หน้า 46 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 06, 2005 3:05 pm
โดย harry
ในที่สุดก็กลับมาหน้านี้เหมือนเดิมแล้ว :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 9:50 am
โดย ch_army
ยินดีต้อนรับกลับสู่ห้องหลักครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 10:43 am
โดย VIB007
ตอนย้ายไปห้องพจนานุกรม
ผมไม่สามารถโพสได้ครับ
เลยไม่ได้ตอบอะไร

สวัสดีทุกท่านครับ
ตอนนี้ผลเลือกตั้งคงออกมาแล้ว
พรรคไทยรักไทยได้คะแนนถล่มทลาย
ก็หวังว่าอนาคตประเทศไทยคงไปได้ดี
และอยากให้นักการเมืองไทยเลิกคอรัปชั่น
แล้วหันมาให้ความสำคัญกับส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวเสียที

ประเทศไทยจะได้พัฒนาทั้งทางคน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
เท่าเทียมประเทศในโลกที่หนึ่งเสียที
นักการเมืองไทยมัวแต่ทะเลาะกันจนประเทศเราถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว
ประเทศต่างๆในเอเซียกำลังพัฒนาก้าวหน้าล้ำหน้าเราไปกันจะหมดแล้ว
ทั้งจีน เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซีย
ไม่นับรวมสิงคโปร์ ญี่ปุ่นที่นำไปตั้งนานแล้ว

ถ้าเราพอใจอยู่แค่เกาะกลุ่มฟิลิปปินส์ อินโด เวียดนาม
ประเทศไทยคงไปไหนได้ไม่ไกล

สิ่งที่อยากเห็นในประเทศไทยก็คือ
ทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงอย่างน้อย ม.6 ฟรี
รายได้ต่อหัวเพิ่มมากขึ้น คนเก็บขยะก็มีรายได้เท่าพนักงานออฟฟิศ
คุณถาพชีวิตคนไทยดีติดอันดับโลก
อาชญากรรมลดลง ทุกคนมีความปลอดภัย ทุกที่ทุกเวลา
สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษ อากาศไม่เสีย น้ำไม่เน่า ไม่มีรถเมล์ควันดำ
บ้านเมืองสะอาด เรียบร้อย ไม่ซกมก
ถนนไม่มีรอยปะ ไม่มีหลุมมีบ่อ ไม่มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่ง
คนไทยยังมีรอยยิ้ม มีน้ำใจเช่นเดิม

ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีประเทศไทยจะได้เป็นประเทศ"พัฒนา"แล้วเสียที
มาเลเซียตั้งเป้าไว้ปี 2020
แต่ประเทศไทยไม่ทราบมีเป้าหมายหรือเปล่า หรือรอชาติหน้า

ประเทศที่"พัฒนา"แล้ว
ไม่ใช่ประเทศที่พัฒนาทางวัตถุอย่างเดียว
แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย

ถ้าเราสามารถพัฒนาสิ่งรอบตัวได้ดี
แต่ยังคงมีจิตใจที่ดีเหมือนเดิม
รับประกันว่า ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจแน่นอน

ขอบ่นเพียงเท่านี้
thanwa เขียน:สวัสดีครับคุณวิบูลย์
มาเซนต์สมุดเยียมครับ พร้อมผลประกอบการ pettep ที่เพิ่งประกาศ
เอ.. ช่วยเดาให้หน่อยซิครับว่า ผมจะได้ซื้อเพิ่มที่ราคาเท่าไหร่ดี
เคยคิดว่าถ้าลงมาถึง 220-240 บาทจะซื้อเพิ่ม สงสัยจะไม่เห็นแล้ว
สวัสดีครับพี่ไก่
ผมคงเดาไม่ถูกครับว่าจะได้ซื้อที่ราคาเท่าไหร่
เอาเป็นว่าถ้าตลาดถล่มเมื่อไหร่ก็ค่อยเก็บแล้วกันครับ

ปีเตอร์ ลินซ์บอกว่า
ถ้าวันนี่ตลาดไม่ถล่ม ก็อาจจะถล่มในอีก 1 เดือน
ถ้าไม่ถล่มใน 1 เดือนก็จะถล่มในอีก 2 3.......เดือน หรือ 1....2...3 ปีไปเรื่อยๆ
มันก็ต้องถล่มสักวันหนึ่งละครับ
เพียงแต่ถึงวันนั้น เราจะ"กล้า"ซื้อหรือเปล่าเท่านั้นเอง อิ อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 11:17 pm
โดย ปรัชญา
:? ผมว่า ถ้าทหารไม่ได้ทำกรือแซะ--ถึง--ตากใบ

แบบตายหมู่

คงได้กลุ่มวาดะเข้ามาอีกหลายที่นั่ง

และในเมื่อคนตายหมู่
ท่านนายกบริหารผิดพลาด น่าจะขอโทษประชาชน
นี่เขาเจ็บแค้นฝังใจ ทั้งภาคใต้เลย เทคะแนนให้ ปชป.

