ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

และผมก็คิดเล่นๆ ว่าไม่อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่าจะลงขนาดนี้

ก็แค่ความคิดครับ

ว่า ทำอย่างไรจะได้ถือหุ้นที่ ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้ และทำอย่างไร จะไม่ได้ถือหุ้นที่

ไม่คิดว่าจะลงขนาดนี้

เพื่อนๆ มีหุ้นตัวไหนในอดีต หรือไม่ ที่ ตรงกับ ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้ กลับ ไม่คิดว่าจะลงขนาดนี้ มาแชร์กันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

N-PARK ไม่คิดว่าจะขึ้นได้
มีคนอุตส่าบอกให้เก็บตั้งแต่1ตังค์ ไม่เชื่อ
ไม่ถึงครึ่งปี วิ่งไปpeakที่7ตังค์ได้
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

densin เขียน:N-PARK ไม่คิดว่าจะขึ้นได้
มีคนอุตส่าบอกให้เก็บตั้งแต่1ตังค์ ไม่เชื่อ
ไม่ถึงครึ่งปี วิ่งไปpeakที่7ตังค์ได้
densin เขียน:N-PARK ไม่คิดว่าจะขึ้นได้
มีคนอุตส่าบอกให้เก็บตั้งแต่1ตังค์ ไม่เชื่อ
ไม่ถึงครึ่งปี วิ่งไปpeakที่7ตังค์ได้
ผมอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นครับ ผมมีต้นทุน 3 สต. ขายทิ้งหมด 5-6 สต. แต่ที่ซื้อเพราะความไม่รู้คิดแค่ว่าซื้อแล้วขายอีกหนึ่งช่อง หลังซื้อไม่นานหุ้นประกาศเพิ่มทุน ราคาไหลลงเลยครับ สุดท้ายติดอยู่ 1 ปี หุ้นลงมาเหลือ 1 สต. เห็นแล้วปวดใจมูลค่าลดลง 60% แต่ก็พยายามคิดว่าแค่ 2 สเปรด ตอนนั้นได้หนังสือจากบ.แจ้งผถห.ว่าขายทรัพย์สินเป็นรร.แห่งหนึ่ง ได้เงินมาล้างหนี้หุ้นกู้กับเลย์แมน ผมคิดดูแล้วส่วนของผถห.จะดีขึ้นแน่ ตอนนั้นบอกเพื่อนให้ซื้อเลย ข่าวประกาศน่าจะขึ้นถึงไม่ขึ้นก็แค่เสียค่าคอม เพื่อนคนที่ติดด้วยกัน แหยงไม่ซื้อแต่เพื่อนอีกคนซื้อด้วยน่าจะราว ๆ 2-3 สต.ก่อนมันจะวิ่งไป 6-7 สต.ในอีกไม่กี่วัน แต่เพื่อนคนนี้ขายถูกบวกไปอีกแค่ 1 สต. ช่วงสองวันแต่เป็นนาทีทองทำให้พอร์ตผมโตเกือบเท่าตัว แต่คงไม่เอาอีกครับ ผมยังแซวเพื่อนเลยว่าถ้าอดทนอีกหน่อยมีหุ้นต้นทุนเท่าผมแต่ได้กำไรเท่าผมแต่เค้าถือไม่กี่วัน ส่วนผมถือ 1 ปี แต่ตอนนั้นผมคิดว่าผมถือมาเป็นปีเห็น 1-2 สต.มาตลอด หุ้นขึ้นมา 4-5 สต.ทำไมผมจะทนถืออีกหน่อยไม่ได้ หลังขายออกไปแล้วหุ้นก็ไม่กลับมาที่ราคาเดิมอีกเลย แต่ที่ต้องลุ้นสุด ๆ คือตอนที่งบปลายปีจะออก ตอนนั้นส่วนของผถห.เป็นบวกนิดหน่อย ถ้าขาดทุนเยอะอีกก็ต้องเข้าแผนฟื้นฟูอาจจะติด SP เป็นปี ๆ แต่สุดท้ายบ.พลิกเป็นมีกำไรเอาตัวรอดมาได้ เหมือนหนังดรามายังไงยังงั้นมีทั้งเศร้าและสุข ดีที่ยังจบด้วยความสุข
"Become a risk taker, not a risk maker"
Pnattbuffettology
Verified User
โพสต์: 143
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีคือ N-park,iec,
Latte
Verified User
โพสต์: 91
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มีหลายตัวที่ผ่านตา ผ่านพอร์ต ที่ไม่คิดว่าจะขี้นได้ขนาดนี้ แต่มีสองตัวที่ติดใจ

