กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ด่วน! พรก. 4 ฉบับประกาศในราชกิจจาฯแล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 3&catid=no

relate info:
รายละเอียด
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/ ... 010/15.PDF

more brief
http://www.ryt9.com/s/nnd/1330627
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ :D
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ยินดีกับคนถือหุ้นกลุุม bank และธุรกิจการเงินด้วย


บังเอิญผ่านมา เห็นเรื่องใน sector เดียวกัน
เลยเอามาแปะ



The Krungthepturakij - Radio


ธุรกิจธนาคารในปี 2555
‎26 ‎มกราคม ‎2555, ‏‎13:35:00
ลับคมธุรกิจ : สัมภาษณ์ คุณรัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์radio_audio_2260.mp3 http://www.bangkokbiznews.com/home/medi ... o_2260.mp3



kimeng สรุปผลประกอบการกลุ่ม Bank
http://kelive.maybank-ke.co.th/KimEng/s ... 410&lang=2

ถ้าจะเอา excel ฝากไฟล์ไว้ที่ กระทู้ผลประกอบการ ไตรมาส4/2554 ที่คุณ naijan ตั้งไว้
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 7&start=19
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

อ้าว...พออ่านละเอียดแล้ว
ไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่เลย :(
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ความเห็นส่วนตัว หลังจากอ่านเกือบครบ:
เงินก้อนใหญ่จะสะพัดไปหลายไตรมาส เป็นผลดีต่อภาพรวมของประเทศ
เอาไปใช้สร้าง infrastructure ได้อย่างสะดวกโยธิน

แต่กลุ่ม bank จะอาจต้นทุนสูงขึ้นน่ะสิ โดยเฉพาะกับเรื่องนำส่งเงินคุ้มครองฯ ต้องมีค่าจัดการเพิ่มขึ้นแน่ๆ
ต้องดูว่าธปท. จะทำอย่างไร ภาคปฏิบัติ

ท่านทั้งหลายเห็นว่าไงบ้างครับ?
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Ii'8N เขียน:อ้าว...พออ่านละเอียดแล้ว
ไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่เลย :(
ใช่เลยครับพี่ ผมลองอ่านในราชกิจจานุเบกษาเเล้วbankที่มีเงินฝากเยอะๆก็อ่วมครับ เพราะเเค่จะเก็บ0.4%ก็ก็หนาวเเล้วครับ นี่เปิดเพดานให้เก็บMaxสุด 1%
จากข่าวนี้บอกว่าทุก0.1%ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมประกันเงินฝากจะกดดัน"กำไรสุทธิ"ของธนาคารลง 4%...
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 9%8C4.html
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ธปท.ถกแบงก์ เปิด 2 แนวทางหลัก รีดค่าต๋งใช้หนี้กองทุนฟื้นฟู คาดชำระหมดใน 10-25 ปี
30 มกราคม
ในวันนี้ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล จะหารือกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ ผ่านระบบการประชุมทางไกล หรือวีดิโอคอนเฟอเรนซ์

เพื่อหารือในเรื่องการกำหนดแนวทางเพิ่มอัตราการนำส่งเงินจากเดิมที่กำหนดให้ส่งในอัตรา 0.4% ของฐานเงินฝาก จะขึ้นเป็นอัตรา 0.55-0.6% ของยอดเงินฝากบวกตั๋วแลกเงิน หรือตั๋วบีอี เพื่อให้สามารถจัดทำแผนการใช้หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ตาม พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ของกระทรวงการคลังที่กู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยมีผลบังคับใช้ตามราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการหารืออย่างเป็นทางการวันนี้จะเป็นครั้งแรก หลังจากที่สมาคมธนาคารไทยได้ร่วมถกกับผูhบริหาร ธปท.เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา

สำหรับข้อเสนอในการจัดเก็บเงินนำส่งเพิ่ม ธปท.วางเป็น 2 แนวทาง แนวทางแรกจะจัดเก็บอัตราเดียวตลอดเวลาการชำระหนี้ แยกเป็น 1.การจัดเก็บในอัตรา 0.55% 2.จัดเก็บในอัตรา 0.56% 3.จัดเก็บในอัตรา 0.57% 4.จัดเก็บในอัตรา 0.58% 5.การจัดเก็บในอัตรา 0.59% และ 6.การจัดเก็บในอัตรา 0.6% โดยประเมินว่าหากจัดเก็บในยอดเงินต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 49,500 ล้านบาทต่อปี และยอดเงินนำส่งสูงสุดจะอยู่ที่ 54,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้ระยะเวลาในการชำระคืนหนี้เงินต้น 1.14 ล้านล้านบาท ในกรณีของการจัดเก็บเงินนำส่งอัตรา 0.6% ต่อปี เงินต้นจะชำระหมดภายในระยะเวลา 10 ปี และหากส่งในอัตรา 0.55% จะใช้เวลา 25 ปี

ส่วนแนวทางที่สองคือ จัดเก็บโดยลดลงเป็นขั้นบันได ในอัตราที่สูงในช่วงต้น และช่วงต่อไปเมื่อฐานเงินฝากเพิ่มขึ้น หรือมีเงินรายได้จากส่วนอื่นมาส่งสมทบ เช่น กำไรที่เพิ่มขึ้นจากบัญชีผลประโยชน์ประจำปีของ ธปท.อาจจะปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินนำส่งลง โดยแนวทางหลังนี้จะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์น้อยกว่า แต่มีข้อเสีย ระยะเวลาในการชำระคืนหนี้เงินต้นกองทุน ฯ วงเงิน1.14 ล้านบาท ประเมินได้ลำบากว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไร

ทั้งนี้การเลือกใช้แนวทางใดแนวทางหนึ่ง ธปท.วางหลักการอยู่บน 3 ข้อ คือ 1.จะต้องไม่เป็นภาระต่อธนาคารพาณิชย์ จนต้องผลักดันให้กับประชาชน 2.เงินต้นและดอกเบี้ยไม่ควรกลับไปเป็นภาระของรัฐบาล ดังนั้นอัตราที่จัดเก็บจึงต้องมากพอเพื่อชำระหนี้ และ 3.แผนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจะต้องมีเสถียรภาพ สามารถชำระหนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งกระทรวงการคลัง ว่าจะเห็นต่างอย่างไร

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันนี้ (30 ม.ค.) กระทรวงการคลังจะหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เรื่องเงินนำส่งเข้ากองทุนประกันเงินฝาก โดยจะมีการพิจารณาเรื่อง เงินนำส่งของธนาคารพาณิชย์ที่นำส่งธปท.ที่ปัจจุบันนำส่งที่อัตราร้อยละ 0.4 ของเงินฝากด้วยโดยงวดแรกต้องนำส่งเงินฝากในช่วง 1 มกราคม.ถึง 30 มิถุนายน. โดยเงินดังกล่าว จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝาก และอีกส่วน นำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
"ผมเชื่อมั่นว่า กระทรวงการคลังจะสามารถตกลงกับธปท.ได้ สำหรับสัดส่วนเงินนำส่งจะเป็นเท่าใด จะรอฟังความเห็นจาก ธปท.ก่อน ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมทำงานร่วมกับธปท.อยู่แล้วโดยจะลดสัดส่วนเงินนำส่งเข้ากองทุนประกันเงินฝากอย่างมีนัยสำคัญ "

