มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 91
ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับ "นิยามคำว่าVI" ของใครๆ
เราลงทุนแบบไหนแล้วมันใช่กับตัวเรา ก็ทำไปเถิด
เราลงทุนแบบไหนแล้วมันใช่กับตัวเรา ก็ทำไปเถิด
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 110
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 93
สังเกตุเห็นอะไรนิดนึงเลยอยากโพส วันที่คุณเซียนหนุ่มและบางคนในกระทู้นี้ล้างพอร์ท เป็นวันที่ต่ำสุด(ณ.ตอนนี้) ก่อนจะเกิดการรีบาว3วันติด
ถ้าตามราคาไปเรื่อยๆมักจะมีสถานะการณ์ให้เรากดดันแบบนี้เสมอ
ขอพูดเรื่องของตัวเองบ้างครับ ผม(คิดว่าเป็น)เป็น vi มือใหม่ แต่อยู่ในตลาดมานานพอควร
ผมเริ่มกลับมามองตัวเองเมื่อปีก่อน ในช่วงที่ใครๆก็กำไรจากตลาดขึ้นต่อเนื่อง แต่ผมกลับไม่กำไร
แถมยังขาดทุน ทำให้ผมคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดในการลงทุนของผมแน่ๆ
ผมเริ่มศึกษาและมาพบบอร์ดแห่งนี้ ในขณะที่เริ่มสนใจแนวทาง vi ก็พยายามหาหุ้น
ที่คิดว่าน่าลงทุน อย่างตอนผมอ่านหนังสือของบัฟเฟตจบ ผมมานั่งนึกหุ้นที่เข้าข่ายน่าลงทุน
ตามแนวคิดของบัฟเฟต หุ้นตัวแรกที่ปิ้งมาในหัวผมคือ cp 7-11 (จำได้สมัยก่อน5บาทเอง)
พอกดดูกราฟราคา40ต้นๆ ฝันสลายทันที (มารู้ที่หลังดร.แกถือเยอะซะด้วย)
หลังจากนั้นก็พยายามหาหุ้นที่ราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน ผมกลับรู้สึกว่าแทบจะหาหุ้นทีราคายังถูก
แทบไม่เจอเลย(ช่วงปลายปีที่แล้ว)อาจจะเพราะผมหาไม่เจอเองด้วยก็ได้
แต่ก็เป็นเหตุผลให้ผมเทรดหุ้นแบบวิตกกังวล แม้หุ้นที่ผมเลือกไปผมคิดว่าราคามันยังต่ำ
ปันผลระดับเกือบ10% อัตราเติบโตในอดีตก็ดีพอควร ตลาดในอนาคตก็พอมีอนาคตอยู่
เมื่อเห็นตัวเลขต่างชาติขายต่อเนื่อง แม้ราคาหุ้นผมช่วงนั้นจะขึ้นสวนมาที่ไฮเดิมอีกรอบ
ผมตัดสินใจขายหมดพอร์ทแล้วถือเงินสดแทน ซึ่งถ้าโดยหลักการที่หลายๆคนบอกมันไม่ใช่แนว vi
แต่ผมเองคิดว่าผมจังหว่ะไม่ดี เข้าตลาดช้ากว่าคนอื่น มองภาพใหญ่มีแต่ของเกินมูลค่ากับเต็มมูลค่า
ถ้าภาพใหญ่จะลง ตัวเล็กๆอย่างเราก็ไม่ควรฝืน
ผมอาจมีโชคเล็กๆที่ตลาดลงจริงๆแบบที่ผมคาดไว้ ทำให้ผมยังมีโอกาสซื้อในราคาที่เหมาะสม
ที่พูดมาแค่คิดว่าหลักการบางอย่างมันไม่ตายตัวเสมอไป คนพอร์ทเล็กพอร์ทใหญ่ก็น่าจะมีการบริหาร
ที่ต่างกัน ผมว่าควรยึดหลักใหญ่ๆ(หัวใจของ vi)และปรับใช้ให้ตรงกับตัวเราน่าจะดีสุด
บางทีอาจจะเป็นเพราะจิตใจผมยังไม่เป็น vi ที่แท้จริงก็ได้นะ -__-"
แต่ผมพร้อมจะค่อยๆเรียนรู้แนวทางของ vi ไปเรื่อยๆ ขอขขอบคุณเวปนี้จากใจจริงคับ
ถ้าตามราคาไปเรื่อยๆมักจะมีสถานะการณ์ให้เรากดดันแบบนี้เสมอ
ขอพูดเรื่องของตัวเองบ้างครับ ผม(คิดว่าเป็น)เป็น vi มือใหม่ แต่อยู่ในตลาดมานานพอควร
ผมเริ่มกลับมามองตัวเองเมื่อปีก่อน ในช่วงที่ใครๆก็กำไรจากตลาดขึ้นต่อเนื่อง แต่ผมกลับไม่กำไร
แถมยังขาดทุน ทำให้ผมคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดในการลงทุนของผมแน่ๆ
ผมเริ่มศึกษาและมาพบบอร์ดแห่งนี้ ในขณะที่เริ่มสนใจแนวทาง vi ก็พยายามหาหุ้น
ที่คิดว่าน่าลงทุน อย่างตอนผมอ่านหนังสือของบัฟเฟตจบ ผมมานั่งนึกหุ้นที่เข้าข่ายน่าลงทุน
ตามแนวคิดของบัฟเฟต หุ้นตัวแรกที่ปิ้งมาในหัวผมคือ cp 7-11 (จำได้สมัยก่อน5บาทเอง)
