เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
- airazoc
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 904
- ผู้ติดตาม: 1
เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 1
เห็นเพื่อนๆหลายคนแชร์วิธีการลงทุน วิธีการเก็บเงินกันไปเยอะแล้ว
ขอเปิดประเด็นถามเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่ามีวิธีตัดเงินกำไรออกมาใช้อย่างไรกันบ้างครับ
โดยเฉพาะถ้าเป็น full time investor ที่ไม่มีรายได้ประจำแล้ว จะใช้เงินปันผลแค่ไหนแบ่งกลับไปลงทุนเท่าไหร่ ขายเอา EE มาใช้บ้างไหม เป็นต้น
ส่วนตัวผมเอง ผมจะใช้กำไรของกำไรเท่านั้น
เช่น ปีแรก มี 1,000,000 แล้วกำไร 500,000 เป็น 1,500,000 ผมจะไม่ใช้เลย เพราะกำไรคือ 500,000
ปีถัดมา สมมติ จาก 1,500,000 กำไร มาอีก 600,000 เป็น 2,100,000 ผมจะถือว่า กำไร 600,000
มี 400,000 มาจาก เงิน 1,000,000 กับอีก 200,000 มาจากเงิน 500,000
ผมจะใช้ 200,000 นั้น เพราะเป็นกำไรจากกำไรอีกที
แล้วเอาอีก 400,000 ไปลงทุนต่อ เงินลงทุนรอบใหม่คือ 1,900,000 โดย สิ้นปีต่อไป กำไรของกำไร ก็คือเฉพาะส่วนที่งอกจากเงิน 400,000 ที่โปะกลับเข้าไป ส่วน 500,000 ที่เป็นกำไรปีก่อนนั่นไม่นับแล้ว เพราะถือว่าเอา กำไรของมันมาใช้แล้ว ถือเป็นเงินต้นตลอดไป
ถ้าปีไหนพอร์ทติดลบ ผมก็จะรู้ตัวล่วงหน้าว่า ปีต่อไปต้องไปหางานทำ แต่โชคดียังไม่เกิดขึ้นกับตัว
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านไหนมีวิธีตัดใช้เงินแตกต่างไปอย่างไร แชร์กันครับ ขอเอาไปประยุกต์ใช้บ้าง
ขอเปิดประเด็นถามเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่ามีวิธีตัดเงินกำไรออกมาใช้อย่างไรกันบ้างครับ
โดยเฉพาะถ้าเป็น full time investor ที่ไม่มีรายได้ประจำแล้ว จะใช้เงินปันผลแค่ไหนแบ่งกลับไปลงทุนเท่าไหร่ ขายเอา EE มาใช้บ้างไหม เป็นต้น
ส่วนตัวผมเอง ผมจะใช้กำไรของกำไรเท่านั้น
เช่น ปีแรก มี 1,000,000 แล้วกำไร 500,000 เป็น 1,500,000 ผมจะไม่ใช้เลย เพราะกำไรคือ 500,000
ปีถัดมา สมมติ จาก 1,500,000 กำไร มาอีก 600,000 เป็น 2,100,000 ผมจะถือว่า กำไร 600,000
มี 400,000 มาจาก เงิน 1,000,000 กับอีก 200,000 มาจากเงิน 500,000
ผมจะใช้ 200,000 นั้น เพราะเป็นกำไรจากกำไรอีกที
แล้วเอาอีก 400,000 ไปลงทุนต่อ เงินลงทุนรอบใหม่คือ 1,900,000 โดย สิ้นปีต่อไป กำไรของกำไร ก็คือเฉพาะส่วนที่งอกจากเงิน 400,000 ที่โปะกลับเข้าไป ส่วน 500,000 ที่เป็นกำไรปีก่อนนั่นไม่นับแล้ว เพราะถือว่าเอา กำไรของมันมาใช้แล้ว ถือเป็นเงินต้นตลอดไป
ถ้าปีไหนพอร์ทติดลบ ผมก็จะรู้ตัวล่วงหน้าว่า ปีต่อไปต้องไปหางานทำ แต่โชคดียังไม่เกิดขึ้นกับตัว
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านไหนมีวิธีตัดใช้เงินแตกต่างไปอย่างไร แชร์กันครับ ขอเอาไปประยุกต์ใช้บ้าง
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 3
