ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเดิม เ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเดิม เ
โพสต์ที่ 1
มีมองๆไว้บ้างไหมครับ ว่ากลุ่มไหน เพราะอะไร
10ปีโตเกิน 500เปอเซ็นต์
10ปีโตเกิน 500เปอเซ็นต์
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 483
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 2
CPF
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 3
บริษัทประกันชีวิต ครับ ตลาดประกันชีวิต ในประเทศไทย น่าจะขยายตัวได้อีก อัตราการเจาะตลาดต่อประชากรยังน้อย ผมว่าน่าจะเป็น Mega Trend อันนึงได้ ในอีก 10 ปีข้างหน้า
เทียบ Market Cap ตอนนี้ BLA มี Market Cap 58,000 ล้านบาท , SCBLIF มี Market Cap 30,000 ล้านบาท
สองบริษัทนี้ รวมกัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 20% ของตลาดประกันชีวิตในไทยทั้งหมด
หากเอาสองบริษัทบวกรวมกันจะมี Market Cap 88,000 ล้านบาทเอง ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของ market cap ของ ปตท ในปัจจุบัน และยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของ size ของ cpall เลย
ผมว่า ประกันชีวิต ควรจะมีอิทธิพลต่อ สังคมไทย มากกว่านี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้าครับ
เทียบ Market Cap ตอนนี้ BLA มี Market Cap 58,000 ล้านบาท , SCBLIF มี Market Cap 30,000 ล้านบาท
สองบริษัทนี้ รวมกัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 20% ของตลาดประกันชีวิตในไทยทั้งหมด
หากเอาสองบริษัทบวกรวมกันจะมี Market Cap 88,000 ล้านบาทเอง ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของ market cap ของ ปตท ในปัจจุบัน และยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของ size ของ cpall เลย
ผมว่า ประกันชีวิต ควรจะมีอิทธิพลต่อ สังคมไทย มากกว่านี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้าครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 4
วัดตัวเลขไหนครับchukieat30 เขียน:มีมองๆไว้บ้างไหมครับ ว่ากลุ่มไหน เพราะอะไร
10ปีโตเกิน 500เปอเซ็นต์
รายได้โต กำไรโต กระแสเงินสดอิสระโต Market Cap. โต หรือราคาหุ้นโต
ถ้าจะเสนอแต่ชื่อบริษัทก็คงไม่มีประโยชน์มากนัก ทางที่ดี ควรจะเสนอเหตุผลประกอบด้วย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 5
เอาเป็น ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม หรือว่ารายตัวเฉพาะครับ เพราะทั้งกลุ่มโต บางบริษัทอาจเดี้ยงได้จากสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ในขณะที่บางอุตสาหกรรมไม่โต จะมีความน่าดึงดูดใจในการเข้ามาของผู้เล่นใหม่น้อย บริษัทที่หาจุดต่างจุดเด่นของตัวเองได้ก็สามารถโตได้เช่นกัน ผมชอบแบบหลังมากกว่า
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 11
โตนั้น คงบอกไม่ได้แน่นอนว่ากี่% ในกี่ปี
แต่ถ้าหมายถึงตลาดจะมีความต้องการมากขึ้นในอนาคตมากๆ อันนึงที่ผมคิดว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นแน่นอนคือ
โรงพยาบาลเอกชน คนไทยเมื่อมีรายได้ดีขึ้น เกษตรกรรวยขึ้น ก็ต้องการการรักษาที่ดีขึ้นแน่นอน
ต้องการความสะดวกสบายกับชีวิตตนเอง แต่เทรนด์โรงพยาบาล ส่วนใหญ่มองกันว่ามันจะมาพร้อมกับ
เทรนด์ประชากรสูงอายุที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถ้ามองมุมนี้ก็อาจจะหลายปี