พอกดดูกราฟราคา40ต้นๆ ฝันสลายทันที (มารู้ที่หลังดร.แกถือเยอะซะด้วย)
หลังจากนั้นก็พยายามหาหุ้นที่ราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน ผมกลับรู้สึกว่าแทบจะหาหุ้นทีราคายังถูก
แทบไม่เจอเลย(ช่วงปลายปีที่แล้ว)อาจจะเพราะผมหาไม่เจอเองด้วยก็ได้
แต่ก็เป็นเหตุผลให้ผมเทรดหุ้นแบบวิตกกังวล แม้หุ้นที่ผมเลือกไปผมคิดว่าราคามันยังต่ำ
ปันผลระดับเกือบ10% อัตราเติบโตในอดีตก็ดีพอควร ตลาดในอนาคตก็พอมีอนาคตอยู่
เมื่อเห็นตัวเลขต่างชาติขายต่อเนื่อง แม้ราคาหุ้นผมช่วงนั้นจะขึ้นสวนมาที่ไฮเดิมอีกรอบ
ผมตัดสินใจขายหมดพอร์ทแล้วถือเงินสดแทน ซึ่งถ้าโดยหลักการที่หลายๆคนบอกมันไม่ใช่แนว vi
แต่ผมเองคิดว่าผมจังหว่ะไม่ดี เข้าตลาดช้ากว่าคนอื่น มองภาพใหญ่มีแต่ของเกินมูลค่ากับเต็มมูลค่า
ถ้าภาพใหญ่จะลง ตัวเล็กๆอย่างเราก็ไม่ควรฝืน
ผมอาจมีโชคเล็กๆที่ตลาดลงจริงๆแบบที่ผมคาดไว้ ทำให้ผมยังมีโอกาสซื้อในราคาที่เหมาะสม
ที่พูดมาแค่คิดว่าหลักการบางอย่างมันไม่ตายตัวเสมอไป คนพอร์ทเล็กพอร์ทใหญ่ก็น่าจะมีการบริหาร
ที่ต่างกัน ผมว่าควรยึดหลักใหญ่ๆ(หัวใจของ vi)และปรับใช้ให้ตรงกับตัวเราน่าจะดีสุด
บางทีอาจจะเป็นเพราะจิตใจผมยังไม่เป็น vi ที่แท้จริงก็ได้นะ -__-"
แต่ผมพร้อมจะค่อยๆเรียนรู้แนวทางของ vi ไปเรื่อยๆ ขอขขอบคุณเวปนี้จากใจจริงคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 95
ขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับ
อยากทราบว่าตอนนี้ ท่านทั้งหลายที่เคยแสดงความเห็นกันในตอนนั้น ผ่านมาสองเดือนกว่าตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ
1) ลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม
2) ออกจากตลาดยังไม่กลับเข้ามา
3) ลงทุนบางส่วน รอจังหวะสวนอีกบางส่วน
ผมเองยังลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ปรับพอร์ตบ้าง ปรับเอาตัวที่ดูไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ออก แลกกับหุ้นตัวที่คิดว่าดีกว่าแล้วราคาลงมาในจุดที่พอใจ
ช่วงนี้ดูเว็บเงียบกว่าเมื่อก่อนครับ
อยากทราบว่าตอนนี้ ท่านทั้งหลายที่เคยแสดงความเห็นกันในตอนนั้น ผ่านมาสองเดือนกว่าตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ
1) ลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม
2) ออกจากตลาดยังไม่กลับเข้ามา
3) ลงทุนบางส่วน รอจังหวะสวนอีกบางส่วน
ผมเองยังลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ปรับพอร์ตบ้าง ปรับเอาตัวที่ดูไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ออก แลกกับหุ้นตัวที่คิดว่าดีกว่าแล้วราคาลงมาในจุดที่พอใจ
ช่วงนี้ดูเว็บเงียบกว่าเมื่อก่อนครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 96
คุณleky ทำเหมือนผมเลยครับleky เขียน:ขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับ
อยากทราบว่าตอนนี้ ท่านทั้งหลายที่เคยแสดงความเห็นกันในตอนนั้น ผ่านมาสองเดือนกว่าตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ
1) ลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม
2) ออกจากตลาดยังไม่กลับเข้ามา
3) ลงทุนบางส่วน รอจังหวะสวนอีกบางส่วน
ผมเองยังลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ปรับพอร์ตบ้าง ปรับเอาตัวที่ดูไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ออก แลกกับหุ้นตัวที่คิดว่าดีกว่าแล้วราคาลงมาในจุดที่พอใจ
ช่วงนี้ดูเว็บเงียบกว่าเมื่อก่อนครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=50719
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 97
เหมือนเดิมครับ แยกเงินจากรายได้ของเราเป็นสองส่วน ส่วนนึงเติมในหุ้น ส่วนนึงเติมในหลักทรัพย์รูปแบบอื่นๆ
ช่วงไหนเจอหุ้นราคาที่อยากซื้อ เราก็เติมในหุ้นมากหน่อย เติมที่ส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ น้อยหน่อย
แต่เงินที่ลงในหุ้นแล้ว ก็จะอยู่ในหุ้นแบบนั้น จะไม่เอาออก
ส่วนที่เอาเก็บไว้ในส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ จะเอามาซื้อหุ้นบ้าง แล้วแต่ช่วงที่ เราเห็นว่ามันถูกจัดจริงๆ
ไปๆ มาๆ ปีนี้ เงินใหม่ๆ ที่หามาไป ลงไปในหุ้นน้อย กว่าปีก่อนๆ มาก พอสมควร เลยครับ
ช่วงไหนเจอหุ้นราคาที่อยากซื้อ เราก็เติมในหุ้นมากหน่อย เติมที่ส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ น้อยหน่อย
แต่เงินที่ลงในหุ้นแล้ว ก็จะอยู่ในหุ้นแบบนั้น จะไม่เอาออก
ส่วนที่เอาเก็บไว้ในส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ จะเอามาซื้อหุ้นบ้าง แล้วแต่ช่วงที่ เราเห็นว่ามันถูกจัดจริงๆ
ไปๆ มาๆ ปีนี้ เงินใหม่ๆ ที่หามาไป ลงไปในหุ้นน้อย กว่าปีก่อนๆ มาก พอสมควร เลยครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 98
ที่ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะตอนนั้นกระแส "ล้างพอร์ต" หนีตายแรงมาก ในขณะที่เวลาผ่านมากว่าสองเดือน เรื่องหนี้ยุโรปก็ยังมีมาเป็นระยะ ๆ แต่สภาพตลาดดูดีกว่าตอนนั้นมาก เท่าที่สังเกตเห็น กระทู้ใหม่ ๆ หรือการโพสต์ในตอนนี้ลดลงกว่าเดิมมาก ส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากน้ำท่วมด้วย ที่ทำให้กิจกรรมการลงทุนลดลงไปจากที่หนีตาย "ล้างพอร์ต" กลายเป็น "หนีน้ำ" แทน แต่ที่อดคิดไม่ได้ก็คือหรือคนที่หนีตลาดไปตั้งหลักกลับมากันบ้างแล้วหรือยัง
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 99
ผมคนหนึ่งล่ะที่เข็ดกับการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"แล้วล่ะครับleky เขียน:ที่ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะตอนนั้นกระแส "ล้างพอร์ต" หนีตายแรงมาก ในขณะที่เวลาผ่านมากว่าสองเดือน เรื่องหนี้ยุโรปก็ยังมีมาเป็นระยะ ๆ แต่สภาพตลาดดูดีกว่าตอนนั้นมาก เท่าที่สังเกตเห็น กระทู้ใหม่ ๆ หรือการโพสต์ในตอนนี้ลดลงกว่าเดิมมาก ส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากน้ำท่วมด้วย ที่ทำให้กิจกรรมการลงทุนลดลงไปจากที่หนีตาย "ล้างพอร์ต" กลายเป็น "หนีน้ำ" แทน แต่ที่อดคิดไม่ได้ก็คือหรือคนที่หนีตลาดไปตั้งหลักกลับมากันบ้างแล้วหรือยัง
เพราะตอนที่ลงทุนช่วงแรกๆ เวลาหุ้นขึ้น ผมถือ และกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า.."การลงทุนแบบVIง่ายเสียนี่กระไร มีแต่ตัวเขียวเต็มไปหมด"
พอตลาดตก ตัวแดงเต็มไปหมด ผมล้างพอร์ต ขาดทุน capital ลดลง คิดในใจว่า"ไม่เป็นไรรอตลาดขึ้น เราVIเดี๋ยวก็ได้กำไรกลับคืน"
เป็นอย่างงี้อยู่หลายครั้ง.....