ตัวแรก อาหมอ ท่านนึงแนะนำให้ืซื้อไว้ เมื่อ หนึ่งปีกับอีกสามเดือนก่อน ตอนนั้น หุ้นละสามบาทเก้าสิบตังค์ .... วันนี้(25/08) 29 บาท ไม่คิดว่าจะขี้นมาไกลขนาดนี้ ไม่ได้ซื้อ แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไร เพราะผมเรื่องมาก (ไม่ชอบเล่นหุ้นที่ถือแล้วไม่สบายใจ)

ตัวที่สอง หนึ่งปีกับอีกหกดือนที่แล้ว มีโอกาส ไปเจอผู้ใหญ่ท่านนึง ท่านแนะหุ้นตัวนึง ตอนนั้น หุ้นละ ยี่สิบบาทปลา่ยๆ จัดเต็ม ... ผ่่านไปเจ็ดเดือน จากยี่สิบบาท วิ่งไป แปดสิบกว่าบาท เห็นแรงเริ่มแผ่ว เลยขายออกหมดไปเข้าตัวอื่น .... ตอนนั้น ก็ทึ่งแล้ว ว่าไม่คิดว่าจะขี้นได้ขนาดนี้ แต่เซอร์ไพรส์ยังมีเซอร์ไพรส์ ผ่านไปอีกสองสามเดือน จากแปดสิบมาร้อยห้าสิบ .... ต้องยอมรับว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ ... วันนี้(25/08) ถ้าที่พาร์เดิม ราคาหุ้นก็อยู่ที่ 119.5 ถ้าที่พาร์ใหม่ ก็ 23.90 บาท

ผ่านไปแล้วตัวที่ไม่คิดว่าจะขี้นได้ขนาดนี้ คราวนี้ มาถึงหุ้นที่ไม่คิดว่า จะดักดานได้ขนาดนี้บ้าง เอาแค่ตัวเดียวพอหอมปาก หอมคอ
เป็นหุ้นตัวแรกที่ผมซื้อแบบมวยวัด ตอนปลายปี 2003 กระแสไอทีกำลังมา เลยจัดหุ้นกลุ่มไอทีไป เข้าไปที่ สิบบาทสามสิบสตางค์ ผ่านไปสามเดือนเหลือแปดบาท ผ่านไปอีกสามเดือนเหลือสี่บาทกว่า .... กว่าจะรู้ คัทลอส ก็สายเสียแล้ว .... รสชาติขมฝาด ของบาดแผลในตอนนั้น หวนนึกกี่ครั้งก็ยังชัดดีอยู่ ..... ผ่านไปแปดปี ... วันนี้หุ้นตัว นี้ปิดที่ สิบบาทสามสิบตังค์ ... เท่าเดิม (ปล. ไม่รวมปันผล)

แปดปีที่แล้ว....
... ทองอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ วันนี้ (ณ เวลาที่โำพสอยู่) ทองอยู่ที่ 1724 ดอลลาร์
... USD อยู่ที่ ดอลลาร์ละ 39.87 บาท วันนี้อยู่ที่ 29.96 บาท
... น้ำมัน อยู่ที่ 30.54 USD วันนี้อยู่ที่ 85.77 USD

เป็นตัวเลข ที่น่าสนใจดีนะครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
^^
Verified User
โพสต์: 519
ผู้ติดตาม: 1

