ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 1
ผมเคยเขียนแบบนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณปีที่แล้ว
ส่วนมากคนไม่ชอบ และได้การตอบรับที่ไม่ดีเลย
บางคนยังสงสัยอีกว่า ผมมีอะไรแอบแฝงในการเขียน
สิ่งที่ผมมีอยู่ก็คือ ผมพิจารณาทุกสิ่งทีคนเขียน จากเนื้อหา
โดยใช้ความรู้สึกชอบไม่ชอบเป็นการส่วนตัวในการตัดสินน้อยมาก
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์แนะนำ
"ข้อสาม ต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นอย่างเหมาะสม นั่นก็คือ ถ้ามีเงิน
ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็ควรต้องมีหุ้นอย่างน้อยประมาณ 5 ตัวโดยที่ตัวใหญ่สุดไม่
ควรจะเกิน 30% ของพอร์ตนอกจากนั้น ควรจะถือหุ้นในหลาย ๆ อุตสาหกรรม"
ผมว่า ดร. ถือ cpall มากกว่า 30% ของ port และหุ้นเกือบทั้งหมดก็ไม่เห็น
กระจายอุตสาหกรรมเลย สิ่งที่ ดร.แนะนำมี 8 ข้อ ผมแย้งแค่ข้อเดียวถือว่าน้อยมาก
อาจจะคิดว่าผมเป็นคนประเภทอืมนึกไม่ออก แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ ดร.ประสพความ
สำเร็จอย่างถล่มทลายเร็จก็คือหลักการในข้อ 3 ที่ดร.ทำตรงข้ามกับ ดร.แนะนำให้ทำ
หุ้นที่ทำให้ ดร.มีชื่อเสียงและทุกคนยกย่อง ก็คือ cpall hmpro
ถ้าไม่มีหุ้น 2ตัวนี้ ชื่อเสียงและศรัทธาของนักลงทุนทั่วไป ที่มี ต่อ ดร.ก็คงไม่มากเท่านี้
ส่วนมากคนไม่ชอบ และได้การตอบรับที่ไม่ดีเลย
บางคนยังสงสัยอีกว่า ผมมีอะไรแอบแฝงในการเขียน
สิ่งที่ผมมีอยู่ก็คือ ผมพิจารณาทุกสิ่งทีคนเขียน จากเนื้อหา
โดยใช้ความรู้สึกชอบไม่ชอบเป็นการส่วนตัวในการตัดสินน้อยมาก
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์แนะนำ
"ข้อสาม ต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นอย่างเหมาะสม นั่นก็คือ ถ้ามีเงิน
ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็ควรต้องมีหุ้นอย่างน้อยประมาณ 5 ตัวโดยที่ตัวใหญ่สุดไม่
ควรจะเกิน 30% ของพอร์ตนอกจากนั้น ควรจะถือหุ้นในหลาย ๆ อุตสาหกรรม"
ผมว่า ดร. ถือ cpall มากกว่า 30% ของ port และหุ้นเกือบทั้งหมดก็ไม่เห็น
กระจายอุตสาหกรรมเลย สิ่งที่ ดร.แนะนำมี 8 ข้อ ผมแย้งแค่ข้อเดียวถือว่าน้อยมาก
อาจจะคิดว่าผมเป็นคนประเภทอืมนึกไม่ออก แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ ดร.ประสพความ
สำเร็จอย่างถล่มทลายเร็จก็คือหลักการในข้อ 3 ที่ดร.ทำตรงข้ามกับ ดร.แนะนำให้ทำ
หุ้นที่ทำให้ ดร.มีชื่อเสียงและทุกคนยกย่อง ก็คือ cpall hmpro
ถ้าไม่มีหุ้น 2ตัวนี้ ชื่อเสียงและศรัทธาของนักลงทุนทั่วไป ที่มี ต่อ ดร.ก็คงไม่มากเท่านี้
Blueplanet
- tae30866
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 2
จากหัวข้อลงทุนอย่างสบายใจ
การทำเช่นนั้นแสดงว่า การซื้อหุ้นสองตัวนี้ทำให้ไม่สบายใจ
หรือ มั่นใจในสองตัวมาก(MOS สูงมากๆ)จนสบายใจแม้จะมีสัดส่วนเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตสินะครับ
การทำเช่นนั้นแสดงว่า การซื้อหุ้นสองตัวนี้ทำให้ไม่สบายใจ
หรือ มั่นใจในสองตัวมาก(MOS สูงมากๆ)จนสบายใจแม้จะมีสัดส่วนเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตสินะครับ
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 3
ในความเหมือน มันก็มีความต่างแอบแฝงอยู่นะครับblueplanet เขียน:หุ้นที่ทำให้ ดร.มีชื่อเสียงและทุกคนยกย่อง ก็คือ cpall hmpro
1) cpall เป็น Convinience Store ซึ่งขาย "ความสะดวก"
2) แต่ BIGC เป็น Supercenter ซึ่งขาย "สินค้าราคาถูก"
( Big C Supercenter, a combination of discount store and food outlet, providing utmost customer satisfaction and quality products at very low prices everyday )
3) และ HMPRO เป็น Home Product Center ที่ขาย "อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับบ้าน ซึ่งเป็นส่วนควบและต่อเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"
( a leader in retail business in home improvement market for the goods of construction, decoration, and refurbishment of houses and residence places together with the provision of complete services as One Stop Shopping to attain highest customer satisfaction. )
^
^
ดังนั้น แม้จะอยู่ในกลุ่มค้าปลีกเหมือนกัน แต่มันก็แอบกระจายความเสี่ยงไว้ในตนเองอยู่แล้วนะครับ
ระหว่าง "การบริโภคแบบฟุ่มเฟือยเน้นความสะดวก(CPALL), การซื้อของแบบเน้นความคุ้มค่าด้านราคา(BIGC) และการบริโภคที่แปรผันกับภาคอสังหาริมทรัพย์(HMPRO)" ครับผม
...ผมคิดแบบนั้นนะ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 4
ข้อนี้น่าจะเป็นเรื่อง ระหว่างการกระจายความเสี่ยงถือหุ้นหลายๆตัว กับการโฟกัสว่าอะไรดีกว่ากัน ผมว่า แบบโฟกัสผลตอบแทนดีกว่าแน่นอน แต่ยังไงๆก็เสี่ยงกว่าเหมือนกันเพราะบางครั้งในโลกธุรกิจก็มีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้เกิดขึ้นได้อยู่ดี
ส่วนเรื่องที่ดร.ท่านถือหุ้นมากเป็นบางตัว ผมไม่แน่ใจครับ แต่อยากทักว่า วันที่ท่านซื้อ ท่านอาจเน้นหนัก 2-3 ตัวพอๆกัน แต่ผ่านมาถึงวันนี้ บังเอิญหุ้นบางตัวที่ท่านเน้น ราคามันดันขึ้นมามากเสียจน ดูแล้วท่านมีสัดส่วนตัวนั้นมากเกิน30%ในพอร์ต ?? อาจเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ ไม่แน่ใจ
ส่วนเรื่องที่ดร.ท่านถือหุ้นมากเป็นบางตัว ผมไม่แน่ใจครับ แต่อยากทักว่า วันที่ท่านซื้อ ท่านอาจเน้นหนัก 2-3 ตัวพอๆกัน แต่ผ่านมาถึงวันนี้ บังเอิญหุ้นบางตัวที่ท่านเน้น ราคามันดันขึ้นมามากเสียจน ดูแล้วท่านมีสัดส่วนตัวนั้นมากเกิน30%ในพอร์ต ?? อาจเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ ไม่แน่ใจ
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 5
อยากชวนคิด ครับ
ถ้าเราจัดพอร์ตหุ้น 5-6 ตัว ในช่วงเริ่มแผน เฉลี่ยกันแต่ก็ไม่เท่ากันนัก ผ่านไป 2 , 3 , 4 ปี การเติบโตของราคาหุ้น อาจจะ 1-2 ตัว ได้ 5 - 8 เด้งหรือกว่านั้น ส่วนอีก 3-4 ตัว ก็โตต่ำกว่า หรือมากกว่า ตลาดก็ไม่มาก พอร์ตเราก็เสียทรงที่วางไว้(ในน้ำหนักหุ้นแต่ละตัว) หน้าตาก็เพี้ยนไป แล้วตัวหลายเด้ง ดูแล้วยังมีอนาคตต่อไป เราควรจะจัดการกับพอร์ตอย่างไร?