ของผมผมใช้เงินน้อยมากจนมีเงินก้อนจำนวนนึงก่อนครับ
พอถึงจำนวนที่คิดไว้ ก็กะว่าอยากใช้อะไรก็ใช้ครับ แต่ต้องไม่เกินลิมิต
แต่จะพยายามไม่ให้ใช้เกิน 5% ของพอร์ตครับ
แล้วก็แต่ละปีจะแบ่งกำไร 1% ไปทำบุญครับ
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่ามีเงิน 10 ล้าน ปีปีนึงจะใช้ได้ไม่เกิน 5 แสนบาทครับ (เดือนละประมาณ 50,000 บาท)
แล้วก็ถ้าปีที่แล้วกำไร 10 ล้านบาท ปีต่อมาต้องแบ่งเงินมาทำบุญอย่างน้อย 100,000 บาทครับ (1%)
การตั้งเป้าตั้งแต่ต้นปีทำให้เราทำบุญได้ถึงเป้าครับ เพราะไม่งั้นผมรู้ตัวเองเลยว่าทำไม่ถึงแน่ๆ
แล้วก็ทำประกันสุขภาพไว้ด้วย เพราะว่าเราเป็นนักลงทุน บางทีป่วยแล้วเบิกไม่ได้ก็จะพาลไม่ไปหาหมอ
ทำประกันสุขภาพไว้ มันจ่ายเงินไปก่อน เป็นอะไรนิดหน่อยก็ไปหาหมอเลย เพราะจ่ายไปแล้ว
พอถึงจำนวนที่คิดไว้ ก็กะว่าอยากใช้อะไรก็ใช้ครับ แต่ต้องไม่เกินลิมิต
แต่จะพยายามไม่ให้ใช้เกิน 5% ของพอร์ตครับ
แล้วก็แต่ละปีจะแบ่งกำไร 1% ไปทำบุญครับ
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่ามีเงิน 10 ล้าน ปีปีนึงจะใช้ได้ไม่เกิน 5 แสนบาทครับ (เดือนละประมาณ 50,000 บาท)
แล้วก็ถ้าปีที่แล้วกำไร 10 ล้านบาท ปีต่อมาต้องแบ่งเงินมาทำบุญอย่างน้อย 100,000 บาทครับ (1%)
การตั้งเป้าตั้งแต่ต้นปีทำให้เราทำบุญได้ถึงเป้าครับ เพราะไม่งั้นผมรู้ตัวเองเลยว่าทำไม่ถึงแน่ๆ
แล้วก็ทำประกันสุขภาพไว้ด้วย เพราะว่าเราเป็นนักลงทุน บางทีป่วยแล้วเบิกไม่ได้ก็จะพาลไม่ไปหาหมอ
ทำประกันสุขภาพไว้ มันจ่ายเงินไปก่อน เป็นอะไรนิดหน่อยก็ไปหาหมอเลย เพราะจ่ายไปแล้ว
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 4
ของผม port เล็กๆๆ ได้แต่ใส่เงินเข้าไป
สัดส่วนราว 70% ของเงินเดือน ใส่ลงไปเรื่อยๆๆ
อีก 30% ใช้จ่าย ตามฐานะ หวังว่าซักวันจะ ไม่ต้องทำงาน
สัดส่วนราว 70% ของเงินเดือน ใส่ลงไปเรื่อยๆๆ
อีก 30% ใช้จ่าย ตามฐานะ หวังว่าซักวันจะ ไม่ต้องทำงาน
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 5
เงินเดือนน่าจะเยอะนะ ใช้ 30% ก้อพอแล้ว..chiraponge เขียน:ของผม port เล็กๆๆ ได้แต่ใส่เงินเข้าไป
สัดส่วนราว 70% ของเงินเดือน ใส่ลงไปเรื่อยๆๆ
อีก 30% ใช้จ่าย ตามฐานะ หวังว่าซักวันจะ ไม่ต้องทำงาน
The One
-
- Verified User
- โพสต์: 245
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 8
ปรกติก็จะมีสภาพคล่องเก็บไว้ใน MMF
ผมก็ถอนเงินจาก MMF ไปใช้ครับ
ผมใช้เงินไม่เกินเดือนละ 3 หมื่น
การจัดพอร์ต กรณีที่ตลาดเลวร้าย และดูไม่น่าลงทุนอย่างน้อยก็จะจัดให้มีหุ้นที่ปันผลได้ราว 3 หมื่นต่อเดือน
คือพอร์ตไม่ค่อยว่างครับ ยกเว้นสถานการณ์พิเศษค่อยว่ากัน
ถ้าปีไหนเกิดไม่ได้ปันผลตามเป้า ก็กินบุญเก่ากันไป
รายได้ก็จะมาจาก ปันผล(ต้องมีสักตัวที่ปันผลสิหน่า)+ดอกเบี้ยจาก MMF ครับ+ค่าเช่ารับนิดหน่อย
หากต้องการใช้เงินก้อนเช่นต้องการนาฬิกามางับข้อสักเรือน, หรือพาแม่ไป ตปท.
