ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดหุ้น
- Loby
- Verified User
- โพสต์: 1648
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดหุ้น
โพสต์ที่ 1
เพื่อนๆมีความสงสัยเหมือนผมรึเปล่าครับว่าบริษัทชั้นยอดเหล่านั้นทั้งในแง่ชื่อเสียง ตราสินค้าที่ได้รับความนิยม ส่วนแบ่งตลาดอันดับต้นๆ ในหลากหลายธุรกิจ ไม่สนใจเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์บ้างครับ
ตัวอย่างเช่น เอ็มเคสุกี้ กระทิงแดง ไวตามิลค์ ฟูจิ แดปเปอร์ นารายา เป็นต้น
ช่วยแชร์ความเห็นหน่อยครับ
ตัวอย่างเช่น เอ็มเคสุกี้ กระทิงแดง ไวตามิลค์ ฟูจิ แดปเปอร์ นารายา เป็นต้น
ช่วยแชร์ความเห็นหน่อยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 2
...ผมเคยได้เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนผมคนหนึ่ง...
ซึ่งกงสีที่บ้านทำธุรกิจเเปรรูปน้ำยางพารา...เป็นเจ้าของสวนส้มBrandดังที่กระบี่....ทำธุรกิจสวนปาล์มเเละน้ำมันปาล์ม...ซึ่งมันมั่นใจว่าMarketcapของธุรกิจน้ำมันปาล์มไม่เเพ้...บมจ.ชุมพรน้ำมันปาล์ม...
เคยถามเหมือนกันว่าไม่คิดเข้าตลาดหลักทรัพย์เหรอ...มันบอกว่าถ้าธุรกิจยังดีทำไมต้องเเบ่งให้คนอื่น?
ถ้าไม่ต้องระดมทุนเพื่อขยายกิจการอะไรมากมาย...ธุรกิจเติบโตได้ดี...เรื่องอะไรต้องให้"คนอื่น"เข้ามาตรวจสอบเเละวุ่นวายในกิจการของตัวเองหละครับ...
ซึ่งกงสีที่บ้านทำธุรกิจเเปรรูปน้ำยางพารา...เป็นเจ้าของสวนส้มBrandดังที่กระบี่....ทำธุรกิจสวนปาล์มเเละน้ำมันปาล์ม...ซึ่งมันมั่นใจว่าMarketcapของธุรกิจน้ำมันปาล์มไม่เเพ้...บมจ.ชุมพรน้ำมันปาล์ม...
เคยถามเหมือนกันว่าไม่คิดเข้าตลาดหลักทรัพย์เหรอ...มันบอกว่าถ้าธุรกิจยังดีทำไมต้องเเบ่งให้คนอื่น?
ถ้าไม่ต้องระดมทุนเพื่อขยายกิจการอะไรมากมาย...ธุรกิจเติบโตได้ดี...เรื่องอะไรต้องให้"คนอื่น"เข้ามาตรวจสอบเเละวุ่นวายในกิจการของตัวเองหละครับ...
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 3
totally agreetorpongpak เขียน:...ผมเคยได้เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนผมคนหนึ่ง...
ซึ่งกงสีที่บ้านทำธุรกิจเเปรรูปน้ำยางพารา...เป็นเจ้าของสวนส้มBrandดังที่กระบี่....ทำธุรกิจสวนปาล์มเเละน้ำมันปาล์ม...ซึ่งมันมั่นใจว่าMarketcapของธุรกิจน้ำมันปาล์มไม่เเพ้...บมจ.ชุมพรน้ำมันปาล์ม...
เคยถามเหมือนกันว่าไม่คิดเข้าตลาดหลักทรัพย์เหรอ...มันบอกว่าถ้าธุรกิจยังดีทำไมต้องเเบ่งให้คนอื่น?
ถ้าไม่ต้องระดมทุนเพื่อขยายกิจการอะไรมากมาย...ธุรกิจเติบโตได้ดี...เรื่องอะไรต้องให้"คนอื่น"เข้ามาตรวจสอบเเละวุ่นวายในกิจการของตัวเองหละครับ...
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
- lengmanutd
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 6
ภาษีน่าจะใช่นะครับ แต่อีกเรื่องคือ กำไรที่หามาได้ของบริษัทมีเพียงพอที่จะสามารถนำไปลงทุน หรือขยายกิจการได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องไปเพิ่มทุนให้คนอื่นมาเอาส่วนแบ่งในกำไรของบริษัทไป
ลงทุนในบริษัทที่ดี ราคาหุ้นมี MOS (Downside = Limited) และแนวโน้มกำไรมี Growth (Upside = Infinity)
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 7
กลุ่มเซ็นทรัล ก็เอาเข้าตลาดหุ้นบางส่วน
ยังมีอีกเยอะ
เสี่ยเจริญ รวยติดอันดับ top 3 ของประเทศ ก็ตอนที่จะเอาเบียร์ช้างเข้าตลา่ด
ที่จริงต้องเขียนแทรกไปว่า
เสี่ยเจริญ คนทั่วไปมารู้ว่ารวยติดอันดับ top 3 ของประเทศ ก็ตอนที่จะเอาเบียร์ช้างเข้าตลา่ด
ทำไม
ยังมีอีกเยอะ
เสี่ยเจริญ รวยติดอันดับ top 3 ของประเทศ ก็ตอนที่จะเอาเบียร์ช้างเข้าตลา่ด
ที่จริงต้องเขียนแทรกไปว่า
เสี่ยเจริญ คนทั่วไปมารู้ว่ารวยติดอันดับ top 3 ของประเทศ ก็ตอนที่จะเอาเบียร์ช้างเข้าตลา่ด
ทำไม
- Loby
- Verified User
- โพสต์: 1648
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 8
แสดงว่าการที่บริษัทดีๆนอกตลาดไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพราะเหตุผลเหล่านี้
1. ไม่มีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามปกติ เช่น กู้จากธนาคาร ระดมเงินจากผู้ถือหุ้นเดิม
2. ไม่อยากแบ่งปันความมั่งคั่งที่ตัวเองพึงจะได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
3. เสียภาษีน้อยกว่าความเป็นจริง
4. ไม่สนใจในเรื่องความโปร่งใสหรือธรรมาภิบาล และการรับผิดชอบต่อสังคม
อย่างนี้บริษัทที่ยังอยู่ในตลาดและกำลังเข้ามาใหม่ในอนาคต ดูเหมือนจะเสียผลประโยชน์
มากกว่าบริษัทที่อยู่นอกตลาด แล้วแบบนี้ทำไมบริษัทดีๆในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทถึง
เลือกที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล่ะครับ
เท่าที่ผมทราบคือ
1. ต้องการให้บริษัทเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณงานและโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
2. ระดมทุนเพิ่มจากการIPO, คืนเงินกู้ระยะสั้น, สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นต่อธนาคาร แต่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นไปบ้าง
3. ได้แสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ทั้งในด้านการทำระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล ตรวจสอบได้ และจ่ายเงินภาษีกลับสู่ประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อนำไปพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
4. แสดงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ที่จะดูแลและรักษาผลประโยชน์หรือสินทรัพย์โดยส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการจัดการสินทรัพย์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยส่วนตัว ผมคิดว่าการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ น่าจะได้ประโยชน์ในหลายแง่มุมต่อทุกคนในประเทศมากกว่าการประกอบธุรกิจอยู่นอกตลาดเพียงอย่างเดียว
เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ
1. ไม่มีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามปกติ เช่น กู้จากธนาคาร ระดมเงินจากผู้ถือหุ้นเดิม
2. ไม่อยากแบ่งปันความมั่งคั่งที่ตัวเองพึงจะได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
3. เสียภาษีน้อยกว่าความเป็นจริง
4. ไม่สนใจในเรื่องความโปร่งใสหรือธรรมาภิบาล และการรับผิดชอบต่อสังคม
อย่างนี้บริษัทที่ยังอยู่ในตลาดและกำลังเข้ามาใหม่ในอนาคต ดูเหมือนจะเสียผลประโยชน์
มากกว่าบริษัทที่อยู่นอกตลาด แล้วแบบนี้ทำไมบริษัทดีๆในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทถึง
เลือกที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล่ะครับ
เท่าที่ผมทราบคือ
1. ต้องการให้บริษัทเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณงานและโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
2. ระดมทุนเพิ่มจากการIPO, คืนเงินกู้ระยะสั้น, สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นต่อธนาคาร แต่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นไปบ้าง
3. ได้แสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ทั้งในด้านการทำระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล ตรวจสอบได้ และจ่ายเงินภาษีกลับสู่ประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อนำไปพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
4. แสดงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ที่จะดูแลและรักษาผลประโยชน์หรือสินทรัพย์โดยส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการจัดการสินทรัพย์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยส่วนตัว ผมคิดว่าการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ น่าจะได้ประโยชน์ในหลายแง่มุมต่อทุกคนในประเทศมากกว่าการประกอบธุรกิจอยู่นอกตลาดเพียงอย่างเดียว
เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 9
ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการที่
กิจการขายของได้เรื่อยๆติดตลาด
มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง
ขายของเงินสด รับของมาขายเป็นเงินเชื่อ
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ใช้เงินลงทุนขยายกิจการไม่มาก เงินจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็เพียงพอต่อการขยายกิจการชิวๆ
เอาเงินไปลงทุนก็แล้วยังมีเงินเหลือไปจ่ายหนี้จ่ายสิน
สินค้าไม่ต้องทำ R&D เยอะ
มีญาติ-เพื่อนสนิทอยู่กรมสัมพากร
จะมาเข้าตลาดเพื่อ
กิจการขายของได้เรื่อยๆติดตลาด
มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง
ขายของเงินสด รับของมาขายเป็นเงินเชื่อ
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ใช้เงินลงทุนขยายกิจการไม่มาก เงินจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็เพียงพอต่อการขยายกิจการชิวๆ
เอาเงินไปลงทุนก็แล้วยังมีเงินเหลือไปจ่ายหนี้จ่ายสิน
สินค้าไม่ต้องทำ R&D เยอะ
มีญาติ-เพื่อนสนิทอยู่กรมสัมพากร
จะมาเข้าตลาดเพื่อ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 10
เห็นด้วยครับpat4310 เขียน:ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการที่
กิจการขายของได้เรื่อยๆติดตลาด
มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง
ขายของเงินสด รับของมาขายเป็นเงินเชื่อ
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ใช้เงินลงทุนขยายกิจการไม่มาก เงินจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็เพียงพอต่อการขยายกิจการชิวๆ
เอาเงินไปลงทุนก็แล้วยังมีเงินเหลือไปจ่ายหนี้จ่ายสิน
สินค้าไม่ต้องทำ R&D เยอะ
มีญาติ-เพื่อนสนิทอยู่กรมสัมพากร
จะมาเข้าตลาดเพื่อ
เป็นผมๆก็คงไม่เอาเข้าตลาดหุ้นเช่นกัน
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 11
แต่ถ้าเราโชคดีเจอบริษัทแบบนี้ในอยู่ตลาด และราคามี MOS เยอะๆmarcus147 เขียน:เห็นด้วยครับpat4310 เขียน:ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการที่
กิจการขายของได้เรื่อยๆติดตลาด
มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง
ขายของเงินสด รับของมาขายเป็นเงินเชื่อ
มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ใช้เงินลงทุนขยายกิจการไม่มาก เงินจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็เพียงพอต่อการขยายกิจการชิวๆ
เอาเงินไปลงทุนก็แล้วยังมีเงินเหลือไปจ่ายหนี้จ่ายสิน
สินค้าไม่ต้องทำ R&D เยอะ
มีญาติ-เพื่อนสนิทอยู่กรมสัมพากร
จะมาเข้าตลาดเพื่อ
เป็นผมๆก็คงไม่เอาเข้าตลาดหุ้นเช่นกัน
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 60
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 12
เท่าที่เจอลูกค้ามาตอนทำงานวาณิชธนกิจ ลูกค้าดีๆ จำนวนมากไม่ยอมเอาบริษัทเข้าตลาดเพราะ "ภาษี" เป็นประเด็นอันดับหนึ่ง เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรองๆ ลงไป เคยเจอบริษัทนึง ยอดขายต่อปี 2 พันกว่าล้านมาหลายปี แต่ว่างบส่งสรรพากรรายงานกำไรสุทธิแค่ปีละ 5แสน - 1 ล้านบาท
ประเทศนี้ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจไม่ได้เสียภาษีกันจริงๆ จังๆ แต่ไม่เห็นเคยมีรัฐบาลไหนกล้าเอาเรื่องนี้มาทำกัน แปลก......
ประเทศนี้ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจไม่ได้เสียภาษีกันจริงๆ จังๆ แต่ไม่เห็นเคยมีรัฐบาลไหนกล้าเอาเรื่องนี้มาทำกัน แปลก......
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 13
Thailand is a small country with closed business environment. Unlike the busineses in us or eu, local busiesses are enjoying easy compettition with their local markets. They don't need to provide world class standard products and pople still buy it. No big investment is required. But someday when our business is very much linked to the world,it's incresingly does, i belive most of the companies will be forced to list thenselves in the SEC.
บทความดีดีสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
- Loby
- Verified User
- โพสต์: 1648
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 14
ทำไมไม่มีใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ เพื่อความเป็นธรรมและเสรีในการแข่งขัน เกิดการพัฒนาต่อส่วนรวม ผมอยากเห็นประเทศไทยมีความโปร่งใสในการทำธุรกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ครับjack2262 เขียน:เท่าที่เจอลูกค้ามาตอนทำงานวาณิชธนกิจ ลูกค้าดีๆ จำนวนมากไม่ยอมเอาบริษัทเข้าตลาดเพราะ "ภาษี" เป็นประเด็นอันดับหนึ่ง เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรองๆ ลงไป เคยเจอบริษัทนึง ยอดขายต่อปี 2 พันกว่าล้านมาหลายปี แต่ว่างบส่งสรรพากรรายงานกำไรสุทธิแค่ปีละ 5แสน - 1 ล้านบาท
ประเทศนี้ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจไม่ได้เสียภาษีกันจริงๆ จังๆ แต่ไม่เห็นเคยมีรัฐบาลไหนกล้าเอาเรื่องนี้มาทำกัน แปลก......
