คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- little wing
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
โลกในมุมมองของ Value Investor 1 ตุลาคม 2554
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผมเพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวที่อิตาลีและอังกฤษ และก็เช่นเคย ผมมีข้อสังเกตจากสิ่งที่พบเห็น
เรื่องแรกก็คือ ผมเพิ่งตระหนักว่าพนักงานบริการ เช่น พนักงานเสิร์พอาหารตามภัตตาคารโดยเฉพาะในอิตาลีนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุประมาณ 30-40 ปี ที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนน้อยมาก นี่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะในบ้านเราหรือในประเทศแถบเอเชียผมมักจะเห็นผู้หญิงมากกว่ามาก นั่นทำให้ผมคิดไปว่า งานในประเทศอิตาลีหรืออาจจะเป็นในหลาย ๆ ประเทศในยุโรปคงจะหายากมายาวนาน งานเสิร์พอาหารคงเป็นงานที่มีรายได้ดีมีคนแย่งกันทำและทำให้ผู้ชายเข้ามาทำกันมาก และไม่ใช่เป็นการทำงานชั่วคราวของเด็กวัยรุ่นเพื่อรองานอื่น แต่เป็นอาชีพที่ “พ่อบ้าน” ทำกันเป็นงานประจำ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกต่อไปถึงประเทศญี่ปุ่นซึ่งเคยขาดแคลนแรงงานมายาวนาน ที่นั่น ผมเคยเห็นผู้ชายอายุมากทำงานเป็นคนนั่งเฝ้าดูแลสถานที่อาบน้ำร้อนของผู้หญิง
อุทาหรณ์เรื่องนี้ นั่นคือ กำลังแรงงานที่สำคัญถูกใช้ไปทำงานที่ไม่ได้มีการเพิ่มคุณค่ามากนักทางเศรษฐกิจ น่าจะเป็นการบ่งบอกว่า ในระยะยาวแล้ว สังคมหรือประเทศก็อาจจะไปไม่ได้ไกลมากนักจากจุดที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมเองก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงอิตาลีหรือยุโรปนั้น ทำงานอะไรเป็นหลัก หรืออยู่มากในภาคไหนของเศรษฐกิจ
เรื่องที่สองที่ผมรู้สึกทึ่งเล็กน้อยก็คือ เรื่องของคนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิสซึ่งเป็นเมืองที่จมลงในทะเล ถนนทุกแห่งกลายเป็นคลอง ทั้งเมืองไม่มีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ทุกคนต้องเดินหรือใช้เรือเป็นพาหนะ เรือกอนโดลานั้นเป็นเรือโบราณที่นักท่องเที่ยวที่ไปเมืองเวนิสใช้นั่งชมเมือง เป็นเรือที่ใช้คนพาย และถ้าจะให้ครบสูตรจะต้องมีคนนั่งร้องเพลงโอเปร่าประกอบด้วย และนี่คือความ “โรแมนติก” สุดยอดของการท่องเที่ยวเมืองเวนิสที่นักท่องเที่ยวมักไม่ยอมพลาดและผมเองก็เป็นคนหนึ่งในนั้น แต่สิ่งที่ผมทึ่งก็คือ ค่าจ้างของคนพายเรือ ในเวลาครึ่งชั่วโมงของการให้บริการนั้น คนพายเรือคิดค่าบริการตกเป็นเงินไทยประมาณ 4,000-5,000 บาท คร่าว ๆ ถ้าทำวันละ 4-5 เที่ยว โดยเฉลี่ยเขาก็จะได้เงินวันละ 20,000 บาท เดือนหนึ่งถ้าทำซัก 20 วัน ก็จะมีรายได้ถึงเดือนละ 4 แสนบาท ซึ่งถ้าเป็นคนไทยจะได้รายได้ขนาดนี้คงต้องเป็นคนระดับซีอีโอของบริษัททีเดียว อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีคนหน้าตาแบบคนต่างชาติเช่นคนเชื้อสายเอเซียเป็นคนแจวเรือกอนโดลาเลย ดังนั้น ผมเชื่อว่าอาชีพนี้คงมีการสงวนไว้เฉพาะแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่ทำได้