ก็สามารถอนุมัติงบพิเศษได้ครับ
ถ้าเราไม่เป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ผมว่าไม่ต้องเข้มงวดกับการแบ่งเงินมากก็ได้ครับ
เราจะรู้เองว่าสถานการณ์ตอนนั้นเงินที่มีจะต้องเอาไปต้องลงทุนก่อน
หรือจะเอาเงินไปใช้ได้เลย
ผมก็ถอนเงินจาก MMF ไปใช้ครับ
ผมใช้เงินไม่เกินเดือนละ 3 หมื่น
การจัดพอร์ต กรณีที่ตลาดเลวร้าย และดูไม่น่าลงทุนอย่างน้อยก็จะจัดให้มีหุ้นที่ปันผลได้ราว 3 หมื่นต่อเดือน
คือพอร์ตไม่ค่อยว่างครับ ยกเว้นสถานการณ์พิเศษค่อยว่ากัน
ถ้าปีไหนเกิดไม่ได้ปันผลตามเป้า ก็กินบุญเก่ากันไป
รายได้ก็จะมาจาก ปันผล(ต้องมีสักตัวที่ปันผลสิหน่า)+ดอกเบี้ยจาก MMF ครับ+ค่าเช่ารับนิดหน่อย
หากต้องการใช้เงินก้อนเช่นต้องการนาฬิกามางับข้อสักเรือน, หรือพาแม่ไป ตปท.
ก็สามารถอนุมัติงบพิเศษได้ครับ
ถ้าเราไม่เป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ผมว่าไม่ต้องเข้มงวดกับการแบ่งเงินมากก็ได้ครับ
เราจะรู้เองว่าสถานการณ์ตอนนั้นเงินที่มีจะต้องเอาไปต้องลงทุนก่อน
หรือจะเอาเงินไปใช้ได้เลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 475
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 9
น้อง puriku มี strategy การใช้เงินที่เยี่ยมมาก *ตังหมดก็ยืมแฟนมาใช้ก่อน 555 ของพี่ก็คล้ายๆกันpuriku เขียน:มีเท่าไรก็ลงหมดเลย พอร์ตยังเล็ก เลยยังไม่คิดจะเอาเงินออกมาใช้ แต่เก็บสะสมไปเรื่อยๆ ฮ่าๆๆ
*ตังหมดก็ยืมแฟนมาใช้ก่อน ฮ่าๆๆๆๆ
HOPE FAITH LOVE
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 10
ในภาวะปกติ
1. กันเงิน 70 % ทุกเดือนสำหรับพอร์ทลงทุนเท่านั้น ที่เหลือใช้จ่ายและให้พ่อแม่
2. โบนัสตั้งแต่ทำงาน ไม่เคยใช้ เข้าพอร์ทลงทุนทั้งหมด
3. เงินปันผล เข้าพอร์ทลงทุนทั้งหมด
4. เงินคืนภาษีเข้าพอร์ททั้งหมด
ในภาวะไม่ปกติ
1. เหลือเท่าไหร่ สมทบเข้าพอร์ทลงทุน
2-4 ทำเหมือนเดิม
1. กันเงิน 70 % ทุกเดือนสำหรับพอร์ทลงทุนเท่านั้น ที่เหลือใช้จ่ายและให้พ่อแม่
2. โบนัสตั้งแต่ทำงาน ไม่เคยใช้ เข้าพอร์ทลงทุนทั้งหมด
3. เงินปันผล เข้าพอร์ทลงทุนทั้งหมด
4. เงินคืนภาษีเข้าพอร์ททั้งหมด
ในภาวะไม่ปกติ
1. เหลือเท่าไหร่ สมทบเข้าพอร์ทลงทุน
2-4 ทำเหมือนเดิม
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 25
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 11
ไม่ได้ลงทุน full time ครับ พอดีรักงานที่ทำ ฮ่าๆ
แต่ก็ลงทุนเต็มที่ครับ ปันผลก็เอาไปลงทุนเพิ่มครับ
เงินเดือนก็เอาไปลงทุนเพิ่มครับ ไม่ได้ตั้งเป้า retire เพราะผมไม่ชอบอยู่นิ่ง
ถ้าภาวะไม่ปกติ ก็ขอยืมเงินแฟนมาลงครับ
ปกติก็เน้นปันผลมาใช้แหล่ะครับ ผมหวงเงินต้นมาก