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 15
จะเปลี่ยนได้ไงครับ ในเมื่อท่านเหล่านั้นต่างก็มีกิจการเป็นของตนเองเหมือนกันLoby เขียน:ทำไมไม่มีใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ เพื่อความเป็นธรรมและเสรีในการแข่งขัน เกิดการพัฒนาต่อส่วนรวม ผมอยากเห็นประเทศไทยมีความโปร่งใสในการทำธุรกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ครับjack2262 เขียน:เท่าที่เจอลูกค้ามาตอนทำงานวาณิชธนกิจ ลูกค้าดีๆ จำนวนมากไม่ยอมเอาบริษัทเข้าตลาดเพราะ "ภาษี" เป็นประเด็นอันดับหนึ่ง เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรองๆ ลงไป เคยเจอบริษัทนึง ยอดขายต่อปี 2 พันกว่าล้านมาหลายปี แต่ว่างบส่งสรรพากรรายงานกำไรสุทธิแค่ปีละ 5แสน - 1 ล้านบาท
ประเทศนี้ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจไม่ได้เสียภาษีกันจริงๆ จังๆ แต่ไม่เห็นเคยมีรัฐบาลไหนกล้าเอาเรื่องนี้มาทำกัน แปลก......
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 16
ไอ้บ.ดีๆ ไม่เข้าตลาดก็ไม่แปลกครับ ถ้าดีจริงทั้งสินค้าและบริการ ยังไงึนไทยก็ได้ประโยชน์อยู่ดี
แต่บ.ที่งั้นๆ กำไรสวิงไปมา พอๆกับราคาหุ้น ผมเห็นซะตรึม แถมบางเจ้าขึ้น Top volume บางวันด้วยนะ
แต่บ.ที่งั้นๆ กำไรสวิงไปมา พอๆกับราคาหุ้น ผมเห็นซะตรึม แถมบางเจ้าขึ้น Top volume บางวันด้วยนะ
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
-
- Verified User
- โพสต์: 28
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 17
ขอลองตอบนะคะ การจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น ถ้าอ้างอิงจากที่คุณ Loby ว่าไว้ว่ามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. ต้องการให้บริษัทเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณงานและโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
---> ถ้าบริษัทนั้นมีชื่อเสียงอยู่แล้ว อย่างสุกี้เอ็มเค ทุกคนรู้จักหมด วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
2. ระดมทุนเพิ่มจากการIPO, คืนเงินกู้ระยะสั้น, สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นต่อธนาคาร แต่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นไปบ้าง
---> ถ้าบริษัทนั้นมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
3. ได้แสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ทั้งในด้านการทำระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล ตรวจสอบได้ และจ่ายเงินภาษีกลับสู่ประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อนำไปพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
---> ถ้าบริษัทนั้นสามารถแสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมในด้านอื่นๆ ได้ดีอยู่แล้ว นอกเหนือจากการทำระบบบัญชีหรือธรรมาภิบาล เช่นมีแคมเปญการคืนกำไรให้ลูกค้า หรือเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมอยู่สม่ำเสมอ วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
4. แสดงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ที่จะดูแลและรักษาผลประโยชน์หรือสินทรัพย์โดยส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการจัดการสินทรัพย์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
---> ถ้าเขาถือหุ้นกันเป็นการภายในโดยไม่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วผู้ถือหุ้นทุกคนก็รู้สึกได้ถึงความเป็นเจ้าของ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการซึ่งตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอแล้วในสายตาของผู้ถือหุ้นทุกคน การเปิดโอกาสให้คนอื่นซึ่งยังไม่รู้ในศักยภาพเลยเข้ามามีส่วนร่วมอาจจะเสี่ยงกว่าการถือครองเพียงไม่กี่คน วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
เท่าที่คิดได้นะคะ
1. ต้องการให้บริษัทเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณงานและโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
---> ถ้าบริษัทนั้นมีชื่อเสียงอยู่แล้ว อย่างสุกี้เอ็มเค ทุกคนรู้จักหมด วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
2. ระดมทุนเพิ่มจากการIPO, คืนเงินกู้ระยะสั้น, สร้างเครดิตความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นต่อธนาคาร แต่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นไปบ้าง
---> ถ้าบริษัทนั้นมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
3. ได้แสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ทั้งในด้านการทำระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานสากล ตรวจสอบได้ และจ่ายเงินภาษีกลับสู่ประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อนำไปพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนต่อไป
---> ถ้าบริษัทนั้นสามารถแสดงออกถึงการรับผิดชอบต่อสังคมในด้านอื่นๆ ได้ดีอยู่แล้ว นอกเหนือจากการทำระบบบัญชีหรือธรรมาภิบาล เช่นมีแคมเปญการคืนกำไรให้ลูกค้า หรือเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมอยู่สม่ำเสมอ วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
4. แสดงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในธุรกิจนั้น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเสนอแนะและปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ที่จะดูแลและรักษาผลประโยชน์หรือสินทรัพย์โดยส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อการจัดการสินทรัพย์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
---> ถ้าเขาถือหุ้นกันเป็นการภายในโดยไม่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วผู้ถือหุ้นทุกคนก็รู้สึกได้ถึงความเป็นเจ้าของ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการซึ่งตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอแล้วในสายตาของผู้ถือหุ้นทุกคน การเปิดโอกาสให้คนอื่นซึ่งยังไม่รู้ในศักยภาพเลยเข้ามามีส่วนร่วมอาจจะเสี่ยงกว่าการถือครองเพียงไม่กี่คน วัตถุประสงค์ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น
เท่าที่คิดได้นะคะ
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 18
ผมว่าเรื่องธรรมดานะFeudalz เขียน:จะเปลี่ยนได้ไงครับ ในเมื่อท่านเหล่านั้นต่างก็มีกิจการเป็นของตนเองเหมือนกันLoby เขียน:ทำไมไม่มีใครคิดที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ เพื่อความเป็นธรรมและเสรีในการแข่งขัน เกิดการพัฒนาต่อส่วนรวม ผมอยากเห็นประเทศไทยมีความโปร่งใสในการทำธุรกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ครับjack2262 เขียน:เท่าที่เจอลูกค้ามาตอนทำงานวาณิชธนกิจ ลูกค้าดีๆ จำนวนมากไม่ยอมเอาบริษัทเข้าตลาดเพราะ "ภาษี" เป็นประเด็นอันดับหนึ่ง เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรองๆ ลงไป เคยเจอบริษัทนึง ยอดขายต่อปี 2 พันกว่าล้านมาหลายปี แต่ว่างบส่งสรรพากรรายงานกำไรสุทธิแค่ปีละ 5แสน - 1 ล้านบาท
ประเทศนี้ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจไม่ได้เสียภาษีกันจริงๆ จังๆ แต่ไม่เห็นเคยมีรัฐบาลไหนกล้าเอาเรื่องนี้มาทำกัน แปลก......
