กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 33
ชอบคำนี้มากครับ แต่กด like ให้ทั้งโพสต์เลย“ในชีวิตจริงคุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้”
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 34
ประโยคนี้ผม Get ขอบคุณมากครับtaratantara เขียน: เมื่อคนที่ชนะคือคนที่ไปถึงเส้นชัยได้ก่อน แต่เส้นชัยนั้นคุณกำหนดเอง ไม่ใช่ให้ใครคนอื่นมากำหนด
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 35
ใช่แล้วครับ และที่สำคัญอีกอย่างคือระยะเวลาในการลงทุนครับJeng เขียน:ขอบคุณมากครับ คุณ taratantara
จากการคำนวณนี้ สรุปได้ว่า
การทำกำไรเพิ่มขึ้น จะย่นระยะเวลาในการเพิ่มขึ้นของเงิน 1 เท่าตัว ได้น้อยลง ไปเรื่อยๆ
เพราะตอนแรก กำไรเพิ่ม 4 % ย่นระยะเวลาได้ ตั้ง 5 ปี
แต่ตอนหลังๆ กำไรเพิ่ม 4 % ย่นระยะเวลาได้แค่ .70 ปี
แสดงว่า ต้องเก็บเงินให้ได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มเงินต้นในการลงทุน
และไม่ต้องทำกำไรมากก็ได้ ได้ซัก 10 % - 15 % ก็โอเคแล้ว
ใช่หรือไม่ครับ
ลองดูกลยุทธ์ของคนที่ทำได้ 10% แบบไม่เพิ่มเงินระหว่างทางเลยนะครับ
เพื่อให้ได้ 2 เด้ง, 22% ใช้เวลา = 72/22 = 3.27 ปี
ถ้าบัฟเฟต์ลงทุน 20 ปี เขาทำได้ = 3.27x20 = 6 รอบ
เพื่อให้ได้ 2 เด้ง, 10% ใช้เวลา = 72/10 = 7.2 ปี
แต่ผมอึดกว่าลงทุน 43 ปี ผมทำได้ = 7.2x43 = 6 รอบเีทียบเท่าบัฟเฟตต์
เพื่อให้ได้ 2 เด้ง, 2% ใช้เวลา = 72/2 = 36 ปี
เขาไม่มีทางทำได้ 6 รอบ เพราะเขาต้องใช้เวลาถึง 216 ปี (ยกเว้นให้ลูกหลานทำต่อ... อิอิ)
... แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกบัฟเฟตต์นะครับเพราะเขาเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 11 ขวบ
You are never better than anyone. The only one you must compare yourself with is You.
http://achikochi1234.blogspot.com/
http://achikochi1234.blogspot.com/
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1644
- ผู้ติดตาม: 1
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 36
เสนอให้ย้ายกระนี้ไปห้องคลังกระทู้คุณค่าครับ
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 37
ขอบคุณคับเริ่มต้นช้าๆ(แบบเต่า)ได้พล้าเล่มงาม
pokerคือเกมส์แห่งโชคอย่างแท้จริง(เช่นผมถือAK ก็เริ่มต้นเกไปประมาณ6-8%ของเงินขั้นต่ำสุดในการเข้าเล่นโต๊ะนั้นได้ ทุกคนหมอบหมดยกเว้นคนเดียวที่ตามเปิด3ใบแรกมีK 10 3 ผมก็เกไปอีกนิดหน่อยเขาตาม ใบที่สี่เปิดขึ้นมาผมก็เกเพิ่มไปมากขึ่นอีกหน่อยแต่เขาเกกลับมาผมคิดในใจว่าเขาไม่แน่จะมีไพ่ดีไปกว่าผมเพราะสไตล์การเล่นเขาก้าวราวมากมาเลยตาแล้วจึงตัดสินใจเทหมัดหน้าตัก เขาตามพร้อมกับเปืดไพ่ในมือที่เขาถืออยู่คือ10 8 ผมคิดถูกแต่โชคไม่เข้าข้างผมใบสุดท้าย8ขึ้นมาจบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งเท่าไร ) นี่คือสิ่งที่ผมได้ค้นพบจากเกมส์นี้ความเป็นproในอาชีพนี้ไม่ได้สร้างความได้เปรียบอะไรให้คุณความมั่นใจได้เลยเพียงแต่ช่วยเพิ่มศิลปะในการลุ้นโชคได้มากขึ้นเท่านั้น
pokerคือเกมส์แห่งโชคอย่างแท้จริง(เช่นผมถือAK ก็เริ่มต้นเกไปประมาณ6-8%ของเงินขั้นต่ำสุดในการเข้าเล่นโต๊ะนั้นได้ ทุกคนหมอบหมดยกเว้นคนเดียวที่ตามเปิด3ใบแรกมีK 10 3 ผมก็เกไปอีกนิดหน่อยเขาตาม ใบที่สี่เปิดขึ้นมาผมก็เกเพิ่มไปมากขึ่นอีกหน่อยแต่เขาเกกลับมาผมคิดในใจว่าเขาไม่แน่จะมีไพ่ดีไปกว่าผมเพราะสไตล์การเล่นเขาก้าวราวมากมาเลยตาแล้วจึงตัดสินใจเทหมัดหน้าตัก เขาตามพร้อมกับเปืดไพ่ในมือที่เขาถืออยู่คือ10 8 ผมคิดถูกแต่โชคไม่เข้าข้างผมใบสุดท้าย8ขึ้นมาจบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งเท่าไร ) นี่คือสิ่งที่ผมได้ค้นพบจากเกมส์นี้ความเป็นproในอาชีพนี้ไม่ได้สร้างความได้เปรียบอะไรให้คุณความมั่นใจได้เลยเพียงแต่ช่วยเพิ่มศิลปะในการลุ้นโชคได้มากขึ้นเท่านั้น
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 38
เยี่ยม..และขอบคุณบทความดีๆครับ..ชอบ ตอน 2%ไป6%
..