ต่อกรณีที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาลไม่ต้องนำส่งเงินให้ธปท.แต่ธนาคารพาณิชย์ต้องนำส่งให้ธปท. เรื่องดังกล่าว นายกิตติรัตน์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ส่วนการที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาลดูแลเงินฝาก หากจะมีการจะลดทอนสิทธิการคุ้มครองเงินฝากลง ก็ต้องดูแลให้ดี แต่เชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างความมั่นใจแก่ผู้ฝากเงินในธนาคารของรัฐได้ ผู้ฝากเงินในธนาคารของรัฐอาจถูกมองหลายแง่มุม เช่น ร่ำรวยทำไมต้องคุ้มครอง มองอีกด้านกว่าจะเหลือเงินมาฝากได้ก็ต้องเสียภาษีมาเช่นกัน ส่วนจะคุ้มครองเต็มหรือไม่ยังไม่มีการหารือกันในขณะนี้

อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า การเพิ่มเงินนำส่งธปท.จะไม่ทำให้ธนาคารพาณิชย์กำไรลดลง เพราะรัฐบาลลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้อยู่แล้ว อาจมีกำไรเบื้องต้น ส่วนต่างดอกเบี้ยอาจน้อยลง แต่ที่สุดแล้วรายได้สูงขึ้นได้ ขอให้มั่นใจได้ว่า รัฐบาลไม่ได้เลือกให้ใครคนใดคนหนึ่งรับภาระไป แต่จะทำให้ระบบในภาพรวมดีขึ้น
http://thanonline.com/index.php?option= ... Itemid=524
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 8

โพสต์

- การประชุมหารือเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ส่งเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝากเพิ่มเติมแก้ไขปัญหาหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) วงเงิน 1.14 ล้านล้านบาทระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป แม้จะใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่คาดว่าอาจจะได้ข้อสรุปภายใน 1 - 2 สัปดาห์นี้ โดยจะเริ่มจัดเก็บเงินงวดแรกในอัตราใหม่ภายในเดือน ก.ค.55 โดยงวดวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ธนาคารพาณิชย์จะส่งเงินเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ในอัตรา 0.4% ของเงินฝาก หลังจากนั้นจะมีการประกาศอัตราการส่งเงินใหม่อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้นายกิตติรัตน์ ระบุว่าอัตราค่าธรรมเนียมที่แบงก์ต้องนำส่งให้กองทุนฟื้นฟูตามพ.ร.ก.ที่ออกมาจะไม่กระทบต่อผู้ฝากเงิน ผู้กู้เงิน และผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน

http://www.ryt9.com/s/iq05/1333518
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 9

โพสต์

"ศาลรัฐธรรมนูญ" ได้รับคำร้องตีความ 2 พ.ร.ก.กู้เงินแล้ว
http://www.dailynews.co.th/politics/10411
มหากาพย์ตามคาด
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 10

โพสต์

"โต้ง"สั่งระดมข้อมูลแจงศาลรธน. ลั่น2สัปดาห์ชี้ขาด"เก็บค่าต๋งแบงก์"
"กิตติรัตน์" สั่งเจ้าหน้าที่คลังเตรียมข้อมูลชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ หลัง ปชป.ยื่นขอตีความ 2 พ.ร.ก. ขณะที่ถกผู้ว่าการ ธปท. ยังไร้ข้อยุติการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม นำส่งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ขอเวลาอีก 1-2 สัปดาห์ชี้ขาด

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่ 128 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมลงรายชื่อยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพระราชกำหนด 2 ใน 4 ฉบับคือ พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 ล่าสุด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมจัดทำข้อมูลดังกล่าวรวมทั้งในเวทีอื่นๆ

ขณะที่นายกิตติรัตน์กล่าวว่า พร้อมจะชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนในการออก พ.ร.ก. ทั้ง 4 ฉบับ ส่วนประเด็นเรื่องเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งได้หารือร่วมกับผู้ว่า ธปท.เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อยุติ แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าจะเรียกเก็บในอัตราที่ไม่กระทบต่อแบงก์พาณิชย์ รวมทั้งผู้ฝากเงิน กู้เงิน และผู้ถือหุ้นธนาคาร เนื่องจากจะเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ธนาคารนำส่งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ปีละ 0.4% อยู่แล้ว

