ผมว่าฝรั่งนี่เก่งจริงๆ ชอบคิดเรื่องที่เรามักคิดไม่ถึง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ผมว่าฝรั่งนี่เก่งจริงๆ ชอบคิดเรื่องที่เรามักคิดไม่ถึง
โพสต์ที่ 1
วันนี้มีน้องๆมาเชิญชวนเข้าบริษัท บาเตอร์
ด้วยคอนเซ็บว่า มีสมาชิกในกลุ่ม สมมุติ XXX บริษัท
แต่ละบริษัทก็เอาสินค้า หรือ บริการ มาแลกเปลี่ยนกัน
โดยแต่ละครั้งที่มีการแลกเปลี่ยน เขาคิดคอมมิชชั่น 5 % เป็นเงินสด + อีก 1 % เป็นการหักในวงเงินที่มี
ฟังแล้วก็ดูดี เช่น บริษัท ก. เป็นร้านอาหาร สมาชิกท่านอื่น ก็มาใช้บริการ โดยมีบัตรสมาชิก ตลุมบอนกันใช้ สมมุติว่า ใช้ไป 10000 บาท
เจ้าของร้านก็ต้องจ่ายให้ บาร์เตอร์ 500 และมีวงเงินไปใช้บริการอื่นๆ จากสมาชิกท่านอื่น 10000 หักอีก 1 % เท่ากับมีวงเงินให้ใช้ 9900 บาท
เป็นต้น
แต่ผมไม่ได้สมัคร เพราะค่าสมาชิกเข้า แพงไปครับ เขาคิด 15000 ค่าสมาชิกตลอดชีพ โดยมีการรับประกันการคืนเงิน ถ้าใน 1 ปี ไม่มีคนมาใช้บริการของผม ในวงเงิน 15000 เขาคืนเงินให้
ค่าแรกเข้า 15000 จะได้วงเงินในการใช้สินค้า 30000 บาท
ผมแย้งว่า คอนเซ็บดี แต่บริษัทน่าจะมีรายได้จากการที่สมาชิก แลกเปลี่ยนสินค้า บริษัทไม่ควรมีรายได้จากค่าแรกเข้าสูงขนาดนี้
ถ้ามีสมาชิก 1000 บริษัท บริษัทก็ได้ไปแล้ว 15 ล้านบาท เงินกินเปล่า
ผมก็เลยไม่สมัครครับ
หมายเหตุ บริษัทนี้เป็นของคนไทย ที่น่าจะลาออกมาจากบริษัทฝรั่งอีกที
ด้วยคอนเซ็บว่า มีสมาชิกในกลุ่ม สมมุติ XXX บริษัท
แต่ละบริษัทก็เอาสินค้า หรือ บริการ มาแลกเปลี่ยนกัน
โดยแต่ละครั้งที่มีการแลกเปลี่ยน เขาคิดคอมมิชชั่น 5 % เป็นเงินสด + อีก 1 % เป็นการหักในวงเงินที่มี
ฟังแล้วก็ดูดี เช่น บริษัท ก. เป็นร้านอาหาร สมาชิกท่านอื่น ก็มาใช้บริการ โดยมีบัตรสมาชิก ตลุมบอนกันใช้ สมมุติว่า ใช้ไป 10000 บาท
เจ้าของร้านก็ต้องจ่ายให้ บาร์เตอร์ 500 และมีวงเงินไปใช้บริการอื่นๆ จากสมาชิกท่านอื่น 10000 หักอีก 1 % เท่ากับมีวงเงินให้ใช้ 9900 บาท
เป็นต้น
แต่ผมไม่ได้สมัคร เพราะค่าสมาชิกเข้า แพงไปครับ เขาคิด 15000 ค่าสมาชิกตลอดชีพ โดยมีการรับประกันการคืนเงิน ถ้าใน 1 ปี ไม่มีคนมาใช้บริการของผม ในวงเงิน 15000 เขาคืนเงินให้
ค่าแรกเข้า 15000 จะได้วงเงินในการใช้สินค้า 30000 บาท
ผมแย้งว่า คอนเซ็บดี แต่บริษัทน่าจะมีรายได้จากการที่สมาชิก แลกเปลี่ยนสินค้า บริษัทไม่ควรมีรายได้จากค่าแรกเข้าสูงขนาดนี้
ถ้ามีสมาชิก 1000 บริษัท บริษัทก็ได้ไปแล้ว 15 ล้านบาท เงินกินเปล่า
ผมก็เลยไม่สมัครครับ
หมายเหตุ บริษัทนี้เป็นของคนไทย ที่น่าจะลาออกมาจากบริษัทฝรั่งอีกที
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ผมว่าฝรั่งนี่เก่งจริงๆ ชอบคิดเรื่องที่เรามักคิดไม่ถึง
โพสต์ที่ 2
ข้อดีของบาร์เตอร์ เท่าที่ผมมองออก
1. มีลูกค้าในมือ ถ้าอีกหน่อย บาร์เตอร์มีสมาชิกเยอะๆ เช่น 1000 บริษัท ขึ้นไป
2. ไม่ต้องตามทวงหนี้ บาร์เตอร์จะเป็นตัวกลาง คล้ายๆบัตรเครดิต
3. เหมาะสำหรับกิจการที่เพิ่งเริ่มต้น ประหยัดค่าโฆษณา
1. มีลูกค้าในมือ ถ้าอีกหน่อย บาร์เตอร์มีสมาชิกเยอะๆ เช่น 1000 บริษัท ขึ้นไป
2. ไม่ต้องตามทวงหนี้ บาร์เตอร์จะเป็นตัวกลาง คล้ายๆบัตรเครดิต
3. เหมาะสำหรับกิจการที่เพิ่งเริ่มต้น ประหยัดค่าโฆษณา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
ผมว่าฝรั่งนี่เก่งจริงๆ ชอบคิดเรื่องที่เรามักคิดไม่ถึง
โพสต์ที่ 5
จริงๆผมว่ามันก็เป้นระบบแลกเปลี่ยนพื้นฐานก่อนที่มีเงินตราเกิดขึ้นนะครับ เอาข้าวแลกปลา เอาผักแลกข้าว มีกินมีใช้ไม่เดือดร้อน (ยุคนี้ก็เป็น เอาแรงแลกเงินครับ)
ที่บริษัทเก่าผมก็เคยใช้นะครับ คือให้ร้านลงโฆษณากับหนังสือที่บริษัท แล้วก็จ่ายเป็นเงินสด + บาเตอร์ (บางทีก็เพียวๆ) เป็นคูปองทานอาหาร เครื่องดื่มที่ร้าน
ข้อดีก็คือแลกกันไปมา ประหยัดงบถ้าได้บาเตอร์ที่ดี และจำเป็นต้องใช้อยู่แล้วนะครับ
บริษัทผมก็เอาไปเลี้ยงลูกค้าบ้าง เลี้ยงพนักงานบ้าง(:D) ประหยัดไปได้เยอะ ร้านที่มาแลกก็เกรดดีเหมือนกัน
ข้อไม่ดีที่ผมคิดก็คือ บางทีได้เป็นเงินสด มันเอาไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้เร็วกว่า เพราะบางทีบริษัทอาจจะตัดงบตรงนี้ไปแปะตรงโน้น มีแต่คูปองมันขาดสภาพคล่องครับ
ถึงยังไงก็นับว่าเก่งครับที่ทำออกมาได้
จับเงินสดๆ ชัวร์กว่าเน้อ
ที่บริษัทเก่าผมก็เคยใช้นะครับ คือให้ร้านลงโฆษณากับหนังสือที่บริษัท แล้วก็จ่ายเป็นเงินสด + บาเตอร์ (บางทีก็เพียวๆ) เป็นคูปองทานอาหาร เครื่องดื่มที่ร้าน
ข้อดีก็คือแลกกันไปมา ประหยัดงบถ้าได้บาเตอร์ที่ดี และจำเป็นต้องใช้อยู่แล้วนะครับ
บริษัทผมก็เอาไปเลี้ยงลูกค้าบ้าง เลี้ยงพนักงานบ้าง(:D) ประหยัดไปได้เยอะ ร้านที่มาแลกก็เกรดดีเหมือนกัน
ข้อไม่ดีที่ผมคิดก็คือ บางทีได้เป็นเงินสด มันเอาไปเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้เร็วกว่า เพราะบางทีบริษัทอาจจะตัดงบตรงนี้ไปแปะตรงโน้น มีแต่คูปองมันขาดสภาพคล่องครับ
ถึงยังไงก็นับว่าเก่งครับที่ทำออกมาได้
จับเงินสดๆ ชัวร์กว่าเน้อ