แจก W .........เพิ่มทุน...........ซื้อหุ้นคืน

[ปรัชญา]

แบบรายงานผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน
                         

                                วันที่ 8 สิงหาคม 2549

   1. วิธีการในการซื้อหุ้นคืน
         X  -  ซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ...
               วันที่ครบกำหนดโครงการ   14 กันยายน 254x
               (โครงการซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ...มีระยะเวลาดำเนินการ
               ไม่เกิน x เดือน)
            -  เสนอซื้อเป็นการทั่วไป
   2. โครงการซื้อหุ้นคืน
         2.1 วันที่คณะกรรมการมีมติให้ซื้อหุ้นคืน 2x กุมภาพันธ์ 254x
         2.2 ผลการซื้อหุ้นคืน
             จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ 8x,xxx,xxx หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ
             1x ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
     วันที่ซื้อหุ้นคืน     จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน   ราคาที่ซื้อต่อหุ้น    ราคาต่ำสุด     มูลค่ารวม
                                  หรือราคาสูงสุด    (บาท/หุ้น)      (บาท)
   8 สิงหาคม 254x     3,xxx,xxx       3.xx          3.xx    1x,xxx,xxx.00
   
         2.3 จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้น
             จำนวนรวมของหุ้นที่ซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน (รวมข้อ 2.2) 8,xxx,xxx หุ้น
   คิดเป็นร้อยละ 1.xxของทุนชำระแล้วมูลค่ารวม 3x.xxล้านบาท
   
         บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ
   
   
   


ตัวอย่างแบบนี้
เหมือนการพิมพ์เศษกระดาษมาขาย
แล้วนำเงินสะสมของผู้ถือหุ้นมาซื้อหุ้นคืน


เอ....เงินไปเข้ากระเป๋าครายยยยยยยยยย

[สามัญชน]

สมีโกลใช่ไหมพี่  ราคาเฉลี่ย 3.44 ก็ไม่แพงนักถ้ามองย้อนอดีตที่สมีโกลเคยซื้อขายกันที่ 12 บาท  

แต่เมื่อเดือนก่อนเคยเทขายกันที่ 2.7 บาทนี่สิ

[pak]

******************************************************************************
ผมขออนุญาตใช้กระทู้นี้
เป็นกระทู้รวบรวมข้อมูลและข่าว "การเพิ่มทุน การแจกวอแรนต์ และการซื้อหุ้นคืน" ของทุกๆบริษัทฯ
เริ่มตั้งแต่ 28 ก.ย. 54 เป็นต้นไปครับ
******************************************************************************

[pak]

GRAND เพิ่มทุนพันล. ดึงตปท. 3 รายร่วมหุ้น [ นสพ.โพสต์ทูเดย์ , 28 ก.ย. 54 ]

แกรนด์ แอสเสทฯ เพิ่มทุนขาย 1,000 ล้านบาท ดึงนักลงทุนต่างชาติ 3 รายถือหุ้นปลอบใจ ผู้ถือหุ้น
เดิมได้เอี่ยวซื้อ 1 หุ้น

นายนพดล มิ่งจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้
(GRAND) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท ขายหุ้นละ
1 บาท ให้กับนักลงทุน 3 ราย คือ บริษัท Citynet Asia จำนวน 300 ล้านหุ้น บริษัท Sino Cavalier
400 ล้านหุ้น และบริษัท Triple Growth International 300 ล้านหุ้น กำหนดชำระเงินค่าหุ้นวันที่ 28
ก.ย.นี้ ซึ่งทั้ง 3 ราย ไม่มีความเกี่ยวโยงกัน

[pak]

หลักทรัพย์ GRAND
แหล่งข่าว GRAND
หัวข้อข่าว แบบรายงานผลการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กลุ่มบุคคลในวงจำกัด F53-5
วันที่/เวลา 28 ก.ย. 2554 13:31:58

วันที่ 28 กันยายน 2554

เรื่อง รายงานการขายหุ้นให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 ของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์
พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2554
ได้มีมติให้บริษัทนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,000,000,000 หุ้น
ออกจัดสรรและเสนอขายเป็นคราวเดียวหรือแบ่งเป็นส่วน ๆ เพื่อเสนอขายเป็นคราว ๆ
ให้แก่นักลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงและ/หรือนักลงทุนประเภทสถาบันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่
ทจ.28/2521 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขาย หุ้นที่ออกใหม่ (Private Placement) ในราคาหุ้นละ
1 บาท ดังรายละเอียดที่ทราบแล้วนั้น

โดยหนังสือนี้ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทได้นำหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าวออกเสนอขาย
และบัดนี้ได้มีนักลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวครบทั้งจำนวน 1,000,000,000 หุ้นเรียบร้อยแล้ว
ตามรายละเอียดในแบบรายงานผลการขายหุ้น (F53-5) ที่แนบมานี้ ทั้งนี้
บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการและ/หรือการบริหารงานแต่อย่างใด

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ขอแสดงความนับถือ


(ดร.นพดล มิ่งจินดา)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร



(F 53-5)
แบบรายงานผลการขายหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์
บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 28 กันยายน 2554

1. ข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น
ประเภทของหุ้นที่เสนอขาย หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่เสนอขาย 1,000,000,000 หุ้น
เสนอขายให้แก่ นักลงทุนเฉพาะเจาะจง และ/หรือนักลงทุนประเภmสถาบัน
ราคาขายต่อหุ้น 1.- บาท
กำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้น ภายในวันที่ 28 กันยายน 2554

2. ผลการขายหุ้น
[?] ขายได้หมดทั้งจำนวน
[ ] ขายไม่หมด คงเหลือจำนวน......หุ้น โดยบริษัทได้ดำเนินการเกี่ยวกับหุ้นส่วนที่เหลือดังนี้

3. รายละเอียดการขายหุ้น
ผู้ลงทุนสัญชาติไทย ผู้ลงทุนต่างประเทศ รวม
นิติบุคคล บุคคลธรรมดา นิติบุคคล บุคคลธรรมดา
จำนวนราย 3 3
จำนวนหุ้นที่
จองซื้อ 1,000 ล้านหุ้น 1,000 ล้านหุ้น
ร้อยละของจำนวนหุ้นที่ 100% 100%
เสนอขายทั้งหมด
4. จำนวนเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น
จำนวนเงินรวม 1,000 ล้านบาท
หัก ค่าใช้จ่าย (ระบุ) ล้านบาท
ล้านบาท
ล้านบาท
จำนวนเงินที่ได้รับสุทธิ 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า นักลงทุนแต่ละรายได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรายละไม่ถึงร้อยละ
25 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท ดังนั้น
นักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นแต่ละรายจึงไม่มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทแต่อย่างใด

บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ


ลายมือชื่อ กรรมการผู้มีอำนาจ
( นายวิทวัส วิภากุล) ลงลายมือชื่อแทนบริษัท
(กรรมการผู้มีอำนาจ ตำแหน่ง กรรมการ
ลงลายมือชื่อแทนบริษัท
(พร้อมประทับตราของบริษัท) ลายมือชื่อ กรรมการผู้มีอำนาจ
(นายอัมรินทร์ นฤหล้า)ลงลายมือชื่อแทนบริษัท
ตำแหน่ง กรรมการ

[ปรัชญา]

นี่ก็แจกวอ เพิ่มทุน

28 ก.พ. 2554 XR วันปิดสมุดทะเบียน 03 มี.ค. 2554

วันที่จองซื้อ 21 มี.ค. 2554 00:00 - 25 มี.ค. 2554 00:00
ราคาจองซื้อ 16.00 บาท
อัตราส่วนการจองซื้อ 8 : 1

หลังจากทำอะไรต่อมิอะไร หุ้นก็ไหลลงจากยี่สิบกว่าบาท ราคาเพิ่มทุนหุ้นละ 16บาท
ข้อมูลล่าสุด 28 ก.ย. 2554 ปิดตลาดราคา 8.95
ทางบริษัทคงทนดูไม่ไหว ประกาศโครงการ ซื้อหุ้นคืน

หลักทรัพย์ SMT
แหล่งข่าว SMT
หัวข้อข่าว การซื้อหุ้นคืน แก้ไขเอกสารแนบรายงานการกระจายหุ้น
วันที่/เวลา 28 ก.ย. 2554 13:14:09

โครงการซื้อหุ้นคืน

เรื่อง : ซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 27 ก.ย. 2554
จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน(หุ้น) : 41,627,405
%ของจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 10.00
วงเงินซื้อหุ้นคืน(ล้านบาท) : 350.00
วิธีการในการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์

[canuseeme]

โฮ พี่ PAK มัดมือ พี่ ปรัชญา เจิม กระทู้ เลย เหรอ ครับ มุกนี้เด็ด ครับ 555

[pporkha]

ดีครับน่สจะปักหมุดกระทู้นี้เหมือน กระทู้รายงานการซื้อขายผู้บริหาร 59-2 ประจำวัน เลยนะครับ

[pak]

หลักทรัพย์ BIGC
แหล่งข่าว BIGC
หัวข้อข่าว กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และการเพิ่มทุน
วันที่/เวลา 20 ต.ค. 2554 08:49:00

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 19 ต.ค. 2554
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 350,000,000
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น : 23 พ.ย. 2554
ที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 24 พ.ย. 2554
ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) : 21 พ.ย. 2554
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 350,000,000
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 350,000,000
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 10.00
หมายเหตุ :
(1) จัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 350,000,000 หุ้น
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น
ในอัตราส่วนไม่เกิน 2.2897 หุ้นสามัญเดิมต่อ1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ
จะกำหนดอัตราส่วนการจองซื้อหุ้นที่แน่นอนภายหลังและจะทำการประกาศโดยการแจ้งผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประ
เทศไทยและการประกาศทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ คือ www.bigc.co.th
ภายในวันและเวลาก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2554
โดยราคาขายกำหนดในภายหลัง ซึ่งกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ
จะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น
โดยพิจารณาจากราคาซื้อขายหุ้นเฉลี่ยในแต่ละวันในช่วงระยะเวลา 30
วันก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2554 ประกอบกับสภาวะตลาดทุน
และความสนใจของนักลงทุน ณ ขณะนั้น
และจะทำการประกาศโดยการแจ้งผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและการประกาศทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ คือ
www.bigc.co.th ภายในวันและเวลาก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2554 ส่วน วัน เวลา
จองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นกำหนดในภายหลัง