ถ้าเราจัดพอร์ตหุ้น 5-6 ตัว ในช่วงเริ่มแผน เฉลี่ยกันแต่ก็ไม่เท่ากันนัก ผ่านไป 2 , 3 , 4 ปี การเติบโตของราคาหุ้น อาจจะ 1-2 ตัว ได้ 5 - 8 เด้งหรือกว่านั้น ส่วนอีก 3-4 ตัว ก็โตต่ำกว่า หรือมากกว่า ตลาดก็ไม่มาก พอร์ตเราก็เสียทรงที่วางไว้(ในน้ำหนักหุ้นแต่ละตัว) หน้าตาก็เพี้ยนไป แล้วตัวหลายเด้ง ดูแล้วยังมีอนาคตต่อไป เราควรจะจัดการกับพอร์ตอย่างไร?
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 6
ตอนเริ่มต้น ดร.นิเวศน์ซื้อ cpall 22.50 ล้านหุ้น ทุนเท่าไร สมมุติ 7 บาท รวมเป็นเงินblueplanet เขียน:ผมเคยเขียนแบบนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณปีที่แล้ว
ส่วนมากคนไม่ชอบ และได้การตอบรับที่ไม่ดีเลย
บางคนยังสงสัยอีกว่า ผมมีอะไรแอบแฝงในการเขียน
สิ่งที่ผมมีอยู่ก็คือ ผมพิจารณาทุกสิ่งทีคนเขียน จากเนื้อหา
โดยใช้ความรู้สึกชอบไม่ชอบเป็นการส่วนตัวในการตัดสินน้อยมาก
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์แนะนำ
"ข้อสาม ต้องมีการกระจายความเสี่ยงในการถือหุ้นอย่างเหมาะสม นั่นก็คือ ถ้ามีเงิน
ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ก็ควรต้องมีหุ้นอย่างน้อยประมาณ 5 ตัวโดยที่ตัวใหญ่สุดไม่
ควรจะเกิน 30% ของพอร์ตนอกจากนั้น ควรจะถือหุ้นในหลาย ๆ อุตสาหกรรม"
ผมว่า ดร. ถือ cpall มากกว่า 30% ของ port และหุ้นเกือบทั้งหมดก็ไม่เห็น
กระจายอุตสาหกรรมเลย สิ่งที่ ดร.แนะนำมี 8 ข้อ ผมแย้งแค่ข้อเดียวถือว่าน้อยมาก
อาจจะคิดว่าผมเป็นคนประเภทอืมนึกไม่ออก แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ ดร.ประสพความ
สำเร็จอย่างถล่มทลายเร็จก็คือหลักการในข้อ 3 ที่ดร.ทำตรงข้ามกับ ดร.แนะนำให้ทำ
หุ้นที่ทำให้ ดร.มีชื่อเสียงและทุกคนยกย่อง ก็คือ cpall hmpro
ถ้าไม่มีหุ้น 2ตัวนี้ ชื่อเสียงและศรัทธาของนักลงทุนทั่วไป ที่มี ต่อ ดร.ก็คงไม่มากเท่านี้
157.50 ล้าน ณ เวลาตอนซื้อ cpall เป็นสัดส่วนเท่าไรของพอร์ท
ผมคิดว่า ฟังหลักการของแก แต่อย่าไปจับผิดมากเลยครับ ไม่มีประโยชน์
.....................................................................................
ก่อนหน้านี้ผมซื้อ ktc ตอน 12 บาท ซื้อเพราะเปลี่ยนผู้บริหาร กะว่าคงจะมีอะไรใหม่ๆ
ต่อมา นั่งคิดไปคิดมา ขาย
ขายหมูครับ เห็นแว๊บๆ มา 17
มีคนถามผม ผมบอกขายขาดทุนไปแล้ว คนถามยังถามอีก หลายรอบ ว่าขาดทุนได้ไง
เออ จะต้องเปิดพอร์ทให้ดูมั๊ง ถึงจะเชื่อ
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 7
ผมว่า ไอเดียดีนะครับ คิดต่าง แต่ไม่แตกแยก
จริงๆ ประเด็นนี้ ก็คล้ายๆ กับ วัฒนธรรมเภทที่ดร.เขียนเมื่อรอบก่อนเหมือนกัน
ผมว่า บางครั้ง การเขียนบทความ ก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะครับ
เพราะว่า กว่าจะออกมาได้ สักอัน นึง
อาจจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่า ผลที่ได้ จะคุ้มกับผลที่เสียไหม
เช่นวิธีนี้ ทำตามแล้ว ได้หนักๆ แต่ถ้าพลาดก็เกิดเจ็บตัวหนักๆ
ซึ่ง คนเขียน คงได้ไม่เท่ากับเสียแน่นอน
โดยเฉพาะ ระดับ ดร.แล้ว การได้ คงไม่ถือว่า ได้อะไรมากนัก
ในแง่ของกล่อง หรือ รางวัลอะไร เพราะ แกน่าจะมีครบหมดแล้ว
ผมเลยคิดว่า บทความของท่าน จึงต้องสื่อให้เป็นลักษณะ
คือ สอน ให้เป็นแบบ basic ที่สุด ที่คนส่วนใหญ่ ทำได้
(ซึ่ง ถ้า define ว่า คนส่วนใหญ่ คือ คนกลุ่มอายุเท่าไหร่
มีพอร์ตเท่าไหร่ นี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่)
ผมคิดว่า ที่คุณ blueplanet ถาม ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
คือ ให้ท้วงติง เพื่อให้เกิด วุฒิปัญญามากขึ้น
เพราะผมเชื่อว่า ทุกวิธี เหมาะกับคน แต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน
หากคุณใช้วิธี basic ได้ ต่อไป ถ้าคล่อง ก็ปรับสัดส่วนของ พอร์ตตามความเหมาะสม
เมื่อคุณ valuation ของ หุ้นนั้นๆได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ
เพราะถ้าให้เขียนบทความว่า
ถ้าอยากรวย ต้อง เน้นแค่ 2-3 ตัว
แล้ว อัดหนักๆ จิ้นแรงๆ
ผมคิดว่า ถ้าดังก็ดังแบบพลุแตก
แต่ถ้าพลาด ก็คงแย่เลยทีเดียว
จริงๆ ประเด็นนี้ ก็คล้ายๆ กับ วัฒนธรรมเภทที่ดร.เขียนเมื่อรอบก่อนเหมือนกัน
ผมว่า บางครั้ง การเขียนบทความ ก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะครับ
เพราะว่า กว่าจะออกมาได้ สักอัน นึง
อาจจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่า ผลที่ได้ จะคุ้มกับผลที่เสียไหม
เช่นวิธีนี้ ทำตามแล้ว ได้หนักๆ แต่ถ้าพลาดก็เกิดเจ็บตัวหนักๆ
ซึ่ง คนเขียน คงได้ไม่เท่ากับเสียแน่นอน
โดยเฉพาะ ระดับ ดร.แล้ว การได้ คงไม่ถือว่า ได้อะไรมากนัก
ในแง่ของกล่อง หรือ รางวัลอะไร เพราะ แกน่าจะมีครบหมดแล้ว
ผมเลยคิดว่า บทความของท่าน จึงต้องสื่อให้เป็นลักษณะ
คือ สอน ให้เป็นแบบ basic ที่สุด ที่คนส่วนใหญ่ ทำได้
(ซึ่ง ถ้า define ว่า คนส่วนใหญ่ คือ คนกลุ่มอายุเท่าไหร่
มีพอร์ตเท่าไหร่ นี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่)
ผมคิดว่า ที่คุณ blueplanet ถาม ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ
คือ ให้ท้วงติง เพื่อให้เกิด วุฒิปัญญามากขึ้น
เพราะผมเชื่อว่า ทุกวิธี เหมาะกับคน แต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน
หากคุณใช้วิธี basic ได้ ต่อไป ถ้าคล่อง ก็ปรับสัดส่วนของ พอร์ตตามความเหมาะสม
เมื่อคุณ valuation ของ หุ้นนั้นๆได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ
เพราะถ้าให้เขียนบทความว่า