ทุกประเทศ ชนชั้นกลางเสียภาษีเยอะสุดอยู่แล้ว
ส่วนชนชั้นที่สูงกว่ากลาง เค้าจะมีวิธีทั้งที่ถูกกฏและผิดกฏ ทำให้เสียภาษีน้อยอยู่แล้ว
ชนชั้นกลางใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานหาเงินเดือน
เวลาที่จะทำอย่างอื่นเลยน้อยลง
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 19
บริษัทงั้นๆ ก็เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ผมก็ไม่เเปลกใจครับromee เขียน:ไอ้บ.ดีๆ ไม่เข้าตลาดก็ไม่แปลกครับ ถ้าดีจริงทั้งสินค้าและบริการ ยังไงึนไทยก็ได้ประโยชน์อยู่ดี
แต่บ.ที่งั้นๆ กำไรสวิงไปมา พอๆกับราคาหุ้น ผมเห็นซะตรึม แถมบางเจ้าขึ้น Top volume บางวันด้วยนะ
ไม่งั้นคงไม่มีคำว่า"เเต่งหน้าทาปาก"ก่อนยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรอกครับ
มันเลยทำให้นักลงทุนอย่างพวกเราได้สนุกกับการเเยก"เพรช"ออกจาก"ทราย"ไงครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- Azazel
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 21
ผมคิดว่าภาษีเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ที่สำคัญกว่าคือการแบ่งกำไรไปให้คนอื่น ซึ่งถ้ากิจการดีอยู่ ไม่ต้องการระดมทุน ไม่มีใครนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ครับ
Time is on your side
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 122
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 23
ผู้ประกอบการในประเทศเรายังมีความรู้ในการนําตลาดหุ้นมาใช้ไม่ดีพอครับ
ต่างกับ ตปท ที่บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาในตลาดหุ้น เพราะเค้ารู้วิธีในการใช้ตลาดหุ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างมูลค่า
ยกตัวอย่างง่ายๆนะ ถ้ากิจการไปได้สวย คุณเอาเข้าตลาดหุ้น นอกจากมูลค่าของกิจการคุณเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือมูลค่าในหลักทรัพย์ของกิจการที่เค้าเอาเข้าตลาด เหมือนเอาเงามาสร้างมูค่าเพิ่มขึ้น
สมมุติบริษัท A เราเป็นเจ้าของถือหุ้น 100% ไม่ได้เอาเข้าตลาด มีกําไร 100% บาท ก็เท่ากะเจ้าของได้กําไร 100%
บริษัท B เจ้าของถือหุ้น 60% เอาเข้าตลาดหุ้น มีกําไร 100% สมมุติปันผล 100% ของกําไรเลย เจ้าของได้ 60% แต่บริษัทเข้าตลาดหุ้น ถ้าเราให้นิยามว่าในที่สุดแล้วราคาจะตามผลประกอบการ มูลค่าบริษัทในตลาดหุ้นก็จะสูงขึ้น เหมือนเงาของบริษัทช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 60%
จะเห็นว่าในกรณีบริษัท A เจ้าของได้มูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้น 100%
แต่กรณีบริษัท B เจ้าของได้มูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้น 120% แม้ว่าจะถือหุ้นแค่ 60%
ตัวอย่างข้างต้นสมมุติเอาลวกๆนะครับ ให้พอเห็นภาพเฉยๆ อธิบายไม่ค่อยเก่งครับ หวังว่าจะพอเห็นภาพที่ผมมอง
ยังไม่รวมถึงว่าหากกิจการไม่ดีในบางช่วงเจ้าของยังสามารถลดความเสี่ยงโดยการ SAP หรือใช้กลยุทธ์ต่างๆได้อีก
การเอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์มันก็เหมือนการเพิ่มกระดานของเจ้าของกิจการให้เดินหมากได้หลากหลายขึ้น
ถ้าคิดว่ากิจการตัวเองดีจริงก็ถือหุ้นมันเยอะๆ ปันผลก็ไม่ต้องแบ่งใครมาก ปันมาก็เข้าตัวเอง
กิจการจริงโต
กิจการเงา(มูลค่าในตลาด)โต
เหมือนเป็นตัวทวีคูณ
เทียบกับปันผลบางส่วนที่จ่ายออกไปให้ผู้ถือหุ้น ก็นับว่าเงินส่วนนั้นเป็นส่วนที่น้อยกว่ามาก
ยังไม่รวมถึงว่าบริษัทที่ได้เอาเข้าตลาดก็เหมือนกับจ่ายค่าโฆษณาระยะยาวไปในตัว
ข่าวตามเวป
ข่าวทางโทรทัศน์
ข่าวตามหนังสือพิมพ์
สื่อต่างๆที่จะมีการเข้ามาวิเคราะห์ธุรกิจโดยเราไม่ต้องเสียเงินจ้าง
ยังมีอีกเยอะนะในความคิดผม ที่เห็นว่าการเอาบริษัทดีๆเข้าตลาดหุ้นเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกิจการ ถ้าเขาใช้มันเป็นนะ
ต่างกับ ตปท ที่บริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาในตลาดหุ้น เพราะเค้ารู้วิธีในการใช้ตลาดหุ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างมูลค่า
ยกตัวอย่างง่ายๆนะ ถ้ากิจการไปได้สวย คุณเอาเข้าตลาดหุ้น นอกจากมูลค่าของกิจการคุณเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือมูลค่าในหลักทรัพย์ของกิจการที่เค้าเอาเข้าตลาด เหมือนเอาเงามาสร้างมูค่าเพิ่มขึ้น
สมมุติบริษัท A เราเป็นเจ้าของถือหุ้น 100% ไม่ได้เอาเข้าตลาด มีกําไร 100% บาท ก็เท่ากะเจ้าของได้กําไร 100%
บริษัท B เจ้าของถือหุ้น 60% เอาเข้าตลาดหุ้น มีกําไร 100% สมมุติปันผล 100% ของกําไรเลย เจ้าของได้ 60% แต่บริษัทเข้าตลาดหุ้น ถ้าเราให้นิยามว่าในที่สุดแล้วราคาจะตามผลประกอบการ มูลค่าบริษัทในตลาดหุ้นก็จะสูงขึ้น เหมือนเงาของบริษัทช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย 60%
จะเห็นว่าในกรณีบริษัท A เจ้าของได้มูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้น 100%
แต่กรณีบริษัท B เจ้าของได้มูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้น 120% แม้ว่าจะถือหุ้นแค่ 60%
ตัวอย่างข้างต้นสมมุติเอาลวกๆนะครับ ให้พอเห็นภาพเฉยๆ อธิบายไม่ค่อยเก่งครับ หวังว่าจะพอเห็นภาพที่ผมมอง
ยังไม่รวมถึงว่าหากกิจการไม่ดีในบางช่วงเจ้าของยังสามารถลดความเสี่ยงโดยการ SAP หรือใช้กลยุทธ์ต่างๆได้อีก
การเอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์มันก็เหมือนการเพิ่มกระดานของเจ้าของกิจการให้เดินหมากได้หลากหลายขึ้น
ถ้าคิดว่ากิจการตัวเองดีจริงก็ถือหุ้นมันเยอะๆ ปันผลก็ไม่ต้องแบ่งใครมาก ปันมาก็เข้าตัวเอง
กิจการจริงโต
กิจการเงา(มูลค่าในตลาด)โต
เหมือนเป็นตัวทวีคูณ
เทียบกับปันผลบางส่วนที่จ่ายออกไปให้ผู้ถือหุ้น ก็นับว่าเงินส่วนนั้นเป็นส่วนที่น้อยกว่ามาก
ยังไม่รวมถึงว่าบริษัทที่ได้เอาเข้าตลาดก็เหมือนกับจ่ายค่าโฆษณาระยะยาวไปในตัว
ข่าวตามเวป
ข่าวทางโทรทัศน์
ข่าวตามหนังสือพิมพ์
สื่อต่างๆที่จะมีการเข้ามาวิเคราะห์ธุรกิจโดยเราไม่ต้องเสียเงินจ้าง
ยังมีอีกเยอะนะในความคิดผม ที่เห็นว่าการเอาบริษัทดีๆเข้าตลาดหุ้นเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกิจการ ถ้าเขาใช้มันเป็นนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 153
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 24
