งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
little wing
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 187
ผู้ติดตาม: 0

งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โลกในมุมมองของ Value Investor 14 มกราคม 55
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

เมื่อผมอุทิศตนเป็น Value Investor เต็มตัว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดก็คือเรื่องของความคิด เฉพาะที่สำคัญที่สุดก็คือ การมองในภาพที่ใหญ่ขึ้นและใหญ่ที่สุดในทุกๆ เรื่อง ผมคิดว่าถ้าภาพใหญ่ถูกต้อง การวิเคราะห์หลังจากนั้นก็ถูกต้องแม้ว่าภาพในรายละเอียดอาจจะมีการผิดพลาดไปบ้าง ถัดจากเรื่องของความคิดแล้ว ในเรื่องของการกระทำก็เป็นเรื่องที่ตามมา นั่นก็คือ การเป็น VI สอนให้ผมรู้จักเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องแทนที่จะทุ่มเททำสิ่งที่ผิดหรือไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร ด้วยวิธีนี้เราจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก และนี่ก็นำมาสู่ประเด็นของการทำงานหรืออาชีพของคนเราที่ผมสังเกตเห็นว่า คนบางคนนั้นฉลาดหลักแหลมและทำงานหนักมากแต่เขาก็ไม่รวยซักที แต่บางคนไม่ได้มีไอคิวโดดเด่นอะไร ทำงานสบายๆ แต่กลับร่ำรวยกว่ามาก อะไรทำให้มันเป็นอย่างนั้น? คำตอบของผมก็คือ เพราะคนแรก ทำงานที่ “ไม่ทำเงิน” ส่วนคนที่สองนั้น ทำงานที่ “ทำเงิน”

งานที่ “ไม่ทำเงิน” งานแรกที่ผมจะพูดถึงก็คือ งานการเป็นเอเจนซี่โฆษณาซึ่งต้องติดต่อลูกค้าเสนอแนวความคิดและผลิตหนังโฆษณาให้ลูกค้า งานต่างๆ เหล่านี้เป็นงานที่หนักและใช้สมองอีกทั้งมีความกดดันสูงมาก คนที่ทำงานนี้มักจะต้องทำงานจนดึกดื่นและเครียดสุดๆ แต่เงินเดือนและรายได้กลับไม่สูงเลย เหตุผลก็เพราะรายรับที่ได้จากลูกค้าอาจจะอยู่ในระดับเพียง 10 ล้านบาทแต่ต้องใช้พนักงานและทรัพยากรจำนวนมากซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างแต่ละคนมากได้ ในทางตรงกันข้าม คนที่ทำงานเกี่ยวกับการบริหารมีเดียหรือสื่อโฆษณาให้กับลูกค้าซึ่งก็เรียกว่าอยู่ในธุรกิจเดียวกันหรือบริษัทเดียวกันนั้น มักทำงานที่สบายกว่ามาก หน้าที่ของเขาก็คือการซื้อเวลาโฆษณาทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และสื่ออื่นๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งเขามักจะมีข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้วในคอมพิวเตอร์ และสิ่งที่เขาทำก็อาจจะซ้ำๆ กับงานที่ทำให้กับบริษัทอื่นๆ ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อะไรมากนักไม่ต้องพูดถึงจำนวนคนที่จะต้องใช้ในการทำงาน แต่งานมีเดียนั้นกลับมีเม็ดเงินที่สูงมาก การทำแคมเปญแต่ละครั้งอาจจะต้องใช้เงินเป็น 100 หรือ 200 ล้านบาท เนื่องจากแค่ค่าโฆษณาทางทีวีก็คิดนาทีละห้าหกแสนบาทเข้าไปแล้ว และนี่ก็ทำให้งานมีเดียนั้นเป็นงานที่ทำเงินให้กับบริษัทและส่งผลต่อมาถึงคนทำด้วย

งานทางด้านการผลิต เช่น การเป็นวิศวกรในโรงงานนั้น แม้ว่าจะเป็นงานที่หาง่ายและได้เงินค่อนข้างดีในช่วงแรกๆ แต่ในระยะยาวแล้วคนที่ทำงานในด้านการเงินน่าจะทำเงินมากกว่า ทั้งๆที่การเป็นวิศวกรนั้นมักจะต้องใช้ความรู้และความสามารถในการคิดคำนวณสูงกว่ารวมถึงต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่แย่กว่า งานก็มักจะหนักกว่า เหตุผลก็คือ งานด้านการเงินนั้นใช้คนที่น้อยกว่าแต่ความสำคัญในแง่ของบริษัทมักจะสูงกว่างานวิศวกรรม ดังนั้น บริษัทสามารถจะจ่ายเงินให้แก่ผู้บริหารทางฝ่ายการเงินสูงกว่าทางด้านวิศวกรรมได้