แต่ผมคิดว่า โรงพยาบาลเอกชนจะมีตัวเร่งที่เร็วขึ้น จากประเด็นสำคัญ 2 อย่างคือ
1.ประกัน คนเดี๋ยวนี้มีเงินมากขึ้นก็ต้องการความมั่นคงให้ครอบครัว แต่ก่อนบอกกันว่าเรียนจบมาให้เป็นข้าราชการ
เพื่อที่จะมีชีวิตที่มั่นคง เดี๋ยวนี้ตำแหน่งมันน้อย คนก็หาความมั่นคงให้ชีวิตตัวเองด้วยการทำประกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งเมื่อประกันกับโรงพยาบาลเอกชนจับมือกัน ก็ทำให้คนที่มีฐานะปานกลาง คนทั่วไปเข้าถึงบริการของโรงพยาบาล
เอกชนได้มากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน และเมื่อประกันโตเท่าไรโรงพยาบาลเอกชนก็จะโตตามๆกันไป
2.AEC เมื่อเปิดอาเซียน สิ่งที่จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆคือคนจะเดินทางข้ามกันไปมามากขึ้น ตลาดของโรงพยาบาลเอกชน
ก็จะไม่ได้กำจัดแค่คนไทย แต่คนลาว พม่า เขมร เวีดนาม ที่มีฐานะ หากจะรักษาก็อยากรักษาที่ๆดีๆ
ซึ่งประเทศเขายังไม่มี ก็จะเป็นโอกาสสำคัญกับโรงพยาบาลไทยที่มีมาตรฐานสูงกว่าและมีความพร้อม
แต่.... ผมเองก็ยังไม่มีหุ้นโรงพยาบาลเลย อิ อิ
แต่ถ้าหมายถึงตลาดจะมีความต้องการมากขึ้นในอนาคตมากๆ อันนึงที่ผมคิดว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นแน่นอนคือ
โรงพยาบาลเอกชน คนไทยเมื่อมีรายได้ดีขึ้น เกษตรกรรวยขึ้น ก็ต้องการการรักษาที่ดีขึ้นแน่นอน
ต้องการความสะดวกสบายกับชีวิตตนเอง แต่เทรนด์โรงพยาบาล ส่วนใหญ่มองกันว่ามันจะมาพร้อมกับ
เทรนด์ประชากรสูงอายุที่กำลังจะมาถึง ซึ่งถ้ามองมุมนี้ก็อาจจะหลายปี
แต่ผมคิดว่า โรงพยาบาลเอกชนจะมีตัวเร่งที่เร็วขึ้น จากประเด็นสำคัญ 2 อย่างคือ
1.ประกัน คนเดี๋ยวนี้มีเงินมากขึ้นก็ต้องการความมั่นคงให้ครอบครัว แต่ก่อนบอกกันว่าเรียนจบมาให้เป็นข้าราชการ
เพื่อที่จะมีชีวิตที่มั่นคง เดี๋ยวนี้ตำแหน่งมันน้อย คนก็หาความมั่นคงให้ชีวิตตัวเองด้วยการทำประกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งเมื่อประกันกับโรงพยาบาลเอกชนจับมือกัน ก็ทำให้คนที่มีฐานะปานกลาง คนทั่วไปเข้าถึงบริการของโรงพยาบาล
เอกชนได้มากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน และเมื่อประกันโตเท่าไรโรงพยาบาลเอกชนก็จะโตตามๆกันไป
2.AEC เมื่อเปิดอาเซียน สิ่งที่จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆคือคนจะเดินทางข้ามกันไปมามากขึ้น ตลาดของโรงพยาบาลเอกชน
ก็จะไม่ได้กำจัดแค่คนไทย แต่คนลาว พม่า เขมร เวีดนาม ที่มีฐานะ หากจะรักษาก็อยากรักษาที่ๆดีๆ
ซึ่งประเทศเขายังไม่มี ก็จะเป็นโอกาสสำคัญกับโรงพยาบาลไทยที่มีมาตรฐานสูงกว่าและมีความพร้อม
แต่.... ผมเองก็ยังไม่มีหุ้นโรงพยาบาลเลย อิ อิ
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 13
ขอส่งธุรกิจโรงพยาบาลและประกันชีวิตเข้าประกวดครับ
ทั้งสองธุรกิจจะเติบโตอันเนื่องจากแนวโน้มประชากรไทยที่จะเข้าสู่สังคมสูงอายุกันมากขึ้น จากปัจจุบันประชากรไทยจำนวนทุกๆ 9 คนจะมีคนที่อายุเกิน 60 ปีจำนวน 1 คน เป็นทุกๆ 4 คนจะมีคนอายุเกิน 60 ปีจำนวน 1 คน ภายใน 20 ปีข้างหน้า การที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น และคนมีความรู้มากขึ้นทำให้คนมีอายุไขนานขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่ออายุยืนนานขึ้นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันโดยเฉพาะในยามชรา และเมื่อคนเราตระหนักว่าจะมีอายุยาวนานขึ้นทำให้คนเราคำนึงถึงการใช้ชีวิตในอนาคตมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงอายุหลังเกษียณ ทำให้การออมเงินสำหรับใช้จ่ายยามแก่เฒ่ามีความจำเป็นมากขึ้น รวมทั้งเมื่อคนเริ่มชราลงก็จะหาหลักประกันให้กับคนที่รักว่าเมื่อจากโลกนี้ไปคนที่เรารักก็จะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไม่ลำบาก ทำให้ประกันชีวิตทั้งแบบสะสมทรัพย์และเน้นคุ้มครองชีวิตได้รับความสนใจมากขึ้น และเมื่อคนทำประกันชีวิตพ่วงด้วยประกันสุขภาพมากขึ้นก็จะกล้าเข้าโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้นไปในตัว