ผมว่าปัญหาก็คือ เรื่อง(เลี่ยง)ภาษี + บทลงโทษ (ที่เบามากๆๆๆๆๆ) แหละครับ ดังนั้นธุรกิจที่ดีจึงไม่
อยากเข้าตลาดหุ้น.... เพราะไม่อยากโดนตรวจสอบ และ อื่นๆ
แต่ทำไมประชาชนตาดำๆ มนุษย์เงินเดือน จ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย (โดนหักจากเงินเดือน เบี้ยวไม่ได้)
แต่พ่อค้าหน้าเลือดบางคน อาจจะไม่เสียภาษี หรือ ไม่เสียเลย หรือ แกล้งฉลาดน้อย (ต้องจ่ายด้วยเหรอ)
อยากเข้าตลาดหุ้น.... เพราะไม่อยากโดนตรวจสอบ และ อื่นๆ
แต่ทำไมประชาชนตาดำๆ มนุษย์เงินเดือน จ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย (โดนหักจากเงินเดือน เบี้ยวไม่ได้)
แต่พ่อค้าหน้าเลือดบางคน อาจจะไม่เสียภาษี หรือ ไม่เสียเลย หรือ แกล้งฉลาดน้อย (ต้องจ่ายด้วยเหรอ)
มงคลชีวิต 38 ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ
-
- Verified User
- โพสต์: 93
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 25
ภาษีน่าจะมาเป็นอันดับต้นๆ ครับ ทั้งภาษีนิติบุคคล ภาษีนำเข้า ภาษีซื้อ ภาษีขาย เต็มไปหมด
ส่วนเข้าตลท.แล้วดีอย่างไง เรื่องแรกก็คงเป็นเรื่องเงินุทน ที่บริษัทสามารถระดมทุนได้ที่ราคา premium ยิ่งธุรกิจยิ่งดี premium ก็จะยิ่งสูง ส่วนรองๆลงมาคงเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารต่างก็จะปลดภาระค้ำประกันส่วนตัวให้ และมันยังมีเรื่องของการจัดการแผนภาษีด้วย (หุ้นที่ผถห.ถือก็มีสภาพคล่อง ขายหุ้นไม่เสียภาษี) ที่นึกออก ก็อาจจะมีเรื่องระบบบัญชีที่มีมาตรฐาน รู้ว่าทำมาหาได้เท่าไหร่กันแน่ และ ถ้ายิ่งมีคนในครอบครัวถือหุ้นกันหลายๆคน ระบบบัญชีที่มีมาตรฐาน ก็จะทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆที่ไม่ได้ดูแลเรื่องการเงินของกิจการสบายใจได้
ส่วนเข้าตลท.แล้วดีอย่างไง เรื่องแรกก็คงเป็นเรื่องเงินุทน ที่บริษัทสามารถระดมทุนได้ที่ราคา premium ยิ่งธุรกิจยิ่งดี premium ก็จะยิ่งสูง ส่วนรองๆลงมาคงเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารต่างก็จะปลดภาระค้ำประกันส่วนตัวให้ และมันยังมีเรื่องของการจัดการแผนภาษีด้วย (หุ้นที่ผถห.ถือก็มีสภาพคล่อง ขายหุ้นไม่เสียภาษี) ที่นึกออก ก็อาจจะมีเรื่องระบบบัญชีที่มีมาตรฐาน รู้ว่าทำมาหาได้เท่าไหร่กันแน่ และ ถ้ายิ่งมีคนในครอบครัวถือหุ้นกันหลายๆคน ระบบบัญชีที่มีมาตรฐาน ก็จะทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆที่ไม่ได้ดูแลเรื่องการเงินของกิจการสบายใจได้
- tn143
- Verified User
- โพสต์: 229
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 26
ปัญหาหลัก ต้องถามกลับไปว่า เขาจะเอาเข้าตลาดทำไมมากกว่า
การเข้าตลาด บ.ได้เงินครั้งเดียว ถ้าบ.ไม่ต้องใช้เงินก็ไม่รู้จะเอามาเข้าทำไม
ได้เงินครั้งเดียว ต้องเป็นทาสผู้ถือหุ้นไปตลอด ตอบคำถามอีกมากมาย
ส่วน บ.ที่ต้องใช้เงินเยอะๆ และเพิ่มทุนบ่อยๆ ก็ต้องจัดเป็น บ.ไม่ดีอีก(ผถห.สาปแช่งอีก)
ถ้าเป็น บ.เกิดใหม่ แลกกับการขยายกิจการ สร้างความน่าเชื่อถือ มันก็คุ้มค่า
อ่อ แล้ววันไหน ถ้า mk จะเข้าตลาด เราก็ควรจะสงสัยด้วยว่าเอาเงินไปทำอะไร
หรือว่ากิจการ ไม่ดีอย่างที่เราคิด ใครจะเอาของดีมาขายถูก?