ถ้าพูดถึงงานในระดับล่างลงมาเช่น คนงานที่เป็นกรรมกรก่อสร้างหรือคนงานในโรงงานนั้นจะพบว่าพวกเขามีรายได้ที่น้อยกว่าคนที่ค้าขายหาบเร่หรือแผงลอยมากทั้งๆที่ทำงานหนักกว่ามาก อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อร่างกายสูงกว่าหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่กว่า เหตุผลคงเป็นเรื่องของ “จิตใจ” หรืออารมณ์ความรู้สึกบางอย่างเช่น การรู้สึก “ตากหน้า” ถ้าต้องไปยืนขายของ รวมถึงการเป็นคนที่ไม่ “กล้าเสี่ยง” หรือ “ไม่มีทุน” หรือ ไม่มีความสามารถในการ “จัดการ” ที่จะต้องวิ่งไปหาซื้อสินค้ามาผลิตและ/หรือขายต่างๆเหล่านี้ ทำให้คนไม่ทำงานค้าขายทั้งที่รายได้ดีและสบายกว่ามาก ในทำนองเดียวกัน อาชีพในด้านของการบริการ โดยเฉพาะที่มีประเด็นของการที่ต้อง “ตากหน้า” ก็ให้ผลตอบแทนหรือรายได้สูงกว่างานกรรมกรหรืองานการผลิต ตัวอย่างเช่น การเป็นแม่บ้านหรือการเป็นพนักงานเสิร์พอาหารหรือคนดูแลรับรถในสถานบริการหรูที่ได้รับเงินทิปจากลูกค้าค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับ

งานที่มั่นคงมาก มีเวลาการทำงานที่แน่นอน ไม่ต้องตากหน้าหรือเผชิญกับแรงกดดันจากหัวหน้างาน และงานที่ได้ผลตอบแทนที่แน่นอนไม่ใคร่ขึ้นอยู่กับผลงาน ตัวอย่างเช่นงานราชการทั่วๆไป และงานการเป็นอาจารย์ในสถานศึกษา มักจะไม่ใช่งานทำเงิน ตรงกันข้าม งานที่มีความไม่แน่นอนของรายได้สูงและอาจจะต้อง “ตากหน้า” เนื่องจากต้องไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นในลักษณะที่ตนเองดูด้อยกว่า และงานที่ไม่มีเวลาทำงานที่แน่นอน ตัวอย่างเช่น งานการเป็นเซลแมน งานการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ตัวแทนขายประกัน คนขายสินค้าแบบขายตรงหรือแบบ “ลูกโซ่” งานเหล่านี้มักเป็นงานที่ทำเงิน คนที่ทำได้ดีอาจจะรวยได้ ในขณะที่คนกลุ่มแรกนั้น โอกาสที่จะรวยมีน้อยมาก

พูดถึงดาราหนัง นักร้องและคนที่แสดงเพื่อการบันเทิง งานเหล่านี้เป็นงานที่หนัก มีรายได้ไม่แน่นอน ทำงานไม่เป็นเวลา แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่งานที่ทำเงินจริงๆ โดยเฉพาะสำหรับตัวประกอบ แม้แต่ดาราที่ “มีระดับ” การแสดงก็ไม่ได้ทำเงินได้มากมายอย่างที่คิด สิ่งที่ทำเงินจริงๆ ในวงการนี้น่าจะอยู่ที่การได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ในการโฆษณาสินค้าหรือการโชว์ตัวตามอีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่เบาและใช้เวลาทำน้อยแต่ได้เงินมากกว่าการแสดงมาก อย่างไรก็ตาม นี่ก็อาจจะคล้ายๆ กับกรณีของเอเจนซี่กับการบริหารมีเดีย นั่นคือ คุณไม่สามารถจะได้งานพรีเซ็นเตอร์ถ้าคุณไม่ได้แสดงหนังที่ทำให้คนรู้จักและชื่นชอบ

การ “ทำเอง” กับการ “ซื้อ” นี่ก็มีประเด็นของเรื่องงานทำเงินกับงานไม่ทำเงิน มีเรื่องพูดกันในหมู่นักบริหารที่ต้องการลดต้นทุนซึ่งก็คือเรื่องเดียวกับการ “ทำเงิน” ว่า ในการลดต้นทุนการผลิตนั้น ทางหนึ่งก็คือ ให้วิศวกรพยายามหาทางลดต้นทุนโดยการพยายามตัดค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆ ซึ่งมีหนทางมากมายตั้งแต่การศึกษากระบวนการผลิตอย่างลึกซึ้ง ว่าในแต่ละกระบวนการเราจะสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรที่จะช่วยลดต้นทุนได้ แต่ในที่สุดแล้ว ผลก็มักจะออกมาว่าเราสามารถลดได้เพียง 3-4% เป็นอย่างมาก แต่อีกหนทางหนึ่งก็คือ เราอาจจะหาทางใหม่ เช่น แทนที่จะผลิตเอง เราสามารถไปซื้อจากคนอื่น หรือไป “ต่อรอง” กับคนที่ขายของหรือรับทำงานให้เราให้ลดราคาลงมา งานนี้เราใช้คนทำเพียงคนสองคนก็ได้แล้ว และสิ่งที่เรา “ประหยัด” ได้นั้น อาจจะเป็น 10-15% ทีเดียว ดังนั้น จะไปทำงานหลังขดหลังแข็งไปทำไม?

