เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 1
มนตรี ศรไพศาล เขียนบทความตั้งข้อสังเกตุ..ถ้ามัวแต่หา"แพะ" ที่"ขาย" หรือ"ช็อตเซล" หุ้น...อาจไม่ได้พบ"สาเหตุ"ที่แท้จริง
โลกกำลังอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ผันผวน คนไทยเราเห็นตลาดหุ้นไทยตกต่ำลงมาอย่างรวดเร็วตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนก็รู้สึกหนักใจ กังวลใจ และหดหู่ใจ แต่เราอาจไม่ทราบว่า ตลาดหลักทรัพย์ยุโรป ลอนดอน และ อเมริกาตกหนักยิ่งกว่าของเราอย่างมาก และแกว่งแรงกว่าเรามาก
ผมจึงขอพักการถ่ายทอดคำเทศนาเรื่อง “เงิน เงิน เงิน” ออกไปอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพูดเรื่องสภาวะตลาดในปัจจุบันเสียก่อน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีคำถามพอสมควรว่า ที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก เป็นผลจากการช็อตเซลหรือไม่ ?
แล้วก็พบว่า ยอดขายจากการช็อตเซลนั้น มีเพียง 1-2% แทบไม่มีผลอะไร และโดยธรรมชาติ กลุ่มที่ขายช็อตนั้น จะไม่ใช่เป็นกลุ่มที่ช็อตหุ้นยาวๆ จนสามารถกดหุ้นลงไปได้ลึกๆ เพราะจะต้อง “ซื้อ” หุ้นเพื่อคืนหุ้นที่ยืมด้วย
การที่คิดเพียงแค่ว่า “ใคร” ขาย หรือ ช็อตเซล (ขายโดยยืมหุ้นมาขายก่อน แล้วจะซื้อมาคืนภายหลัง) จะเป็นเหมือนผู้ร้ายในตลาดหุ้น ก็อาจจะผิดเป้าเพราะเป็นส่วนน้อย แต่ที่สำคัญคือ อาจทำให้ไม่สามารถพบ “สาเหตุ” ที่แท้จริงที่ทำให้หุ้นลง แล้วจะทำให้ตัดสินใจลงทุนต่อไปอย่างผิดพลาด
รอบนี้ ก็ถือว่า พบแล้วว่า ตลาดหุ้นไทย กับตลาดอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ เคยเป็นตลาดร้อนแรงในช่วงตลาดฟื้นตัวหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ดังที่เห็นว่าในปี 2009 ตลาดหุ้นไทยขึ้นมา 63% จาก 449.96 จุดสิ้นปี 2008 มาเป็น 734.54 จุดเมื่อสิ้นปี 2009 และโตอีก 40% มาปิดที่ 1,032.76 จุดปลายปี 2010 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสูงสุด 1,148.28 เติบโตอีกถึง 11% โดยที่ต่างประเทศทรุดตัวอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
ซึ่งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่ขึ้นแรงคู่ๆกัน ก็ปรับตัวลงไปก่อนแล้ว จึงทำให้ตลาดไทยต้องถูกแรงขายกดดันให้ปรับตัวตามไปด้วย
ผมจึงอยากมีโอกาสให้เรามองเห็นว่า เรื่อง “ช็อตเซล” นั้น เป็นเรื่องที่เป็นที่ยอมรับ และใช้ประโยชน์กันทั่วไป โดยมีการเปิดเครื่องมือใหม่ๆมีมากมายที่อนุญาตให้เกิด “ช็อตเซล” เช่น ระบบการให้ยืมหุ้น อนุพันธ์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งของดัชนีตลาดฯ สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงรายหุ้น ก็เปิดโอกาสให้ช็อตเซลได้อยู่แล้ว ด้วยเห็นว่ามีประโยชน์เหตุผลสนับสนุนดังนี้
1. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาดเป็น “ขาลง” แม้จะยังไม่มีหุ้น แต่สามารถขอยืมหุ้นมา ขายไปก่อน แล้วซื้อคืนภายหลัง
2. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาด “ผันผวน” จับจังหวะซื้อขายไม่ถูก ยินดีถือหุ้นระยะยาว แต่ต้องการผลตอบแทนเพิ่มจากหุ้นที่ถือ ก็ให้ยืมหุ้นได้ ซึ่งหุ้นก็ยังถืออยู่ แต่จะได้ดอกเบี้ยจากการให้ยืมหุ้น และส่วนใหญ่จะขอหุ้นคืนเมื่อไรก็ได้ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าคนยืมไปขายแล้ว จะแม่นทุกคน เขาอาจขายแล้ว ถูกตลาดฟื้นตัวตีกลับ และต้องเร่งซื้อหุ้นคืนจนตลาดปรับตัวสูงขึ้นก็ได้
3. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาด “ปรับลึกแล้ว” แต่นักลงทุนที่ถือก็ถือ ไม่ยอมขาย แต่กลุ่มที่ยินดีช็อตหุ้น เป็นผู้เสนอขายได้ ก็ทำให้เขาซื้อได้
อีกครั้ง เพราะคนที่ช็อตหุ้น ก็ไม่แน่ว่าช็อตแล้วจะถูกทาง อาจกลายเป็นมาขายก่อนในราคาต่ำแล้วราคากลับสูงขึ้นไปก็ได้
4. การช็อตเซลจึงมีส่วนเพิ่มสภาพคล่อง ในยามลำบาก ซึ่งในทุกสภาวะตลาด สภาพคล่องหมายถึงหุ้นมีแรงซื้อแรงขายมากสม่ำเสมอดีเป็นความแข็งแรงของตลาดและเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน
5. มีนักเศรษฐศาสตร์กล่าวด้วยว่า การมีช็อตเซลนั้น มีส่วนช่วยให้ตลาดปรับตัวสู่สมดุลทางกลไกตลาดเร็วขึ้น
อย่างจอร์จ โซรอส เคยเป็นแพะที่ถูกประณาม กรณีทุบเงินปอนด์ หรือทุบเงินบาท แต่ก็ช่วยให้ค่าเงิน ปรับตัวไปตามกลไกตลาด (แต่ถ้าใครทุบให้เกินกลไกตลาด เพื่อฉวยโอกาสก็ถือว่าไม่ดี เป็นการทำบาป)
ขณะนี้ สหรัฐฯกลับอยากให้มีคนมาช็อตขายดอลลาร์มากขึ้น ถึงกับบ่นอยู่หลายครั้ง ว่าค่าเงินของสหรัฐฯแข็งเกินไป ในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับกลไกตลาด สหรัฐฯขาดดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง จีนและเอเซียก็เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดีโอบามา ถึงกับบอกว่า “หยวนควรแข็งกว่านนี้ เพื่อให้การค้าขายมีสมดุลมากขึ้น” ซึ่งกลไกตลาดที่ปรับตัวช้า อาจถือว่า เพราะ แรงขายดอลลาร์ และแรงช็อตเซลดอลลาร์ไม่พอเพียงเช่นนี้ ก็จึงทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจยังหนักอยู่ คนว่างงานสูงถึง 9% มากว่า 3 ปีแล้วก็ยังสูงระดับนี้ต่อไป
หากกลไกตลาดทำงานได้เร็ว ค่าเงินเขาอ่อน คงไม่ถึงกับที่จะมาทำสินค้าสิ่งทอ รองเท้าทดแทนจีนได้ แต่อาจทำให้คนจีน ไปเที่ยวเวกัส แอลเอ หรือฟลอริด้ากันได้มากขึ้น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา หรือในยุโรปได้มากขึ้น ก็น่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
นักเศรษฐศาตร์ จึงเชื่อในหลักของกลไกตลาด ว่าจะเป็นไปตาม Invisible Hand คือ พระหัตถ์ที่มองไม่เห็น หรือ พระหัตถ์ของพระเจ้า และเครื่องมือใด ที่ช่วยทำให้กลไกตลาดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการช็อตเซลด้วย ก็ควรจะให้ทำได้ต่อไป
นักลงทุนจึงควรติดตามสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง เมื่อมองไปในโลกแล้ว ก็ยอมรับว่า มีความน่าเป็นห่วงน่ากังวลกับการแก้ปัญหาในปัจจุบัน เพราะ ดูเหมือนไม่ใช่ว่าสูตรเคนเซียนนั้น จะทำได้ผลเป็นสูตรสำเร็จอย่างที่คาดหวังง่ายๆแล้ว คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
ติดตามปัจจัยที่ถูกต้องอย่างมีปัจจัยพื้นฐาน จะช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ถูกต้องมากขึ้นครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%A5.html
โลกกำลังอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ผันผวน คนไทยเราเห็นตลาดหุ้นไทยตกต่ำลงมาอย่างรวดเร็วตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนก็รู้สึกหนักใจ กังวลใจ และหดหู่ใจ แต่เราอาจไม่ทราบว่า ตลาดหลักทรัพย์ยุโรป ลอนดอน และ อเมริกาตกหนักยิ่งกว่าของเราอย่างมาก และแกว่งแรงกว่าเรามาก
ผมจึงขอพักการถ่ายทอดคำเทศนาเรื่อง “เงิน เงิน เงิน” ออกไปอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพูดเรื่องสภาวะตลาดในปัจจุบันเสียก่อน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีคำถามพอสมควรว่า ที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก เป็นผลจากการช็อตเซลหรือไม่ ?