ถึงเวลาทบทวน เหตุการณ์ที่ผ่านมาได้แล้ว
นี่คือการส่งสัณญาน อะไร....... :cry: :cry: :cry: :oops: :oops: :oops:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 08, 2005 1:09 pm
โดย VIB007
ปรัชญา เขียน:
ถึงเวลาทบทวน เหตุการณ์ที่ผ่านมาได้แล้ว
นี่คือการส่งสัณญาน อะไร....... :cry: :cry: :cry: :oops: :oops: :oops:
สวัสดีครับพี่ปรัชญา
ผมขอนอกกฏคุยเรื่องการเมืองหน่อย
ปกติจะพยายามไม่พูดเรื่องการเมือง
เพราะเขาบอกว่าถ้าไม่อยากทะเลาะกัน ห้ามพูดเรื่องการเมืองและศาสนา

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้
ไทยรักไทยได้คะแนนเกือบ 400 เสียง
คิดเป็น 80% ของคะแนนทั้งหมด
ภาคเหนือ อีสาน กวาดเรียบ
แบ่งภาคกลางให้ชาติไทยและ ปชป นิดหน่อย
ส่วนภาคใต้ ปชป กวาดเรียบ

ในความเห็นของผม ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นเรียกว่า ยากจน
หรือมี"รายได้น้อย"ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายประจำวัน
อย่างพนักงานทำความสะอาดที่ออฟฟิศผม เงินเดือน 4500 บาท
แค่ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน
ยังไม่รวมค่าเลี้ยงลูก และครอบครัว หรือค่าเทอมลูก
ก็ยังไม่พอจะกินเลย
ไม่ต้องหวังว่าจะมีรถยนต์ไว้ขับ หรือซื้อบ้านของตัวเอง

ในต่างจังหวัด ทำเกษตรก็ปลูกข้าวอย่างเดียว
ชาวนาต้องขายข้าวมาซื้อข้าวกิน ไม่น่าเชื่อ
ชาวนาไม่มีข้าวกิน เพราะต้องขายข้าวมาจ่ายค่ายาฆ่าแมลงและใช้หนี้
ขายจนข้าวที่มีหมด ต้องเอาเงินกู้ไปซื้อข้าวมากิน

คนยากจนในเมืองไทยจะชื่นชอบนายกทักษิณ
เพราะในอดีตที่ผ่านมา
ไม่มีรัฐบาลไหนทุ่มโครงการไปที่คนยากจนมากขนาดนี้
ส่วนใหญ่รัฐบาลในอดีต
มักจะมุ่งเน้นในเรื่องของคนชั้นกลางและคนรวยมากกว่า

ดังนั้นคนยากจนจึงฝากความหวังไว้กับ"นายกทักษิณ"เต็มที่
นับว่าเป็นส่วนดี (ส่วนไม่ดีก็มี)

ผมว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ทาง"ชนชั้น"อย่างเห็นได้ชัด
คนรวยและคนชั้นกลางเลือก ปชป
คนรายได้น้อยเลือก ไทยรักไทย
ผลปรากฏว่า ประเทศไทยมีคนรายได้น้อยมากกว่า
ไทยรักไทยจึงกวาดคะแนนไป

ถ้าผมเดาผมคิดว่า
คนรายได้น้อยมีประมาณ 80% เท่ากับคะแนนที่ไทยรักไทยได้
คนชั้นกลางในเมืองไทยมีประมาณ 19%
ส่วนคนรวยมีเพียง 1%
อันนี้ดูจากสถิติเลือกตั้งแล้วนำมาพิจารณา

ส่วนภาคใต้มีรายได้มากกว่าภาคเหนือหรืออีสาน
รวมทั้งเหนียวแน่นรวมตัวกันติด
จึงเทคะแนนให้ ปชป ทั้งหมด
ถ้าสังเกตดูไม่ว่าสมัยไหนก็ตาม
ภาคใต้จะเลือก ปชป เสมอ
ไม่ว่า ปชป จะถูกหรือจะผิดแค่ไหนก็ตาม