การลงทุนเป็นความ “สุดยอดของงานทำเงิน” เพราะมันใช้พลังงานน้อยมาก ว่าที่จริงคุณแทบไม่ต้องแม้แต่จะจับปากกา สิ่งที่คุณทำนั้นทุกอย่างอาจจะอยู่แต่ในสมอง คนอาจจะไม่รู้ว่าคุณกำลังทำงานอยู่เลย แต่ถ้าคุณทำงานนี้ได้ดีมาก ผลตอบแทนจะมหาศาล แต่แน่นอน การลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนได้คุณจะต้องมีเงินลงทุน ดังนั้น รายได้นั้นขึ้นอยู่กับเงินต้นด้วย ถ้าเงินต้นยังน้อย การลงทุนเพียงอย่างเดียวโดยไม่ทำงานอื่นด้วยก็ยากที่จะทำเงิน อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเป็นคนมีเงินอยู่แล้ว หรือเป็นคนที่จะมีเงินจากทางอื่นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงจากการลงทุนซึ่งเป็นกิจกรรมหรืองานที่ “ทำเงิน” มากๆ นั่นก็คือ ทำงานน้อยแต่เวลาได้เงิน ได้มากกว่างานอื่นๆ .. มาก
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

กระตุ้นความคิดและมุมมองของผมอีกแล้ว

...สิ่งที่คุณทำนั้นทุกอย่างอาจจะอยู่แต่ในสมอง คนอาจจะไม่รู้ว่าคุณกำลังทำงานอยู่เลย...

ขอบคุณมาก ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับอาจารย์
หวังว่าปีครึ่งจะได้ไปทำงานที่ "ทำเงิน" เต็มตัวครับ :D
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
mibtrex
Verified User
โพสต์: 34
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขออนุญาติขัดซักเล็กน้อยครับ ถ้าพูดถึงเรื่อง "ผลตอบแทน" ผมเห็นด้วยเลยทีเดียว
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสุขในการทำงาน ความท้าทายของชีวิต การได้รับการนับถือจากบุคคลรอบกาย บทความนี้อาจจะไม่สะท้อนมุมมองทางด้านนี้ครับ

ผมก็พยายาม balance หลายๆอย่างเข้ามาในชีวิตซึ่งไม่ได้เน้นที่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว เกรงว่าคนที่ทำผลตอบแทนได้เยอะๆ จะดูถูกคนที่ทำผลตอบแทนได้น้อยๆ โดยที่ไม่เข้าใจความต้องการพื้นฐานของแต่ละคนครับ แต่เชื่อว่าทุกคนมีวิจารณญาณที่จะตีความจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ ดร อยากจะนำเสนอได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
Verified User
โพสต์: 4886
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมสรุป ประเด็นให้ละกัน

ทําน้อยได้มาก พยายามหางานที่ทําแล้ว Margin สูงๆ อย่าเสียเวลากับงานที่ทํามากได้น้อย

บทความนี้ ดี แต่ ความเห็นผมบางคน เดินมาไกลแล้วไม่สามารถกลับได้ เพราะ ปัจจัยต่างๆเช่น อายุ ครอบครัว ความรู้ ต้องการรายได้สมํ่าเสมอ ภาระ ดังนั้น จึงเหมาะสําหรับ นักเรียน นักศึกษา หรือ เด็กจบใหม่ คนที่่กําลังเริ่มต้นชีวิตทํางาน มากกว่า เพราะได้คิดก่อนสมัครงาน ว่า คุ้มในระยาว หรือไม่ หากเงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก ก็ลุยเลย หากใ่ช่ก็ต้องคิดดีๆ
patongpa
Verified User
โพสต์: 1904
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมขอค้านอาจารย์ด้วยคนนะครับ เพราะอาจารย์กำลังมองด้านเดียวว่าเอาเงินมาลงทุนกับหุ้นคุณค่าเพียงเท่านี้ก็สบายแล้ว. แต่อาจารย์คงลืมไปว่า มีคนที่สำเร็จร่ำรวยแบบอาจารย์ไม่มากมายนักหรอกครับ
คนที่เค้าทำงานหนักกันอยู่ก็เพราะยังต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัวไปเดือนชนเดือน หรือบางท่านอาจจะยังทำงานหนักอยู่ก็เพราะเค้ามีใจรักชอบงานที่เค้าทำก็ได้ ถ้าเราตัดสินทางเดินชีวิตกันด้วยรายได้เพียงอย่างเดียว ผมว่าต่อไปเราจะไม่มีคนเป็นหมอมารักษาเรา คนเป็นตำรวจมาคุ้มครองเรา คนเก็บขยะมาเคลียร์ขยะหน้าบ้านให้เรา. อาชีพอื่นๆพากันลาออกมาเป็นวีไอกันหมด เราหาเงินมาได้มากแค่ไหนก็คงอยู่อย่างมีความสุขได้ยากนะครับอาจารย์
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ตอนนี้ืที่ผมเข้าเรียนคณะวิศวะในชั้นปี 1 อาจารย์บอกว่าพวกคุณพยายามเรียนและสอบเข้ามาแสนยาก กว่าจะเรียนจบก็ลำบาก แต่เมื่อจบแล้วเข้าทำงาน ตำแหน่งหน้าที่การงานของวิศวกรส่วนใหญ่ก็เป็นแค่หัวหน้าโรงงาน และต้องไปเป็นลูกน้องของคนที่เรียนมาทางด้านบริหาร ซึ่งสอบเข้าง่ายกว่า จบก็ง่ายกว่า
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
bennn
Verified User
โพสต์: 412
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ดร.คงไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทำสิ่งที่ตนเองรักหรือจำเป็นต้องทำนะครับ
แต่น่าจะมองในมุมภาพรวมแบบนักลงทุน ว่าแต่ละงานมันได้ผลตอบแทนต่างกัน
และให้เน้นทำในสิ่งสำคัญเพื่อให้ถึงเป้าหมายครับ (ในที่นี้คือเงิน/รายได้)
เช่นเดียวกับการมองธุรกิจครับ บางธุรกิจก็ไม่ทำเงิน
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมว่างานหนักงานเบา มันอยู่ที่ว่าคนที่ทำงานรักงานนั้นหรือเปล่า

