หน้า 5 จากทั้งหมด 7

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 8:46 am
โดย chatchai
แทนที่เราใช้  หนี้ระยะยาว  เราใช้หนี้เงินกู้ดีกว่าไหมครับ

และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน  ต้องระวังนะครับ  เพราะรายการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียนนั้น  บางบริษัทอาจมีความผันผวนมาก  ไม่ค่อยสม่ำเสมอ  ต้องระวังด้วยครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 12:49 pm
โดย zeazon
ถ้าอ่านงบให้แตกฉานไม่ได้คิดว่าคงเป็นนักลงทุน VI ที่ดีไม่ได้ ขอติดตามสะสมความรู้ด้วยคนครับ  ขอคารวะและขอบคุณคุณฉัตรชัยและทุกท่านที่ช่วยกับถาม-ตอบครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 1:58 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
[quote="chatchai"]แทนที่เราใช้

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 2:29 pm
โดย chatchai
[quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="chatchai"]แทนที่เราใช้

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 8:23 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
[quote="chatchai"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"][quote="chatchai"]แทนที่เราใช้

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 07, 2010 11:52 pm
โดย 0N0111
การเริ่มศึกษางบ ควรเริ่มต้นอย่างไรไม่ให้เบื่อและท้อครับ
ทัศนติมีผลมากหรือปล่าวครับ  ส่วนตัวรู้สึกว่ามีความสำคัญมากแต่ยัรู้แค่งูๆปลาๆ ไม่ได้คึกษาจริงจังครับ ใครมีประสบการช่วยแนะนำหน่อยครับถ้าให้ดีเอาเป็นสแต็ปเลยครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 12:48 am
โดย chatchai
การลงทุนที่จะให้ผลประสบความสำเร็จอย่างมากๆในระยะยาวนั้น  ผมว่าต้องมีความรู้  ความเข้าใจ ในหลายๆเรื่องมาก  เช่น

การวิเคราะห์และเข้าใจงบการเงิน

การวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจของบริษัทต่างๆ  ในหลากหลายอุตสาหกรรม

ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน  ผ่านทั้งตลาดกระทิง  ตลาดหมี

ความรู้  ความเข้าใจ  เศรษฐศาสตร์มหภาค  ทั้งของไทย  และโลก

ติดตามข่าวสารที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างมากมายในแต่ละวัน

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหลายคน  โดยเฉพาะในเวบของเรานี้  สามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว  และมากมายจริงๆครับ  ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก

แต่ละคนอาจมีความรู้  ความเข้าใจ  และความสามารถแตกต่างกัน  มากบ้างน้อยบ้างในตอนเริ่มต้น  แต่ทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ  ความขยันครับ  ผู้ที่เป็นเซียนแต่ละคนมีความขยันอย่างมากๆ

ตอนเด็ก  เราอาจจะขยันเรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ  สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะดีๆ  ขยันทำงานเพื่อที่ได้รับตำแหน่งดีๆ

แต่ตอนนี้  เราจะขยันเพื่อความมั่นคงทางการเงินของเราและครอบครัวไปตลอดชีวิต  แล้วทำไมเราถึงไม่ขยันมั่นเพียรละครับ

ปัจจุบัน  คนรุ่นใหม่ๆสนใจการลงทุนกันเยอะมาก  ขยันกันมากๆ  ลงทุนเดินทางข้ามจังหวัดมาอบรม  มาพบปะ  มาสัมมนา

ถ้าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น  เราก็ล้าหลังกว่าคนอื่นนะครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 1:49 am
โดย หมีขาว
รบกวนถามพี่ฉัตรอีกครั้งครับ :D