สำหรับผมจะถือยาวก็คือถือยาว จะเล่นสั้นก็คือเล่นสั้น เอาสักอย่าง ไอประเภทตอนที่ตลาดขึ้นแล้วบอกว่าตัวเองคือVIถือยาว พอตลาดตกกูขายทิ้งกลายเป็นเล่นสั้นซะงั้น ถ้าใครเป็นแบบนี้อยู่ จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่านี่ไม่ใช่การ"ล้างพอร์ตหนีตาย"แต่เป็นการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"นะครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 100
ความเห็นผมเวลาตลาดลงแรง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงแรง ๆ ที่มีผลในช่วงสั้น ๆ เช่น ปฏิวัติ, สำรอง 30%, 9/11 วิกฤติที่จะลงหนัก ๆ อย่างรุนแรงและอาจจะนานจริง ๆ อาจจะมีน้อยครั้งกว่า เช่น วิกฤติปี 40 วิกฤติซับไพร์ม หลายครั้งพอความกลัวถึงขีดสุดที่เราจะล้างพอร์ตมันเลยกลายเป็นจุดต่ำสุดไป
แต่ก็มีนลท.บางประเภทที่มีวิธีการลงทุนเฉพาะตอนที่ตลาดดีจริง ๆ ก็มีครับ แต่ถ้าผ่านประสบการณ์มาหลายปีผมว่าบางครั้งช่วงเวลา "สีเทา" หมายถึงช่วงเวลาที่ตลาดไม่ขึ้นไม่ลง บางครั้งมันก็อาจจะกินเวลาเป็นปี ตลาดสีเทาแบบนี้ทำให้ตัดสินใจยากว่าจะอยู่ดูเฉย ๆ หรือจะลงทุนเต็มที่ครับ
แต่ก็มีนลท.บางประเภทที่มีวิธีการลงทุนเฉพาะตอนที่ตลาดดีจริง ๆ ก็มีครับ แต่ถ้าผ่านประสบการณ์มาหลายปีผมว่าบางครั้งช่วงเวลา "สีเทา" หมายถึงช่วงเวลาที่ตลาดไม่ขึ้นไม่ลง บางครั้งมันก็อาจจะกินเวลาเป็นปี ตลาดสีเทาแบบนี้ทำให้ตัดสินใจยากว่าจะอยู่ดูเฉย ๆ หรือจะลงทุนเต็มที่ครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 101
เห็นด้วยครับ จะถนัดอย่างไหนก็ได้ แต่ให้เลือกเอาซักอย่างsakkaphan เขียน:สำหรับผมจะถือยาวก็คือถือยาว จะเล่นสั้นก็คือเล่นสั้น เอาสักอย่าง ไอประเภทตอนที่ตลาดขึ้นแล้วบอกว่าตัวเองคือVIถือยาว พอตลาดตกกูขายทิ้งกลายเป็นเล่นสั้นซะงั้น ถ้าใครเป็นแบบนี้อยู่ จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่านี่ไม่ใช่การ"ล้างพอร์ตหนีตาย"แต่เป็นการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"นะครับ
- kabu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 102
เริ่มถือเงินสดบ้างครับ
แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในหุ้นครับ
แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในหุ้นครับ
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
- panda_power
- Verified User
- โพสต์: 54
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 103
พี่ๆผมเพิ่งซื้อหุ้นเดือนกุมภา 54 ซื้อไปทุกเดือน เท่าไหร่ก็ซื้อ
ขาดทุนหนักๆพอร์ทลด 20 กว่า% ก็ยิ่งซื้อ สรุปซื้อหุ้นเกือบ 100% ของสินทรัพย์
ปัจจุบัน พอร์ท - 3.73% อือๆค่อยใจชื้นกว่าช่วงก่อนหน่อย นี่ถ้ารวมปันผลก็ไม่ขาดทุนแล้วครับ
....................................................................................................
เพิ่งมาคิดได้ว่าช่วงขาขึ้น หุ้นที่ไม่ค่อยขึ้นก็มี ช่วงขาลงหุ้นที่ไม่ค่อยลงก็มี
ผมจึงคิดว่าซื้อหุ้นจำพวกนี้ไว้เอาปันผล เพราะว่าผมเป็นคนขี้เกียจ อ่า..............
หรือไม่ก็ตอนที่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดีในแต่ละรอบ
ซึ่งพอขาลงปรับเปลี่ยนมาซื้อหุ้นดีๆ มี upside แล้วโยกมาอย่างนี้พอร์ทก็ดีขึ้นกว่าเดิม
.....................................................................................................
คำว่า "VI" ยิ่งยึดติดมากเท่าไหร่ ความหมายของความว่า "VI" ก็ลดลงเท่านั้น
credit Vogabond (ปรับเค้ามาอีกที)
ขาดทุนหนักๆพอร์ทลด 20 กว่า% ก็ยิ่งซื้อ สรุปซื้อหุ้นเกือบ 100% ของสินทรัพย์
ปัจจุบัน พอร์ท - 3.73% อือๆค่อยใจชื้นกว่าช่วงก่อนหน่อย นี่ถ้ารวมปันผลก็ไม่ขาดทุนแล้วครับ
....................................................................................................
