หน้า 5 จากทั้งหมด 9

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 12:08 am
โดย yoyo
:cool:  ฮงนายเจ๋งมาก... หายไป 2 วัน นี่สงสัยไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม กลับมาแน่นปึ๊กอีกเช่นเคย  :lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 8:03 am
โดย sai
leksmile เขียน:ผมเวลาเจอฮงจะชอบกัดจิกแซว แต่จริงๆแล้วผมล่ะมองว่าคนนี้อนาคตในวงการลงทุนน่าจับตาทีเดียว อายุก็ยังน้อยแม้หน้าตาอาจจะ...ไปบ้าง (จิกอีกแล้ว) นายแน่มาก :shock:
พี่เล็กก็พูดไป ความจริงฮงเป็นคนตั้งใจและแน่วแน่มากมาก บางครั้งศึกษามามากจนทำให้เกิดความมั่นใจความคิดตัวเองมากเลยทำให้อารมณ์ร้อนไปนิด แต่เรื่องหน้าตาก็ออกจะน่ารักยิ้มหวาน  :lol:  (แต่พี่เล็กดูอ่อนกว่าจริงจริงแฮะอันนี้จริงนะไม่ได้แซวสงสัยพี่เล็กอารณม์ดียิ้มบ่อย)

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 9:35 am
โดย dome@perth
ผมว่า ฮง ควรที่จะภูมิใจ และมีความสุขนะ

ที่ มีแฟนคลับหนาแน่นขนาดนี้

กลัมมานั่งสงบอารมณ์ 2วัน ก็ดีนะ ฮง จะได้มีสติ

ในที่สุด ก็จะเกิดปัญญา ซึ่งจะได้เสริมความเป็นเลิศ

ที่ฮงมีอยู่แล้ว(มากๆด้วย) ให้ดียิ่งๆขึ้นไป   :D

ยังติดอ่านเหมือนเดิมนะ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 9:38 am
โดย picatos
ไม่เป็นไรครับ คุณ hongvalue ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เพราะ ผมไม่ได้โกรธอะไีร เนื่องจากว่าผมก็เคยเชื่อในเศรษฐศาสตร์เป็นแบบคุณ hongvalue เหมือนกัน

(และอีกอย่างผมก็นับถือ คุณ hongvalue มานานแล้ว ทั้งความขยัน และความกล้าในการคิด ถาม และแสดงความเห็น โดยเฉพาะที่คุยโต้ตอบกันระหว่างพี่ IH กับคุณ hongvalue ที่ greenbull นี่ ถือว่าผมได้ความรู้เป็นอย่างมาก)

สมัยก่อน ผมอ่าน paper ทางเศรษฐศาสตร์แรกๆ ผมก็คิดว่า... เออ... มันจริงนี่หว่า มันก็ถูกนี่หว่า แล้วก็รู้สึกเชื่อกับ paper ของเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก คล้ายๆ กับคุณ hongvalue ที่มองว่า assumption แต่ละข้อมันก็ดูสมเหตุสมผลดีนี่นา

แต่พอศึกษาไปเรื่อยๆ ได้อ่าน paper หรือทฤษฎีในมุมมองใหม่ๆ ที่ไ่ม่ใช่เศรษฐศาสตร์กระแสหลัก บางอันถึงขั้นโจมตีเศรษฐศาสตร์กระแส และมองฝั่งตรงข้าม จึงเห็นว่าทฤษฎีแต่ละอันมันก็มีจุดอ่อนของมันอยู่

สุดท้าย มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะเอาทฤษฎีไหนมาใช้ ถ้าใช้ถูกก็โชคดีไป ถ้าใช้ผิดผลลัพธ์ที่เห็นก็ไปกันคนละเรื่องเลย

เจตนาที่ออกมา post นี่ก็แค่เป็นห่วงคนอ่านมากกว่า ว่าถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดีพอ เชื่อเศรษฐศาสตร์มากจะเกินไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพพอร์ตได้

แต่ถ้าการ post ของผมทำให้คนอ่านต้องขุ่นข้องหมองใจ ก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะคร้าบ...บ   :bow:  :bow:  :bow:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 12:50 pm
โดย sutian
บางทีก้อมีข้อคิดเห็นขัดแย้งกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
ไม่มีใครผิดใครถูก แต่ผมก้อรออ่านอยู่ครับ   :D  :D  :D

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 2:25 pm
โดย crazyrisk
ขอบคุณการ discussion ครั้งนี้ ทำให้มุมมองกว้างขึ้น

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 6:48 pm
โดย crazyrisk
รบกวนถามหน่อยครับ

ใครพอมีข้อมูลบ้างครับ


่ว่าตอน อุ๋ย ร้อยจุด  นั้น  

ฝรั่ง และ กองทุน net buy หรือ sell

แล้วสถานะ tfex ตอนนั้น เเป็นอย่างไรครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:02 am
โดย palm_s5
ฝรั่ง net sell 25,000 ล้าน

http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... refer=home


สถาบัน net sell 3,000 ล้าน (อันนี้ไม่ค่อยชัวร์นะครับ แค่คุ้นๆว่าวันนั้นรายย่อยซื้อตั้ง28,000ล้านแน่ะ)

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:12 am
โดย palm_s5
"Foreign investors sold net 25 billion baht worth of shares on Dec. 19, the most since at least Jan. 4, 1999, when Bloomberg started tracking the data. They were net sellers of 523 million baht worth of shares when the SET slumped 7.6 percent in the three trading days following bomb blasts in Bangkok on New Year's Eve that killed three people."

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:14 am
โดย Hughes
อ่าน article นี้แล้วเห็นภาพเลย

ฝรั่งเค้าซื้อกันถูกๆ แมงเม่าไทยซื้อกันแพ้งแพง

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 1:32 am
โดย สวนหย่อม
oatty เขียน:
ยังหนุ่มยังแน่นก็แบบนี้แหละครับ อารมณ์ร้อนได้บ่อย อีกหน่อยก็หาย..

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 6:31 am
โดย zesar
ดีจริง ๆ ครับกระทู้นี้ มีอารมณ์ดราม่าด้วย กำลังซื้งเลย


เลยไม่ทันดูพอร์ต ตกใจเลย  :evil:

ตอนนี้กำลังจุดธูปให้เด้งขึ้นอยู่่ ตามสไตล์แมงเม่าเฝ้าดอยอย่างผม

เพื่อน ๆ ว่าไงครับ รบกวนเข้ามาแชร์กันให้ผมหายเหงาหน่อย

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 12:47 pm
โดย Hughes
ตกใจเหมือนกันครับ โดยเฉพาะกับน้องใหม่ในพอร์ท :evil:

ผมว่าจะเอาเงินปันผลที่เพิ่งได้ไปใส่แบงค์แล้วอัดเพิ่มและ นายตลาดอัดมาเราต้องอัดกลับ  :twisted:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:21 pm
โดย hongvalue
picatos เขียน:
(และอีกอย่างผมก็นับถือ คุณ hongvalue มานานแล้ว ทั้งความขยัน และความกล้าในการคิด ถาม และแสดงความเห็น โดยเฉพาะที่คุยโต้ตอบกันระหว่างพี่ IH กับคุณ hongvalue ที่ greenbull นี่ ถือว่าผมได้ความรู้เป็นอย่างมาก)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้ของผมครับ

ต้องขอบคุณไปถึงพี่ ih ด้วยครับที่มีน้ำใจมากมายเหลือล้น

ถ้าชอบอ่านผมก็จะพยายามคิดคำถามบ่อยๆนะครับ


picatos เขียน: สุดท้าย มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะเอาทฤษฎีไหนมาใช้ ถ้าใช้ถูกก็โชคดีไป ถ้าใช้ผิดผลลัพธ์ที่เห็นก็ไปกันคนละเรื่องเลย

เจตนาที่ออกมา post นี่ก็แค่เป็นห่วงคนอ่านมากกว่า ว่าถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดีพอ เชื่อเศรษฐศาสตร์มากจะเกินไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพพอร์ตได้
ผมมองว่าพี่ picatos เป็นคนมีน้ำใจนะครับ


ผมคิดว่าพี่ picatos มีเจตนาที่ดีในการเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับมุมมองด้านเศรษฐศาสตร์ให้ทุกคนฟัง

ผมว่าเป็นสิ่งมีค่า

ผมอาจจะเสนอแนวคิดว่าผมมีวิธีการดู fundflow อย่างไร

ส่วนพี่ picatos เสนอว่าเราควรรู้ข้อจำกัดอย่างไร

และระวังอะไรในวิชาเศรษฐศาสตร์บ้าง

ถ้าพี่ picatos ไม่ออกมาโพส

อาจจะทำให้ผู้อ่านบางท่านที่อ่านมุมมองของผมเพียงด้านเดียว อาจคิดว่า fundflow เป็นเรื่องง่ายและไม่ระวังตัว

วิชาทุกอย่างมีข้อเด่นและข้อด้อย

การมีเว็บบอร์ดเพื่อถกความเห็นของมุมมองต่างๆให้ครบถ้วน นับเป็นสิ่งที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของเว็บบอร์ดแล้ว

ผมนับถือในน้ำใจพี่นะครับ

เพราะว่าพี่มีประสบการณ์ที่มีค่าซึ่งจริงๆแล้วพี่ไม่จำเป็นต้องมาแชร์ก็ได้

แต่ว่าด้วยความเป็นห่วงกระเป๋าตังค์เพื่อนนักลงทุนท่านอื่น  :D  

จึงมาสละเวลาอันมีค่าโพสเพื่อพวกเราทุกคน

ผมต้องขอคารวะจริงๆครับ

:bow:  :bow:  :bow:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:24 pm
โดย hongvalue
ccc111 เขียน:ต้องขอขอบคุณ hong จริงๆ ที่ช่วยแบ่งปันหลักการ hongvalueway ให้ทราบ
เพราะว่ากว่าจะรวบรวมความรู้แล้วทำการทดสอบหลักการพวกนี้
ต้องใช้ความพยามมากแค่ไหนคงเป็นที่ทราบได้

สู้ต่อไปทาเคชิ :D

ขอบคุณมากครับ

แต่งงนิดนึงครับ

ทำไมต้องเป็น  ทาเคชิ เหรอครับ  :roll:  

PERFECT LUCKY เขียน:ขยัน + ฉลาด + ใจกว้าง + อายุน้อย (อายุการลงทุนเยอะ)  สมควรได้รับ ผลตอบแทน แบบเยี่ยมๆ

ขอชมจากใจ เยี่ยมจริงครับ

ชอบตรงคำว่า ผลตอบแทนเยี่ยมๆเนี้ยแหละครับ

:ep:  :ep:  :ep:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:28 pm
โดย hongvalue
leksmile เขียน:ผมเวลาเจอฮงจะชอบกัดจิกแซว แต่จริงๆแล้วผมล่ะมองว่าคนนี้อนาคตในวงการลงทุนน่าจับตาทีเดียว อายุก็ยังน้อยแม้หน้าตาอาจจะ...ไปบ้าง (จิกอีกแล้ว) นายแน่มาก :shock:


พี่เล็กเป็นพี่คนนึงที่น่าเคารพครับ

มี sense ทางการลงทุนเยี่ยมครับ

ตะก่อนเวลาพี่เห็นว่ามุมมองบางเรื่องของผมไม่ดีก็ตักเตือนผมเช่นหุ้น tmb ที่ผมเคยซื้อเพราะคิดว่าจะ turn around

พี่นี้มองขาดกว่าผมจริงๆ

พี่เล็กเป็นคนอัธยาศรัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส และมีบุคลิกที่ดีอบอุ่น

ขอบคุณนะครับ ที่เข้ามาทักทายน้องนุ่ง :D


sai เขียน:พี่เล็กก็พูดไป ความจริงฮงเป็นคนตั้งใจและแน่วแน่มากมาก บางครั้งศึกษามามากจนทำให้เกิดความมั่นใจความคิดตัวเองมากเลยทำให้อารมณ์ร้อนไปนิด แต่เรื่องหน้าตาก็ออกจะน่ารักยิ้มหวาน  :lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:31 pm
โดย hongvalue
[quote="dome@perth"]ผมว่า ฮง ควรที่จะภูมิใจ และมีความสุขนะ