กรณี PTL บริษัทแจ้งว่าจะเริ่มเสียภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมษายน 2011
เป็นต้นไป ที่นี้ PTL มีบริษัทย่อยที่ตุรกีอยู่ด้วย ผมสงสัยว่าแล้วกำไรจาก
ตุรกีต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ จึงลองเมล์สอบถาม IR ได้ความว่าไม่ต้องเสีย
ดังนี้ครับ
Under BOI privileges, the company enjoys 100% corporate tax exemption for first 8 years (from dt. of first sale under each certificate) and 50% tax exemption for next 5 years. Our first BOI certificate tax exemption benefit is expiring in April 2011 and the profits from operations of this project will be subject to tax at 50% of normal tax rate of 25%, so the effective tax rate would be 12.5%. This is only for Thailand and not applicable to Turkey unit. They are 100% corporate tax exempt since it is set up in a Free Trade zone.
ที่ผมสงสัยก็คือว่ากำไรจากตุรกีทั้งหมด สุดท้ายมันก็รับรู้ผ่านทางบริษัทที่ไทย
ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ดี แล้วสุดท้ายเราต้องเสียภาษีในส่วนกำไรของตุรกีไหมครับ? หรือว่าการคิดภาษีจะคิดจากงบเดีี่ยวครับ?

ขอบคุณครับพี่ฉัตร :bow:

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 6:42 am
โดย VI Wannabe
[quote="chatchai"]

ตอนเด็ก

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 8:20 am
โดย เด็กใหม่ไฟแรง
การลงทุนที่จะให้ผลประสบความสำเร็จอย่างมากๆในระยะยาวนั้น  ผมว่าต้องมีความรู้  ความเข้าใจ ในหลายๆเรื่องมาก  เช่น

การวิเคราะห์และเข้าใจงบการเงิน

การวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจของบริษัทต่างๆ  ในหลากหลายอุตสาหกรรม

ประสบการณ์ในการลงทุนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน  ผ่านทั้งตลาดกระทิง  ตลาดหมี

ความรู้  ความเข้าใจ  เศรษฐศาสตร์มหภาค  ทั้งของไทย  และโลก

ติดตามข่าวสารที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างมากมายในแต่ละวัน
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหลายคน  โดยเฉพาะในเวบของเรานี้  สามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว  และมากมายจริงๆครับ  ในช่วงระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก
แต่ละคนอาจมีความรู้  ความเข้าใจ  และความสามารถแตกต่างกัน  มากบ้างน้อยบ้างในตอนเริ่มต้น  แต่ทุกคนจะมีเหมือนกันก็คือ  ความขยันครับ  ผู้ที่เป็นเซียนแต่ละคนมีความขยันอย่างมากๆ

ตอนเด็ก  เราอาจจะขยันเรียนเพื่อสอบให้ได้คะแนนดีๆ  สอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะดีๆ  ขยันทำงานเพื่อที่ได้รับตำแหน่งดีๆ

แต่ตอนนี้  เราจะขยันเพื่อความมั่นคงทางการเงินของเราและครอบครัวไปตลอดชีวิต  แล้วทำไมเราถึงไม่ขยันมั่นเพียรละครับ

ปัจจุบัน  คนรุ่นใหม่ๆสนใจการลงทุนกันเยอะมาก  ขยันกันมากๆ  ลงทุนเดินทางข้ามจังหวัดมาอบรม  มาพบปะ  มาสัมมนา

ถ้าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่น  เราก็ล้าหลังกว่าคนอื่นนะครับ

สุดยอดครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 09, 2010 9:41 am
โดย หมีขาว
หมีขาว เขียน:รบกวนถามพี่ฉัตรอีกครั้งครับ :D

กรณี PTL บริษัทแจ้งว่าจะเริ่มเสียภาษีเงินได้ ตั้งแต่เมษายน 2011
เป็นต้นไป ที่นี้ PTL มีบริษัทย่อยที่ตุรกีอยู่ด้วย ผมสงสัยว่าแล้วกำไรจาก
ตุรกีต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่ จึงลองเมล์สอบถาม IR ได้ความว่าไม่ต้องเสีย
ดังนี้ครับ
ที่ผมสงสัยก็คือว่ากำไรจากตุรกีทั้งหมด สุดท้ายมันก็รับรู้ผ่านทางบริษัทที่ไทย
ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่ดี แล้วสุดท้ายเราต้องเสียภาษีในส่วนกำไรของตุรกีไหมครับ? หรือว่าการคิดภาษีจะคิดจากงบเดีี่ยวครับ?

