หน้า 5 จากทั้งหมด 8

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 25, 2011 11:19 pm
โดย baggio
ยินดีครับ vipnum ครับ ถ้าจะเป็นประโยชน์ หลังไมค์ก็ได้ครับ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 25, 2011 11:23 pm
โดย My House
baggio เขียน:เข้ามาลงชื่อด้วยคนครับ :) port เริ่มแตะ 8 หลัก ตั้งแต่ปีปลายปี 52 turnaround หลังจากบาดเจ็บจาก subprime มาพอสมควร ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นไต่ระดับ ให้ได้ 9 หลัก เป้าหมายอีก 15 ปีข้างหน้าครับ โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 20% ทบต้นทุกปีครับ (ทำไม่ถึงก็ไม่เป็นไร แค่อยากตั้งเป้าให้สูงไว้ก่อน)

ผมเริ่มลงทุนมาตั้งแต่ปี 46 ครับ เริ่มลงทุนก็มาแนวทาง vi เลย ได้แรงบันดาลใจมากจากหนังสือพ่อรวยสอนลูก ทำให้เข้าใจความรู้ทางด้านการเงิน และก็เข้าสู่แนว vi จากหนังสือ "ตีแตก" "เคล็บลับเซียนหุ้นพันธุ์แท้" และ "เซียนหุ้นมือทอง" ของท่าน อ. ดร.นิเวศน์ ล่ะครับ ผลการลงทุนก็ราบเรียบมาตลอดครับ ไม่ได้หวือหวาเหมือนเซียนหลาย ๆ คน ก่อนช่วง subprime แต่ก็ได้สะสมความรู้ + ประสบการณ์ในการลงทุนที่ถูกต้องมากขึ้น ตลอดจนปรับเปลี่ยนแนวทางในการลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง จนเมื่อถึงวันที่โอกาสมันมา เราก็พร้อมจะคว้าโอกาสนั้นครับ

อยากจะบอกเพื่อนที่มุ่งมั่นทุกคนครับ ว่า เราทำได้แน่นอนครับ เชื่อมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง และอดทนทำมันต่อไปเรื่อย ๆ วันนึงจะเห็นผลแน่นอน แต่ไม่อยากให้หวังผลการลงทุนต่อปีมากเกินไปครับ เพราะมันอาจทำให้เราเครียดกับการลงทุน อยากให้การลงทุน เป็นการลงทุนที่มีความสุข และเป็นการลงทุนเพื่อชีวิตครับ

ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิต ตอนนี้อยากทำให้ตัวเองมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่า เห็นด้วยครับ ว่าเริ่มรับรู้ได้ว่า เงิน ไม่ใช่คำตอบของความสุขครับ ความสุขไม่ได้แปรผันตามจำนวนเงิน แต่ความสุขมาจากใจเราและสิ่งรอบตัวเรามากกว่าครับ แต่ข้อดีของ port ที่โตขึ้น คือความมั่นคงของชีวิตที่มากขึ้นครับ รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

ตอนนี้กำลังฝึกฝนตัวเองเรื่องการ "ให้" อยู่ครับ เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ การให้ทาน ครับ ผมคิดว่าสุดท้าย คนเราก็ควรจะจบด้วยการให้ นี่แหละครับ จึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเราสงบที่สุด
ขอนับถือด้วยคนนะครับ ชอบประโยคนี้มากครับ "ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิต ตอนนี้อยากทำให้ตัวเองมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่า เห็นด้วยครับ ว่าเริ่มรับรู้ได้ว่า เงิน ไม่ใช่คำตอบของความสุขครับ ความสุขไม่ได้แปรผันตามจำนวนเงิน แต่ความสุขมาจากใจเราและสิ่งรอบตัวเรามากกว่าครับ แต่ข้อดีของ port ที่โตขึ้น คือความมั่นคงของชีวิตที่มากขึ้นครับ รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
"

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2011 4:09 pm
โดย vipnum
ขออณุญาติ post เพลงนี้ให้พี่ๆหรือเพื่อนๆหลายๆท่าน ลองฟังดูหน่อยนะครับ

ชื่อเพลงสุดขอบฟ้า

วันนั้นผมนั่ง อ่าน thaiVI หาความรู้ไปเรื่อยๆ แล้วก็อ่านกระทู้นี้ด้วย พอดีเปิดเพลงนี้ฟังพอดีผมว่าความหมายดีมากๆเลยครับ





