"วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
"วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 1
การอินเวิดที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือการอินเวิดชีวิต
ผมมองแต่ทุกข์ ผมไม่เคยมองสุขเลย
ความสุขนั้นจัดการกับมันง่ายมาก
ความทุกข์ต่างหากที่รับมือกับมันยากกว่า
ความคิดนี้ข้างบ้านผมเคยบอกว่าผมเป็นคนคิดลบ
แต่ความคิดเขาเปลี่ยนหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมบ้าน
ผมไม่ทราบเปลี่ยนไปทางใดครับ
ผมและข้างบ้านอยู๋บ้านตลอดไม่เคยย้ายออกตอนน้ำท่วมบ้าน
เป้นเวลานานกว่า 22 วันครับที่อยู๋กับน้ำสูงกว่าสี่สิบห้าสิบเซ็น
ผมโตมากับคลอง เลยชิน
ช่วงน้ำท่วม รถทหารวิ่งเข้าออกเกืดคลื่นสูงทุกครั้งกระแทกเข้าบ้าน
บ้านผมไม่กั้นอะไรเลย ทุกครั้งรถผ่่าน ประตูรั้วสั่นไหวทุกครั้ง
ข้างบ้านกั้นอิฐสูงสองก้อน แต่คลื่นยังกะฉอกข้ามกำแพงอิฐล้นเข้าบ้านบางครั้งจนได้
เขาบ่นทุกครั้งเวลาคลื่นมา
และติดป้ายหน้าบ้านว่า "ขับรถช้าเป็นคน"
เวลาคลื่นมา เขาอยากให้คลื่นน้อย
ผมอยากให้คลื่นเยอะ นิสัยไม่ดี ไปอินเวิดความคาดหวังของคนอื่นอีกแล้ว
ผมเอาฝาถังน้ำแข็งขนาดยาวเมตรกว้างแปดสิบเซนไปเล่นกระดานโต้คลื่น
เวลารถมา ผมวิ่งออกไปรอมือขวาถือกระดาน
คลื่นมา ผมก็หันหลังให้คลื่น ทิ้งกระดาน ไถลไปกับคลื่นและสายน้ำ
พฤติกรรรมนี้สร้างรอยยิ้มให้คนไม่น้อย
แต่ข้างบ้านผม ไม่โปรดเท่าใดนัก
การจัดการกับความสุขนั้นง่ายมาก จนผมไม่สนใจเลย
การจัดการกับความทุกข์ สำคัญกว่ามากมาย
ถ้าน้ำไม่เข้าบ้าน เพื่อนบ้านผมคงโอเค
พอน้ำเข้าบ้านแบบไม่คาดหวัง เลยยึดติดกับความทุกข์อย่างเหนียวแน่น
และปล่อยมันไปไมได้ด้วย
หมอดูล้วนหากินกับจุดอ่อนของคนสิ่งนี้
โชคชะตาดวงดาววันเดือนปีเกิดจะทำอะไรคนได้
ถ้าคนสามารถปล่อยวางในความทุกข์ได้
ผมมักจะพูดกับลูกเสมอว่า เวลามีความสุขไม่ต้องมาหาพ่อ
มีความทุกข์เมื่อใด มาหาพ่อทันที
เพราะพ่อเป้นผู้เชี่ยวชาญในการรับมื่อกับความทุกข์
ทำไมละพ่อ
ผมอธิบายเป้นตัวเลข ถ้าพ่อเจอเงินแบงพันตกบนพื้น พ่อคงดีใจ
แต่ให้มันแค่ 1/10 คะแนน กลับกันถ้าพ่อทำเงินพันหาย คงเซ็งเป็ดไม่น้อย
และให้คะแนนติดลบห้า
เวลาออกไปไหน ผมจึงเฝ้าระวังเรื่องการกวักวินเงินเข้าออก
เอาเงินใส่ถุงพลาสติกแล้วใส่ก้อนหินเข้าไปด้วย
เวลามันตกมันจะมันมีเสียง
ผมจะคิดว่าทำอย่างไรให่้เงินหาย
ส่วนทำอย่างไรให้เงินไม่หาย ผมจะไม่เคยคิดเลย
ความทุกข์สำคัญกว่าความสุขมาก
ผมไม่ทราบครับ
ความคิดผมอย่างนี้สร้างความรำคาญให้กับคนในหมู๋บ้านอย่างมาก
เวลามีคนถามว่า น้ำจะม่วมไหมปีหน้า
ผมจะตอบว่า ผมไม่รู็ครับ
แล้วเขาจะหันไปถามคนอื่นทันที
ร้อยทั้งร้อยจะตอบกันว่า ท่วม หรือ ไม่ท่วม พร้อมเหตุผลสนับสุนนความคิดตัวเอง
ท่วมไหมครับปีหน้า
ไม่ทราบครับ
ผมรู้แต่ว่า เวลามันท่วมผมจะทำอย่างไร
ผมจะรับมือและทำใจอยู่กับมันอย่างไร
นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่าเวลาน้ำไม่ท่วม
ความคิดนี้ถูกถ่ายทอดลงไปในการลงทุนในตลาดหุ้น
นั่นเป้นเหตุผลทีผมไม่ถนัดเวลามีข่าวดีกระทบจิตวิทยาของตลาดเลย
แต่เวลาข้าวร้าย ผมจะไฮเปอร์เป็นพิเศษ
ใช่แล้วครับ ผมถนัด short มากกว่า long
ความไม่แน่นอนนั่นสำคัญกว่าความแน่นอนอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
คนชอบหาความแน่นอน และไม่ยอมรับความไม่แน่นอน
คนชอบมองแต่สุข และไม่ยอมรับความทุกข์
หนีอย่างไรก็ไม่พ้นความทุกข์
เหมือนท่านพุทธทาสบอก
ปลาเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในน้ำ แต่ไม่เห็นน้ำ
คนเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในความทกข์ แต่ไม่เห็นทุกข์
โอ้ย ผมปวดแขนจังเลย ไม่หายมาเป้นเดือนแล้ว ไปหาหมอดีกว่า
เผื่อเป็นอะไรขึ้นมา
ว่ายอยู๋ในความไม่แน่นอนแล้วยังทำเฉยไม่ยอมรับมันอีก
ร่างกายมันก็ฟ้องอยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน
นักลงทุนว่ายอยู๋ในความขาดทุน แต่ยังไม่เห้นขาดทุน
ว่ายอยู๋ในความเสี่ยงแล้วยังไม่ยอมรับ
การจัดการกับกำไรนั้นไม่สำคัญมากเท่าการจัดการกับขาดทุนเลย
ผมเริ่มต้นทกเช่้าด้วยประโยคว่า
"วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
ยอมรับมันได้ไหมละครับ
เจ้าความทุกข์ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับนักลงทุนตัวนี้
เอาชนะตัวเองเรื่องความทุกข์ได้
จะต้องกลัวอะไรอีกครับ 55555555
ผมมองแต่ทุกข์ ผมไม่เคยมองสุขเลย
ความสุขนั้นจัดการกับมันง่ายมาก
ความทุกข์ต่างหากที่รับมือกับมันยากกว่า
ความคิดนี้ข้างบ้านผมเคยบอกว่าผมเป็นคนคิดลบ
แต่ความคิดเขาเปลี่ยนหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมบ้าน
ผมไม่ทราบเปลี่ยนไปทางใดครับ
ผมและข้างบ้านอยู๋บ้านตลอดไม่เคยย้ายออกตอนน้ำท่วมบ้าน
เป้นเวลานานกว่า 22 วันครับที่อยู๋กับน้ำสูงกว่าสี่สิบห้าสิบเซ็น
ผมโตมากับคลอง เลยชิน
ช่วงน้ำท่วม รถทหารวิ่งเข้าออกเกืดคลื่นสูงทุกครั้งกระแทกเข้าบ้าน
บ้านผมไม่กั้นอะไรเลย ทุกครั้งรถผ่่าน ประตูรั้วสั่นไหวทุกครั้ง
ข้างบ้านกั้นอิฐสูงสองก้อน แต่คลื่นยังกะฉอกข้ามกำแพงอิฐล้นเข้าบ้านบางครั้งจนได้
เขาบ่นทุกครั้งเวลาคลื่นมา
และติดป้ายหน้าบ้านว่า "ขับรถช้าเป็นคน"
เวลาคลื่นมา เขาอยากให้คลื่นน้อย
ผมอยากให้คลื่นเยอะ นิสัยไม่ดี ไปอินเวิดความคาดหวังของคนอื่นอีกแล้ว
ผมเอาฝาถังน้ำแข็งขนาดยาวเมตรกว้างแปดสิบเซนไปเล่นกระดานโต้คลื่น
เวลารถมา ผมวิ่งออกไปรอมือขวาถือกระดาน
คลื่นมา ผมก็หันหลังให้คลื่น ทิ้งกระดาน ไถลไปกับคลื่นและสายน้ำ
พฤติกรรรมนี้สร้างรอยยิ้มให้คนไม่น้อย
แต่ข้างบ้านผม ไม่โปรดเท่าใดนัก
การจัดการกับความสุขนั้นง่ายมาก จนผมไม่สนใจเลย
การจัดการกับความทุกข์ สำคัญกว่ามากมาย
ถ้าน้ำไม่เข้าบ้าน เพื่อนบ้านผมคงโอเค
พอน้ำเข้าบ้านแบบไม่คาดหวัง เลยยึดติดกับความทุกข์อย่างเหนียวแน่น
และปล่อยมันไปไมได้ด้วย
หมอดูล้วนหากินกับจุดอ่อนของคนสิ่งนี้
โชคชะตาดวงดาววันเดือนปีเกิดจะทำอะไรคนได้
ถ้าคนสามารถปล่อยวางในความทุกข์ได้
ผมมักจะพูดกับลูกเสมอว่า เวลามีความสุขไม่ต้องมาหาพ่อ
มีความทุกข์เมื่อใด มาหาพ่อทันที
เพราะพ่อเป้นผู้เชี่ยวชาญในการรับมื่อกับความทุกข์
ทำไมละพ่อ