ถ้าเรารักงานที่เราทำ ถึงคนอื่นว่าหนักว่าเหนื่อย แต่สำหรับเรา เรามีความสุขในทุกๆขณะที่เราทำ

เราตื่นมา เปิดร้าน เห็นลูกค้าเดินเข้ามาซื้อของ ขายกันเช้ายันเย็น ดูเหมือนน่าจะเหนื่อย มาร์จิ้นก็ไม่ได้มากอะไร

แต่มีความสุขทุกครั้งที่เราได้หยิบยื่นของดี มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าเรามีชีวิตที่สบายขึ้น

งานลงทุน สำหรับบางคน อาจได้ผลดีมากกว่าการทำงาน หรือ ทำการค้ามากมาย แต่ผมว่า

เรื่องการปฏิสัมพันธ์ กับ เพื่อนร่วมโลก มันมีน้อย อาจต้องเอาเวลาไปทำสาธารณะกุศล เป็นอาสาสมัครบ้าง

เพื่อชีวิตจะได้ไม่แห้งแล้งเกินไป
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
pullmeunder
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมคิดแบบเดียวกับ ดร.ครับ

งานที่เรารักมากแค่ไหนแต่ถ้าไม่ทำเงินให้ มันก็ลำบากครับ ยกเว้นคุณยินดีทำงานแบบใจรักจริงๆโดยไม่ต้องการเงิน

นั้นหมายความว่าคุณมีเงินอยู่แล้ว

อาจารย์ที่มหาลัยเคยบอกผมว่าการที่จะมีชีวิตในการทำงานที่ดีต้องประกอบด้วยกัน 3 อย่าง
1.งานที่รัก
2.รายได้จากทำงานที่เหมาะสม
3.เพื่อนร่วมงาน
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 11

โพสต์

One person question to Warren Buffett was, "What career should they chose NOW with the economy the way it is." His answer was...."Do what you love"

เชิญดู VDO Link ได้ที่นี่ครับ

http://www.5min.com/Video/Warren-Buffet ... reer-11320

Steve Jobs said: “The only way to do great work is to love what you do. If you haven’t found it yet, keep looking. Don’t settle. As with all matters of the heart, you’ll know when you find it.”
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4562
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 12

โพสต์

แหะๆ ผมเข้าใจว่า นี่คือ บทความในลักษณะ
How to "เลือกงานอย่างไรให้รวย" มากกว่านะครับ

และ ผมว่า บทความก็ไม่ได้มีลักษณะของการดูถูกดูแคลน คนทำงานที่ค่าแรงถูกแต่อย่างไร
เพียงแต่ วันก่อน ผมนั่งอยู่ในกลุ่มสนทนาด้วยประเด็นนี้ ก็ได้นั่งคุยกับสถาปนิกที่ทำงานด้าน agency ซึ่งประเด็นหลักก็คุยกันถึง เลือกงานอย่างไรให้เหมาะสม

แต่พอเมื่อวงสนทนา มุ่งประเด็นไปถึงเรื่องรายได้ เมื่อเทียบกับ take action และ ความมั่นคงแล้ว การวิเคราะห์ในแง่ของ ภาพใหญ่ เลยต้องคุยกันในแง่นี้ครับ

ผมคิดว่า บทความนี้ สำคัญมากๆ สำหรับ คนที่เพิ่งเรียนจบ
หรือไม่ก็นักศึกษา ระดับ มหาวิทยาลัย ที่กำลังมุ่งหางานที่ตนเองรัก
โดยส่วนตัว ในสายอาชีพผม มีคนใช้ชีวิตที่แตกต่างกันมากมาย
หลายคน เลือกที่จะเป็นหมอผิวหนัง งานสบาย เงินหนัก
แต่หลายรายก็ไม่รอดได้ ในภาวะการแข่งขันที่เชี่ยวกราก
บางคน เลือกเป็นหมอชันสูตร เพราะไม่อยาก คุยกับคนไข้
หรือบางคน อยากเป็นหมอชนบท อยากช่วยเหลือคนอื่น

( พูดมาถึงตรงนี้ เดี๋ยว ก็จะมีประเด็นเรื่อง ทำไมเป็นหมอไม่ยอมอุทิศตนให้กับคนไข้
กันยืดยาวครับ ขอเลี่ยงประเด็นเหล่านี้ไปนะครับ)

ผมเอง ช่วงที่ผ่านมา ก็มีการเปลี่ยนงานพอสมควรครับ
ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ ทำงานที่ช่วยคนด้วย และมีรายได้เพียงพอต่อการลงทุนด้วย
เลยรู้สึกว่า การเลือกงาน หรือการ ตั้งเข็มชีวิตที่ถูกทางนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากๆ
ซึ่ง เรื่องแบบนี้ ขอยืนยัน นอนยันเลยว่า ไม่มีใครหน้าไหน มายืนกางแผนที่ชีวิต
บอกคุณชัดๆแบบนี้หรอกครับ

(สำหรับ น้องๆ ที่ทำงานอาชีพเดียวกับผม แล้ว อยากปรึกษาเส้นทาง ก็ยินดีนะครับ
ช่วงนี้ ผมนั่งคุยกับเพื่อนๆร่วมอาชีพมากมาย หลายคน เดินทางมุ่งมั่นบุกป่าฝ่าดงจน
ไปถึงดวงดาว บางคน เดินทางแบบลุ่มๆดอนๆ บางคน เดินทางตามสาย EGO เพียงอย่างเดียว จนสุดท้าย เจอวิบากกรรมเพราะ EGO ตัวเอง และก็ต้องใช้กลอุบายตอนเกษียณ
เพียงเพื่อให้มีรายได้ที่ไม่ถูกต้อง หลังจากเวลาเกษียณ)