ขอให้ทุกท่านไปให้ถึงฝันนะครับ สู้ๆครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2011 12:04 am
โดย nueng
ขอบคุณครับ
สำหรับเพลงดีๆ ก่อนนอน และทุกวลีที่ให้กำลังใจนะครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2011 9:37 pm
โดย sirimethagul
อีก 10 ปีมาใหม่ ปักหมุดไว้ด้วยคน

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 03, 2011 7:41 pm
โดย vipnum
sirimethagul เขียน:อีก 10 ปีมาใหม่ ปักหมุดไว้ด้วยคน
อีก 10 ปีมากลัวไม่มี 10 ล้านอ่ะสิ กลัวคุณพี่จะมี 100 ล้านแล้วสิ อิอิ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 12, 2011 3:44 pm
โดย sirimethagul
K."vipnum" ผมชอบเพลงที่โพสเอาไว้มาก ไม่เคยฟังเลย ได้ฟังครั้งนี้รู้สึกเป็นแรงขับให้กับตัวเองมาก และ เพลง ความเชื่อ ของ body slam ขอบคุณ นะครับคำอวยพร อิอิ 100 ล้าน ตอนนี้ยังไม่รู้จัก เงิน ล้านเลยครับ แต่ไม่นานก็จะมี เงินล้านให้ได้ ครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 05, 2012 3:11 pm
โดย dragonrider
ผ่านไปอีก 1 ปี 10 M club น่าจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น
พอสมควร เลยขุดขึ้นมาให้ลงทะเบียนกันครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 08, 2012 12:04 pm
โดย Jonathan_Seagull
อุตส่าห์ขุดกระทู้ขึ้นมา.. ถ้างั้นผมขอร่วมลงทะเบียนปักหลักไมล์ด้วยคนครับ

ไปถึงหลักไมล์ถัดไปเมื่อไหร่ไม่ทราบ ..แต่เชื่อว่าทุกคนไปถึงได้แน่

คนเราเริ่มด้วยความฝัน จินตนาการ..และสำเร็จได้ด้วยความเชื่อ

ความเชื่อที่คิดว่า "มันเป็นไปได้" จะผลักดันเราเองครับ ..ผมพิสูจน์มาทั้งชีวิต

ระหว่างนั้นก็ทำใจสบายๆ สนุกรื่นเริงกับกิจกรรมการงาน และการลงทุนกันเถิดครับ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 09, 2012 8:02 am
โดย yakjabon
น้องใหม่ ขอปักหลักด้วยครับ :B .. ขอสัญญากับตัวเองว่าจะทำเต็มที่และไม่ท้อ .. อีก 10 ปีเราเจอกัน 10M :-D !

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 11, 2012 11:15 pm
โดย Freedom_man
ขอปักด้วยคนครับ

ไม่ได้คงไม่เป็นไร แต่ถ้าได้แล้วย้อนกลับมาดูกระทู้นี้ที่ตนเองโพสต์ไว้คงจะรู้สึกดีกับตัวเองไม่น้อย

เพราะหนทางนี้ มันต้องมีสติในระยะยาวพอสมควร ไม่ใช่เฉพาะเรื่องหุ้น แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิต

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 22, 2012 8:03 am
โดย 3pigs
pak เขียน:วันนี้...ผมอายุ "36 ปี 2 เดือน" พอดิบพอดี
กับ 10 ล้านบาทแรกในชีวิตของผม

"เงินลงทุนรวมทั้งหมดในพอร์ตของผม 1.5 ล้านบาท กับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว 2 ปี"

กับจุดประกายแรก คือ..."ตลาดไม่มีประสิทธิภาพทั้ง100% และจะทิ้งช่องว่างขอโอกาสให้พวกเราเสมอ!!!"

และจุดประกายที่สอง คือ..."หุ้น Turnaround...คือการได้เป็นเจ้าของบริษัทฯดีๆในราคาที่ถูกเหลือเชื่อ!!!"

และข้อเตือนใจที่สำคัญที่สุดของผม คือ...

"เราเป็นนักลงทุนครับ...ไม่ใช่นักเล่นหุ้น!!!"