แล้วก็พบว่า ยอดขายจากการช็อตเซลนั้น มีเพียง 1-2% แทบไม่มีผลอะไร และโดยธรรมชาติ กลุ่มที่ขายช็อตนั้น จะไม่ใช่เป็นกลุ่มที่ช็อตหุ้นยาวๆ จนสามารถกดหุ้นลงไปได้ลึกๆ เพราะจะต้อง “ซื้อ” หุ้นเพื่อคืนหุ้นที่ยืมด้วย
การที่คิดเพียงแค่ว่า “ใคร” ขาย หรือ ช็อตเซล (ขายโดยยืมหุ้นมาขายก่อน แล้วจะซื้อมาคืนภายหลัง) จะเป็นเหมือนผู้ร้ายในตลาดหุ้น ก็อาจจะผิดเป้าเพราะเป็นส่วนน้อย แต่ที่สำคัญคือ อาจทำให้ไม่สามารถพบ “สาเหตุ” ที่แท้จริงที่ทำให้หุ้นลง แล้วจะทำให้ตัดสินใจลงทุนต่อไปอย่างผิดพลาด
รอบนี้ ก็ถือว่า พบแล้วว่า ตลาดหุ้นไทย กับตลาดอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ เคยเป็นตลาดร้อนแรงในช่วงตลาดฟื้นตัวหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ดังที่เห็นว่าในปี 2009 ตลาดหุ้นไทยขึ้นมา 63% จาก 449.96 จุดสิ้นปี 2008 มาเป็น 734.54 จุดเมื่อสิ้นปี 2009 และโตอีก 40% มาปิดที่ 1,032.76 จุดปลายปี 2010 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสูงสุด 1,148.28 เติบโตอีกถึง 11% โดยที่ต่างประเทศทรุดตัวอย่างรุนแรงต่อเนื่อง
ซึ่งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่ขึ้นแรงคู่ๆกัน ก็ปรับตัวลงไปก่อนแล้ว จึงทำให้ตลาดไทยต้องถูกแรงขายกดดันให้ปรับตัวตามไปด้วย
ผมจึงอยากมีโอกาสให้เรามองเห็นว่า เรื่อง “ช็อตเซล” นั้น เป็นเรื่องที่เป็นที่ยอมรับ และใช้ประโยชน์กันทั่วไป โดยมีการเปิดเครื่องมือใหม่ๆมีมากมายที่อนุญาตให้เกิด “ช็อตเซล” เช่น ระบบการให้ยืมหุ้น อนุพันธ์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งของดัชนีตลาดฯ สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงรายหุ้น ก็เปิดโอกาสให้ช็อตเซลได้อยู่แล้ว ด้วยเห็นว่ามีประโยชน์เหตุผลสนับสนุนดังนี้
1. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาดเป็น “ขาลง” แม้จะยังไม่มีหุ้น แต่สามารถขอยืมหุ้นมา ขายไปก่อน แล้วซื้อคืนภายหลัง
2. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาด “ผันผวน” จับจังหวะซื้อขายไม่ถูก ยินดีถือหุ้นระยะยาว แต่ต้องการผลตอบแทนเพิ่มจากหุ้นที่ถือ ก็ให้ยืมหุ้นได้ ซึ่งหุ้นก็ยังถืออยู่ แต่จะได้ดอกเบี้ยจากการให้ยืมหุ้น และส่วนใหญ่จะขอหุ้นคืนเมื่อไรก็ได้ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าคนยืมไปขายแล้ว จะแม่นทุกคน เขาอาจขายแล้ว ถูกตลาดฟื้นตัวตีกลับ และต้องเร่งซื้อหุ้นคืนจนตลาดปรับตัวสูงขึ้นก็ได้
3. เป็นการเพิ่มทางเลือกกลยุทธให้กับนักลงทุน ที่เห็นว่าตลาด “ปรับลึกแล้ว” แต่นักลงทุนที่ถือก็ถือ ไม่ยอมขาย แต่กลุ่มที่ยินดีช็อตหุ้น เป็นผู้เสนอขายได้ ก็ทำให้เขาซื้อได้
อีกครั้ง เพราะคนที่ช็อตหุ้น ก็ไม่แน่ว่าช็อตแล้วจะถูกทาง อาจกลายเป็นมาขายก่อนในราคาต่ำแล้วราคากลับสูงขึ้นไปก็ได้
4. การช็อตเซลจึงมีส่วนเพิ่มสภาพคล่อง ในยามลำบาก ซึ่งในทุกสภาวะตลาด สภาพคล่องหมายถึงหุ้นมีแรงซื้อแรงขายมากสม่ำเสมอดีเป็นความแข็งแรงของตลาดและเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน
5. มีนักเศรษฐศาสตร์กล่าวด้วยว่า การมีช็อตเซลนั้น มีส่วนช่วยให้ตลาดปรับตัวสู่สมดุลทางกลไกตลาดเร็วขึ้น
อย่างจอร์จ โซรอส เคยเป็นแพะที่ถูกประณาม กรณีทุบเงินปอนด์ หรือทุบเงินบาท แต่ก็ช่วยให้ค่าเงิน ปรับตัวไปตามกลไกตลาด (แต่ถ้าใครทุบให้เกินกลไกตลาด เพื่อฉวยโอกาสก็ถือว่าไม่ดี เป็นการทำบาป)
ขณะนี้ สหรัฐฯกลับอยากให้มีคนมาช็อตขายดอลลาร์มากขึ้น ถึงกับบ่นอยู่หลายครั้ง ว่าค่าเงินของสหรัฐฯแข็งเกินไป ในการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับกลไกตลาด สหรัฐฯขาดดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง จีนและเอเซียก็เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ประธานาธิบดีโอบามา ถึงกับบอกว่า “หยวนควรแข็งกว่านนี้ เพื่อให้การค้าขายมีสมดุลมากขึ้น” ซึ่งกลไกตลาดที่ปรับตัวช้า อาจถือว่า เพราะ แรงขายดอลลาร์ และแรงช็อตเซลดอลลาร์ไม่พอเพียงเช่นนี้ ก็จึงทำให้ปัญหาทางเศรษฐกิจยังหนักอยู่ คนว่างงานสูงถึง 9% มากว่า 3 ปีแล้วก็ยังสูงระดับนี้ต่อไป
หากกลไกตลาดทำงานได้เร็ว ค่าเงินเขาอ่อน คงไม่ถึงกับที่จะมาทำสินค้าสิ่งทอ รองเท้าทดแทนจีนได้ แต่อาจทำให้คนจีน ไปเที่ยวเวกัส แอลเอ หรือฟลอริด้ากันได้มากขึ้น ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา หรือในยุโรปได้มากขึ้น ก็น่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
นักเศรษฐศาตร์ จึงเชื่อในหลักของกลไกตลาด ว่าจะเป็นไปตาม Invisible Hand คือ พระหัตถ์ที่มองไม่เห็น หรือ พระหัตถ์ของพระเจ้า และเครื่องมือใด ที่ช่วยทำให้กลไกตลาดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการช็อตเซลด้วย ก็ควรจะให้ทำได้ต่อไป
นักลงทุนจึงควรติดตามสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง เมื่อมองไปในโลกแล้ว ก็ยอมรับว่า มีความน่าเป็นห่วงน่ากังวลกับการแก้ปัญหาในปัจจุบัน เพราะ ดูเหมือนไม่ใช่ว่าสูตรเคนเซียนนั้น จะทำได้ผลเป็นสูตรสำเร็จอย่างที่คาดหวังง่ายๆแล้ว คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
ติดตามปัจจัยที่ถูกต้องอย่างมีปัจจัยพื้นฐาน จะช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ถูกต้องมากขึ้นครับ
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%A5.html
-
- Verified User
- โพสต์: 1904
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 2
แล้วทำไมตลาดหุ้นใหญ่ๆในยุโรปอาทิตย์ที่แล้วมาพอหุ้นตกหนักๆเค้าถึงสั่งห้ามช๊อตเซลล่ะครับ. ผมคิดว่าโบรคไม่ควรเห็นแก่รายได้คอมมิชั่นเล็กๆน้อยๆแล้วมาเห็นด้วยกับการทุบหุ้นหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม. จำปีต้มยำกุ้งได้มะครับ หุ้นไม่ได้ตกหนักเพราะเจ้าของหุ้นอยากขายนะแต่เค้าโดนโบรคจับขาย ทีนี้ถ้าคุณเล่นช๊อตขายกันซะจนราคาหุ้นตกหนักๆ แรงขายที่มาจากฟอซเซลก็จะตามมา สุดท้ายคุณก็ได้หุ้นคืนในราคาต่ำๆ คนเจ๊งก็คือลูกค้ามาจิ้นของคุณนั่นแหละ.
ถ้าคุณจะให้ผมเห็นด้วยกับช๊อตเซล ผมก็อยากให้ยกเลิกระบบจับขายสิครับ ใครถือหุ้นแล้วยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามปกติ ต่อให้ค่า ไอเอ็มไม่ถึง25 คุณก็อย่าไปจับขาย
ถ้าคุณจะให้ผมเห็นด้วยกับช๊อตเซล ผมก็อยากให้ยกเลิกระบบจับขายสิครับ ใครถือหุ้นแล้วยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามปกติ ต่อให้ค่า ไอเอ็มไม่ถึง25 คุณก็อย่าไปจับขาย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 3
ข้อเขียน.....ถ้ามัวแต่หา"แพะ" ที่"ขาย" หรือ"ช็อตเซล" หุ้น...อาจไม่ได้พบ"สาเหตุ"ที่แท้จริง
อาจจะจริง.... เช่นเดียวกัน กับ การเกร็งจำนวนการซื้อการขายของต่างชาติ ในแต่ละช่วงเวลา
แต่ก็มิใช่ว่าไม่ให้ดูหรือติดตาม การดูและติดตามก็น่าเป็นเรื่องปกติ หากเราดูและติดตามในแบบสถิติให้รู้ว่าช่วงทั่วๆไป(ปกติ)เป็นเช่นไร เราจะได้แยกแยะได้ว่า ยามใด เมื่อไร มันผิดปกติไปมากกว่าปกติรุนแรง จะได้วางแผนตั้งรับเพิ่มเติม เผื่อไว้ได้
อาจจะจริง.... เช่นเดียวกัน กับ การเกร็งจำนวนการซื้อการขายของต่างชาติ ในแต่ละช่วงเวลา
แต่ก็มิใช่ว่าไม่ให้ดูหรือติดตาม การดูและติดตามก็น่าเป็นเรื่องปกติ หากเราดูและติดตามในแบบสถิติให้รู้ว่าช่วงทั่วๆไป(ปกติ)เป็นเช่นไร เราจะได้แยกแยะได้ว่า ยามใด เมื่อไร มันผิดปกติไปมากกว่าปกติรุนแรง จะได้วางแผนตั้งรับเพิ่มเติม เผื่อไว้ได้
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 4
เห็นด้วยกับพี่มนตรีครับ
หุ้น under VI เราซื้อและบางคนอาจอัด margin ด้วย
แล้วทำไมหุ้น(ที่เค้าคิดว่า) over จะมีคนทำตรงข้ามไม่ได้ล่ะครับ?
....ลองคิดด้วยความเป็นกลางและไม่ลำเอียงนะครับ....
ผมว่าการมี ShortSell จะทำให้ตลาดสมดุลกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หุ้นตัวไหนที่รวมตัวกัน จงใจปั่น ก็จะไม่สามารถทำได้ง่ายแล้ว
เพราะต้องระวังตัวอาจโดน ShortSell สวนได้
ตรงกันข้าม
ถ้า ShortSell มามั่วๆ ถ้าหุ้นดีจริงเด่วก็มีฝ่ายซื้อสวนเองครับ...แบบนี้ VI น่าจะชอบไม่ใช่เหรอ?
คน ShortSell ไม่ใช่ได้หุ้นมาฟรีนะครับ เค้าก็ลงทุนเหมือนกันแถมมีดอกด้วย ต้นทุนสูงกว่าฝ่ายซื้อซะอีก
ปล.ผมไม่ได้ทำ ShortSell หุ้นนะครับ เพียงแค่อยากให้มองโลกเป็นกลาง
หุ้น under VI เราซื้อและบางคนอาจอัด margin ด้วย
แล้วทำไมหุ้น(ที่เค้าคิดว่า) over จะมีคนทำตรงข้ามไม่ได้ล่ะครับ?