ในกรณีที่มีเศษจากการคำนวณ ให้ปัดเศษทิ้ง ทั้งนี้ ให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมีอำนาจในการ (ก)
กำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขที่จำเป็นเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งรวมถึง ราคาเสนอขาย
จำนวนหุ้นสุดท้ายที่จะออกและเสนอขาย อัตราส่วนการจองซื้อหุ้น และระยะเวลาการจองซื้อหุ้น
รวมทั้งการกำหนดให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเกินสัดส่วนการจองซื้
อหุ้นของตนได้หรือไม่ ทั้งนี้
ราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจะพิจารณาจากราคาซื้อขายหุ้นเฉลี่ยในแต่ละวันในช่ว
งระยะเวลา 30 วันก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2554 ประกอบกับสภาวะตลาดทุน
และความสนใจของนักลงทุน ณ ขณะนั้น และ (ข) ประกาศข้อมูลดังกล่าว
โดยการแจ้งผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและการประกาศทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ คือ www.bigc.co.th
ภายในวันและเวลาก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
(2) ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเหลือจากการจองซื้อหุ้นสำหรับการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเ
ดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น บริษัทจะเสนอขายหุ้นที่เหลือให้แก่นักลงทุนเฉพาะราย และ/หรือ
ผู้ลงทุนสถาบัน โดยการเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจง ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 28/2551 เรื่อง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
โดยนักลงทุนดังกล่าวจะไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ตามประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
และ/หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("การเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง") ทั้งนี้
ให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมีอำนาจในการกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายสำหรับการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง
โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบความต้องการซื้อและความต้องการขายหุ้นที่ออกใหม่ของบริษัท
โดยการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นจากผู้ลงทุนสถาบันในราคาต่างๆ (Bookbuild) โดยผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
รวมทั้งคำแนะนำของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และสภาวะตลาดทุน ณ ขณะนั้น ทั้งนี้
ราคาเสนอขายสำหรับการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงจะไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบร
ิษัท ซึ่งมีสิทธิจองซื้อหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการได้อนุมัติให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมีอำนาจในการพิจารณากำหนด แก้ไขเพิ่มเติม
และ/หรือ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญและเสนอขายเพิ่มทุน
โดยการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
ตามสัดส่วนการถือหุ้นและการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงดังที่กล่าวข้างต้น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง
(1) การแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาอื่นๆ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ การเข้าเจรจา ทำความตกลง
และลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ กับผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และ/หรือบุคคลอื่นใด (2)
ลงนามในเอกสารคำขออนุญาตและหลักฐานที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่
มทุนดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการดำเนินการติดต่อ และการยื่นคำขออนุญาตรวมทั้งเอกสารและหลักฐานใดๆ
ต่อหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
และการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ (3)
การดำเนินการอื่นใดอันจำเป็นหรือสมควรสำหรับการออกและเสนอขาย
รวมทั้งการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจะไม่จัดสรรหุ้นให้แก่ผู้จองซื้อ
หากการจัดสรรหุ้นดังกล่าวจะส่งผลหรืออาจส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นต่างด้าวของบริษัทไม่เป็น
ไปตามที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัทฯ หรือส่งผลให้บริษัทต้องดำเนินการหรือต้องได้รับความเห็นชอบใดๆ
นอกเหนือไปจากที่จะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ
อาจเลื่อนหรือยกเลิกการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ
ตามสัดส่วนการถือหุ้น และ/หรือการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงทั้งหมดก็ได้ หากเห็นว่าเหมาะสม
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสภาวะตลาดทุนและสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยราคาเสนอขายหุ้นจะมีการกำหนดโดยการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นจากผู้ลงทุนสถาบันในราคาต่างๆ
(Bookbuild) แต่ จะไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น
กำหนดในภายหลัง
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 19 ต.ค. 2554
วันประชุม : 17 พ.ย. 2554
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 14 : 00
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 03 พ.ย. 2554
date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร : 04 พ.ย. 2554
่วมประชุมตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 01 พ.ย. 2554
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การเพิ่มทุน
สถานที่ประชุม : โรงแรมห้องบอลรูม 1 ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เลขที่ 973 ถนนเพลินจิต
กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย
หมายเหตุ :
วาระที่ 1. พิจารณาอนุมัติรับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 27
เมษายน 2554

วาระที่ 2. พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 3. วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ
เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจรับชำระค่าสินค้าและบริการทางอิเล็คทรอนิคส์ (Electronic Bill Payment)

วาระที่ 3. พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 8,250,000,000 บาท เป็น
8,013,865,740 บาท โดยการยกเลิกหุ้นที่ยังมิได้ออกจำหน่ายจำนวน 23,613,426 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
10 บาท

วาระที่ 4. พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4.
เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

วาระที่ 5. พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 8,013,865,740
บาทเป็น 11,513,865,740 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 350,000,000 หุ้น
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

วาระที่ 6. พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4.
เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

วาระที่ 7. พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 350,000,000 หุ้น
มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท


วาระที่ 8. พิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท ข้อ 9.

วาระที่ 9. พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)

[pak]

หลักทรัพย์ BIGC
แหล่งข่าว BIGC
หัวข้อข่าว กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และการเพิ่มทุน
วันที่/เวลา 20 ต.ค. 2554 08:49:00
...

เก็บกราฟไว้เพื่อดูประกอบเป็น Case Study ครับ
ผมแค่อยากจะพยายามสังเกตว่า เวลามีข่าวเพิ่มทุนออกมา นักลงทุนจะตอบรับแบบใดอ่ะนะขอรับ?
เก็บไว้เป็นสถิติ ไม่ได้ชี้นำใดๆทั้งสิ้นครับผม

[pak]

เพิ่มทุนเทพจริงๆครับ 1:10
=================================================================

วันที่/เวลา 02 มี.ค. 2555 08:54:09
หัวข้อข่าว กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 , การเพิ่มทุนของบริษัทฯ และ งดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน 2554(แก้ไขเทปเพลท)
หลักทรัพย์ KMC
แหล่งข่าว KMC
รายละเอียดแบบเต็ม


การพิจารณาปันผล

เรื่อง : งดจ่ายเงินปันผล
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 29 ก.พ. 2555
งดจ่ายปันผลจาก :
งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2554 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2554
______________________________________________________________________


การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (PAR)

เรื่อง : การรวมมูลค่าที่ตราไว้ (รวม par)
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 29 ก.พ. 2555
มูลค่าที่ตราไว้(Par) เดิม(บาท/หุ้น) : 2.30
มูลค่าที่ตราไว้(Par) ใหม่(บาท/หุ้น) : 10.00
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 29 ก.พ. 2555
วันประชุม : 04 เม.ย. 2555
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 10 : 00
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อได้รับสิทธิเข้าร่วมประชุม : 15 มี.ค. 2555
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 12 มี.ค. 2555
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- งดจ่ายเงินปันผล
- การเพิ่มทุน
- การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
- การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (par)
สถานที่ประชุม : โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
______________________________________________________________________

การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ

เรื่อง : ออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 29 ก.พ. 2555
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบสำคัญแสดงสิทธิ
: หุ้นสามัญ
หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลัก
ทรัพย์แปลงสภาพ
อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) : 10 : 1
ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00
ลักษณะของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ชื่อใบสำคัญแสดงสิทธิ (แก้ไข) : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
กฤษดามหานครจำกัด (มหาชน)
อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) : 1 : 1

ราคาการใช้สิทธิ(บาทต่อหุ้น) : 1.00
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ :
อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2



จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบสำคัญแสดงสิทธิ
: หุ้นสามัญ
หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลัก
ทรัพย์แปลงสภาพ
อัตราส่วน (หุ้นเพิ่มทุน : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) : 2 : 1
ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00
ลักษณะของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ชื่อใบสำคัญแสดงสิทธิ (แก้ไข) : สำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
กฤษดามหานครจำกัด (มหาชน)
อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) : 1 : 1

ราคาการใช้สิทธิ(บาทต่อหุ้น) : 1.00
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ :
อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ : 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2






หมายเหตุ (แก้ไข) :
3.11 อนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 จำนวนไม่เกิน 1,030,912,398 หน่วย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมหลังเพิ่มมูลค่าหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
และผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน Right Issue ตามสัดส่วนการจองซื้อ และ / หรือ
บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการจองซื้อของผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 2 หุ้นสามัญใหม่ ต่อ 1
หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดย ไม่คิดมูลค่า ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
ได้ 1 หุ้นในราคาหุ้นละ 1 บาท
โดยมีรายละเอียดของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย(เอกสารแนบ 1)
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 29 ก.พ. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 2,021,396,860
อัตราส่วน (เดิม : ใหม่) : 1 : 10
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 0.40
วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น : วันที่ 09 พ.ค. 2555 ถึงวันที่ 15 พ.ค. 2555
วันที่ปิดสมุดทะเบียน : 26 เม.ย. 2555
เพื่อได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน
วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) : 23 เม.ย. 2555
จัดสรรให้กับ : บุคคลในวงจำกัด
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 2,000,000,000
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 1,030,912,398
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 5,052,309,258
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 5,052,309,258
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) (แก้ไข) : 10.00
หมายเหตุ (เพิ่มเติม) :
3.14 อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทดังนี้
(1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 2,021,396,860 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน (Rights Issue)ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 10 หุ้นเพิ่มทุน
ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.40 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่
26 เมษายน 2555 โดยกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 ถึงวันที่ 15
พฤษภาคม 2555
ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจองซื้อของผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าวข้างต้น ให้คณะ กรรมการบริษัท
หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นเ
ดิมที่ประสงค์จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่าสิทธิที่รับการจัดสรร (Excess Rights)
ตามสัดส่วนดังกล่าวข้างต้นในราคาเดียวกัน
จนกว่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรจนครบทั้งจำนวน
โดยในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือดังกล่าวให้คำนึงถึงจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือ
และจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จองซื้อโดยผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะจองซื้อหุ้นเกินกว่าสิทธิที่ได้รับการจัดส
รร ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริษัท
หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทมีอำนาจพิจารณากำหนดรายละเอียด และเงื่อนไขอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ในกรณีที่มีหุ้นที่เหลือจากการจองซื้อตามสิทธิ ให้คณะกรรมการบริษัท และหรือ
บุคคลที่คณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจในการจัดสรรหุ้นที่เหลือดังกล่าว ให้แก่บุคคลในวงจำกัด และหรือ
ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และหรือ ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ (Private Placement) โดยจะจัดสรรให้หมดในคราวเดียว หรือหลายคราวก็ได้ ในราคาหุ้นละ
0.40 บาท สำหรับระยะเวลาในการเสนอขายและการชำระเงิน ให้คณะกรรมการบริษัท และหรือ
บุคคลที่คณะกรรมการบริษัท มอบหมายเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร
สำหรับผู้ที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวก็จะได้รับสิทธิที่จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2
ตามสัดส่วน 2 หุ้นที่จองซื้อ ต่อ 1ใบสำคัญแสดงสิทธิเช่นกัน ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจพิจารณากำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เข้าเจรจา ตกลง ลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งดำเนินการต่างๆ อันจำเป็นและสมควรอันเกี่ยวเนื่องกับหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ซึ่งรวมถึงการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(2) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 2,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
10บาททั้งจำนวนหรือแต่บางส่วนในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ
นักลงทุนประเภทสถาบัน (นักลงทุน) ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 28/2551 เรื่อง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551
ในราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด (ราคาตลาดภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้
ตามวาระที่ 3.12 และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน (Rights Issue)
ตามวาระที่ 3.14.1 ก่อนหน้านี้) ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบริษัท
หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรการบริษัทเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวและกำ
หนดระยะเวลาการเสนอขาย เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่นักลงทุน อนึ่ง
นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
จะต้องไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ.2546 และ/หรือ
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
(3) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,030,912,398 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
และผู้ถือหุ้นเดิมหรือนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามวาระที่ 3.11 ดังกล่าวข้างต้น

ที่มา : http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[modpattaya]

ปักหมุด รอ....พี่ปรัชฯ และน้อง pak

[pak]

วันที่/เวลา 13 มี.ค. 2555 17:16:07
หัวข้อข่าว กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้น, งดจ่ายเงินปันผล, การลดทุนจดทะเบียน (แก้ไขกรรมการออกตามวาระ)
หลักทรัพย์ GEN
แหล่งข่าว GEN
ที่ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

วันที่/เวลา 13 มี.ค. 2555 18:02:02
หัวข้อข่าว การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลแบบเฉพาะเจาะจง
หลักทรัพย์ TGPRO
แหล่งข่าว TGPRO
ที่ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