ขอบคุณครับพี่ฉัตร :bow:
ตอนนี้ได้รับคำตอบแล้วครับ ว่าภาษีจะคิดจากงบเดีียว ไม่ได้คิดจากงบรวม
ยังไงถ้าผมโพสต์อะไรไม่เหมาะสมขออภัยด้วยนะครับ ผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่งครับ  :D

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2010 10:59 pm
โดย 0N0111
[quote="chatchai"]การลงทุนที่จะให้ผลประสบความสำเร็จอย่างมากๆในระยะยาวนั้น

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 11, 2010 8:53 am
โดย chatchai
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ

ผมเองก็ยังไม่ขยันมากนัก

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 11, 2010 9:07 am
โดย chatchai
สมัยก่อนตอนผมเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ  เนื่องจากเรียนมาทางวิศวะ  ถึงแม้จะเลือกเรียนสาขาอุตสาหการซึ่งก็เป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกัยทางธุรกิจมากที่สุด  และยังเลือกวิชาเลือกที่เกี่ยวกับธุรกิจของคณะบัญชีบริหารอีก  แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังมีความรู้ไม่เพียงพอ

ถึงแม้จะซื้อหนังสือเกี่ยวกับบัญชีหลายๆเล่มมาอ่านเอง  ก็ยังไม่มั่นใจ

ทำงานไป  เล่นหุ้นไป  ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง  

ผมก็คิดว่า  เวลาในชีวิตของผมก็สูญเสียไปกับการทำงานที่ไม่ได้ชอบมามากพอแล้ว  ถ้ายังคงทำงานต่อไปเหมือนเดิม  ชีวิตก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น  นอกจากทำงานไปวันๆ

สุดท้ายก็เลยคิดที่จะไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว  เรียนปริญญาโท  บริหารธุรกิจที่ธรรมศาสตร์

แต่แน่นอนว่า  สถาบันแห่งนี้  สอบเข้ายากมากๆ  

ผมยอมที่จะขาดรายได้จากการทำงาน  และเพิ่มแรงกดดันให้แก่ตัวเองมากขึ้น  เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ก็แปลกใจที่เราลาออกจากงาน  ซึ่งเราก็บอกว่าเพื่อเตรียมตัวสอบ  ถ้าเราสอบไม่ได้ก็คงแย่  

ทำให้ผมไม่สามารถเตรียมตัวสอบแบบเล่นๆ  สบายๆได้แล้ว

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 8:02 am
โดย 0N0111
[quote="chatchai"]ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ

ผมเองก็ยังไม่ขยันมากนัก

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 5:55 pm
โดย chatchai
เรามาคุยกันเรื่องการประเมินราคา SSC ของ CIMB กันดีกว่าครับ

ทาง CIMB ก็ใช้วิธีประเมินราคากันหลายวิธี

ประเด็นที่ผมอยากจะคุยด้วย คือ วิธี Discounted Cash Flow to Firm ครับ

เพื่อนๆลองอ่านดูนะครับ  แล้วมาคุยกัน

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 10:13 pm
โดย คนบ้านนอก
รบกวนพี่ Link หน่อยครับ

หาไม่เจอครับผม

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 10:32 pm
โดย chatchai
เอกสารการประเมินมูลค่าหุ้น SSC ของ CIMB ครับ

http://www.set.or.th/dat/news/201005/10020259.pdf

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 10:45 pm
โดย คนบ้านนอก
37 หน้า  :shock:
จะรีบอ่านครับพี่ ขอบคุณมากครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 11:35 pm
โดย VI Wannabe
ผมดูคร่าวๆ นะครับรู้สึกว่าตาราง FCFF หน้า 21 มันแปลกๆ ปกติตามตำรา

FCFF = Net Income + Depre + Int*(1-t) - working_cap_inv - Fix_inv

แต่ FCFF จากตารางเนี่ยไม่รู้มาไงเค้าอาจไม่โชว์บางแถว ?

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 12:58 am
โดย Elessar
ผมว่าเค้าใช้ Rm แปลกๆ สูงถึง16กว่าๆ ตามปกติควรใช้ long run average Rm

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 8:35 am
โดย Fon^^
ร่วมลงชื่อศึกษาด้วยคนค่ะ

จองที่เข้ามานั่งเรียนอีก 1 ตำแหน่งค่ะ ^^

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 12:42 pm
โดย iceberg
ผมไม่จบบัญชี การเงินอะไรนะครับ อาจจะไม่เข้าใจอะไรลึกซึ้ง
อย่างแรกที่สงสัย คือ ตัวเลขประมาณการกำไรสุทธิ มาจากไหน (ที่อ่านมาจะบอกว่าทางที่ปรึกษาได้จากฝ่ายบริหาร)
2553F       367.7
2554F      450.7
2555F      612.7
2556F      805.0
2557F     1,012.2
โดยเฉพาะปี 2557 ประมาณการกำไร 1,012.2 ลบ. จะทำได้เหรอครับ ดูจากตัวเลขกำไรสุทธิย้อนหลัง 4-5 ปี
ก็อยู่ในช่วงประมาณ 500-600 ลบ.  ถ้าทำได้ใน 5 ปี คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 15%  เลยนะครับ

ถ้าถามว่าทำไมประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 จึงสำคัญ เพราะตัวเลขนี้จะนำไปเป็นส่วนนึงของการหาค่า terminal value
ถ้าดูจากตัวเลข NPV ที่ทางที่ปรึกษาเสนอมาอยู่ที่ 9,383 ลบ. เป็นค่าของ NPV ส่วน terminal value 8,144 ลบ คิดเป็น 86% ของมูลค่าทั้งหมด

ผมคิดว่า ทางที่ปรึกษา ควรจะทำตัวเลขเป็นช่วงมากกว่านะครับ เช่น 700-800-900-1000 อะไรทำนองนี้นะครับ
แทนที่จะใช้ 1,012 ตัวเดียวเลยหรือเค้าอาจจะทำแล้วแต่ไม่นำเสนอก็ไม่ทราบนะครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 3:57 pm
โดย TPH
ขอบคุณพี่ฉัตรชัยสำหรับความรู้และปรัชญาการใช้ชีวิตครับ  :bow:

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 7:30 pm
โดย miracle
Rm =16.8 ของ SSC
คำถามของผมคือ มันรวมความเสี่ยงด้านการเมืองเข้าไปด้วยหรือเปล่า
ถ้ารวมแล้ว ผมก็ถือว่า OK แล้ว
เพราะว่า มันคือผลตอบแทนของตลาดทุน

ส่วนเรื่องของตารางหน้า 16
คนทำนั้นทำอย่างย่อมากๆๆ ไม่ยึดตามตำราอย่างเหนี่ยวแน่น ที่ต้องแสดง
ทุกอย่าง เพราะ มันอาจเอาแค่ ขั้นตอนการคำนวณสุดท้ายมาแสดงก็ได้ครับ

ส่งท้ายคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง
เพื่อนบอกว่า คนที่ทำถือว่าทำมาหลาย deal แล้วน่ะครับ
คนนี้เป็นมืออาชีพในการทำ deal ล่ะครับ
:)

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 10:23 pm
โดย chatchai
จากการทำประมาณการงบการเงิน

เราจะได้ตัวเลข ต้นทุนขาย  ค่าใช้จ่าย  กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้  และกำไรสุทธิ

แต่ไม่แสดงตัวเลขของรายได้จากการขายให้เราเห็นเลยแฮะ  ทำไมไม่แสดงละครับ

มีใครรู้บ้างว่า  ตามสมมุติฐานที่ทำมา  รายได้ของบริษัทเติบโตมากน้อยแค่ไหน

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 8:31 am
โดย miracle
[quote="chatchai"]จากการทำประมาณการงบการเงิน

เราจะได้ตัวเลข ต้นทุนขาย

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 8:37 am
โดย miracle
ตอบพี่ฉัตรชัยครับ
ของพี่เริ่มหน้า 14 เป็นต้นไปถึงหน้า 22 ครับ
หน้าแรกของช่วงที่บอก IFA บอกถึงข้อสมมุติฐานที่เขาตั้งไว้ครับ
ว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากงบของบริษัทอื่นย้อนหลัง และบริษัทของเราเองด้วย
ถึงได้ค่าเหล่านั้นมาครับ

:)

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 8:54 am
โดย chatchai
miracle เขียน:ตอบพี่ฉัตรชัยครับ
ของพี่เริ่มหน้า 14 เป็นต้นไปถึงหน้า 22 ครับ
หน้าแรกของช่วงที่บอก IFA บอกถึงข้อสมมุติฐานที่เขาตั้งไว้ครับ
ว่ามีอะไรบ้าง โดยดูจากงบของบริษัทอื่นย้อนหลัง และบริษัทของเราเองด้วย
ถึงได้ค่าเหล่านั้นมาครับ

:)
ประเด็น คือ ผมอยากจะรู้ว่า  รายได้ที่เป็นจำนวนเงินในแต่ละปีเท่าไร  เติบโตมากน้อยแค่ไหน

อีกประเด็นหนึ่ง  ปริมาณการขายของเครื่องดื่มน้ำอัดลมโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  แต่ทำไมในการประมาณการถึงได้โตประมาณ 3.6% ถึง 4% ทุกปีจนถึงปี 2557

ผมว่าไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับนะครับ  ทำไมเราไม่ประมาณการเติบโตเท่าเฉลี่ยละครับ  มูลค่าคงลดลงอย่างมากเลย

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 9:02 am
โดย miracle
ตอบพี่ฉัตรชัย
----------------------------------------------------------
จากสมมติฐานข้างต้น ปริมาณการขายเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายตัวได้อย่าง
ต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในปี 2552 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวและ
ส่งผลให้มีปริมาณการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศมากขึ้น โดยเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมมีอัตราการเติบโตของ
ปริมาณการขายที่ร้อยละ 7.1 ในช่วงไตรมาสแรกปี 2553 และมีปริมาณการขายที่เติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 ในช่วง 5 ปีที่
ผ่านมา (ปี 2548 ถึงปี 2552) ในขณะที่เครื่องดื่มประเภทอื่นซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภท
น้ำอัดลม จะสามารถรักษาระดับการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสมมติฐานดังกล่าวมีความ
สอดคล้องต่ออัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2551 จนถึงปี 2552 คือที่ร้อยละ 16.8 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหารที่
จะเน้นเครื่องดื่มประเภทอื่นมากขึ้น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูงกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม
-----------------------------------------------------
มาจากหน้า 16 ครับ
การทำ Pro formula statement คนทำสามารถตั้งสมมุติฐานอย่างไงก็ได้
อันนี้คือข้อดีและข้อเสียเลยว่าเป็นเช่นไร
ดังนั้นคนทำจึงเขียนสมมุติฐานเอาไว้ว่า ตั้งอยู่บนอะไร และ make sense หรือไม่

ข้อมูลในอดีตก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่มันตรงกับความเป็นจริงหรือเปล่า เป็นประเด็นที่น่าคิดว่า ที่ต่ำนั้นเป็นการต่ำเพราะสินค้าเดิมถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ถ้าหากมีสินค้าใหม่เข้ามาตอนนี้ตลาดอาจจะกลับสู่ช่วง S ตัวใหม่ก็ได้

ถ้าให้ดีข้อมูลมาจากผู้บริหารครับ อันนี้ถ้าหากเป็นไปตามผู้บริหารบอกก็ได้ แล้วเอาตัวเลขที่สัมภาษณ์มาทำครับ

:)