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

BJCไม่คิดมาก่อนจะไป2หลัก
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
chitadisai
Verified User
โพสต์: 483
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอเล่าเหตุการที่ดีก่อนละกันคับ ตัวนี้ซื้อแบบไม่ได้คิดอะไรเลย เงินมันเหลือ ไม่รู้จะไปซื้ออะไรดี หลังจากที่ซื้อหุ้นร้านสะดวกซื้อไป บังเอิญว่าไปเดินห้างนี้สัญลักษ์ตัวอาร์สีเขียวเห็นคนเดินเยอะดี มีข่าวจะเปิดสาขาใหม่หลายสาขา ซื้อที่ 20 บาท เมื่อปลายปีที่แล้วมั้งหุ้นนิ่งๆไม่ไปใหน ทุกวันนี้มาเกือบ1เด้ง แบบผมยัง งงๆอยู่ เลย ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้ ความคิดนี้ผุดมาทันที รู้งี้ ซื้อเต็มพอร์ทดีกว่า แต่ก็สายไปแล้ว
มาถึงเหตุการช้ำใจ กับหุ้นรับผลิตเซลแสงอาทิตย์ ตัวนี้จัดเต็ม ด้วยความเขลา ไม่ศึกษาประวัติผู้บริหารชุดก่อน(แถมกูรู VI ยังแนะนำว่าอย่ายุ่งเป็นหุ้นการเมือง หมายถึงเมื่อก่อนอะนะโพสไว้หลายปีแล้ว กูรูบอกอย่าไปแหยมหุ้นตัวนี้ ผมเพิ่งมาอ่านเจอทีหลัง เวรกรรมของผมจริงๆ) ศึกษาแต่ปัจจุบัน เหตุกาณ์ดีหมด ไตรมาศแรก กำไรดี เลยมาซื้อก่อนงบไตรมาตร2ออกไม่กี่วัน กะว่าTurnaround แน่ๆตอนนั้นโลภสุดๆ กะว่าดีแน่เพราะรายรับเยอะ แต่ผิดคาด รายรับสามพันล้าน แต่กำไรแค่ล้านสอง อกอีแป้นจะแตก แล้วแถม US โดนลดเครติตอีก พระเจ้า ไม่คิดไม่ฟัน ทำไมเราเขลาขนาดนี้ เจ็บฝังเป็นแผลเป็น ซื้อมา2.95 ขายที่2.60 ดีที่หุ้นห้างตัวอาร์สีเขียวช่วยไว้ไม่งั้น พอร์ทรวมคงขาดทุน โทษใครไม่ได้เลย ต้องโทษตัวเองคนเดียว งี่เง่าจังเลยเรา ทำให้รู้ว่าละเลยข้อมูลเก่าๆของหุ้นไม่ได้เลย
chootana
Verified User
โพสต์: 1401
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

kamart, ptl
ภาพประจำตัวสมาชิก
<< New >>
Verified User
โพสต์: 1147
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ที่เคยมีก็ rasa ขายไปแป๊ปเดียว พุ่งกระฉูด
อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Financeseed
Verified User
โพสต์: 1304
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

<< New >> เขียน:ที่เคยมีก็ rasa ขายไปแป๊ปเดียว พุ่งกระฉูด
ผมก็เหมือนกัน :wall: :wall: :wall:
มองวิกฤต หาโอกาส
http://link-seed.blogspot.com/
ซากคน
Verified User
โพสต์: 1400
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้ และไม่ได้ซื้อเพิ่มอีก ก็ ptl uac bigc makro dsgt jubile
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
athichoke
Verified User
โพสต์: 97
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

leky เขียน:
densin เขียน:N-PARK ไม่คิดว่าจะขึ้นได้
มีคนอุตส่าบอกให้เก็บตั้งแต่1ตังค์ ไม่เชื่อ
ไม่ถึงครึ่งปี วิ่งไปpeakที่7ตังค์ได้
densin เขียน:N-PARK ไม่คิดว่าจะขึ้นได้
มีคนอุตส่าบอกให้เก็บตั้งแต่1ตังค์ ไม่เชื่อ
ไม่ถึงครึ่งปี วิ่งไปpeakที่7ตังค์ได้
ผมอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นครับ ผมมีต้นทุน 3 สต. ขายทิ้งหมด 5-6 สต. แต่ที่ซื้อเพราะความไม่รู้คิดแค่ว่าซื้อแล้วขายอีกหนึ่งช่อง หลังซื้อไม่นานหุ้นประกาศเพิ่มทุน ราคาไหลลงเลยครับ สุดท้ายติดอยู่ 1 ปี หุ้นลงมาเหลือ 1 สต. เห็นแล้วปวดใจมูลค่าลดลง 60% แต่ก็พยายามคิดว่าแค่ 2 สเปรด ตอนนั้นได้หนังสือจากบ.แจ้งผถห.ว่าขายทรัพย์สินเป็นรร.แห่งหนึ่ง ได้เงินมาล้างหนี้หุ้นกู้กับเลย์แมน ผมคิดดูแล้วส่วนของผถห.จะดีขึ้นแน่ ตอนนั้นบอกเพื่อนให้ซื้อเลย ข่าวประกาศน่าจะขึ้นถึงไม่ขึ้นก็แค่เสียค่าคอม เพื่อนคนที่ติดด้วยกัน แหยงไม่ซื้อแต่เพื่อนอีกคนซื้อด้วยน่าจะราว ๆ 2-3 สต.ก่อนมันจะวิ่งไป 6-7 สต.ในอีกไม่กี่วัน แต่เพื่อนคนนี้ขายถูกบวกไปอีกแค่ 1 สต. ช่วงสองวันแต่เป็นนาทีทองทำให้พอร์ตผมโตเกือบเท่าตัว แต่คงไม่เอาอีกครับ ผมยังแซวเพื่อนเลยว่าถ้าอดทนอีกหน่อยมีหุ้นต้นทุนเท่าผมแต่ได้กำไรเท่าผมแต่เค้าถือไม่กี่วัน ส่วนผมถือ 1 ปี แต่ตอนนั้นผมคิดว่าผมถือมาเป็นปีเห็น 1-2 สต.มาตลอด หุ้นขึ้นมา 4-5 สต.ทำไมผมจะทนถืออีกหน่อยไม่ได้ หลังขายออกไปแล้วหุ้นก็ไม่กลับมาที่ราคาเดิมอีกเลย แต่ที่ต้องลุ้นสุด ๆ คือตอนที่งบปลายปีจะออก ตอนนั้นส่วนของผถห.เป็นบวกนิดหน่อย ถ้าขาดทุนเยอะอีกก็ต้องเข้าแผนฟื้นฟูอาจจะติด SP เป็นปี ๆ แต่สุดท้ายบ.พลิกเป็นมีกำไรเอาตัวรอดมาได้ เหมือนหนังดรามายังไงยังงั้นมีทั้งเศร้าและสุข ดีที่ยังจบด้วยความสุข
ตอนนั้นก่อนวิ่งไป 0.07 นั้นผมก็ได้เก็บเหมือนกันครับ ตอนนั้นยังอ่อนประสบการณ์ เหตุผลที่คิดจะซื้อตอนนั้น ก็แค่ว่า มีญาติผมมาเล่าให้ฟังว่า มีคนขาดทุนจากจาก npark มากมหาศาลซึ่งเป็นเพื่อนเค้า เค้าก็เล่าต่างๆนาๆ ผมรู้สึกว่าเค้ามีความกลัวกับตัวนี้มาก ผมกลับไปดูราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องย้อนหลัง และคิดในใจว่าใครจะซื้อหุ้นแบบนี้ ดูข่าวย้อนหลังก็เห็นว่าธนาคารฟ้องล้มละลายบ้าง แต่ก็ไม่เห็นล้ม ผมก็คิดว่าคนอื่นน่าจะกลัวมากเช่นกันโดยส่วนใหญ่ เลยลองซื้อสวนเล่นๆ เงินหลักหมื่นเอง ปรากฎซื้อเสร็จไปอาทิตย์นึงดันวิ่งขึ้นมาจริงๆ แต่ผมไม่ได้ขายที่ 0.07 ครับ เพราะตอนนั้นโลภ หวังว่าจะขึ้นอีก 555 แต่ตอนนี้ก็ไม่คิดจะหากำไรด้วยวิธีนี้อีกครับ หลังจากเข้าใจการลงทุนมากขึ้นครับ
พรแสวงเหนือพรสวรรค์
istyle
Verified User
โพสต์: 872
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

Ukem

เข้าที่ 0.9-1 ออกที่ 1.3-1.6 -.- ข้อมูลน้อย ผู้บริหารก็ไม่รู้จัก opp day ไม่มา

ตกลงมันทำอะไรไม่รู้จักดีพอ ขายซะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
airazoc
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 904
ผู้ติดตาม: 1

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมอยากแชร์อีกมุมนึงคือ

ผมว่า ถ้าได้กำไรจากหุ้นที่ "ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้" ไม่ใช่สิ่งน่าภูมิใจ หรือนับเป็นความสำเร็จนะครับ
แต่กลับเป็นสิ่งที่บอกเราว่า เราได้มองข้ามอะไรไปหลายอย่างในการคำนวน ก่อนที่จะเข้าซื้อหุ้นตัวนั้น