ถึงแม้สุดท้าย บทความนี้ อาจจะไม่ได้บอกว่า ควร ใช้ชีวิตที่พอเพียง
เพราะ หากอ่านวัตถุประสงค์ของบทความ ก็คือ "การเลือกชีวิต โดยการมอง ภาพใหญ่ให้ออก"
สุดท้ายครับ ผมคิดว่า นักลงทุนที่ดี ควรจะรู้ว่า บทความนี้ มีข้อดีในเรื่องใด
และวิเคราะห์นำมาปรับใช้สิ่งที่ดีกับตัวเองน่าจะดีกว่าครับ

และสุดท้ายครับ ลูกสาวดร.ก็ทำงานเป็น อาจารย์ในมหาวิทยาลัยๆหนึ่ง นี่และครับ
และปัจจุบัน ท่านก็ยังวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะธรรมดาอยู่อย่างนั้นมาตลอด
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
alberto
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ขอบคุณ ท่านดร.สำหรับข้อคิดดีๆครับขอบคุณคุณ little wing กับการโพสต์ที่มีประโยชน์มากครับ
ผมคิดว่า ท่านดร.ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกทำงานที่ไม่ทำเงินนะครับ (เพราะถ้าทำแล้วยังมีความสุข หรือยังต้องทำเพราะความจำเป็น
เช่นเป็นกิจการของครอบครัว ยังมีลูกน้องที่พึ่งพาเรา เป็นต้น ก็คงต้องทำต่อไปตราบเท่าที่จะทำไหว) แต่ให้เราพิจารณาการทำงานที่
ทำเงินเพิ่มเข้ามาในชีวิตด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อเราแก่ตัวลง เราจะได้ยิ้มและภูมิใจกับงานที่ไม่ทำเงินมากนักที่ผ่านมาในชีวิตและมีความสุข
และภูมิใจที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้สบายได้ด้วยงานที่ทำเงิน(เป็นความรุสึกมั่นคงในชีวิต) ผมคิดว่าทั้ง 2 อย่างไปด้วยกันได้ครับไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่การจะทำนั้นไม่ง่าย และสิ่งที่จะทำให้มันง่ายขึ้นก็คือ "การลงทุน" เพราะมันเป็นสิ่งที่จะ
เบียดเอาเวลาของการทำงานที่ไม่ใคร่จะทำเงินแต่เราชอบหรือมีภาระอยู่น้อยกว่าการทำงานที่ทำเงินอย่างอื่น ผมเข้าใจว่าท่าน ดร.ต้อง
การสื่อแบบนี้ ในชีวิตการทำงานของผม มีผู้ใหญ่ที่ผมเคารพสอนว่า "ให้มุ่งเน้นทำงานที่เป็นธุรกิจมากกว่างานที่เป็นกิจธุระ แล้วเงินจะตามมา" ผมได้ลองดูแล้ว ผมว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
สุดท้าย ขอบคุณทุกความเห็นของเพื่อน นลท.ที่ผมได้อ่านนะครับ ผมชอบครับที่ได้ลับคมความคิดกัน :)
sipoonya
Verified User
โพสต์: 469
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เห็นด้วยมากๆ กับการทำสิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับชีวิตครับ ไม่เช่นนั้นก็เสียเวลาชีวิตไป
ถ้าพูดกลางๆ จะเป็น ถ้าใครเห็นว่าสิ่งใด สำคัญ มีคุณค่า สำหรับตัวเองก็ทำสิ่งนั้นครับ
แต่ถ้าพูดให้ถูกมากขึ้น จะเป็น ไม่ใช่แค่ความเห็นของเราเห็นว่าสำคัญและมีคุณค่าครับ
เหมือนที่ต้นๆบทความ พูดเรื่อง มองภาพใหญ่ให้ถูก เป็นหลักการที่สำคัญที่สุด
หวังว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จะทำสิ่งที่สำคัญกับตัวเอง ภายใต้ภาพใหญ่ที่ถูกต้อง
เหมือนที่อาจารย์บอกนะครับ ผมก็จะพยายามมองชีวิตให้ลึกซึ้งขึ้นครับ :mrgreen:
Sixth Sense Investor
navapon
Verified User
โพสต์: 760
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 15

โพสต์

อาจารย์เคยเขียนในบทความอันหนึ่งไว้นานมากแล้วครับว่า จุดหลักในชีวิตที่จะเป็นตัวตัดสินอนาคตของเราว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปมีอยู่ 3 อย่าง
1.การศึกษา
2.อาชีพ
3.คู่ครอง
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tibular
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 531
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ต้องดูหัวเรื่องนะคับ งานที่ทำเงิน กับงานที่ไม่ทำเงิน
อันนี้เป็นสมมุติฐานของท่านคับ

เรื่องอื่นที่ทำให้คนเราทำงานอาจไม่ใช้เรื่องทำเงินหรือไม่ทำเงินอย่างเดียว
อาจมีเรื่องความพอใจ ความชอบ หรือเรื่องอื่นๆ ที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ด้วย