ถ้าอยากรวย ต้อง เน้นแค่ 2-3 ตัว
แล้ว อัดหนักๆ จิ้นแรงๆ
ผมคิดว่า ถ้าดังก็ดังแบบพลุแตก
แต่ถ้าพลาด ก็คงแย่เลยทีเดียว
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 8
ผมก็อ่านสิ่งที่ ดร.เขียน แต่ไม่เคยเจอตัวเป็นๆไม่เคยถามตรงๆจากปาก
มีหุ้นอีกเยอะแยะมากมายที่ราคาขึ้นมาสิบเด้ง แต่ดร.ก็ไม่ได้ถือ ผมบอกตามตรงดร.พูดเขียน
อะไรผมก็ฟ้งหนังสือก็ซื้อมาอ่าน แต่ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักมากจนเอียงไปทางด้านนั้น ผมถือเป็น
แค่ความเห็นของคนๆหนึ่งเท่านั้น เรื่องจำนวนหุ้นในพอร์ตเหมือนกัน หลายคนบอกว่าให้มีจำ
นวนน้อยๆ โฟก้สลไปแต่ถามว่า ปีเตอร์ ลินซ์ เคยถือหุ้นถึง 1,400ตัว
ผมคิดว่าเราก็ฟังในฐานะผู้มีประสพการณ์มานาน แต่ว่าสิ่งที่เราทำเราก็คิดเอง เพราะเราแต่ละึ
คนก็คิดเป็น
มีหุ้นอีกเยอะแยะมากมายที่ราคาขึ้นมาสิบเด้ง แต่ดร.ก็ไม่ได้ถือ ผมบอกตามตรงดร.พูดเขียน
อะไรผมก็ฟ้งหนังสือก็ซื้อมาอ่าน แต่ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักมากจนเอียงไปทางด้านนั้น ผมถือเป็น
แค่ความเห็นของคนๆหนึ่งเท่านั้น เรื่องจำนวนหุ้นในพอร์ตเหมือนกัน หลายคนบอกว่าให้มีจำ
นวนน้อยๆ โฟก้สลไปแต่ถามว่า ปีเตอร์ ลินซ์ เคยถือหุ้นถึง 1,400ตัว
ผมคิดว่าเราก็ฟังในฐานะผู้มีประสพการณ์มานาน แต่ว่าสิ่งที่เราทำเราก็คิดเอง เพราะเราแต่ละึ
คนก็คิดเป็น
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 10
ผมเคยไปอบรมเรื่องการเขียนหนังสือ
วิทยากรบอกว่าต้องมีเป้าหมาย
คือ เขียนให้ใครอ่าน
ทุกวันนี้ผมยังนำหลักการนี้
มาใช้จนปัจจุบัน
เวลาเขียนหนังสือติดต่องาน
สำหรับปลายทางบางคน ต้องขยายความ
บางคนไม่ต้อง
บางคนต้องไปหาข้อมูลมาแนบเพิ่ม
บางคนเขียนปะกิดแล้วเข้าใจ
เพราะอ่านไทยแล้วงง
ฯลฯ
บทความของ อ. ก็เหมือนกับ
กำลังให้ทางเลือกสำหรับบางคน
ที่ยังไม่มี
หรือมองไม่เห็น
ใครมีทางเลือกที่ดีแล้ว หรือจะไม่ทำตามเลยก็ได้
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าบทความของ อ. สอดแทรก
ปรัชญาดีๆ มีคุณค่าให้คนอ่านเสมอ
เพียงแต่ตัวเราจะเจอสิ่งที่อยู่ในตัวหนังสือของ อ. หรือเปล่า ?
วิทยากรบอกว่าต้องมีเป้าหมาย
คือ เขียนให้ใครอ่าน
ทุกวันนี้ผมยังนำหลักการนี้
มาใช้จนปัจจุบัน
เวลาเขียนหนังสือติดต่องาน
สำหรับปลายทางบางคน ต้องขยายความ
บางคนไม่ต้อง
บางคนต้องไปหาข้อมูลมาแนบเพิ่ม
บางคนเขียนปะกิดแล้วเข้าใจ
เพราะอ่านไทยแล้วงง
ฯลฯ
บทความของ อ. ก็เหมือนกับ
กำลังให้ทางเลือกสำหรับบางคน
ที่ยังไม่มี
หรือมองไม่เห็น
ใครมีทางเลือกที่ดีแล้ว หรือจะไม่ทำตามเลยก็ได้
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าบทความของ อ. สอดแทรก
ปรัชญาดีๆ มีคุณค่าให้คนอ่านเสมอ
เพียงแต่ตัวเราจะเจอสิ่งที่อยู่ในตัวหนังสือของ อ. หรือเปล่า ?
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 571
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 11
หลังๆ นี่ เริ่มมีใครไม่พอใจท่านอาจารย์หรือเปล่าครับ หัวข้อเหมือนเหน็บเรื่อง "วัฒนธรรมเภท"
ผมไม่ได้จับผิดอะไรนะครับ ก็ว่าไปตามที่เห็น
การจัดพอร์ทลงทุนของ อาจารย์ นิเวศน์ ท่านก็ให้คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป
ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องทำตาม ถ้าใครลงทุนแบบโฟกัสหุ้น ตัวเดียว หรือ 2 ตัว แล้ว
สบายใจก็ทำเถอะ แต่ถ้าใครทำแบบนั้น แล้ว นอนไม่หลับ ก็น่าจะทำการกระจายความเสี่ยง
ถือหุ้นมากตัวหน่อย ถ้ามีเงินเยอะหน่อย ก็อาจจะลงทุนมากตัุวขึ้น จริงๆ ท่านอาจารย์ อาจจะ
ลงทุนหลายอุตสาหกรรมก็ได้ แต่นั่นแหละ ใครๆ ก็รู้จักท่าน จาก hmpro cpall เพราะ ท่าน
ติดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ท่านอาจจะถือ PTT เป็นจำนวนมากก็ได้ แต่ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
ซึ่งท่านอาจจะเน้น modern trade มากหน่อย เพราะ ท่านยังมองภาพใหญ่ไปในแนวทางนั้น
แต่ส่วนที่พอร์ทท่านเติบโตจน cpall hmpro ตัวนึงเกิน 30% ส่วนนั้นเป็น profit ล้วนๆ แล้วครับ
ไม่น่าจะเกี่ยวกับ เงินต้น ถ้ากำไรเกิน 100% earning โตขึ้นเรื่อยๆ ถือยังไงก็สบายใจ
แต่อยากให้สังเกตุว่า ท่านอาจารย์ เขียนบทความนี้ ในช่วงเวลานี้นะครับ ที่ตลาดเริ่มมีความเสี่ยง
มากขึ้นตามลำดับ การบริหารจัดการความเสี่ยงย่อมมีความสำคัญ ยิ่งนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มเข้าตลาด
ช่วงนี้ ผมว่า เป็นประโยชน์มากๆ ครับ
ผมไม่ได้จับผิดอะไรนะครับ ก็ว่าไปตามที่เห็น
การจัดพอร์ทลงทุนของ อาจารย์ นิเวศน์ ท่านก็ให้คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป
ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องทำตาม ถ้าใครลงทุนแบบโฟกัสหุ้น ตัวเดียว หรือ 2 ตัว แล้ว
สบายใจก็ทำเถอะ แต่ถ้าใครทำแบบนั้น แล้ว นอนไม่หลับ ก็น่าจะทำการกระจายความเสี่ยง
ถือหุ้นมากตัวหน่อย ถ้ามีเงินเยอะหน่อย ก็อาจจะลงทุนมากตัุวขึ้น จริงๆ ท่านอาจารย์ อาจจะ
ลงทุนหลายอุตสาหกรรมก็ได้ แต่นั่นแหละ ใครๆ ก็รู้จักท่าน จาก hmpro cpall เพราะ ท่าน
ติดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ท่านอาจจะถือ PTT เป็นจำนวนมากก็ได้ แต่ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
ซึ่งท่านอาจจะเน้น modern trade มากหน่อย เพราะ ท่านยังมองภาพใหญ่ไปในแนวทางนั้น
แต่ส่วนที่พอร์ทท่านเติบโตจน cpall hmpro ตัวนึงเกิน 30% ส่วนนั้นเป็น profit ล้วนๆ แล้วครับ
