อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
- kongkam1
- Verified User
- โพสต์: 116
- ผู้ติดตาม: 0
อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 1
กฎการลงทุนหุ้นวิธี DSM
1. ซื้อให้ถูกกว่าขาย
2. เวลาไม่จำกัดในการซื้อคืน (มิติของเวลาเป็น Infinity)
ตอนเริ่มต้นถ้าสามารถซื้อหุ้นได้ราคาที่ต่ำ แล้วหุ้นขึ้นย่อมมีกำลังใจในการลงทุนหุ้น DSM ได้มาก แล้วจะทำอย่างไร โดยการเขียวซื้อ แดงขาย หรือ กอดหุ้นวิ่ง ทิ้งหุ้นแดง (DenSri Indicator = DSI) ซึ่งวิธีง่ายๆ แบบนี้เมื่อซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้น (กอดหุ้นวิ่ง) แต่ถ้าหุ้นลงก็ทำตามวิธี DSM ที่มีวิธีรับมือกับขาลง (ทิ้งหุ้นแดง) ดังนั้นการเข้าซื้อในจังหวะที่เหมาะสมก็มีความสำคัญมาก แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อได้ต่ำที่สุดของราคาเช่นกัน (เพราะไม่มีใครซื้อได้จุดต่ำสุด และขายได้จุดสูงสุดของราคาหุ้นได้)
จะรู้ได้อย่างไรว่า เวลาไหนควรซื้อ
ประสบการณ์จะบอกคุณเองว่า ซื้อตอนนี้ ตอนนั้น ราคาหุ้นจะขึ้น ไม่มีกฎตายตัวว่าจะดูอย่างไร เพราะถ้ามีกฎแบบนี้แล้ว ทุกๆคนคงรวยกันหมดทั้งโลกแน่ๆ
ดังนั้นเมื่อเราไม่สามารถหาจุดซื้อที่ประกันได้แน่นอนว่าหุ้นจะขึ้น เราก็อย่าไปกังวล ให้เราหาจุดซื้อในช่วงที่หุ้นมีทีท่าขยับตัวขึ้นหุ้นเขียวอ่อนเริ่มซื้อได้ (เขียวซื้อ แดงขาย หรือ กอดหุ้นวิ่ง ทิ้งหุ้นแดง ) ถ้าซื้อผิดจังหวะ ก็รับมือด้วยวิธี DSM ห้ามซื้อในเวลาที่หุ้นกำลังมีราคาลดลงเด็ดขาด จำไว้ว่า ถึงแม้ราคาหุ้นจะถูกแล้ว แต่ก็ยังมีถูกกว่า และยังมีถูกที่สุดอีกด้วย (นรกยังมีนรก สวรรค์ยังมีสวรรค์) อาจจะฝืนความรู้สึกสำหรับบางคน แต่ถ้าเคยบาดเจ็บจากการซื้อหุ้นราคาถูกแล้วอีกแป๊บเดียวราคาก็ถูกกว่าที่ซื้อมา ก็จะเข้าใจเองว่าเป็นอย่างไร
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่จุดเริ่มต้นเหมือนกับการเดินทางหมื่นลี้ สำคัญที่ก้าวแรกที่ก้าวเดิน จงก้าวเดินด้วยความมุ่งมั่น แต่ละก้าวที่เดินดูรอยเท้าที่ก้าวมาและก้าวต่อไปก้าวด้วยจิตใจที่นิ่งรู้ว่าก้าวซ้ายหรือขวา เมื่อทำไปก็จะรู้ควรก้าวทางไหน และนักลงทุนแต่ละท่านก็จะสามารถสร้าง Model Trade ของแต่ละบุคคลขึ้นมาได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างอัตโนมัติเหมือนกับการฝึกขี่จักรยาน ตอนแรกต้องมีล้ม แล้วเราก็ลุกขึ้นมาขี่จักรยานอีก จนขี่จักรยานเป็น หลังจากนั้นเราก็สามารถขี่จักรยานได้อย่างอัตโนมัติโดนที่ไม่ต้องไปเริ่มฝึกขี่จักรยานอีก ถึงแม้นไม่ได้ขี่จักรยานมาเป็นเวลานาน เพราะว่าเป็นไปโดยอัตโนมัตินั้นเอง
อยากทราบว่าวิธีนี้สามารถใช้ลดต้นทุนหุ้นของเราใด้ไหมในเวลาที่เรา ชื้อหุ้นใว้และเกิดวิกฤติอย่างเช่นทุกวันนี้ พอร์ตโดยรวมติดลบเกิน20% จะใช้สูตรนี้ช่วยลดต้นทุนหุ้นที่มีอยู่ใด้หรือปล่าวครับ สงสัยจริงๆ
1. ซื้อให้ถูกกว่าขาย