ความเชื่อของผมในเรื่องนี้ก็คือ รายได้ของคนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิส ซึ่งผมดูแล้ว ไม่ได้มีความสามารถหรือทักษะพิเศษอะไร แต่ได้ผลตอบแทนสูงมากเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานหนักเท่า ๆ กันในเมืองไทยหรือในประเทศแถบเอเซียส่วนใหญ่ ย่อมเป็นเครื่องแสดงว่าคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้หรือในอิตาลีคงได้เงินเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับงานที่ทำ แต่ถ้าถามว่าทำไมนักท่องเที่ยวจึงยอมจ่าย คำตอบก็คือ เมืองเวนิสนั้น เป็นเมืองที่น่าจะเป็นสุดยอดของเมืองที่น่าเที่ยวเมืองหนึ่งของโลก ผมหรือคนจำนวนมากจึงยอมจ่ายเพื่อโอกาสอันพิเศษสุดนี้ ถ้าจะเปรียบไป คนเอเชียหรือคนเมืองอื่นที่มาเที่ยวเวนิส หรืออีกหลาย ๆ เมืองในอิตาลีหรือในยุโรปยอมทำงานหนักและงานที่ใช้ความสามารถสูงเพื่อที่จะผลิตสินค้ามาให้คนเวนิสใช้อย่างเต็มที่ โดยที่คนเวนิสอาจจะตอบแทนด้วยการให้คนเหล่านั้นมาพักและนั่งเรือกอนโดลาที่พายโดยคนเวนิสปีละครั้ง ดูไปแล้วไม่ใคร่ยุติธรรม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าการแลกเปลี่ยนแบบนี้จะดำรงอยู่ไปได้นานเท่าไร
เรื่องที่สามที่น่าแปลกใจก็คือ ในห้างสินค้าแบรนด์เนมหรูหลุยส์วิตตองในกรุงลอนดอน ผมพบว่าลูกค้าต้องเข้าคิวรอเข้าชมสินค้าในร้าน เพราะเขาจำกัดจำนวนลูกค้าให้เข้าชมและซื้อสินค้าเพื่อไม่ให้ร้านแน่นเกินไป นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ ประมาณ 80-90% ของคนที่อยู่ในร้านและรอคิวอยู่นั้น เป็นคนหน้าตาแบบเอเซียซึ่งผมเชื่อว่าเป็นนักท่องเที่ยว สินค้าของหลุยส์วิตตองนั้น เราทราบดีว่าราคาสูงกว่าต้นทุนมาก เรียกว่าทำกำไรให้กับเจ้าของมหาศาล สินค้าเหล่านั้น ผมเชื่อว่าผลิตในประเทศแถบเอเซียด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก และก็ขายให้คนเอเชียในราคาที่สูงมาก เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับว่า คนเอเซียคงต้องทำงานหนักมากเพื่อผลิตสินค้าให้คนยุโรปใช้ แล้วก็กลับไปขอแบ่งสินค้าบางส่วนกลับมาพร้อมกับความยินดีที่ได้สินค้ามีชื่อที่สามารถเอามาอวดเพื่อนที่บ้าน
พูดถึงเรื่องสินค้าแบรนด์เนม ในระหว่างที่อยู่อังกฤษผมได้ข่าวว่าบริษัทผู้ผลิตและขายสินค้าแบรนด์ดังอย่างปราดาซึ่งเป็นเจ้าของยี่ห้อมิวมิวด้วยนั้น กำลังขายสินค้าดีระเบิดในเอเชีย หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าคนเอเชียนั้น เห่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ แบบเดียวกับที่คนอังกฤษเข้าห้างไพร์มมาร์คซึ่งเป็นห้างขายสินค้าแฟชั่นราคาถูกคุณภาพดีกลางกรุงลอนดอน ผมฟังแล้วก็เกิดความรู้สึกว่า บางทีโลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงไป คนอังกฤษและอาจจะรวมถึงคนยุโรปกำลังหันมาซื้อสินค้าราคาถูกคุณภาพใช้ได้แต่ไม่มีแบรนด์จากเอเซีย ส่วนคนเอเชียนั้น ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมากให้กับคนยุโรปเพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมเพื่อ “หน้าตา” ของตน ผมเองก็ไม่รู้ว่าแนวทางธุรกิจแบบนี้จะดำเนินไปได้นานแค่ไหน แต่ถ้าให้เดาจากคิวของลูกค้าร้านหลุยส์วิตตองแล้ว ผมก็คิดว่าคงไม่เร็วนักที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้
จากเหตุการณ์ 3 เรื่องที่กล่าวมา ผมเองสรุปว่า ยุโรปในวันนี้ น่าจะเป็นยุโรปที่กำลัง “ตกดิน” มาตรฐานความเป็นอยู่ที่ยังสูงมากในวันนี้ ดูเหมือนว่ากำลังหยุดนิ่งและค่อย ๆ ลดต่ำลง คนทำงานน้อยลง คนจำนวนไม่น้อยไม่ได้ทำงานนั่นคือ ตกงาน และไม่ได้ทำงานที่ใช้ทักษะสูงมากมายอะไรนัก จำนวนมากทำงานบริการพื้น ๆ ที่คนเอเชียทำได้ดีไม่แพ้กัน สิ่งที่ทำให้ยุโรปยังดำรงความโดดเด่นอยู่ได้ส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือ ยุโรปนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานและยิ่งใหญ่น่าทึ่งน่าสนใจและมีโบราณสถานที่ทำให้คนมาท่องเที่ยวและยอมจ่ายเงินในราคาที่แพงมาก นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ยุโรปยัง “ผูกขาด” ในเรื่องของ “การเป็นผู้มีรสนิยมสูง” ผ่านสินค้าที่เป็นแบรนด์หรูหราระดับโลก สองสิ่งนี้ผมเชื่อว่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยรักษาสถานะการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงของยุโรปไว้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม การที่ยุโรปจะก้าวหน้าหรือโตต่อไปนั้น ดูแล้วน่าจะยากเหลือเกิน เหนือสิ่งอื่นใด พื้นฐานที่สำคัญจริง ๆ ของการที่จะมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูงได้จริง ๆ ในโลกที่เป็นโลกาภิวัฒน์นั้นก็คือ คุณต้องทำงานหนักและเป็นงานที่มีคุณค่าสูง
พูดมาเสียยาว ถ้าจะถามว่านี่จะมีอะไรที่เกี่ยวกับการลงทุนหรือเปล่า? คำตอบของผมก็คือ คงจะเกี่ยวอยู่บ้างในแง่ที่เราจะวิเคราะห์สถานการณ์ของยุโรปที่กำลังประสบกับปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจรุนแรงในช่วงนี้ ในความคิดของผม คนยุโรปเองน่าจะใช้ชีวิตที่สูงกว่าความสามารถของตนมานานพอสมควรโดยผ่านการกู้หนี้หรือก็คือ “ยืมอนาคตมาใช้” แต่อนาคตที่ว่านั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอยู่จริง ดังนั้น ยุโรปจำเป็นที่จะต้องลดมาตรฐานความเป็นอยู่ลงและนี่คือสิ่งที่น่าจะต้องเกิดขึ้น อาจจะผ่านสิ่งที่เรียกว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ” ผมพูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมกำลังทำนายว่ากรีซจะ “ไปไม่รอด” หรืออิตาลีจะต้องประสบภาวะวิกฤติเร็ว ๆ นี้ บางทียุโรปอาจจะสามารถลดมาตรฐานการดำรงชีวิตลงอย่างช้า ๆ เทียบกับคนเอเชียได้โดยไม่ต้องผ่านวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่ายุโรปนั้น กำลังตกดินและจะไม่กลับมายิ่งใหญ่อีกในชั่วอายุของเรา
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผมเพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวที่อิตาลีและอังกฤษ และก็เช่นเคย ผมมีข้อสังเกตจากสิ่งที่พบเห็น
เรื่องแรกก็คือ ผมเพิ่งตระหนักว่าพนักงานบริการ เช่น พนักงานเสิร์พอาหารตามภัตตาคารโดยเฉพาะในอิตาลีนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุประมาณ 30-40 ปี ที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนน้อยมาก นี่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะในบ้านเราหรือในประเทศแถบเอเชียผมมักจะเห็นผู้หญิงมากกว่ามาก นั่นทำให้ผมคิดไปว่า งานในประเทศอิตาลีหรืออาจจะเป็นในหลาย ๆ ประเทศในยุโรปคงจะหายากมายาวนาน งานเสิร์พอาหารคงเป็นงานที่มีรายได้ดีมีคนแย่งกันทำและทำให้ผู้ชายเข้ามาทำกันมาก และไม่ใช่เป็นการทำงานชั่วคราวของเด็กวัยรุ่นเพื่อรองานอื่น แต่เป็นอาชีพที่ “พ่อบ้าน” ทำกันเป็นงานประจำ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกต่อไปถึงประเทศญี่ปุ่นซึ่งเคยขาดแคลนแรงงานมายาวนาน ที่นั่น ผมเคยเห็นผู้ชายอายุมากทำงานเป็นคนนั่งเฝ้าดูแลสถานที่อาบน้ำร้อนของผู้หญิง