....ลองคิดด้วยความเป็นกลางและไม่ลำเอียงนะครับ....
ผมว่าการมี ShortSell จะทำให้ตลาดสมดุลกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หุ้นตัวไหนที่รวมตัวกัน จงใจปั่น ก็จะไม่สามารถทำได้ง่ายแล้ว
เพราะต้องระวังตัวอาจโดน ShortSell สวนได้
ตรงกันข้าม
ถ้า ShortSell มามั่วๆ ถ้าหุ้นดีจริงเด่วก็มีฝ่ายซื้อสวนเองครับ...แบบนี้ VI น่าจะชอบไม่ใช่เหรอ?
คน ShortSell ไม่ใช่ได้หุ้นมาฟรีนะครับ เค้าก็ลงทุนเหมือนกันแถมมีดอกด้วย ต้นทุนสูงกว่าฝ่ายซื้อซะอีก
ปล.ผมไม่ได้ทำ ShortSell หุ้นนะครับ เพียงแค่อยากให้มองโลกเป็นกลาง
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
- blackninja
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 6
ตอนนั้นผมก็ Long นะครับ เพราะจังหวะนั้น ตลาดยุโรป กับ ดาวฟิวเจอร์มันดีดขึ้นพอดี SET มันหยุดเลยต้องมา long futures แทนtritara เขียน:ผมอยากให้หาคนที่ Long Futures อย่างถล่มทะลายตอนที่ตลาด SET ขึ้นเครื่องหมาย Halt มากกว่าครับ คิดว่าหน้าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
Thailand only!!
- lengmanutd
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 7
เห็นด้วยครับ ว่า Short Sales ไม่ใช่เครื่องมือที่เลวร้ายถึงขนาดทำให้หุ้นลงหนักๆ หลายๆ วันได้ เพราะปริมาณการซื้อขายของ Short Sales มีเพียงแค่ 1-2% ของ Volume ตลาดรวม
ที่สำคัญอยากให้มองว่า Short Sales ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน ไม่ใช่จะ Short แล้วได้กำไรทุกครั้งไป
ที่สำคัญอยากให้มองว่า Short Sales ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน ไม่ใช่จะ Short แล้วได้กำไรทุกครั้งไป
ลงทุนในบริษัทที่ดี ราคาหุ้นมี MOS (Downside = Limited) และแนวโน้มกำไรมี Growth (Upside = Infinity)
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 9
ขอแชร์มุมมองผมทีละประเด็นนะครับpatongpa เขียน:แล้วทำไมตลาดหุ้นใหญ่ๆในยุโรปอาทิตย์ที่แล้วมาพอหุ้นตกหนักๆเค้าถึงสั่งห้ามช๊อตเซลล่ะครับ. ผมคิดว่าโบรคไม่ควรเห็นแก่รายได้คอมมิชั่นเล็กๆน้อยๆแล้วมาเห็นด้วยกับการทุบหุ้นหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม. จำปีต้มยำกุ้งได้มะครับ หุ้นไม่ได้ตกหนักเพราะเจ้าของหุ้นอยากขายนะแต่เค้าโดนโบรคจับขาย ทีนี้ถ้าคุณเล่นช๊อตขายกันซะจนราคาหุ้นตกหนักๆ แรงขายที่มาจากฟอซเซลก็จะตามมา สุดท้ายคุณก็ได้หุ้นคืนในราคาต่ำๆ คนเจ๊งก็คือลูกค้ามาจิ้นของคุณนั่นแหละ.
ถ้าคุณจะให้ผมเห็นด้วยกับช๊อตเซล ผมก็อยากให้ยกเลิกระบบจับขายสิครับ ใครถือหุ้นแล้วยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามปกติ ต่อให้ค่า ไอเอ็มไม่ถึง25 คุณก็อย่าไปจับขาย
1. ตลาดที่แบนชอร์ทเซลมีแค่ ฝรั่งเศส เบลเยียม อิตาลี่ สเปนเท่านั้นเอง
ในกรีซและตุรกีเป็นการแบนชั่วคราว
ส่วนสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย แจ้งว่ายังไม่เห็นความจำเป็นในการแบน
เยอรมันเองก็บอกว่า น่าจะให้แบนเฉพาะ naked short-sell เท่านั้นครับ
2.การที่คุณใช้มาร์จิ้นเล่นนั้น คุณควรจะรับความเสี่ยงเรื่องการโดนฟอร์ซเซลได้อยู่แล้วครับ
ไม่ใช่โดนฟอร์ซแล้วมาโทษพวกชอร์ทเซล
3.ถ้าไม่มีการฟอร์ซเซล แล้วถ้าเงินหลักประกันติดลบ คุณแน่ใจได้ยังไงว่าลูกค้าจะไม่เบี้ยวหนี้ครับ?