(^_^)



ปล.
ว่าแต่...มันจะยืนสิบล้านได้กี่วันหว่า 555+
(เพราะหุ้นขึ้นมาแรง ก็อาจลงแรงๆได้เช่นกัน มันเป็นธรรมดาของมัน เช่นนั้นเอง)
ขอโทษ กดผิดจะกดบวก มือกดโดนลบ ขอกดบวกให้ 100 ครั้ง

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 22, 2012 9:13 am
โดย tenghai111
แล้วผมจะกลับมาครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 22, 2012 10:20 am
โดย Radio
คิดอยู่นานว่าจะเล่าการเติบโตของ port ตนเองหรือไม่ เนื่องด้วยใน Thai VI
มีเซียนอยู่มากมาย อายเขา แต่ก็อยากให้กำลังใจแก่ชาว VI ทั้งหลายว่าพวกเรา
เดินมาถูกทางแล้ว
ผมเปิดบัญชีสำหรับหุ้นโดยเฉพาะ เวลาซื้อขายหุ้นหักจากบัญชีนี้ ปันผลก็
เข้าบัญชีนี้ ไม่มีการเบิกเงินออกจาบัญชีนี้ไปใช้เด็ดขาด
ปี 49 เริ่มจากทุน 1.5 ล้าน ปลายปี Port กลายเป็น 1.8 ล้าน
ปี 50 ปลายปี port โตเป็น 3.3 ล้าน
ปี 51 เพิ่มเงินใหม่(ค่อยๆเติม) 4.9 แสน ปลายปี Port เป็น 5 ล้าน
ปี 52 เจอ Subprime Port ลดลงเหลือ 3.5 ล้าน ต้องเพิ่มเงินอีก 4.5 แสน
ปี 53 เพิ่มทุนอีก 5.7 แสน พอถึงสิ้นปี port แตะ 10 ล้าน
สรุป 5 ปี Port โต 10 ล้าน จากเงินเริ่มต้น 1.5 ล้าน+เงินเพิ่มระหว่างทาง
1.51 ล้าน= 3.01 ล้าน เจอวิกฤตหนึ่งครั้งคือ Subprime
ปี 54 เพิ่มทุน 6 แสน ปลายปี Port โตเป็น 11.7 ล้าน
ปี 55 เพิ่มทุน 0.93 แสน ตอนนี้ Port + 16 ล้าน
หวังว่าโชคคงเข้าข้างผมตลอดไปนะ และขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคน

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 09, 2013 2:24 pm
โดย saichon
ยินดีกับท่านที่ถึงเป้าหมาย
และร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักลงทุนผู้มุ่งมั่นสู่จุดหมายด้วยอีกคนครับ :welcome: :cheers:

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 12, 2013 9:58 pm
โดย ShadowTrader
ลงรายชื่อไว้ครับ กำลังเริ่มตามแผนตัวเองเลยครับ ทุน2.7แสน หาเลี้ยงชีพด้วย เป้าแรกขอ 1ล้านก่อน แล้วจะมาเขียนบอก

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 12, 2013 11:31 pm
โดย Noinar
ขอบคุณคำแนะนำ ของคุณpicatos เเละพี่ๆเพื่อนๆทุกคนครับ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 14, 2013 1:58 am
โดย kyoza
อีก5ปีจะต้องทำให้ได้ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 14, 2013 11:59 pm
โดย odin
ขอลงชื่อด้วยคนนะครับ เริ่มจากเงินเก็บทั้งหมดจากการทำงานมา4ปี "8แสน"
ลงทุนแบบVI+ใส่เงินระหว่างทางประมาณ2แสน จนปัจจุบัน เกือบ2ปีแล้ว ตอนนี้ประมาณ2ล้านกว่าๆ
10ล้านแล้วจะมาใหม่นะครับ อิอิ

ขอบคุณทุกท่านที่ทั้งให้กำลังใจและข้อแนะนำดีๆครับ สู้ๆครับ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 15, 2013 9:01 am
โดย sgholding
ขอปักหมุดด้วยคน แม้ยังห่างไกลแต่จะไปให้ถึง