เพิ่งมาคิดได้ว่าช่วงขาขึ้น หุ้นที่ไม่ค่อยขึ้นก็มี ช่วงขาลงหุ้นที่ไม่ค่อยลงก็มี
ผมจึงคิดว่าซื้อหุ้นจำพวกนี้ไว้เอาปันผล เพราะว่าผมเป็นคนขี้เกียจ อ่า..............
หรือไม่ก็ตอนที่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดีในแต่ละรอบ
ซึ่งพอขาลงปรับเปลี่ยนมาซื้อหุ้นดีๆ มี upside แล้วโยกมาอย่างนี้พอร์ทก็ดีขึ้นกว่าเดิม
.....................................................................................................
คำว่า "VI" ยิ่งยึดติดมากเท่าไหร่ ความหมายของความว่า "VI" ก็ลดลงเท่านั้น
credit Vogabond (ปรับเค้ามาอีกที)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1046
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 104
เจ้าของกระทู้ขอมารายงานตัวครับ ขอบคุณที่ขุดกระทู้ขึ้นมา หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับคนอื่นๆบ้าง
เริ่มกันที่ผลการล้างพอร์ตตอนนั้นเทียบกับตอนนี้แล้วกัน
Synex ตัวนี้มีมากสุด ขายไป 4.98 ไปซื้อคืนแถว 4.2-4.4 แล้วก็ไปขายอีกตอน 4 บาท ตอนนี้ 5 บาท โง่บรรลัยเลย
SVI ขายไป 3.88 ตอนนี้ 3.36
SSI ขายไป 0.79 ตอนนี้ 0.8
TICON ขายไป 12.4 ตอนนี้ 11.2
เปรียบเทียบกับการไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีค่าพอๆกันคือพอร์ตโดยรวมบวกลบ นิดหน่อย
แต่ถ้าเปรียบเทียบหลังจากนั้น set ขึ้นมากว่าสองร้อยจุดคิดเป็น 20กว่า% แต่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่ขึ้นมาบวกแค่ 10% กว่าๆ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินที่ลงทุนนั้นเป็นเงินที่เย็นไม่พอ ต้องนำมาเปิดร้านใหม่ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจขายตอนนั้นแล้วนำเงินมาพักไว้กับบัญชีเงินฝาก ที่ฝากมาสองเดือนได้ดอกเบี้ย 3800
สรุป การลงทุนนี่ขอให้ใช้หลักการง่ายๆ
1 นำเงินที่เย็นจริงๆมาลงทุน
2 ลงทุนในบริษัทที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง
3 หากหุ้นลงแล้วคิดว่าดีก็แค่ซื้อเพิ่ม
มันก็แค่นั้น แต่ทำได้หรือป่าวนี่สิปัญหา
เริ่มกันที่ผลการล้างพอร์ตตอนนั้นเทียบกับตอนนี้แล้วกัน
Synex ตัวนี้มีมากสุด ขายไป 4.98 ไปซื้อคืนแถว 4.2-4.4 แล้วก็ไปขายอีกตอน 4 บาท ตอนนี้ 5 บาท โง่บรรลัยเลย
SVI ขายไป 3.88 ตอนนี้ 3.36
SSI ขายไป 0.79 ตอนนี้ 0.8
TICON ขายไป 12.4 ตอนนี้ 11.2
เปรียบเทียบกับการไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีค่าพอๆกันคือพอร์ตโดยรวมบวกลบ นิดหน่อย
แต่ถ้าเปรียบเทียบหลังจากนั้น set ขึ้นมากว่าสองร้อยจุดคิดเป็น 20กว่า% แต่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่ขึ้นมาบวกแค่ 10% กว่าๆ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินที่ลงทุนนั้นเป็นเงินที่เย็นไม่พอ ต้องนำมาเปิดร้านใหม่ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจขายตอนนั้นแล้วนำเงินมาพักไว้กับบัญชีเงินฝาก ที่ฝากมาสองเดือนได้ดอกเบี้ย 3800
สรุป การลงทุนนี่ขอให้ใช้หลักการง่ายๆ
1 นำเงินที่เย็นจริงๆมาลงทุน
2 ลงทุนในบริษัทที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง
3 หากหุ้นลงแล้วคิดว่าดีก็แค่ซื้อเพิ่ม
มันก็แค่นั้น แต่ทำได้หรือป่าวนี่สิปัญหา
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า ขายเมื่อมูลค่าต่ำกว่าราคา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 106