โดยแบงก์พาณิชย์ยังต้องนำส่งเงินไปที่ สคฝ.บางส่วน โดยรัฐบาลจะลดเงินในส่วนที่นำส่วนนี้ลง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติว่าเมื่อรวม 2 ส่วนนี้แล้วจะสูงกว่า 0.4% หรือไม่ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินนำส่งจะประกาศภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การหารือระหว่างนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ทาง ธปท.เป็นผู้เสนอแนวทางให้คลังพิจารณาประมาณ 5 แนวทาง แต่ละแนวทางมีวิธีการจัดเก็บเงินนำส่งและอัตราการจัดเก็บที่แตกต่างกันไป 5 อัตรา ซึ่งเป็นแนวทางที่ ธปท.ได้คุยกับแบงก์พาณิชย์ และบางส่วนเป็นข้อเสนอของแบงก์พาณิชย์

ตอนนี้ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่องอัตราจัดเก็บ แต่อยู่ที่ว่าจะเก็บจากฐานใดบ้างเท่านั้น ซึ่งทาง ธปท.ต้องรีบกลับไปหาข้อสรุปแล้วเสนอกลับมาอีกครั้งใน

เร็ว ๆ นี้ โดยต้องมีข้อสรุปชัดเจนว่าจะบริหารหนี้ 1.14 ล้านล้านบาทอย่างไร ทั้งในส่วนเงินต้นและในส่วนดอกเบี้ย เมื่อได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วก็จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป

แหล่งข่าวกล่าวว่า 1 ในข้อเสนอ 5 แนวทางนั้น มีข้อเสนอให้เรียกเก็บเงินนำส่งจากแบงก์รัฐด้วย ซึ่งคาดว่าเรื่องนี้นายกิตติรัตน์มีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้ยังต้องมีการศึกษารายละเอียดต่ออีก ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การหารือร่วมกันยังไม่มีข้อยุติ และยังไม่ชัดเจนว่าตัวเลขเงินนำส่งจะเป็นเท่าใด เนื่องจากคลังเพิ่งเห็นตัวเลขที่ ธปท.เสนอมาให้ดู

ซึ่งยอมรับว่ามีหลายแนวทางที่เสนอมาเป็นทางเลือก โดยแต่ละแนวทางจะต้องมีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนออกมา

นายกิตติรัตน์กล่าวถึงประเด็นที่แบงก์พาณิชย์เป็นห่วงเรื่องการแข่งขันกับแบงก์รัฐนั้น เห็นด้วยว่าแบงก์รัฐควรทำภารกิจที่แบงก์เอกชนยังทำไม่ได้ ส่วนที่เอกชนทำได้ดีอยู่แล้วก็ไม่ควรเข้าไปทำ อย่างไรก็ตามการจะขีดเส้นให้ชัดเจนลงไปต้องพิจารณาอย่างรอบด้านเป็นกรณีไป อย่างเช่น หากจะไปขีดเส้นว่าแบงก์รัฐต้องปล่อยกู้แต่รายย่อย ก็จะตึงเกินไป

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้สั่งให้ สศค.เชิญประธานคณะกรรมการ และตัวแทนกระทรวงการคลังที่เป็นกรรมการอยู่ในสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่งมาหารือ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องบทบาทหน้าที่ของแบงก์รัฐ และผลกระทบจากกรณีที่สมาคมธนาคารไทยมีข้อกังวลเรื่องการแข่งขัน หากแบงก์พาณิชย์ต้องจ่ายเงินนำส่งเพิ่มเพื่อใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนัดวันเวลาที่เหมาะสม

"ที่เรียกมาคุยคือ การทำธุรกรรมของแบงก์รัฐในอนาคตจะต้องอยู่ในกรอบอย่างไร เพื่อให้แบงก์เอกชนสบายใจ"