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 16, 2013 6:04 am
โดย เม่าเสาะกราว
K."vipnum" ผมชอบเพลงที่โพสเอาไว้มาก ไม่เคยฟังเลย ได้ฟังครั้งนี้รู้สึกเป็นแรงขับให้กับตัวเองมาก และ เพลง ความเชื่อ ของ body slam ขอบคุณ นะครับคำอวยพร อิอิ 100 ล้าน ตอนนี้ยังไม่รู้จัก เงิน ล้านเลยครับ แต่ไม่นานก็จะมี เงินล้านให้ได้ ครับ
ถึงครึ่งทางแล้วครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 16, 2013 11:05 am
โดย Tibular
เหนื่อยเลยคับ ช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ พอร์ตติดลบเกือบ 50%
ประกอบกับช่วงวิกฤติของชีวิตและการทำงาน เรียกกว่าสองเด้ง จิตตกกันไป
มีคำแนะนำให้ขายหุ้น เอาเงินมาทำอย่างอื่น แต่ด้วยความว่าทำใจไม่ได้
และมองว่าหุ้นที่ซื้อเป็นหุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค คิดไปคิดมาเค้ายังปันผลได้อยู่
กะว่าตลาดจะฟื้นก็คงอีกห้าปี รับปันผลไปดีกว่า และก็พยายามเงินทุนมาซื้อหุ้นเพิ่ม
เพราะหุ้นดีๆหลายตัวลงมาเยอะมาก ได้เงินฝากจากสหกรณ์ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
มาช่วยอีกหน่อยนึง มาซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไป

ตอนช่วง 400 จุด ตลาดตกตอนนั้นเป็นเพราะ
กองทุนฝรั่งขายเพื่อนำเงินทุนกลับไปที่เมกา ประกอบกับความกลัวภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แต่สถานะการณ์เริ่มดีขึ้น ภาวะเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบไม่มาก บริษัทจดทะเบียน
ฟื้นตัวได้ ราคาหุ้นก็กลับมาเร็วกว่าคาดการณ์ หุ้นเกือบทุกตัวก็ฟื้นตัวมา

ถือว่าเป็นโชคดีของตลาดหุ้นบ้านเรานะคับ ก็มีซื้อขายออกไปหลายตัวทำรอบน่ะคับ เพื่อให้ได้ส่วน
ที่ขาดทุนกลับคืนมา แต่ไปๆมาๆ ถ้าซื้อแล้วถือตอนนั้นถึงตอนนี้ หลายๆตัวก็กลับมาได้เยอะมากเลยนะคับนั้น
ไม่ต้องเหนื่อยมาซื้อๆขายๆ 555

แต่ด้วยภาวะอึมครึมช่วงนั้น ความกลัวครอบงำ และก็มีหุ้นต่ำกว่ามูลค่าเยอะมาก
ปันผลดีหลายตัวมาก ก็เลยซัดไปหลายตัว สุดท้ายก็สามารถกลับมาได้ และผลตอบแทน
ก็ดีมากติดกันทะลุไปแปดหลักได้ ถือว่าพอใจผลตอบแทน ถึงแม้จะไม่ได้มากมายเท่ากับ
เซียนๆหลายๆท่านที่เป็นร้อยๆเปอร์เซ็น แต่ก็มั่นใจกับหลักการณ์ลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ที่เน้นความปลอดภัยสูง ผมซื้อเฉพาะหุ้นแข็งแกร่ง แบรนด์ดี และมีแนวโน้มเติบโตยาวนาน
เพราะผมไม่นิยมเล่นหุ้นวัฏจักร กับเทิร์นอะราวด์ ก็เสียโอกาสเหมือนกันนะคับ แต่ก็เอาล่ะ
ถือว่าเป็นความชอบของนักลงทุนแต่ละท่าน ผมถึงจะช้าหน่อย แต่ก็มั่นคงดี

หลังจากตลาดดีติดต่อกันมาหลายปี ก็ต้องระวังแล้วนะคับ ถือว่าปีต่อๆไปของจริงล่ะ
สิ่งที่ทำได้ก็คือยึดหลักการณ์ลงทุนแบบเน้นคุณค่าต่อไปให้ดีๆ มองธุรกิจให้ออก
ประเมินมูลค่าให้ได้ มี MoS เสมอก่อนลงทุน และไม่ประมาท Mr.Maket