ผมอธิบายเป้นตัวเลข ถ้าพ่อเจอเงินแบงพันตกบนพื้น พ่อคงดีใจ
แต่ให้มันแค่ 1/10 คะแนน กลับกันถ้าพ่อทำเงินพันหาย คงเซ็งเป็ดไม่น้อย
และให้คะแนนติดลบห้า
เวลาออกไปไหน ผมจึงเฝ้าระวังเรื่องการกวักวินเงินเข้าออก
เอาเงินใส่ถุงพลาสติกแล้วใส่ก้อนหินเข้าไปด้วย
เวลามันตกมันจะมันมีเสียง
ผมจะคิดว่าทำอย่างไรให่้เงินหาย
ส่วนทำอย่างไรให้เงินไม่หาย ผมจะไม่เคยคิดเลย
ความทุกข์สำคัญกว่าความสุขมาก
ผมไม่ทราบครับ
ความคิดผมอย่างนี้สร้างความรำคาญให้กับคนในหมู๋บ้านอย่างมาก
เวลามีคนถามว่า น้ำจะม่วมไหมปีหน้า
ผมจะตอบว่า ผมไม่รู็ครับ
แล้วเขาจะหันไปถามคนอื่นทันที
ร้อยทั้งร้อยจะตอบกันว่า ท่วม หรือ ไม่ท่วม พร้อมเหตุผลสนับสุนนความคิดตัวเอง
ท่วมไหมครับปีหน้า
ไม่ทราบครับ
ผมรู้แต่ว่า เวลามันท่วมผมจะทำอย่างไร
ผมจะรับมือและทำใจอยู่กับมันอย่างไร
นั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่าเวลาน้ำไม่ท่วม
ความคิดนี้ถูกถ่ายทอดลงไปในการลงทุนในตลาดหุ้น
นั่นเป้นเหตุผลทีผมไม่ถนัดเวลามีข่าวดีกระทบจิตวิทยาของตลาดเลย
แต่เวลาข้าวร้าย ผมจะไฮเปอร์เป็นพิเศษ
ใช่แล้วครับ ผมถนัด short มากกว่า long
ความไม่แน่นอนนั่นสำคัญกว่าความแน่นอนอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
คนชอบหาความแน่นอน และไม่ยอมรับความไม่แน่นอน
คนชอบมองแต่สุข และไม่ยอมรับความทุกข์
หนีอย่างไรก็ไม่พ้นความทุกข์
เหมือนท่านพุทธทาสบอก
ปลาเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในน้ำ แต่ไม่เห็นน้ำ
คนเกิด แก่ เจ็บ ตายอยู๋ในความทกข์ แต่ไม่เห็นทุกข์
โอ้ย ผมปวดแขนจังเลย ไม่หายมาเป้นเดือนแล้ว ไปหาหมอดีกว่า
เผื่อเป็นอะไรขึ้นมา
ว่ายอยู๋ในความไม่แน่นอนแล้วยังทำเฉยไม่ยอมรับมันอีก
ร่างกายมันก็ฟ้องอยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน
นักลงทุนว่ายอยู๋ในความขาดทุน แต่ยังไม่เห้นขาดทุน
ว่ายอยู๋ในความเสี่ยงแล้วยังไม่ยอมรับ
การจัดการกับกำไรนั้นไม่สำคัญมากเท่าการจัดการกับขาดทุนเลย
ผมเริ่มต้นทกเช่้าด้วยประโยคว่า
"วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
ยอมรับมันได้ไหมละครับ
เจ้าความทุกข์ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับนักลงทุนตัวนี้
เอาชนะตัวเองเรื่องความทุกข์ได้
จะต้องกลัวอะไรอีกครับ 55555555
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ มีประโยชน์ดี แต่เข้าใจยากจะพยายามทำความเข้าใจครับ
แต่ระวังเรื่องพิมพ์ผิดหน่อยนะครับ
แต่ระวังเรื่องพิมพ์ผิดหน่อยนะครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ
เวลาผมเขียนบันทึกในกระดาษ
ผมไม่ใส่สระวรรณยุกต์เลย
มันอ่านออก จะเขียนให้เปลืองทำไม
เรื่องความไม่แน่นอนนี้ มันต้องฝืนตัวเอง
เวลาเจอตัวสะกดที่ไม่ถูก บางท่านจะไม่คุ้น
เพราะคุ้นกับความแน่นอน
นอกจากไม่เขียนสระวรณยุกต์แล้ว
ผมจดลงกระดาษยังเขียนจากขวาไปซ้ายอีกด้วย
คิดเรื่องอะไรได้ เรียบเรียงในหัวเสร็จ
เวลาเขียนในคอมพิวเตอร์ เลยเขียนรวดเดียว ไมมีลบ ไม่มีแก้เลย
ความคิดต่างๆ เลยเขียนได้แบบไม่ติด
เรียกว่า ภาษาเขียนอย่างไร ภาษาพูดก็อย่างนั้น
ที่ผมเขียน ไมมีแก้เลย คิดอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น
คิดอย่างไร ก็พูดอย่างนั้น ไม่มีตบแต่งบัญชีแต่อย่างใด
ถ้าวันไหน ผมเขียนสะกดครบถูกต้องเลย
ผมเฟคแล้วครับ แก้แล้วแก้อีก ไม่ออกมาจากใจครับ
ปากกับใจผมตรงกันครับ
ปากหมา ใจก็หมาด้วย 55555
ขอบคุณครับที่เตือนครับ
เวลาผมเขียนบันทึกในกระดาษ
ผมไม่ใส่สระวรรณยุกต์เลย
มันอ่านออก จะเขียนให้เปลืองทำไม
เรื่องความไม่แน่นอนนี้ มันต้องฝืนตัวเอง
เวลาเจอตัวสะกดที่ไม่ถูก บางท่านจะไม่คุ้น
เพราะคุ้นกับความแน่นอน
นอกจากไม่เขียนสระวรณยุกต์แล้ว
ผมจดลงกระดาษยังเขียนจากขวาไปซ้ายอีกด้วย
คิดเรื่องอะไรได้ เรียบเรียงในหัวเสร็จ
เวลาเขียนในคอมพิวเตอร์ เลยเขียนรวดเดียว ไมมีลบ ไม่มีแก้เลย
ความคิดต่างๆ เลยเขียนได้แบบไม่ติด
เรียกว่า ภาษาเขียนอย่างไร ภาษาพูดก็อย่างนั้น
ที่ผมเขียน ไมมีแก้เลย คิดอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น
คิดอย่างไร ก็พูดอย่างนั้น ไม่มีตบแต่งบัญชีแต่อย่างใด
ถ้าวันไหน ผมเขียนสะกดครบถูกต้องเลย
ผมเฟคแล้วครับ แก้แล้วแก้อีก ไม่ออกมาจากใจครับ
ปากกับใจผมตรงกันครับ
ปากหมา ใจก็หมาด้วย 55555
ขอบคุณครับที่เตือนครับ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 5
บทความมีประโยชน์ครับ แต่พี่ยังไม่สามารถเขียนให้อ่านง่าย เข้าใจง่ายได้เหมือนเดิม
ลองดู บทความ หรือ ซื้อ หนังสือ ของ พี่ โจ๊ก สุมาอี้ มาอ่านดูนะครับ เรื่องยากๆอย่าง Econ หรือ ตลาดหุ้นเค้าเขียนเรื่องๆยากให้เป็นเรื่องง่าย ได้
ลองดู บทความ หรือ ซื้อ หนังสือ ของ พี่ โจ๊ก สุมาอี้ มาอ่านดูนะครับ เรื่องยากๆอย่าง Econ หรือ ตลาดหุ้นเค้าเขียนเรื่องๆยากให้เป็นเรื่องง่าย ได้
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 7
+1 ชอบครับ ถึงแม้จะอ่านยากไปบ้าง
เขาบ่นทุกครั้งเวลาคลื่นมา
และติดป้ายหน้าบ้านว่า "ขับรถช้าเป็นคน"
ทำให้ผมนึกถึงคำขวัญ สิบล้อ ขับเร็วก้หาว่าบ้า ขับช้าก้หาว่าเต่า
อีกอันก้อันนี้ครับ เล่นกระดานโต้คลื่น ทำให้ผมอมยิ้มได้ว่า คนที่ประสบกับภาวะน้ำท่วม
ปกติ จิตต้องไปทุกข์ไปนั่งห่วงทรัพย์ แต่คนจะปล่อยวางและ ออกมาเล่นโต้คลื่นได้
แสดงว่าจะต้องเป็นคนที่คุม จิต ได้ครับ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่โลภ ไม่กลัว
จุดนี้เองที่น่าจะทำให้พี่หำดำ ชนะทุกสิ่งได้ สุดยอดครับ
เขาบ่นทุกครั้งเวลาคลื่นมา
และติดป้ายหน้าบ้านว่า "ขับรถช้าเป็นคน"
ทำให้ผมนึกถึงคำขวัญ สิบล้อ ขับเร็วก้หาว่าบ้า ขับช้าก้หาว่าเต่า
อีกอันก้อันนี้ครับ เล่นกระดานโต้คลื่น ทำให้ผมอมยิ้มได้ว่า คนที่ประสบกับภาวะน้ำท่วม
ปกติ จิตต้องไปทุกข์ไปนั่งห่วงทรัพย์ แต่คนจะปล่อยวางและ ออกมาเล่นโต้คลื่นได้
แสดงว่าจะต้องเป็นคนที่คุม จิต ได้ครับ ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่โลภ ไม่กลัว
จุดนี้เองที่น่าจะทำให้พี่หำดำ ชนะทุกสิ่งได้ สุดยอดครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 8
ผมกลับมองว่าการจัดการกับความสุขนั้นยากกว่าทุกข์...