ไม่น่าจะเกี่ยวกับ เงินต้น ถ้ากำไรเกิน 100% earning โตขึ้นเรื่อยๆ ถือยังไงก็สบายใจ
แต่อยากให้สังเกตุว่า ท่านอาจารย์ เขียนบทความนี้ ในช่วงเวลานี้นะครับ ที่ตลาดเริ่มมีความเสี่ยง
มากขึ้นตามลำดับ การบริหารจัดการความเสี่ยงย่อมมีความสำคัญ ยิ่งนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มเข้าตลาด
ช่วงนี้ ผมว่า เป็นประโยชน์มากๆ ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 12
สิ่งที่ดร.ทำคือสิ่งที่เหมาะสมกับตัวดร. เองทั้งในเรื่องทักษะ ความรู้ ความสามารถ
แต่สิ่งที่ดร.เขียนนี่มีคนอ่านมากมาย หลากหลายระดับทักษะ ความรู้ ความสามารถ
ท่านไม่ได้เขียนให้แต่คนเก่งๆอ่านนะครับผมว่า แต่ท่านเขียนให้คนทั่วไปอ่านด้วย
คนที่ไม่เก่งมากก็จะได้แนวทางที่ค่อนข้างปลอดภัยไป ส่วนคนที่เก่งอยู่แล้วก็
คงมีสไตล์ของตัวเองนะผมว่า
แต่สิ่งที่ดร.เขียนนี่มีคนอ่านมากมาย หลากหลายระดับทักษะ ความรู้ ความสามารถ
ท่านไม่ได้เขียนให้แต่คนเก่งๆอ่านนะครับผมว่า แต่ท่านเขียนให้คนทั่วไปอ่านด้วย
คนที่ไม่เก่งมากก็จะได้แนวทางที่ค่อนข้างปลอดภัยไป ส่วนคนที่เก่งอยู่แล้วก็
คงมีสไตล์ของตัวเองนะผมว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 13
ผมว่า ดร เขาหมายถึงให้ลงทุนอย่างสบายใจ ไม่มีเวลานั่งดูหุ้น เหมือนเป็นคำแนะนำให้คนที่ลงทุนหุ้นเป็นอาชีพเสริมมากกว่า เลยแนะนำให้ออกแนว diversify ไปหลายๆอุตสาหกรรม หลายๆตัวหน่อย และตัวที่ถือมากสุดก็ไม่ควรเกิน 30% เพื่อที่จะหลีกเลี้ยงความเสียง แต่ก็ยังได้ผลตอบแทนระยะยาวที่บอกว่า ยังไง เงินอยู่ในตลาดหุ้นจะโตมากกว่าการฝากในธนาคาร ฯลฯ
ผมว่าเขาแนะนำคนไม่มีเวลา ไม่ได้แนะนำให้คนลงทุนเป็นอาชีพเหมือนพวกเราในนี้ครับ
ผมว่าเขาแนะนำคนไม่มีเวลา ไม่ได้แนะนำให้คนลงทุนเป็นอาชีพเหมือนพวกเราในนี้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 14
ต่างคน ต่างมีเกมที่ต่างถนัด
ฟังได้ ศึกษาตามได้ สุดท้ายก็ต้องไปตามเกมถนัด
คนอยู่กลางแจ้งก็ต้องทำใจ กว่า sniper
อีกอย่างเขาก็ต้องมีพัฒนาการ วิวัฒนาการ
เมื่อก่อน เราคิดเราพูดแบบไหนเรายังจำไม่ได้เลย
สรุป สำหรับ ดร. ผมว่ารวมๆ แกดีนะ
ฟังได้ ศึกษาตามได้ สุดท้ายก็ต้องไปตามเกมถนัด
คนอยู่กลางแจ้งก็ต้องทำใจ กว่า sniper
อีกอย่างเขาก็ต้องมีพัฒนาการ วิวัฒนาการ
เมื่อก่อน เราคิดเราพูดแบบไหนเรายังจำไม่ได้เลย
สรุป สำหรับ ดร. ผมว่ารวมๆ แกดีนะ
show me money.
- meditate
- Verified User
- โพสต์: 180
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 15
คิดเหมือนผมเลยครับ บทความประมาณว่าลงทุนอย่างไรให้ ไม่เครียด? ดร.ก็เสนอแนวทางที่แกเห็นว่าไม่เครียดในความคิดแกให้ฟังครับsuperme เขียน:ผมว่า ดร เขาหมายถึงให้ลงทุนอย่างสบายใจ ไม่มีเวลานั่งดูหุ้น เหมือนเป็นคำแนะนำให้คนที่ลงทุนหุ้นเป็นอาชีพเสริมมากกว่า เลยแนะนำให้ออกแนว diversify ไปหลายๆอุตสาหกรรม หลายๆตัวหน่อย และตัวที่ถือมากสุดก็ไม่ควรเกิน 30% เพื่อที่จะหลีกเลี้ยงความเสียง แต่ก็ยังได้ผลตอบแทนระยะยาวที่บอกว่า ยังไง เงินอยู่ในตลาดหุ้นจะโตมากกว่าการฝากในธนาคาร ฯลฯ
ผมว่าเขาแนะนำคนไม่มีเวลา ไม่ได้แนะนำให้คนลงทุนเป็นอาชีพเหมือนพวกเราในนี้ครับ
สุดท้ายคือ"ไม่มี"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 456
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 16
การกระจายการลงทุนอยู่ที่เรา
1.มีหุ้นที่"ตีแตก"หรือไม่(และราคายังถูก)
2.ตอนนั้นมีเงินเท่าไหร่
ถ้ามีเงินเหลือแยะและมีหุ้นที่เรามองขาดว่าตีแตกแน่
มีเท่าไหร่ก็ลงหมดหน้าตักครับ
ไม่ได้มาดูว่าเป็นกี่%ของพอร์ต
ไม่ใช่กองทุนรวมจะได้ต้องเป๊ะกับสัดส่วนขนาดนั้น
นี่คือข้อได้เปรียบของรายย่อยครับ
อจ.นิเวศน์ก็คงคิดแบบเดียวกัน
1.มีหุ้นที่"ตีแตก"หรือไม่(และราคายังถูก)
2.ตอนนั้นมีเงินเท่าไหร่
ถ้ามีเงินเหลือแยะและมีหุ้นที่เรามองขาดว่าตีแตกแน่
มีเท่าไหร่ก็ลงหมดหน้าตักครับ
ไม่ได้มาดูว่าเป็นกี่%ของพอร์ต
ไม่ใช่กองทุนรวมจะได้ต้องเป๊ะกับสัดส่วนขนาดนั้น
นี่คือข้อได้เปรียบของรายย่อยครับ
อจ.นิเวศน์ก็คงคิดแบบเดียวกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 17
ผมเห็นด้วยกับพี่WEB กับ พี่ Crazyrisk ครับ
ผมสังเกตุมานานแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นบทความ หรือ หนังสือของดร. จะเน้นแนวทางที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย คนทั่วๆไปสามารถทำได้ จะไม่ค่อยมีเนื้อหาที่เจาะลึกมากสักเท่าไร
จะว่าไปก็คล้ายๆกับที่ผมเคยตั้งกระทู้ว่า ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของbuffet ที่บอกว่าให้เลือกบริษัทที่มีโมเดลที่เยี่ยมยอดแม้แต่คนโง่ก็บริหารได้ เพราะผมคิดว่าผู้บริหารก็สำคัญ
ซึ่งมาคิดดูจริงๆแล้ว มันเป็นคำพูดแบบองค์รวม พูดโดยรวมๆให้คนทั่วไปเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารไม่สำคัญซะหน่อย เหมือนกับบทความของ ดร. โดยทั่วไปน่ะแหละ
ถ้า ดร. บอกว่า ให้เน้น1-2ตัวที่มั่นใจจริงๆ แล้วซัดเต็มเลย
รับรอง มีคนเจ๊งเป็นแถบ
ผมสังเกตุมานานแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นบทความ หรือ หนังสือของดร. จะเน้นแนวทางที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย คนทั่วๆไปสามารถทำได้ จะไม่ค่อยมีเนื้อหาที่เจาะลึกมากสักเท่าไร
จะว่าไปก็คล้ายๆกับที่ผมเคยตั้งกระทู้ว่า ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของbuffet ที่บอกว่าให้เลือกบริษัทที่มีโมเดลที่เยี่ยมยอดแม้แต่คนโง่ก็บริหารได้ เพราะผมคิดว่าผู้บริหารก็สำคัญ