ช่วงนั้นก็งอนๆตลาดหุ้นเหมือนกันครับ จะลงก็ลง ไม่เข้าใจ หาเหตุผลประกอบไม่เจอ
อยากขาย แต่มันก็ขาดทุนกำไรลงมาเยอะมาก (เคยเห็นราคาสูงสุดมัน พอเห็นราคาปัจจุบันเกิดอาการรับไม่ได้ นิสัยข้อนี้ไม่ดีมากๆเลยผม)
ด้วยความคิดว่าพื้นฐานมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ + งอนตลาด
เลยตัดสินห่างกันซักพัก ไม่เปิดดูราคา อย่างมากดูแค่ SET Index
มาตอนนี้โอเคแล้วครับ
อยากขาย แต่มันก็ขาดทุนกำไรลงมาเยอะมาก (เคยเห็นราคาสูงสุดมัน พอเห็นราคาปัจจุบันเกิดอาการรับไม่ได้ นิสัยข้อนี้ไม่ดีมากๆเลยผม)
ด้วยความคิดว่าพื้นฐานมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ + งอนตลาด
เลยตัดสินห่างกันซักพัก ไม่เปิดดูราคา อย่างมากดูแค่ SET Index
มาตอนนี้โอเคแล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 107
อย่ายอมแพ้นะครับ
มือใหม่เป็นกำลังใจให้ครับผม
มือใหม่เป็นกำลังใจให้ครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 108
นับถือครับ คุณ ziannoom นับถือในการ "กล้า" ยอมรับความผิดพลาดครับziannoom เขียน:เจ้าของกระทู้ขอมารายงานตัวครับ ขอบคุณที่ขุดกระทู้ขึ้นมา หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับคนอื่นๆบ้าง
เริ่มกันที่ผลการล้างพอร์ตตอนนั้นเทียบกับตอนนี้แล้วกัน
Synex ตัวนี้มีมากสุด ขายไป 4.98 ไปซื้อคืนแถว 4.2-4.4 แล้วก็ไปขายอีกตอน 4 บาท ตอนนี้ 5 บาท โง่บรรลัยเลย
SVI ขายไป 3.88 ตอนนี้ 3.36
SSI ขายไป 0.79 ตอนนี้ 0.8
TICON ขายไป 12.4 ตอนนี้ 11.2
เปรียบเทียบกับการไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีค่าพอๆกันคือพอร์ตโดยรวมบวกลบ นิดหน่อย
แต่ถ้าเปรียบเทียบหลังจากนั้น set ขึ้นมากว่าสองร้อยจุดคิดเป็น 20กว่า% แต่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่ขึ้นมาบวกแค่ 10% กว่าๆ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินที่ลงทุนนั้นเป็นเงินที่เย็นไม่พอ ต้องนำมาเปิดร้านใหม่ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจขายตอนนั้นแล้วนำเงินมาพักไว้กับบัญชีเงินฝาก ที่ฝากมาสองเดือนได้ดอกเบี้ย 3800
สรุป การลงทุนนี่ขอให้ใช้หลักการง่ายๆ
1 นำเงินที่เย็นจริงๆมาลงทุน
2 ลงทุนในบริษัทที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง
3 หากหุ้นลงแล้วคิดว่าดีก็แค่ซื้อเพิ่ม
มันก็แค่นั้น แต่ทำได้หรือป่าวนี่สิปัญหา
ในความเห็นผมถึงคุณ ziannoom จะบอกว่าหุ้นบวกกลับขึ้นมา 20% ในขณะที่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่บวกแค่ 10% ผมอยากให้มองแบบนี้ครับว่าอย่าเพิ่งไปตัดสินในระยะเวลาช่วงสั้น ๆ ครับ เท่าที่ผมสังเกตเวลาตลาดลงหนัก ถ้าตลาดฟื้นหรือรีบาวนด์หุ้น big cap มักจะกลับมาก่อนในช่วงแรกครับ "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ"
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 109
ขอชมว่าภรรยาสวย ลูกน่ารัก
สิ่งที่คุณมีอยู่ผมว่ามีค่ากว่ากําไรหุ้นนะครับ
ถ้าอยากเล่นหุ้นให้สบายใจ
ผมว่ากันเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ครอบครัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน
เงินที่เหลือค่อยมาลงทุน
จะเล่นหุ้นอย่างไรก็ได้
อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อนก็แล้วกัน
การเล่นหุ้นเป็นการวิ่งมาราธอน
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ตอนปี40ผมขาดทุนหุ้นจากเงิน3ล้านเหลืออยู่3แสน
