แล้วสนใจเป้นอย่างยิ่ง ผมไม่เคยอ่านว่ามีอะไรบ้างเลย
นี่เป้นครั้งแรกครับ
sakkaphan เขียน:วันแรกแห่งปีมังกร ขอเสนอหลัก กาลามสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญา
1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณ google สำหรับข้อมูล
สวัสดีปีใหม่ครับ
ผมอ่านแล้ว ก็นัี่งคิดอยู๋นาน
พระองค์ท่านพูดไว้เป็นจริงทุกประการ
เป็นไปไมได้ว่า เราจะ long หรือ short ความเชื่อ/ ความไม่เชื่อ ของตัวเองได้อย่างถูกต้องตลอดเวลา
เวลาจะตัดสินใจว่าจะอยู๋ข้าง ความเชื่อ / ความไม่เชื่อ นั้น
การตัดสินใจเป้นเพียงการสะท้อนอัตตาตัวเองในเวลานั้นเท่านั้น
อัตตาของคนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
และสลับเปลี่ยนระหว่างการเข้าสู่ภาวะไร้ดุลยภาพ / เสถียรภาพ
ถ้าฝึกตัวเองให้อยู๋ในภาวะเสถียรภาพจนเป็นอาจิณของชีวิต
การตัดสินใจของเราคงมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
ถ้าท่านไม่เคยฝึกจับอารมณ์ตัวเองเลย
สิ่งที่ท่านแปลสิ่งต่างที่ท่านเห็นกับความจริงที่ปรากฎ
อาจผิดเพี้ยนไปจากที่ท่านคิด
self dictionary ของตัวเองนั้นแปลสิ่งต่างๆ อาจผิดหมดเลย
ทุกอย่างที่ท่านแปลสะท้อนอัตตาของตัวเองทั้งนั้น
อาจหาได้สะท้อนความจริงไม่
มันยากมากที่จะตัดสินใจเชือ / ไม่เชื่อโดยไม่มีอัตตาเข้ามาปน
การยอมรับว่าตัวเองผิดจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า
และเมื่อยอมรับว่าตัวเองผิดได้แล้ว
เชื่อหรือไม่เชื่อจึงไม่สำคัญู
สำคัญที่เวลาเชื่อแล้ว มันกลับตาลปัตรจากที่เชื่อ
แล้วจะส่งผลเป็นอย่างไร เราจะทำอย่างไร
เตรียมแผนสำหรับสิ่งที่ไม่คาดหวังไว้หรือไม่
ถ่าเป็นนักลงทุน เตรียมแผนcut loss ไว้หรือไม่
cut loss ที่วานี้ ทั้งตัวเงิน ทั้งอัตตาของตัวเอง
ถ้าผิดแล้ว จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างไร
หรือจะยืนตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยอยู๋ตรงนั้น
ขั้นต่อไปจึงหาสาเหตุที่ทำให้เราเชื่อคนคนนั้น สิ่งสิ่งนั้นอย่างปักใจว่าเพราะอะไร
การยอมรับว่าตัวผืดได้จึงทำให้รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง
รู้หรือไม่ว่าโดนอัตตาตัวเองหลอกอยู๋มาตั้งนานแล้ว
ส่วนที่ยากในขั้นนี้คือ จะต้องซื่อสัตย์ต่ออัตตาตัวเอง
อัตตาที่ว่านี้ก็เหมือนปัจจัยพืนฐานของหุ้น
แต่เป็นพื้นฐานของตัวเอง
และการประเมิณตัวเองก่อนว่าคิดอย่างไรในขณะนั้นถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะพอรู็ว่าตัวเองคิดอะไรอยู๋ มันก็เป้นเรื่องง่ายที่จะกระโดดไปอีกขั้น
นั่นคือการเดิมพันกับอัตตาตัวเองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบไม่คาดหวัง
ผมจะเดิมพันกับตัวเองว่า
การเชื่อ/ การไม่เชื่อ กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่
หรือว่าตัวเองได้ตัดสินใจเขื่อหรือไม่เชื่อไปแล้ว
จนจับมันไม่ทัน
ผมเคยเป็นสิงเดียวกับอัตตาของผม
มันอยู่ได้ด้วยตัวผม และผมอยู๋ได้ด้วยพวกมัน
ผมนอนหลับไปกับมัน
มันคือเจ้านายผม
ผมเคยหวาดกลัวว่าจะสูญเสียพวกมันไป
และการหลีกเหลี่ยงที่จะยอมรับพวกมันทำให้ผมเคยทุกข์ใจอย่างมาก
มันเป็นวิถีชีวิตทีน่าสังเวชจริงๆ
ผมมีคำแนะนำทีมีค่าอย่างยิ่ง
ผมเรียก อัตตา ตัวเองว่า ความยุ่งเหยิงที่ไร้ระเบียบ
ถ้าสามารถวิเคราะห์พวกมันได้มากเท่าใด
ท่านก็สามารถเข้าใจตัวเองได้ดีเท่านั้น
และความรวยมันจะมาหาท่านเอง
ถ้าท่านไม่สนใจในเรื่องค้นหาอัตตาตัวเอง
มันอาจจะพาความซวยมาหาท่านได้เช่นกัน