สูตร ดบ ทบต้น
A = P(1+r)n
ในเมื่อ A = จำนวนเงินรวมทั้งหมด
P = จำนวนเงินต้น
r = ดอกเบี้ยต่องวด ต่อร้อย
n = จำนวนงวด (ตรงนี้เป็นยกกำลัง n,บางแห้งใช้ t, บางแห่งใช้ yr)
..
เมื่อเราต้องการ เงิน ต้น เป็น 2 เท่า A=2P จะได้
2P=P(1+r)n
..
ถอดสมการจะได้
n (หรืิอ t ) = ln(2) / ln(1 + r)
จะได้ค่า
approximate
n (หรืิอ t )=0.72/r
---
เมื่อทราบที่มา ของสูตร
นักคำนวณ ก็อาจ หา ค่า 3x ได้ ว่า ใช้กี่ปี..
Why Stop at a Double?
There's nothing sacred about doubling your money. You can also get a simple estimate for other growth factors, as this calculator shows:
Find years needed for my money to ...
Double
Triple
Grow by a factor of
Estimate to Use
Divide the interest rate into
http://www.moneychimp.com/features/rule72.htm
..
สูตร ดบ ทบต้น
A = P(1+r)n
ในเมื่อ A = จำนวนเงินรวมทั้งหมด
P = จำนวนเงินต้น
r = ดอกเบี้ยต่องวด ต่อร้อย
n = จำนวนงวด (ตรงนี้เป็นยกกำลัง n,บางแห้งใช้ t, บางแห่งใช้ yr)
..
เมื่อเราต้องการ เงิน ต้น เป็น 2 เท่า A=2P จะได้
2P=P(1+r)n
..
ถอดสมการจะได้
n (หรืิอ t ) = ln(2) / ln(1 + r)
จะได้ค่า
approximate
n (หรืิอ t )=0.72/r
http://www.moneychimp.com/features/rule72_why.htmSolving the formula for annually compounded interest is messier:
2P = P(1 + r)Y
Y = ln(2) / ln(1 + r)
We want to approximate this as a neat fraction again,
Y = K / r
where K is some number that will make the approximation pretty good for some ranges of r (and pretty lousy for others). We'll choose K to make the approximation work for a return rate of ten percent:
ln(2) / ln(1 + r) = K / r
ln(2) / ln(1 + .1) = K / 0.1
K = [ln(2) / ln(1.1)] x 0.1
K = .727
Now 72.7 is really closer to 73 than 72, so why isn't it The Rule of 73?
---
เมื่อทราบที่มา ของสูตร
นักคำนวณ ก็อาจ หา ค่า 3x ได้ ว่า ใช้กี่ปี..
Why Stop at a Double?
There's nothing sacred about doubling your money. You can also get a simple estimate for other growth factors, as this calculator shows:
Find years needed for my money to ...
Double
Triple
Grow by a factor of
Estimate to Use
Divide the interest rate into
http://www.moneychimp.com/features/rule72.htm
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 40
ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ คุณ taratantara มากนะครับ
ที่นำข้อความดี ๆ มีประโยชน์มาเผยแพร่
ผมว่าคุณ taratantara "ตกผลึก" ความคิด แนวทางการลงทุนของตัวเอง
อย่างชัดเจนเป็นที่สุดครับ
ส่วนผมเอง ก็ยังงง ๆ กำลังหาแนวทางของตัวเองอยู่เลยครับ
ที่นำข้อความดี ๆ มีประโยชน์มาเผยแพร่
ผมว่าคุณ taratantara "ตกผลึก" ความคิด แนวทางการลงทุนของตัวเอง
อย่างชัดเจนเป็นที่สุดครับ
ส่วนผมเอง ก็ยังงง ๆ กำลังหาแนวทางของตัวเองอยู่เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 41
2ไป6 ต่างกัน200%
18ไป22 ต่างกันไม่ถึง20%ครับ
นี่คือเหตุผลในสมการเส้นโค้งนั่น
18ไป22 ต่างกันไม่ถึง20%ครับ
นี่คือเหตุผลในสมการเส้นโค้งนั่น
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 42
ชอบครับ
หลักการแบบนี้ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เหมือนกัน
เช่นในเวลาเรียนถ้าคุณอยากได้เกรด 3.7 ย่อมยากกว่าการสอบเกรด 3.3 มาก ๆๆ เพราะต้องเก็บรายละเอียดทุกเม็ด
แต่ถ้าเพิ่มจากเกรด 2 เป็น 3.3 ใช้ effort น้อยกว่ามาก
แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นในชีวิต
และทั้งหมด ก็จะง่ายขึ้น ถ้าแข่งกับตัวเอง
ผมว่านักกีฬาอันดับหนึ่ง ไม่เคยแข่งกับใคร นอกจากคนในกระจก
หลักการแบบนี้ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เหมือนกัน
เช่นในเวลาเรียนถ้าคุณอยากได้เกรด 3.7 ย่อมยากกว่าการสอบเกรด 3.3 มาก ๆๆ เพราะต้องเก็บรายละเอียดทุกเม็ด
แต่ถ้าเพิ่มจากเกรด 2 เป็น 3.3 ใช้ effort น้อยกว่ามาก
แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นในชีวิต
และทั้งหมด ก็จะง่ายขึ้น ถ้าแข่งกับตัวเอง
ผมว่านักกีฬาอันดับหนึ่ง ไม่เคยแข่งกับใคร นอกจากคนในกระจก
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 43
เห็นด้วยครับ เป็นกะทู้ที่ได้ข้อคิดดีจริงๆmurder_doll เขียน:เสนอให้ย้ายกระนี้ไปห้องคลังกระทู้คุณค่าครับ
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- longlife
- Verified User
- โพสต์: 245
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 44
หล่อมากเลยครับ ขอก๊อปไปให้แฟนอ่านนะครับtaratantara เขียน:ขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ
เดิมทีผมตั้งใจเขียนบทความนี้ให้กับเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊ก เพื่อชักชวนให้หลายๆ คนเริ่มต้นลงทุนกัน โดยที่ไม่อยากให้ใครก็ตามที่ตัดสินใจจะกระโจนเข้ามาก็เริ่มตั้งหลักที่ผลตอบแทนเปอร์เซ็นต์สูงๆ
ผมจึงทำการเปรียบเทียบ worst case scenario และ base case scenario ที่มีโอกาสเป็นไปได้ และลองวิเคราะห์ดูว่าแม้เราจะตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับกลางๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราแพ้
คำว่า “แพ้” นี่สำคัญมากครับ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นหุ้นใหม่ๆ เพราะถ้าเขาแพ้ตั้งแต่ตาแรกๆ เขาอาจจะเลิกเล่นมันไปตลอดชีวิตเลย
มองผิวเผิน เจ้าตัวเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนที่เราทำได้ ดูเหมือนจะเป็นการวัดว่าเราแพ้หรือชนะ หลังจากนั้นมันก็เริ่มมีที่ 1 และที่โหล่ และก็มีแพ้ตลาดชนะตลาด มีกำไรมากกับกำไรน้อยใช่มั้ยครับ
นั่นแหละ คือสาเหตุของความผิดพลาดในการลงทุนช่วงแรกของผม
ความจริงผมเป็น day trade มาก่อนครับ จะเรียกว่า hour trade หรือ minute trade ก็ยังได้เลย เป็น pure technical ล้วนๆ วันๆ ผมไม่ทำอะไรนอกจากเปิดดู most swing ดูกราฟ อ่านข่าว แล้วเข้าซื้อขายเลย ผมไม่สนใจจริงๆ ว่าหุ้นตัวนั้นทำกิจการอะไร ที่ผ่านมามันเคยได้กำไรหรือขาดทุน เอาแค่ไม่ให้คีย์ชื่อหุ้นผิดก็พอ ชั่วโมงเดียวผมเคยซื้อแล้วโดนเกือบ floor และเคยได้ ceiling ในข้ามคืนเดียว
ชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ ไปตามกราฟของผมแบบนี้ เรียกได้ว่าเข้าขั้นโคม่า บางวันยืนยิ้มได้เหมือนคนบ้าทั้งวัน บางวันก็นั่งหน้าซีดเงียบๆ คนเดียวหลังจอคอมฯ
หลังจากนั้น อย่างที่ทุกคนพอจะเดาออก ผมเริ่มกลัว และเริ่มหาข้อมูลมากขึ้น
ทั้งๆ ที่ก่อนเริ่มเทรดผมเชื่อว่าตัวเองเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี อ่านทั้งหลักการ VI ทั้ง day trade และก็ตัดสินใจเลือก day trade ผมเลือกข้างที่มีโอกาสได้เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนสูงๆ ครับ
ในตอนนั้น ผมตะลุยอ่านอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในตัวหนังสือกับตัวเลข ผมทำแม้กระทั่งนั่งวาดกราฟ SET ทุกวันด้วยมือตัวเอง เพราะคอมฯ มันโชว์แค่แท่งเทียน ใครขายใครซื้อมีวอลุ่มครบทุกวัน ติดรอบห้องเต็มไปหมด
ผมทำอย่างนั้นอยู่ 9 เดือนเต็มๆ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีผมเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง หายใจเข้าออกเป็นแต่เรื่องหุ้น
วันนั้นผมได้เรียนรู้ ณ ตอนนั้นว่า สิ่งที่ผมกำลังทำเป็นสิ่งที่ฝืนกับความเป็นตัวเอง ประโยคนี้สำคัญกับผมมากครับ “สิ่งที่ผมทำไม่ใช่ตัวผมเอง”
การพยายามจะเป็นที่ 1 ของผม คือการพยายามจะเป็นที่ 1 ของคนทั้งหลาย ผมไม่เคยย้อนถามตัวเองเลยว่า “ผมลงทุนเพื่ออะไร? จะเอาเท่าไหร่? และไปถึงไหน?”
ผมเปลี่ยนแนวทางมาเป็น VI ได้เกือบ 2 ปีแล้ว คราวนี้เป็น lifetime invest สุดโต่งอีกฟากหนึ่งเลยก็ว่าได้ (อาจผิดคอนเซ็ปต์เรื่องทางสายกลาง) แต่ไม่ใช่เพราะมันดูเท่ห์ ไม่ใช่เพราะมันทำกำไรได้มากกว่า แต่เป็นเพราะมันเป็นแนวทางที่ผมอยู่กับมันได้ดีและยั่งยืนกว่า ผมตอบคำถามตัวเองด้วยการเปลี่ยนแนวทาง จากการลงทุนเพื่อเป็นที่ 1 เป็นการลงทุนเพื่อความสุขและความมั่นคงของจิตใจ
และผมอยากให้ทุกคนตระหนักในเรื่องนี้ เราแพ้ตลาดไม่ได้แปลว่าเราแพ้ หุ้นเพื่อนขึ้นหุ้นเราไม่ขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าเราแพ้ เปอร์เซ็นต์เราน้อยกว่าบัฟเฟตต์ก็ไม่ได้แปลว่าเราแพ้ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับมุมมองที่เราเลือกมอง เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะชนะในเกมแห่งจิตใจนี้
เมื่อคนที่ชนะคือคนที่ไปถึงเส้นชัยได้ก่อน แต่เส้นชัยนั้นคุณกำหนดเอง ไม่ใช่ให้ใครคนอื่นมากำหนด
ถ้าคุณวิ่งช้ากว่า ยูเซน โบลต์ ขอให้คุณออกวิ่งก่อน ยูเซน โบลต์...
ถ้าคุณทำได้แล้ว 10-15% ขอให้คุณอย่าลังเลที่จะลงทุนก่อน และอึดพอที่จะใช้เวลาในการลงทุนให้ยาวนานที่สุด...
คนอื่นอาจจะมองว่าคุณแพ้ แถมยังใช้กลยุทธ์แบบผู้แพ้ แต่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินว่าตัวเองแพ้หรือชนะ
ขอให้มีความสุขจากการลงทุนนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 28
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 45
ขอบคุณครับ ผมกำลังหาบทความดีๆเกี่ยวกับ "สูตร 72" อยู่พอดีครับ ชอบมากๆครับ
เเนวคิดที่ได้จากการอ่านครั้งนี้คือทุกคนควรมีเป้าหมายในการลงทุน(ระยะยาว)เเละไม่จำเป็นต้องไปเเข่งกับใคร
เเข่งกับอารมณ์ของตัวเองก็พอเเล้วครับ
เเนวคิดที่ได้จากการอ่านครั้งนี้คือทุกคนควรมีเป้าหมายในการลงทุน(ระยะยาว)เเละไม่จำเป็นต้องไปเเข่งกับใคร
เเข่งกับอารมณ์ของตัวเองก็พอเเล้วครับ
Super Like....คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
The 8th Wonder
Success is not the key to happiness, Happiness is the key to success....
Success is not the key to happiness, Happiness is the key to success....
- ย้ำคิดย้ำฝัน
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 47
ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 2 ก็ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นที่เท่าไหร่เลย
ไม่จำเป็นต้องกำไรก็ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 2 ก็ได้
ไม่จำเป็นต้องเป็นที่เท่าไหร่เลย
ไม่จำเป็นต้องกำไรก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 51
ขออนุญาตเอาไปแชร์ใน FB นะครับ เรื่องกฏของเลข 72 ผมได้ฟังครั้งแรกจากอาจารย์ ดร.นิเวศน์ ในรายการ money talk เมื่อนานมาแล้ว นั่นเป็นหนึ่งในการจุดประกายให้ผมเดินทางตามแนวทางนี้ครับ อยากให้เพื่อนๆผมหลายๆคนได้อ่านครับ เผลื่อจะช่วยให้หลายๆคนเห็นถึงพลังอันทรงคุณค่านี้บ้างครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางสายนี้คือ จิตใจที่มั่นคงและแน่วแน่.....ส่วนความรู้เป็นสิ่งที่สามารถไขว่คว้าเพื่อตามให้ทันผู้อื่นได้ สู้ต่อไป...
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 52
ขอบคุณคุณ taratantara มากๆๆๆๆๆครับที่มาแชร์^^ได้มุมมองดีครับ
แต่คนคิดก็เก่งนะครับ จากสมการยกกำลังเส้นโค้ง เอามาแปลงเป็นสมการเส้นตรง ตามหลักการมันทำไม่ได้อยู๋แล้วครับ แต่ถ้าทำเพื่อให้คิดง่ายๆก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องถามว่าจะเอาช่วงไหนของSlopมาคิด
เพราะ72/i มันเป็นเส้นตรงที่มีมุมคงที่ แต่สมการเงินกับเวลาจริงๆมันเป้นเส้นโค้งยกกำลัง ดังนั้นSlopeของกราฟมันมีต้องแต่0องศา-90องศา มันแวรี่มากๆ ดังนั้นการเลือกใช้ว่าจะเอาSlopeตรงไหนมาคิดนี่สำคัญมาก!!!!
พี่ลองเอาสูตร72มายำเล่นๆ ผลออกมาคือค่าจะตรงที่ i=8% ส่วนที่มากกว่าหรือน้อยกว่า8%จะErrorเรื่อยๆไปตามสัดส่วน ซึ่งผมเข้าใจว่าเหตุที่นำSlopeที่8%มาใช้ น่าจะเป็นเพราะว่า มันใกล้ๆกับMLRหรือปล่าวครับ ซึ่งก็อยู่ตรงกลางๆระหว่างฝากประจำกับการทุนในธุรกิจพอดี....ดั้งนั้นในเคสปกติFinancจะคิดแถวๆช่วง6-12%ค่าที่ออกมาก็ไม่Errorมากนัก...แต่!!!น้องนิวเอาที่100%มาคิดไงครับก็เลยErrorกระจาย^^ดังนั้นผมมองว่าการมีสูตรลัดนั้นดีมากๆๆๆๆๆ แต่ควรจะต้องมีRemarkด้วยเสมอว่าควรใช้ในช่วงi+-8%ไม่มากนัก^^
น้องนิวเข้าใจตั้งคำถามมากๆเลยครับ^^ พอเอา1ปีคิดคำตอบคนละเรื่องเลยOo<< New >> เขียน:สงสัยเรื่องกฏ 72 นี้มานานครับ ถามครูไฟแนนซ์หลายๆคน บางคนก็ตอบไม่ได้ บางคนก็บอกว่าเป็นประมาณ เลยลองถามดูเผื่อใครมีคำตอบอื่นหรือป่าว
คือถ้าเอา72มาหารด้วยผลตอบแทนแล้วจะเป็นจำนวนปีที่เงินเบิ้ล
อย่างงั้นแปลว่าถ้าคนนึง ทำได้ 72% เงินก็จะเบิ้ลใน 1 ปี
ถ้าทำได้มากกว่า 72% เงินก็จะเบิ้ลในน้อยกว่า 1 ปี
จริงๆเงินจะเบิ้ลใน 1 ปีได้ก็คือต้องทำผลตอบแทนให้ได้ 100 %
แต่ถ้าได้ 100% เงินก็จะเบิ้ลใน 0.72 ปี ไม่ใช่หนึ่งปีในสูตร
งงๆกันมั้ยครับ
แต่คนคิดก็เก่งนะครับ จากสมการยกกำลังเส้นโค้ง เอามาแปลงเป็นสมการเส้นตรง ตามหลักการมันทำไม่ได้อยู๋แล้วครับ แต่ถ้าทำเพื่อให้คิดง่ายๆก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องถามว่าจะเอาช่วงไหนของSlopมาคิด
เพราะ72/i มันเป็นเส้นตรงที่มีมุมคงที่ แต่สมการเงินกับเวลาจริงๆมันเป้นเส้นโค้งยกกำลัง ดังนั้นSlopeของกราฟมันมีต้องแต่0องศา-90องศา มันแวรี่มากๆ ดังนั้นการเลือกใช้ว่าจะเอาSlopeตรงไหนมาคิดนี่สำคัญมาก!!!!
พี่ลองเอาสูตร72มายำเล่นๆ ผลออกมาคือค่าจะตรงที่ i=8% ส่วนที่มากกว่าหรือน้อยกว่า8%จะErrorเรื่อยๆไปตามสัดส่วน ซึ่งผมเข้าใจว่าเหตุที่นำSlopeที่8%มาใช้ น่าจะเป็นเพราะว่า มันใกล้ๆกับMLRหรือปล่าวครับ ซึ่งก็อยู่ตรงกลางๆระหว่างฝากประจำกับการทุนในธุรกิจพอดี....ดั้งนั้นในเคสปกติFinancจะคิดแถวๆช่วง6-12%ค่าที่ออกมาก็ไม่Errorมากนัก...แต่!!!น้องนิวเอาที่100%มาคิดไงครับก็เลยErrorกระจาย^^ดังนั้นผมมองว่าการมีสูตรลัดนั้นดีมากๆๆๆๆๆ แต่ควรจะต้องมีRemarkด้วยเสมอว่าควรใช้ในช่วงi+-8%ไม่มากนัก^^
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 53
ขอชมคุณtaratantara อีกทีครับ เขียนบทความได้น่าอ่านมากๆๆๆครับ ถ้ากดLikeได้มากกว่า1ครั้งได้คงกดกระหน่ำไปแล้วครับ
เห็นด้วยเกือบทั้งหมดครับ แต่ในเรื่องที่ว่ายิ่งทำกำไรเพิ่ม!!!แต่ลดเวลาได้น้อยลง!!! ผมขออนุญาติแชร์เพิ่มติมนิดหนึ่งนะครับ
1.กำไรที่เพิ่ม เพิ่มทีละ4% จาก2ไป6ลองเทียบเป็น%มันเยอะมากครับ แต่จาก18ไป22เป็น%มันเริ่มไม่เยอะแล้วครับ นั่นหมายความว่าเรากำลังเพิ่มในอัตราที่น้อยลง....ซึ่งในความเป็นจริงผมมองว่าการมองเป็น%น่าจะเม็กเซ็นกว่าครับ เช่นบริษัทที่เคยมียอดขาย2ล้านจะเพิ่มเป็น6ล้านมันยากมาก แต่บริษัทที่มียอดขาย18ล้านจะเพิ่มเป็น22ล้านมันเป็นไปได้มากกว่าครับ
2.เวลาที่ลดลง แม้นตัวเลขจะลดลง แต่%เพิ่มมากขึ้นครับ ซึ่งถ้าเราลงทุนแล้วFixว่าได้กำไร1เด้งแล้วเลิกผมไม่เถียงนะครับเทียบตามตัวเลขได้เลย แต่หากเราลงทุนแล้วFixว่า20ปีแล้วเลิก ผมว่าค่าที่ออกมามัน
ต่างกันเยอะมากครับ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆสมมุตินายAขายข้าวมันไก่กำไรเดือนละ100%นายBขายเสื้อผ้ากำไรปีละ100% แล้วบอกว่าต่างกันเพียง11เดือนหรือ0.9ปีเอง ผมว่าไม่ถูกนัก หากเทียบเป็น%มันห่างกันมหาศาลและยิ่ง*เวลาเพิ่มไปยิ่งไปคนละทาง
(i)--------ปี
2--------35.0
6--------11.9-------->กำไรเพิ่ม200%-------->เวลาลดลง66%
10--------7.3-------->กำไรเพิ่ม67%-------->เวลาลดลง38%
14--------5.3-------->กำไรเพิ่ม40%-------->เวลาลดลง38%
18--------4.2-------->กำไรเพิ่ม28%-------->เวลาลดลง27%
22--------3.5-------->กำไรเพิ่ม22%-------->เวลาลดลง17%
ผมมองว่าสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดของดอกทบต้นที่ขนาดไอสไตร์ยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัสจรรย์อันดับ8ของโลกคือ.....
ในเวลาที่เท่ากันคุณเพิ่มผลตอบแทนในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ แต่เงินปลายทางของคุณกลับเพิ่มในอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เห็นด้วยเกือบทั้งหมดครับ แต่ในเรื่องที่ว่ายิ่งทำกำไรเพิ่ม!!!แต่ลดเวลาได้น้อยลง!!! ผมขออนุญาติแชร์เพิ่มติมนิดหนึ่งนะครับ
1.กำไรที่เพิ่ม เพิ่มทีละ4% จาก2ไป6ลองเทียบเป็น%มันเยอะมากครับ แต่จาก18ไป22เป็น%มันเริ่มไม่เยอะแล้วครับ นั่นหมายความว่าเรากำลังเพิ่มในอัตราที่น้อยลง....ซึ่งในความเป็นจริงผมมองว่าการมองเป็น%น่าจะเม็กเซ็นกว่าครับ เช่นบริษัทที่เคยมียอดขาย2ล้านจะเพิ่มเป็น6ล้านมันยากมาก แต่บริษัทที่มียอดขาย18ล้านจะเพิ่มเป็น22ล้านมันเป็นไปได้มากกว่าครับ
2.เวลาที่ลดลง แม้นตัวเลขจะลดลง แต่%เพิ่มมากขึ้นครับ ซึ่งถ้าเราลงทุนแล้วFixว่าได้กำไร1เด้งแล้วเลิกผมไม่เถียงนะครับเทียบตามตัวเลขได้เลย แต่หากเราลงทุนแล้วFixว่า20ปีแล้วเลิก ผมว่าค่าที่ออกมามัน
ต่างกันเยอะมากครับ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆสมมุตินายAขายข้าวมันไก่กำไรเดือนละ100%นายBขายเสื้อผ้ากำไรปีละ100% แล้วบอกว่าต่างกันเพียง11เดือนหรือ0.9ปีเอง ผมว่าไม่ถูกนัก หากเทียบเป็น%มันห่างกันมหาศาลและยิ่ง*เวลาเพิ่มไปยิ่งไปคนละทาง
(i)--------ปี
2--------35.0
6--------11.9-------->กำไรเพิ่ม200%-------->เวลาลดลง66%
10--------7.3-------->กำไรเพิ่ม67%-------->เวลาลดลง38%
14--------5.3-------->กำไรเพิ่ม40%-------->เวลาลดลง38%
18--------4.2-------->กำไรเพิ่ม28%-------->เวลาลดลง27%
22--------3.5-------->กำไรเพิ่ม22%-------->เวลาลดลง17%
ผมมองว่าสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดของดอกทบต้นที่ขนาดไอสไตร์ยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัสจรรย์อันดับ8ของโลกคือ.....
ในเวลาที่เท่ากันคุณเพิ่มผลตอบแทนในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ แต่เงินปลายทางของคุณกลับเพิ่มในอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 54
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้ง
ความเห็นของทุกท่านมีความหมายกับผมจริงๆ มันทำให้ผมได้รับรู้ว่าเรายังคงมีเพื่อนร่วมทางเสมอ แม้ว่าเป้าหมายและวิธีการอาจแตกต่างกันแต่เราก็สามารถแบ่งปันความคิดและประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้
ผมคิดว่าทุกท่านในที่นี้คงมีเป้าหมายที่ไม่ต่างไปจากผมนัก นั่นคือการเป็นอิสรภาพทางการเงิน
การเป็นอิสรภาพทางการเงินสำหรับผมไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อการเลิกการทำงานประจำ แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่ออิสระในการเลือกงานที่เราอยากทำในเวลาที่เราต้องการจะทำ ซึ่งความจริงมันอาจจะใช้เวลาในแต่ละวันมากกว่างานประจำที่ทำด้วยซ้ำไป ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ คิดอย่างไรกันบ้าง ?
หลังจากเขียนกฎ 72 ผมได้ข้อคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า การตั้งโจทย์ที่มาจากตัวเราเอง ให้กับตัวเอง และเดินตามทางนั้นด้วยตัวเราเอง มันเป็นอะไรที่มันส์มากในความคิดผม มันทำให้ผมลืมเรื่องราวไร้สาระทั้งหลายในชีวิตที่มักจะทำให้เราหัวเสียแบบไม่จำเป็น ลืมว่าเมื่อกี้รถคันไหนที่ขับปาดหน้า ลืมว่าแล้วมื้อถัดไปเราจะเลือกกินอะไรอีกดี ลืมว่าเราิเคยสำคัญหรือด้อยค่าอย่างไรในอดีตและจำเป็นจะต้องเป็นใครในอนาคต
เราคงเคยเห็นเรื่องราวของคนที่ผลการเรียนไม่ค่อยดีแต่กลับประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ผมเรียนรู้จากการอ่านและฟังประวัติของคนเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่งหรือไม่ฉลาดแต่เพราะเขาไม่ถนัดในการเลือกเดินตามโจทย์ที่คนอื่นตั้งให้ เขาจึงต้องเลือกเดินตามโจทย์ที่เขาตั้งขึ้นเองและนั่นกลับนำมาซึ่งความสำเร็จ
การจะเป็นที่ 1 หรือที่ใดๆ นั้น ไม่สำคัญสำหรับผมอีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับผมอยู่ที่ว่าผมได้ทำอะไรในปัจจุบัน
ผมใช้เวลาในปัจจุบันเดินทางไปตามโจทย์ที่ผมตั้งขึ้นเองและมีความสุขไปกับมัน พยายามบาลานซ์ด้วยการ ไม่เร่ง ไม่ผ่อน ไม่หย่อน ไม่ฝืน ทำสมดุลของชีวิตให้ดีและเรียบง่ายที่สุด
ผมขออนุญาตแชร์ความคิดของผมเท่านี้ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านอีกครั้งครับ
ความเห็นของทุกท่านมีความหมายกับผมจริงๆ มันทำให้ผมได้รับรู้ว่าเรายังคงมีเพื่อนร่วมทางเสมอ แม้ว่าเป้าหมายและวิธีการอาจแตกต่างกันแต่เราก็สามารถแบ่งปันความคิดและประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้
ผมคิดว่าทุกท่านในที่นี้คงมีเป้าหมายที่ไม่ต่างไปจากผมนัก นั่นคือการเป็นอิสรภาพทางการเงิน
การเป็นอิสรภาพทางการเงินสำหรับผมไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อการเลิกการทำงานประจำ แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่ออิสระในการเลือกงานที่เราอยากทำในเวลาที่เราต้องการจะทำ ซึ่งความจริงมันอาจจะใช้เวลาในแต่ละวันมากกว่างานประจำที่ทำด้วยซ้ำไป ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ คิดอย่างไรกันบ้าง ?
หลังจากเขียนกฎ 72 ผมได้ข้อคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า การตั้งโจทย์ที่มาจากตัวเราเอง ให้กับตัวเอง และเดินตามทางนั้นด้วยตัวเราเอง มันเป็นอะไรที่มันส์มากในความคิดผม มันทำให้ผมลืมเรื่องราวไร้สาระทั้งหลายในชีวิตที่มักจะทำให้เราหัวเสียแบบไม่จำเป็น ลืมว่าเมื่อกี้รถคันไหนที่ขับปาดหน้า ลืมว่าแล้วมื้อถัดไปเราจะเลือกกินอะไรอีกดี ลืมว่าเราิเคยสำคัญหรือด้อยค่าอย่างไรในอดีตและจำเป็นจะต้องเป็นใครในอนาคต
เราคงเคยเห็นเรื่องราวของคนที่ผลการเรียนไม่ค่อยดีแต่กลับประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง ผมเรียนรู้จากการอ่านและฟังประวัติของคนเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่งหรือไม่ฉลาดแต่เพราะเขาไม่ถนัดในการเลือกเดินตามโจทย์ที่คนอื่นตั้งให้ เขาจึงต้องเลือกเดินตามโจทย์ที่เขาตั้งขึ้นเองและนั่นกลับนำมาซึ่งความสำเร็จ
การจะเป็นที่ 1 หรือที่ใดๆ นั้น ไม่สำคัญสำหรับผมอีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับผมอยู่ที่ว่าผมได้ทำอะไรในปัจจุบัน
ผมใช้เวลาในปัจจุบันเดินทางไปตามโจทย์ที่ผมตั้งขึ้นเองและมีความสุขไปกับมัน พยายามบาลานซ์ด้วยการ ไม่เร่ง ไม่ผ่อน ไม่หย่อน ไม่ฝืน ทำสมดุลของชีวิตให้ดีและเรียบง่ายที่สุด
ผมขออนุญาตแชร์ความคิดของผมเท่านี้ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านอีกครั้งครับ
You are never better than anyone. The only one you must compare yourself with is You.
http://achikochi1234.blogspot.com/
http://achikochi1234.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 55
ให้ 10% คือผลตอบแทนที่คนทั่วไปคาดหวัง ....(1)
ส่วนกลับของอัตราส่วนยอดฮิต P/E ratio คือ E/P เท่ากับ ผลตอบแทน ....(2)
แทนค่า (1) ใน (2)
E/P = 0.1 หรือ 10% ....(3)
จะได้ค่า P/E เท่ากับ 10 เท่า
กระทู้นี้สอนให้ผมรู้ว่าทำไมค่า P/E ที่ 10 เท่าจึงทรงพลังมาก
ส่วนกลับของอัตราส่วนยอดฮิต P/E ratio คือ E/P เท่ากับ ผลตอบแทน ....(2)
แทนค่า (1) ใน (2)
E/P = 0.1 หรือ 10% ....(3)
จะได้ค่า P/E เท่ากับ 10 เท่า
กระทู้นี้สอนให้ผมรู้ว่าทำไมค่า P/E ที่ 10 เท่าจึงทรงพลังมาก
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 57
แถม..
good tools
http://www.moneychimp.com/features/rule72.htm
ถ้า เรา ใส่ ค่า 10 ลงไป
จะได้ เป็น RULE 239
แปลว่า
ถ้า ผลตอบแทน ต่อปี คือ 15%
239/15=15.933 ปี
คือเวลาที่เงินของเรา จะ เป็น 10เด้ง
...
..ใช้หรือไม่..ลองดูนะ
good tools
http://www.moneychimp.com/features/rule72.htm
ถ้า เรา ใส่ ค่า 10 ลงไป
จะได้ เป็น RULE 239
แปลว่า
ถ้า ผลตอบแทน ต่อปี คือ 15%
239/15=15.933 ปี
คือเวลาที่เงินของเรา จะ เป็น 10เด้ง
...
..ใช้หรือไม่..ลองดูนะ
- koh
- Verified User
- โพสต์: 273
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้
โพสต์ที่ 58
บทความและวิธีคิดและนำเสนอดีครับ