Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อืม ไม่เหมือนกัน

วันนี้ไปซื้อ stock review กับ M&W มาอ่าน

เชียร์กลุ่มแบงค์กันเต็มที่ ประมาณว่า ยุคทอง

ผมเลยโยนทิ้งทั้งกลุ่มเลย 5555


ดูอยู่ห่างๆดีกว่ากลุ่มนี้ รอให้ข่าวมันออก วิกฤตถล่มแบงค์ยับก่อน คุคุคุ

วันนี้ผมวิเคราะห์กลุ่มเกษตรหมวดเกษตรเสร็จ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนเลยครับ
ดูว่าแพงไปทั้งนั้นเลย อิอิอิ

คือดูแล้วเฉยๆๆ

ไปดูกลุ่มอาหารต่อดีกว่า ใครดูกลุ่มเกษตรตัวไหนแล้วรู้สึกซู่ซ่ามาบอกที

-___-a ยิ่งดูยิ่งพิศ ยิ่งคิด ยิ่งสงสัย

เหตุไฉนกลุ่มโรงบาล ข้าพเจ้าก็ขว้างทิ้ง


เล่นแบบเกรแฮมก็มีข้อเสียแฮะ ดัชนีสูงๆแบบนี้ ต้องตัดใจโยนทิ้งหลายตัว

ว่าแล้วก็โยนกลุ่มโรงบาลทิ้งขยะไปเอิงเอยยยยยย

ผมว่าถ้าจะซื้อหุ้นก้นบุหรี่ คุณWarantact คงต้องรอซื้อหลังจากที่ตลาด crash อย่างรุนแรง เพราะตอนนี้มองไปทางไหน มีแต่หุ้นที่ขึ้นมาเยอะแล้วทั้งนั้นเลยอ่ะครับ (เห็นคุณ Warantact ทิ้งหุ้นทั้งกลุ่มไปหลายกลุ่มแล้วทั้งธนาคาร ประกัน โรงพยาบาล)

นั่นสิ จำใจทิ้งนะเนี่ย

ถ้าเอาตามสูตรก้นบุหรี่จริงๆผมว่าเก็บจรัญประกันภัยมาดมได้นะ เงินมี500ขาย300กว่าๆ

ตัวอื่นๆก็พอมี ก้นบุหรี่จะหมดแล้ว หุ้นถูกๆก็พอหาได้ ตัวประกันคงเก็บจรัญอ่ะครับ ตามสูตร รู้ว่ามันไม่วิ่งแต่มาเก็ทแครชก็ไม่ลง5555 คงเก็บไม่เกิน 1% พอร์ท แล้วก็ไปเอาตัวอื่น หาต่อไป pe ต่ำกว่า15 pb ต่ำกว่า 1.5 หนี้น้อย

แต่ตลาดไทยผมตั้งpbไว้แถวๆสิบ มันเลยหายากหน่อย

ที่เก็บไปก็มีพวกโรงแรมกับตัวยุบยิบยุบยิบ น่ะครับ

ผมว่าผมเล่นสไตล์นี้ดีแล้วหละ สบายใจ มันจะหาของยากหน่อยตอนตลาดขึ้นสูงๆ แต่ถ้าผมออกจากตลาดเมื่อไรหละ หึหึหึ

ระวังมาเก็ทแครช

(5555 พูดซะหยั่งกะว่าตัวเองเก่งมาก) ตอนนี้ก็ยังเจอหุ้นเข้าสูตรนะ



อย่างกลุ่มโรงแรมนี้ผมอยากได้เซนเทลแทบขาดใจ เพราะเห็นว่าไงๆราคาก็วิ่ง หลังตอนมันโดนเผาราคาลงฮวบๆ อยากกกกกกเหลือเกิน

แต่ต้องยึดมั่นครับ ไม่ลดกฏ ทิ้งไปเพราะหนี้มาก T-T ตอนนั้น pbมัน 0.8 ตอนนี้เดือนเดียววิ่งไป 1 แล้ว ^_^ ยังไงตัวอื่นที่มีก็เขียวหมดเพราะลมพัดขึ้นด้วยครับ