แต่ก็ลงทุนเต็มที่ครับ ปันผลก็เอาไปลงทุนเพิ่มครับ
เงินเดือนก็เอาไปลงทุนเพิ่มครับ ไม่ได้ตั้งเป้า retire เพราะผมไม่ชอบอยู่นิ่ง
ถ้าภาวะไม่ปกติ ก็ขอยืมเงินแฟนมาลงครับ
ปกติก็เน้นปันผลมาใช้แหล่ะครับ ผมหวงเงินต้นมาก
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 12
ทำคล้ายๆ โอ๊ต... คือ ถ้าพอร์ตยังไม่ถึงเป้าที่มีอิสรภาพทางการเงิน ก็จะไม่ดึงเงินออกมาใช้เลย... ยกเว้นกรณี emergency จริงๆ เช่น เจ็บป่วย ทุพลภาพ เป็นต้น
พอพอร์ตถึงเป้าแล้วจะดึงเงินมาใช้ไม่เกิน 5% ของพอร์ต ใช้ตามสมควร แต่จะไม่กำหนดเป้าในการพยายามใช้นะครับ... บางทีความพยายามในการใช้เงินให้มากๆ เป็นทุกข์เหมือนกัน
แต่เงินให้พ่อให้แม่นี่จะบังคับให้... คือ พ่อแม่ ไม่อยากได้ก็ต้องเอา คล้ายๆ กับทำ Quantitative Easing ยัดเงินให้เค้าไปเรื่อยๆ บังคับให้เค้าเอาเงินไปใช้ อย่างไรก็ตาม การให้เงินพ่อแม่ เป็นบุตรที่ว่านอนสอนง่ายยังไม่อาจแทนคุณพ่อแม่ได้หมด พระพุทธเจ้าว่าเอาไว้ว่า ถ้าเราแบกพ่อแม่เอาไว้บนบ่า ให้พ่อแม่ขี้ เยี่ยวรดตัวเราตลอดชีวิตก็ใช้คุณท่านไม่หมด ทางที่จะแทนคุณที่ดีที่สุด คือ ถ้าพ่อแม่ยังไม่มีศรัทธา ก็ชักจูงให้พ่อแม่มีศรัทธา ถ้าพ่อแม่ยังอ่อนเรื่องจาคะ (การบริจาค) ก็ชักจูงให้พ่อแม่มีจาคะ ถ้าพ่อแม่ยังรักษาศีลไม่มั่น ก็ชักชวนพ่อแม่ให้รักษาศีล ถ้าพ่อแม่ยังขาดปัญญา (ทางธรรม) ก็ชักจูงพ่อแม่ให้มีปัญญา (เห็นธรรม) อย่างนี้ถือว่าเป็นการแทนคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง ผมจึงเน้นที่จะพูดคุยการพูดคุยกับพ่อแม่ ชักชวนพ่อแม่ให้ไปทำสิ่งดีๆ มากกว่า
ส่วนเรื่องทำบุญทำทานนี่ผมจะไม่ได้เน้นว่าต้องทำเป็นเงินเท่าไหร่ เท่านี้ เท่านั้น จะทำตามกาล ตามโอกาสมากกว่า ทำทั้งด้วยเงิน ด้วยอวัยวะ ด้วยความรู้ ด้วยแรงกาย แรงใจ ซะมากกว่า เพราะ รู้สึกว่าบางที การทำบุญกับที่ๆ ไม่เหมาะสม ในจำนวนเงินที่ไม่เหมาะสม ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม บางทีเราอาจจะได้บาปมากกว่าการได้บุญ จึงถือว่าปล่อยให้เป็นไปตามโอกาสมากกว่า แต่ก็ได้ทำพินัยกรรมที่จะยกทรัพย์สินให้เป็นเงินเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์เอาไว้แล้วครับ
พอพอร์ตถึงเป้าแล้วจะดึงเงินมาใช้ไม่เกิน 5% ของพอร์ต ใช้ตามสมควร แต่จะไม่กำหนดเป้าในการพยายามใช้นะครับ... บางทีความพยายามในการใช้เงินให้มากๆ เป็นทุกข์เหมือนกัน