เพราะ เวลาเราสุข เรามักจะไหลไปกับอารมณ์ มักจะขาดสติ ไม่ค่อยรู้ตัว เวลาผ่านไปเร็วเสียเหลือเกินจนเมื่อรู้สึกตัวอีกทีช่วงเวลานั้นก็ผ่านไปแล้ว
ในขณะที่เวลาเราทุกข์ สภาวะที่เกิดขึ้นกับกายใจของเรามันช่างชัดเจน เชื่องช้า และยาวนาน จนเรารู้สึกว่าต้องพยายามหาทางจัดการกับมันให้ได้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การจัดการกับมัน แต่เป็นการทำความเข้าใจมัน และยอมรับมันตามความเป็นจริง เราก็จะผ่านมันไปได้ง่ายกว่าการที่วิ่งวุ่นพยายามที่จะหลีกหนีจากมัน พยายามที่จะกำจัดมัน หรือพยายามหาความสุขอื่นๆ มาบดบังมันไป
และที่สำคัญ... ส่วนใหญ่ ความสุข ที่ปราศจากสติ ทำให้เราหลง ยึด ติด กับความสุขนั้นๆ พอได้ความสุขนั้นแล้วก็อยากได้ความสุขใหม่ๆ ที่แรงกว่าเดิม เจ๋งกว่าเดิม ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เป็นเหตุให้นำไปสู่ความทุกข์ใหม่ๆ ในอนาคต
สุดท้ายแล้ว สุขกับทุกข์ มันก็คือ invert ของกันละกัน... ดังนั้น หากเราคืนทุกข์ให้กับสุขไป เราก็จะพบกับความสุข สงบ สันติสุข ได้ในระยะยาว
เพราะ เวลาเราสุข เรามักจะไหลไปกับอารมณ์ มักจะขาดสติ ไม่ค่อยรู้ตัว เวลาผ่านไปเร็วเสียเหลือเกินจนเมื่อรู้สึกตัวอีกทีช่วงเวลานั้นก็ผ่านไปแล้ว
ในขณะที่เวลาเราทุกข์ สภาวะที่เกิดขึ้นกับกายใจของเรามันช่างชัดเจน เชื่องช้า และยาวนาน จนเรารู้สึกว่าต้องพยายามหาทางจัดการกับมันให้ได้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การจัดการกับมัน แต่เป็นการทำความเข้าใจมัน และยอมรับมันตามความเป็นจริง เราก็จะผ่านมันไปได้ง่ายกว่าการที่วิ่งวุ่นพยายามที่จะหลีกหนีจากมัน พยายามที่จะกำจัดมัน หรือพยายามหาความสุขอื่นๆ มาบดบังมันไป
และที่สำคัญ... ส่วนใหญ่ ความสุข ที่ปราศจากสติ ทำให้เราหลง ยึด ติด กับความสุขนั้นๆ พอได้ความสุขนั้นแล้วก็อยากได้ความสุขใหม่ๆ ที่แรงกว่าเดิม เจ๋งกว่าเดิม ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เป็นเหตุให้นำไปสู่ความทุกข์ใหม่ๆ ในอนาคต
สุดท้ายแล้ว สุขกับทุกข์ มันก็คือ invert ของกันละกัน... ดังนั้น หากเราคืนทุกข์ให้กับสุขไป เราก็จะพบกับความสุข สงบ สันติสุข ได้ในระยะยาว
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- Highway_Star
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 452
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 9
เห็นด้วยกับพี่ picatos นะครับ ความสุขนี่ทำหลงทำเราลืมทำเราเผลอได้ง่ายจริงๆ
ถ้าไม่ใช่คนที่มีสติตลอดจริงๆ จัดการลำบากครับ
ส่วนคนที่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมขอแนะนำว่าต้องอยู่กับตัวเองมากขึ้นละกันครับ
คิดแบบทุกทิศทุกทางในทุกเรื่อง แล้วจะพอเข้าใจดีขึ้นๆ
ที่พี่ humdrum เค้าเขียนมา มันเป็นความคิดของคนที่คิดจนชำนาญในเรื่องนั้นๆ แล้ว
พอมาเล่าให้คนอื่นฟัง บางทีมันจะกระโดดไปกระโดดมาครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีตัวเชื่อมระหว่างเนื้อความซะทีเดียว
ถ้าไม่ใช่คนที่มีสติตลอดจริงๆ จัดการลำบากครับ
ส่วนคนที่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมขอแนะนำว่าต้องอยู่กับตัวเองมากขึ้นละกันครับ
คิดแบบทุกทิศทุกทางในทุกเรื่อง แล้วจะพอเข้าใจดีขึ้นๆ
ที่พี่ humdrum เค้าเขียนมา มันเป็นความคิดของคนที่คิดจนชำนาญในเรื่องนั้นๆ แล้ว
พอมาเล่าให้คนอื่นฟัง บางทีมันจะกระโดดไปกระโดดมาครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีตัวเชื่อมระหว่างเนื้อความซะทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 10
Thank you very much krab .
My solutions : I will write in English krab.
I am sorry for any misunderstandings from my writings krab.
It 's all my flase krab.
The key is to manage the downside. Great traders manage the downside. They don't worry about the upside."
The difference between great traders and amateur traders is.... ?
"Well I would say discipline; when I put on a trade, I always have exit plans for every possible outcome. If there are any exceptions, I would have a plan for that too krab.
Picatos's mind is always brilliant. His teachings are my favorite readins. My experience in life is the more you chase happiness, the further it will fly away from you. The happiness will come to you when u forfet it krab.
best wishes for all value traders krab.
My solutions : I will write in English krab.
I am sorry for any misunderstandings from my writings krab.
It 's all my flase krab.
The key is to manage the downside. Great traders manage the downside. They don't worry about the upside."
The difference between great traders and amateur traders is.... ?
"Well I would say discipline; when I put on a trade, I always have exit plans for every possible outcome. If there are any exceptions, I would have a plan for that too krab.
Picatos's mind is always brilliant. His teachings are my favorite readins. My experience in life is the more you chase happiness, the further it will fly away from you. The happiness will come to you when u forfet it krab.
best wishes for all value traders krab.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 11
ผมชอบครับ อย่าทำให้อ่านง่ายเลยครับ
อ่านง่ายไปหาที่ไหนก็ได้
อ่านไปนานๆ มันก็ง่ายเอง
อ่านง่ายไปหาที่ไหนก็ได้
อ่านไปนานๆ มันก็ง่ายเอง
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
- kabu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 12
บทความดีดี มีมาให้อ่านเรื่อยๆ ขอบคุณมากครับ
ส่วนน้องตี๋ เหมือนเข้าถึงแก่นแล้วนะครับ
ส่วนน้องตี๋ เหมือนเข้าถึงแก่นแล้วนะครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 14
You thank me; I thank you for return krab.
I do like appreciations from supporting readers, but I also need more advices from those who do not like my ideas. Otherwise , I will learn nothing when I write. All readers are my techers krab. Hate me and angry me when u read my sayings krab, please.
The methods for investing are diverse and there is single secretly path for wining in the market. I extraordinary believe in this truth, so I have to trade my personality. We all have to trade a style which matches our personality. I have to know who I am. Foe example, I once tried to be both an investor and a trader and I ended in tragedies.
Afterward, I have learned to concentrate on mastering one style of Soros's philosophy that suits my true heartly personalties , which is a lifetime process.
A lifetime process krab that is a keyword, I keep on learning myself all the time and I have evoled and will continue to evole krab.
Good Luck for all krab.
^O-O^
I do like appreciations from supporting readers, but I also need more advices from those who do not like my ideas. Otherwise , I will learn nothing when I write. All readers are my techers krab. Hate me and angry me when u read my sayings krab, please.
The methods for investing are diverse and there is single secretly path for wining in the market. I extraordinary believe in this truth, so I have to trade my personality. We all have to trade a style which matches our personality. I have to know who I am. Foe example, I once tried to be both an investor and a trader and I ended in tragedies.
Afterward, I have learned to concentrate on mastering one style of Soros's philosophy that suits my true heartly personalties , which is a lifetime process.
A lifetime process krab that is a keyword, I keep on learning myself all the time and I have evoled and will continue to evole krab.
Good Luck for all krab.