ซึ่งมาคิดดูจริงๆแล้ว มันเป็นคำพูดแบบองค์รวม พูดโดยรวมๆให้คนทั่วไปเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารไม่สำคัญซะหน่อย เหมือนกับบทความของ ดร. โดยทั่วไปน่ะแหละ
ถ้า ดร. บอกว่า ให้เน้น1-2ตัวที่มั่นใจจริงๆ แล้วซัดเต็มเลย
รับรอง มีคนเจ๊งเป็นแถบ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- magicbank
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 18
เรื่องทั้งหมดคือ ดร นิเวศน์ ซื้อ hmpro ตั้งแต่ปี 48 cpall ตั้งแต่ปี 51
คิดว่าที่เห็นตอนนี้สัดส่วนที่เป็นเงินต้นเท่าไหร่หรอคับ ท่านบอกเสมอให้ถือให้ยาวๆ ขายเมื่อมันไม่ดีแล้ว หรือเจอตัวที่ดีกว่า ซึ่งท่านทำตามที่พูดทั้งหมด ถ้าจะให้ขายเพราะกำไรมันดันเกินสัดส่วน 30% นี่มันดูไร้เหตุผลน่ะครับ
สัดส่วนแค่ละคนไม่ตายตัวหรอครับท่านถือบอกว่า ถือตัวนึงไม่"ควร"เกิน 30% เพียงเพราะไม่อยากให้นักลงทุนที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอเสียหายจากตรงนี้ ท่านเองก็เคยเขียนไว้ว่านักลงทุนบางคนก็ทำตรงข้ามกับที่ตัวเองบอก อย่างกรณี วอเรน บัฟเฟต (ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) ว่านั่นขึ้นกับเค้ามีประสบการณ์ และรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนไม่มีอะไรตายตัว ต่างคนต่างมีกฏของตัวเอง คุณเชื่อตัวคุณเองได้เท่านั้น
คิดว่าที่เห็นตอนนี้สัดส่วนที่เป็นเงินต้นเท่าไหร่หรอคับ ท่านบอกเสมอให้ถือให้ยาวๆ ขายเมื่อมันไม่ดีแล้ว หรือเจอตัวที่ดีกว่า ซึ่งท่านทำตามที่พูดทั้งหมด ถ้าจะให้ขายเพราะกำไรมันดันเกินสัดส่วน 30% นี่มันดูไร้เหตุผลน่ะครับ
สัดส่วนแค่ละคนไม่ตายตัวหรอครับท่านถือบอกว่า ถือตัวนึงไม่"ควร"เกิน 30% เพียงเพราะไม่อยากให้นักลงทุนที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอเสียหายจากตรงนี้ ท่านเองก็เคยเขียนไว้ว่านักลงทุนบางคนก็ทำตรงข้ามกับที่ตัวเองบอก อย่างกรณี วอเรน บัฟเฟต (ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร) ว่านั่นขึ้นกับเค้ามีประสบการณ์ และรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนไม่มีอะไรตายตัว ต่างคนต่างมีกฏของตัวเอง คุณเชื่อตัวคุณเองได้เท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 19
เวลาคนเป็นหมื่นเป็นแสน ที่อ่านบทความของ ดร ก็มีทั่งคนที่เห็นด้วยกับบทความและคนที่ไม่เห็นด้วยกับบทความ
เวลาที่ ดร เขียนท่านคงไม่ได้เจาะจงว่าบทความนี้ให้ใครอ่านหรือคนนั้นห้ามอ่าน ซึ่งบ้างข้อก็อาจจะตรงกับ จริต เราๆ ก็เห็นด้วย แต่หากไม่ตรง เราก็ไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายคงต้องดูที่ เจตนา และความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้อีกนอกจากท่านดร เอง แต่ระยะเวลาที่ผ่านมาจากสิ่งที่ท่านได้ให้ข้อคิดหรือแนะนำผ่านบทความของท่านมาตลอด ผมว่ามันก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่า ท่านมีเจตนาดีหรือ ความบริสุทธิ์ใจกับนักลงทุนทั่วไปมั้ย. เอาแต่ว่าแนวทาง vi. ในปัจจุบันที่เราๆ กำลังบอกว่าเราเป็นกันอยู่เนี้ย มันก็เกิดจากการที่ดร. พยายามทำให้นักลงทุนทั่วไปในตอนนั้นได้เข้าใจและมีทักษะในการลงทุนที่ดีนะครับ ลองคิดดูสิครับว่าเป็นเราๆ จะมาเปลืองตัวแบบท่านมั้ย ถ้าท่านอยู่เงียบของท่าน ผมว่าปานนี้ท่านรวยกว่านี้อีกไม่ต้องมีใครมาแย้งท่านซื้อ. ผมว่ายังไงก็แล้วแต่ ดูที่เจตนา และสิ่งที่ท่านทำมาตลอด ดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ไม่เคยรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว และก็ไม่ได้ซื้อหนังสือของท่านทุกเล่ม และก็ไม่เคยซื้อตัวเดี๋ยวกับท่านเลย แต่ผมก็นับถือท่าน ที่ท่านเป็นผู้ให้ อย่างน้อยท่านก็ให้ผมได้เรียนรู้แนวทาง นี้ ซึ่งผมยังทำไม่ได้แต่กำลังพยายามอยู่ คือถ้าจะให้ดร ระบุให้ชัด ถ้าผมเป็นดร ผมก็แค่บอกวิธีที่ดีท่ีสุดคือ ซื้อทุกตัวที่ผมถือ แค่นั้นเอง ตรงกับที่ท่านทำแน่นอน. แต่แล้วมันดีมั้ยละ่ครับในความรู้สึกเรา ขนาดดร ก็ยังเลือกหุ้นผิดได้เลย ktc. ไงและท่านก็ทำตามที่บอก คือเลือกผิดก็ขายทิ้งทันที่ และท่านก็อาจจะขาดทุนกับตัวนี้ก็ได้ ผมว่าอย่าพยายามเผาป่าเพื่อหางูตัวเดียวเลยครับ ด้วยความเคารพครับ
เวลาที่ ดร เขียนท่านคงไม่ได้เจาะจงว่าบทความนี้ให้ใครอ่านหรือคนนั้นห้ามอ่าน ซึ่งบ้างข้อก็อาจจะตรงกับ จริต เราๆ ก็เห็นด้วย แต่หากไม่ตรง เราก็ไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายคงต้องดูที่ เจตนา และความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้อีกนอกจากท่านดร เอง แต่ระยะเวลาที่ผ่านมาจากสิ่งที่ท่านได้ให้ข้อคิดหรือแนะนำผ่านบทความของท่านมาตลอด ผมว่ามันก็น่าจะพิสูจน์ได้ว่า ท่านมีเจตนาดีหรือ ความบริสุทธิ์ใจกับนักลงทุนทั่วไปมั้ย. เอาแต่ว่าแนวทาง vi. ในปัจจุบันที่เราๆ กำลังบอกว่าเราเป็นกันอยู่เนี้ย มันก็เกิดจากการที่ดร. พยายามทำให้นักลงทุนทั่วไปในตอนนั้นได้เข้าใจและมีทักษะในการลงทุนที่ดีนะครับ ลองคิดดูสิครับว่าเป็นเราๆ จะมาเปลืองตัวแบบท่านมั้ย ถ้าท่านอยู่เงียบของท่าน ผมว่าปานนี้ท่านรวยกว่านี้อีกไม่ต้องมีใครมาแย้งท่านซื้อ. ผมว่ายังไงก็แล้วแต่ ดูที่เจตนา และสิ่งที่ท่านทำมาตลอด ดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ไม่เคยรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว และก็ไม่ได้ซื้อหนังสือของท่านทุกเล่ม และก็ไม่เคยซื้อตัวเดี๋ยวกับท่านเลย แต่ผมก็นับถือท่าน ที่ท่านเป็นผู้ให้ อย่างน้อยท่านก็ให้ผมได้เรียนรู้แนวทาง นี้ ซึ่งผมยังทำไม่ได้แต่กำลังพยายามอยู่ คือถ้าจะให้ดร ระบุให้ชัด ถ้าผมเป็นดร ผมก็แค่บอกวิธีที่ดีท่ีสุดคือ ซื้อทุกตัวที่ผมถือ แค่นั้นเอง ตรงกับที่ท่านทำแน่นอน. แต่แล้วมันดีมั้ยละ่ครับในความรู้สึกเรา ขนาดดร ก็ยังเลือกหุ้นผิดได้เลย ktc. ไงและท่านก็ทำตามที่บอก คือเลือกผิดก็ขายทิ้งทันที่ และท่านก็อาจจะขาดทุนกับตัวนี้ก็ได้ ผมว่าอย่าพยายามเผาป่าเพื่อหางูตัวเดียวเลยครับ ด้วยความเคารพครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 20