คนรอบข้างผมสาบส่งตลาดหุ้นกันหมด
ผมเองก็หยุดไประยะหนึ่งเพิ่งกลับมาเล่นใหม่
แต่เริ่มเล่นแบบมีหลักการมากขึ้น
ตอนนี้พอร์ทผม8หลัก
เฉพาะปันผลก็อยู่ได้สบาย
ถ้ายอมแพ้ไปก็คงไม่มีวันนี้
ขอให้คุณประสพความสําเร็จเช่นกันครับ
สิ่งที่คุณมีอยู่ผมว่ามีค่ากว่ากําไรหุ้นนะครับ
ถ้าอยากเล่นหุ้นให้สบายใจ
ผมว่ากันเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ครอบครัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน
เงินที่เหลือค่อยมาลงทุน
จะเล่นหุ้นอย่างไรก็ได้
อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อนก็แล้วกัน
การเล่นหุ้นเป็นการวิ่งมาราธอน
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ตอนปี40ผมขาดทุนหุ้นจากเงิน3ล้านเหลืออยู่3แสน
คนรอบข้างผมสาบส่งตลาดหุ้นกันหมด
ผมเองก็หยุดไประยะหนึ่งเพิ่งกลับมาเล่นใหม่
แต่เริ่มเล่นแบบมีหลักการมากขึ้น
ตอนนี้พอร์ทผม8หลัก
เฉพาะปันผลก็อยู่ได้สบาย
ถ้ายอมแพ้ไปก็คงไม่มีวันนี้
ขอให้คุณประสพความสําเร็จเช่นกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 110
ยอมรับครับว่าเดี๋ยวนี้หาคนที่มีประสบการณ์สมัยปี 40 ได้น้อยลงเรื่อย ๆ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงนั้น แต่ตอนนั้นไม่ได้ลงทุนเต็มตัว แต่เชื่อว่าคนที่ผ่านช่วงนั้นมาและยังยืนหยัดอยู่ในตลาดจนถึงตอนนี้ ประสบการณ์ที่ได้มาในตอนนั้นน่าจะทำให้แกร่งขึ้นมาก เพราะหุ้นแย่อยู่ 6 ปี กว่าจะเป็นขาขึ้นในปี 46 บางครั้งหุ้นดี แต่ซื้อแล้วไม่ไปไหนdrsp เขียน:ขอชมว่าภรรยาสวย ลูกน่ารัก
สิ่งที่คุณมีอยู่ผมว่ามีค่ากว่ากําไรหุ้นนะครับ
ถ้าอยากเล่นหุ้นให้สบายใจ
ผมว่ากันเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ครอบครัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน
เงินที่เหลือค่อยมาลงทุน
จะเล่นหุ้นอย่างไรก็ได้
อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อนก็แล้วกัน
การเล่นหุ้นเป็นการวิ่งมาราธอน
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ตอนปี40ผมขาดทุนหุ้นจากเงิน3ล้านเหลืออยู่3แสน
คนรอบข้างผมสาบส่งตลาดหุ้นกันหมด
ผมเองก็หยุดไประยะหนึ่งเพิ่งกลับมาเล่นใหม่
แต่เริ่มเล่นแบบมีหลักการมากขึ้น
ตอนนี้พอร์ทผม8หลัก
เฉพาะปันผลก็อยู่ได้สบาย
ถ้ายอมแพ้ไปก็คงไม่มีวันนี้
ขอให้คุณประสพความสําเร็จเช่นกันครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
- อ่อนซ่อนศิลป์
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 112
ตอนนั้นจำได้ว่าก่อนที่นายตลาดจะออกอาละวาด ผมถามใครมีแต่บอกให้ล้างพอร์ตๆ แต่ไม่รู้ตอนนั้นคิดไง ซื้อเพิ่มซะ
แต่ยังไงก็ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่ขุดขึ้นมาให้เป็นแง่คิดการลงทุนที่ดีครับ
แต่ยังไงก็ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่ขุดขึ้นมาให้เป็นแง่คิดการลงทุนที่ดีครับ
เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 113
อ่านกระทู้หน้าแรก แล้วตกใจ จนมาเห็นว่าเป็นปี 2011 ก็มานั่งคิดว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น ผมนึกออกแค่เรื่องน้ำท่วม ส่วนเรื่อง ตลาดไม่รู้อะไรกับเขาเลย มันมีตกหนักด้วยหรือ เพราะตัวที่ผมถือก็ลงแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
ที่สำคัญตอน Oct 2011 นี่สุดๆละ ทั้งเรื่องที่ทำงาน มีน้องสาวสองคน แม่แก่อีกหนึ่งคน วุ่นวายทั้งเดือน ขนาดหนีไปนอนอยู่ชะอำแล้ว ใจก็ยังว้าวุ่น วันๆดูแต่ข่าว น้ำมาหรือยัง ลดหรือยัง จริงๆก็คิดเหมือนกันว่าวิกฤติน้ำท่วมนี้น่าจะเป็นโอกาสซื้อหุ้นบางตัวถูก แต่พอลองเปิด port ดูหุ้นที่ถืออยู่มันลงแต่ไม่มีตัวไหนถูกจนน่าซื้อสักตัว
แป๊บเดียวผ่านมาปีนึงละ สถานะการณ์กลับด้านกับปีที่แล้วเลย ลุ้นมาเปิดกระทู้นี้อีกที Oct 2013 ดีกว่า
ที่สำคัญตอน Oct 2011 นี่สุดๆละ ทั้งเรื่องที่ทำงาน มีน้องสาวสองคน แม่แก่อีกหนึ่งคน วุ่นวายทั้งเดือน ขนาดหนีไปนอนอยู่ชะอำแล้ว ใจก็ยังว้าวุ่น วันๆดูแต่ข่าว น้ำมาหรือยัง ลดหรือยัง จริงๆก็คิดเหมือนกันว่าวิกฤติน้ำท่วมนี้น่าจะเป็นโอกาสซื้อหุ้นบางตัวถูก แต่พอลองเปิด port ดูหุ้นที่ถืออยู่มันลงแต่ไม่มีตัวไหนถูกจนน่าซื้อสักตัว
แป๊บเดียวผ่านมาปีนึงละ สถานะการณ์กลับด้านกับปีที่แล้วเลย ลุ้นมาเปิดกระทู้นี้อีกที Oct 2013 ดีกว่า
Kritsada
- อ่อนซ่อนศิลป์
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 114
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดจะเป็นกังวลเรื่องEU ครับ ตลาดปรับตัวลงนิดหน่อย
เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 115
จำได้ว่าตอนที่คุณเซียนหนุ่มตั้งกระทู้ขึ้นมา ผมก็ขายล้างพอร์ตเหมือนกันครับ แต่ผมก็กลับเข้ามาซื้อใหม่ไม่ถึงสองอาทิตย์ มองย้อนหลังกลับไปดูเป็นบทเรียนที่ดีบทหนึ่ง จงมองที่ธุรกิจของเรามากกว่าที่จะมองเศรษฐกิจโลก แล้วกลับมามองว่ามีผลกระทบต่อบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ไหม และมากน้อยขนาดไหนkit556 เขียน:อ่านกระทู้หน้าแรก แล้วตกใจ จนมาเห็นว่าเป็นปี 2011 ก็มานั่งคิดว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น ผมนึกออกแค่เรื่องน้ำท่วม ส่วนเรื่อง ตลาดไม่รู้อะไรกับเขาเลย มันมีตกหนักด้วยหรือ เพราะตัวที่ผมถือก็ลงแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
ที่สำคัญตอน Oct 2011 นี่สุดๆละ ทั้งเรื่องที่ทำงาน มีน้องสาวสองคน แม่แก่อีกหนึ่งคน วุ่นวายทั้งเดือน ขนาดหนีไปนอนอยู่ชะอำแล้ว ใจก็ยังว้าวุ่น วันๆดูแต่ข่าว น้ำมาหรือยัง ลดหรือยัง จริงๆก็คิดเหมือนกันว่าวิกฤติน้ำท่วมนี้น่าจะเป็นโอกาสซื้อหุ้นบางตัวถูก แต่พอลองเปิด port ดูหุ้นที่ถืออยู่มันลงแต่ไม่มีตัวไหนถูกจนน่าซื้อสักตัว
แป๊บเดียวผ่านมาปีนึงละ สถานะการณ์กลับด้านกับปีที่แล้วเลย ลุ้นมาเปิดกระทู้นี้อีกที Oct 2013 ดีกว่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 117
ขอบคุณครับ
ผมหน้าแตกเลย คิดว่ามีแค่เรื่องน้ำท่วมซะอีก จริงๆมีเรื่อง EU กรีซ ด้วย
น้ำท่วมปีที่แล้ว port ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรเลยไม่เสียหาย แต่บ้าน ที่ทำงานผม รวมค่าใช้จ่ายๆ จิปาถะ เสียไปร่วมแสนครับ
ผมหน้าแตกเลย คิดว่ามีแค่เรื่องน้ำท่วมซะอีก จริงๆมีเรื่อง EU กรีซ ด้วย
น้ำท่วมปีที่แล้ว port ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรเลยไม่เสียหาย แต่บ้าน ที่ทำงานผม รวมค่าใช้จ่ายๆ จิปาถะ เสียไปร่วมแสนครับ
Kritsada
- อ่อนซ่อนศิลป์
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 118
ไอ้ผมดันไปถือตัวที่โดนน้ำท่วมหนักเลยน่ะสิครับ 55555
เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์ที่ 120
แพ้ตลาดฯ รึแพ้ใจตัวเองครับ
ถ้าทำการมาเป็นอย่างดีแล้ว ต้องหนักแน่นดุจภูผาครับ ^^
ถ้าทำการมาเป็นอย่างดีแล้ว ต้องหนักแน่นดุจภูผาครับ ^^
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์