^O-O^
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 15
เวลามีสุข ผมไม่เคยมีสติไปจัดการกับมัน หลงอยู่กับความสุขตลอด
เวลามีทุกข์ เหมือนช่วงหนึ่งที่เราได้พักให้สติได้ทำงานมั่ง
---------
บทความพี่โหน่งมีเสน่ห์ตรงที่เป็นอย่างนี้แหละ ตอนที่ยาว ๆ ผมก็อ่านข้ามมั่งเหมือนกัน หรือบางทีไปอ่านตรงท้าย ๆ ย้อนกลับมา หรือก็ไม่อ่านไปเลย ยกเว้นกระทู้นี้ผมอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ
-----------
พี่โหน่งกลับมาเขียนภาษาไทยเหมือนเดิมเถอะ ผมกลัวแปลไม่ถูกยิ่งกว่าที่พี่กลัวว่าจะสื่อสารผิดซะอีก
เวลามีทุกข์ เหมือนช่วงหนึ่งที่เราได้พักให้สติได้ทำงานมั่ง
---------
บทความพี่โหน่งมีเสน่ห์ตรงที่เป็นอย่างนี้แหละ ตอนที่ยาว ๆ ผมก็อ่านข้ามมั่งเหมือนกัน หรือบางทีไปอ่านตรงท้าย ๆ ย้อนกลับมา หรือก็ไม่อ่านไปเลย ยกเว้นกระทู้นี้ผมอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ
-----------
พี่โหน่งกลับมาเขียนภาษาไทยเหมือนเดิมเถอะ ผมกลัวแปลไม่ถูกยิ่งกว่าที่พี่กลัวว่าจะสื่อสารผิดซะอีก
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 16
We all have to trade a style which matches our personality. +1 krab
ความสวยงามของการลงทุน คือ การลงทุนด้วยสไตล์ของเราเอง ถ้าเราต้องลงทุนในสไตล์
ที่เราไม่ถนัด เราก้ไม่มีทางสำเร็จได้ ดังนั้นการลงทุน คือ เรา เราคือการลงทุน
เราอาจจะอยากเป็นแบบ ไทเกอร์วู้ด แต่ถ้าเราตีแบบไทเกอร์ บางทีเราอาจจะไม่สำเร็จ
เราอยากเป็นแบบไทเกอร์ คือ แชมป์ แต่เราควรตีด้วยสไตล์ของเรา ทำในสิ่งที่เราถนัด
เล่นในเกมของเรา และ เล่นในเกมที่เราคิดว่าจะชนะ
สิ่งที่สวยงามของการลงทุนอีกข้อคือ ความสวยงามทางวิธีการแห่งการลงทุน เหมือนกับ
คลื่นแห่งความคิด วิธีทางใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่อาจจะมองข้าม
ถ้าเปรียบได้กับอินโนเวชั่น ก้คือ เราอาจจะคิดแบบนึงในยุคนึง แต่ผ่านไป 10ปี แนวคิดนี้
อาจจะใช้ลงทุนไม่ได้ เพราะโลกมีอินโนเวชั่น ถ้าเราเป็นเตาแก๊ซ เค้าก้คงเป็นกระทะไฟฟ้า
คงเปรียบได้กับ คลื่นเวลาเราไปยืนที่ ท่าน้ำศิริราช คลื่นลูกเก่าก้กระทบฝั่ง คลื่นลูกใหม่
ก้แรงขึ้นมาแทน
ดังนั้น นักลงทุนแวลูทุกคนก้เช่นกัน การคิดแค่ในกรอบเก่า อาจะพาเราให้พลาดได้
เมื่อใดเรา ยึดติด ในทรัพย์ ในความคิด ในสติ ในส่วนลึกของจิตใจ ในความสำเร็จเก่าๆ
เมื่อนั้นเราย่อมจะ ประมาท
ผมเชื่อว่า ตลาดมีประสิทธิภาพ วันนึง วิธีหาปลาแบบหนึ่ง อาจจะใช้ไม่ได้ เพราะทุกคน
ล่วง รู้ วิธีจับปลาหมดแล้ว สำคัญคือ เวลานั้น เราจะยังจับปลาได้อีกหรือไม่ ด้วยสวิงอันเดิม
และวิธีคิดแบบเดิมๆ
คิดใหม่ ทำใหม่ คิดใหญ่ ทำให้ใหญ่ เพราะการลงทุนคือ คลื่นแห่งความหวังความโลภ
และความกลัว แปรเปลี่ยน อารมณ์ ของคนให้เป็นพลัง พลิกดำให้เป็นขาว
ความสวยงามของการลงทุน คือ การลงทุนด้วยสไตล์ของเราเอง ถ้าเราต้องลงทุนในสไตล์
ที่เราไม่ถนัด เราก้ไม่มีทางสำเร็จได้ ดังนั้นการลงทุน คือ เรา เราคือการลงทุน
เราอาจจะอยากเป็นแบบ ไทเกอร์วู้ด แต่ถ้าเราตีแบบไทเกอร์ บางทีเราอาจจะไม่สำเร็จ
เราอยากเป็นแบบไทเกอร์ คือ แชมป์ แต่เราควรตีด้วยสไตล์ของเรา ทำในสิ่งที่เราถนัด
เล่นในเกมของเรา และ เล่นในเกมที่เราคิดว่าจะชนะ
สิ่งที่สวยงามของการลงทุนอีกข้อคือ ความสวยงามทางวิธีการแห่งการลงทุน เหมือนกับ
คลื่นแห่งความคิด วิธีทางใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่อาจจะมองข้าม
ถ้าเปรียบได้กับอินโนเวชั่น ก้คือ เราอาจจะคิดแบบนึงในยุคนึง แต่ผ่านไป 10ปี แนวคิดนี้
อาจจะใช้ลงทุนไม่ได้ เพราะโลกมีอินโนเวชั่น ถ้าเราเป็นเตาแก๊ซ เค้าก้คงเป็นกระทะไฟฟ้า
คงเปรียบได้กับ คลื่นเวลาเราไปยืนที่ ท่าน้ำศิริราช คลื่นลูกเก่าก้กระทบฝั่ง คลื่นลูกใหม่
ก้แรงขึ้นมาแทน
ดังนั้น นักลงทุนแวลูทุกคนก้เช่นกัน การคิดแค่ในกรอบเก่า อาจะพาเราให้พลาดได้
เมื่อใดเรา ยึดติด ในทรัพย์ ในความคิด ในสติ ในส่วนลึกของจิตใจ ในความสำเร็จเก่าๆ
เมื่อนั้นเราย่อมจะ ประมาท
ผมเชื่อว่า ตลาดมีประสิทธิภาพ วันนึง วิธีหาปลาแบบหนึ่ง อาจจะใช้ไม่ได้ เพราะทุกคน
ล่วง รู้ วิธีจับปลาหมดแล้ว สำคัญคือ เวลานั้น เราจะยังจับปลาได้อีกหรือไม่ ด้วยสวิงอันเดิม
และวิธีคิดแบบเดิมๆ
คิดใหม่ ทำใหม่ คิดใหญ่ ทำให้ใหญ่ เพราะการลงทุนคือ คลื่นแห่งความหวังความโลภ
และความกลัว แปรเปลี่ยน อารมณ์ ของคนให้เป็นพลัง พลิกดำให้เป็นขาว
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 18
ou
To Khun Oatty : Thank you krab, following your posts for a long time, you have a very special talent to begien with. This web is a two-way street. More or less time , let the readers' senses push my stomach and feet where to go and see how I deal with those frustrations and their reactions krab. I may be the worst writer in the world krab. 555555
To Khun Chukiat: Exactly krab, a stock is virtually 100 percent perception, price can go anywhere. We can't control what Mr. amd Mrs Market does, but we can control our reactions to the markets. I examine what I do all the time. That's what investing is all about krab, skeptical youself. Reading your input perspective is considerably profitable already krab. Extreamely grateful krab.
To Khun Oatty : Thank you krab, following your posts for a long time, you have a very special talent to begien with. This web is a two-way street. More or less time , let the readers' senses push my stomach and feet where to go and see how I deal with those frustrations and their reactions krab. I may be the worst writer in the world krab. 555555
To Khun Chukiat: Exactly krab, a stock is virtually 100 percent perception, price can go anywhere. We can't control what Mr. amd Mrs Market does, but we can control our reactions to the markets. I examine what I do all the time. That's what investing is all about krab, skeptical youself. Reading your input perspective is considerably profitable already krab. Extreamely grateful krab.
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 19
humdrum เขียน:ou
To Khun Oatty : Thank you krab, following your posts for a long time, you have a very special talent to begien with. This web is a two-way street. More or less time , let the readers' senses push my stomach and feet where to go and see how I deal with those frustrations and their reactions krab. I may be the worst writer in the world krab. 555555
To Khun Chukiat: Exactly krab, a stock is virtually 100 percent perception, price can go anywhere. We can't control what Mr. amd Mrs Market does, but we can control our reactions to the markets. I examine what I do all the time. That's what investing is all about krab, skeptical youself. Reading your input perspective is considerably profitable already krab. Extreamely grateful krab.