ที่ มีแฟนคลับหนาแน่นขนาดนี้

กลัมมานั่งสงบอารมณ์ 2วัน ก็ดีนะ ฮง จะได้มีสติ

ในที่สุด ก็จะเกิดปัญญา ซึ่งจะได้เสริมความเป็นเลิศ

ที่ฮงมีอยู่แล้ว(มากๆด้วย) ให้ดียิ่งๆขึ้นไป

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:33 pm
โดย hongvalue
[quote="สวนหย่อม"]คนหนุ่มฮงในวันนี้ คือซุปเปอร์เซียนในวันหน้าครับ ขอคารวะ สามจอก
ลูกผู้ชายรู้ผิด รู้ขอโทษ รู้อภัย สังคมเรามีความสุขครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:34 pm
โดย hongvalue
zesar เขียน:ดีจริง ๆ ครับกระทู้นี้ มีอารมณ์ดราม่าด้วย กำลังซื้งเลย


นักแสดงนำของเรื่องนี้

hongvalue

อิอิ

พูดเล่นครับ ไม่งั้นเดี่ยวกระทู้มันเครียดเกินไป

มันเครียดมาหลายวันแล้วครับ กระทู้นี้

พี่จั้มเป็นคนมีอารมณ์ขันดีนะครับ

ผมคงต้องเอาอย่างบ้างซะแล้วครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:36 pm
โดย hongvalue
[quote="yoyo"]:cool:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 7:51 pm
โดย hongvalue
oatty เขียน:


ยังหนุ่มยังแน่นก็แบบนี้แหละครับ อารมณ์ร้อนได้บ่อย อีกหน่อยก็หาย..


แสดงว่าเมื่อก่อนพี่เป็นคนใจร้อนอะดิ

อิอิ

Linzhi เขียน: สังคมแบบนี้ผมชอบจัง แถมได้อ่านกระทู้ดี ๆ ต่ออีก

:cool:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:03 pm
โดย palm_s5
ขอบคุณคุณฮงด้วยนะครับ  เป็นกระทู้ที่ดีช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ  ที่discuss กันเรื่องการใช้การวิเคราห์เชิงมหภาคมาประยุกต์กับการลงทุน    ผมเองพึ่งได้ลองเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ไปเมื่อเทอมที่แล้ว  ส่วนตัวก็กำลังคลำหาทางประยุกต์มาใช้ในเรื่องของTimingในการลงทุนอยู่เหมือนกัน (ยากเหลือเกิน -_-)
พอดีเมื่อเดือนก่อนผมได้อ่านบทความเรื่อง What good are Economist anyway? ของ Business week  ผมเลยชักเกิดความไม่มั่นในใจเศรษฐศาสตร์ขึ้นมา

ประกอบกับไม่นานมานี้ผมพึ่งมีโอกาสได้อ่านหนังสือ เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง ของคุณพิชัย จาวลา เป็นหนังสือเก่าเมื่อปี 46  มุมมองในหนังสือค่อนข้างแตกต่างจากทั่วไปพอสมควร  

เลยอยากถามเพื่อนๆในเวบที่เคยอ่านอ่านหนังสือเล่มนี้น่ะครับว่ามีความคิดเห็นยังไงกันบ้างกับทฤษฎีในหนังสือเล่มนี้

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:04 pm
โดย palm_s5
สรุปมาให้สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านนะครับ

ทฤษฎีในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงตลาดเก็งกำไร (ตลาดหุ้น ,อัตราแลกเปลี่ยน, ตลาดโภคภัณฑ์, อสังหา)  ไว้หลักๆประมาณนี้ครับ

1. ราคากำหนดสถานการณ์-ข่าวสาร
2. ราคาในตลาดเก็งกำไร จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุน

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:07 pm
โดย palm_s5
1. ราคากำหนดสถานการณ์-ข่าวสาร

ในหนังสือบอกว่าราคามักจะมาก่อนเหตุผลเสมอ  ที่เป็นเช่นนี้เพราะในแต่ละช่วงเวลามีข้อมูลข่าวสารทั้งด้านดีและไม่ดีเกิดขึ้นรอบตัวเรา  ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงก็สามารถจะหาเหตุผลมาอธิบายได้เสมอแต่เรามักจะมองด้านนั้นก็ต่อเมื่อราคาเคลื่อนไปในทิศทางนั้นแล้ว  จึงมักจะเกิดเหตุการณ์ เหตุซ้ำแต่ผลไม่ซ้ำ

นอกจากนี้ราคาที่ขึ้นหรือลงก็สามารถที่จะไปกำหนดให้เกิด สถานการณ์และเหตุผลที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาได้

ในจุดนี้ผมคิดว่าค่อนข้างคล้ายกับแนวคิดของ Soros   ผมขอยกข้อความจากในหนังสือของเค้านะครับ
The new paradigm I am proposing differs from the old one in two important respects. First, I contend that financial markets never reflect the underlying reality accurately; they always distort it in some way or another and the distortions find expression in market prices. Second, those distortions can, occasionally, find ways to affect the fundamentals that market prices are supposed to reflect

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:09 pm
โดย palm_s5
2.ราคาในตลาดเก็งกำไร จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุน

ในตลาดเก็งกำไร  แม้การตัดสินใจนั้นๆจะตั้งอยู่บนเหตุผลและการวิเคราะห์ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์หรือตรงตามpatternของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตทุกอย่าง  แต่ถ้าคนส่วนใหญ่คิดและทำไปในทิศทางเดียวกันหมด  ผล(ราคา)ก็จะออกมาในทิศทางตรงกันข้าม    

ขอยกข้อความมาจากกระทู้ ข้อคิดจาก Sir John TempletonของคุณWEBนะครับ

กระบวนการคัดเลือกหุ้นมีความซับซ้อน  นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่อาจลงมือทำแบบเดียวกับนักลงทุนคนอื่นๆได้  ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่การลงทุนมีความแตกต่างไปจากอาชีพอื่นๆ  ตัวอย่างเช่น  ถ้าหมอสิบคนให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรค  การปฏิบัติตามความเห็นส่วนใหญ่น่าจะให้ผลดี  หรือหากวิศวกรสิบคนเห็นชอบกับการออกแบบสะพาน  เราก็น่าจะสร้างสะพานตามแบบนั้น  ในทางตรงกันข้าม ถ้านักวิเคราะห์สิบคนบอกให้เราซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดได้....

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:13 pm
โดย palm_s5
สรุปประเด็นคือ หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า

ในตลาดเก็งกำไร  ฝ่ายด้านที่ชนะจะคาดการณ์จิตวิทยาและความคิดของคนหมู่มากในตลาดว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่จะมีreaction(ด้วยการตัดสินใจโดยใช้ทฤษฎีต่างๆหรือการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต)ไปในทิศทางไหน  แล้วก็เข้าไปtake actionในทางตรงกันข้าม   หลังจากนั้นราคาซึ่งจะเคลื่อนไปในทิศทางที่คนหมู่มากขาดทุนนั้นจะไปชี้นำให้เกิดข่าวสารและเหตุผลต่างๆที่ทำให้คนหมู่มากเริ่มเปลี่ยนความคิดมาในทางตรงกันข้าม  เมื่อถึงจุดที่คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาคิดและทำไปในทิศทางเดียวกันหมด  ก็จะเกิดเป็นจุดวกกลับอีกรอบ วนเป็นLoopไปอย่างนี้เรื่อยๆ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 8:15 pm
โดย hongvalue
[quote="palm_s5"]ขอบคุณคุณฮงด้วยนะครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 9:49 pm
โดย yoyo
สำหรับผม ผมว่าทั้ง top-down กับ bottom-up นี่สำคัญทั้งคู่นะ เพียงแต่ว่าใครถนัดดูด้านไหนก่อนเท่านั้นเอง หุ้นบางตัวผมก็คิดบนล่าง หุ้นบางตัวผมก็คิดล่างขึ้นบน แต่ยังไงก็วิเคราะห์ทั้งหมดล่ะครับ.. เพียงแต่ผมอาจจะมองขึ้นไปถึงระดับอุตสาหกรรมมากกว่าจะดู Macro ที่สูงไปกว่านั้น เพราะการคาดการพวกค่าเงิน หรือ ราคา commodity นี่ยากเกินไปจริงๆ.. ส่วนใหญ่ผมคาดไม่ค่อยถูกหรอกครับ จะมี Commodity นี่ยังพอจะคาดการณ์ได้บ้าง แต่ก็มักจะมาจากข้อมูลที่ได้จากคนในอุตหสากรรมมากกว่า .. วิเคราะห์เองแม่นๆนี่ยังค่อยจะเกิดเท่าไหร่

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 9:58 pm
โดย hongvalue
มีอีกวิธีนึงสำหรับคนที่ฝึกดู

us dollar

ผมไปเจอกราฟในอดีต

(ข้อมูลนี้ของสองเดือนก่อนนะ ไม่ใช่ปัจจุบัน)

ก็คือว่า

รูปภาพ

กราฟนี้จะเป็นการเทียบค่า dollar ในรูปแบบ

year on year

ว่าเทียบกับปีที่แล้ว แข็งหรืออ่อนค่าเท่าไหร่

ถ้าเมื่อไหร่ก็ถามที่ us dollar

แข็งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเกิน 30 % จะมีแรงขายออกมา

หรือ take profit

อะไรทำนองนี้

ผมดูกราฟนี้ตอนเดือนมีนาคม

ตอนนั้นเงินดอลแข็งถ้าเทียบกับปีก่อนหน้าในเดือนเดียวกัน

เกือบๆ 20% ถ้าดูจากในอดีต

มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้น่าจะอ่อนตัวลงมา

สำหรับคนดู usd index น่าจะหัดดูในรูปแบบ

yoy เทียบกันดูจะเห็นอะไรในอีกมุมนึงเพิ่ม




เพื่อนๆลองเอากราฟนี้ไปดูในอนาคตดูล่ะกันนะครับ

ว่ามันแม่นยำแค่ไหน

ถ้าส่วนตัวผมคิดว่ามันบอกได้แค่ในระดับที่ว่า แข็งมากไปหรืออ่อนมากไป ในระยะเวลาสั้นๆเฉยๆ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 10:23 pm
โดย hongvalue
กราฟนี้

กราฟหากินของผม

(กราฟนี้ผมไม่ได้เป็นคนทำนะครับ คนทำคือคุณ วิศิษฐ์
องพิพัฒนกุล  เขาบอกว่ากราฟนี้ทดลองผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจมาแล้ว 3 รอบ)

รูปภาพ



ในตอนที่ผมได้กราฟนี้

ผมตั้งใจว่าจะไปหามาได้ให้ทุกช่องว่า

เหตุผลของมันคืออะไร

หาอยู่นาน ก็ทำได้แค่ ได้เกือบทุกช่อง  :lol:

ถ้าคนที่สนใจแนว macro

ลองศึกษาดูก็ได้ว่าทำไมในภาวะต่างๆทางซ้ายมือ

จะทำให้สินทรัพย์อะไรน่าลงทุน

โดย ++ คือน่าลงทุนที่สุด

และ -- คือถือเอาไว้แล้วแย่ที่สุด

ถ้าจะให้ดี

ต้องสามารถบอกได้ถึงขนาดที่ว่า

ปีไหน ที่ประเทศไหน เกิดอะไรขึ้น

แล้วราคาหุ้น ราคาพันธบัตร หรือ ราคาที่ดินตอบสนองอย่างไร

ตามทฤษฏีข้างต้นไหม


ถ้าสามารถขุดได้หมด

อย่างน้อยเราจะสามาถนำเงินลงทุนของเรา

ไปไว้ในสิ่งที่ควรจะไว้

ในภาวะที่เหมาะสมกับเหตุการณ์นั้นๆครับ