แต่บทความนี้คงพูดถึงเรื่องการวัดออกมาเป็นปริมาณน่ะคับ
ภายใต้สมมุติฐาน ที่ ดร. เห็นว่าสอดคล้องกับความเป็นจริงที่เห็น
ในเรื่อง งาน(ไม่)ทำเงิน ซึ่งก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวท่านน่ะคับ

อ่านไปก็ต้องกลับมาคิด ให้ได้มุมมองต่างๆคับ

นักลงทุนที่ดีต้องมองในมุมต่างๆได้อย่างเป็นกลางคับ
iwei
Verified User
โพสต์: 12
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ถูกใจมาชื่อจริงๆ ดร. คิดได้ไง ความคิดนี้สุดยอด ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อเมตตาเตือนสติคนอื่นๆ ขอบคุณๆๆๆๆๆๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
marcus147
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 615
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ได้ข้อคิดดีครับ
งาน(ไม่)ทำเงิน

บางทีก็ดูน่าเศร้านะครับ
ตั้งใจทำงานหนัก
แต่ได้เงินน้อย :'O :'O
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
BeSmile
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1178
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 19

โพสต์

บทความของอาจารย์ การอ่านและตีความของแต่ละคนก็สามารถไปไดหลายแนวทาง

ตามความรู้ประสบการณ์มุมมองที่แต่ละคนมี

เหมือนการวิเคราะห์หุ้นล่ะครับ ตีความกันคนละประเด็น ก็ไปคนละทางกันได้

ยังไงก็ตาม ขอให้ผมตีความได้ถูก ด้วยเทอด สาธุ :D
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
sakkaphan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1123
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอโทษนะครับ ขอนอกเรื่องหน่อย ด้วยความที่ผมเป็นคนเพ้อเจ้อ บางครั้งชอบคิดอะไรมองอะไรแปลกๆ เพื่อนๆฟังผมพูดบางครั้งก็ยังหัวเราะเยาะผม....
เห็นหลายคนพูดถึง"ภาพใหญ่ของชีวิต" หลายคนคงนึกถึง การงาน ครอบครัว เพื่อนฝูง....

ตอนอยู่ ป 5 ---> อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ เพราะชอบคอม
ตอน ม.ต้น ---> ผมมองตัวเองแค่เปิดร้านคอมเล็กๆ ตอนเย็นๆไปเล่นบอลกับเพื่อน อยู่อย่างมีความสุข
ตอน ป.ตรี ---> อาจจะโดนกระแสสังคมพัดไป กลายเป็นว่าภาพใหญ่ของผมคือ ความสำเร็จ ที่หมายถึง เงินทอง
โตขึ้นมาอีกนิด ---> แค่รวยไม่พอ ต้องได้รับการยอมรับ มีสื่อเสียงได้รับสรรเสริญ
โตมาอีกนิด ---> เริ่มกลับสู่สามัญ ขอให้มีอย่างพอเพียง ทำงานที่รัก มีคนรักที่ดี มีเพื่อนที่รัก ก็พอ

ถัดมาอีกนิด ---> ผมมีคนรักที่ดี มีเพื่อนที่รัก ทำงานที่รัก(ลงทุน).....แล้วไงต่อ??? มีความสุขอย่างที่คิดไว้มั้ย???....................หนีพ้นจากทุกข์ได้เหรอ?????.........

"ภาพใหญ่ของชีวิต"เหรอ....... "ชีวิต"คืออะไร ผมยังไม่รู้เลย
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 21

โพสต์

หลายตอนเขียนจากประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง
ใครที่ยังไม่เคยได้ยินหรืออ่านประวัติการต่อสู้ จากงานแบบวิศวกรเด็กๆ คลุกฝุ่นของอ.นิเวศน์มา อาจคิดว่าอ.รวยประสบความสำเร็จแล้ว ถึงพูดได้

โดยเฉพาะวิศวกรโรงงาน จำได้ว่า ที่อ.ไพบูลย์สัมภาษณ์ บอกว่าเคยทำงานโรงงานหนักถึงขั้นเกือบมือขาด ประวัติคือ วิศวกรโรงงานน้ำตาลไทยรุ่งเรือง เคยเป็นมาก่อนนานมาก ก่อนจะไปต่อนอกโดยการชวนของอ.ไพบูลย์ ตอนที่ยังไม่ได้สัมผัสเรื่องการลงทุนด้วยซ้ำ
เพราะจบวิศวฯ เครื่องกล งานจึงเป็นลง plant มากกว่านั่งห้องแอร์
คงนึกถึงความหลังชีวิตของตัวเองช่วงนั้นต่างหาก

เรื่อง agency โฆษณา น่าจะมาจากความรู้จากการวิเคราะห์ CHUO ที่อ.นิเวศน์เคยถือ

คำว่า "ผู้บริหารทางฝ่ายการเงิน" ก็จากประสบการณ์ของตัวเองอีก (ผช.ผู้จัดการใหญ่ ธ.นครหลวงไทย, ผู้จัดการ นวธนกิจ, IFCT )


"งานราชการทั่ว ๆ ไป และงานการเป็นอาจารย์ในสถานศึกษา มักจะไม่ใช่งานทำเงิน"
ก็เคยเป็นอาจารย์รับเชิญที่นิด้า และผอ. MBA ที่เกริก
ได้ผศ. มานำหน้าชื่อด้วย