ธุรกิจโรงพยาบาลนั้นน่าจะเติบโตได้สูงด้วยเหตุผลดังนี้
1. แนวโน้มประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลเติบโตมากขึ้น
2. แพทย์ในประเทศไทยมีคุณภาพมากเนื่องจากเป็นกลุ่มคนหัวกะทิของประเทศต่างจากในต่างประเทศที่คนนิยมเป็นแพทย์น้อยก่า และค่ารักษาพยาบาลของไทยยังต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศที่มีโรงพยาบาลที่มีคุณภาพในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ในประเทศที่อยู่ห่างไกลเลือกจะเดินทางไกลรักษาพยาบาลในเมืองไทย
3. การเดินทางที่สะดวกและถูกลงเรื่อยๆทำให้ต่างประเทศเดินทางมารักษาในไทยง่ายขึ้น
4. ประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่มีมากขึ้นทำให้คนกล้าเข้าโรงพยาบาลแพงๆมากขึ้น ธุรกิจประกันชีวิตนั้นน่าจะเติบโตได้สูงด้วยเหตุผลดังนี้
1. แนวโน้มประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ คนสนใจออมเงินและทำประกันชีวิตมากขึ้น
2. สัดส่วนของเบี้ยประกันในประเทศไทยเมื่อเทียบต่อ GDP หรือต่อหัวยังต่ำกว่าประเทศอื่นๆที่เจริญแล้วอีกมาก
3. มีการขายประกันผ่านธนาคารทำให้คนเข้าถึงประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น
เส้นทางการเติบโตของประกันชีวิตในประเทศที่เจริญแล้วในเอเชียช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเจริญเติบโตประกันชีวิตในไทย่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคต เปรียบเทียบประกันชีวิตของไทยเทียบกับเอเชีย การเติบโตของประกันชีวิตทั่วโลกปี 09 การเติบโตของประกันชีวิตทั่วโลกปี 10 การทำประกันชีวิตของประเทศพัฒนาแล้วเฉลี่ย 5.1% ของ GDP การทำประกันชีวิตของไทย 2.6% ของ GDP เปรียบเทียบประกันชีวิตไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งสองธุรกิจจะเติบโตอันเนื่องจากแนวโน้มประชากรไทยที่จะเข้าสู่สังคมสูงอายุกันมากขึ้น จากปัจจุบันประชากรไทยจำนวนทุกๆ 9 คนจะมีคนที่อายุเกิน 60 ปีจำนวน 1 คน เป็นทุกๆ 4 คนจะมีคนอายุเกิน 60 ปีจำนวน 1 คน ภายใน 20 ปีข้างหน้า การที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น และคนมีความรู้มากขึ้นทำให้คนมีอายุไขนานขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่ออายุยืนนานขึ้นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันโดยเฉพาะในยามชรา และเมื่อคนเราตระหนักว่าจะมีอายุยาวนานขึ้นทำให้คนเราคำนึงถึงการใช้ชีวิตในอนาคตมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงอายุหลังเกษียณ ทำให้การออมเงินสำหรับใช้จ่ายยามแก่เฒ่ามีความจำเป็นมากขึ้น รวมทั้งเมื่อคนเริ่มชราลงก็จะหาหลักประกันให้กับคนที่รักว่าเมื่อจากโลกนี้ไปคนที่เรารักก็จะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไม่ลำบาก ทำให้ประกันชีวิตทั้งแบบสะสมทรัพย์และเน้นคุ้มครองชีวิตได้รับความสนใจมากขึ้น และเมื่อคนทำประกันชีวิตพ่วงด้วยประกันสุขภาพมากขึ้นก็จะกล้าเข้าโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้นไปในตัว
ธุรกิจโรงพยาบาลนั้นน่าจะเติบโตได้สูงด้วยเหตุผลดังนี้
1. แนวโน้มประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลเติบโตมากขึ้น
2. แพทย์ในประเทศไทยมีคุณภาพมากเนื่องจากเป็นกลุ่มคนหัวกะทิของประเทศต่างจากในต่างประเทศที่คนนิยมเป็นแพทย์น้อยก่า และค่ารักษาพยาบาลของไทยยังต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศที่มีโรงพยาบาลที่มีคุณภาพในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ในประเทศที่อยู่ห่างไกลเลือกจะเดินทางไกลรักษาพยาบาลในเมืองไทย
3. การเดินทางที่สะดวกและถูกลงเรื่อยๆทำให้ต่างประเทศเดินทางมารักษาในไทยง่ายขึ้น
4. ประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่มีมากขึ้นทำให้คนกล้าเข้าโรงพยาบาลแพงๆมากขึ้น ธุรกิจประกันชีวิตนั้นน่าจะเติบโตได้สูงด้วยเหตุผลดังนี้
1. แนวโน้มประชากรเข้าสู่สังคมสูงอายุ คนสนใจออมเงินและทำประกันชีวิตมากขึ้น
2. สัดส่วนของเบี้ยประกันในประเทศไทยเมื่อเทียบต่อ GDP หรือต่อหัวยังต่ำกว่าประเทศอื่นๆที่เจริญแล้วอีกมาก
3. มีการขายประกันผ่านธนาคารทำให้คนเข้าถึงประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น
เส้นทางการเติบโตของประกันชีวิตในประเทศที่เจริญแล้วในเอเชียช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเจริญเติบโตประกันชีวิตในไทย่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคต เปรียบเทียบประกันชีวิตของไทยเทียบกับเอเชีย การเติบโตของประกันชีวิตทั่วโลกปี 09 การเติบโตของประกันชีวิตทั่วโลกปี 10 การทำประกันชีวิตของประเทศพัฒนาแล้วเฉลี่ย 5.1% ของ GDP การทำประกันชีวิตของไทย 2.6% ของ GDP เปรียบเทียบประกันชีวิตไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 14
โต500%ในกรอบเวลา10ปี เท่ากับเติบโต19.63%ทบต้นchukieat30 เขียน:มีมองๆไว้บ้างไหมครับ ว่ากลุ่มไหน เพราะอะไร
10ปีโตเกิน 500เปอเซ็นต์
ถ้ามองว่ากลุ่มไหน?นึกไม่ออกเลยครับ
แต่ถ้ารายได้หรือกำไรของบริษัทไหนทำได้น่าจะหาง่ายกว่า เพราะหลายๆบริษัทที่โตได้มากกว่านี้
ก็มาจากการแย่งMarket Share ซะเยอะปะครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 15
ถ้าลงเป็นกิจการชื่ออะไรกลัวเป็นว่า จะถูกมองว่าเชียร์หุ้นนะครับpicklife เขียน:โต500%ในกรอบเวลา10ปี เท่ากับเติบโต19.63%ทบต้นchukieat30 เขียน:มีมองๆไว้บ้างไหมครับ ว่ากลุ่มไหน เพราะอะไร
10ปีโตเกิน 500เปอเซ็นต์
ถ้ามองว่ากลุ่มไหน?นึกไม่ออกเลยครับ
แต่ถ้ารายได้หรือกำไรของบริษัทไหนทำได้น่าจะหาง่ายกว่า เพราะหลายๆบริษัทที่โตได้มากกว่านี้
ก็มาจากการแย่งMarket Share ซะเยอะปะครับ
เลยลงเป็นแค่กลุ่มอุตสาหกรรมหรือกิจการหน่ะครับ
ส่วนตัวมองกิจการประเภท ที่เน้น ตัวเล็ก โตไวครับ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถกกันครับ กิจการที่เพื่อนๆคิดว่า อีก 10ปี จะโตใหญ่กว่าเด
โพสต์ที่ 16
ถ้าเป็นนักลงทุน ที่ดูหรือชอบ PEG ratio และถ้าโจทย์ข้อนี้ หมายถึงกำไรสุทธิโต ห้าเท่าในสิบปีแล้วหล่ะก็
แสดงว่าตลาดตอนนี้ มองว่าหุ้นทุกตัวที่ ได้ พีอี มากกว่า 20 มีโอกาสว่า บริษัทนั้นๆจะกำไรสุทธิโตเป็น ห้าเท่าในสิบปีใช่มั้ยเอ่ย
แสดงว่าตลาดตอนนี้ มองว่าหุ้นทุกตัวที่ ได้ พีอี มากกว่า 20 มีโอกาสว่า บริษัทนั้นๆจะกำไรสุทธิโตเป็น ห้าเท่าในสิบปีใช่มั้ยเอ่ย
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting