กระทิงมาแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 1
รากฐานของแนวทางของโซรอสมาจากเรื่อง "ความบกพร่องในการเข้าใจของคน"
ผมขอเรียกสั้นๆ ว่า "อคติ" ครับ โดยเฉพาะในช่วงเวลาไร้ระเบียบอย่างนี้
เอาง่ายๆ ครับ "อคติ"ใกล้ตัวท่านที่สุดตอนนี้ก็คือ
อย่างความเห็นต่างๆ ในเว็บนี้
ถ้าเราชอบใคร เราจะติดตามในสิ่งที่เขาโพส
ร้อยทั้งร้อย เราจะอ่านแต่คนที่มีความคิดเห็นคล้ายกับเราครับ
ผมแนะนำให้อ่านคนทีเราไม่ชอบหรือมีความคิดเห็นตรงข้ามกับเราด้วย
ใน ช่วงนี้ ข่าวหนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ
ข่าวพวกนั้นมี "อคติ" อย่างมาก อ่านก็ให้ระวังครับ
อคติอย่างไรครับ?
มันมีแนวโน้มเอียงไปทางอื่น "ผิดปกติในทางร้าย"
ลองถามตัวเองดูครับว่าเราดูอะไรครับ?
สิ่งที่เราดูจริงๆ คือ "เหตการณ์ที่แปลกและเป็นเรื่องไม่ดี"
ตอนนี้เราจะไม่ได้เห็นฉบับไหน ทีวีช่องไหน พาดหัวข่าว
" สมชายเก็บเงินได้คืนเจ้าของ"
มันขายไมได้หรอกครับ ข่าวอย่างนั้น
อ คติของข่าวในช่วงนี้โน้มไปทางข่าวร้ายกันหมด
ใครก็มองว่าข่าวน้ำท่วมมัน "ตื่นตาและตื่นเต้น"
เราจะได้อ่านข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย
เพราะมันขาย "จิตวิทยาฝูงชน" ได้
ผลกระทบกับคนอ่านคือ
มันจะทำให้ท่านมี "มุมมอง"ต่อ "ความจริง" ที่ผิดเพี่ยนมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยที่ท่านไม่ทันรูู้ตัวเลย นอกจากท่านฝึกจับ "อารมณ์" ตัวเองบ่อยๆ
ในการลงทุนในช่วง "ข่าวร้าย" ครองเมืองนั้น
การมีมุมมองเกี่ยวกับ "จิตวิทยาฝูงชน" อย่างถูกต้อง
มีประโยชน์ในการประเมิณ "ความเสี่ยง" อย่างมาก
อย่างถ้าท่านขับรถช่วงนี้ ไม่ว่าท่านมีทักษะขับรถที่ดีมากแค่ไหน
ให้ระวัง "ไฟเหลือง" ให้ดีครับ
ช่วงผิดปกติอย่างนี้ หลายท่านขาดสมาธิในการขับรถ
หลายท่านห่วงบ้าน หลายบ้านคิดอย่างเดียวเอาตัวรอด
สัญชาตญาณดิบของคนจะถูกดึงออกมา
หลายท่านจะกลายเป็นกระทิง
เห็น ไฟเหลือง แล้วเหมือนเห็นผ้าแดง เห็นเมื่อใดพุ่งใส่ทันที
พฤติกรรม "ฝ่าไฟเหลือง" จะมากกว่าปกติในช่วงอย่างนี้
ถามคนที่เคยฝ่า "ไฟแดง" ละครับ
เขาทราบดีเพราะอะไร?
ระวัง "กระทิง" ให้ดีครับ
- harlembeats
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยเตือนสติครับ
ติดตามอ่านบทความของพี่มาหลายอันแล้ว
ได้แนวคิดดีๆเสมอครับ
ปล. พี่ humdrum พูดตรงๆ ผมยังอยากรู้ว่า
ชื่อพี่อ่านว่ายังไงมาก งั้นลอง Invert แบบมั่วๆส่วนตัวมั่ง
"อยากรู้นัก ก็ไม่ต้องไปรู้มัน 5555" (ล้อเล่นครับพี่ )
ติดตามอ่านบทความของพี่มาหลายอันแล้ว
ได้แนวคิดดีๆเสมอครับ
ปล. พี่ humdrum พูดตรงๆ ผมยังอยากรู้ว่า
ชื่อพี่อ่านว่ายังไงมาก งั้นลอง Invert แบบมั่วๆส่วนตัวมั่ง
"อยากรู้นัก ก็ไม่ต้องไปรู้มัน 5555" (ล้อเล่นครับพี่ )
-
- Verified User
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 6
รู้กาย รู้ใจ แล้วทำไมรู้ว่ากระทิงจะมาละครับhumdrum เขียน:ฝึก "มองตัวเอง" ครั้งแรกตอนอายุ 12 ปีครับ
ปีนั้นพ.ศ. 2524 ครับ ฝึกกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ
มาเข้าใจมากขึ้นตอน ฝึกเดินจงกลมกับหลวงพ่อจรัญเมื่อปีพศ 2549
มาเข้าใจมากขึ้นไปอีกตอนฝึกกับพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ปี 2553
แนวทางที่พี่ปฏิบัติ น่าจะมุ่งละ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
ไม่ใช่เหรอครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 8
สำหรับ ผม ดัน หลงมาลงทุน แล้ว
หาทางกลับไปหา รู้ ไม่ได้เหมือนก่อน
วันนึง รู้ ได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อเทียบจากเมื่อก่อน
หาทางกลับไปหา รู้ ไม่ได้เหมือนก่อน
วันนึง รู้ ได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อเทียบจากเมื่อก่อน
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 11
แนะนำเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่านคับ
ไม่น่าจะแนวไหนน๊า
ลองดูคับ อานาปานสติ
ฝึกดูลมหายใจเข้าออกนี่ล่ะ
จริงๆมีหลายแนวทาง
แต่เอานี่ล่ะ ดูลมหายใจ
คือรู้ลมหายใจ แบบไม่ใช่หายใจ เข้าหรือออกเองนะคับ
คือรู้ว่าเรากำลังหายใจเลย ไม่สูดเข้า สูดออก
ดูร่างกายเราเลย ว่ากำลังหายใจเข้า หรือออก
ระบบหายใจเป็นระบบอัตโนมัติของร่างกายคับ
มันทำงานเอง ถ้าเราสามารถเห็น
รู้ได้ ทำได้นั่นแหละ คือเราเริ่มมีสติแล้ว
สติทั่วไปที่เราทำการทำงานใช้ชีวิต
มันคนละแบบกันกับสติทีเกิดจากการเห็นลมหายใจอ่ะคับ
ก็เป็นปัญหาเรื่องภาษาที่แปลความหมายทับซ้อน
บางอย่างก็แปลผิดๆ ยกตัวอย่างเรื่องตัวโน้ตดนตรีละกันคับ
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note(แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Qauter Note
แล้วมันมีประโยชน์ยังไง ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ
จนเราสามารถรู้ลมหายใจ
ก็จะทำให้เรามีสติรู้มากขึ้นๆ จนถึงจุดหนึ่ง
เหมือนเวลาเรานั่งรถอ่ะคับ นั่งอยู่นิ่งๆ
แล้วก็เห็นสิ่งรอบตัว คนเดินผ่าน รถวิ่งผ่าน
ฝนตก แดดร้อน เสียงพูดคุยของคนรอบๆ
นั่นก็คือเราจะรู้อารมณ์ตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงต่างๆของจิตใจ
ความคิด รู้ว่าคิด รู้ว่าเราหลงคิดอะไร
หรือแม้กระทั่งเวลาที่ ความคิดมันย้ำคิดขึ้นมาเอง
ที่นี้ถ้าเราทำได้ดีแล้ว สติเราจะเหมือน
เวลาขับรถ คือเราเห็นสถานการณ์ต่างๆชัดเจน
รู้ว่าจะชะลอ เร่งความเร็ว เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา
เดินหน้า ถอยหลังได้อย่างมั่นใจ และช่วย
ให้เราตัดสินใจดีขึ้น โดยความเป็นกลาง
ตามเหตุและผลจริงๆ ไม่ใช่มีอคติมาเจือปนมากนัก
อันนี้ก็ผลดีต่อการลงทุนในภาวะต่างๆของเราด้วย
แล้วก็ถ้าฝึกต่อไปเรื่อยๆจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น
เห็นความจริงต่างๆที่เราไม่เคยสังเกตุเห็น
เหมือนคนตื่นจากความฝัน ก็ลองดูคับทุกท่าน
ไม่น่าจะแนวไหนน๊า
ลองดูคับ อานาปานสติ
ฝึกดูลมหายใจเข้าออกนี่ล่ะ
จริงๆมีหลายแนวทาง
แต่เอานี่ล่ะ ดูลมหายใจ
คือรู้ลมหายใจ แบบไม่ใช่หายใจ เข้าหรือออกเองนะคับ
คือรู้ว่าเรากำลังหายใจเลย ไม่สูดเข้า สูดออก
ดูร่างกายเราเลย ว่ากำลังหายใจเข้า หรือออก
ระบบหายใจเป็นระบบอัตโนมัติของร่างกายคับ
มันทำงานเอง ถ้าเราสามารถเห็น
รู้ได้ ทำได้นั่นแหละ คือเราเริ่มมีสติแล้ว
สติทั่วไปที่เราทำการทำงานใช้ชีวิต
มันคนละแบบกันกับสติทีเกิดจากการเห็นลมหายใจอ่ะคับ
ก็เป็นปัญหาเรื่องภาษาที่แปลความหมายทับซ้อน
บางอย่างก็แปลผิดๆ ยกตัวอย่างเรื่องตัวโน้ตดนตรีละกันคับ
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note(แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Qauter Note
แล้วมันมีประโยชน์ยังไง ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ
จนเราสามารถรู้ลมหายใจ
ก็จะทำให้เรามีสติรู้มากขึ้นๆ จนถึงจุดหนึ่ง
เหมือนเวลาเรานั่งรถอ่ะคับ นั่งอยู่นิ่งๆ
แล้วก็เห็นสิ่งรอบตัว คนเดินผ่าน รถวิ่งผ่าน
ฝนตก แดดร้อน เสียงพูดคุยของคนรอบๆ
นั่นก็คือเราจะรู้อารมณ์ตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงต่างๆของจิตใจ
ความคิด รู้ว่าคิด รู้ว่าเราหลงคิดอะไร
หรือแม้กระทั่งเวลาที่ ความคิดมันย้ำคิดขึ้นมาเอง
ที่นี้ถ้าเราทำได้ดีแล้ว สติเราจะเหมือน
เวลาขับรถ คือเราเห็นสถานการณ์ต่างๆชัดเจน
รู้ว่าจะชะลอ เร่งความเร็ว เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา
เดินหน้า ถอยหลังได้อย่างมั่นใจ และช่วย
ให้เราตัดสินใจดีขึ้น โดยความเป็นกลาง
ตามเหตุและผลจริงๆ ไม่ใช่มีอคติมาเจือปนมากนัก
อันนี้ก็ผลดีต่อการลงทุนในภาวะต่างๆของเราด้วย
แล้วก็ถ้าฝึกต่อไปเรื่อยๆจะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น
เห็นความจริงต่างๆที่เราไม่เคยสังเกตุเห็น
เหมือนคนตื่นจากความฝัน ก็ลองดูคับทุกท่าน
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กระทิงมาแล้ว
โพสต์ที่ 12
[quote="Tibular"]
บางอย่างก็แปลผิดๆ ยกตัวอย่างเรื่องตัวโน้ตดนตรีละกันคับ
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note(แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Qauter Note
[/quote]
55 แก้คับกดผิด
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note (แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Half Note (ครึ่งนึง)
โน้ตตัวดำ(1จังหวะ) เมกาเรียก Quarter Note(1ใน4)
สังเกตุคับ บ้านเราเรียกตัวกลม ซึ่งมันไม่ได้บ่งบอกถึงอะไรเลย
ตัวขาว คือไร ตัวดำคือไร แต่ภาษาอังกฤษฝั่งเมกา บอกเลยว่า
หมายถึงอะไรโต้งๆ ไม่ต้องแปลซับซ้อนไร บอกกันตรงๆ
เรื่องภาษาทำให้การรับรู้ผิดเพื้ยนได้คับ ก็เป็นเหตุให้บางที
บ้านเราเรื่องเหตุเรื่องผลยังอยู่ไกลกว่าเรื่องหน้าตา คือ
เห็นโน้ตเป็นไงก็บอกอย่างนั้น มันกลม เรียกตัวกลม
มันขาวเรียกตัวขาว มันดำเรียกตัวดำ ง่ายๆซะงั้น
แต่ไม่แพ่งพิศว่ามันคืออะไรจริงๆ แล้วก็เชื่อตามๆกันไป
ก็เป็นจุดอ่อนเกี่ยวกับภาษาที่สะท้อนหลายๆสิ่งในบ้านเราได้อย่างดีคับ
บางอย่างก็แปลผิดๆ ยกตัวอย่างเรื่องตัวโน้ตดนตรีละกันคับ
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note(แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Qauter Note
[/quote]
55 แก้คับกดผิด
โน้ตตัวกลม(4จังหวะ) ที่คนไทยเรียก เมกาเรียก Whole Note (แปลว่าทั้งหมด)
โน้ตตัวขาว(2จังหวะ) เมกาเรียก Half Note (ครึ่งนึง)
โน้ตตัวดำ(1จังหวะ) เมกาเรียก Quarter Note(1ใน4)
สังเกตุคับ บ้านเราเรียกตัวกลม ซึ่งมันไม่ได้บ่งบอกถึงอะไรเลย
ตัวขาว คือไร ตัวดำคือไร แต่ภาษาอังกฤษฝั่งเมกา บอกเลยว่า
หมายถึงอะไรโต้งๆ ไม่ต้องแปลซับซ้อนไร บอกกันตรงๆ
เรื่องภาษาทำให้การรับรู้ผิดเพื้ยนได้คับ ก็เป็นเหตุให้บางที
บ้านเราเรื่องเหตุเรื่องผลยังอยู่ไกลกว่าเรื่องหน้าตา คือ
เห็นโน้ตเป็นไงก็บอกอย่างนั้น มันกลม เรียกตัวกลม
มันขาวเรียกตัวขาว มันดำเรียกตัวดำ ง่ายๆซะงั้น
แต่ไม่แพ่งพิศว่ามันคืออะไรจริงๆ แล้วก็เชื่อตามๆกันไป
ก็เป็นจุดอ่อนเกี่ยวกับภาษาที่สะท้อนหลายๆสิ่งในบ้านเราได้อย่างดีคับ