thank for your opinion krab p' hundrum
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 20
ได้อะไรมากเลยคับ
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริงๆ
อันนี้เป็นเรื่องของทุกสิ่งเลย
นับตั้งแต่อนุภาค ที่เราไม่สามารถสังเกตวัดตำแหน่ง และความเร็วของมันได้แน่นอน
เราได้แต่คาดคะแนเท่านั้น
แสงที่ใช้สังเกตอนุภาคยิ่งมีความยาวคลื่นมาก ความไม่แน่นอนทางตำแหน่งจะมีมากขึ้น
แต่ความแน่นอนทางความเร็วก็มีจะมีมากขึ้นเช่นกัน
แต่ถ้าความยาวคลื่นสั้นเท่าใด ความแน่นอนทางตำแหน่งของอนุภาคจะมากขึ้นเท่านั้น
แต่ความไม่แน่นอนทางความเร็วจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แสงความถี่สูงรบกวนความเร็วของอนุภาคมากกว่าแสงความถี่ต่ำๆนั่นเอง
(ความยาวคลื่นเป็นตัวบอกความถี่ด้วย ความยาวคลื่นมากความถี่ต่ำ ความยาวคลื่นสั้นความถี่สูง)
มนุษย์เราก็ประกอบด้วยอนุภาคต่างๆมากมาย คนเราประกอบด้วยเซลล์ 100 ล้านล้านเซลล์
ย่อมต้องมีพฤติกรรมพื้นฐานตามอนุภาคผสมอยู่ด้วย สัญชาตญาณมนุษย์ก็มาจากนี้เหมือนกัน
การสู้ การหนี การร่วมมือ ความต้องการพื้นฐานของชีวิต ก็แสดงออกมาอย่างที่เราเป็น
ผ่านกระบวนการวิวัฒนาการ การคัดเลือกตามธรรมชาติ ให้มีพฤติกรรมอย่างที่เราเป็น
และเราไม่รู้สึกตัวเสียด้วย ก็เหมือนปลาที่ไม่เห็นน้ำ เหมือนความทุกข์เราอยู่กับมันตลอดเวลา
ความเป็นทุกข์ มีสามลักษณะคือ
1. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะทนได้ยาก
2. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะเป็นของปรุงแต่ง และปรุงแต่ง
สิ่งอื่นพร้อมกันไปในตัว
3. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะแห่งความแปรปรวนเป็นไป
ต่างๆ
เราจึงไม่ชอบการเป็นทุกข์เพราะทนได้ยาก เจ็บปวด คับแค้นใจ
ไม่สบาย แต่ทุกสิ่งมีลักษณะของความเป็นทุกข์
ความสุขที่เราต้องการก็เหมือนกัน มีลักษณะแบบนี้
ความสุขไม่คงอยู่ตลอดไป ลองคิดดูดีๆ
ว่าที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทั้งปวงมีลักษณะความเป็นทุกข์
การเกิดขึ้นของระบบต่างในร่างกาย และสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
ก็ไม่ต่างกันนัก เกิดจากการต้องการแก้ปัญหาความทุกข์ต่างๆนั่นเอง
ลองคิดดูสมัยก่อนสิ่งมีชีวิตต่างๆดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดตั้งแต่การเกิดขึ้น
ของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตนั้นต้องสามารถถ่ายทอดพันธุกรรมของตัวมันเองได้ และตั้งแต่
การกำเนิดขึ้นของเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อการถ่ายเทสสารต่างๆ เกิดการแลกเปลี่ยนสสาร
เกิดพลังงานที่จะเคลื่อนไหว เกิดสารพันธุกรรมขึ้นมา เกิดการกินกัน รวมตัว พ่ายแพ้ ตายไป
การแข่งขัน การใช้พลังาน การต่อสู้ การหนี การร่วมมือ ก็เกิดขึ้นผ่านการวิวัฒนาการ
เป็นสัตว์เซลล์เดียว หลายเซลล์ บ้างใหญ่ขึ้น บ้างเล็กลง บ้างขยายตัวเร็ว บ้างขยายตัวช้า
บ้างพึ่งพาอาศัยกัน บ้างทำลายกัน สิ่งมีชีวิตต่างตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมในยุคต่างๆของโลก
มนุษย์เราก็เหมือนกัน ย้ายถิ่นฐานมากจากใจกลางแอฟริกา ถึงสองหน หนแรกไม่รอด
หนที่สองข้ามทะเลแดงผ่านมาได้ และสามารถสร้างอารยธรรม ต่อมาก็กระจัดกระจายกันไปทั่วโลก
จะเห็นได้ว่าเราทุกคนในโลกมีบรรพบุรุษร่วมกันทั้งหมด แต่ก็ยังทำลายกันเองได้
ผ่านสงคราม การเหยียดเชื้อชาติ เพราะความต่างกัน อันที่จริงแล้ว จากการที่ย้ายถิ่นฐานกันไป
ผ่านเวลา ผ่านสภาพแวดล้อม ผ่านอาหารการกิน การดำรงชีวิต การเกิดมิวเทชั่นต่างๆ มานานจน
มีลักษณะทางกายภาพต่างกัน แต่ภายในเราเหมือนกัน น่าเสียดาย...
มนุษย์เราเองไม่ได้เป็นตัวเองจริงๆ เราเกิดมาจากการร่วมมือกันของเซลล์สองเซลล์ หนึ่งคือเซลล์
ที่เก่งเรื่องการเคลื่อนไหวปรับตัว อีกหนึ่งคือเซลล์ทีเก่งด้านการสร้างพลังงาน
นั่นคือในเซลล์เราประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตสองชนิดคับ เซลล์นิวเคลียส กับไมโตครอนเดีย นั่นเอง
ไมโตครอนเดียนี่แหละ เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มาพึ่งพากันทำให้เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ สามารถเคลื่อนไหวแล้วใช้พลังงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวิวัฒนาการมาเป็นเราๆ ทั้งนิวเคลียสก็มี DNA และไมโตครอนเดียก็มี DNA ที่ต่างกันคับ
ตัวเราจึงมิใช่ตัวเราอย่างแท้จริงนั่นเอง
และในเอกภพของเราก็มีส่วนที่เป็นสสารที่เรารู้จักแค่ประมาณ 5%
ที่เหลือเป็นสสารมืดประมาณ 25% พลังงานมืด 70%
นี่แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งที่เราไม่รู้มากมายนัก
อย่าทะนงตัวกันเกินไปมนุษย์เอ๋ย...
กลับมาที่การลงทุน ถ้านำหลักง่ายๆของอนุภาคมาใช้
ก็จะได้เรื่องภาพใหญ่ภาพเล็กในการลงทุน
ถ้าเรามองภาพใหญ่ก็จะทำให้เราทราบความเป็นไปหรือเทรนของสิ่งต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
แต่เราจะไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ชัดเจนนัก
สำหรับภาพเล็กก็จะทำให้เราเข้าใจถึงรายละเอียดต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
แต่เราจะไม่สามารถระบุความเป็นไปหรือเทรนที่จะเกิดขึ้นได้ชัดเจนนัก
การลงทุนให้ประสบความสำเร็จก็คงต้องการทั้งภาพใหญ่ภาพเล็กด้วย
การคิดเรื่องทุกข์ก่อนเป็นสิ่งที่ดีคับ เพราะว่าทำให้เรามองอะไรตามความเป็นจริง
และมีวิธีที่จะจัดการได้กับความทุกข์นั้น เป็นสิ่งที่ชีวิตทำมาเสมอตั้งแต่โบราณกาล
และทำให้เกิดการแก้ปัญหาต่างๆได้เสมอ ถ้ามองทางด้านเศรษฐกิจก็เป็นยุค
เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีชีวภาพ หุ่นยนต์และอวกาศต่อไป
ถ้ามองด้านจิตใจ ก็คงเป็นเรื่องของจิตใจที่สามารถแก้ปัญหาทุกข์ได้
อยู่อย่างไม่ยึดมั่น และชนะตัวเองในท้ายสุด ชนะตัวเองนี่ก็คงเป็นการชนะหรือ
เป็นอิสระจากสัญชาตญาณต่างๆ ที่ทำให้เราร้อนรนนั่นเอง
เหมือนที่กูรูการลงทุนหลายๆท่านว่าไว้
"ศัตรูของนักลงทุน ก็คือตัวนักลงทุนเอง"
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจริงๆ
อันนี้เป็นเรื่องของทุกสิ่งเลย
นับตั้งแต่อนุภาค ที่เราไม่สามารถสังเกตวัดตำแหน่ง และความเร็วของมันได้แน่นอน
เราได้แต่คาดคะแนเท่านั้น
แสงที่ใช้สังเกตอนุภาคยิ่งมีความยาวคลื่นมาก ความไม่แน่นอนทางตำแหน่งจะมีมากขึ้น
แต่ความแน่นอนทางความเร็วก็มีจะมีมากขึ้นเช่นกัน
แต่ถ้าความยาวคลื่นสั้นเท่าใด ความแน่นอนทางตำแหน่งของอนุภาคจะมากขึ้นเท่านั้น
แต่ความไม่แน่นอนทางความเร็วจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
แสงความถี่สูงรบกวนความเร็วของอนุภาคมากกว่าแสงความถี่ต่ำๆนั่นเอง
(ความยาวคลื่นเป็นตัวบอกความถี่ด้วย ความยาวคลื่นมากความถี่ต่ำ ความยาวคลื่นสั้นความถี่สูง)
มนุษย์เราก็ประกอบด้วยอนุภาคต่างๆมากมาย คนเราประกอบด้วยเซลล์ 100 ล้านล้านเซลล์
ย่อมต้องมีพฤติกรรมพื้นฐานตามอนุภาคผสมอยู่ด้วย สัญชาตญาณมนุษย์ก็มาจากนี้เหมือนกัน
การสู้ การหนี การร่วมมือ ความต้องการพื้นฐานของชีวิต ก็แสดงออกมาอย่างที่เราเป็น
ผ่านกระบวนการวิวัฒนาการ การคัดเลือกตามธรรมชาติ ให้มีพฤติกรรมอย่างที่เราเป็น
และเราไม่รู้สึกตัวเสียด้วย ก็เหมือนปลาที่ไม่เห็นน้ำ เหมือนความทุกข์เราอยู่กับมันตลอดเวลา
ความเป็นทุกข์ มีสามลักษณะคือ
1. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะทนได้ยาก
2. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะเป็นของปรุงแต่ง และปรุงแต่ง
สิ่งอื่นพร้อมกันไปในตัว
3. ความเป็นทุกข์ เพราะมีลักษณะแห่งความแปรปรวนเป็นไป
ต่างๆ
เราจึงไม่ชอบการเป็นทุกข์เพราะทนได้ยาก เจ็บปวด คับแค้นใจ
ไม่สบาย แต่ทุกสิ่งมีลักษณะของความเป็นทุกข์
ความสุขที่เราต้องการก็เหมือนกัน มีลักษณะแบบนี้
ความสุขไม่คงอยู่ตลอดไป ลองคิดดูดีๆ
ว่าที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทั้งปวงมีลักษณะความเป็นทุกข์
การเกิดขึ้นของระบบต่างในร่างกาย และสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
ก็ไม่ต่างกันนัก เกิดจากการต้องการแก้ปัญหาความทุกข์ต่างๆนั่นเอง
ลองคิดดูสมัยก่อนสิ่งมีชีวิตต่างๆดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดตั้งแต่การเกิดขึ้น
ของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตนั้นต้องสามารถถ่ายทอดพันธุกรรมของตัวมันเองได้ และตั้งแต่
การกำเนิดขึ้นของเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อการถ่ายเทสสารต่างๆ เกิดการแลกเปลี่ยนสสาร
เกิดพลังงานที่จะเคลื่อนไหว เกิดสารพันธุกรรมขึ้นมา เกิดการกินกัน รวมตัว พ่ายแพ้ ตายไป
การแข่งขัน การใช้พลังาน การต่อสู้ การหนี การร่วมมือ ก็เกิดขึ้นผ่านการวิวัฒนาการ
เป็นสัตว์เซลล์เดียว หลายเซลล์ บ้างใหญ่ขึ้น บ้างเล็กลง บ้างขยายตัวเร็ว บ้างขยายตัวช้า
บ้างพึ่งพาอาศัยกัน บ้างทำลายกัน สิ่งมีชีวิตต่างตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมในยุคต่างๆของโลก
มนุษย์เราก็เหมือนกัน ย้ายถิ่นฐานมากจากใจกลางแอฟริกา ถึงสองหน หนแรกไม่รอด
หนที่สองข้ามทะเลแดงผ่านมาได้ และสามารถสร้างอารยธรรม ต่อมาก็กระจัดกระจายกันไปทั่วโลก
จะเห็นได้ว่าเราทุกคนในโลกมีบรรพบุรุษร่วมกันทั้งหมด แต่ก็ยังทำลายกันเองได้
ผ่านสงคราม การเหยียดเชื้อชาติ เพราะความต่างกัน อันที่จริงแล้ว จากการที่ย้ายถิ่นฐานกันไป
ผ่านเวลา ผ่านสภาพแวดล้อม ผ่านอาหารการกิน การดำรงชีวิต การเกิดมิวเทชั่นต่างๆ มานานจน
มีลักษณะทางกายภาพต่างกัน แต่ภายในเราเหมือนกัน น่าเสียดาย...