วันที่/เวลา 04 เม.ย. 2555 13:01:56
หัวข้อข่าว โครงการแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (แก้ไข)
หลักทรัพย์ GSTEEL
แหล่งข่าว GSTEEL
ที่ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[MO101]

ดูเหมือนว่าจะมี lee ที่เพิ่มทุนนะครับ
และขอทายล่วงหน้าเลยว่า คนที่ประมูลบอลพรีเมียร์ลีกได้ ไม่ว่าจะเป็น GMM RS หรือ TRUE ต้องเพิ่มทุนค่อนข้างแน่

[pak]

‎### BIGC เคาะราคาขายหุ้นเพิ่มทุน PP ที่ 176 บาท/หุ้น จำนวน 23.61 ล้านหุ้น ###

นางสาวรำภา คำหอมรื่น รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) แจ้งว่า ตามที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 55 เมื่อวันที่ 30 เม.ย.55 ได้มีมติให้ออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 23,613,426 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 10 บาท ให้แก่นักลงทุนเฉพาะราย และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดยเป็นการเสนอ...ขายแบเฉพาะเจาะจง (PP)

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ PP จำนวนดังกล่าว โดยใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบความต้องการซื้อและขายหุ้นที่ออกใหม่ของบริษัท โดยการสำรวจความต้องการซื้อจากผู้ลงทุนสถาบันในราคาต่าง ๆ (book building) โดยผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ได้แต่งตั้ง โดยราคาเสนอขายหุ้นสามัญอยู่ที่ 176 บาท/หุ้น วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น วันที่ 3-8 พ.ค. 2555

บิ๊กซีจะนำเงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ ไปใช้ในการขยายกิจการของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวร้านค้าปลีกขนาดเล็ก และนำไปลดภาระหนี้ของบริษัทฯ การระดมทุนครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ขยายธุรกิจ เพื่อผลักดันให้บิ๊กซีก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกสมัยใหม่อันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นผู้ประกอบการที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคนี้การเสนอขายหุ้นครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันที่ 9 พ.ค.55

บิ๊กซีได้แต่งตั้งให้ Credit Suisse เป็นผู้จัดการหลักในการประสานงานการจัดจำหน่ายและสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ โดยมี BNP Paribas, CLSA, Deutsche Bank, บมจ.หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ และบมจ. หลักทรัพย์บัวหลวง เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (joint bookrunners)

--อินโฟเควสท์

[pak]

แนะ บจ.ฉวยจังหวะตลาดหุ้นคึก เพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปขายพันธมิตร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2555 23:09 น. Share


ตลาดหลักทรัพย์ฯชี้ ตลาดหุ้นอยู่ช่วงขึ้นเป็นจังหวะดี หาก บจ. การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ส่งผลให้ขายหุ้นเพิ่มทุนแก่พันธมิตรใหม่ได้ราคาดี-ระดมทุนรวดเร็วขึ้น เผยต้นปี บจ.ทำแล้ว 12 บริษัท มูลค่า 2-3 พันล้านบาท " ชนิตร" เผยต้นปี บจ.ใช้เครื่องมือทางการเงิน 52 รายการ เพิ่มสภาพคล่องหุ้นและดูแลราคาหุ้น มากสุดจ่ายเป็นหุ้นปันผล

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบิรษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ( mai ) เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทจดทะเบียนมีการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ( General Mandate ) มากขึ้นในการประชุมสมัญผู้ถือหุ้นประจำปี (AGM) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 12 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มทุนประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนวิธีนี้ยังไม่ต้องระบุวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ชัดเจนตอนขออนุมัติผู้ถือหุ้น แต่เมื่อจะจัดสรรต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริษัทและต้องเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน

สำหรับ ขณะนี้ที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการที่จะมีการเสนอขายหุ้น ให้กับพันธมิตรใหม่ ซึ่งหากมีการรขอ General Mandate จะช่วยให้บริษัทเพิ่มทุนได้ทันต่อความต้องการและสภาวะตลาดหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วและเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ช่วยลดขึ้นตอนและระยะเวลาได้ประมาณ 4-10 สัปดาห์ ในขณะเดียวกันยังคงหลักการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ไม่วาจะเป็นเรื่องการเพิ่มได้เฉพาะหุ้นเท่านั้น ยังจำกัด สัดส่วนหุ้นที่เพิ่มแต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นเดิม ( RO ) ประชาชนทั่วไป ( PO ) และบุคคลในวงจำกัด (PP) อีกทั้งราคาเสนอขายต้องไม่ใช่ราคาต่ำ และต้องจัดสรรภายใน AGM ถัดไปเท่านั้น

" ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการประกาศใช้ General Mandate ตั้งแต่เดือนมีนาคม 54 ในขณะที่ต่างประเทศใช้กันมาหลายปีแล้ว ซึ่งถือว่าการใช้ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นให้เราแข่งขันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคจากที่ตลาดหุ้นไทยมีกฎหมายหรือเกณฑ์ที่มีความคล่องตัวมากขึ้น " นายชนิตรกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีนี้บริษัทจดทะเบียนได้มีการใช้เครื่องมือทางการเงินในตลาดหลักทรัพย์ฯรวม 48 บริษัท จำนวน 52 เครื่องมือ ณ 16 มีนาคม 55 แบ่งเป็นการรจ่ายหุ้นปันผล ( Stock Dividend ) จำนวน 26 บริษัท มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องมือทงการเงินประเภทอื่นๆ และมากกว่าทั้งปี 54 ที่มีจำนวน 19 บริษัท รองมาคือการออกเสนอขายหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นแก่กรรมการและพนักงาน (ESOP) จำนวน 11 บริษัทและการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ( Warrant ) จำนวน 5 บริษัท การเปลี่ยนแปลงมูล่าพาร์ จำนวน 5 บริษัท การซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) จำนวน 2 บริษัท และการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Debenture ) 2 บริษัท และการทำโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงานบริษัทจดทะเบียน ( EJIP ) จำนวน 1 บริษัท

อย่างไรก็ตาม ในปี 54 บจ.ใช้เครื่องมือทางการเงินรวม 96 บริษัทมากสุดคือการการออก ESOP และ Warrant จำนวน 42 บริษัท รองลงมาการเปลี่ยนแปลงมูลค่าพาร์จำนวน 20 บริษัท และสุดท้ายการออกหุ้นปันผลจำนวน 19 บริษัท การซื้อหุ้นคืนจำนวน 6 บริษัท การทำ EJIP จำนวน 5 บริษัท และการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 4 บริษัท

[pak]

กับคำถามที่ว่า..."การเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นผลดีหรือผลเสียคะ?"
มีหลายท่านตอบไว้น่าอ่านครับ เช่น...

ความเห็นที่ 1)

ต้องดูว่า บริษัท เพิ่มทุน เพื่อนำเงินเพิ่มทุนนั้นไปใช้จ่ายเพื่ออะไร
1. เพิ่มทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต ในผลิตภัณฑ์เดิม/ผลิตภัณฑ์ใหม่(ที่ใกล้เคียงกับของเดิม หรือใช้โครงสร้างกระบวนการผลิตเดียวกันได้)
1.1 เป็นการขยายเพื่อรองรับกำลังผลิตล้นส่วนน้อย และรอกำลังผลิตส่วนใหญ่ในอนาคต ที่ทำฟอร์เคส แล้วคาดว่าจะเข้ามา .....อันนี้ดี
1.2 เป็นการขยายเพื่อรองรับออเดอร์ผลิต ที่มีปริมาณกึ่งหนึ่ง และขยายเพื่อเก็บอีกครึ่งหนึ่งไว้รอในอนาคต .....อันนี้ผมว่าดีมากๆ
(มุมมองข้อ 1.1 และ 1.2 ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมด้วยนะครับ)
ตัวอย่าง บริษัท SNC ครับ

2. เพิ่มทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตชนิดใหม่
2.1 การขยายกำลังผลิตเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่นั้น เป็นการ "ร่วมทุน" กับบริษัทอื่นๆ ที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบความสำเร็จในสายงานนี้อยู่แล้ว หรือมีที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับที่กล่าวมา(และในอนาคตทาง บ. อาจจะให้หุ้นเพื่อเป็นผลตอบแทน) ....อันนี้ดีมากๆ ตัวอย่างเช่น HEMRAJ ร่วมทุนเปิดโรงงานไฟฟ้ากับ EGCO
2.2 การขยายกำลังการผลิตเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการลงทุนเอง 100% โดยเห็นโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่ผลตอบแทนจากการลงทุนชนิดนั้นๆ สูง .....อันนี้มีสิทธิ์ตายหยั่งเขียด ครับ

3. เพิ่มทุนเพื่อใช้หนี้ อันนี้โดยหลักแล้ว ก็ว่าไม่ดี/และอาจจะถึงขั้นไม่ดีเอามากๆ แต่ก็ยังต้องมาดูว่าเป็นหนี้ชนิดไหนครับ
เป็นหนี้ที่เกิดจากการขยายการลงทุน ในช่วงที่ธุรกิจเติบโตเร็วเป็นอย่างมาก แล้วเจ้าของมองว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ก้อนใหญ่ และไม่เห็นสมควรที่จะต้องแบ่งกำไร ในรูปดอกเบี้ยให้กับเจ้านี้ แต่เห็นว่าเหมาะสมที่จะแบ่งกำไรดังกล่าวเป็นเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น(ซึ่งรวมทั้งเจ้าของด้วย) ....อันนี้ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเงินลงทุนจากการเพิ่มทุนนั้นได้รับผลตอบแทนชนะ "ต้นทุนเงินทุน" ในระยะยาว หรือไม่
หรือเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในภาวะที่การดำเนินธุรกิจเกิดการขาดทุนเรื่อยมา โดยเป็นเพราะบริษัทหรืออุตสาหกรรมเข้าสู่ช่วงตะวันตกดิน แต่ ณ ปัจจุบันธุรกิจฟื้นแล้ว (หรือยังไม่ฟื้น แต่เจ้าของก็ไม่ต้องการลดทุนลดพาร์) อันนี้ไม่ดี อาจถึงไม่ดีเอามากๆ

*** คราวนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ จขกท. ว่า บริษัทที่กำลังจะเพิ่มทุนนั้น ต้องการนำเงินไปใช้ทางด้านไหนครับ

ปล. หากขาดเกินข้อมูล ต้องขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้

จากคุณ : HODEมั๊กๆ



ความเห็นที่ 2)
เพิ่มทุน สิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ คือ ผู้ถือหุ้นจะต้องควักกระเป๋าตัวเอง เอาเงินใส่เพิ่มเข้าไป
เพื่อยังสามารถคงสัดส่วนการถือหุ้น (กำจัดผลจาก dilution effect) เอาไว้ได้

บริษัทที่ดี (เลิศ) ควรจะสามารถสร้างเงินสดได้ด้วยตัวเอง ทั้งเพื่อการขยายงานใน
อนาคต และ/หรือ เพิ่มกำลังการผลิต หรือการออกสินค้าใหม่ ฯลฯ โดยไม่ต้องรบกวน
ผู้ถือหุ้น