เขาเขียนเป็นหลักกลางๆครับ ใช่ว่าคนเราจะเจอหุ้นตีแตกได้ตลอดเวลานิ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 21
จริงๆหลักการแบบวีไอ มันมีมาเกือบร้อยปีแล้ว ตำราที่เป็น text book มีมากมายในเมกา
แต่คนที่นำมาเผยแพร่ และเอามาใช้จริงจังในตลาดหุ้นไทยผมว่า ดร.เป็นคนแรกๆ
และได้นำมาเผยแพร่ อย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นว่านำมาใช้กับตลาดไทยได้ผล
โดยรวมๆผมว่าท่านดร. ผมให้เครดิตทั้งสองดร.เลยนะ ผมว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่านับถือครับ
แต่คนที่นำมาเผยแพร่ และเอามาใช้จริงจังในตลาดหุ้นไทยผมว่า ดร.เป็นคนแรกๆ
และได้นำมาเผยแพร่ อย่างจริงจัง และแสดงให้เห็นว่านำมาใช้กับตลาดไทยได้ผล
โดยรวมๆผมว่าท่านดร. ผมให้เครดิตทั้งสองดร.เลยนะ ผมว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่านับถือครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 22
ท่านเขียนตามหลักวิชาการคับ ให้คนที่สนใจการลงทุนใหม่ๆอย่างถูกต้องก่อน
เรื่องหลังจากนั้นเป็นเรื่องของประสบการณ์ และมุมมองของแต่ละคน
ใครเชี่ยวชาญแล้ว ก็ทำอย่างท่านได้คับ สิ่งที่เขียนกับทำ จึงต้องแบ่งแยกด้วย
เขียน ตามหลักทฤษฏีความรู้นั้นๆ
ทำ จากการประยุกต์ใช้ทฤษฏีความรู้นั้นๆ
ย่อมดีกว่า งูๆปลาๆ คิดเองเออเอง ซึ่งเยอะมากคับทั้งในตลาด และนอกตลาด
นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบศึกษาเพิ่มเติม เหนื่อยคับกับการให้ความรู้
อีกอย่างเราต้องไปค้นคว้าเองด้วยคับ ตามหลักวิชาการ วิชาที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนคืออะไร
เช่นว่า การเงินมันเป็นไง บัญชีมันเป็นไง ตลาดหุ้นเกิดมาได้อย่างไร เศรษฐศาสตร์คืออะไร ฯลฯ
สิ่งที่ท่านเขียน กลั่นมาจากความรู้และประสบการณ์ ไม่ได้เขียนเป็นตำราอย่างชัดเจน
เป็นบทความ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็น ยกตัวอย่าง สรุปความ เปรียบเทียบ บอกเล่าเก้าสิบ ฯลฯ
เรื่องไหนเราไม่เข้าใจ ก็คงต้องไปหาความรู้เพิ่มเอาคับ
เรื่องหลังจากนั้นเป็นเรื่องของประสบการณ์ และมุมมองของแต่ละคน
ใครเชี่ยวชาญแล้ว ก็ทำอย่างท่านได้คับ สิ่งที่เขียนกับทำ จึงต้องแบ่งแยกด้วย
เขียน ตามหลักทฤษฏีความรู้นั้นๆ
ทำ จากการประยุกต์ใช้ทฤษฏีความรู้นั้นๆ
ย่อมดีกว่า งูๆปลาๆ คิดเองเออเอง ซึ่งเยอะมากคับทั้งในตลาด และนอกตลาด
นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบศึกษาเพิ่มเติม เหนื่อยคับกับการให้ความรู้
อีกอย่างเราต้องไปค้นคว้าเองด้วยคับ ตามหลักวิชาการ วิชาที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนคืออะไร
เช่นว่า การเงินมันเป็นไง บัญชีมันเป็นไง ตลาดหุ้นเกิดมาได้อย่างไร เศรษฐศาสตร์คืออะไร ฯลฯ
สิ่งที่ท่านเขียน กลั่นมาจากความรู้และประสบการณ์ ไม่ได้เขียนเป็นตำราอย่างชัดเจน
เป็นบทความ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็น ยกตัวอย่าง สรุปความ เปรียบเทียบ บอกเล่าเก้าสิบ ฯลฯ
เรื่องไหนเราไม่เข้าใจ ก็คงต้องไปหาความรู้เพิ่มเอาคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 23
มะลิแต่ละดอกคือมะลิ
จำปีแต่ละดอกคือจำปี
ดอกรักแต่ละดอกคือดอกรัก
ดาวเรืองแต่ละดอกคือดาวเรือง
แต่ทั้งหมดนำมาร้อยเรียงกันเราเรียกมาลัย
บทความแต่ละบทของดร. คงไม่สามารถครอบคลุมความต้องการและจริตของทุกคนได้
ในเวลาเดียวกันพร้อมกัน แต่ถ้านำบทความทั้งหมดมาร้อยเรียง
เราก็จะเห็นปรัชญาการลงทุนทีสามัญและทำได้อย่างเกิดผลทุกกาลมากกว่าครับ
จำปีแต่ละดอกคือจำปี
ดอกรักแต่ละดอกคือดอกรัก
ดาวเรืองแต่ละดอกคือดาวเรือง
แต่ทั้งหมดนำมาร้อยเรียงกันเราเรียกมาลัย
บทความแต่ละบทของดร. คงไม่สามารถครอบคลุมความต้องการและจริตของทุกคนได้
ในเวลาเดียวกันพร้อมกัน แต่ถ้านำบทความทั้งหมดมาร้อยเรียง
เราก็จะเห็นปรัชญาการลงทุนทีสามัญและทำได้อย่างเกิดผลทุกกาลมากกว่าครับ
สงบสยบการเคลื่อนไหว
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 24
มีหลายคนอธิบาย ไม่เกิน 30%ของพอร์ตในแง่ที่ว่า เดิม อาจจะน้อยกว่า 30%
แต่เมื่อ cpallขึ้นจาก7บาท มาที่ 61.75บาทมูลค่า ของ cpallจึงเกิน 30%
ฟังดูมีเหตุผล แต่ก็ไม่มีใครพิสูจน์ทางตัวเลขว่าจริงตามที่อธิบาย
ดังนั้นผมจึงเชื่อโดยไม่ต้องเอาตัวเลขมายัน ว่าcpall มีมูลค่ามากกว่า30%
ไม่ใช่จากราคาที่ขึ้นอย่างเดียว แต่มีเม็ดเงินทั้งเก่าและใหม่ ทำให้ปริมาณ cpall
เป็นดังที่เห็น และคำว่า 30%ของพอร์ตตามที่ ดร.อธิบายนั้น ควรจะกินความ
ถึงเมื่อหุ้นบางตัวมีมูลค่ามากว่า 30% ไปมากๆ เช่น 60% 70% 80%
ของพอร์ตก็ควรมีการปรับพอร์ตให้ใกล้เคียงตาหลักการที่ ดร.อธิบาย
ส่วนบางคนอธิบาย ว่า cpall hmpro เป็นการกระจายอุตสาหกรรมแล้ว
โดยบอกว่าทั้ง 2 บริษัทขายของไม่เหมือนกัน ถ้าอธิบายแบบนี้ หุ้นในทุกกุล่ม
แหละก็เพราะในแต่ละกลุ่มผลิตสินค้าและบริการไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เช่น (media helth tourism เห็นชัดเพราะมีลูกค้าหลายประเภท)