มนุษย์เราเองไม่ได้เป็นตัวเองจริงๆ เราเกิดมาจากการร่วมมือกันของเซลล์สองเซลล์ หนึ่งคือเซลล์
ที่เก่งเรื่องการเคลื่อนไหวปรับตัว อีกหนึ่งคือเซลล์ทีเก่งด้านการสร้างพลังงาน
นั่นคือในเซลล์เราประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตสองชนิดคับ เซลล์นิวเคลียส กับไมโตครอนเดีย นั่นเอง
ไมโตครอนเดียนี่แหละ เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มาพึ่งพากันทำให้เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ สามารถเคลื่อนไหวแล้วใช้พลังงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวิวัฒนาการมาเป็นเราๆ ทั้งนิวเคลียสก็มี DNA และไมโตครอนเดียก็มี DNA ที่ต่างกันคับ
ตัวเราจึงมิใช่ตัวเราอย่างแท้จริงนั่นเอง
และในเอกภพของเราก็มีส่วนที่เป็นสสารที่เรารู้จักแค่ประมาณ 5%
ที่เหลือเป็นสสารมืดประมาณ 25% พลังงานมืด 70%
นี่แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งที่เราไม่รู้มากมายนัก
อย่าทะนงตัวกันเกินไปมนุษย์เอ๋ย...
กลับมาที่การลงทุน ถ้านำหลักง่ายๆของอนุภาคมาใช้
ก็จะได้เรื่องภาพใหญ่ภาพเล็กในการลงทุน
ถ้าเรามองภาพใหญ่ก็จะทำให้เราทราบความเป็นไปหรือเทรนของสิ่งต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
แต่เราจะไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ชัดเจนนัก
สำหรับภาพเล็กก็จะทำให้เราเข้าใจถึงรายละเอียดต่างๆได้ชัดเจนขึ้น
แต่เราจะไม่สามารถระบุความเป็นไปหรือเทรนที่จะเกิดขึ้นได้ชัดเจนนัก
การลงทุนให้ประสบความสำเร็จก็คงต้องการทั้งภาพใหญ่ภาพเล็กด้วย
การคิดเรื่องทุกข์ก่อนเป็นสิ่งที่ดีคับ เพราะว่าทำให้เรามองอะไรตามความเป็นจริง
และมีวิธีที่จะจัดการได้กับความทุกข์นั้น เป็นสิ่งที่ชีวิตทำมาเสมอตั้งแต่โบราณกาล
และทำให้เกิดการแก้ปัญหาต่างๆได้เสมอ ถ้ามองทางด้านเศรษฐกิจก็เป็นยุค
เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีชีวภาพ หุ่นยนต์และอวกาศต่อไป
ถ้ามองด้านจิตใจ ก็คงเป็นเรื่องของจิตใจที่สามารถแก้ปัญหาทุกข์ได้
อยู่อย่างไม่ยึดมั่น และชนะตัวเองในท้ายสุด ชนะตัวเองนี่ก็คงเป็นการชนะหรือ
เป็นอิสระจากสัญชาตญาณต่างๆ ที่ทำให้เราร้อนรนนั่นเอง
เหมือนที่กูรูการลงทุนหลายๆท่านว่าไว้
"ศัตรูของนักลงทุน ก็คือตัวนักลงทุนเอง"
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 21
Wow!! Is that quantum krab?
But no offense krab, I do think stock investing is not an exact science krab. Please bounce me back if u could in this agenda krab. It's not just part of contingencies or arguements krab but for sweet ideas to build an investing model krab. I will discount all emotions involved krab. Thanks krab
But no offense krab, I do think stock investing is not an exact science krab. Please bounce me back if u could in this agenda krab. It's not just part of contingencies or arguements krab but for sweet ideas to build an investing model krab. I will discount all emotions involved krab. Thanks krab
- samahara
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆเช่นเคยนะครับ ผมอ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก หลังๆเลยไม่รู้เรื่องว่าคุยอะไรกัน..
บุคคลผู้มีปัญญารู้จักใคร่ครวญ ย่อมตั้งตนได้ด้วยทรัพย์อันเป็นต้นทุน แม้มีประมาณน้อย เหมือนคนก่อไฟกองน้อย ให้เป็นกองใหญ่
- PrasertsakK
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 23
ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความรู้ที่ผู้รู้ทุกท่านมาถกกันในมุมต่าง ๆ มันทำให้ผู้รู้น้อยแบบผมเข้าใจอะไรมากขึ้น แล้วหวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้เอาความรู้น้อย ๆ นี้มา share ร่วมกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ บางครับ
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 24
To samahara : If there is anything unique in your post, a least you are brave enough to diagnose yourself and admit your weakness krab. Why not grab this English uncertainty that is holding your back and learn the language. Turn it around into a home run krab. I have seen many investors who are not able to achieve success the level they want due to pesonal flaws rather than bad versus good investment decisions krab. All investors have something holding them back krab. As good as u are, I believe u can be an expert in English if u believe in youself krab. Don't let the fear of English holding u krab. Good luck krab.
PrasertsakK : With my pleasure krab.
PrasertsakK : With my pleasure krab.
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 25
ศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้
ไม่ว่าวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ที่มนุษย์เราสรุปออกมา
ถ้ามองอย่างภาพรวมแล้วก็คือการอธิบายเรื่องราวต่างๆผ่านการรับรู้ของเรา
มนุษย์เราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆคือเราสามารถเปรียบเทียบ จำแนกแจกแจง
มองเห็นถึงสิ่งต่างๆที่ซับซ้อน แล้วนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
นั่นทำให้เผ่าพันธุ์เราอยู่กันมาได้ถึงปัจจุบัน ด้วยความเจริญก้าวหน้า และมีชีวิตที่ไม่ทุกข์มาก
เมื่อเทียบกับสมัยก่อนๆ แถมยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เผ่าพันธุ์เราเรียนรู้ สะสมความรู้ ประสบการณ์ เทคโนโลยีต่างๆผ่านมาเป็นวิชาความรู้
แล้วแตกแขนงย่อยไปสู่สาขาวิชาต่างๆเพื่อการจำแนก แยกแยะ และทำการศึกษาเป็นส่วนๆ
ทำให้เข้าใจได้มากขึ้น แต่การจำแนกแยกแยะวิชาต่างๆมากมายก็ทำให้เรามอง
ไม่เห็นถึงความเชื่อมโยงของวิชาต่างๆ ทำให้เราไม่เห็นถึงความจริงของสิ่งต่างๆ
และทำให้เราหลงไปได้กับความรู้ในสาขาต่างๆ ว่าดีกว่า หรือแย่กว่า ไปตัดสิน
ความสำคัญของวิชาต่างๆว่าสำคัญมาก สำคัญน้อย รวมไปถึงการให้คุณค่าของผู้ที่
ศึกษาวิชาต่างๆเหล่านั้นด้วย อันที่จริงเราศึกษาเรื่องเดียวกันนั่นแหละเพียงแต่มอง
จากหลายมุมมอง เหมือนคนตาบอดคลำช้าง พบส่วนไหนก็เข้าใจว่านั่นแหละคือช้าง
จากที่ว่า
Wow!! Is that quantum krab?