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 16, 2013 4:25 pm
โดย VFFL
ขอปักหมุดประวัติการลงทุนในหุ้น 2 ปีกว่าไว้นะครับ จะกลับมาอ่านในอีก 4-5 ปีครับ
เริ่มต้นเล่นหุ้น หลังจากอ่านหนังสือแนว VI ไป 10 กว่า เล่มบางเล่มอ่านหลายรอบ
ขณะนี้นับดูอ่านไปได้ 53 เล่มพอดีครับ
2เดือนแรก port เคยลบไป 2% มาลบอีกครั้งตอนset ลบไป 20+% port ลบไป 9% รวมทั้งport เคยลบไป 22 วัน
(พอดีชอบคณิตศาสตร์ ทำบัญชี port ทุกวัน BTD begin to date,MTD month to date YTD year to date )
ปีที่1 ทุน .6 ล้าน กำไร 15-20%
ปีที่2 ทุน 1.1 ล้าน กำไร 15-20% (port เติมเงิน 1 เท่า ทำตัวเลขกำไรยากมากครับ
ปีที่3 ปี จะเติมทุน .5 ล้านทุกปี
เล่นหุ้นแบบ VI ท่ามกลาง trader เพื่อนและเพื่อนสนิทที่หัวเราะเยาะเราตอนแรก แต่ตอนนี้ไม่กล้าแล้วนะครับ หุ้นทุกตัวที่เราซื้อและถือไว้สามารถ lecture ให้เขาฟังถึงเหตุผลที่ซื้อ และรายละเอียดได้ เป็นชั่วโมงครับ ของเขามีแต่ราคาซื้อขาย คนโน้นว่าจะไปเท่าโน้นเท่านี้

VFFL = value for freedom life

เดินทางถึง 5 ล้านเมื่อไร จะมา post ไว้อีกครั้งไว้เตือนสติตัวเองครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 17, 2013 9:25 am
โดย naijan
ขอบคุณประสบการณ์ที่ดีๆที่แบ่งปันกัน ได้ความรู้มากมายครับ

--------------------------
โรคบอดความรวย
http://www.thorfun.com/story/view/UPELCK7rWUU1AALI

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 17, 2013 9:44 am
โดย matrix1112
ขอไปตามฝันด้วยคนนะครับ ด้วยเงินเริ่มต้นไม่มากแต่จะไปให้ถึง 10M ให้ได้ครับ
ขอบคุณสำหรับเพลงสุดขอบฟ้ามากนะคับเพราะมากช่วยเป็นแรงบันดาลใจได้อีก

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 17, 2013 12:08 pm
โดย zeabtle
มาปักกระทู้ไว้ด้วยคนครับ
ลงทุนมาได้ 3 ปีแล้ว ผลตอบแทนทบต้น 15-20% ครับ ตอนนี้มีเงินอยู่เกือบๆ 2M ครับ
ตั้งเป้ามีเงิน 10M ให้ได้ภายใน 5 ปีครับ

ขอบคุณสังคมใน ThaiVi ที่ให้ความรุ้ในการลงทุนกับผมครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 11:02 am
โดย Eyore
อ่านกระทู้นี้มานาน ฝันว่าซักวันหนึ่งจะมาลงชื่อให้ได้
ผมเปิด port ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กพ 2005 ลงเงินไปทั้งสิ้น 300,000 + หุ้นมรดกจากพ่อ อีก 230,000 รวม 530,000 บาท จากนั้นก็ไม่ได้เติมเงินเข้าไปอีกเลย ใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ปี กับอีก 10 วัน ในที่สุดก็มาถึงวันนี้จนได้

ผมเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อ 8 ปีก่อน แต่ผมได้ศึกษามาก่อนหน้านั้นพอสมควร ก่อนหน้านี้ผมสนใจในธุรกิจต่างๆ ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่เป็นนักเรียน นักศึกษา ชอบอ่านข่าวสารธุรกิจ กลยุทธทางธุรกิจ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร พอกเก็ตบุ๊ค อ่านมากมายอยู่หลายปี เนื่องจากมีความฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง จนกระทั่ง internet ก็ได้นำพาผมมารู้จักกับเว็บ Thaivalueinvester หรือ ThaiVI ในปัจจุบันนี่เอง นับว่าโชคดีมากๆ เหมือนชีวิตการลงทุน เติบโตมากับ ThaiVI เลยก็ว่าได้