แหล่งที่มาครับ
http://www.nytimes.com/2011/08/12/busin ... lling.html
http://www.reuters.com/article/2011/08/ ... QJ20110812
-
- Verified User
- โพสต์: 949
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 10
ผมว่าจะให้ดี
ควรให้ทุกคน ทุกคนจริงอยู่บนพื้นฐานในการซื้อขายเดียวกัน
มีค่าคอมเหมือนกัน ไม่ใช่พวก ป้อบเทรดเดอร์มาคอยเป็นเหากินแบบง่ายๆไม่ต้องเสียค่าคอมครับ
เพราะค่าคอมก็มีVAT ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติด้วย
ควรให้ทุกคน ทุกคนจริงอยู่บนพื้นฐานในการซื้อขายเดียวกัน
มีค่าคอมเหมือนกัน ไม่ใช่พวก ป้อบเทรดเดอร์มาคอยเป็นเหากินแบบง่ายๆไม่ต้องเสียค่าคอมครับ
เพราะค่าคอมก็มีVAT ที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติด้วย
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 11
tharm เขียน:ขอแชร์มุมมองผมทีละประเด็นนะครับpatongpa เขียน:แล้วทำไมตลาดหุ้นใหญ่ๆในยุโรปอาทิตย์ที่แล้วมาพอหุ้นตกหนักๆเค้าถึงสั่งห้ามช๊อตเซลล่ะครับ. ผมคิดว่าโบรคไม่ควรเห็นแก่รายได้คอมมิชั่นเล็กๆน้อยๆแล้วมาเห็นด้วยกับการทุบหุ้นหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม. จำปีต้มยำกุ้งได้มะครับ หุ้นไม่ได้ตกหนักเพราะเจ้าของหุ้นอยากขายนะแต่เค้าโดนโบรคจับขาย ทีนี้ถ้าคุณเล่นช๊อตขายกันซะจนราคาหุ้นตกหนักๆ แรงขายที่มาจากฟอซเซลก็จะตามมา สุดท้ายคุณก็ได้หุ้นคืนในราคาต่ำๆ คนเจ๊งก็คือลูกค้ามาจิ้นของคุณนั่นแหละ.
ถ้าคุณจะให้ผมเห็นด้วยกับช๊อตเซล ผมก็อยากให้ยกเลิกระบบจับขายสิครับ ใครถือหุ้นแล้วยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามปกติ ต่อให้ค่า ไอเอ็มไม่ถึง25 คุณก็อย่าไปจับขาย
1. ตลาดที่แบนชอร์ทเซลมีแค่ ฝรั่งเศส เบลเยียม อิตาลี่ สเปนเท่านั้นเอง
ในกรีซและตุรกีเป็นการแบนชั่วคราว
ส่วนสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย แจ้งว่ายังไม่เห็นความจำเป็นในการแบน
เยอรมันเองก็บอกว่า น่าจะให้แบนเฉพาะ naked short-sell เท่านั้นครับ
2.การที่คุณใช้มาร์จิ้นเล่นนั้น คุณควรจะรับความเสี่ยงเรื่องการโดนฟอร์ซเซลได้อยู่แล้วครับ
ไม่ใช่โดนฟอร์ซแล้วมาโทษพวกชอร์ทเซล
3.ถ้าไม่มีการฟอร์ซเซล แล้วถ้าเงินหลักประกันติดลบ คุณแน่ใจได้ยังไงว่าลูกค้าจะไม่เบี้ยวหนี้ครับ?