2. เวลาไม่จำกัดในการซื้อคืน (มิติของเวลาเป็น Infinity)
ตอนเริ่มต้นถ้าสามารถซื้อหุ้นได้ราคาที่ต่ำ แล้วหุ้นขึ้นย่อมมีกำลังใจในการลงทุนหุ้น DSM ได้มาก แล้วจะทำอย่างไร โดยการเขียวซื้อ แดงขาย หรือ กอดหุ้นวิ่ง ทิ้งหุ้นแดง (DenSri Indicator = DSI) ซึ่งวิธีง่ายๆ แบบนี้เมื่อซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้น (กอดหุ้นวิ่ง) แต่ถ้าหุ้นลงก็ทำตามวิธี DSM ที่มีวิธีรับมือกับขาลง (ทิ้งหุ้นแดง) ดังนั้นการเข้าซื้อในจังหวะที่เหมาะสมก็มีความสำคัญมาก แต่ก็ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อได้ต่ำที่สุดของราคาเช่นกัน (เพราะไม่มีใครซื้อได้จุดต่ำสุด และขายได้จุดสูงสุดของราคาหุ้นได้)
จะรู้ได้อย่างไรว่า เวลาไหนควรซื้อ
ประสบการณ์จะบอกคุณเองว่า ซื้อตอนนี้ ตอนนั้น ราคาหุ้นจะขึ้น ไม่มีกฎตายตัวว่าจะดูอย่างไร เพราะถ้ามีกฎแบบนี้แล้ว ทุกๆคนคงรวยกันหมดทั้งโลกแน่ๆ
ดังนั้นเมื่อเราไม่สามารถหาจุดซื้อที่ประกันได้แน่นอนว่าหุ้นจะขึ้น เราก็อย่าไปกังวล ให้เราหาจุดซื้อในช่วงที่หุ้นมีทีท่าขยับตัวขึ้นหุ้นเขียวอ่อนเริ่มซื้อได้ (เขียวซื้อ แดงขาย หรือ กอดหุ้นวิ่ง ทิ้งหุ้นแดง ) ถ้าซื้อผิดจังหวะ ก็รับมือด้วยวิธี DSM ห้ามซื้อในเวลาที่หุ้นกำลังมีราคาลดลงเด็ดขาด จำไว้ว่า ถึงแม้ราคาหุ้นจะถูกแล้ว แต่ก็ยังมีถูกกว่า และยังมีถูกที่สุดอีกด้วย (นรกยังมีนรก สวรรค์ยังมีสวรรค์) อาจจะฝืนความรู้สึกสำหรับบางคน แต่ถ้าเคยบาดเจ็บจากการซื้อหุ้นราคาถูกแล้วอีกแป๊บเดียวราคาก็ถูกกว่าที่ซื้อมา ก็จะเข้าใจเองว่าเป็นอย่างไร
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่จุดเริ่มต้นเหมือนกับการเดินทางหมื่นลี้ สำคัญที่ก้าวแรกที่ก้าวเดิน จงก้าวเดินด้วยความมุ่งมั่น แต่ละก้าวที่เดินดูรอยเท้าที่ก้าวมาและก้าวต่อไปก้าวด้วยจิตใจที่นิ่งรู้ว่าก้าวซ้ายหรือขวา เมื่อทำไปก็จะรู้ควรก้าวทางไหน และนักลงทุนแต่ละท่านก็จะสามารถสร้าง Model Trade ของแต่ละบุคคลขึ้นมาได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างอัตโนมัติเหมือนกับการฝึกขี่จักรยาน ตอนแรกต้องมีล้ม แล้วเราก็ลุกขึ้นมาขี่จักรยานอีก จนขี่จักรยานเป็น หลังจากนั้นเราก็สามารถขี่จักรยานได้อย่างอัตโนมัติโดนที่ไม่ต้องไปเริ่มฝึกขี่จักรยานอีก ถึงแม้นไม่ได้ขี่จักรยานมาเป็นเวลานาน เพราะว่าเป็นไปโดยอัตโนมัตินั้นเอง
อยากทราบว่าวิธีนี้สามารถใช้ลดต้นทุนหุ้นของเราใด้ไหมในเวลาที่เรา ชื้อหุ้นใว้และเกิดวิกฤติอย่างเช่นทุกวันนี้ พอร์ตโดยรวมติดลบเกิน20% จะใช้สูตรนี้ช่วยลดต้นทุนหุ้นที่มีอยู่ใด้หรือปล่าวครับ สงสัยจริงๆ
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 2
ใช้สูตรปิระมิดแบบที่พี่เจ๋งบอกดีกว่าค่ะ วิธีการมีดังนี้
1. หากหุ้นที่ถือเป็นหุ้นที่ราคาลดลงเพราะจิตวิทยานักลงทุน พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลง
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มตามแต่เงินในกระเป๋าที่เหลืออยู่ เหลือเงินไว้เผื่อหุ้นราคาตกบ้างนะคะ
2. หากหุ้นตัวนั้นราคาลดลงอีก แต่พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลงเลย
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นมากกว่าคราวที่ซื้อในครั้งที่ 1
3. หากหุ้นตัวนั้นราคาลดลงอีก แต่พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลงเลย
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นมากกว่าคราวที่ซื้อในครั้ง 2
หากมีเงินเย็นในกระเป๋าเยอะก็ทำวนรอบได้หลายครั้ง แต่ถ้าเงินหมดก็ต้องทำใจ
ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ผลงานในระยะยาว
ส่วนวิธีเด่นศรี มันเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกค่ะ ตามทฤษฎีมันก็ทำให้ได้ต้นทุนถูกลงจริงค่ะ
แต่มันเหนื่อยนะคะที่ต้องคอยมาเฝ้าดูราคาหุ้น อีกทั้งถ้าเกิดเราปล่อยหุ้นไปแล้วราคามันพุ่งจะทำอย่างไงดีเนี่ย
ถ้ากลับมาซื้ออีกตอนราคาต่ำกว่าตอนที่ขายหุ้นไป แต่ราคามันต่ำเพราะโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไปจากดีกลายเป็นแย่
แล้วมันจะมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปเหรอคะ ถึงจะขึ้นเราก็ไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นไปตอนไหน
เอาเงินไปซื้อพันธบัตร ลงทุนในกองทุนรวม ได้ผลตอบแทนแบบแน่ๆสบายๆไม่ดีกว่าหรือ?
1. หากหุ้นที่ถือเป็นหุ้นที่ราคาลดลงเพราะจิตวิทยานักลงทุน พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลง
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นเพิ่มตามแต่เงินในกระเป๋าที่เหลืออยู่ เหลือเงินไว้เผื่อหุ้นราคาตกบ้างนะคะ
2. หากหุ้นตัวนั้นราคาลดลงอีก แต่พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลงเลย
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นมากกว่าคราวที่ซื้อในครั้งที่ 1
3. หากหุ้นตัวนั้นราคาลดลงอีก แต่พื้นฐานบริษัทไม่ได้แย่ลงเลย
ให้ซื้อหุ้นตัวนั้นมากกว่าคราวที่ซื้อในครั้ง 2
หากมีเงินเย็นในกระเป๋าเยอะก็ทำวนรอบได้หลายครั้ง แต่ถ้าเงินหมดก็ต้องทำใจ
ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ผลงานในระยะยาว
ส่วนวิธีเด่นศรี มันเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกค่ะ ตามทฤษฎีมันก็ทำให้ได้ต้นทุนถูกลงจริงค่ะ
แต่มันเหนื่อยนะคะที่ต้องคอยมาเฝ้าดูราคาหุ้น อีกทั้งถ้าเกิดเราปล่อยหุ้นไปแล้วราคามันพุ่งจะทำอย่างไงดีเนี่ย
ถ้ากลับมาซื้ออีกตอนราคาต่ำกว่าตอนที่ขายหุ้นไป แต่ราคามันต่ำเพราะโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไปจากดีกลายเป็นแย่
แล้วมันจะมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปเหรอคะ ถึงจะขึ้นเราก็ไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นไปตอนไหน
เอาเงินไปซื้อพันธบัตร ลงทุนในกองทุนรวม ได้ผลตอบแทนแบบแน่ๆสบายๆไม่ดีกว่าหรือ?