แต่เงินให้พ่อให้แม่นี่จะบังคับให้... คือ พ่อแม่ ไม่อยากได้ก็ต้องเอา คล้ายๆ กับทำ Quantitative Easing ยัดเงินให้เค้าไปเรื่อยๆ บังคับให้เค้าเอาเงินไปใช้ อย่างไรก็ตาม การให้เงินพ่อแม่ เป็นบุตรที่ว่านอนสอนง่ายยังไม่อาจแทนคุณพ่อแม่ได้หมด พระพุทธเจ้าว่าเอาไว้ว่า ถ้าเราแบกพ่อแม่เอาไว้บนบ่า ให้พ่อแม่ขี้ เยี่ยวรดตัวเราตลอดชีวิตก็ใช้คุณท่านไม่หมด ทางที่จะแทนคุณที่ดีที่สุด คือ ถ้าพ่อแม่ยังไม่มีศรัทธา ก็ชักจูงให้พ่อแม่มีศรัทธา ถ้าพ่อแม่ยังอ่อนเรื่องจาคะ (การบริจาค) ก็ชักจูงให้พ่อแม่มีจาคะ ถ้าพ่อแม่ยังรักษาศีลไม่มั่น ก็ชักชวนพ่อแม่ให้รักษาศีล ถ้าพ่อแม่ยังขาดปัญญา (ทางธรรม) ก็ชักจูงพ่อแม่ให้มีปัญญา (เห็นธรรม) อย่างนี้ถือว่าเป็นการแทนคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง ผมจึงเน้นที่จะพูดคุยการพูดคุยกับพ่อแม่ ชักชวนพ่อแม่ให้ไปทำสิ่งดีๆ มากกว่า
ส่วนเรื่องทำบุญทำทานนี่ผมจะไม่ได้เน้นว่าต้องทำเป็นเงินเท่าไหร่ เท่านี้ เท่านั้น จะทำตามกาล ตามโอกาสมากกว่า ทำทั้งด้วยเงิน ด้วยอวัยวะ ด้วยความรู้ ด้วยแรงกาย แรงใจ ซะมากกว่า เพราะ รู้สึกว่าบางที การทำบุญกับที่ๆ ไม่เหมาะสม ในจำนวนเงินที่ไม่เหมาะสม ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม บางทีเราอาจจะได้บาปมากกว่าการได้บุญ จึงถือว่าปล่อยให้เป็นไปตามโอกาสมากกว่า แต่ก็ได้ทำพินัยกรรมที่จะยกทรัพย์สินให้เป็นเงินเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์เอาไว้แล้วครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 13
ผมใช้เงินเดือนครับ (ยังทำงาน) ซึ่งก็พอใช้สบายๆ
แต่ก็เอาเงินจากพอร์ทมาใช้บ้างได้แก่
1. ทำบุญ ไม่เคยกะเกณฑ์ และส่วนใหญ่จะให้พ่อแม่ทำอย่างเต็มที่ครับ ปีก่อนก็ประมาณ 3-4% ของกำไร
2. ให้พ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ ปีก่อนก็ประมาณ 2-3% ของกำไร
ผมว่า vi ส่วนใหญ่ใช้เงินน้อยมากๆ อยู่แล้ว ถ้าเทียบกับฐานะหรือกำไรของพอร์ท
สิ่งที่ใช้ก็เพราะจำเป็น เลยอาจจะไม่ได้คิดเรื่องใช้เงินเท่าไรครับ
แต่ก็เอาเงินจากพอร์ทมาใช้บ้างได้แก่
1. ทำบุญ ไม่เคยกะเกณฑ์ และส่วนใหญ่จะให้พ่อแม่ทำอย่างเต็มที่ครับ ปีก่อนก็ประมาณ 3-4% ของกำไร
2. ให้พ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ ปีก่อนก็ประมาณ 2-3% ของกำไร
ผมว่า vi ส่วนใหญ่ใช้เงินน้อยมากๆ อยู่แล้ว ถ้าเทียบกับฐานะหรือกำไรของพอร์ท
สิ่งที่ใช้ก็เพราะจำเป็น เลยอาจจะไม่ได้คิดเรื่องใช้เงินเท่าไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 15
ใช้20% ของเงินที่หามาได้ครับที่เหลือ 80% เอาไปลงทุนครับ
ลงทุนแบบสบายๆไม่คิดมากครับ
ลงทุนแบบสบายๆไม่คิดมากครับ
- PrasertsakK
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 16
ปัจจุบันจะแบ่งเงินเป็นสามส่วน
ส่วนที่ 1: เป็นส่วนของเงินลงทุน โดยในแต่ละเดือนจะจำนวนที่แน่นอนไว้แล้วใส่ไปในพอร์ทการลงทุนและจะไม่ยุ่งกับส่วนนี้เลย (คิดว่าจะสามารถใช้ได้ตอนอายุ 60 ขึ้นไป)
ส่วนที่ 2 : เป็นเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือน
ส่วนที่ 3 : เป็นเงินค่าใช้จ่ายประจำปี(เช่น ซื้อของที่อยากได้ไร้สาระ ค่ารักษาพยาบาล ประกัน เป็นต้น) โดยส่วนนี้จะเป็นเงินที่เหลือจากเงินค่าใข้จ่ายประจำเดือนนั้นเอง
ถ้าเงินส่วนที่ 3 นี้เหลือมากเพียงพอ ผมจะทำการย้ายเงินส่วนนี้ครึ่งหนึ่งไปอยู่ในส่วนที่ 1
แต่ในกรณีที่เป็นนักลงทุนเต็มตัว อาจจะต้องจัดสรรใหม่ในวิธีที่คล้าย ๆ กัน แต่ให้ใช้เงินปันผลแทนรายได้ และการแบ่งส่วนเงินจะไม่ได้มองเป็นรายเดือนแต่จะมองเป็นรายปีแทน
ตัวอย่าง ปีที่แล้วมีปันผลทั้งหมด 1 ล้านบาท เราก็นำเงิน 1 ล้านของปีที่มาแบ่งเป็น 5 แสน : 3 แสน : 2 แสน เป็นต้น
ส่วนที่ 1: เป็นส่วนของเงินลงทุน โดยในแต่ละเดือนจะจำนวนที่แน่นอนไว้แล้วใส่ไปในพอร์ทการลงทุนและจะไม่ยุ่งกับส่วนนี้เลย (คิดว่าจะสามารถใช้ได้ตอนอายุ 60 ขึ้นไป)
ส่วนที่ 2 : เป็นเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือน
ส่วนที่ 3 : เป็นเงินค่าใช้จ่ายประจำปี(เช่น ซื้อของที่อยากได้ไร้สาระ ค่ารักษาพยาบาล ประกัน เป็นต้น) โดยส่วนนี้จะเป็นเงินที่เหลือจากเงินค่าใข้จ่ายประจำเดือนนั้นเอง
ถ้าเงินส่วนที่ 3 นี้เหลือมากเพียงพอ ผมจะทำการย้ายเงินส่วนนี้ครึ่งหนึ่งไปอยู่ในส่วนที่ 1
แต่ในกรณีที่เป็นนักลงทุนเต็มตัว อาจจะต้องจัดสรรใหม่ในวิธีที่คล้าย ๆ กัน แต่ให้ใช้เงินปันผลแทนรายได้ และการแบ่งส่วนเงินจะไม่ได้มองเป็นรายเดือนแต่จะมองเป็นรายปีแทน
ตัวอย่าง ปีที่แล้วมีปันผลทั้งหมด 1 ล้านบาท เราก็นำเงิน 1 ล้านของปีที่มาแบ่งเป็น 5 แสน : 3 แสน : 2 แสน เป็นต้น
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 18
เงินเดือน --- หัก 30% โยนเข้าบัญชี"พยายามจะไม่ใช้"ก่อนเลยครับ
สิ้นเดือน เงินเหลือ + เงินในบัญชี"พยายามจะไม่ใช้" ก็จะนำไปลงทุนครับ
เงินลงทุนก็จะเก็บไว้ใน MF ประเภท Money Market เช่น TMBAM ธนบดี จำนวนประมาณเงินที่ต้องใช้เพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างปกติประจำเดือน x 6 (ถ้าเอาให้สบายๆก็ x 12)
ที่เหลือก็ลงใน Medium Term + Long Term Investment เช่น หุ้น ทอง และที่ดินครับ --- แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นครับ
สิ้นเดือน เงินเหลือ + เงินในบัญชี"พยายามจะไม่ใช้" ก็จะนำไปลงทุนครับ
เงินลงทุนก็จะเก็บไว้ใน MF ประเภท Money Market เช่น TMBAM ธนบดี จำนวนประมาณเงินที่ต้องใช้เพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างปกติประจำเดือน x 6 (ถ้าเอาให้สบายๆก็ x 12)
ที่เหลือก็ลงใน Medium Term + Long Term Investment เช่น หุ้น ทอง และที่ดินครับ --- แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นครับ
"If you took our top fifteen decisions out, we’d have a pretty average record. It wasn’t hyperactivity,but a hell of a lot of patience. You stuck to your principles and when opportunities came along,you pounced on them with vigor"-Charlie Munger
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 395
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 19
เมื่อก่อนถอนเงินมาใช้เท่าที่จำเป็น แต่หลังจากเหตุการณ์หนี้ยุโรปตุลาปีที่แล้วทำให้กำไรหายไปเยอะ มีเพื่อนบอกว่าถ้ามีกำไรต้องถอนออกมาบ้าง
ตอนนี้เวลามีกำไรก็จะถอนออกมามากหน่อย แม้ใช้ไม่หมดก็ต้องแยกบัญชีออกมา เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์หุ้นตกอีก เงินจะได้ไม่หายไปเปล่าๆครับ
ตอนนี้เวลามีกำไรก็จะถอนออกมามากหน่อย แม้ใช้ไม่หมดก็ต้องแยกบัญชีออกมา เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์หุ้นตกอีก เงินจะได้ไม่หายไปเปล่าๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 20
เก็บๆๆ ใช้ให้ประหยัดที่สุดเท่าที่จำเป็นครับ ผมงก อิอิ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 22
แชร์บ้างนะครับ
1. ช่วงภาวะตลาดปกติหรือกระทิง
ก็จะไม่ทำอะไรมากไปกว่าการเก็บกระสุนและหาหุ้นดีๆเข้าพอร์ตเรื่อยๆ
2. เมื่อเกิดภาวะวิกฤต ก็จะเริ่มเข้ามาดูแล้วว่าตัวไหนให้ปันผลเกิน 12%
และต้องเป็นบริษัทที่พื้นฐานแข็งแกร่งจริงๆ
3. เมื่อภาวะกลับสู่ปกติ ราคาก็จะปรับตัวไปตามตลาด
ผมจะทยอยขายบางส่วน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นกระสุนก้อนใหญ่ครั้งต่อไป
note
กระสุนของผมคือ ผมจะตัดเงินกำไรที่ราวๆ 5 ล้าน (ขออนุญาตใช้ตัวเลขนะครับ จะได้เห็นภาพ)
3 ล้านแรก จะเก็บเอาในทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูงๆ เพื่อที่จะเอาไว้เป็นกระสุนในครั้งถัดไป
2 ล้านที่เหลือ จะเอาไว้ในหุ้นปันผล(หรืออาจจะเป็นกองทุนอสังหา)
ที่สามารถจะได้ราว 8 - 10% เพื่อเอามาไว้เป็น คชจ.และเงินออม
4. ถ้าตลาดกลับสู่ภาวะปกติได้ช้า ก็ไม่ซีเรียส
เพราะแค่ปันผลก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
ผมจะนำเงินปันผลและเงินเก็บมาค่อยๆทะยอยสะสมไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะเจอหุ้นถูกอีกครั้ง
4.1 ถ้าปันผลสูงถึงระดับนึงแล้ว ก็ให้รางวัลกับตัวเองและครอบครัวบ้าง
5. สุดท้ายก็วนกลับไปที่ข้อ 1
ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสเลยครับว่าปีนี้จะกำไรจะเป็นกี่%
ไม่มีกะเกณฑ์ว่าจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าเท่านั้นเท่านี้
สำหรับผมรอได้เสมอ