กรรม สองเรปบนพิมพ์ผิด pe 10 ไม่ใช่ pb

5555 หุ้นก้นบุหรี่ pbสิบเท่า เสาก้านทูปยักษ์แล้ว 5555

ผมว่าปัญหาหลักของประกันชีวิตคือ หาตัวแทนที่เขาใจ และ ซื่อสัตย์ บอกความจริงกับลูกค้าอย่าง จขก. ยาก ... ยิ่งพนก.แบงค์เองที่ขายผ่านเคาท์เตอร์นี่แทบจะไม่รู้อะไร ที่สำคัญบริษัทประกัน ยังพยายามทำเอกสารส่งเสริมการขายมาให้ลูกค้าเข้าใจผิดเรื่องผลตอบแทนอย่างพวกกรณี 200% 300% ... ทั้งที่พอมาคิดเป็นผลตอบแทนต่อปีแล้วแทบจะเท่ากับเงินฝาก .... ไอ้พวกประกันประเภทที่เอาเรื่องการลงทุนมารวมกับการประกันความเสี่ยงนี่หลังๆก็ชอบเอามาขายให้กับลูกค้า ซึ่งมันจะทำให้ลูกค้าสับสนว่าหน้าที่ของประกันคืออะไร โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบประเภทนี้เพราะประเมินผลตอบแทนยาก ผมชอบแบบที่แยกไปเลยว่าซื้อประกันความเสี่ยงอย่างเดียว แบบเบี้ยทิ้งไปเลยเพราะเสียเบี้ยน้อยเอาเงินที่เหลือไปลงทุนอย่างอื่นคุ้มกว่า ... แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบจ่ายเบี้ยทิ้ง ชอบแบบอย่างไงก็ได้เงินต้นคืน แม้ผลตอบแทนจะน้อยนิดก็ยอม...

ที่หลายท่านเห็นว่าคนที่ซื้อประกันแล้วมีแนวโน้มจะซื้อเพิ่มเรื่อยๆนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตัวแทนมักจะเวียนไปขายอยู่เรื่อยๆ อย่างผมนี่มาทุกปี เดือนที่จะต้องปิดยอดทำคะแนนไปต่างประเทศ จะโทรมาทุกวัน ทั้งๆที่เดือนอื่นทั้งปีไม่ค่อยติดต่อมา .... ซึ่งการหาลูกค้าเก่ามันง่ายกว่าลูกค้าใหม่มั้ง ... แต่หลังๆผมก็ไม่ได้ทำเพิ่มแล้ว ... โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าคนที่ทำประกันอยู่แล้วส่วนใหญ่มักจะทำประกันไว้เกินความจำเป็นมาก (เพราะทนความดื้อของตัวแทนไม่ไหวด้วยส่วนหนึ่ง) ส่วนคนที่ไม่มีประกันเลยก็มีอยู่เยอะ ที่ควรจะต้องทำไว้ ตลาดนี้ยังกว้างพอสมควร

อีกเรื่องที่จะทำประกันชีวิตก้าวกระโดดได้เยอะ คือเรื่องการลดภาษี เห็นได้่ข่าวว่ารบ. อาจขยายให้ได้ถึง สองแสน ซึ่งนั่นก็ทำให้ ตัวแทนจะกลับไปหาลูกค้าเก่าทุกคนบอกให้ทำเพิ่มซิไว้ลดภาษี ซึ่งก็น่าจะทำให้โตได้อีกในระยะสั้นๆเลย

สรุปผมก็เห็นด้วยว่าประกันชีวิตในไทยมันก็มาถึงจุดตรงกลางของการเติบโตแล้ว ไม่น่าจะสามารถโตก้าวก็โดดได้มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ...

ปล. เมืองไทยน่าจะมีตัวแทนประกัน แบบ จขก. เยอะๆ คนที่มีความรู้ และ ซื่อสัตย์กับลูกค้า (ถ้าเวลาพูดกับลูกค้าก็บอกอย่างนี้น่ะ) คนที่จะบอกว่า พี่คร้าบ พี่มีวงเงินคุ้มครองเยอะแล้วอย่าทำเพิ่มเลย เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นเถอะ หรือ คนที่เวลาเจอลูกค้ามหาเศรษฐีก็บอกเลยว่า ผมว่าพี่ไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันเลย แต่ถ้าพี่อยากทำผมก็ยินดีจะเป็นตัวแทนให้ คนที่เจอลูกค้าระดับล่างจะแนะนำว่า พี่อย่าทำประกันแบบออมเงินเลย ได้ผลตอบแทนต่ำ เบี้ยสูง วงเงินคุ้มครองน้อยกว่า พี่เหมาะกับประกับแบบคุ้มครองอย่างเดียวมากกว่าครับ ... มีตัวแทนแบบนี้เยอะๆในระยะยาวผมก็เชื่อว่าทุกครอบครัวจะทำประกันชีวิตก็ไม่แปลก