แหล่งที่มาครับ
http://www.nytimes.com/2011/08/12/busin ... lling.html
http://www.reuters.com/article/2011/08/ ... QJ20110812
ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ตลาดที่ พัฒนาแล้วจะมีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงแบบครบวงจรครับ
Short Sell ก็เป็น 1 ในนั้น ทุกอย่างมี คุณ และ โทษ เป็นดาบสองคม ขึ้นอยู่กับคนใช้จะเข้าใจ อาวุธ นั้นหรือเปล่า
ตลาดที่ พัฒนามากๆ นอกจาก Short Sell แล้ว ยัง ขาย Short Call Short Put Option ได้เลยครับ คือ เราขายประกัน
ถ้าเค้าไม่Excerise เราก็กินเปล่า
- Mp808
- Verified User
- โพสต์: 254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 12
Bans on short selling is the oppression of the free market.
It's like leaving your cake on the dining table overnight and blaming the ants for eating it.
Want people to stop shorting? Fix the economy!
It's like leaving your cake on the dining table overnight and blaming the ants for eating it.
Want people to stop shorting? Fix the economy!
Winter is coming...
-
- Verified User
- โพสต์: 412
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 14
ถ้าช็อตเพื่อมุ่งหวังประโยชน์อย่างข้อเขียนที่กล่าวมาก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
แต่ถ้าเป็นเครื่องมือใช้โจมตีของผู้ที่มีกำลังมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเก็งกำไร หรือหลักทรัพย์ต่างๆ
รายย่อยก็จะเสียเปรียบยิ่งขึ้นครับ
แม้ตลาดที่พัฒนาแล้วการสร้างสินค้าทางการเงินที่ซับซ้อนและปล่อยอิสระมากๆ ก็เป็นอันตรายกับคนส่วนใหญ่ครับ
แต่ถ้าเป็นเครื่องมือใช้โจมตีของผู้ที่มีกำลังมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเก็งกำไร หรือหลักทรัพย์ต่างๆ
รายย่อยก็จะเสียเปรียบยิ่งขึ้นครับ
แม้ตลาดที่พัฒนาแล้วการสร้างสินค้าทางการเงินที่ซับซ้อนและปล่อยอิสระมากๆ ก็เป็นอันตรายกับคนส่วนใหญ่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 189
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 16
ผมว่าเรามุ่งไปผิดจุดมากกว่า short sell ไม่เคยมีผลมากมายกับตลาดอยู่แล้ว
เพราะการ short sell ต้องยืมหุ้นมาเท่านั้น และโยนขายช่องซ้ายไม่ได้
อีกทั้งปริมาณการซื้อขายก็ไม่ได้มีไปมากกว่าจำนวนหุ้นจริง
หมายถึงว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับคนให้ยืมหุ้นเขาขายด้วยตัวเองนั่นแหละครับ
สิ่งที่น่าจะมีผลมากกว่าคือ tfex หรือไฮโลถูกกฏหมาย มากกว่า
ด้วยทุนที่น้อยกว่าแต่ได้ผลมากกว่าทำให้กองทุน/รายใหญ่ สามารถทำ leverage
ตรงนี้ได้ นี่แหละที่ทำให้ตลาดมันไม่สมดุล เหวี่ยงตัวขึ้นและลงแรงเกินจริง
เพราะการ short sell ต้องยืมหุ้นมาเท่านั้น และโยนขายช่องซ้ายไม่ได้
อีกทั้งปริมาณการซื้อขายก็ไม่ได้มีไปมากกว่าจำนวนหุ้นจริง
หมายถึงว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับคนให้ยืมหุ้นเขาขายด้วยตัวเองนั่นแหละครับ
สิ่งที่น่าจะมีผลมากกว่าคือ tfex หรือไฮโลถูกกฏหมาย มากกว่า
ด้วยทุนที่น้อยกว่าแต่ได้ผลมากกว่าทำให้กองทุน/รายใหญ่ สามารถทำ leverage
ตรงนี้ได้ นี่แหละที่ทำให้ตลาดมันไม่สมดุล เหวี่ยงตัวขึ้นและลงแรงเกินจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เฮีย มนตรี เตือนว่า ตลาดหุ้นอย่ามัวหาแพะ Short Sell
โพสต์ที่ 17
ผมกลับมองว่า การมี Short sell.T flex,Dw ทำให้ตลาดหุ้น
เข้าใกล้บ่อนการพนันเข้าไปทุกที ซึ่งผิดจุดมุ่งหมายที่จะให้
ตลาดหุ้นเป็นแหล่งการลงทุน
เข้าใกล้บ่อนการพนันเข้าไปทุกที ซึ่งผิดจุดมุ่งหมายที่จะให้
ตลาดหุ้นเป็นแหล่งการลงทุน