อุทาหรณ์เรื่องนี้ นั่นคือ กำลังแรงงานที่สำคัญถูกใช้ไปทำงานที่ไม่ได้มีการเพิ่มคุณค่ามากนักทางเศรษฐกิจ น่าจะเป็นการบ่งบอกว่า ในระยะยาวแล้ว สังคมหรือประเทศก็อาจจะไปไม่ได้ไกลมากนักจากจุดที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า ผมเองก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงอิตาลีหรือยุโรปนั้น ทำงานอะไรเป็นหลัก หรืออยู่มากในภาคไหนของเศรษฐกิจ
เรื่องที่สองที่ผมรู้สึกทึ่งเล็กน้อยก็คือ เรื่องของคนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิสซึ่งเป็นเมืองที่จมลงในทะเล ถนนทุกแห่งกลายเป็นคลอง ทั้งเมืองไม่มีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์หรือแม้แต่จักรยาน ทุกคนต้องเดินหรือใช้เรือเป็นพาหนะ เรือกอนโดลานั้นเป็นเรือโบราณที่นักท่องเที่ยวที่ไปเมืองเวนิสใช้นั่งชมเมือง เป็นเรือที่ใช้คนพาย และถ้าจะให้ครบสูตรจะต้องมีคนนั่งร้องเพลงโอเปร่าประกอบด้วย และนี่คือความ “โรแมนติก” สุดยอดของการท่องเที่ยวเมืองเวนิสที่นักท่องเที่ยวมักไม่ยอมพลาดและผมเองก็เป็นคนหนึ่งในนั้น แต่สิ่งที่ผมทึ่งก็คือ ค่าจ้างของคนพายเรือ ในเวลาครึ่งชั่วโมงของการให้บริการนั้น คนพายเรือคิดค่าบริการตกเป็นเงินไทยประมาณ 4,000-5,000 บาท คร่าว ๆ ถ้าทำวันละ 4-5 เที่ยว โดยเฉลี่ยเขาก็จะได้เงินวันละ 20,000 บาท เดือนหนึ่งถ้าทำซัก 20 วัน ก็จะมีรายได้ถึงเดือนละ 4 แสนบาท ซึ่งถ้าเป็นคนไทยจะได้รายได้ขนาดนี้คงต้องเป็นคนระดับซีอีโอของบริษัททีเดียว อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีคนหน้าตาแบบคนต่างชาติเช่นคนเชื้อสายเอเซียเป็นคนแจวเรือกอนโดลาเลย ดังนั้น ผมเชื่อว่าอาชีพนี้คงมีการสงวนไว้เฉพาะแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่ทำได้
ความเชื่อของผมในเรื่องนี้ก็คือ รายได้ของคนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิส ซึ่งผมดูแล้ว ไม่ได้มีความสามารถหรือทักษะพิเศษอะไร แต่ได้ผลตอบแทนสูงมากเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานหนักเท่า ๆ กันในเมืองไทยหรือในประเทศแถบเอเซียส่วนใหญ่ ย่อมเป็นเครื่องแสดงว่าคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้หรือในอิตาลีคงได้เงินเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับงานที่ทำ แต่ถ้าถามว่าทำไมนักท่องเที่ยวจึงยอมจ่าย คำตอบก็คือ เมืองเวนิสนั้น เป็นเมืองที่น่าจะเป็นสุดยอดของเมืองที่น่าเที่ยวเมืองหนึ่งของโลก ผมหรือคนจำนวนมากจึงยอมจ่ายเพื่อโอกาสอันพิเศษสุดนี้ ถ้าจะเปรียบไป คนเอเชียหรือคนเมืองอื่นที่มาเที่ยวเวนิส หรืออีกหลาย ๆ เมืองในอิตาลีหรือในยุโรปยอมทำงานหนักและงานที่ใช้ความสามารถสูงเพื่อที่จะผลิตสินค้ามาให้คนเวนิสใช้อย่างเต็มที่ โดยที่คนเวนิสอาจจะตอบแทนด้วยการให้คนเหล่านั้นมาพักและนั่งเรือกอนโดลาที่พายโดยคนเวนิสปีละครั้ง ดูไปแล้วไม่ใคร่ยุติธรรม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าการแลกเปลี่ยนแบบนี้จะดำรงอยู่ไปได้นานเท่าไร