Outliers เขียน:จากที่พี่อยู่ในธุรกิจประกันมานาน

อยากถามพี่เกี่ยวกับ CHARAN น่ะครับ ว่าคุณภาพของบริษัท และการจัดการเป็นอย่างไรบ้าง

คือผมมีหุ้นอยู่นิดหน่อย เพราะเป็น asset play และจ่ายปันผลพองาม
กับรู้สึกว่าจะเป็นบริษัทที่ conservative

แต่อยากรู้จากคนในวงการว่ามองตัวนี้ยังไงบ้าง
sale เก่งหรือเปล่า มีเรื่องอื่นๆที่ต้องระวังไหมครับ

ดูตัวนี้รายได้รับไม่ค่อยโตนะครับ ออกแนวโน้มจะลดลงซะด้วย

ปล ผมมีหุ้นอยู่นิดหน่อยนะครับ

Warantact เขียน:นั่นสิ จำใจทิ้งนะเนี่ย

ถ้าเอาตามสูตรก้นบุหรี่จริงๆผมว่าเก็บจรัญประกันภัยมาดมได้นะ เงินมี500ขาย300กว่าๆ

ตัวอื่นๆก็พอมี ก้นบุหรี่จะหมดแล้ว หุ้นถูกๆก็พอหาได้ ตัวประกันคงเก็บจรัญอ่ะครับ ตามสูตร รู้ว่ามันไม่วิ่งแต่มาเก็ทแครชก็ไม่ลง5555 คงเก็บไม่เกิน 1% พอร์ท แล้วก็ไปเอาตัวอื่น หาต่อไป pe ต่ำกว่า15 pb ต่ำกว่า 1.5 หนี้น้อย

แต่ตลาดไทยผมตั้งpbไว้แถวๆสิบ มันเลยหายากหน่อย

ที่เก็บไปก็มีพวกโรงแรมกับตัวยุบยิบยุบยิบ น่ะครับ

เมื่อไรพี่จะ take ครับ

ผมเก็บมาหลายปี รอคนใจถึงอย่างพี่นี้แหละมา take และปลดปล่อยมูลค่ามันออกมา

กรรม ยังตังไม่พอ take over 555555

SunShine@Night เขียน: ดูตัวนี้รายได้รับไม่ค่อยโตนะครับ ออกแนวโน้มจะลดลงซะด้วย

ปล ผมมีหุ้นอยู่นิดหน่อยนะครับ

ผมถึงได้บอกว่าผู้บริหารค่อนข้างจะ conservative ยังไงครับ

ทำแบบไปเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไป จ่ายปันผลเยอะๆ ไม่เน้นเติบโต

ดูจาก asset แล้วน่าจะมี bank มา take ไปทำต่อจริงๆ

ถ้าถือก็ต้องรอให้มีคนมาเทค จะได้ปลดปลาอยมูลค่าออกมา

เราก็จะได้ปลดปล่อยหุ้นออกมาด้วย 5555

ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ

BLA เจ้าของกระทู้สงสัยเสียดายแย่ ไม่ได้แอ้ม อิอิ

เป็นกระทู้ดีทีประโยชน์ ผมไม่อยากให้ตกไป
อัพเดตข้อมูลหน่อยครับ คุณ warrantact

เป็นกระทู้ที่ดีครับได้ความรู้เยอะเลย

แต่การวิเคราะห์คงใช้สูตรเดียวกันมาวัดทุกอุตสาหกรรมไม่ได้นะครับ ทั้งการผลิต บริการ ค้าปลีก ฯลฯ วิธีการหาเงินก็ไม่เหมือนกัน งบก็ออกมาไม่เหมือนกันด้วย มองเห็นอย่างที่เขาเป็นดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ

ไม่มองหุ้นประกันภัยละครับ ผมว่าน่าสนใจกว่าประก้นชีวิต น่าจะเป็นหุ้น ก้นบุหรี่ได้นะ เพราะเจอน้องน้ำเข้าไป...แต่ถ้าปีนี้ ปีหน้าไม่เจอน้องน้ำ ผมว่า คงไม่ได้ราคาแถวนี้นะ

มีหุ้นครับ.... หนาว ๆ ร้อน ๆ เหมือนกัน...