เริ่มแรกผมลงทุนครั้งแรกด้วยเงิน 30,000 บาท จำได้ว่าซื้อ TPC เพราะเข้า criteria VI ทุกอย่าง PE ต่ำ ปันผลสูง ปรากฏว่า... ไม่ไปไหนกับเค้าเลย นิ่งสนิท ช่วงนั้นก็อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง หนังสือทุกเล่มของ ดร.นิเวศ มีหมด หนังสือที่เกี่ยวกับ Warren Buffet, Peter Lynch, และหนังสือการลงทุนแนว VI ต่างๆ เรียกได้ว่า อ่านมาแล้วเกือบจะทุกเล่ม แม้กระทั่ง The intelligent investor (รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง 555) นั่งอ่านกระทู้ตะแกรงร่อนหุ้นอยู่หลายเดือน กว่าจะจบแบบมึนๆ 555

จากนั้น ชีวิตการลงทุนของผมก็เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ ควักเอาเงินเก็บที่มีอยู่ 3 แสน มาลงเพิ่ม คุณพ่อคงจะเห็นว่าพอรู้เรื่องแล้ว เลยให้หุ้นมรดกมาเพิ่มอีก ผมก็จัดการขายเอาเงินมาเล่นในแนวของเราทันที 555 เหลือหุ้นมรดก Thai อยู่ 500 หุ้น ที่ IPO 60 บาท เก็บไว้ดูต่างหน้า รอว่าเมื่อไรจะมีคนมาทวงคืนสมบัติชาติมั่ง อิอิ ที่ไม่ได้เติมเงินเข้าไปอีกนี่ไม่ใช่ออะไร รายจ่ายมันมากขึ้น แล้วก็ไม่มีรายได้อื่นมาเสริม เงินเลยไม่พอใช้ หุหุ

หุ้นดังๆทั้งหลายในเว็บ ก็ผ่านมาหมดแล้ว เช่น หุ้นนางฟ้าทั้งสามตัว ถ่านหิน สเต็บบี้ snowball หุ้นฟิล์ม ผ่านวิกฤติ subprime มาแบบเจ็บตัว ขอเล่าหน่อย ตอนนั้นก็เล่นมาหลายปี กำไรดีทีเดียว พอมาถึง 2008 ตอนนั้นถือหุ้นเส้นใยเรยอนอยู่ตัวเดียวทั้งพอร์ท นึกย่ามใจว่า เรานี่แหละ VI พันธุ์แท้ ทนถือข้ามวิกฤตได้ ไม่ขาดทุนแน่นอน ปรากฏว่าสุดท้ายยอมคัทลอสไปที่ 30% ถ้าเรียกตาม ดร.ต้องเรียกว่า หุ้นถูกเรื้อรัง แต่เรายังโง่อยู่ตอนนั้น เหอๆ

ที่เล่ามาทั้งหมด อยากบอกเพื่อนๆว่า หลักการ VI นั้น มันทำได้จริง ถ้าเรามีความเพียรพยายามมุ่งมั่น พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จไม่ไกลเกินฝันแน่ๆครับ ขอฝากหลักการที่ผมยึดถือมาตลอดชีวิตการลงทุนให้เพื่อนๆพิจารณาครับ

1. กฏข้อแรกของการลงทุนคือ อย่าขาดทุน ข้อสอง อย่าลืมกฏข้อแรก
อันนี้สำคัญมากเพื่อนๆต้องจำไว้ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น รักษาเงินต้นให้ได้ก่อน ดอกเบี้ยทบต้นจะดูแลตัวมันเอง

2. หุ้นนั้น กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย
ถ้าเราศึกษาบริษัทนั้นๆดีพอ ประเมินมูลค่าของบริษัทออกมาให้ได้ ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า ยิ่งมากยิ่งดี อย่าลืม exit strategy ไว้เสมอ

3. เซียนท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า หุ้นนั้นมันไม่ใช่ตัวเลขกระพริบบนจอ มันเป็นบริษัทจริงๆ มีคนทำงานอยู่จริงๆ ทำรายได้ได้จริง อย่าลืมตรงนี้ จะทำให้เราวิเคราะห์บริษัท ไม่ใช่วิเคราะห์หุ้น

ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน ขอบพระคุณ ThaiVI ครับ

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 2:41 pm
โดย sci
Eyore เขียน:อ่านกระทู้นี้มานาน ฝันว่าซักวันหนึ่งจะมาลงชื่อให้ได้
ผมเปิด port ครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กพ 2005 ลงเงินไปทั้งสิ้น 300,000 + หุ้นมรดกจากพ่อ อีก 230,000 รวม 530,000 บาท จากนั้นก็ไม่ได้เติมเงินเข้าไปอีกเลย ใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ปี กับอีก 10 วัน ในที่สุดก็มาถึงวันนี้จนได้

ผมเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่อ 8 ปีก่อน แต่ผมได้ศึกษามาก่อนหน้านั้นพอสมควร ก่อนหน้านี้ผมสนใจในธุรกิจต่างๆ ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่เป็นนักเรียน นักศึกษา ชอบอ่านข่าวสารธุรกิจ กลยุทธทางธุรกิจ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร พอกเก็ตบุ๊ค อ่านมากมายอยู่หลายปี เนื่องจากมีความฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง จนกระทั่ง internet ก็ได้นำพาผมมารู้จักกับเว็บ Thaivalueinvester หรือ ThaiVI ในปัจจุบันนี่เอง นับว่าโชคดีมากๆ เหมือนชีวิตการลงทุน เติบโตมากับ ThaiVI เลยก็ว่าได้

เริ่มแรกผมลงทุนครั้งแรกด้วยเงิน 30,000 บาท จำได้ว่าซื้อ TPC เพราะเข้า criteria VI ทุกอย่าง PE ต่ำ ปันผลสูง ปรากฏว่า... ไม่ไปไหนกับเค้าเลย นิ่งสนิท ช่วงนั้นก็อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง หนังสือทุกเล่มของ ดร.นิเวศ มีหมด หนังสือที่เกี่ยวกับ Warren Buffet, Peter Lynch, และหนังสือการลงทุนแนว VI ต่างๆ เรียกได้ว่า อ่านมาแล้วเกือบจะทุกเล่ม แม้กระทั่ง The intelligent investor (รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง 555) นั่งอ่านกระทู้ตะแกรงร่อนหุ้นอยู่หลายเดือน กว่าจะจบแบบมึนๆ 555

จากนั้น ชีวิตการลงทุนของผมก็เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ ควักเอาเงินเก็บที่มีอยู่ 3 แสน มาลงเพิ่ม คุณพ่อคงจะเห็นว่าพอรู้เรื่องแล้ว เลยให้หุ้นมรดกมาเพิ่มอีก ผมก็จัดการขายเอาเงินมาเล่นในแนวของเราทันที 555 เหลือหุ้นมรดก Thai อยู่ 500 หุ้น ที่ IPO 60 บาท เก็บไว้ดูต่างหน้า รอว่าเมื่อไรจะมีคนมาทวงคืนสมบัติชาติมั่ง อิอิ ที่ไม่ได้เติมเงินเข้าไปอีกนี่ไม่ใช่ออะไร รายจ่ายมันมากขึ้น แล้วก็ไม่มีรายได้อื่นมาเสริม เงินเลยไม่พอใช้ หุหุ

หุ้นดังๆทั้งหลายในเว็บ ก็ผ่านมาหมดแล้ว เช่น หุ้นนางฟ้าทั้งสามตัว ถ่านหิน สเต็บบี้ snowball หุ้นฟิล์ม ผ่านวิกฤติ subprime มาแบบเจ็บตัว ขอเล่าหน่อย ตอนนั้นก็เล่นมาหลายปี กำไรดีทีเดียว พอมาถึง 2008 ตอนนั้นถือหุ้นเส้นใยเรยอนอยู่ตัวเดียวทั้งพอร์ท นึกย่ามใจว่า เรานี่แหละ VI พันธุ์แท้ ทนถือข้ามวิกฤตได้ ไม่ขาดทุนแน่นอน ปรากฏว่าสุดท้ายยอมคัทลอสไปที่ 30% ถ้าเรียกตาม ดร.ต้องเรียกว่า หุ้นถูกเรื้อรัง แต่เรายังโง่อยู่ตอนนั้น เหอๆ

ที่เล่ามาทั้งหมด อยากบอกเพื่อนๆว่า หลักการ VI นั้น มันทำได้จริง ถ้าเรามีความเพียรพยายามมุ่งมั่น พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จไม่ไกลเกินฝันแน่ๆครับ ขอฝากหลักการที่ผมยึดถือมาตลอดชีวิตการลงทุนให้เพื่อนๆพิจารณาครับ

1. กฏข้อแรกของการลงทุนคือ อย่าขาดทุน ข้อสอง อย่าลืมกฏข้อแรก
อันนี้สำคัญมากเพื่อนๆต้องจำไว้ อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น รักษาเงินต้นให้ได้ก่อน ดอกเบี้ยทบต้นจะดูแลตัวมันเอง

2. หุ้นนั้น กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย
ถ้าเราศึกษาบริษัทนั้นๆดีพอ ประเมินมูลค่าของบริษัทออกมาให้ได้ ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า ยิ่งมากยิ่งดี อย่าลืม exit strategy ไว้เสมอ

3. เซียนท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า หุ้นนั้นมันไม่ใช่ตัวเลขกระพริบบนจอ มันเป็นบริษัทจริงๆ มีคนทำงานอยู่จริงๆ ทำรายได้ได้จริง อย่าลืมตรงนี้ จะทำให้เราวิเคราะห์บริษัท ไม่ใช่วิเคราะห์หุ้น

ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน ขอบพระคุณ ThaiVI ครับ
ยินดีด้วยครับ ยังไงแล้วจะแชร์ ประสบการณ์ ส่วนของรายละเอียดเพิ่มก็ได้นะครับ
ผมอ่านแล้วรู้สึกสนุกไปด้วยกับความสำเร็จ ของเพื่อนๆนักลงทุน
ตอนเริ่มต้นนั้นยากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 6:10 pm
โดย teevalue
ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านที่มาแชร์ประสบการณ์ครับ ผมจะสู้สู้เช่นกันครับ :D

Re: 10 ล้านบาทแรกในชีวิต (ลอกจาก Post คุณ Skyforever)

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 26, 2013 10:25 am
โดย Eyore
sci เขียน: ยินดีด้วยครับ ยังไงแล้วจะแชร์ ประสบการณ์ ส่วนของรายละเอียดเพิ่มก็ได้นะครับ
ผมอ่านแล้วรู้สึกสนุกไปด้วยกับความสำเร็จ ของเพื่อนๆนักลงทุน
ตอนเริ่มต้นนั้นยากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้
ผมลงทุนแบบ focus มากๆครับส่วนใหญมีหุ้นในพอร์ทไม่เกิน 3 ตัว หลายช่วงที่มั่นใจมากๆ ก็ถือตัวเดียวเลยครับ (เช่นตอน subprime เป็นต้น 555)
การเลือกลงทุนผมดูทุกแบบ warrant ก็ซื้อ แต่ผมซื้อ w ของบริษัทที่ตั้งใจจะลงทุนอยู่แล้วนะครับ เช่นอยากจะลงทุนหุ้นโรงแรม วิเคราะห์มาดีแล้วว่าบริษัทแข็งแกร่ง กำไรมีแนวโน้มเติบโตดี บังเอิญมันมี w ผมก็ซื้อ w แทนเต็มจำนวนเลยครับ พูดง่ายๆว่า ถือลูกแทนแม่แหละครับ เพราะมันมี gearing ด้วย แต่ปัญหามันก็มีคือ volume น้อย ปละก็มีวันหมดอายุด้วย ต้องดูดีๆ

นอกจากนั้นผมก็ใช้ margin ด้วยนะครับ แต่ขอเตือนเพื่อนๆว่า margin นี่ อันตรายมาก ถ้าเราวิเคราะห์ไม่ดี หรือตลาดไม่เป็นใจ อาจเจ็บหนักได้ ต้องระวังมากๆเลยนะครับ margin นี่ก็เหมือนกัน ก็เลือกลงแต่ในบริษัทที่ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดี้แล้วเท่านั้นครับ

ยังไงสุดท้ายแล้ว สำคัญที่สุดคือ อย่าขาดทุน กำไรเมื่อซื้อไม่ใช่เมื่อขายครับ