แต่ถ้าจำเป็นต้องเพิ่มทุน คือรบกวนกระเป๋าของผู้ถือหุ้น จริงๆ ก็จะต้องอธิบายให้ได้ว่า
เงินนั้นเอาไปทำอะไร ให้เกิดประโยชน์กว่าการไม่รบกวนผู้ถือหุ้น โดยปกติแล้วราคา
ของหุ้นที่จะเพิ่มทุนก็จะสูงกว่าราคาหุ้นในกระดาน (ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีใครยอมไป
จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ว่า แต่ซื้อเอาในกระดานดีกว่า) ผลที่เกิดขึ้นโดยทันทีคือ ราคาหุ้น
ในกระดานมักจะวิ่งเข้าหาราคาของหุ้นเพิ่มทุนที่ "เคาะ" ออกมา

เราจะเห็นเรื่องแบบนี้ได้ในสองครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ครั้งแรคือเมื่อ บมจ. การบินไทย
ทำการเพิ่มทุน ราคาหุ้นที่อยุ่ค่อนข้างนิ่งที่ 25 บาทเมื่อ มิ.ย.-ก.ค. 53 ก็ค่อยๆ ขยับ
ปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ จนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 53 ราคาขึ้นไปเป็นแตะ 42 บาท และก็ค่อยๆ
ลดระดับราคาลงมาจนเหลือระดับ 36 บาทเมื่อบริษัทประกาศราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่
31 บาทต่อหุ้นออกมาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 53

และครั้งที่สองเมื่อ บมจ. ไทยยูเนี่ยนฯ ทำการ เพิ่มทุนที่ 50 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นใน
กระดานวิ่งขึ้นจากราวๆ 42 บาทต่อหุ้นไปเป็น 64 บาทต่อหุ้นสูงเหนือราคาของหุ้น
เพิ่มทุน

การจะเคาะราคาหุ้นเพิ่มทุนออกมาที่ราคาเท่าไร จริงๆ แล้วก็จะต้องคำนวณจากการ
คาดการผลประกอบการณ์ของบริษัทในอนาคต ว่าจะมีความสามารถในการทำเงินโดย
รวมเป็นเท่าไร (เมื่อมีเงินจากการเพิ่มทุนนั้นผสมเข้าไปด้วยแล้ว) ซึ่งแน่นอนว่าจะต้อง
มีตัวเลขออกมาที่สวยงาม จึงจะสมควรทำการเพิ่มทุนได้ เช่น ถ้าบริษัท ABC ต้องการ
เพิ่มทุนที่ 10 บาทต่อหุ้น บริษัทอาจจะคำนวณ (หรือจ้าง third party มาทำการคำนวณ)
แล้วว่า หุ้นแต่ละหุ้นของบริษัท (รวม dilution แล้ว) จะมีราคาเหมาะสมเป็น 15 บาท
ต่อหุ้น ด้วยวิธี DCF (เป็นต้น) ด้วยเหตุฉะนี้ การเพิ่มทุนจึงสำเร็จและมีนักลงทุนยอม
ซื้อหุ้นเพิ่มทุนนั้น (ไม่นับว่าซื้อด้วยเหตุเก็งกำไรอื่น)

บางครั้ง การเพิ่มทุนแล้วสามารถทำให้เกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ ก็เป็น
ทางเลือกที่ดีได้ แต่ก็ยังคงมีหลายบริษัท ที่ทำการเพิ่มทุนเพียงเพื่ออยู่รอด หรือล้าง
ขาดทุนสะสมให้หมดไป ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็มีให้เห็นเหมือนกัน เป็นสิ่งที่พวกเรา
นักลงทุนจะต้องคอยสังเกตให้ดีครับ

http://www.muegao.blogspot.com
พื้นฐานความรู้ บทความเกี่ยวกับ
หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
โดย มือเก่าหัดขับ

จากคุณ : มือเก่าหัดขับ

[pak]

วันที่/เวลา 09 ส.ค. 2555 19:19:00
หัวข้อข่าว การจ่ายเงินปันผล การเพิ่มทุน และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 (แก้ไข Template)
หลักทรัพย์ KTB
แหล่งข่าว KTB
รายละเอียดแบบเต็ม

การพิจารณาปันผล

เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 09 ส.ค. 2555
ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 30 ส.ค. 2555

วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รั : 31 ส.ค. 2555
บปันผล ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 28 ส.ค. 2555
จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ
อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.36
จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ
อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.43725
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 5.15
วันที่จ่ายปันผล : 03 ต.ค. 2555
จ่ายปันผลจาก :
งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2555 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2555
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 09 ส.ค. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 2,796,312,250
อัตราส่วน (เดิม : ใหม่) : 4 : 1
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 12.60
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น : 30 ส.ค. 2555
ที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 31 ส.ค. 2555
ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) : 28 ส.ค. 2555
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2,796,312,250
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 2,796,312,250
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 5.15
หมายเหตุ (แก้ไข) :
4.คณะกรรมการธนาคารมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนา
คาร จำนวนไม่เกิน 2,796,312,250 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.15 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

(1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร จำนวนไม่เกิน 2,796,312,250 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.15 บาท
แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร ตามสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย ในอัตราจัดสรร 4 หุ้นเดิม
(ทั้งหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ) ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง (Rights
Offering) โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ 12.60 บาท


ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในรอบแรกแล้ว
ธนาคารจะดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออยู่ดังกล่าวตามส่วนเป็นรอบที่สองให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ที่แสดงความจำนงในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินสิทธิ (เกินสัดส่วนการถือหุ้น) ของตน

อย่างไรก็ดี การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น ไม่ว่าในกรณีใด
จะต้องไม่ทำให้ผู้ใดถือหุ้นของธนาคาร (ก) เกินกว่าร้อยละ 10
ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
หากฝ่าฝืนเกณฑ์ดังกล่าว บุคคลนั้นจะต้องนำหุ้นส่วนที่เกินออกจำหน่ายแก่บุคคลอื่นภายใน 90
วันนับแต่วันที่ได้รับหุ้นดังกล่าว เว้นแต่จะได้รับการผ่อนผันจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งผ่อนผันได้อีกไม่เกิน 90 วัน หากไม่จำหน่ายหุ้นส่วนเกินภายในระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว
ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งให้บุคคลนั้นขายหุ้นส่วนเกินดังกล่าวได้ หรือ (ข)
โดยฝ่าฝืนข้อจำกัดเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าว
ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของธนาคารตลอดจนกฎเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
สัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารโดยคนต่างด้าวจะต้องไม่เกินร้อยละ 25
ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร ทั้งนี้
หากการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคารเป็นผลให้บุคคลใดมีไว้ซึ่งหุ้นของธนาคารตั้งแต่ร้อยละ 5
ขึ้นไปของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
บุคคลนั้นต้องรายงานการถือหุ้นหรือการมีไว้ซึ่งหุ้นดังกล่าวให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทราบด้วย

ทั้งนี้
ธนาคารกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าวใน
วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225
ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2555

(2) ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรตามข้อ (1) ข้างต้น
ธนาคารจะดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลืออยู่ดังกล่าวแก่ผู้ลงทุนเฉพาะราย
โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 12.60 บาท
ซึ่งถือเป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามนิยามที่กำหนดไว้ในข้อ 24
ของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 28/2551 เรื่อง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ (ตามที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด อาจเป็นราคาต่ำกว่าร้อยละ 90
ของราคาตลาด ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 28/2551 เรื่อง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ (ตามที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)

อนึ่ง
สิทธิในการจองซื้อและได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนจนกว่าจะได้รับอนุมัติจ
ากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555

และอนุมัติให้มอบอำนาจให้คณะกรรมการของธนาคาร หรือกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร มีอำนาจ

ก.กำหนดรายละเอียดอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในคราวเดียวทั้งจำนวน หรือหลายคราว
ระยะเวลาการเสนอขาย ราคาเสนอขาย ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ทั้งในส่วนของการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร และการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด


ข.กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคา
รในการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด

ค.เจรจาและเข้าทำสัญญาใด ๆ รวมถึงการลงนามในเอกสารและการแก้ไขเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย
ผู้ให้บริการอื่นใดและ/หรือผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (หากจำเป็น)

ง.ลงนามในแบบคำขออนุญาต การขอผ่อนผัน หนังสือบอกกล่าว ตลอดจนเอกสารใด ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ซึ่งรวมถึงการติดต่อและการยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของหน่วยงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
(ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ)
ตลอดจนการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไท
ย

จ.แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร และดำเนินการใด ๆ
ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร

ทั้งนี้ ให้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคาร ครั้งที่ 1/2555
เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

5.คณะกรรมการธนาคารมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุ
นส่วนที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ
12.60 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวอาจต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด

ราคาตลาดที่ใช้ในการเปรียบเทียบกับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้
นเดิมของธนาคารให้แก่บุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ คำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของธนาคาร
ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้อนหลัง 15 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่ 9 สิงหาคม 2555
ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2555
เพื่อขออนุมัติให้ธนาคารเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด
ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2555 โดยมีราคาเท่ากับ 16.74
บาทต่อหุ้น (ข้อมูลจากระบบ SETSMART ที่เผยแพร่ใน http://www.setsmart.com
ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ.39/2551 เรื่อง
การคำนวณราคาเสนอขายหลักทรัพย์และการกำหนดราคาตลาดเพื่อการพิจารณาการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำ
(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามสารสนเทศเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัดในราคาต่ำซ
ึ่งแนบมาพร้อมนี้) และให้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคาร ครั้งที่ 1/2555
เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 09 ส.ค. 2555
วันประชุม : 21 ก.ย. 2555
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 09 : 00
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 30 ส.ค. 2555
date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร : 31 ส.ค. 2555
่วมประชุมตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 28 ส.ค. 2555
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การจ่ายปันผล
- การเพิ่มทุน
สถานที่ประชุม : ณ ห้องแอทธินี คริสตัลฮอลล์ ชั้น 3 โรงแรมพลาซ่า
แอทธินี รอยัล เมอริเดียน


ที่มา : http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

วันที่/เวลา 15 ส.ค. 2555 17:28:36
หัวข้อข่าว เข้าทำรายการเพื่อซื้อทรัพย์สินและกิจการ,เพิ่มทุน,ออกTSRs,ออกWarrants, กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555, แก้ไข Record date (E-W2)
หลักทรัพย์ E
แหล่งข่าว E
รายละเอียดแบบเต็ม

รายการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

การเข้าซื้อทรัพย์สินต่างๆ ดังต่อไปนี้ (1) การเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท คาซ่า ฟิโก้ จำกัด และบริษัท
ฟีน่า ปาร์ค จำกัด (2) การรับโอนกิจการทั้งหมด ของบริษัท ฟิโก้ ฟู้ดส์ จำกัด
______________________________________________________________________

รายการที่เกี่ยวโยงกัน

สารสนเทศที่สำคัญเกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันของ บริษัทเอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
เรื่องการเข้าซื้อทรัพย์สิน และกิจการทั้งหมดจากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
______________________________________________________________________

เปลี่ยนแปลงกรรมการ/ผู้บริหาร

รับทราบการลาออกของ นายคริสเตียน เบรท แสตรท ไมเออร์ นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา และพลตำรวจเอกวิโรจน์
พหลเวชช์ ทั้งนี้ได้แต่งตั้ง
1. นายฮิวช์ แอนดูรว์ แทนนายคริสเตียน เบรท แสตรท ไมเออร์
2. นายซานเจย์ ซิงห์ แทนนายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา
3. นายกฤษณ์ ศรีชวาลา แทนนายวิเชษฐ์ บัณฑุวงศ์
4. นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร แทนพลตำรวจเอกวิโรจน์ พหลเวชช์
______________________________________________________________________

การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ

เรื่อง : ออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 14 ส.ค. 2555
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวนหลักทรัพย์ที่จัดสรร (หน่วย) : 261,750,000
: หุ้นสามัญ
หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลัก
ทรัพย์แปลงสภาพ
จำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 261,750,000
อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) : 1 : 1
ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00
ลักษณะของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ชื่อใบสำคัญแสดงสิทธิ : ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 2 ("E - W2" หรือ "ใบสำคัญแสดงสิทธิ")
อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) : 1 : 1

ราคาการใช้สิทธิ(บาทต่อหุ้น) : 2.00
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ :
ไม่เกิน 8 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ


ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR)
จำนวนหลักทรัพย์ที่จัดสรร (หน่วย) : 261,750,000
: หุ้นสามัญ
หุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลัก
ทรัพย์แปลงสภาพ
จำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 261,750,000
อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) : 4 : 1
: 16 ต.ค. 2555
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรั
พย์แปลงสภาพ (Record date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 17 ต.ค. 2555
ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ : 12 ต.ค. 2555
ราคาเสนอขาย (บาทต่อหน่วย) : 0.00
วันเสนอขาย : วันที่ 17 ต.ค. 2555 ถึงวันที่ 17 ต.ค. 2555
ลักษณะของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR)
: ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ของบริษัท
เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม ("E-T1" หรือ "ใบแสดงสิทธิ")
ชื่อใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
(TSR)
อัตราการแปลงสภาพ (TSR : หุ้น) : 1 : 1
ราคาแปลงสภาพ(บาทต่อหุ้น) : 1.00
อายุ TSR :
ไม่เกิน 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ออกใบแสดงสิทธิ




หมายเหตุ (เพิ่มเติม) :
วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) และ วันเสนอขาย (Offering date) ของใบสำคัญแสดงสิทธิ (E-W2)
ยังไม่ได้กำหนด
______________________________________________________________________

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 14 ส.ค. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : บุคคลในวงจำกัด
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
ชื่อบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับจัดสรร :
1. นายกฤษณ์ ศรีชวาลา
2. นายอมร ศรีชวาลา
3. นายเทพฤทธิ์ ศรีชวาลา
4. นายอัครเดช ศรีชวาลา
5. บริษัท ฟิโก้ ฟู้ดส์ จำกัด
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 353,000,000
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 1.75
วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น : วันที่ 08 ต.ค. 2555 ถึงวันที่ 08 ต.ค. 2555
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 523,500,000
จัดสรรให้กับ : เพื่อรองรับการปรับสิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 39,000,000
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 915,500,000
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 915,500,000
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 1.00
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 14 ส.ค. 2555
วันประชุม : 02 ต.ค. 2555
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 09 : 00
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 29 ส.ค. 2555
date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร : 30 ส.ค. 2555
่วมประชุมตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 27 ส.ค. 2555
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การเพิ่มทุน
- การได้มาหรือจำหน่ายสินทรัพย์
- รายการที่เกี่ยวโยงกัน
- การออกหลักทรัพย์แปลงสภาพ
- การเปลี่ยนแปลงกรรมการ
สถานที่ประชุม : โรงแรม แกรนด์ มิลเลเนียม


ที่มา : http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

วันที่/เวลา 15 ส.ค. 2555 08:55:25
หัวข้อข่าว เพิ่มทุน R/O, P/P และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
หลักทรัพย์ SSI
แหล่งข่าว SSI
รายละเอียดแบบเต็ม

การเพิ่มทุน

เรื่อง : การเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 14 ส.ค. 2555
รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นเดิม
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 1,833,670,324
อัตราส่วน (เดิม : ใหม่) : 10 : 1
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 0.68
จัดสรรให้กับ : บุคคลในวงจำกัด
ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ
ชื่อบุคคลในวงจำกัดที่ได้รับจัดสรร :
1. VALNOMET HOLDING AG
2. บริษัท เครือสหวิริยา จำกัด
3. บริษัท สหวิริยา อินเตอร์ สตีล โฮลดิ้งส์ จำกัด
จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 17,600,000,000
ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 0.68
จำนวนหุ้นสามัญที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 19,433,670,324
จำนวนรวมของหุ้นที่เพิ่มทุน (หุ้น) : 19,433,670,324
มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 1.00
หมายเหตุ :
คณะกรรมการมีมติให้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ
จำนวนไม่เกิน
19,433,670,324 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่บุคคลต่อไปนี้
1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน
8,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคา
หุ้นละ 0.68 บาท ให้แก่ Vanomet ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยว
โยงกันของบริษัทฯ
ในกรณีที่มีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ Vanomet บริษัทฯ
จะนำหุ้นที่เหลือดังกล่าวจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด
(Private Placement) รวมกับหุ้นที่บริษัทฯจะจัดสรรให้แก่บุคคล
ในวงจำกัด ดังจะกล่าวต่อไปในข้อ 3)
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของ
บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความเห็นชอบ
จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด
2) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน
1,833,670,324 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ
0.68 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้น
ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) ในอัตราจัดสรร 10
หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง
ในการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิมของ
บริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ ในกรณีที่มีหุ้นสามัญที่
ไม่ได้รับการจองซื้อเหลือจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ตามที่กล่าวข้างต้น ให้คณะกรรมการบริษัทฯ หรือกรรมการผู้มี
อำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ หรือประธานกรรมการ หรือ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากบุคคล
ดังกล่าว มีอำนาจจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือดังกล่าวให้กับ
ผู้ถือหุ้นเดิมที่ประสงค์จะซื้อเกินสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม
(Pro Rata Basis) ในราคาเดียวกันกับหุ้นที่ได้รับการจัดสรรตาม
สิทธิดังนี้
(1) ในกรณีที่มีหุ้นเหลือมากกว่าหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ จะจัดสรร
ให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิและชำระค่าจองซื้อหุ้นดังกล่าว
ทั้งหมดทุกรายตามจำนวนที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ
(2) ในกรณีที่มีหุ้นเหลือน้อยกว่าหุ้นที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิ จะจัดสรร
ให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
(ก) จัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่า
สิทธิแต่ละราย โดยนำสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่จองซื้อ
เกินกว่าสิทธิแต่ละรายคูณด้วยจำนวนหุ้นที่เหลือ จะได้เป็น
จำนวนหุ้นที่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายมีสิทธิที่จะได้
รับจัดสรร ในกรณีที่มีเศษของหุ้น ให้ปัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง
ทั้งนี้ จำนวนหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรจะไม่เกินจำนวนหุ้น
ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจองซื้อและชำระค่าจองซื้อแล้ว
(ข) ในกรณีที่ยังมีหุ้นคงเหลือหลังจากการจัดสรรตามข้อ (ก)
ให้ทำการจัดสรรให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายและ
ยังได้รับการจัดสรรไม่ครบ ตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิมของผู้ที่
จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายนั้น โดยนำสัดส่วนการถือหุ้น
เดิมของผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละรายคูณด้วยจำนวนหุ้น
ที่เหลือ จะได้เป็นจำนวนหุ้นที่ผู้ที่จองซื้อเกินกว่าสิทธิแต่ละ
รายมีสิทธิที่จะได้รับจัดสรร ในกรณีที่มีเศษของหุ้น ให้ปัด
เศษของหุ้นนั้นทิ้ง โดยจำนวนหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร
จะไม่เกินจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจองซื้อและชำระค่า
จองซื้อแล้วทั้งนี้ให้ดำเนินการจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ที่จองซื้อเกิน
กว่าสิทธิตามวิธีการในข้อ (ข) นี้ จนกระทั่งไม่มีหุ้นเหลือจาก
การจัดสรร หากยังคงมีเศษเหลืออีกและไม่สามารถดำเนิน
การตามวิธีการคำนวณข้างต้นได้ จะทำการจัดสรรหุ้นที่เหลือ
อยู่ครั้งละ 1 หุ้น ตามลำดับสิทธิในการจองซื้อ
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้
ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความ
เห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราช
บัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการ
แก้ไขเพิ่มเติม) แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด

3) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน
5,300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้น
ละ 0.68 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ทั้งนี้ บุคคลในวงจำกัด หมายถึง บุคคลในวงจำกัดตามคำนิยาม
ที่กำหนดในข้อ 24 ของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน
ที่ ทจ. 28/2551 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอ
ขายหุ้นที่ออกใหม่ (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) โดยบุคคล
ดังกล่าวจะไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ
ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่
Vanomet ตาม ข้อ 1) บริษัทฯ จะนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนในส่วนที่
เหลือดังกล่าวมาจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด รวมกับจำนวน
หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัดตามข้อ 3) นี้
ด้วย
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้
ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความเห็น
ชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติ
บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่ม
เติม) แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด
4) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่
บุคคลในวงจำกัด ตามข้อ 3) ให้แก่ บริษัท เครือสหวิริยา จำกัด
ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 0.68
บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับหุ้นที่ได้รับการจัดสรรให้แก่บุคคล
ในวงจำกัด ตามข้อ 3)
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของ
บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความเห็นชอบ
จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด
5) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน
2,623,226,838 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้น
ละ 0.68 บาท ให้แก่ บริษัท สหวิริยา อินเตอร์ สตีล โฮลดิ้งส์
จำกัด ("SISH") ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ
เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทฯ
ในส่วนของหุ้นกู้แปลงสภาพด้อยสิทธิของบริษัทฯ ครั้งที่
1/2555 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี พ.ศ. 2558 ("หุ้นกู้แปลงสภาพ
ด้อยสิทธิ ครั้งที่ 1/2555") ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตาม
สัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ และหุ้นกู้แปลง
สภาพด้อยสิทธิของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2555 ครบกำหนดไถ่ถอน
ปี พ.ศ. 2560 ("หุ้นกู้แปลงสภาพด้อยสิทธิ ครั้งที่ 2/2555")
ที่เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่ Vanomet
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของ
บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความเห็นชอบ
จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด
6) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน
1,676,773,162 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคา
หุ้นละ 0.68 บาท ให้แก่ SISH ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ของบริษัทฯ เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการเพิ่มทุนใน SSI UK
เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมด้อยสิทธิที่ SISH ได้ให้แก่ SSI UK ระหว่าง
รอการระดมทุนของบริษัทฯ พร้อมดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมดังกล่าว
ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของ
บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามและได้รับความเห็นชอบ
จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติบริษัท
มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)
แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด

"ราคาตลาด" หมายถึงราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของ
บริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลังสิบห้าวันทำการติดต่อกัน
ก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือ
หุ้น ครั้งที่ 2/2555 เพื่อขออนุมัติให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นสามัญ
เพิ่มทุน คือระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2555 ถึง 10 สิงหาคม
2555 ซึ่งจะเท่ากับ 0.62 บาท ต่อหุ้น (ข้อมูลจาก www.setsmart.com ของตลาดหลักทรัพย์ฯ)

ในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิการพิจารณา
ไม่จัดสรรหุ้นใดให้ผู้จองซื้อรายใด หากการจัดสรรดังกล่าวทำให้
หรืออาจเป็นผลให้เป็นการกระทำการขัดต่อกฎหมาย หรือระเบียบ
ข้อบังคับของต่างประเทศ หรือจะเป็นผลให้ต้องดำเนินการใด ๆ
เพิ่มเติมไปจากที่ต้องดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการ
ออกและเสนอขายหลักทรัพย์ภายใต้กฎหมายไทย
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติมอบหมายให้
คณะกรรมการบริษัทฯ กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ
หรือประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือบุคคลที่ได้รับ
มอบหมายจากบุคคลดังกล่าว มีอำนาจพิจารณากำหนดรายละเอียด
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว เช่น (1)
ระยะเวลาการเสนอขาย เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ
การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว (2) การเข้าเจรจา ทำความ
ตกลง และลงนามในเอกสารและสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง
ดำเนินการต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ดังกล่าว และ (3) ดำเนินการและลงนามในเอกสารคำขออนุญาต
คำขอผ่อนผัน รายงาน คำชี้แจง และหลักฐานที่จำเป็นและ
เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการ
ติดต่อ และการยื่นคำขออนุญาตหรือขอผ่อนผัน เอกสารและ
หลักฐานดังกล่าวต่อหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ฯ และมีอำนาจในการดำเนินการอื่นใดอันจำเป็นและ
สมควรเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีความเห็นให้นำเสนอเรื่องนี้
ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ในการลงมติของที่ประชุมคณะกรรมการในวาระนี้ กรรมการบริษัทฯ
ซึ่งได้แก่ นายวิทย์ วิริยประไพกิจ นายปิยะ วิริยประไพกิจ และ
นายวิน วิริยประไพกิจ เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการลงมติตามวาระ
ข้อ 4) - ข้อ 6) จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนใน
วาระดังกล่าว
______________________________________________________________________

กำหนดการประชุมผู้ถือหลักทรัพย์

เรื่อง : กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
วันที่คณะกรรมการมีมติ : 14 ส.ค. 2555
วันประชุม : 11 ต.ค. 2555
เวลาเริ่มประชุม (h:mm) : 14 : 00
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record : 19 ก.ย. 2555
date)
วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร : 20 ก.ย. 2555
่วมประชุมตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์
วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม : 17 ก.ย. 2555
วาระการประชุมที่สำคัญ :
- การเพิ่มทุน
- รายการที่เกี่ยวโยงกัน
สถานที่ประชุม : ห้องแกรนด์ฮอลล์ เลขที่ 889 ไทยซีซี ทาวเวอร์ ชั้น 12
(อาคารจอดรถ) ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
หมายเหตุ :
วาระที่ 1 พิจารณารับรองรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่
1/2555
วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนและ
การจัดโครงสร้างทางการเงิน
วาระที่ 3 พิจารณาผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด
ของกิจการ
วาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ


ที่มา : http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

โพสต์นี้ของคุณ Real-VI มีประโยชน์ทีเดียวครับ

ปกติน่ะครับ

เวลาประกาศเพิ่มทุน จะต้องมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางกลุ่มไม่ยินยอมที่จะเพิ่มทุน
ในเมื่อไม่ยินยอมที่จะเพิ่มทุนจะเกิด dilution. แล้วทำให้สัดส่วนที่ตัวเองถือเสียเปรียบในระยะยาว
ผู้ถือหุ้นกลุ่มนี้จึงต้องลดสัดส่วนหร่อล้างพอร์ตลงมา

ลองสังเกต KTB. ประกาศเพิ่มทุนครับ
หลังจากประกาศเพิ่มทุนราคาหุ้นจะโดนเทขายออกมาจากนังลงทุนที่ไม่เต็มใจเพิ่มทุน
พอกลุ่มนี้ขายหมดก็จะมีผู้ถือหุ้นที่พร้อมใจเพิ่มทุนเข้ามาเก็บก็จะค่อยๆไล่ราคาขึ้นมา(ไล่ซื้อหลังจากแรงขายหมดเท่านั้น ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วจะมีคนเทขายแน่ๆเราจะไปไล่ซื้อของเขาทำไมจริงไหมครับ)
แต่ตอนแรกเป็นเรื่องปกตืที่กองทุนจะรู้กันอยู่แล้วดังนั้นจะไม่ไล่ซื้อตอนแรกแต่จะรอเก็บถูกจากผู้ถือหุ้นที่ไม่พอใจ

หรือการประกาศเพิ่มทุนของ PTTEP
ก็เช่นกันกองทุนไหนไม่อยากเพิ่มทุนก็ต้องขายหุ้นทิ้ง
กองทุนไหนเต็มใจเพิ่มทุนก็จะรอเก็บ
ราคา PTTEP อาจจะถูกมองว่ามี Dilution. ระยะสั้นเพราะ Cove. ยังไม่ทำกำไรช่วงแรก.
แต่อย่าลืมว่าราคาปัจจุบันรวมมูลค่า Cove. ไปแค่ 10-15% เท่านั้น



กลับมาเร่ื่อง SSI.
คอยจับตาครับว่ากองทุนไหนไม่พอใจเพิ่มทุน.เพราะถ้าถือต่อ EPS ในสัดส่วนของตัวเองโดน dilute
สัดส่วนการรับ dividend.ถ้ามีในระยะยาวน้อยลงจากเดิม กองทุนพวกนี้ก็จะต้องขายออกมา
ผมเล็งกองทุนสังคมถือหุ้นประมาณ 160 กว่าล้านน่าจะล้างพอร์ตออกมาใช้เวลาหลายวันจนจบที่เมื่อวาน

ดังนั้นเป็นเรื่อวปกต้หลังประกาศเพิ่มทุนที่ราคาจะไหลลงช่วงแรก
แต่หากบางบริษัทอยากเพิ่มทุนที่ราคาแพงอาจมีการไล่ราคาช่วงแรก ก่อนประกาศเพื่อจะได้มี average price ตามที่ตนเองต้องการ
ไม่ใช่มาไล่ราคาหลังประกาศเพิ่มทุน

ผมไม่มองว่าการหล่นของราคา SSI ในตอนนี้เป็นเรื่อง concern เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กภาพรวม
เพราะประเด็นนี้น่าจะถูกนำมาอยู่ในราคาหุ้นตั้งแต่ 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว
หากไปดู TSTH ราคาพุ่งเมื่อวาน Gsteel นิ่ง
ดังนั้น การหล่นของ SSI เมื่อวานไม่น่าเป็นเหตุจากภาพรวมอุตสาหกรรม

มีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ ลองเสนอความค้ดเห็นกัน

[pak]

หุ้นเพิ่มทุน
เขียนโดย : Cway-Investment
ที่มา : http://www.cway-investment.com/2012/08/ ... _6337.html


เคยมีคนถามผมว่าทำไมถึงชอบแนวทาง technical analysis คำตอบของผมเรียบง่ายมาก เพราะผมเองเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ ผมชอบสังเกต ชอบติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด เลยเลือกใช้แนวทางนี้ในการลงทุน แต่ผมเองก็ไม่ได้ละเลยเรื่องของพื้นฐาน ไม่เคยคิดว่าเรื่องของพื้นฐานเป็นสิ่งไม่จำเป็น เพราะหมวกอีกใบผมเองผู้ประกอบการ ทำกิจการเล็กๆ ผมเชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจ ว่าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นแรงพลักดันให้เกิด แนวโน้มและรูปแบบการเติบโตของราคาหุ้น ได้เป็นอย่างดี

ถ้ามองอย่างเข้าใจ ไม่ใช่งมงาย จะพบว่า technical analysis แท้จริงก็คือการวิเคราะห์บนโดเมนสามสิ่ง นั้นคือ ราคา ,ปริมาณการซื้อขาย และเวลา เมื่อวิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลได้ ก็นำมาตีความ เพื่อช่วยตัดสินใจ ทุกอย่างมันตั้งอยู่บนตัวเลขเชิงคณิตศาสตร์ เป็นการสังเกต ติดตามข้อมูลได้แบบ รายวัน รายนาที ทำให้เราอยู่ใกล้ชิดกับสภาพความเป็นจริงของตลาด

แต่แน่นอนว่าหุ้น ก็คือกิจการ มันหนีไม่พ้นเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน ที่มีผลต่อรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น เมื่อกิจการดี ผลประกอบการดี กำไรเติบโต ย่อมส่งผลดีต่อมูลค่าของหุ้น ส่งผลบวกต่อจิตวิทยาของนักลงทุนแนวต่างๆ ทำให้เกิดโมเมนตรัมแรงขับ ของราคา ในทางกลับกันถ้าเกิดผลประกอบการขาดทุน กิจการไม่เติบโต ย่อมมีผลในเชิงลบเช่นกัน ดังนั้นความเข้าใจ พื้นฐานของบริษัท จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อนักลงทุน

ไม่ว่าจะ VI หรือ VS เพราะการรับรู้สภาพของบริษัทและกิจการ จะช่วยเป็นเกาะป้องกันความเสี่ยงที่ดีให้กับเรา สำหรับนักเก็งกำไร ช่วยในเรื่องของ การวิเคราะห์คุณภาพของแนวโน้มราคา เกิดแต้มต่อในการเก็งกำไรเข้าไปอีก ดังนั้นวันนี้ขอนำเรื่องเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานที่ เราควรทำความรู้จักนั้นคือ เรื่องของ "การเพิ่มทุน" มาอธิบายให้ฟังกันคราวๆ

เป้าหมายการเพิ่มทุน
การเพิ่มทุน ก็คือ การหาเงินเพิ่ม บริษัทต้องการเงินจากกระเป๋าของนักลงทุนไปใช้ในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีคือ วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน หุ้นเพิ่มทุนมักมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้

1. เพิ่มทุนขยายกิจการ ซื้อกิจการหรือลงทุนด้านการผลิต ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ, การเพิ่มกำลังผลิต ให้รองรับกับการเติบโตของกิจการในอนาคต แบบนี้ดี ถ้ากิจการบริษัทนั้นมีแนวโน้มเติบโต มีศักยภาพดี มีผลประกอบการดีในอดีตรองรับ

2. เพิ่มเปลี่ยนไลน์ธุรกิจ ผู้บริหารเห็นอนาคตในการขยายกิจการไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่แตกต่างไป เหมือนในช่วงหนึ่ง กิจการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ พลังงานสะอาดมาแรง มีหลายบริษัท เพิ่มทุนไปลงทุนในกิจการพวกนี้ ในกลุ่มนี้ต้องระวังเพราะมันคือการวัดดวง ถ้าทำดีก็ดี ทำเจ๊ง ก็เน่า

3. เพิ่มทุนใช้หนี้ บางบริษัทกิจการไม่ดี ขาดทุนเยอะ เป็นหนี้บาน จ่ายดอกไม่ไหว เลยของเพิ่มทุนไปใช้หนี้ พวกนี้ต้องมองผลงานในอดีตให้ดี เพราะบางบริษัทกิจการแย่ต่อเนื่อง การเพิ่มทุนแบบนี้เหมือนเอาเงินไปถมหนี้ คนที่รับความเสี่ยงเต็มๆและเดือดร้อนก็คือ นักลงทุน แต่ถ้าบริษัทไหนผลงานดี น่าเชื่อถือ การเพิ่มทุนเพิ่มไปใช้นี้จะช่วย รักษากระแสเงินสด และลดการจ่ายดอกเบี้ย แบบนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีน่าสนับสนุน

การเพิ่มทุนหนีไม่พ้นเรื่องของ dilution effect การลดลงของราคาหุ้น ส่วนใหญ่ผู้บริหารก็จะมาอัดฉีดความฝัน ความหวัง อัดฉีด miracle ด้วยคำพูดต่างๆนาๆอนาคตดีแน่ คุ้มแน่ ของแบบนี้บางทีก็ยากจะเชื่อลมปากของผู้บริหารได้ทั้งหมด ดังนั้นต้องมองผลงานในอดีตเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่คิดจะซื้อหุ้นเพิ่ม ในการเพิ่มทุน ปกติการเพิ่มทุนก็จะมีการกำหนดจำนวนหุ้นที่เพิ่ม,ราคาเพิ่มทุนที่ต้องการต่อหุ้น และ ราคาใช้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเดิม ตรงนี้เป็นข้อมูลที่เราควรศึกษาให้ดีสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงก็คือโอกาสและความคุ้มค่าในการเพิ่มทุนมันจะช่วยเราวิเคราะห์ คุณภาพของแนวโน้มและมองเห็นโอกาสในอนาคต

ขาขึ้น
มองแบบนักเก็งกำไร โดยธรรมชาติส่วนใหญ่ก่อนเพิ่มทุน ราคาหุ้นมักจะโดนลากขึ้นไปให้ราคาในกระดานสูง เป็นธรรมชาติจริงๆ (ทำให้เห็นว่าหุ้นราคาสูง คุ้มค่าในการใช้สิทธิ์) ตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบ เข้าเก็งกำไร ได้ในรอบขาขึ้น การขึ้นแบบนี้มักช่วงระยะประมาณ 1-2 สัปดาห์ รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาจะมีการยกตัวรุนแรง มี GAP

แต่ก็มีบางกรณีหุ้นบางตัว โดยเฉพาะหุ้นเล็กๆ มีการโดนทุบ โดยเทขายอย่างหนัก ในรูปแบบขาลงก่อน ประกาศเพิ่มทุน ปกติสาเหตุทำเพื่อเก็บหุ้นในราคาถูกจากกระดาน หรือลดการใช้สิทธิของนักลงทุนทั่วไป

ขาลง
การเพิ่มทุนหนีไม่พ้นการลงของแนวโน้ม แต่จะลงมากลงน้อย รุนแรงแค่ไหน ขึ้นกับพื้นฐานหุ้นตัวนั้นเป็นหลัก เมื่อพอประกาศข่าวออกมาชัดเจนหรือก่อนชัดเจนช่วงข่าวลือ ราคาหุ้นก็จะไหลลง ทำขาลงที่ชัดเจน ลงแรงมี GAP กว้าง ยิ่งเมื่อมีข้อมูลชัดการคำนวณ dilution และราคาเป้าหมายออกมา ก็จะมีทั้งนักลงทุนที่ไม่ต้องการใช้สิทธิ์ทำการ SAP (ขายทำกำไรแล้วซื้อกลับ) + กลุ่มนักเก็งกำไรที่ทำ Short Selling หุ้น + มีขาทุบแจมเพื่อเนียนเก็บหุ้นราคาถูก ดังนั้นราคาก็จะเข้าช่วงขาลง อาจจะยาวไปจนถึงวัน XR และหลัง XR แน่นอนว่ามีการลงอีกรอบจากคนที่ขายหุ้นเก่าเพิ่มสภาพคล่องตัวเอง ไปซื้อหุ้นใหม่

เมื่อราคานิ่งเข้าสเถียร์ ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ แต่สำหรับนักเก็งกำไรระยะยาว ระยะกลาง ถ้าการเพิ่มทุนนั้นเป็นบวก อาจจะติดตามหุ้นตัวนั้น แล้วหาจังหวะซื้อ เพื่อทำกำไรในระยะยาว ระยะกลางได้เช่นกัน สังเกตได้จาก volume พวกนี้จะมาก และ down side จาก high เดิมจะไม่เยอะ ส่วนระยะการดีดตัว จาก dilution effect มักใช้เวลา เพื่อพิสูจน์ว่าการเพิ่มทุนคุ้มค่า หรือกิจการโตแน่นอนจากอนาคต ไม่เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น ที่นักเก็งกำไรคาดหวังให้ราคาดีด กลับมาอย่างรวดเร็ว

ส่วนถ้าตัวไหนเพิ่มทุนแล้วเน่ามากๆ upside มีน้อย ก็ควรจะหลีกเลี่ยงอย่าไปทู่ซี้ กับมัน พวกนี้จะเข้าขาลงรุนแรง ที่สำคัญถ้าเป็นนักเก็งกำไร แล้วเกิดติดดอยหุ้นเพิ่มทุน ถ้าไม่คิดจะ stop loss มีโอกาสจะโดนแช่แข็งบนดอยได้นานเช่นกัน

การเพิ่มทุนเป็นได้ทั้งโอกาสและวิกฤติ อย่าไปมองว่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นข่าวร้ายแง่ร้ายเสมอไป ต้องมองให้แตกว่าการเพิ่มทุนนั้นคุ้มค่า ส่วนนักเก็งกำไรควรเข้าใจผลของการเพิ่มทุน เพื่อนำมาวิเคราะห์คุณภาพแนวโน้ม ส่วนใหญ่พลาดทั้งในรูปแบบการติดดอย หรือการไปติดกับ sideway ในช่วงหลัง XR ที่ราคาจะนิ่งในช่วงนั้น ดังนั้นการเทรดหุ้นที่จะเพิ่มทุน ต้องใช้ความระมัดระวังและอย่าประมาทครับ

[pak]

วันที่/เวลา 27 ส.ค. 2555 08:04:27
หัวข้อข่าว แจ้งมติการประชุมคณะกรรมการบริษัท การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ การเพิ่มทุน รายการที่เกี่ยวโยงกัน กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
หลักทรัพย์ GLOBAL
แหล่งข่าว GLOBAL
รายละเอียดแบบเต็ม http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

วันที่/เวลา 28 ส.ค. 2555 17:56:57
หัวข้อข่าว การลดทุน - เพิ่มทุน และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555
หลักทรัพย์ IEC
แหล่งข่าว IEC
รายละเอียดแบบเต็ม ที่ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

[pak]

ขออนุญาตนำบทความของ "คุณ wattanac" มาลงเก็บไว้เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาหน่อยนะครับ
กับกระทู้เรื่อง "TRUE เงินไม่พอ ยังไงก็เพิ่มทุน แต่วิธีไหน เมื่อไหร่ รอลุ้นกันเอาเอง"
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 85340.html
ดังนี้...


เขียนโดย คุณ wattanac

บทวิเคราะห์ และความเห็นจากนักวิเคราะห์ รวมทั้งข่าวที่ได้มา ตีกันวุ่นไปหมด

แต่สรุปโดยรวมแล้ว ยังไง TRUE ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเพิ่มทุนอีกรอบ ถึงแม้ว่า syndicated loan ที่ขอไว้กับ SCB จะยังคงเหลือพอไปวางเพื่อเข้าประมูล 3G แต่คงไม่พอสำหรับการวางโครงข่ายของคลื่น 2100 ที่จะเริ่มในปีหน้าแน่ๆ

กระแสข่าวที่ได้ยิน รวมถึงจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ ก็มีเป็นไปได้หลายทาง

1. คาดว่า TRUE จะหาพันธมิตรได้ แต่พันธมิตรจะใส่เงินเข้ามาใน TRUE Moblie ไม่ใช่ TRUE Corp. ซึ่งอันนี้จะไม่กระทบกับผู้ถือหุ้นเดิม แนวทางนี้ก็ตามที่บทวิเคราะห์ของ Kimeng ออกมาให้อ่านกันเช้านี้พร้อมให้ราคาเหมาะสมที่ 6.30 บาท สิ้นปีหน้า

2. คาดว่า TRUE จะหาพันธมิตรได้ โดยพันธมิตรจะใส่เงินเข้ามาใน TRUE Corp. โดยตรงเลย กรณีนี้ก็ไม่กระทบรายย่อย ไม่ต้องใส่เงินเพิ่มทุน และดีกว่าแบบแรกตรงที่ว่า สัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจ mobile ก็จะไม่ลดลง ทำให้ TRUE รับรู้รายได้เข้ามาในสัดส่วนเดิม (แต่พันธมิตรที่ไหนจะอยากมารับภาระในธุรกิจอินเตอร์เนตและทรูวิชันส์ เขาคงอยากได้แต่ธุรกิจมือถือ จึงเกิดคำถามว่า แล้วจะใส่เงินเพิ่มทุนใน TRUE Corp. แล้วมาแบกภาระของอีกสองธุรกิจที่ไม่ต้องการทำไม)

3. ยังไม่สามารถหาพันธมิตรได้ในเวลานี้ จำเป็นต้องเพิ่มทุนผ่านทาง TRUE Corp. ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องทำ RO หรือ right offering ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และก็เป็นภาระของผู้ถือหุ้นอีกแล้ว ที่จะต้องเติมเงินให้กับ TRUE เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย?? ในรอบไม่กี่ปี ส่วนเรื่องราคาเพิ่มทุน อย่าไปยึดติดกับการเพิ่มทุนที่ผ่านมาที่ราคาเพิ่มทุนต่ำเพียง 1 บาทปลายๆ นั่นเพราะครั้งที่แล้วเป็นการเพิ่มทุนตามมติเดิมที่ยังขายหุ้นเพิ่มทุนไม่หมด จึงใช้ราคาที่ผ่านมติครั้งก่อน

การเพิ่มทุนอีกครั้ง หากราคาต่ำ ก็ดี เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยจะมีกำลังพอที่จะใส่เงินเพิ่ม แต่ก็จะเกิด dilution effect สูง ในทางกลับกัน ถ้าหากตั้งราคาสูง รายย่อยหรือรายใหญ่เองก็อาจจะรู้สึกวันมันแพง ไม่ใส่เงิน ซึ่งภาระทั้งหมดก็จะตกไปอยู่ที่ CP Group ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่ต้องควักกระเป๋าจองหุ้นเพิ่มทุนเกินสิทธิ แต่จะว่าไป CP Group เองก็คงมีเงินเพียงพอหลังจากที่ทยอยขายหุ้น CPF CPALL ออกมาตลอดทาง ตามกระแสข่าวลือว่า ทางเจ้าสัวเตรียมเงินลุย 3G ให้กับ TRUE เต็มที่

ส่วนตัวผมเอง ยังคงมีมุมมองเชิงบวกกับ TRUE อยู่พอสมควร เพราะราคาหุ้นนิ่งมานาน และต่ำเตี้ยมานานเช่นกัน คนที่มองภาพลบ ก็มองกันว่าถึงจะประมูล 3G ได้ แต่ก็ใช้เวลาอีกพอสมควรที่ธุรกิจจะดีขึ้น ส่วนคนที่มองภาพบวกก็มองว่า หลังประมูล 3G ธุรกิจจะเริ่มพลิกฟื้นอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น คงตอบไม่ได้ว่าบทวิเคราะห์ของใครจะผิด หรือของใครจะถูก ขึ้นอยู่กับมุมมอง การคาดการณ์ ถ้าผมเลือกจะเชื่อ Kimeng แล้วเขาถูกจริง ผมก็จะไม่ด่านักวิเคราะห์ท่านอื่น หรือหาก Kimeng ผิด ผมก็จะไม่ด่า Kimeng เช่นกัน นั่นเพราะมันไม่มีใครตอบได้ ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คนที่รู้ดีที่สุดคือผู้บริหาร ที่เหลือได้แค่คาดการณ์เท่านั้น เราจึงเห็นได้เลยว่า TRUE เป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ความเห็นของนักวิเคราะห์มีความแตกต่างกันมาก และเป้าราคาเหมาะสมของหุ้นมีความแตกต่างกันชนิดที่ว่าไม่รู้ว่ามันมาจากมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า

แต่หุ้นแบบนี้ กองทุนก็ชัง ฝรั่งก็ไม่ขอเอี่ยว มีแต่คนไทยเท่านั้น ลุยกันเอง ลากกันเอง ทุบกันเอง ฝรั่งกับกองทุนจะกลับมารัก TRUE ก็ต่อเมื่อราคามันขึ้นไปสูงแล้ว พร้อมกับผลประกอบการที่เริ่มเห็นว่ามันจะดีขึ้นจริงๆ แล้วเมื่อไหร่ล่ะ คงค้องรอมันไป 10 บาท พี่กองกับพี่หัวทองถึงจะเริ่มสนใจ ตอนนี้เล่นป๊อกเด้งกับวงคนไทยไปก่อนละกัน โป๊กเกอร์กับบาคาร่า โต๊ะยังไม่เปิดครับ

จากคุณ : wattanac
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 13:04:26

[pak]

TRUEได้3ปัจจัยหลักดันหุ้น
เล็งให้ทรูมูฟเพิ่มทุนชำระหนี้
ข่าวหุ้น, วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2555 เวลา 10:12:01 น.

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ TRUE ราคาเหมาะสม 6.30 บาท คาดแก้ไขสัญญากับ กสท. ได้ข้อสรุปเชิงบวกต่อ TRUE ภายในสิ้นเดือนนี้ และคาดถึงจุดคุ้มทุนของ True Move H ที่ 4 ล้านรายได้ในปีนี้ ขณะที่โอกาสได้ใบอนุญาตใหม่กับ กสทช. ช่วยลดส่วนแบ่งรายได้อย่างมาก และคาดเริ่มมีกำไรในปี 56 โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

ประเด็นการลงทุน: เทคโนโลยี 3จี สร้างโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญให้กับ TRUE สัดส่วนลูกค้าที่มีการใช้งานสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการใช้งานผ่าน True Move H มี ARPU สูงกว่า ARPU ของ True Move ถึง 426% ประเด็นแก้ไขสัญญากับ กสท. คาดได้ข้อสรุปเชิงบวกต่อ TRUE ภายในสิ้นเดือนนี้ ปลดล๊อคให้ TRUE เดินหน้าเพิ่ม Subscriber ต่อไปได้ และคาดถึงจุดคุ้มทุนของ True Move H ที่ 4 ล้านรายได้ในปีนี้ ขณะที่โอกาสได้ใบอนุญาตใหม่กับ กสทช. ช่วยลดส่วนแบ่งรายได้อย่างมีนัยยะ อีกทั้งค่าใช้จ่าย SG&A ปี 2556 มีแนวโน้มลดลง และต่อเนื่องในระยะยาว หลังลงทุนทางการตลาดครั้งใหญ่ในปีนี้ คาดผลประกอบการพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 2556 ที่ 6.30 บาท

การแก้ไขสัญญากับ กสท ได้ข้อสรุปเดือนนี้: การแก้ไขสัญญาเป็นเพียงการแก้ไขตามที่ กสทช. กำหนดให้ระบุบทบาทของ กสท. ให้ชัดเจนในส่วนที่ไม่ชัดเจนอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ส.ค. เป็นการปลอดล๊อค ข้อจำกัดในการลงทุนใน TrueMove H ไม่ว่าจะเป็นการขยายสถานีฐานในครอบคลุมมากขึ้น การย้ายเครือข่ายจากลูกค้า TrueMove มายัง TrueMove H และข้อจำกัดเลขหมายที่ปัจจุบันต้องขอผ่าน กสท. เหลือเพียง 4 ล้านเลขหมายนั้นสิ้นสุดลง

3จี คือจุดเปลี่ยน ต้นทุนลดลงอย่างมีนัยยะ: จากเดิมการให้บริการ True Move จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 30% ให้กับ กสท. แต่ภายใต้ระบบใบอนุญาตทำให้ผู้ประกอบการทุกรายจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพียง 6% ให้กับ กสทช. และ TrueMove H จ่ายส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการราว 10% ให้กับ กสท. ซึ่งในส่วนหลังสุดนี้มีแนวโน้มลดลงตามผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ส่วนแบ่งรายได้แต่ละประเภทดังกล่าวคิดบนฐานของรายได้จากการให้บริการแยกในแต่ละประเภท จึงไม่ใช่การจ่ายซ้ำซ้อนแต่อย่างใด เราประเมินส่วนแบ่งรายได้เฉลี่ยสำหรับธุรกิจ True Mobile ปี 2555 ที่ 19.4% ของรายได้ลดลงจาก 26% ในปี 2554 และลงต่อเนื่องเป็น 14.3% ในปี 2556 ตามการลดลงของ Subscriber ใน TrueMove และการเพิ่มขึ้นของ TrueMove H และ TrueMove 3 จี ภายใต้ใบอนุญาตใหม่

คาด SG&A ลดในปีหน้า ช่วยพลิกกลับมามีกำไร: ช่วงที่ผ่านมา TRUE ได้ลงทุนในเครือข่าย 850 MHz ค่อนข้างสูง และในปี 2555 มีค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้า TrueMove ย้ายเป็น True Move H และเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ทั้งจากคู่แข่ง และผู้ใช้รายใหม่ในตลาด โดยใช้ความโดดเด่นทางด้านการให้บริการ 3จี ที่มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ทำให้ค่าใช้จ่าย SG&A สูงกว่าปกติในปีนี้ แต่ละลดลงอย่างมีนัยยะในปี 2556 โดยเราประเมินค่าใช้จ่าย SG&A ปี 2555 อยู่ที่ 19,879 ล้านบาท คิดเป็น 24% ของรายได้ หรือเพิ่มขึ้น 21% YoY และจะลดลงเหลือ 21% ของรายได้ในปี 2556 และ อยู่ที่ราว 19% ของรายได้ในระยะยาว ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการ จะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ในปี 2556 ที่ 1,207 ล้านบาท

Strategic partner เติมเต็มส่วนที่ขาด: ปัจจุบัน TRUE อยู่ระหว่างการหา Strategic partner เราคาดว่าจะเป็นการเพิ่มทุนใน True Move แทนการเพิ่มทุนที่ TRUE โดยตรง ซึ่งมีข้อเสียเล็กน้อยที่ส่วนแบ่งกำไรจาก True Mobile ของ TRUE อาจลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 99.4% แต่เชื่อว่าไม่มีนัยยะต่อผู้ถือหุ้น TRUE เพราะคาดว่าราคาที่ขายจะสะท้อนปัจจัยบวกของธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนแบ่งรายได้ของ True Mobile ลดลงภายใต้ใบอนุญาตใหม่ และมีโอกาสที่ TrueMove จะนำเงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ เรากลับมาแนะนำ ซื้อ สำหรับ TRUE ราคาเป้าหมายปี 2556 ที่ 6.30 บาท วิธี DCF ด้วย WACC ที่ 9.20%

[pak]

กับคำถามที่ว่า..."ราคาหุ้นเพิ่มทุน PP จะไม่เท่ากับราคาหุ้นเพิ่มทุน RO ในการเพิมทุนคราวเดียวกันได้หรือไม่?"คำตอบ คือ "น่าจะได้นะครับ"

โดยอ้างอิงจากข่าวเรื่อง "TSF ขายหุ้นเพิ่มทุน RO-PP พร้อมแจกวอแรนต์ผถห.เข้าซื้อ PICNI กว่า 51%"
คือ...

"รายละเอียดการจัดสรรดังนี้ จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 3,533.784 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 3 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาขาย 0.55 บาทต่อหุ้น และจัดสรรให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP)จำนวน 200 ล้านหุ้น ในราคาขาย 0.90 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น ในวันที่ 4-10 ตุลาคม 2554 และจัดสรรเพื่อรองรองการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 1,177.928 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 1หุ้นเดิมต่อ1หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ"

ที่มา : http://www.ryt9.com/s/iq10/1193988

[pak]

UVขอบอร์ดเพิ่มทุน
หาเงินซื้อกิจการใหม่
เล็งช้อปหุ้น GOLD เพิ่มอีก 23%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 22 สิงหาคม 2555


“ยูนิเวนเจอร์” เตรียมขอบอร์ดอนุมัติเพิ่มทุนปลายเดือนนี้ ซื้อกิจการในเครือของ “เสี่ยเจริญ” โรงแรม สำนักงาน หรือ หุ้น GOLD ราคาใช้สิทธิ์ต่ำกว่ากระดาน อัตราใช้สิทธิ์ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ขณะที่บุ๊คอยู่ที่ 2.57 บาท แปลงเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เต็มตัว

แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน เผยว่าคณะกรรมการของบริษัท ยูนิ เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV จะประชุมภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากปัจจุบัน 764 ล้านบาท ซึ่งอัตราคาดว่าจะเท่ากับ 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และราคาจะต่ำกว่าในกระดานขณะนี้ที่ 4 บาทต่อหุ้น แต่ใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี 2.57 บาทต่อหุ้น

“เงินที่เพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อโรงแรม หรืออาคารสำนักงานในเครือของเสี่ยเจริญ หรือซื้อหุ้น GOLD อีก 23%” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าว กล่าวว่า กลุ่มเสี่ยเจริญพยายามที่จะดันกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ในเครือเข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งขณะนี้มีหุ้นของกลุ่มโดยถือผ่านนอมินี เช่น หุ้นบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD และบริษัท ยูนิ เวนเจอร์ ซึ่งล่าสุดกลุ่มเสี่ยเจริญอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหุ้น GOLD จากกลุ่ม Golden Source Global Limited เพิ่มอีก 23.269%

ขณะที่ทุนจดทะเบียนของบริษัท UV ปัจจุบันอยู่ที่ 764 ล้านบาท พาร์ 1 บาท ผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท อเดลฟอส จำกัด ถือ 56.40% UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ถือ 8.19% และ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล ถือ 3.11%

แหล่งข่าว กล่าวว่า ราคาหุ้น UV ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 3.64 บาท มาอยู่ที่ 4.0 บาท หลังจากมีข่าวว่านายเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือ เสี่ยเจริญได้ส่งบริษัทในเครือทีทีซีเช่าพื้นที่บริษัทระยะยาว 30 ปี จ่ายเงินล่วงหน้าให้ 1.4 พันล้านบาท เป็นราคาที่สูงเกินกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนมาก ดังนั้นเมื่อประกาศเพิ่มทุน ผู้ถือหุ้นรายย่อยอาจไม่ใช้สิทธิ์

ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยเจริญได้ถือหุ้นยูนิ เวนเจอร์อยู่ในสัดส่วนที่สูง หากกดราคาหุ้นเพิ่มทุนลงมาต่ำกว่าราคากระดาน ก็จะสามารถใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นในส่วนของรายย่อยได้เพิ่มอีก หากรายย่อยไม่ใช้สิทธิ์ โดยปัจจุบันมูลค่าทางบัญชีอยู่ที่ 2.57 บาท PE อยู่ที่ 16.21 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 1.45 เท่า

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่า กลุ่มเสี่ยเจริญพยายามที่จะผลักดันกิจการของ UV ให้เติบโตขึ้น และกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มุ่งเน้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบเต็มตัว และพยายามที่จะลดสัดส่วนรายได้จากการดำเนินธุรกิจสังกะสีออกไซด์ลง

ทั้งนี้ UV นั้น นอกเหนือจากธุรกิจสังกะสีออกไซด์แล้ว ที่ผ่านมาได้ขยายการดำเนินธุรกิจไปยังธุรกิจเพื่อการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย

โดยช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบัน UV ได้เข้าลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงิน และโครงการที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยจัดตั้งบริษัทย่อย หรือบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พักอาศัยเพื่อขายและเพื่อเช่า ประเภทอาคารชุดพักอาศัย บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2555 หุ้น UV มีสินทรัพย์รวม 7,013 ล้านบาท มีรายได้ 3,059 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 200 ล้านบาท