ถ้าหุ้นที่เราซื้อ ราคา 1 บาท แล้วเราคำนวนได้ว่า มันควรจะราคา 2 บาท เมื่อถึง 2 บาทเราจะขายหรือไม่ก็ตาม ต่อให้มันวิ่งไป 5 บาท ผลงานของเราคือที่ 2 บาทครับ เพราะที่ได้มากกว่านั้น หรือแม้จะขายหมูไปแล้วอดได้ก็ได้ ไม่ใช่ฝีมือเรา เพราะความรู้ความเข้าไปของเราไปถึงแค่สองบาท อีกสามบาทที่งอกมา ก็เหมือนเก็บเงินได้ ซึ่งไม่ได้การันตีความสำเร็จอะไรในอนาคต เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราไม่ควรภาคภูมิใจที่กำไรเยอะ และไม่ควรเศร้าเสียใจที่ขายหมู แต่เราควรศึกษาเพิ่มเติมว่าทำไมมันเป็นเช่นนั้น เพื่อให้ในอนาคตเราสามารถประเมินมูลค่ากิจการได้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และก็จะได้ "ถือหุ้นที่คำนวนไว้แล้วว่าจะขึ้นได้ขนาดนี้"

เช่นเดียวกันกับ การถือหุ้นที่ "ไม่คิดว่าจะตกขนาดนี้" นั่นแปลว่าเราประเมินมูลค่าผิดเช่นกัน เราจำเป็นต้องยอมรับผลนั้น และศึกษาเพิ่มเติมว่าเรามองข้ามอะไรไปในการเลือกซื้อกิจการ วันหลังจะได้ไม่พลาดสิ่งเดิมๆอีก ซึ่งความจริงๆแล้ว ความผิดพลาดทั้งด้านมองไม่เห็นความดีที่ซ่อนอยู่ และมองไม่เห็นความแย่ที่ซ่อนอยู่นั้น เมื่อสะสมถึงระดับหนึ่งแล้ว จะทำให้มีภูมิต้านทานต่อกระแสระยะสั้นของตลาด และทำให้เราถือหุ้นกิจการที่ดีได้นานไม่ขายหมู รวมถึงทำให้เราตัดใจขายหุ้นที่ซื้อมาผิดพลาดได้ไว

ถ้าสังเกตุบรรดาเซเลปทั้งหลายที่ได้กันปีละ เด้ง สองเด้ง สามเด้ง เป็นว่าเล่น พวกเขาไม่ใช่ไม่เคยพลาดบางช้อตขาดทุนไป 50% ก็มี แต่สุดท้ายแล้วก็จะสร้างประสบการณ์รู้จักมองหาความไม่ชอบมาพากลในกิจการ และมองหาเทรนด์ของธุรกิจที่เป็นขาขึ้น มองหาความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทต่างๆ เมื่อความรู้และประสบการณ์ถึงพร้อม ก็ทำผลงานการลงทุนโตเอาๆได้เป็นเท่าๆ อย่างไม่ลำบากยากเย็น หุ้นลงก็ไม่เครียด หุ้นขึ้นก็ไม่ตื่นเต้นมาก เพราะผ่านการคำนวนมาอย่างดีแล้ว ดังนั้นจึงสามารถมีเวลาว่าง ในการใช้ชีวิตประจำวัน (ไปตี dotA?) ในการทำงาน พักผ่อน และท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข ไม่ถูกกระแสของตลาดหุ้นรบกวนชีวิตในด้านอื่นๆ

เป็นแค่มุมมองของนักลงทุนคนนึงที่ได้สัมผัสชีวิตเซียนๆแถวนี้มาบ้าง ได้รับการสั่งสอนมาพอสมควร จึงอยากแบ่งปันให้ฟังครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการลงทุนครับ
^_^
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
ภาพประจำตัวสมาชิก
CheNz
Verified User
โพสต์: 1612
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า อยากถือหุ้นที่ ไม่คิดว่า จะขึ้นขนาดนี้