แต่ทุกวันนี้ ก็เห็นอ.ทำงานที่ไม่ทำเงินอยู่บ่อยๆ ก็คือการบรรยายทั้งหลาย ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะได้ค่าตัวมากกว่าปันผลจากหุ้น
เทียบกับอ.เสน่ห์ อ.ถาวร ที่ใครๆ ก็รู้ว่าต้องมีค่าตัวสูงเพราะตีตรามาเป็น 20 กว่าปีแล้ว (ตั้งแต่อ.นิเวศน์ยังคลุกฝุ่นในโรงงานอีก) ว่าเป็นนักพูดนักบรรยาย ให้เป็นครั้งเป็นหลักสูตร
แต่นักพูดแบบอ.นิเวศน์บางทีให้แต่ของชำร่วย... แล้วยังทำไปทำไม?
...ผมว่าใครๆ ก็คงตอบได้
Factor_9
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ถ้ามองแบบคนที่ลงทุนอยู่แล้วอาจมีข้อโต้แย้งบ้าง

แต่ถ้ามองแบบคนทำงานนักที่ยังไม่รู้ว่ามีการลงทุนทำเงินแบบนี้ด้วย

คงเป็นประโยชน์มหาศาลเลยนะครับ :D :D

ขอบคุณอาจารย์และเจ้าของกระทู้มากครับ
stay calm stay invest
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 23

โพสต์

Rocker เขียน:ผมสรุป ประเด็นให้ละกัน

ทําน้อยได้มาก พยายามหางานที่ทําแล้ว Margin สูงๆ อย่าเสียเวลากับงานที่ทํามากได้น้อย

บทความนี้ ดี แต่ ความเห็นผมบางคน เดินมาไกลแล้วไม่สามารถกลับได้ เพราะ ปัจจัยต่างๆเช่น อายุ ครอบครัว ความรู้ ต้องการรายได้สมํ่าเสมอ ภาระ ดังนั้น จึงเหมาะสําหรับ นักเรียน นักศึกษา หรือ เด็กจบใหม่ คนที่่กําลังเริ่มต้นชีวิตทํางาน มากกว่า เพราะได้คิดก่อนสมัครงาน ว่า คุ้มในระยาว หรือไม่ หากเงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก ก็ลุยเลย หากใ่ช่ก็ต้องคิดดีๆ

ผมขอเสริมที่พี่ร็อค พูดนะครับ เห็นด้วยกับพี่ร็อคเรื่อง 80/20

อันนี้เป็น 1 ใน 10 ข้อของผมในบัญญติ 10ประการ(ความจริงที่คนรู้แต่ไม่เคยเห็น)

ข้อ 4 ของหลักสิบกำไรหลักหน่วย ของหลักร้อยกำไรหลักสิบ ของหลักพันกำไรหลักร้อย

ของหลักล้านกำไรหลักแสน

ถ้าคุณ คิดจะลงทุน เอาง่ายๆ ขายหมึกปิ้งไม้ละ 10 บาท คุณกำไรได้แค่หลักหน่วย

คุณขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักพัน กำไรก้ได้แค่หลักร้อย

เรามาดูกัน คน2คน คนนึงขายหมูปิ้ง วันนึง 100 ไม้กำไร 500/วัน

คนสอง ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า วันนึงหนึ่งชิ้นกำไร 500 บาท

คนสองคนรายได้เท่ากัน แต่คนแรกปิ้งหมูจนหน้าดำ กับอีกคนขายทีวีได้เครื่องเดียว

ผลตอบแทนกับเท่ากัน


ในชีวิตจริงเลือกได้นิครับ จะลำบากแบกๆๆ หรือจะ สบายแต่ได้เท่ากัน ถ้าใครบอกคุณ

วันๆๆไม่ทำอะไร บอกเค้า ผมใช้สมองทำงานและเงินครับ ผมไม่ได้ใช้แรงงานทำเงิน

นี่แหล่ะ ที่โบราณว่าไว้ ทำงานทั้งวันได้พันห้า เดินไปเดินมาได้5พัน
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ดร.พูดถูกทุกอย่างนะครับ จะทำงานหนักได้เงินน้อยไปทำไมกัน อนาคตอยากให้ทุกคนมาเป็นนักลงทุนกันให้หมด real sector ก็คงค่อยๆ ล่มสลายไป แล้วพวกเราย้ายไปอยู่ใน Matrix กัน :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ข้อ 5 มองใหญ่คิดใหญ่ ก้จะได้อะไรใหญ่ๆ มองเล็กคิดเล็กก้จะทำอะไรเล็กๆ

อย่าให้คนคิดเล็กมาชี้นำ ให้ชีวิตต้องเดินบนทางแคบ

อย่าให้คนคิดเล็กมาบอกคุณว่า ทำไม่ได้ ไม่มีทาง คุณทำไม่ได้หรอก ทำได้ป่านี้คนอื่นทำหมด

ความคิดแคบๆของคนคิดเล็กๆจะบั่นทอน ความเชื่อมั่นของคุณ

้ถ้าคุณคิดว่าทำได้ แล้วเด๋วร่างกายคุณก้จะ สร้างแรงขึ้นมาเอง คนป่วยเป็นมะเร็งหลายคน

ไม่ได้เดินไม่ได้ เพราะ โรค แต่เป็นเพราะใจ ใจไม่สู้ ร่างกายย่อมไม่สู้
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
alberto
Verified User
โพสต์: 25
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมว่าเวลาอ่านบทความใดๆแล้วเราเริ่มต้นว่าคนเขียนหรือคนโพสต้องการให้เราคิดไม่ได้ต้องการให้เราเชื่อ
คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือคนที่อ่านแล้วนำไปคิดไปตกผลึกนั่นเองหล่ะครับ
1 ถ้า ดร.บอกแล้วคนนึงคิดว่างานที่ไม่ทำเงินก็ยังจะทำเพราะทำแล้วมีความสุข เค้าก็จะได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นคนแน่วแน่กับความคิดนี้
คือเงินไม่ใช่พระเจ้า เค้าก็ยังมีความสุขที่ได้ทบทวนตัวเอง
2 ถ้าคนนั้นคิดว่า "ใช่" เค้าก็คิดแบบนี้และทำงานทีทำเงินอยู่ เค้าก็มีความสุขที่มีคนคิดแบบเดียวกับเค้าและประสบความสำเร็จซะด้วยในความคิดของเค้า เค้าก็มีความสุข
3 ถ้าคนนั้นคิดว่าตัวเองไม่เคยให้ความสำคัญกับการทำงานที่ได้เงินเลย แต่อ่านบทความนี้แล้วได้ฉุกคิดและอยากเปลี่ยนแปลง เค้าลงมือทำ เค้าก็จะมีความสุขที่ค้นพบตำตอบของตัวเองและได้ลงมือทำโดยมีผู้รู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนในเส้นทางนี้เป็นตัวอย่าง
คนที่ 1 สุขที่ได้ยึดมั่นในความคิด
คนที่ 2 สุขที่ได้รับการยืนยันในความคิด
คนที่ 3 สุขที่ได้เปลี่ยนแปลงความคิด
ขอให้เพื่อน นลท.มีความสุขกับข้อใดข้อนึงหลังจากที่ได้อ่านบทความของ ดร.นะครับ
ขอบคุณสำหรับบทความของ ดร.และทุกคนที่โพสเข้ามาอีกครั้งครับ ผมมีความสุขและคิดว่าทุกคนก็มีความสุขในข้อใด้ข้อนึงครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 27

โพสต์

สมมุติ เรามีเวลา 1 วัน ในการเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่

วิธีคิด คนที่ 1 วิ่งไป
วิ่งอย่างขยันขันแข็ง มุมานะ อุตสาหะ
ใครเห็น ใครๆก็ชม ว่า คนๆนี้ขยันดีนะ คิดว่า เดี๋ยวก็คงถึงเป้าหมายๆ (แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ...)

คนนี้ก็คงคล้ายๆ คนที่ขยันทำงาน ในงานที่ไม่ค่อยทำเงินมั้งครับ
ถ้าถามคนๆนี้ว่า ทำไม
คำตอบก็คือ ก็การวิ่งนั้นปลอดภัยสุด มั่นคงสุด นั่งรถก็กลัวรถชน
นั่งเครื่องบิน ก็กลัวเครื่องบินตก และที่สำคัญ ไม่เสียตัง ประหยัด ไม่ยุ่งยากๆ

วิธีคิด คนที่ 2 ใช้เครื่องทุ่นแรง
คนๆนี้ ก็แล้วแต่จะเลือก ตามความขนัด อาจจะขับคนไป
แต่จะขับรถไป ก็ต้องขับรถเป็น รู้เส้นทาง
ซ่าหน่อย ก็ขับเครื่องบินไป ...

วิธีคิดคนที่ 3 เลียนแบบคนที่ 2 แบบไม่ลืมหูลืมตา
คนๆนี้ เห็น คนที่ 2 ว่า ถ้าสามารถไปถึงเชียงใหม่ได้ใน 1 วัน ได้สำเร็จ
ก็คิดว่า เดินทางไปเชียงใหม่ ง่ายๆ ก็ทำตาม โดยไม่คิดอะไร
เห็นเค้าขับรถไป ก็ขับรถตาม แต่ไม่ได้ศึกษาเส้นทาง ขับไป ขับมา รถคันที่เราตามๆๆอยู่ หายไปหว่าๆๆ
พอหลงกัน ทีนี้เสร็จ ....

หรือเห็นบางคนขับเครื่องบิน ก็เอามั่ง ไปยืมเครื่องบินมา แต่ลืมไปว่า ตัวเองขับไม่เป็น
แบบนี้อันตรายครับ
SS22
Verified User
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 28

โพสต์

้ถ้าคุณมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว คุณจะสามารถทำงานที่ไม่ทำเงินได้ เหมือนอย่างที่ อ.นิเวศน์ อ.ไพบูลย์ ทำรายการ Money Talk หรือ คุณIh ทำที่ ร.ร.เพลินพัฒนา
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 29

โพสต์

crazyrisk เขียน: และสุดท้ายครับ ลูกสาวดร.ก็ทำงานเป็น อาจารย์ในมหาวิทยาลัยๆหนึ่ง นี่และครับ
และปัจจุบัน ท่านก็ยังวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะธรรมดาอยู่อย่างนั้นมาตลอด
มหาลัยไหนครับ เผื่ออยากจะไปเดินเล่น ดื่มกาแฟแถวนั้น 555
:8) :8) :8)
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: งาน(ไม่)ทำเงิน/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ตอนนี้ ดี มั๊ก มาก เลย ครับ ดร. ลึกล้ำดีแท้
เป็น ความจริง ที่ผม แอบ มองข้ามไป หลายครั้ง

นับถือ ดร. มากครับ ลึกซึ้ง ยิ่งนัก ท่าน พันล้านไม่ใช่ เหตุ บังเอิญ จิงๆ
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
โพสต์โพสต์