมควร ไม่เหนื่อย ไม่ต้อง
ดูแลอะไรมากนัก ก็พอใจแล้ว
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ชาว VI ที่เป็นชาวพุทธที่ใจคิดอย่างไรกับ
โพสต์ที่ 7
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ไม่ขายสัตว์ให้เขาเอา ไปฆ่า
ไม่ขายให้คนอื่นฆ่า คือฆ่าซะเองเลย
อิอิ