Sensitivity
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Sensitivity
โพสต์ที่ 1
การคำนวณหามูลค่าหุ้น (Fair Value) นั้น โดยมากเราต้องประมาณการผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทในอนาคตก่อนจึงจะคำนวณมูลค่าได้ แต่ปัญหาคือการประมาณการผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินนั้น มีตัวแปรมากมาย เพื่อนๆเคยลองใช้หลัก Sensitivity ในการคำนวณเพื่อหาความเสี่ยงไหมครับ ลองใช้ดูนะครับ อาจจะได้เห็นภาพความเสี่ยงจากตัวแปรไม่ได้เป็นดังหวัง
-
- ผู้ติดตาม: 0
Sensitivity
โพสต์ที่ 2
sensitivity ของอะไรครับ คุณฉัตรชัย
ตลาดหุ้น
ตลาดผู้บริโภค
หรือ ใช้ความรู้สึกแทนข้อมูล
ช่วยขยายความด้วยครับ
ตลาดหุ้น
ตลาดผู้บริโภค
หรือ ใช้ความรู้สึกแทนข้อมูล
ช่วยขยายความด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
Sensitivity
โพสต์ที่ 4
อ้อ เข้าใจแล้วครับ หมายความว่า
มูลค่าหุ้นปัจจุบันเราสามารถหาได้จากข้อมูลการเงินที่เรามีอยู่
แต่มูลค่าหุ้นในอนาคตเราต้องใช้ค่าตัวแปรต่างๆที่เรายังไม่รู้แน่ชัด
ดังนั้น เราจึงมาลองเล่นเกมส์ what-if กับมันดู...
ถ้าผลกำไรเพิ่มเท่านี้ มูลค่าหุ้นจะเป็นเท่าไหร่
ถ้ารายได้ลดลงไปขนาดนั้น มูลค่าหุ้นจะลดลงไปมากหรือไม่
ทำให้เรารู้
(1) มูลค่าของหุ้น โดยมีค่าสมมติที่เราตั้งขึ้น (ค่าสมมติ อาจจะเริ่มจากเอาค่าในอดีตมาใช้)
(2) เมื่อเราเปลี่ยนค่าสมมติไป เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าหุ้น อันนี้น่าสนใจมาก ทำให้เรารู้ล่วงหน้าก่อนว่า ถ้าบริษัทเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อนาคตของบริษัทเป็นอย่างไร บริษัทจะดีขึ้นมากแค่ไหน หรือ บริษัทจะทนกับการตกต่ำได้ดีแค่ไหน
...พอได้มั้ยครับ
มูลค่าหุ้นปัจจุบันเราสามารถหาได้จากข้อมูลการเงินที่เรามีอยู่
แต่มูลค่าหุ้นในอนาคตเราต้องใช้ค่าตัวแปรต่างๆที่เรายังไม่รู้แน่ชัด
ดังนั้น เราจึงมาลองเล่นเกมส์ what-if กับมันดู...
ถ้าผลกำไรเพิ่มเท่านี้ มูลค่าหุ้นจะเป็นเท่าไหร่
ถ้ารายได้ลดลงไปขนาดนั้น มูลค่าหุ้นจะลดลงไปมากหรือไม่
ทำให้เรารู้
(1) มูลค่าของหุ้น โดยมีค่าสมมติที่เราตั้งขึ้น (ค่าสมมติ อาจจะเริ่มจากเอาค่าในอดีตมาใช้)
(2) เมื่อเราเปลี่ยนค่าสมมติไป เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าหุ้น อันนี้น่าสนใจมาก ทำให้เรารู้ล่วงหน้าก่อนว่า ถ้าบริษัทเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อนาคตของบริษัทเป็นอย่างไร บริษัทจะดีขึ้นมากแค่ไหน หรือ บริษัทจะทนกับการตกต่ำได้ดีแค่ไหน
...พอได้มั้ยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Sensitivity
โพสต์ที่ 6
ผมเคยใช้ในตอนทำงานวิเคราะห์สินเชื่อโครงการนะครับ วิเคราะห์ว่าถ้ากรณี Worse Case เทียบกับกรณี Base Case แล้วเป็นอย่างไร เรายอมรับได้ไหมในกรณี Worse Case ซึ่งเราอาจจะคำนวณไว้หลายระดับ และเปลี่ยนแปลงค่าในหลายตัวแปร เช่น ราคาขาย, จำนวนชิ้นของสินค้าที่ขายได้, สัดส่วนต้นทุนสินค้า, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้, ระยะเวลาการเก็บเงิน, ระยะเวลาในการเก็บสินค้าคงคลัง, ระยะเวลาจ่ายเงินเจ้าหนี้ เป็นต้น