แล้วอะไรละคือสิ่งที่ ดร.กำลังอธิบายว่าเราต้องรลงทุนในหลายๆอุตสาหกรรม
ส่วนบางคนที่เหน็บแนมผม ก็เชิญตามสะบาย ถ้าอึดอัดนัก อย่าแค่เหน็บ ด่าเลย
ก็ยังได้ ไม่มีการด่าตอบอยู่แล้ว
จริงๆแล้ว ผมก็เรียนรู้เรื่องการลงทุน จาก ดร.มากมาย
ถ้า เทียบ ระหว่าง ดร.กับ เซียนคนอื่นแล้ว
ผมให้น้ำหนัก ดร.มากที่สุด ไม่ว่า จะเป็น เสี่ย ย เสี่ย ป เสี่ย ส
เซียนคนอื่น ให้แนวคิดลงทุนต่างๆ ผมอ่าน อันไหน เห็นด้วยผมก็โอเค
อันไหนไม่เห็นด้วย หรือไม่ตรงกับสิ่งที่ผมรู้ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
ส่วน ดร.ผมอ่านอย่างตั้งใจ อะไรที่ไม่เห็นด้วย หรือไม่ตรงกับสิ่งที่ผมรู้
ผมจะสนใจมันเป็นพิเศษ และพยายามหาความรู้ในเรื่องนั้นจนสรุปให้ได้
แต่สำหรับเรื่อง ถ้า ดร.พูด กับทำไม่เหมือนกัน ผมก็จะทำตาม ดร.ทำ
แต่เมื่อ cpallขึ้นจาก7บาท มาที่ 61.75บาทมูลค่า ของ cpallจึงเกิน 30%
ฟังดูมีเหตุผล แต่ก็ไม่มีใครพิสูจน์ทางตัวเลขว่าจริงตามที่อธิบาย
ดังนั้นผมจึงเชื่อโดยไม่ต้องเอาตัวเลขมายัน ว่าcpall มีมูลค่ามากกว่า30%
ไม่ใช่จากราคาที่ขึ้นอย่างเดียว แต่มีเม็ดเงินทั้งเก่าและใหม่ ทำให้ปริมาณ cpall
เป็นดังที่เห็น และคำว่า 30%ของพอร์ตตามที่ ดร.อธิบายนั้น ควรจะกินความ
ถึงเมื่อหุ้นบางตัวมีมูลค่ามากว่า 30% ไปมากๆ เช่น 60% 70% 80%
ของพอร์ตก็ควรมีการปรับพอร์ตให้ใกล้เคียงตาหลักการที่ ดร.อธิบาย
ส่วนบางคนอธิบาย ว่า cpall hmpro เป็นการกระจายอุตสาหกรรมแล้ว
โดยบอกว่าทั้ง 2 บริษัทขายของไม่เหมือนกัน ถ้าอธิบายแบบนี้ หุ้นในทุกกุล่ม
แหละก็เพราะในแต่ละกลุ่มผลิตสินค้าและบริการไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เช่น (media helth tourism เห็นชัดเพราะมีลูกค้าหลายประเภท)
แล้วอะไรละคือสิ่งที่ ดร.กำลังอธิบายว่าเราต้องรลงทุนในหลายๆอุตสาหกรรม
ส่วนบางคนที่เหน็บแนมผม ก็เชิญตามสะบาย ถ้าอึดอัดนัก อย่าแค่เหน็บ ด่าเลย
ก็ยังได้ ไม่มีการด่าตอบอยู่แล้ว
จริงๆแล้ว ผมก็เรียนรู้เรื่องการลงทุน จาก ดร.มากมาย
ถ้า เทียบ ระหว่าง ดร.กับ เซียนคนอื่นแล้ว
ผมให้น้ำหนัก ดร.มากที่สุด ไม่ว่า จะเป็น เสี่ย ย เสี่ย ป เสี่ย ส
เซียนคนอื่น ให้แนวคิดลงทุนต่างๆ ผมอ่าน อันไหน เห็นด้วยผมก็โอเค
อันไหนไม่เห็นด้วย หรือไม่ตรงกับสิ่งที่ผมรู้ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
ส่วน ดร.ผมอ่านอย่างตั้งใจ อะไรที่ไม่เห็นด้วย หรือไม่ตรงกับสิ่งที่ผมรู้
ผมจะสนใจมันเป็นพิเศษ และพยายามหาความรู้ในเรื่องนั้นจนสรุปให้ได้
แต่สำหรับเรื่อง ถ้า ดร.พูด กับทำไม่เหมือนกัน ผมก็จะทำตาม ดร.ทำ
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 26
จขกท ส่ง email ไปหาดร. เลยดีไม๊ครับ 55555+
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยังข้องใจอะไรอยู่ การที่คุณ publically criticize เพื่อหา public opinion มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แถมทำให้เหมือนคุณมี hidden agenda อีกต่างหาก
ถ้าแค่สงสัยจริงๆ ไม่มีใครในนี้ให้คำตอบได้ดีกว่าตัวดร. เอง
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยังข้องใจอะไรอยู่ การที่คุณ publically criticize เพื่อหา public opinion มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แถมทำให้เหมือนคุณมี hidden agenda อีกต่างหาก
ถ้าแค่สงสัยจริงๆ ไม่มีใครในนี้ให้คำตอบได้ดีกว่าตัวดร. เอง
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 27
ผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่าผมนับถืออาจารย์นิเวศน์เป็นอย่างมาก
และยึดถือท่านเป็นต้นแบบในการลงทุนและการใช้ชีวิต
เพราะหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่านเกี่ยวกับการลงทุนคือหนังสือที่อาจารย์เขียน
ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดและมุมมองของผมอย่างมาก รวมทั้งทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น
ผมคิดว่าสิ่งที่อาจารย์นิเวศน์ทำ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับสิ่งที่ท่านสอน
เพราะสิ่งที่ท่านสอน คือ สิ่งที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลางและเป็นแนวคิดในเชิงการลงทุน
ไม่ใช่สูตรสำเร็จในการลงทุน และไม่ใช่กฎการลงทุนที่ว่า ถ้าทำตามแล้วจะประสบความสำเร็จ
ในทางกลับกัน สิ่งที่ท่านทำ คือ สิ่งที่ท่านได้เอาแนวคิดที่ท่านสอนไปประยุกต์
และปรับใช้ให้เหมาะกับวิธีการลงทุนของตัวท่านเองมากกว่า
ดังนั้น มันจึงไม่มีความจำเป็นต้องเหมือนกันครับ สิ่งสำคัญคือหลักการและแนวคิดต่างหาก
สำหรับผมแล้ว ผมไม่สนใจที่ท่านจะทำเหมือนกับสิ่งที่ท่านสอนหรือไม่
แต่ผมสนใจที่ ผมได้ความรู้และปรัชญาในการลงทุนจากการศึกษาสิ่งที่ท่านสอน
เพราะถ้าผมได้รับแนวคิดใหม่ๆจากสิ่งที่ท่านสอน ผมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆแล้ว
และก็ควรจะขอบคุณที่ท่านได้เผยแพร่ความรู้ให้
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจประเด็นที่คุณ blueplanet ต้องการจะสื่อ
เพียงแต่อยากให้คุณ blueplanet ลองมองในแง่ที่ว่าสิ่งที่ท่านสอน
เราควรจะเอามาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง มากกว่ามองว่าท่านทำไม่เหมือนกับสิ่งที่สอน
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า ต่อให้อาจารย์นิเวศน์ไม่ได้ถือ HMPRO กับ CPALL
ผมก็ยังคงมีศรัทธาและเคารพท่านในระดับนี้อยู่ดี