เรื่องที่สามที่น่าแปลกใจก็คือ ในห้างสินค้าแบรนด์เนมหรูหลุยส์วิตตองในกรุงลอนดอน ผมพบว่าลูกค้าต้องเข้าคิวรอเข้าชมสินค้าในร้าน เพราะเขาจำกัดจำนวนลูกค้าให้เข้าชมและซื้อสินค้าเพื่อไม่ให้ร้านแน่นเกินไป นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ ประมาณ 80-90% ของคนที่อยู่ในร้านและรอคิวอยู่นั้น เป็นคนหน้าตาแบบเอเซียซึ่งผมเชื่อว่าเป็นนักท่องเที่ยว สินค้าของหลุยส์วิตตองนั้น เราทราบดีว่าราคาสูงกว่าต้นทุนมาก เรียกว่าทำกำไรให้กับเจ้าของมหาศาล สินค้าเหล่านั้น ผมเชื่อว่าผลิตในประเทศแถบเอเซียด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก และก็ขายให้คนเอเชียในราคาที่สูงมาก เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับว่า คนเอเซียคงต้องทำงานหนักมากเพื่อผลิตสินค้าให้คนยุโรปใช้ แล้วก็กลับไปขอแบ่งสินค้าบางส่วนกลับมาพร้อมกับความยินดีที่ได้สินค้ามีชื่อที่สามารถเอามาอวดเพื่อนที่บ้าน
พูดถึงเรื่องสินค้าแบรนด์เนม ในระหว่างที่อยู่อังกฤษผมได้ข่าวว่าบริษัทผู้ผลิตและขายสินค้าแบรนด์ดังอย่างปราดาซึ่งเป็นเจ้าของยี่ห้อมิวมิวด้วยนั้น กำลังขายสินค้าดีระเบิดในเอเชีย หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าคนเอเชียนั้น เห่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมดัง ๆ แบบเดียวกับที่คนอังกฤษเข้าห้างไพร์มมาร์คซึ่งเป็นห้างขายสินค้าแฟชั่นราคาถูกคุณภาพดีกลางกรุงลอนดอน ผมฟังแล้วก็เกิดความรู้สึกว่า บางทีโลกเรากำลังเปลี่ยนแปลงไป คนอังกฤษและอาจจะรวมถึงคนยุโรปกำลังหันมาซื้อสินค้าราคาถูกคุณภาพใช้ได้แต่ไม่มีแบรนด์จากเอเซีย ส่วนคนเอเชียนั้น ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมากให้กับคนยุโรปเพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมเพื่อ “หน้าตา” ของตน ผมเองก็ไม่รู้ว่าแนวทางธุรกิจแบบนี้จะดำเนินไปได้นานแค่ไหน แต่ถ้าให้เดาจากคิวของลูกค้าร้านหลุยส์วิตตองแล้ว ผมก็คิดว่าคงไม่เร็วนักที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้
จากเหตุการณ์ 3 เรื่องที่กล่าวมา ผมเองสรุปว่า ยุโรปในวันนี้ น่าจะเป็นยุโรปที่กำลัง “ตกดิน” มาตรฐานความเป็นอยู่ที่ยังสูงมากในวันนี้ ดูเหมือนว่ากำลังหยุดนิ่งและค่อย ๆ ลดต่ำลง คนทำงานน้อยลง คนจำนวนไม่น้อยไม่ได้ทำงานนั่นคือ ตกงาน และไม่ได้ทำงานที่ใช้ทักษะสูงมากมายอะไรนัก จำนวนมากทำงานบริการพื้น ๆ ที่คนเอเชียทำได้ดีไม่แพ้กัน สิ่งที่ทำให้ยุโรปยังดำรงความโดดเด่นอยู่ได้ส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือ ยุโรปนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานและยิ่งใหญ่น่าทึ่งน่าสนใจและมีโบราณสถานที่ทำให้คนมาท่องเที่ยวและยอมจ่ายเงินในราคาที่แพงมาก นอกจากการท่องเที่ยวแล้ว ยุโรปยัง “ผูกขาด” ในเรื่องของ “การเป็นผู้มีรสนิยมสูง” ผ่านสินค้าที่เป็นแบรนด์หรูหราระดับโลก สองสิ่งนี้ผมเชื่อว่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยรักษาสถานะการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงของยุโรปไว้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม การที่ยุโรปจะก้าวหน้าหรือโตต่อไปนั้น ดูแล้วน่าจะยากเหลือเกิน เหนือสิ่งอื่นใด พื้นฐานที่สำคัญจริง ๆ ของการที่จะมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่สูงได้จริง ๆ ในโลกที่เป็นโลกาภิวัฒน์นั้นก็คือ คุณต้องทำงานหนักและเป็นงานที่มีคุณค่าสูง
พูดมาเสียยาว ถ้าจะถามว่านี่จะมีอะไรที่เกี่ยวกับการลงทุนหรือเปล่า? คำตอบของผมก็คือ คงจะเกี่ยวอยู่บ้างในแง่ที่เราจะวิเคราะห์สถานการณ์ของยุโรปที่กำลังประสบกับปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจรุนแรงในช่วงนี้ ในความคิดของผม คนยุโรปเองน่าจะใช้ชีวิตที่สูงกว่าความสามารถของตนมานานพอสมควรโดยผ่านการกู้หนี้หรือก็คือ “ยืมอนาคตมาใช้” แต่อนาคตที่ว่านั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอยู่จริง ดังนั้น ยุโรปจำเป็นที่จะต้องลดมาตรฐานความเป็นอยู่ลงและนี่คือสิ่งที่น่าจะต้องเกิดขึ้น อาจจะผ่านสิ่งที่เรียกว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ” ผมพูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมกำลังทำนายว่ากรีซจะ “ไปไม่รอด” หรืออิตาลีจะต้องประสบภาวะวิกฤติเร็ว ๆ นี้ บางทียุโรปอาจจะสามารถลดมาตรฐานการดำรงชีวิตลงอย่างช้า ๆ เทียบกับคนเอเชียได้โดยไม่ต้องผ่านวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่ายุโรปนั้น กำลังตกดินและจะไม่กลับมายิ่งใหญ่อีกในชั่วอายุของเรา
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 5
ชอบบทความนี้ของดร.ครับ
ถึงเวลาของเอเชียซักที คนเอเชียทำงานหนัก ทั้งสินค้าเครื่องใช้และอาหารล้วนมาจากเอเชียเกือบทั้งหมด
คนเอเชียต่างหากที่สมควรได้อยู่ดีกินดี และเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ไม่โดนเอาเปรียบอีกต่อไป
ถึงเวลาของเอเชียซักที คนเอเชียทำงานหนัก ทั้งสินค้าเครื่องใช้และอาหารล้วนมาจากเอเชียเกือบทั้งหมด
คนเอเชียต่างหากที่สมควรได้อยู่ดีกินดี และเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ไม่โดนเอาเปรียบอีกต่อไป
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
กด Like แรงๆเลยครับซุนเซ็ก เขียน:ชอบบทความนี้ของดร.ครับ
ถึงเวลาของเอเชียซักที คนเอเชียทำงานหนัก ทั้งสินค้าเครื่องใช้และอาหารล้วนมาจากเอเชียเกือบทั้งหมด
คนเอเชียต่างหากที่สมควรได้อยู่ดีกินดี และเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ไม่โดนเอาเปรียบอีกต่อไป
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 9
ความไม่ยุติธรรมระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรปเกิดจากทัศนคติของผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการในเอเชียนิยมที่จะกดค่าแรงต่ำๆ เพื่อลดต้นทุน แข่งขันกันด้านราคา เพื่อจะได้ขายง่ายๆ ยอมลดค่าเงินสกุลของตัวเอง เพื่อให้สินค้าและบริการของตัวเองมีราคาถูก รัฐบาลยอมอุดหนุนต้นทุนการผลิตต่างๆ เช่น ราคาน้ำมัน เพื่อให้มีต้นทุนต่ำๆ
แต่สิ่งเหล่านี้ต้องแลกมาด้วยมาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนในประเทศนั้นๆ
เราลองคิดดูว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ถกเถียงกันวันละ 300 บาทต่อวัน เดือนละแค่ 9000 บาท เทียบกับค่าแรงในการพายเรือกองโดลาซิครับ แล้วคนงานก็ไม่มีรายได้เพียงพอ ครอบครัวไม่มีเงินเหลือ ไม่มีเวลาที่จะดูแลครอบครัว
ถึงเวลาแล้วที่คนเอเชียเลิกทำงานหนักเพื่อรายได้น้อยๆ ในขณะที่คนยุโรปและสหรัฐทำงานน้อยนิดแตีมีมาตรฐานการครองชีพที่สุขสบาย
ผู้ประกอบการในเอเชียนิยมที่จะกดค่าแรงต่ำๆ เพื่อลดต้นทุน แข่งขันกันด้านราคา เพื่อจะได้ขายง่ายๆ ยอมลดค่าเงินสกุลของตัวเอง เพื่อให้สินค้าและบริการของตัวเองมีราคาถูก รัฐบาลยอมอุดหนุนต้นทุนการผลิตต่างๆ เช่น ราคาน้ำมัน เพื่อให้มีต้นทุนต่ำๆ
แต่สิ่งเหล่านี้ต้องแลกมาด้วยมาตรฐานการดำรงชีวิตของประชาชนในประเทศนั้นๆ
เราลองคิดดูว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ถกเถียงกันวันละ 300 บาทต่อวัน เดือนละแค่ 9000 บาท เทียบกับค่าแรงในการพายเรือกองโดลาซิครับ แล้วคนงานก็ไม่มีรายได้เพียงพอ ครอบครัวไม่มีเงินเหลือ ไม่มีเวลาที่จะดูแลครอบครัว
ถึงเวลาแล้วที่คนเอเชียเลิกทำงานหนักเพื่อรายได้น้อยๆ ในขณะที่คนยุโรปและสหรัฐทำงานน้อยนิดแตีมีมาตรฐานการครองชีพที่สุขสบาย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 10
อีกอย่าง คนเอเชียต้องเปลี่ยนค่านิยมของตนเองก่อนซุนเซ็ก เขียน:ชอบบทความนี้ของดร.ครับ
ถึงเวลาของเอเชียซักที คนเอเชียทำงานหนัก ทั้งสินค้าเครื่องใช้และอาหารล้วนมาจากเอเชียเกือบทั้งหมด
คนเอเชียต่างหากที่สมควรได้อยู่ดีกินดี และเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ไม่โดนเอาเปรียบอีกต่อไป
ทำเงินได้เท่าไร่ก็ยังเอาไปประเคนให้ทางยุโรปแบบนี้ (เช่น ซื้อกระเป๋ามาเพื่ออวดเพื่อน ให้เข้าสังคมได้)
ก็ยังจะตกเป็นเบี้ยล่างของทางยุโรปต่อไป
จริงๆแล้วประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว ของทางเอเชียก็เทียบกับยุโรปได้สบายๆ
แค่เราไม่ค่อยจะเห็นค่าของของที่อยู่ใกล้ตัว ชอบติดหรูไปเที่ยวยุโรปกัน ทั้งที่จริงๆเมืองไทยเรานั้นมีอะไรๆให้เที่ยวอีกมากนัก ราคาก็ถูกกว่ามาก
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 11
เป็น มุมมอง ที่ เด็ดขาด มากครับ ชอบมาก
ผมเข้าใจว่ามุมมองแบรนด์ เนม นั้น เรืองรอง กับ พวกเบบี้บูมมากกว่า
แล้วก็มีรุ่นใหม่ ติดมาหน่อย
ดูเด็กวัยรุ่นสมัยนี้สิฮะ เค้า บ้า เอเชีย กันแล้ว
จาก เบบี้บูม--ฝรั่ง
เจนX ---ฮ่องกง ญี่ปุ่น
เจนY---- ไต้หวัน เกาหลลลลลลลลลลี
ผมดีใจทุกครั้ง เมื่อ มองไปที่ป้าย โครตสะนาขนาดใหญ่ทั่วกรุง ที่เริ่ม มี นายแบบ นางแบบ เอเชีย มาแทน ที่ ฝรั่งดอง มาก ขึ้น เรื่อยๆ 5555
หมดเวลาพวกท่านแล้ว เบบี้ บูมมมมม
ผมเข้าใจว่ามุมมองแบรนด์ เนม นั้น เรืองรอง กับ พวกเบบี้บูมมากกว่า
แล้วก็มีรุ่นใหม่ ติดมาหน่อย
ดูเด็กวัยรุ่นสมัยนี้สิฮะ เค้า บ้า เอเชีย กันแล้ว
จาก เบบี้บูม--ฝรั่ง
เจนX ---ฮ่องกง ญี่ปุ่น
เจนY---- ไต้หวัน เกาหลลลลลลลลลลี
ผมดีใจทุกครั้ง เมื่อ มองไปที่ป้าย โครตสะนาขนาดใหญ่ทั่วกรุง ที่เริ่ม มี นายแบบ นางแบบ เอเชีย มาแทน ที่ ฝรั่งดอง มาก ขึ้น เรื่อยๆ 5555
หมดเวลาพวกท่านแล้ว เบบี้ บูมมมมม
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณสำหรับบทความและข้อมูลดีดีครับ ผมเห็นด้วยว่าตอนนี้ยุโรปกำลังจะร่วงตกดิน แต่จะตกถึงดินหรือไม่ หรืออาจจะแค่โฉบๆ แล้วก็มีโอกาสขึ้นมาใหม่ครับ เพราะเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง คนยุโรปก็จะลุกขึ้นมาทำงานหนักอีกครั้ง มันเป็นวงจร ซึ่งสมัยนี้ หมุนเร็วกว่าสมัยก่อนเสียอีก
ในฐานะที่เป็นคนเอเชีย อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ ว่าเราจะรุ่งแน่ เพราะความจริงที่เห็นก็คือ มาตรฐานเรื่องคุณภาพ สิทธิมนุษย์ชน การเคารพกฏหมาย และ ระเบียบวินัย ของเอเชียนั้นยังแย่กว่ายุโรปมาก เรากำลังไปได้ดีเพราะเขากำลังเซ อย่าเพิ่งลำพอง และของให้เคร่งครัดกับตัวเองให้มากขึ้นครับ
ในฐานะที่เป็นคนเอเชีย อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ ว่าเราจะรุ่งแน่ เพราะความจริงที่เห็นก็คือ มาตรฐานเรื่องคุณภาพ สิทธิมนุษย์ชน การเคารพกฏหมาย และ ระเบียบวินัย ของเอเชียนั้นยังแย่กว่ายุโรปมาก เรากำลังไปได้ดีเพราะเขากำลังเซ อย่าเพิ่งลำพอง และของให้เคร่งครัดกับตัวเองให้มากขึ้นครับ
บทความดีดีสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณท่านอาจารย์สำหรับบทความที่ยอดเยี่ยมเสมอครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 19
คนทั่วๆ ไปได้กระเป๋าและถ่ายรูปสวยๆ
แต่คนระดับ ดร.นิเวศไปเที่ยวมีอะไรคุ้มค่ามาฝากมากมาย
แต่คนระดับ ดร.นิเวศไปเที่ยวมีอะไรคุ้มค่ามาฝากมากมาย
-
- Verified User
- โพสต์: 125
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 21
likeซุนเซ็ก เขียน:ชอบบทความนี้ของดร.ครับ
ถึงเวลาของเอเชียซักที คนเอเชียทำงานหนัก ทั้งสินค้าเครื่องใช้และอาหารล้วนมาจากเอเชียเกือบทั้งหมด
คนเอเชียต่างหากที่สมควรได้อยู่ดีกินดี และเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ไม่โดนเอาเปรียบอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 26
ท่านอ.กลับมา Fm96.5 คึกคักๆคับ ผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วคับท่าน
ปล. คนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิสถ้าเปรียบกับในไทยก็คงจะเป็นอาชีพคนขับรถสามล้อแต่ของเขารายได้วันเดียวอาจจะมากว่าเราทั้งเดือนก็ได้ กำไม่ยุติธรรมเลยจืงๆคับ
ปล. คนแจวเรือกอนโดลาที่เมืองเวนิสถ้าเปรียบกับในไทยก็คงจะเป็นอาชีพคนขับรถสามล้อแต่ของเขารายได้วันเดียวอาจจะมากว่าเราทั้งเดือนก็ได้ กำไม่ยุติธรรมเลยจืงๆคับ
อันนี้ทำให้ผมนึกถึงปู่ลินซ์ที่เรื่องคนแย่งกันซื้อเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งกันมากในห้างๆหนึ่งที่เขียนไว้ในหนังสือที่ท่านอ.แปลเลยคับ คนเอเชียกำลังซื้อกำลังเพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากศก.เอเชียเติบโตได้เป็นอย่างดีและราคาหุ้นตอนนี้ก็เป้นpe10กว่าเท่าเองถือว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่แพง น่าสนใจดีนะคับในห้างสินค้าแบรนด์เนมหรูหลุยส์วิตตองในกรุงลอนดอน ผมพบว่าลูกค้าต้องเข้าคิวรอเข้าชมสินค้าในร้าน เพราะเขาจำกัดจำนวนลูกค้าให้เข้าชมและซื้อสินค้าเพื่อไม่ให้ร้านแน่นเกินไป
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
- lengmanutd
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนแจวเรือ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 27
ขอบคุณมากครับ
ลงทุนในบริษัทที่ดี ราคาหุ้นมี MOS (Downside = Limited) และแนวโน้มกำไรมี Growth (Upside = Infinity)