Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเคยอ่านความเห็นของคุณ I.H เกี่ยวกับ OWNER EARNING  ที่ว่า ถ้าหากมีการ DISCOUNT CASH FLOW บ่อยๆ ในท้ายที่สุด ค่าเสื่อมราคา และ ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย ในระยะยาวๆแล้ว จะเท่ากับ CAPEX
      ดังนั้น OWNER EARNING = กำไรสุทธิ    คุณสุมาอี้มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
     
และขอถามอีกอย่างหนึ่งคือ จาก ที่ว่า EV = MARKET CAP. + หนี้ระยะยาว
ว่า ตัวเลขของ หนี้ระยะยาว นั้นเราดูได้จากงบการเงินจากบรรทัดที่ว่า "รวมหนี้สินระยะยาว" ได้เลยหรือไม่ ถ้าไม่ได้มีข้อสังเกตุอย่างไรบ้างครับ

[quote="yakole"]ผมเคยอ่านความเห็นของคุณ I.H เกี่ยวกับ OWNER EARNING

ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จะมีขายมั้ยครับ

kyoza เขียน:ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จะมีขายมั้ยครับ

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จะมีแต่อีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้าครับ

โอนเงินไปให้แล้วนะครับ ช่วยส่งให้ด้วยนะครับ
ส่ง e-mail ไปแล้วครับ แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะถึงรึเปล่าอ่ะ ครับ
net มันช้าๆอยู่ครับ ถ้าคุณสุมาอี้ได้ mail แล้วช่วยบอกด้วยนะครับ  :D

ได้รับหนังสือแล้วค่ะ พร้อมลายเซ็นต์
ขอบคุณมากค่ะ  รูปเล่มหน้าอ่านมากค่ะ

ขอถามคุณสุมาอี้หน่อยนะครับว่า จากงบกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ TF ปี2548  ว่าค่าต่างๆ ด้านล่างนี้ ตัวใดเป็น ค่าเสื่อมราคา หรือ ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย เพิ่มเติมอีกบ้างหรือไม่ครับ
     รับรู้ค่าความนิยมติดลบ                                             (470396)
สำรองเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าและสินค้าล้าสมัย         1170305
     ขาดทุน(กำไร)จากการจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร                 45559
     ขาดทุน(โอนกลับ)จาการด้อยค่าของเงินลงทุน           (259431)
     กำไรจากการขายเงินลงทุน                                            (848)
ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย        (138468217)
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย                                               3010609

    เพราะว่า จากกรณีศึกษา ของ TF ได้ค่าเสื่อมราคา และ ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย
เท่ากับ 209 ล้านบาท ตามหัวข้อ ค่าเสื่อมราคา เพียงรายการเดียว

D&A ที่ควรจะบวกกลับเข้าไปนอกจากค่าเสื่อมและค่าตัดจ่ายแล้ว ควรจะ non-cash expense ใดๆ ก็ตามที่เป็นส่วนหนึ่งของ ค่าใช้จ่ายปกติ ด้วย ดังนั้นในกรณีของ TF ที่จริงแล้วควรจะรวม  

สำรองเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าและสินค้าล้าสมัย         1170305

เข้าไปด้วย แต่ผมไม่ได้รวมเนื่องจากมันมีค่าแค่ 1.17 ล้านบาทเท่านั้น น้อยมากเมื่อเทียบกับ 209 ล้าน เสียเวลาคิดเปล่าๆ

ส่วนที่เหลือเป็นพวกกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนต่างๆ ไม่ต้องนำมารวมไว้ใน D&A เนื่องจากตอนที่เราคิด normalized EBIT เราได้ตัดรายได้จากเงินลงทุนต่างๆ ออกไป เวลาบวกกลับจึงไม่ต้อง reconcile รายการเหล่านี้

ขายหนังสือแล้ว เปิดคอร์สสอนอบรมด้วย คงมีลูกศิษย์มิใช่น้อย

อยู่ที่ท่านแม่ทัพพร้อมเปิดคัมภีร์พิชัยสงครามสอนทหารเลวอย่างกระผมหรือไม่เท่านั้นเอง

ยังสงสัยอยู่ครับ ในหนังสือหน้า 77 การหามูลค่าด้วย DCF ข้อ 1 ที่ให้หาผลรวมของกระแสเงินสดอิสระของ บ.ที่คาดว่าจะได้ในอนาคต จะใช้อะไรเป็นการคาดการณ์ครับ และควรคาดการณ์กี่ปีครับ ขอบคุณครับ

BHT เขียน:ขายหนังสือแล้ว เปิดคอร์สสอนอบรมด้วย คงมีลูกศิษย์มิใช่น้อย

ช่วงนี้ผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำหนังสือที่อยากทำมานานแล้ว (ยังมีอีก 4 เล่ม) ถ้าไปจัดคอร์สเสียก่อนแผนงานทำหนังสือคงเป็นหมันไปอีก (วืดไปหลายครั้งแล้ว) ถ้าสะใจจาก 4 เล่มนี้แล้ว ก็อาจหันไปทำอย่างอื่นได้ครับรวมทั้งการเปิดคอร์สด้วย

BenjaMinburee เขียน:ยังสงสัยอยู่ครับ ในหนังสือหน้า 77 การหามูลค่าด้วย DCF ข้อ 1 ที่ให้หาผลรวมของกระแสเงินสดอิสระของ บ.ที่คาดว่าจะได้ในอนาคต จะใช้อะไรเป็นการคาดการณ์ครับ และควรคาดการณ์กี่ปีครับ ขอบคุณครับ

ต้องดูต่อไปจากตัวอย่างการวัดมูลค่าหุ้นจริงครับถึงจะเห็นวิธีการ

การคาดการณ์อนาคตนั้นต้องเกิดขึ้นก่อนที่เราจะเริ่มวัดมูลค่าหุ้น ถ้าเราศึกษาข้อมูลของบริษัทมากพอเราก็จะเกิดภาพในใจว่าบริษัทจะเติบโตได้ขนาดไหนในอนาคต ซึ่งจะคาดการณ์กี่ปีก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีอยู่ ปีที่เหลือจากนั้นก็ให้หา terminal value เอา

สุมาอี้ เขียน: ช่วงนี้ผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำหนังสือที่อยากทำมานานแล้ว (ยังมีอีก 4 เล่ม) ถ้าไปจัดคอร์สเสียก่อนแผนงานทำหนังสือคงเป็นหมันไปอีก (วืดไปหลายครั้งแล้ว) ถ้าสะใจจาก 4 เล่มนี้แล้ว ก็อาจหันไปทำอย่างอื่นได้ครับรวมทั้งการเปิดคอร์สด้วย

อีก 4 เล่มเลยเหรอครับ พอจะเผยไต๋สักหน่อยได้มั้ยครับ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง จะได้เตรียมเงินไว้พอ

BHT เขียน: อีก 4 เล่มเลยเหรอครับ พอจะเผยไต๋สักหน่อยได้มั้ยครับ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง จะได้เตรียมเงินไว้พอ

ไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับหุ้นครับ หนังสือเกี่ยวกับหุ้นคงมีแค่เล่มเดียว

ท่านแม่ทัพครับ
Operating Margin = NOPAT/Sales
                   หรือ  = Normalized EBIT/Sales

สุมาอี้ เขียน: ไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับหุ้นครับ หนังสือเกี่ยวกับหุ้นคงมีแค่เล่มเดียว

ก็ยังอยากรู้อยู่ดี เผื่อเป็นแนวที่ผมสนใจ

[quote="Kao"]ท่านแม่ทัพครับ
Operating Margin = NOPAT/Sales

[quote="สุมาอี้"][quote="Kao"]ท่านแม่ทัพครับ
Operating Margin = NOPAT/Sales

ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับพี่สุมาอี้

(คราวต่อไปจะรบกวนให้พี่เซนต์ให้ในนามผมนะครับ คราวนี้ร้านผมได้ไปแทน  :lol: )

[quote="สุมาอี้"][quote="Kao"]ท่านแม่ทัพครับ
Operating Margin = NOPAT/Sales

รบกวนถ้าท่านพี่สุมาอี้ว่า...ตอนนี้สามารถซื้อจากท่านพี่ได้อยู่หรือเปล่าครับ เพราะกลัวว่า SE-EDที่ลำปางนั้น อาจจะไม่ได้รับการกระจายหนังสือมาถึง เห็นรูปแบบแล้วถูกใจ เนื้อหาน่าจะถูกคอผมครับ...อยากรบกวนขอซื้อมาอ่านเป็นความรู้สัก 1 เล่มครับ...ขอบคุณครับ

[quote="Raphin Phraiwal"]ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับพี่สุมาอี้

(คราวต่อไปจะรบกวนให้พี่เซนต์ให้ในนามผมนะครับ คราวนี้ร้านผมได้ไปแทน

[quote="Kao"][quote="สุมาอี้"][quote="Kao"]ท่านแม่ทัพครับ
Operating Margin = NOPAT/Sales

Simply เขียน:รบกวนถ้าท่านพี่สุมาอี้ว่า...ตอนนี้สามารถซื้อจากท่านพี่ได้อยู่หรือเปล่าครับ เพราะกลัวว่า SE-EDที่ลำปางนั้น อาจจะไม่ได้รับการกระจายหนังสือมาถึง เห็นรูปแบบแล้วถูกใจ เนื้อหาน่าจะถูกคอผมครับ...อยากรบกวนขอซื้อมาอ่านเป็นความรู้สัก 1 เล่มครับ...ขอบคุณครับ

ยังซื้อจากผมได้อยู่เรื่อยๆ ครับ  

วันพรุ่งนี้ไม่ได้เห็นที่ SE-ED แน่นอน ไม่ต้องไปหาครับ มีความล่าช้าเรื่องเอกสารนิดหน่อยกำลังเร่งอยู่ครับ ถ้าใกล้ๆ จะได้เห็นในร้านแล้วจะมาแจ้งอีกทีครับ

BHT เขียน:ก็ยังอยากรู้อยู่ดี เผื่อเป็นแนวที่ผมสนใจ

เป็นหนังสืออ่านเล่นแนวสาระครับ  :D

สุมาอี้ เขียน:

เป็นหนังสืออ่านเล่นแนวสาระครับ

ได้รับหนังสือแล้วครับ  ส่วนคุณสุมาอี้จะเขียนเรื่องอื่นอีกก็บอกด้วยน่ะครับ จะได้อุดหนุน    ทำปกหนังสือให้น่ารักแบบเล่มนี้ก็ดีน่ะครับ ผมว่าทำปกได้น่ารักมาก

เพิ่งโอนไปให้วันนี้ครับ วันที่ 1 ส.ค. ตอนบ่ายโมง 201.99 บาท

ถามเกียวกับP/Eที่เหมาะสมในแต่ละบริษัทที่มี ROE กับ Growth rate ต่างกัน (หน้าท้ายๆในหนังสือครับ)
ที่ROE 10% Growthสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไมP/Eที่เหมาะสมกลับลดลงครับ

ท่านแม่ทัพพอจะบอกวิธีคำนวณP/Eที่เหมาะสม จากROEและGrowth ได้มั๊ยครับ

Kao เขียน:ถามเกียวกับP/Eที่เหมาะสมในแต่ละบริษัทที่มี ROE กับ Growth rate ต่างกัน (หน้าท้ายๆในหนังสือครับ)
ที่ROE 10% Growthสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำไมP/Eที่เหมาะสมกลับลดลงครับ

ช่างสังเกตดีครับ เหตุผลก็คือ บริษัทไม่สามารถเติบโตสูงกว่า ROE ของบริษัทในระยะยาวได้โดยไม่เพิ่มทุน P/E ที่ต่ำลงเกิดจาก dilution effect ที่จะเกิดขึ้นครับ

ผมคำนวณ P/E เหล่านี้จากการทดสอบใส่ตัวเลขสมมติลงใน DCF model ทีละกรณีดูครับ