รอในที่นี้หมายถึงรอให้เกิดภาวะวิฤตจริงๆ แล้วค่อยซื้ออย่างมีสติ
1. ช่วงภาวะตลาดปกติหรือกระทิง
ก็จะไม่ทำอะไรมากไปกว่าการเก็บกระสุนและหาหุ้นดีๆเข้าพอร์ตเรื่อยๆ
2. เมื่อเกิดภาวะวิกฤต ก็จะเริ่มเข้ามาดูแล้วว่าตัวไหนให้ปันผลเกิน 12%
และต้องเป็นบริษัทที่พื้นฐานแข็งแกร่งจริงๆ
3. เมื่อภาวะกลับสู่ปกติ ราคาก็จะปรับตัวไปตามตลาด
ผมจะทยอยขายบางส่วน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นกระสุนก้อนใหญ่ครั้งต่อไป
note
กระสุนของผมคือ ผมจะตัดเงินกำไรที่ราวๆ 5 ล้าน (ขออนุญาตใช้ตัวเลขนะครับ จะได้เห็นภาพ)
3 ล้านแรก จะเก็บเอาในทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูงๆ เพื่อที่จะเอาไว้เป็นกระสุนในครั้งถัดไป
2 ล้านที่เหลือ จะเอาไว้ในหุ้นปันผล(หรืออาจจะเป็นกองทุนอสังหา)
ที่สามารถจะได้ราว 8 - 10% เพื่อเอามาไว้เป็น คชจ.และเงินออม
4. ถ้าตลาดกลับสู่ภาวะปกติได้ช้า ก็ไม่ซีเรียส
เพราะแค่ปันผลก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
ผมจะนำเงินปันผลและเงินเก็บมาค่อยๆทะยอยสะสมไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะเจอหุ้นถูกอีกครั้ง
4.1 ถ้าปันผลสูงถึงระดับนึงแล้ว ก็ให้รางวัลกับตัวเองและครอบครัวบ้าง
5. สุดท้ายก็วนกลับไปที่ข้อ 1
ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสเลยครับว่าปีนี้จะกำไรจะเป็นกี่%
ไม่มีกะเกณฑ์ว่าจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าเท่านั้นเท่านี้
สำหรับผมรอได้เสมอ
รอในที่นี้หมายถึงรอให้เกิดภาวะวิฤตจริงๆ แล้วค่อยซื้ออย่างมีสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 24
เหมือนน้องหุยpdGrff เขียน:ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ ตั้งแต่เปิดพอร์ตมายังไม่กล้าเอาเงินออกสักบาท
พอร์ตน้อยค่อยๆโต
แต่ใช้10%ของ "เครดิตเงินปันผล" มาเป็นค่าขนมเท่านั้น
นั่นก็หลายตังอยู่นะ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เปิดประเด็น วิธีการแบ่งใช้เงินของเพื่อนสมาชิก
โพสต์ที่ 25
แบ่งเงินเป็นสองก้อน ก้อนแรกเอาไว้พอกินพอใช้
อีกก้อนเอาไว้ลงทุนอย่างเดียวห้ามถอน
และมีกฎกับตัวเองว่าถ้าจะเอาเงินลงทุนไปใช้ก็ต้องใช้คืนพอร์ดด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อเดือน เป็นค่าเสียโอกาส
สรุปปล่อยกู้ให้ตัวเองผลตอบแทนมากกว่าเล่นหุ้นอีก 555
อีกก้อนเอาไว้ลงทุนอย่างเดียวห้ามถอน
และมีกฎกับตัวเองว่าถ้าจะเอาเงินลงทุนไปใช้ก็ต้องใช้คืนพอร์ดด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อเดือน เป็นค่าเสียโอกาส
สรุปปล่อยกู้ให้ตัวเองผลตอบแทนมากกว่าเล่นหุ้นอีก 555
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป