คุณวิบูลย์ครับ

[ปรัชญา1]

ช่วยวิเคราะห์บริษัท SSPORT ให้หน่อยครับ
ว่าธุรกิจนี้มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง
หนี้สินเขาจะชำระหมดใช้เวลา1-3ปีหรือเปล่า
เผอิญผมกำลังสับสนว่า...ได้ซื้อWของเขาไว้เยอะ
จะได้รับข้อคิดความเห็นของคุณวิบูลย์
มาประกอบการตัดสินใจว่า จะแปลงเป็นหุ้นแม่ดีหรือเปล่า
หุ้นตัวนี้ซื้อเพราะรสนิยมครับ
ไม่ได้ตั้งใจซื้อเพราะปัจจัยพื้นฐานเลยครับ

ขอบคุณ ล่วงหน้าครับ


.

[บุคคลทั่วไป]

พี่ปรัชญาครับ
ผมตอบคำถามเฉพาะในกระทู้แรกของคุณธันวาอย่างเดียวครับ ส่วนข้อสงสัย SSPORT ให้ไปอ่านบทวิเคราะห์ของ Broker ครับ ผมไม่แนะนำหุ้นครับ สอนวิชาไว้หากินเองอย่างเดียว
ไม่ว่ากันนะครับ

[บุคคลทั่วไป]

ผมวิบูลย์-007 ครับที่เขียนตอบข้างบน

[tonyprc]

หุ้นตัวแรกที่ผมซื้อ คือ SSPORT ครับ ซื้อช่วงต้นเดือน พ.ย. 02 ครับ ซื้อเพราะชอบอ่านน.ส.พ.สตาร์ซอคเกอร์รายวันครับ แต่มีแค่ 2000 หุ้นเองครับ ขายไปที่ 20, 32 และ 43.75 บาท 1000, 500 และ 400 หุ้นตามลำดับ เหลือ 100 หุ้นเองครับ ตอนนี้ 60 กว่าบาทแล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวตอนนี้มันแพงจัง ถ้าให้ EPS ปี 04 (Nomura ประมาณการ) = 9 บาท/หุ้น ถ้ามีการแปลง W ทั้งหมด จะเกิด dilution ใช่ไหมครับ EPS ก็จะเหลือ 9/2 = 4.5 บาท/หุ้น เทียบกับผู้นำในกลุ่มอุตสากรรม APRINT P/E ประมาณ 12 ราคา SSPORT ควรจะอยู่ที่ 12*4.5 = 54 บาท/หุ้น แต่ถ้ามีการจ่ายเงินปันผล 50% = 4.5/2 = 2.25 บาท/หุ้น Yield ~ 3.75% ไม่รู้ว่าคิดแบบนี้ถูกหรือเปล่า รบกวนผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ

[ปรัชญา1]

หุ้นตัวแรกที่ผมซื้อ คือ SSPORT ครับ ซื้อช่วงต้นเดือน พ.ย. 02 ครับ ซื้อเพราะชอบอ่านน.ส.พ.สตาร์ซอคเกอร์รายวันครับ แต่มีแค่ 2000 หุ้นเองครับ ขายไปที่ 20, 32 และ 43.75 บาท 1000, 500 และ 400 หุ้นตามลำดับ เหลือ 100 หุ้นเองครับ ตอนนี้ 60 กว่าบาทแล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวตอนนี้มันแพงจัง ถ้าให้ EPS ปี 04 (Nomura ประมาณการ) = 9 บาท/หุ้น ถ้ามีการแปลง W ทั้งหมด จะเกิด dilution ใช่ไหมครับ EPS ก็จะเหลือ 9/2 = 4.5 บาท/หุ้น เทียบกับผู้นำในกลุ่มอุตสากรรม APRINT P/E ประมาณ 12 ราคา SSPORT ควรจะอยู่ที่ 12*4.5 = 54 บาท/หุ้น แต่ถ้ามีการจ่ายเงินปันผล 50% = 4.5/2 = 2.25 บาท/หุ้น Yield ~ 3.75% ไม่รู้ว่าคิดแบบนี้ถูกหรือเปล่า รบกวนผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ

APRINT เป็นผู้นำเรื่องหนังสือ ตบแต่ง บ้านและสวน เขาเบอร์ 1

SSPORT เป็นผู้นำด้านกีฬานะครับ เปรียบกันคงยากเพราะคนละทางแต่ก็เป็นเบอร์1 คนละด้าน

ผมผิดคาดที่ไม่ได้คำตอบจากคุณวิบูลย์
ว่าคิดเหมือนผมหรือเปล่า เพราะบทวิเคราะห์ของโบรกผมไม่ค่อยชอบคนพวกนั้นกินเงินเดือน ก็วิเคราะห์เอาใจเจ้านาย
ชี้ซ้ายชี้ขวา ไม่ค่อยแน่นอนครับ

คือผมไม่ได้มองที่ราคา
ผมกำลังมองว่า...เมื่อเงินที่แปลงwกัน
100กว่าล้านบาท สามารถนำไปใช้หนี้ที่เขามีให้เบาบาง
คนกำลังบ้าบอลกันทั้งประเทศ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า...รัฐบาลนี้ยังขายหวยแบบใต้ดิน
นโยบายคิดใหม่ทำใหม่ เขาจะรับแทงบอลด้วยหรือเปล่า

เหมือนหุ้นUBCผมว่าค่อนข้างแพง แต่ก็มีคนยินดีซื้อ
ส่วนwผม ต้นทุนต่ำๆก็ไม่รู้ว่าขายไปแล้ว
จะไปซื้อหุ้นตัวไหนดี คงค่อยๆคิดไปล่ะครับ
รอความเห็นท่านที่ผ่านเข้ามาแนะนำ
ส่วนจะขัดกัน เห็นเหมือนกัน ก็ยินดีรับไว้ประดับความรู้
ไม่ปฏิเสธแน่
กับทุกความเห็นคือผมอาจจะมองไม่เห็นเป็นบางจุดแล้วมีคนมาชี้บอกก็ดีมากเลยครับ

[Mon money]

อย่าเพิ่งน้อยใจไปครับพี่ปรัชญา ผมไม่เคยมีและไม่เคยสนใจมันนะครับ แต่ผมมีข้อสังเกตูครับ
1 ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าจะไปได้สวย เขาจัดว่าเป็นผู้นำในด้านนี้ทีเดียว คู่แข่งก็ไม่มากนัก
2 ที่ผ่านมาหากบริหารดีๆไม่น่ามีปัญหาได้
3 ทั้งสองข้อที่ผมยกมา ขอให้พี่ลองไปตรวจสอบผู้บริหารดูว่าโปร่งใสหรือไม่ ส่วนผมจะไปหางบการเงินมาดูให้ครับ

นี่ไม่ใช่การแนะนำหุ้นนะครับ แต่เป็นการนำเป็นกรณีตัวอย่างครับ จะได้ประยุกต์กันได้

[tonyprc]

ในความคิดของผม ต่อไปรัฐบาลคงทำให้โต๊ะบอลถูกกฎหมาย จะได้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่ม SSPORT ก็น่าจะได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากเป็นผู้นำทางด้านนี้อยู่ สมัยก่อนตอนช่วงเศรษฐกิจดี มีหนังสือของ SSPORT วัฎจักร ผู้จัดการ ฐานเศรษฐกิจ ช่วงซบเซา เหลือเพียง SSPORT เจ้าเดียว ตอนนี้ ฐานเศรษฐกิจ (คิกออฟ) วัฎจักร กลับมาอีกครั้ง ผมสงสัยว่าผมคงจะได้ซื้อคืนที่ราคาสูงกว่าเดิม เพราะเป็นหุ้นที่ผมกล้าถือไปอีก 5 - 10 ปี

[บุคคลทั่วไป]

พี่ปรัชญาครับ
ไม่ต้องน้อยใจครับ ผมตอบให้คร่าวๆแล้วกันครับ ปกติผมจะไม่ตอบกระทู้อื่นแค่วันนี้มีเวลามากหน่อย

ผมมีความรู้สึกไม่ดีกับ Warrant ครับในความเห็นของผม บริษัทที่ออก (แจก) Warrant มักจะทำไปเพื่อให้ราคาหุ้นสูงขึ้นครับ มากกว่าที่จะรักษาประโยชน์ของผู้ถือหุ้นระยะยาว เพราะเมื่อ Warrant convert มาเป็นหุ้นสามัญก็จะทำให้มีจำนวนหุ้นสามัญมากขึ้น ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลง และ เกิด Dilution Effect กับผู้ถือหุ้นเดิมครับ

ผมจึงหลีกเลี่ยงที่จะลงทุนในบริษัทที่มี Warrant ครับ เพราะผมไม่อยากยุ่งยากคำนวณมูลค่าของบริษัทที่จะต้องนำ Warrant มาคำนวณด้วย มันยุ่งยากเกินไปครับ ผมเป็นคนขี้เกียจชอบทำอะไรง่ายๆครับ เลยเลิกยุ่งกับWarrant

ในกรณี SSPORT ผมไม่ค่อยรู้เรื่องบริษัทนี้ครับ รู้แต่ว่าเพิ่งเริ่มกำไรหลังจากขาดทุนมาหลายปี เป็นเจ้าของนสพ Siam Sport ขวัญใจคนบ้าบอล มีหนี้สินพอสมควร รู้สึกจะมีการจ่ายปันผลไปตอนครึ่งปีเร็วๆนี้

สำหรับผม บริษัทนี้ไม่ผ่านคาถาข้อสองของผมครับ ผมถือว่าการออก Warrant ไม่เป็นการคิดถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นระยะยาว ผมไม่โหวตผ่านให้ผู้บริหารครับ ถึงแม้ฐานะทางการเงินจะดีแค่ไหนก็ตาม

---------------------------------------
วิบูลย์-007

[ปรัชญา1]

ขอขอบคุณ สำหรับความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาดีครับ
คาถา4ข้อ ผมขออนุญาต ปริ๊นไว้หน้าแฟ้มสะสมผลงานเลยครับ
ขอบคุณ ความคิดดีดีครับ
หลายคนที่ผ่านมาก็ได้รับผลประโยชน์จากการอ่าน

อย่างไรก็ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจครับ
ขอแสดงความนับถือครับ

[Buzz]

ผมขออนุญาตเสริม ข้อควรระวัง อีกนิดที่อยากพี่ปรัชญา ต้องคอยตรวจสออบ ก็คือ ตอนนี้เขาออกนิตยสารในเครือเล่มใหม่ ชื่อ "FHM" เป็นหนังสือหัวนอก วางTarget อายุ18-35 (หน้าปกเล่มล่าสุด นางแบบ ฮ่องกง คนนี้
โฆษณา spy ที่ร้องเพลงอยู่ในห้องครัว อิ.. อิ..และเล่นหนังเรื่องใหม่ของเฉินหลง //ใส่ชุด 2 pieces ขึ้นปก อะจึ๋ย...)พอ พอ นอกเรื่อง..
คือ นิตยสาร ทำนอง "GENTLEMAN" พวกนี้จะทับซ้อนกับ นิตยสารของ
ผู้หญิง กลุ่มล/ค ก็ครือๆ กัน และที่สำคัญการแข่งก็แรงพอควร เพราะมี
คู่แข่งรายสำคัญมายึด Market share ก่อนแล้ว เช่น พวก a-day , cosmo,ELLE, Hamburger, อื่นๆ สารพัด และเรื่องสำคัญที่ลืมไม่ได้
ก็คือ รายได้หลักของ นิตยสารที่ดี คือ"โฆษณา" ครับ ไม่ใช่รายได้จากการขายหนังสือ แต่เท่าที่อ่านบทสัมภาษณ์ พท.โฆษณาปัจจุบันจะขายได้ประมาณ30-40% (ตรงนี้อยากให้พี่ ลองกลับไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งจาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจในช่วง วัน ศ.,ส.,อา.-ขออภัยจริงๆ จำวันไม่ได้ แฮ่ๆ .....จะได้ประกอบการพิจารณา ให้ชัดเจนมากขึ้น ครับ)....

[ปรัชญา1]

-vขอบคุณครับ คุณBuzz

ที่ว่านั่น ในล้อมกรอบ .......

นักธุรกิจ คลื่นลูกใหม่
โดย.......สาธิตา โสรัสสะเขียน

วิลักษณ์ โหลทอง
ปั้นอินสไพร์สู่ผู้นำธุรกิจมีเดีย

ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
และกรรมการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด(มหาชน)
ใช่ไหมครับ

ผมตัดเก็บใส่แฟ้มไว้เรียบร้อยแล้วครับ คุณBuzz

[Cavallo]

คุณปรัชญา พอดีผมเจอบทวิเคราะห์จากกิมเอ็งเมื่อวันที่ 8/8/03 เลยเอามาให้อ่านกันครับ

------------------------

กำไรไตรมาส 2/46 ลดลง แต่ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SSPORT) รายงานกำไรสุทธิ 7 ล้านบาทในไตรมาส 2/46 ถ้าไม่รวมรายการพิเศษที่บันทึกในไตรมาสแรก กำไรปกติลดลง 55% จากไตรมาสแรก (qoq) และ 59% จากไตรมาส 2/45 (yoy) อัตรากำไรขั้นต้นหดตัวลงจาก 24% ในไตรมาส 2/45 และ 21% ในไตรมาสก่อนมาเป็น 19% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่ากระดาษและการไม่มีรายได้ค่าโฆษณาจากรายการเกี่ยวกับฟุตบอลโลก

เรายังไม่ปรับประมาณการกำไรปี 2546 ที่คาดไว้ที่ 59 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นราคาหนังสือพิมพ์ สปอร์ตพูล 25% ตั้งแต่เดือน ก.ย. ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนคาดว่าจะลดลงจาก 4.16 เท่าเหลือ 3.19 เท่าในปีนี้ จากการปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนั้น บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 1.40 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 25 ส.ค. หลังจากไม่จ่ายมาเป็นเวลา 6 ปี เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลรวม 2.48 บาทต่อหุ้นสำหรับผลประกอบการปีนี้ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Yield) 8%

ราคาหุ้น SSPORT เพิ่มขึ้นเกือบ 30% นับตั้งแต่เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์บริษัทโดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" เมื่อวันที่ 30 ก.ค. แต่หุ้นยังนับว่าไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER ปี 2546 ที่ 11.4 เท่าและจะลดลงเหลือ 7.6 เท่าในหน้าซึ่งนับว่าต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่ม อย่างไรก็ตาม จากราคาที่เหมาะสมของหุ้นที่ 33 บาท หุ้นยังมี Upside อีกเพียง 7% ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "ถือ"


http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userv ... contId=558

[ปรัชญา1]

ขอขอบคุณครับ ที่เห็นอะไรดีดีก็เก็บมาฝากกัน
ทั้งเรื่องดีและไม่ดี
เพราะบางครั้งผมก็มองข้ามไปเหมือนกันครับ

ที่ว่า ปลายปีจะดีกว่าเพราะเขาขึ้นราคาหนังสือพิมพ์
จาก12บาทเป็น15บาท และมีงบโฆษณาเข้ามาเพิ่ม
แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นปัจจัยพื้นฐาน

กลายเป็นหุ้นรสนิยมไปครับ

รวยน้ำใจจริงๆ ขอบคุณครับ