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 3
DSM เป็น model สร้างกระแสเงินสดแผงและเป็นการสะสมหุ้นโดยไม่ใส่เงินเพิ่มครับ เหมือนกับการทำ SAP หนะครับ
- kongkam1
- Verified User
- โพสต์: 116
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณ สำหรับ คุณ erickiros ที่เข้ามาไห้คำแนะนำนะครับ สำหรับขาลงจริงๆถ้าทำแบบที่แนะนำผม เป็นการชื้อเฉลี่ยขาลงนะครับ ผมเคยทำแล้วนะครับ พื้นฐานไม่เปลี่ยน แต่เศรษฐกิจโลกมันเปลี่ยน คุณไม่ขาย แต่คนอื่นขาย คุณก็คือคนที่ชื้อแพงที่สุดอยู่ดีครับ เพราะทยอยชื้อขาลงเรื่อยๆ ถึงแม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีเยี่ยม แต่คุณจะใด้ราคาแพงครับ ผมเคยลองทำดูแล้วไม่เวอร์คครับ เฉลี่ยขาลง พอเงินหมดก็นั่งดูราคาลงเรื่อยๆเนื่องจากตลาดเป็นขาลง
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 5
อย่างน้อยก็เดาให้ใกล้เคียงจุดตําที่สุด แล้วค่อยเข้าไปซื้อ (แต่อาจเดาพลาดอยู่โข 555)
และทยอยซื้อครับ ตกน้อยๆก็ซื้อน้อยๆทีละ 5%ของกระสุนสำรองที่มีก่อน พอยิ่งตกลงมากๆยิ่งซื้อมากขึ้น ทีละ 10% และ 20% เป็นขั้นๆ อย่าซื้อเยอะตั้งแต่ทีแรก รอตกมากๆค่อยซื้อเยอะๆ ท่องไว้ว่า "เสียดาย(ตกรถ)ดีกว่าเสียใจ"
และทยอยซื้อครับ ตกน้อยๆก็ซื้อน้อยๆทีละ 5%ของกระสุนสำรองที่มีก่อน พอยิ่งตกลงมากๆยิ่งซื้อมากขึ้น ทีละ 10% และ 20% เป็นขั้นๆ อย่าซื้อเยอะตั้งแต่ทีแรก รอตกมากๆค่อยซื้อเยอะๆ ท่องไว้ว่า "เสียดาย(ตกรถ)ดีกว่าเสียใจ"
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- erickiros
- Verified User
- โพสต์: 415
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากสอบถามเรื่อง วิธีลงทุนแบบ DSM ของคุณ เด่นศรี
โพสต์ที่ 6
ถ้าลงทุนด้วยแนวคิด VI หุ้นที่ซื้อมาไว้ในพอร์ตไม่มีคำว่าแพงนะคะ ถ้าหุ้นแพงเราไม่ซื้อตั้งแต่แรกแล้ว
ทีนี้ราคาหุ้นมันดันตกมาเกิน MOS ของเรา ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้หุ้นที่มี MOS มากกว่าเดิมอีก
การซื้อเฉลี่ยขาลงไม่ใช่ลงมาทีละ 2-3 ช่อง ก็ซื้อถัวทีนึง ทำแบบนี้ต้นทุนไม่ได้ต่ำลงหรอกค่ะ
ตามแนวคิดของเราการซื้อเฉลี่ย ควรซื้อเมื่อราคาหุ้นตกลง 10% 30% 50% 70% ของราคาที่มีอยู่ตอนต้น
ยิ่งตกมากยิ่งซื้อมาก ไม่ใช่ซื้อน้อยลงเมื่อตกมากขึ้น
เรื่องราคาหุ้นตกลงกี่ % แล้วจะซื้อเพิ่มนั้น ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ
ทีนี้ราคาหุ้นมันดันตกมาเกิน MOS ของเรา ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้หุ้นที่มี MOS มากกว่าเดิมอีก
การซื้อเฉลี่ยขาลงไม่ใช่ลงมาทีละ 2-3 ช่อง ก็ซื้อถัวทีนึง ทำแบบนี้ต้นทุนไม่ได้ต่ำลงหรอกค่ะ
ตามแนวคิดของเราการซื้อเฉลี่ย ควรซื้อเมื่อราคาหุ้นตกลง 10% 30% 50% 70% ของราคาที่มีอยู่ตอนต้น
ยิ่งตกมากยิ่งซื้อมาก ไม่ใช่ซื้อน้อยลงเมื่อตกมากขึ้น
เรื่องราคาหุ้นตกลงกี่ % แล้วจะซื้อเพิ่มนั้น ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ
ว่างๆแวะไปเยี่ยมชม blog ของซันได้นะคะ Economics Blog
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ
เนื้อหาของบล็อกนี้จะเกี่ยวกับการนำทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเรื่องราวต่างๆค่ะ