ผมสรุปว่า นายกทักษิณมีนโยบาย"โดนใจ"คนมีรายได้น้อย
เลยเลือกมาเป็น"นายก"อีกสมัย
ส่วนคนชั้นกลางและคนรวยกลัวว่าทักษิณจะยึดประเทศไทย
จึงเลือก ปชป
แต่พลังคนยากไร้มีมากกว่าจึงชนะไป

ถ้าเป็นการเลือกตั้งในประเทศที่มีคนยากจนจำนวนน้อยๆ
ท่านทักษิณอาจะไม่ชนะเลือกตั้งถล่มทลายขนาดนี้ก็เป็นไปได้

จริงมั๊ยครับพี่ปรัชญาและเพื่อนๆ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 08, 2005 1:49 pm
โดย harry
งั้นถ้าคุณทักษิณ ทำให้คนจน กลายเป็นไม่จน แล้วก็คงไม่มีใครเลือกคุณทักษิณมาเป็นรัฐบาลครั้งต่อไปแล้วสิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 08, 2005 7:44 pm
โดย chatchai
ผมก็เป็นคนมีรายได้น้อยนะซิครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 08, 2005 10:56 pm
โดย ปรัชญา
คุยเรื่องการเมืองอีกนิดเดียวครับ

ผมไปช่วยเพื่อนหาเสียง ที่บ้านนอก
บอกช่วยเลือกหน่อยครับ
***เขาบอก 20 บาทไม่มีปัญหา
ผมบอกว่ามันผิดกฎหมายครับ ไว้เลือกตั้งเสร็จแล้วจะมาหาใหม่
***เขาบอก เบอร์เลข______กลับหัว เขามาให้2หนแล้วนะ
ผมบอกเอางี้ได้ไหม ผมจะฝากคนมาถ่ายตอนเขามารอบ3
ถ้าจับแพ้ฟาวได้ผมให้1พัน
***เขาบอก ได้เลย
ผมเลยนัดแนะช่างถ่ายวีดีโอไปรอที่บ้าน
ตกคืนก่อนหมาหอน หัวคะแนนมาแจกจริงๆ
แถมขอซื้อกล้องวีดีโอคนรับถ่ายด้วย
คนถ่ายวีดีโอ ก็อยากได้กล้องใหม่ขายกล้องไปเลย
แถมได้ค่าทำขวัญ เขาบอกเขาไม่เอาค่าแรงจากผมยกเลิกการทำงาน

ผมถึงว่า...บ้านนอกซื้อเสียงง่าย คะแนนไม่ค่อยบริสุทธิ์
ใน กทม. ซื้อเสียงยาก นั่นคือศรัทธาต่อพรรค จริงๆ

นี่ก็สะท้อนปัญหาว่าเขายังจน เงิน20บาทก็มีคุณค่า
อย่างเรายังไม่พอค่าข้าวราดแกงเลย
แต่20บาท เขาอยู่ได้ทั้งวัน

ต้องทำให้คนรวยหมดแผ่นดินล่ะครับถึงจะบริสุทธิ์ยุติธรรม

รูปภาพ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 09, 2005 1:06 am
โดย Mon money
อ้าว...กลายเป้นกระทู้การเมืองไปแล้วหรือนี่ :mrgreen:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 09, 2005 7:51 am
โดย ch_army
คุณปรัชญา ใจเย็นๆครับ ผมล่ะหวาดเสียวแทน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 10, 2005 1:13 pm
โดย VIB007
ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นกระทู้การเมืองครับ

บางท่านที่เลือกไทยรักไทยก็ไม่ได้เป็นคนรายได้น้อยเสมอไปครับพี่ Chatchai
เป็นคนทั่วไปที่ชื่นชอบการทำงานของ
จากข้อมูลใหม่ที่ได้รับจากคะแนนปาร์ตี้ลิส
ไทยรักไทย 19 ล้านเลียง (70%)
ปชป 7 ล้านเลียง (25%)
ชาติไทย 1 ล้านเลียง (1%)
ก็ใกล้เคียงกับจำนวน สส ที่แต่ละพรรคได้

ส่วนเรื่องการซื้อเสียง
ต่างจังหวัดคงมีมากกว่ากรุงเทพ
แต่ผลที่ออกมาไทยรักไทยก็กวาดกรุงเทพไปเกือบหมดเหมือนกัน
เรียกว่าทั้งคนกรุงคน ตจว ก็เทคะแนนให้นายกทักษิณ