นายสมชัยกล่าวว่า ยอมรับว่าปัจจุบันต้นทุนของแบงก์รัฐกับแบงก์พาณิชย์ที่แตกต่างกันชัดเจนก็คือ 0.4% ที่แบงก์รัฐไม่ต้องนำส่งกองทุนคุ้มครองเงินฝากเหมือนแบงก์พาณิชย์ แต่ต้นทุนส่วนอื่นนั้นไม่ทราบ ต้องขึ้นกับการบริหารจัดการของแบงก์แต่ละแห่ง

ส่วนจะเรียกเก็บเงินนำส่งจากแบงก์รัฐด้วยหรือไม่นั้น คงต้องรอฟังนโยบายนายกิตติรัตน์ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร แต่นโยบายเดิมสมัยนายธีระชัย เป็น รมว. คลังคือไม่เรียกเก็บจากแบงก์รัฐ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แนวทางในการเก็บเงินนำส่งนั้น จากที่ได้หารือกับหลายฝ่ายมีหลายแนวทางมาก โดยแนวทางหนึ่งคือการเก็บเงินจากแบงก์พาณิชย์ที่ 0.55% จากเดิม 0.4% ซึ่ง ธปท.คำนวณจากที่แบงก์พาณิชย์ได้รับการลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% จากเดิม 30% แล้ว ได้ข้อสรุปว่า การจ่ายเงินนำส่งเพิ่มขึ้นเป็น 0.55% ไม่ได้ทำให้แบงก์พาณิชย์ได้รับผลกระทบ โดยจะจัดเก็บงวดแรกเดือนกรกฎาคมนี้
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... catid=0000
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 11

โพสต์

posttoday.com
http://bit.ly/xnLfg0

วิเคราะห์>

เศรษฐกิจ
พรก.โอนหนี้ร้อนๆ ธนาคารสะท้านแบงก์รับสะเทือน

* 01 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 07:05 น. |
* เปิดอ่าน 742 |
* comment ความคิดเห็น 2

โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

รูปภาพ
....(ตัดแปะให้ดูแค่ บางประเด็น..)

..แถลงการณ์ของสมาคมธนาคารไทย ชี้ความไม่ชอบธรรมที่สำคัญ 2 ประเด็น

หนึ่ง ทำไมกฎหมายต้องให้ธนาคารพาณิชย์มารับผิดชอบใช้หนี้คนเดียว ทั้งๆ ที่เป็นหนี้ของรัฐของคนทั้งประเทศ

สอง การทำเช่นนี้ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม ธนาคารพาณิชย์เสียเปรียบธนาคารรัฐที่ไม่ต้องถูกเก็บค่าต๋ง และรัฐบาลยังรับประกันเงินฝาก 100% ต่างจากธนาคารพาณิชย์ที่จะเหลือการรับประกันเงินฝากแค่ 1 ล้านบาท ในเดือน ส.ค. 2555

บรรดานายธนาคารพาณิชย์จึงส่งสัญญาณไม่ยอมรับถึงขนาด หากถูกเก็บเงินค่าต๋งเพิ่ม ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโอนภาระไปให้กับลูกค้าของธนาคาร...
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 12

โพสต์

http://goo.gl/fVaww

การเมือง/posttoday.com
ตุลาการนัดถก2พรก.กู้เงิน6ก.พ.

* 02 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 19:51 น. |
* เปิดอ่าน 391 |
* comment ความคิดเห็น 2
ตุลาการศาลรธน.ถกพรก.กู้เงิน2ฉบับขัดม.184หรือไม่ครั้งแรก6กพ.นี้ พิจารณาคำร้อง2สภาคราวเดียวกัน

นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องที่ประธานวุฒิสภายื่นคำร้องขอให้พิจารณา วินิจฉัยกรณี คณะสว.69 คนส่งความเห็นว่า พรก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้ เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพ.ศ.2555 เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยง ขัดหรือแย้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 หรือไม่แล้ว