But no offense krab, I do think stock investing is not an exact science krab. Please bounce me back if u could in this agenda krab. It's not just part of contingencies or arguements krab but for sweet ideas to build an investing model krab. I will discount all emotions involved krab. Thanks krab
ผมเห็นว่า(ส่วนตัวนะคับ) ไม่ว่าจะเป็นควอนตัม หรือศาสตร์อะไรๆ มันก็คือ
ศาสตร์ต่างๆในธรรมชาติที่ถ้านำมารวมกัน เราจะสามารถนำมาอธิบายพฤติกรรมต่างๆของสิ่งมีชีวิตได้ทั้งนั้น
เพราะมันเป็นพื้นฐานของสิ่งต่างๆอยู่แล้ว และสำหรับการลงทุนซึ่งก็เป็นกิจกรรมหนึ่งของระบบทุนนิยม
ที่ได้พัฒนามาจากระบบเศรษฐกิจยุคก่อนๆ ถึงแม้จะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับ
ว่ามีประสิทธิภาพในการทำให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการ จากทรัพยากรที่มีจำกัด ให้เกิด
ประโยชน์ และตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ดีในปัจจุบัน เรียกว่าอยู่ดีกินดีกัน
ส่วนเรื่องความต้องการของมนุษย์ที่เค้าว่าไม่มีที่สิ้นสุด อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ใครรู้ตอบทีนะคับ
แต่ถ้ามองในมุมมองว่าศาสตร์ต่างๆมีไว้เพื่ออธิบายเหตุผลของสิ่งต่างๆ การลงทุนในหุ้นก็คงเป็นศาสตร์ที่
อธิบายการเกิดขึ้นของระบบบริษัทหุ้นส่วน เพื่อการระดมทุน เพื่อพัฒนาการผลิตสินค้า และบริการ
เพราะทุนเดิมไม่พอ เนื่องจากความต้องการมากขึ้น จึงต้องมีการระดมเพิ่มจากผู้ที่สนใจ
แล้วทำการแบ่งสิทธิ์ในสินทรัพย์เป็นจำนวนหุ้น เพื่อให้เท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นตัวแทนความเป็นเจ้าของ
ก็คงไม่ต้องเรียกว่า เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นสังคมศาสตร์ เป็นเศรษฐศาสตร์ หรืออะไรๆ
การลงทุนในหุ้นก็คือการลงทุนในหุ้น ผู้ที่สามารถเข้าใจการลงทุนในหุ้น ก็คือผู้ที่มีความรู้ในการลงทุน
ในหุ้น เข้าใจหุ้นที่ลงทุน เข้าใจผลต่างๆจากการลงทุนในหุ้น รวมถึงผลต่างๆจากการลงทุนในหุ้นนั้นจะกระทบ
กับสิ่งต่างๆต่อไปอย่างไร
แล้วผู้ที่ลงทุนในหุ้นมาจากไหนกัน ก็มนุษย์เรานี่ละคับ แล้วมนุษย์เรามาจากไหน ก็มาจากเซลล์หลายๆเซลล์
เซลล์คืออะไรมาจากไหน ก็ประกอบขึ้นจากโปรตีน โปรตีนมาจากไหน ก็มาจากกรดอะมิโน
กรดอะมิโน มาจากไหน มาจากสสาร ซึ่งถูกสร้างจากรหัสใน DNA รหัสใน DNA มาจากไหน
ก็มาจากการเก็บข้อมูลชีวิตจากรุ่นก่อนๆ ชีวิตรุ่นก่อนๆมาจากไหน ก็มาจากธาตุต่างๆ เช่น C H O Si
ธาตุมาจากไหน มาจากอะตอม อะตอมมาจากไหนมาจาก โปรตอน นิวตรอน อิเล็คตรอน
แล้วสิ่งเหล่านี้มาจากไหน ควาก หรืออนุภาคที่เล็กกว่านี้ ตอนนี้เราก็รู้แค่นี้เอง
ก็ด้วยเหตุนี้พฤติกรรมต่างๆของคนเราก็มีส่วนสะสมมาจากระบบ ความเคยชิน ความเป็นไป
ของสิ่งเล็กที่สุดที่ประกอบกันขึ้นมา ผ่านกระบวนการวิวัฒนาการ การคัดเลือกตามธรรมชาติ
ฝังอยู่ในตัวเราตลอดมา และตลอดไป ไม่ว่าเราจะรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม
อนุภาค รวมตัวเป็นสสาร เป็นธาตุ เป็นพืช เป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ ฉันใด
สังคมของมนุษย์เราก็เกิดการรวมตัวเป็นตัวเรา พ่อแม่ เป็นครอบครัว หมู่บ้าน
สังคม ประเทศ โลก ฉันนั้น
ระบบต่างๆที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกัน แลกเปลี่ยนกัน ก็เกิดขึ้น เช่น ระบบการทำมาหากิน
ตั้งแต่รวมกลุ่มกันล่าสัตว์ ทำเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การลงทุน ก็พัฒนามาร่วมกันต่อไปจนถึงยุคนี้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความอยู่รอด เพื่อความไม่ทุกข์ของสิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังงานจากธรรมชาติ
และการที่เราสามารถมีพลังงานทำนั่นทำนี่ ก็ต้องแลกมาด้วยความเสื่อม ความตาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คือถ้าหมดช่วงที่เราสามารถสืบพันธุ์ ส่งต่อ DNA ไปได้ เราก็จะเสื่อมตัวลง เพราะการคัดเลือก
ตามธรรมชาติถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตแล้ว(เรื่องนี้คงต้องศึกษาต่อกันเองคับ)
การลงทุนในหุ้น ก็เป็นศาตร์การลงทุนในหุ้น ที่ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวพันกับหุ้น
ถ้าเราสามารถมองเห็นความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ผลกระทบต่างๆได้
แล้วสามารถสร้างภาพ คาดคะเนความเป็นไปต่างๆ เราจะสามารถลงทุนได้ดีขึ้นๆ
และประสบความสำเร็จได้ตามที่เราต้องการคับ
ไม่รู้จะตอบคำถามอะไรได้ไหมนะคับ
ไม่ว่าวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ที่มนุษย์เราสรุปออกมา
ถ้ามองอย่างภาพรวมแล้วก็คือการอธิบายเรื่องราวต่างๆผ่านการรับรู้ของเรา
มนุษย์เราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆคือเราสามารถเปรียบเทียบ จำแนกแจกแจง
มองเห็นถึงสิ่งต่างๆที่ซับซ้อน แล้วนำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
นั่นทำให้เผ่าพันธุ์เราอยู่กันมาได้ถึงปัจจุบัน ด้วยความเจริญก้าวหน้า และมีชีวิตที่ไม่ทุกข์มาก
เมื่อเทียบกับสมัยก่อนๆ แถมยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เผ่าพันธุ์เราเรียนรู้ สะสมความรู้ ประสบการณ์ เทคโนโลยีต่างๆผ่านมาเป็นวิชาความรู้
แล้วแตกแขนงย่อยไปสู่สาขาวิชาต่างๆเพื่อการจำแนก แยกแยะ และทำการศึกษาเป็นส่วนๆ
ทำให้เข้าใจได้มากขึ้น แต่การจำแนกแยกแยะวิชาต่างๆมากมายก็ทำให้เรามอง
ไม่เห็นถึงความเชื่อมโยงของวิชาต่างๆ ทำให้เราไม่เห็นถึงความจริงของสิ่งต่างๆ
และทำให้เราหลงไปได้กับความรู้ในสาขาต่างๆ ว่าดีกว่า หรือแย่กว่า ไปตัดสิน
ความสำคัญของวิชาต่างๆว่าสำคัญมาก สำคัญน้อย รวมไปถึงการให้คุณค่าของผู้ที่
ศึกษาวิชาต่างๆเหล่านั้นด้วย อันที่จริงเราศึกษาเรื่องเดียวกันนั่นแหละเพียงแต่มอง
จากหลายมุมมอง เหมือนคนตาบอดคลำช้าง พบส่วนไหนก็เข้าใจว่านั่นแหละคือช้าง
จากที่ว่า
Wow!! Is that quantum krab?