โพสต์ที่ 15

โพสต์

airazoc เขียน:ผมอยากแชร์อีกมุมนึงคือ

ผมว่า ถ้าได้กำไรจากหุ้นที่ "ไม่คิดว่าจะขึ้นขนาดนี้" ไม่ใช่สิ่งน่าภูมิใจ หรือนับเป็นความสำเร็จนะครับ
แต่กลับเป็นสิ่งที่บอกเราว่า เราได้มองข้ามอะไรไปหลายอย่างในการคำนวน ก่อนที่จะเข้าซื้อหุ้นตัวนั้น

ถ้าหุ้นที่เราซื้อ ราคา 1 บาท แล้วเราคำนวนได้ว่า มันควรจะราคา 2 บาท เมื่อถึง 2 บาทเราจะขายหรือไม่ก็ตาม ต่อให้มันวิ่งไป 5 บาท ผลงานของเราคือที่ 2 บาทครับ เพราะที่ได้มากกว่านั้น หรือแม้จะขายหมูไปแล้วอดได้ก็ได้ ไม่ใช่ฝีมือเรา เพราะความรู้ความเข้าไปของเราไปถึงแค่สองบาท อีกสามบาทที่งอกมา ก็เหมือนเก็บเงินได้ ซึ่งไม่ได้การันตีความสำเร็จอะไรในอนาคต เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราไม่ควรภาคภูมิใจที่กำไรเยอะ และไม่ควรเศร้าเสียใจที่ขายหมู แต่เราควรศึกษาเพิ่มเติมว่าทำไมมันเป็นเช่นนั้น เพื่อให้ในอนาคตเราสามารถประเมินมูลค่ากิจการได้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และก็จะได้ "ถือหุ้นที่คำนวนไว้แล้วว่าจะขึ้นได้ขนาดนี้"

เช่นเดียวกันกับ การถือหุ้นที่ "ไม่คิดว่าจะตกขนาดนี้" นั่นแปลว่าเราประเมินมูลค่าผิดเช่นกัน เราจำเป็นต้องยอมรับผลนั้น และศึกษาเพิ่มเติมว่าเรามองข้ามอะไรไปในการเลือกซื้อกิจการ วันหลังจะได้ไม่พลาดสิ่งเดิมๆอีก ซึ่งความจริงๆแล้ว ความผิดพลาดทั้งด้านมองไม่เห็นความดีที่ซ่อนอยู่ และมองไม่เห็นความแย่ที่ซ่อนอยู่นั้น เมื่อสะสมถึงระดับหนึ่งแล้ว จะทำให้มีภูมิต้านทานต่อกระแสระยะสั้นของตลาด และทำให้เราถือหุ้นกิจการที่ดีได้นานไม่ขายหมู รวมถึงทำให้เราตัดใจขายหุ้นที่ซื้อมาผิดพลาดได้ไว

ถ้าสังเกตุบรรดาเซเลปทั้งหลายที่ได้กันปีละ เด้ง สองเด้ง สามเด้ง เป็นว่าเล่น พวกเขาไม่ใช่ไม่เคยพลาดบางช้อตขาดทุนไป 50% ก็มี แต่สุดท้ายแล้วก็จะสร้างประสบการณ์รู้จักมองหาความไม่ชอบมาพากลในกิจการ และมองหาเทรนด์ของธุรกิจที่เป็นขาขึ้น มองหาความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทต่างๆ เมื่อความรู้และประสบการณ์ถึงพร้อม ก็ทำผลงานการลงทุนโตเอาๆได้เป็นเท่าๆ อย่างไม่ลำบากยากเย็น หุ้นลงก็ไม่เครียด หุ้นขึ้นก็ไม่ตื่นเต้นมาก เพราะผ่านการคำนวนมาอย่างดีแล้ว ดังนั้นจึงสามารถมีเวลาว่าง ในการใช้ชีวิตประจำวัน (ไปตี dotA?) ในการทำงาน พักผ่อน และท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข ไม่ถูกกระแสของตลาดหุ้นรบกวนชีวิตในด้านอื่นๆ

เป็นแค่มุมมองของนักลงทุนคนนึงที่ได้สัมผัสชีวิตเซียนๆแถวนี้มาบ้าง ได้รับการสั่งสอนมาพอสมควร จึงอยากแบ่งปันให้ฟังครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการลงทุนครับ
^_^
เปิดมุมมองข้อคิดได้ดีมากครับ ขอบคุณครับ :mrgreen:
โพสต์โพสต์