เรื่องภาษี ผมว่ามองร้ายเกินไป กล่าวหากันเกินไป
ธุรกิจดีๆไม่ได้แคร์เรื่องภาษีเลย เพราะมีจะจ่าย รวยแล้วใครจะอยากเสี่ยง
ธุรกิจที่ต้องหลบภาษี ก็เพราะกำไรน้อย ภาษีขายตลาดไม่รับ(ผลักไม่ได้)
อย่างนี้ก็ไม่ใช่กิจการยอดเยี่ยมอีก
การเข้าตลาด บ.ได้เงินครั้งเดียว ถ้าบ.ไม่ต้องใช้เงินก็ไม่รู้จะเอามาเข้าทำไม
ได้เงินครั้งเดียว ต้องเป็นทาสผู้ถือหุ้นไปตลอด ตอบคำถามอีกมากมาย
ส่วน บ.ที่ต้องใช้เงินเยอะๆ และเพิ่มทุนบ่อยๆ ก็ต้องจัดเป็น บ.ไม่ดีอีก(ผถห.สาปแช่งอีก)
ถ้าเป็น บ.เกิดใหม่ แลกกับการขยายกิจการ สร้างความน่าเชื่อถือ มันก็คุ้มค่า
อ่อ แล้ววันไหน ถ้า mk จะเข้าตลาด เราก็ควรจะสงสัยด้วยว่าเอาเงินไปทำอะไร
หรือว่ากิจการ ไม่ดีอย่างที่เราคิด ใครจะเอาของดีมาขายถูก?
เรื่องภาษี ผมว่ามองร้ายเกินไป กล่าวหากันเกินไป
ธุรกิจดีๆไม่ได้แคร์เรื่องภาษีเลย เพราะมีจะจ่าย รวยแล้วใครจะอยากเสี่ยง
ธุรกิจที่ต้องหลบภาษี ก็เพราะกำไรน้อย ภาษีขายตลาดไม่รับ(ผลักไม่ได้)
อย่างนี้ก็ไม่ใช่กิจการยอดเยี่ยมอีก
- Loby
- Verified User
- โพสต์: 1648
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทดีๆและยอดเยี่ยมของไทยหลายบริษัทจึงไม่เข้าตลาดห
โพสต์ที่ 27
ขอบคุณทุกท่านในหลากหลายมุมมองครับ
สำหรับผมแล้วการที่เรามีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของบริษัทดีๆผ่านการเป็นผู้ถือหุ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องยอมรับว่าการเอาบริษัทดีๆเข้าตลาดจะต้องผ่านการตรวจสอบที่มากกว่าอยู่นอกตลาด และควรโปร่งใสในทุกด้านทั้งจริยธรรม ธรรมาภิบาล ต่อทุกฝ่าย อันที่จริงผมอยากให้ทุกคนที่เป็นผู้ประกอบการนอกตลาด ควรเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ควรคิดแต่เพียงเรื่องการต้องจ่ายภาษี ทั้งที่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำตามกฏหมายอยู่แล้ว บริษัทใหญ่โตมากมายในต่างประเทศต่างพร้อมใจที่จะเอาบริษัทของตัวเองเข้าจดทะเบียน เพราะมันแสดงถึงการรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแท้จริง ได้ทำให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ตรวจสอบ และสร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ประชาชนในประเทศอย่างทั่วถึงมากกว่าเดิม
ถ้ามองในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง เราก็อยากเป็นเจ้าของบริษัทดีๆ ที่รับผิดชอบต่อสังคม เสียภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สร้างงานให้แก่ประชาชน จัดสรรและใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์ ให้ผลตอบแทนกลับคืนต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม ซึ่งถ้าเราเจอบริษัทแบบนี้เราก็อยากเป็นเจ้าของใช่หรือไม่ครับ
แล้วทำไมบริษัทเหล่านั้นถึงเลือกที่จะรักษาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว เพียงอย่างเดียวล่ะครับ
สำหรับผมแล้วการที่เรามีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของบริษัทดีๆผ่านการเป็นผู้ถือหุ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องยอมรับว่าการเอาบริษัทดีๆเข้าตลาดจะต้องผ่านการตรวจสอบที่มากกว่าอยู่นอกตลาด และควรโปร่งใสในทุกด้านทั้งจริยธรรม ธรรมาภิบาล ต่อทุกฝ่าย อันที่จริงผมอยากให้ทุกคนที่เป็นผู้ประกอบการนอกตลาด ควรเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ควรคิดแต่เพียงเรื่องการต้องจ่ายภาษี ทั้งที่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำตามกฏหมายอยู่แล้ว บริษัทใหญ่โตมากมายในต่างประเทศต่างพร้อมใจที่จะเอาบริษัทของตัวเองเข้าจดทะเบียน เพราะมันแสดงถึงการรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแท้จริง ได้ทำให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ตรวจสอบ และสร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ประชาชนในประเทศอย่างทั่วถึงมากกว่าเดิม
ถ้ามองในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง เราก็อยากเป็นเจ้าของบริษัทดีๆ ที่รับผิดชอบต่อสังคม เสียภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สร้างงานให้แก่ประชาชน จัดสรรและใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์ ให้ผลตอบแทนกลับคืนต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม ซึ่งถ้าเราเจอบริษัทแบบนี้เราก็อยากเป็นเจ้าของใช่หรือไม่ครับ
แล้วทำไมบริษัทเหล่านั้นถึงเลือกที่จะรักษาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว เพียงอย่างเดียวล่ะครับ