But no offense krab, I do think stock investing is not an exact science krab. Please bounce me back if u could in this agenda krab. It's not just part of contingencies or arguements krab but for sweet ideas to build an investing model krab. I will discount all emotions involved krab. Thanks krab
ผมเห็นว่า(ส่วนตัวนะคับ) ไม่ว่าจะเป็นควอนตัม หรือศาสตร์อะไรๆ มันก็คือ
ศาสตร์ต่างๆในธรรมชาติที่ถ้านำมารวมกัน เราจะสามารถนำมาอธิบายพฤติกรรมต่างๆของสิ่งมีชีวิตได้ทั้งนั้น
เพราะมันเป็นพื้นฐานของสิ่งต่างๆอยู่แล้ว และสำหรับการลงทุนซึ่งก็เป็นกิจกรรมหนึ่งของระบบทุนนิยม
ที่ได้พัฒนามาจากระบบเศรษฐกิจยุคก่อนๆ ถึงแม้จะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับ
ว่ามีประสิทธิภาพในการทำให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการ จากทรัพยากรที่มีจำกัด ให้เกิด
ประโยชน์ และตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้ดีในปัจจุบัน เรียกว่าอยู่ดีกินดีกัน
ส่วนเรื่องความต้องการของมนุษย์ที่เค้าว่าไม่มีที่สิ้นสุด อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ใครรู้ตอบทีนะคับ
แต่ถ้ามองในมุมมองว่าศาสตร์ต่างๆมีไว้เพื่ออธิบายเหตุผลของสิ่งต่างๆ การลงทุนในหุ้นก็คงเป็นศาสตร์ที่
อธิบายการเกิดขึ้นของระบบบริษัทหุ้นส่วน เพื่อการระดมทุน เพื่อพัฒนาการผลิตสินค้า และบริการ
เพราะทุนเดิมไม่พอ เนื่องจากความต้องการมากขึ้น จึงต้องมีการระดมเพิ่มจากผู้ที่สนใจ
แล้วทำการแบ่งสิทธิ์ในสินทรัพย์เป็นจำนวนหุ้น เพื่อให้เท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นตัวแทนความเป็นเจ้าของ
ก็คงไม่ต้องเรียกว่า เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นสังคมศาสตร์ เป็นเศรษฐศาสตร์ หรืออะไรๆ
การลงทุนในหุ้นก็คือการลงทุนในหุ้น ผู้ที่สามารถเข้าใจการลงทุนในหุ้น ก็คือผู้ที่มีความรู้ในการลงทุน
ในหุ้น เข้าใจหุ้นที่ลงทุน เข้าใจผลต่างๆจากการลงทุนในหุ้น รวมถึงผลต่างๆจากการลงทุนในหุ้นนั้นจะกระทบ
กับสิ่งต่างๆต่อไปอย่างไร
แล้วผู้ที่ลงทุนในหุ้นมาจากไหนกัน ก็มนุษย์เรานี่ละคับ แล้วมนุษย์เรามาจากไหน ก็มาจากเซลล์หลายๆเซลล์
เซลล์คืออะไรมาจากไหน ก็ประกอบขึ้นจากโปรตีน โปรตีนมาจากไหน ก็มาจากกรดอะมิโน
กรดอะมิโน มาจากไหน มาจากสสาร ซึ่งถูกสร้างจากรหัสใน DNA รหัสใน DNA มาจากไหน
ก็มาจากการเก็บข้อมูลชีวิตจากรุ่นก่อนๆ ชีวิตรุ่นก่อนๆมาจากไหน ก็มาจากธาตุต่างๆ เช่น C H O Si
ธาตุมาจากไหน มาจากอะตอม อะตอมมาจากไหนมาจาก โปรตอน นิวตรอน อิเล็คตรอน
แล้วสิ่งเหล่านี้มาจากไหน ควาก หรืออนุภาคที่เล็กกว่านี้ ตอนนี้เราก็รู้แค่นี้เอง
ก็ด้วยเหตุนี้พฤติกรรมต่างๆของคนเราก็มีส่วนสะสมมาจากระบบ ความเคยชิน ความเป็นไป
ของสิ่งเล็กที่สุดที่ประกอบกันขึ้นมา ผ่านกระบวนการวิวัฒนาการ การคัดเลือกตามธรรมชาติ
ฝังอยู่ในตัวเราตลอดมา และตลอดไป ไม่ว่าเราจะรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ตาม
อนุภาค รวมตัวเป็นสสาร เป็นธาตุ เป็นพืช เป็นสัตว์ เป็นมนุษย์ ฉันใด
สังคมของมนุษย์เราก็เกิดการรวมตัวเป็นตัวเรา พ่อแม่ เป็นครอบครัว หมู่บ้าน
สังคม ประเทศ โลก ฉันนั้น
ระบบต่างๆที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกัน แลกเปลี่ยนกัน ก็เกิดขึ้น เช่น ระบบการทำมาหากิน
ตั้งแต่รวมกลุ่มกันล่าสัตว์ ทำเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การลงทุน ก็พัฒนามาร่วมกันต่อไปจนถึงยุคนี้
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความอยู่รอด เพื่อความไม่ทุกข์ของสิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังงานจากธรรมชาติ
และการที่เราสามารถมีพลังงานทำนั่นทำนี่ ก็ต้องแลกมาด้วยความเสื่อม ความตาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คือถ้าหมดช่วงที่เราสามารถสืบพันธุ์ ส่งต่อ DNA ไปได้ เราก็จะเสื่อมตัวลง เพราะการคัดเลือก
ตามธรรมชาติถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตแล้ว(เรื่องนี้คงต้องศึกษาต่อกันเองคับ)
การลงทุนในหุ้น ก็เป็นศาตร์การลงทุนในหุ้น ที่ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวพันกับหุ้น
ถ้าเราสามารถมองเห็นความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ผลกระทบต่างๆได้
แล้วสามารถสร้างภาพ คาดคะเนความเป็นไปต่างๆ เราจะสามารถลงทุนได้ดีขึ้นๆ
และประสบความสำเร็จได้ตามที่เราต้องการคับ
ไม่รู้จะตอบคำถามอะไรได้ไหมนะคับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 28
มีคนบอกผมว่า
"ศาสนานั้นมีไว้รับมือตอนที่เราเป็นทุกข์"
มันเป็นจริง
เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจหลักธรรม เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจพื้นฐานของชีวิต
ชีวิตที่เราต้องอยู่กับมันไปตลอด เราจะทำใจยอมรับมันด้วยความสบายใจ
เมื่อเราเข้าใจชีวิต
มันก็เหมือนกับหุ้น เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจพื้นฐาน หุ้นตกเราก็ยอมรับมัน
และอยู่ด้วยอย่างมีความสุข
การรับมือกับความสุขนั้นง่าย กว่าการรับมือกับความทุกข์ นั้นคือโลกแห่งความเป็นจริง
"ศาสนานั้นมีไว้รับมือตอนที่เราเป็นทุกข์"
มันเป็นจริง
เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจหลักธรรม เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจพื้นฐานของชีวิต
ชีวิตที่เราต้องอยู่กับมันไปตลอด เราจะทำใจยอมรับมันด้วยความสบายใจ
เมื่อเราเข้าใจชีวิต
มันก็เหมือนกับหุ้น เมื่อไหร่ที่เราเข้าใจพื้นฐาน หุ้นตกเราก็ยอมรับมัน
และอยู่ด้วยอย่างมีความสุข
การรับมือกับความสุขนั้นง่าย กว่าการรับมือกับความทุกข์ นั้นคือโลกแห่งความเป็นจริง
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 29
แต่ละคนนั้นมีหลัก์การลงทุนไม่เหมือนกัน
สำหรับผม การลงทุนคือการวางกลยุทธ์
ถ้าผมอย่างรู้อะไรบางอย่างในหุ้น สำหรับ thaivi
ผมจะทำอย่างไร
แค่ผมถามคำถามเป็นเชิงลบ?
มีผู้คนมากมากมายพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์หรือเป็นอาสาสมัครค่อยหาข้อมูลมากให้ในทางบวก
ทำให้การลงทุนเริ่มสมดุลย์
ผมไม่จำเป็นต้องถาม คำถามธรรมดา คำถามเชิงลบเพียงพอ
ถ้าตอบไม่เป็นที่น่าพอใจ ผมก็พร้อมจะเดินทางเดิมของผม
ถ้าตอบได้น่าสนใจ มันหักล้างสิ่งที่ผมสงสัย มันทำให้ผมได้ความรู้ และผมก็มั่นใจขึ้นไปอีก
นั้นก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งเท่านั้น
สำหรับผม การลงทุนคือการวางกลยุทธ์
ถ้าผมอย่างรู้อะไรบางอย่างในหุ้น สำหรับ thaivi
ผมจะทำอย่างไร
แค่ผมถามคำถามเป็นเชิงลบ?
มีผู้คนมากมากมายพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์หรือเป็นอาสาสมัครค่อยหาข้อมูลมากให้ในทางบวก
ทำให้การลงทุนเริ่มสมดุลย์
ผมไม่จำเป็นต้องถาม คำถามธรรมดา คำถามเชิงลบเพียงพอ
ถ้าตอบไม่เป็นที่น่าพอใจ ผมก็พร้อมจะเดินทางเดิมของผม
ถ้าตอบได้น่าสนใจ มันหักล้างสิ่งที่ผมสงสัย มันทำให้ผมได้ความรู้ และผมก็มั่นใจขึ้นไปอีก
นั้นก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งเท่านั้น
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "วันนี้เป้นวันดีที่ผมจะขาดทุน"
โพสต์ที่ 30
1 ผมไม่เคยลงทุนเพื่อจะขาดทุน
2 ทุกวันเป็นวันดีสําหรับผม
3 ผมไม่ชอบโซรอส เพราะผมฟังเขาพูดไม่เข้าใจ
อ่านหนังสือเขาก็ไม่รู้เรื่อง
และผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมตลอดเวลา
4 ผมไม่เชื่อในการinvert
ถ้ารถวิ่งวันเวย์ผมคงไม่วิ่งสวน
ผมเชื่อในการคิดอย่างรอบด้านและระมัดระวัง
การประเมินความเสี่ยงในแต่ละเหตุการณ์
และการกระจายความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล
5 ชีวิตส่วนใหญ่ของผม เป็นไปเพื่อแสวงหาความสุข
ไม่เคยแสวงหาความทุกข์
เวลาความทุกข์มาเยือนโดยไม่คาดคิด
ผมต้อนรับมันด้วยสติและความสงบ
สักพักความทุกข์ก็หนีไปทุกที
คนเราเหตุปัจจัยต่างกัน
ปรัชญาความเชื่อการดําเนินชีวิตย่อมต่างกัน
ไม่มีใครผิดถูกหรอกครับ
เสื้อที่ผมใส่อาจไม่เข้าหรือเหมาะกับคนอื่น
ผมแค่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น
2 ทุกวันเป็นวันดีสําหรับผม
3 ผมไม่ชอบโซรอส เพราะผมฟังเขาพูดไม่เข้าใจ
อ่านหนังสือเขาก็ไม่รู้เรื่อง
และผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมตลอดเวลา
4 ผมไม่เชื่อในการinvert
ถ้ารถวิ่งวันเวย์ผมคงไม่วิ่งสวน
ผมเชื่อในการคิดอย่างรอบด้านและระมัดระวัง
การประเมินความเสี่ยงในแต่ละเหตุการณ์
และการกระจายความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล
5 ชีวิตส่วนใหญ่ของผม เป็นไปเพื่อแสวงหาความสุข
ไม่เคยแสวงหาความทุกข์
เวลาความทุกข์มาเยือนโดยไม่คาดคิด
ผมต้อนรับมันด้วยสติและความสงบ
สักพักความทุกข์ก็หนีไปทุกที
คนเราเหตุปัจจัยต่างกัน
ปรัชญาความเชื่อการดําเนินชีวิตย่อมต่างกัน
ไม่มีใครผิดถูกหรอกครับ
เสื้อที่ผมใส่อาจไม่เข้าหรือเหมาะกับคนอื่น
ผมแค่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น