เพราะผมคิดว่าสิ่งที่ท่านสอนผมผ่านหนังสือที่เขียนนั้นมีคุณค่ามากกว่าผลการลงทุนของท่าน
และยึดถือท่านเป็นต้นแบบในการลงทุนและการใช้ชีวิต
เพราะหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่านเกี่ยวกับการลงทุนคือหนังสือที่อาจารย์เขียน
ซึ่งมันได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดและมุมมองของผมอย่างมาก รวมทั้งทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น
ผมคิดว่าสิ่งที่อาจารย์นิเวศน์ทำ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับสิ่งที่ท่านสอน
เพราะสิ่งที่ท่านสอน คือ สิ่งที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลางและเป็นแนวคิดในเชิงการลงทุน
ไม่ใช่สูตรสำเร็จในการลงทุน และไม่ใช่กฎการลงทุนที่ว่า ถ้าทำตามแล้วจะประสบความสำเร็จ
ในทางกลับกัน สิ่งที่ท่านทำ คือ สิ่งที่ท่านได้เอาแนวคิดที่ท่านสอนไปประยุกต์
และปรับใช้ให้เหมาะกับวิธีการลงทุนของตัวท่านเองมากกว่า
ดังนั้น มันจึงไม่มีความจำเป็นต้องเหมือนกันครับ สิ่งสำคัญคือหลักการและแนวคิดต่างหาก
สำหรับผมแล้ว ผมไม่สนใจที่ท่านจะทำเหมือนกับสิ่งที่ท่านสอนหรือไม่
แต่ผมสนใจที่ ผมได้ความรู้และปรัชญาในการลงทุนจากการศึกษาสิ่งที่ท่านสอน
เพราะถ้าผมได้รับแนวคิดใหม่ๆจากสิ่งที่ท่านสอน ผมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆแล้ว
และก็ควรจะขอบคุณที่ท่านได้เผยแพร่ความรู้ให้
อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจประเด็นที่คุณ blueplanet ต้องการจะสื่อ
เพียงแต่อยากให้คุณ blueplanet ลองมองในแง่ที่ว่าสิ่งที่ท่านสอน
เราควรจะเอามาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง มากกว่ามองว่าท่านทำไม่เหมือนกับสิ่งที่สอน
สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า ต่อให้อาจารย์นิเวศน์ไม่ได้ถือ HMPRO กับ CPALL
ผมก็ยังคงมีศรัทธาและเคารพท่านในระดับนี้อยู่ดี
เพราะผมคิดว่าสิ่งที่ท่านสอนผมผ่านหนังสือที่เขียนนั้นมีคุณค่ามากกว่าผลการลงทุนของท่าน
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 28
"รู้อยู่แล้วถามทำไม"
ผมตอบแบบไม่ต้องใช้ความรู้สึกแล้วกัน
ผมจะไปที่ที่หนึ่ง ผมกลัวหลงและไม่อยากเสียเวลา
แม้ว่าผมจะมั่นใจว่าผมไปถูก ผมก็จะแวะถามคนแถวนั้นตลอด
เมื่อได้้รับข้อมูล บางครั้งผมก็ยังถามคนที่ 2 ที่ 3 อีก เพื่อความมั่นใจ
ผมรู้แล้ว ผมก็ยังถาม เพราะ ผมไม่ต้องการผิดพลาด การเสียเวลา
ถามนิดหน่อย และไม่มีอะไรผิดพลาดถือว่าคุ้มมาก
"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยังข้องใจอะไรอยู่ การที่คุณ publically criticize
เพื่อหา public opinion มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แถมทำให้เหมือนคุณมี
hidden agenda อีกต่างหาก"
hiden agenda ในความหมายของคุณมันหมายความอะไร
และทำไมคุณคิดว่าผมมีละ ทำไมคุณต้องยัดความเชื่อของคุณมาใส่ตัวผมละ
ผมตอบแบบไม่ต้องใช้ความรู้สึกแล้วกัน
ผมจะไปที่ที่หนึ่ง ผมกลัวหลงและไม่อยากเสียเวลา
แม้ว่าผมจะมั่นใจว่าผมไปถูก ผมก็จะแวะถามคนแถวนั้นตลอด
เมื่อได้้รับข้อมูล บางครั้งผมก็ยังถามคนที่ 2 ที่ 3 อีก เพื่อความมั่นใจ
ผมรู้แล้ว ผมก็ยังถาม เพราะ ผมไม่ต้องการผิดพลาด การเสียเวลา
ถามนิดหน่อย และไม่มีอะไรผิดพลาดถือว่าคุ้มมาก
"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยังข้องใจอะไรอยู่ การที่คุณ publically criticize
เพื่อหา public opinion มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แถมทำให้เหมือนคุณมี
hidden agenda อีกต่างหาก"
hiden agenda ในความหมายของคุณมันหมายความอะไร
และทำไมคุณคิดว่าผมมีละ ทำไมคุณต้องยัดความเชื่อของคุณมาใส่ตัวผมละ
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 29
^^
น้อยใจหรอครับ ยังไงเนี่ย ผมง้อไม่เก่งนะครับ
น้อยใจหรอครับ ยังไงเนี่ย ผมง้อไม่เก่งนะครับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำอย่างที่ ดร.นิเวศน์พูด หรือ ทำอย่าง ดร.นิเวศน์ทำ ?
โพสต์ที่ 30
หนังสือ คลาสสิก ที่สุดของ ดร คือ ตีแตก... ดร ทำการตีแตกไงครับ...
ไม่ควรทำอย่าง ดร เขียน หรือ ดร ทำ ทำในสิ่งที่คุณควรทำ
ผมไม่ชอบนะ ถ้ามีคนอย่าง ดร มาเขียนหนังสือ แล้วมีคนมาวิจารย์ อะไรแบบนั้น
การเล่นหุ้นมันเป็นศาสตร์ และศิลป มันไม่ใช่อะไรที่ตรงไปตรงมาขนาดนั้น
การกระจายความเสี่ยง กับ Focus
กระจายความเสี่ยงเป็นการลดความเสี่ยง วิธีนึง
การตีแตก คือ คุณเห็นอะไรที่ไม่มีความเสี่ยงทุ่มทุนได้
การเขียนให้คนทั่ว ๆ ไป อ่าน คงต้องบอกแบบ กลาง ๆ ว่า ควรกระจาย
จะกระจาย หรือ Focus อยู่ที่แต่ละคน ว่าคุณมีความรู้ ความสามารถมากแค่ไหน..
คนที่ ไม่หวงความรู้พยายามให้ความรู้เรา นะ อย่าไป ว่าเค้าเลย
ดร บอกเสมอว่า ให้คิดเอง ไม่เคยบอกให้เชื่อเค้าเล่นตามเค้าเลยนะ..
ไม่ควรทำอย่าง ดร เขียน หรือ ดร ทำ ทำในสิ่งที่คุณควรทำ
ผมไม่ชอบนะ ถ้ามีคนอย่าง ดร มาเขียนหนังสือ แล้วมีคนมาวิจารย์ อะไรแบบนั้น
การเล่นหุ้นมันเป็นศาสตร์ และศิลป มันไม่ใช่อะไรที่ตรงไปตรงมาขนาดนั้น
การกระจายความเสี่ยง กับ Focus
กระจายความเสี่ยงเป็นการลดความเสี่ยง วิธีนึง
การตีแตก คือ คุณเห็นอะไรที่ไม่มีความเสี่ยงทุ่มทุนได้
การเขียนให้คนทั่ว ๆ ไป อ่าน คงต้องบอกแบบ กลาง ๆ ว่า ควรกระจาย
จะกระจาย หรือ Focus อยู่ที่แต่ละคน ว่าคุณมีความรู้ ความสามารถมากแค่ไหน..
คนที่ ไม่หวงความรู้พยายามให้ความรู้เรา นะ อย่าไป ว่าเค้าเลย
ดร บอกเสมอว่า ให้คิดเอง ไม่เคยบอกให้เชื่อเค้าเล่นตามเค้าเลยนะ..
The One