หลังจากนี้จะส่งคำร้องดังกล่าวให้กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคน เพื่อตรวจสอบว่า มาตามช่องทางถูกต้องหรือไม่ และอยู่ในอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ เพื่อเสนอความเห็นต่อคณะตุลาการฯในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งในมาตรา 184 วรรคท้ายบัญญัติว่า หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า พ.ร.ก.ใดไม่เป็นไปตามมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด หรือ 6 เสียงใน 9เสียง

ทั้งนี้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการนัดประชุมครั้งแรกเพื่อพิจารณาคำ ร้องเกี่ยวกับพ.ร.ก.กู้เงินทั้งที่ประธานทั้ง2สภาเสนอวันที่ 6ก.พ.นี้ เวลา 09.30 น.
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 13

โพสต์

http://www.thaisarn.com/th/news_reader. ... sid=688501
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มกราคม 2555 18:15 น.
“มาร์ค” เชื่อ พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ ขัด รธน.คาดศาลตีตกภายใน 1 เดือน
ผู้นำฝ่ายค้าน มั่นใจการเร่งออก พ.ร.ก.2 ฉบับ ขัด รธน.เชื่อศาล รธน.ตีตกภายใน 1 เดือน ห่วง พ.ร.ก.กองทุนประกันภัย ให้อำนาจ ครม.ล้นฟ้า เกรงซ้ำซ้อนหน่วยงานเดิม ปัดเตะตัดขารัฐบาล ยันหนุนสร้างอนาคตประเทศ แต่ต้องไม่ขัด รธน.และปิดทางทุจริต

วันนี้ (27 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพระราชกำหนดโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ และ พ.ร.ก.กุ้เงิน 3.5 แสนล้านบาทในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ว่า ทางพรรคได้พิจารณาเนื้อหาใน พ.ร.ก.รวมทั้งตรวจสอบคำวินิจฉัยของศาลรธน.เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ในอดีตมาเทียบเคียงกับการออก พ.ร.ก.ในอดีตสำหรับ พ.ร.ก.2 ฉบับนี้พรรคเห็นว่า ขัดรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ ไม่ได้มีเหตุผลในเรื่องความมั่นคงเศรษฐกิจจริง ตามรัฐบาลกล่าวอ้าง เช่น การโอนหนี้ให้กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ได้ทำให้ภาระงบประมาณลดลง แต่ทำให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงการคลัง กับธนาคารกลางของประเทศ ทำให้เป็นปัญหา ส่วนการกู้เงิน 3.5 แสนล้านก็ไม่มีความชัดเจนว่า หากไม่มีการกู้เงินจะมีปัญหาเรื่องความมั่นคงเศรษฐกิจตามมา อีกทั้ง 2 กรณียังไม่เข้าข่ายความจำเป็นเร่งด่วนด้วย...
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลุ่ม..bank พรก.4 ประกาศ..แล้ว รายละเอียด

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ยื่นตีความ2พ.ร.ก. ไม่ใช่แค่ขัด-ไม่ขัดรธน. แต่อยู่ที่′ทันกาล′หรือไม่
(ที่มา:มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 2 ก.พ.2555)
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... catid=0100

วันที่ 02 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:45:37 น.

ไม่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐ ธรรมนูญให้ตีความ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคต ประเทศ พ.ศ.2555 หรือการให้อำนาจกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท

และ พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกอง ทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 หรือการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 1.14 ล้านล้านบาท กลับให้ธนาคารแห่งประเทศไทย

สมาชิก วุฒิสภา 68 คน ก็ลงชื่อยื่นคำร้องประธานวุฒิสภาให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่ากฎหมายฉบับหลังมีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้จนต้องออกเป็น พระราชกำหนดหรือไม่เช่นกัน

ความตั้งใจของรัฐบาลที่จะใช้ พ.ร.ก.ที่เกี่ยวข้องการบริหารจัดการน้ำ 4 ฉบับ เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการทำงาน ทั้งการป้องกันน้ำท่วมและการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ

จึงมิได้ราบรื่น
โพสต์โพสต์