ถ้าจะให้ไม่มีซื้อเสียง
คงต้องให้คนหายยากจนหมดอย่างที่พี่ปรัชญาว่าหละครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 10, 2005 3:47 pm
โดย ForrestGump
พี่ปรัชญาครับ คือ เท่าที่ผมทราบจาก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนนึงในเชียงรายนะครับ เค้าบอกว่า ปีนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ ที่มีหลายพรรคการเมืองซื้อเสียงมาก พรรคน้องใหม่ นี่ยิ่งซื้อต่อหัวแพงกว่าชาวบ้านอีกครับ (แต่ได้คนเดียว เลยท่าทางจจะเจ๊ง) ขนาดคืนหมาหอนยังแจกเลยครับ

แต่ปรากฎว่าปีนี้ ชาวบ้าน เค้ารับเงินครับทุกพรรค แต่เลือกไทยรักไทยกันหมด เลือกที่อยากได้ เลือกตามกระแสจริงๆ ครับ แล้วคนมาใช้สิทธิเยอะด้วยครับ

ผมดีใจจริงๆ ครับ ที่เห็นคนตื่นตัว

ที่บ้านพี่ปรัชญาเป็นไงบ้างครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 10, 2005 10:23 pm
โดย ปรัชญา
คงต้องขออนุญาติคุณวิบูลย์ กับ คุณForrestGump
เหมือนอย่างที่เห็นครับ
คงต้องเลิกคุยเรื่องการเมืองนี้แล้วละ
ครูใหญ่ยืนข้างบนผิดวัตถุประสงค์กระทู้นี้ครับ :?

ผมก็เลือกเบอร์9 ลูกท่านมังกรอิสานครับ :twisted:
แต่ที่ไปช่วยหาเสียง คนละเขตเป็น นอ-มอ. ของ รอ-มอ-ตอ.ครับ

เอามาค้นหุ้นอีเล็คโทรนิคของคุณLOSO ให้หน่อย
ก่อนที่โบรกจะวิเคราะห์เชียร์
ค้นเจอตอนนี้ เวลาบทวิเคราะห์ออก จะได้ขายให้พวกนักลงทุน
ที่อ่านบทวิเคราะห :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 11, 2005 10:39 am
โดย VIB007
ปรัชญา เขียน: คงต้องขออนุญาติคุณวิบูลย์ กับ คุณForrestGump
เหมือนอย่างที่เห็นครับ
คงต้องเลิกคุยเรื่องการเมืองนี้แล้วละ
ครูใหญ่ยืนข้างบนผิดวัตถุประสงค์กระทู้นี้ครับ :?


ท่าทางจะต้องเลิกพูดเรื่องการเมือง

คงจะจริงอย่างที่ผู้ใหญ่ท่านว่าไว้
ห้ามพูดเรื่องการเมืองและศาสนา
เพราะจะทะเลาะกันไม่เลิก
ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง"อย่างแรง"
ปรัชญา เขียน:เอามาค้นหุ้นอีเล็คโทรนิคของคุณLOSO ให้หน่อย
ก่อนที่โบรกจะวิเคราะห์เชียร์
ค้นเจอตอนนี้ เวลาบทวิเคราะห์ออก จะได้ขายให้พวกนักลงทุน
ที่อ่านบทวิเคราะห :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
ตัวไหนครับพี่ปรัชญา
หุ้นอีเลคโทรนิค ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
ไม่ได้อยู่ในวงการนะครับ

เคยไปเยื่ยมโรงงานของเดลต้าเมื่อตอนเรียนหนังสืออยู่
เจ้าของเป็นไต้หวัน
แต่ก่อนมอนิเตอร์เต็มโรงงานเลย
แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง
ห่างวงการมานานแล้วครับ

ซีเกตเคยไปสัมภาษณ์งานที่สำโรง
ทำฮาร์ดดิสค์ขายจนขยายไปสีคิ้ว
แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังทำเฉพาะฮาร์ดดิสค์อย่างเดียวอยู่หรือเปล่า

ส่วนซีอีไอ
เท่าที่ทราบ ทางจีอีกำลังเข้าเทคโอเวอร์จากไต้หวัน
ผลิตพัดลมติดผนังส่งออก มีสินค้าชนิดเดียว
มีลูกค้าหลักๆ 2-3 รายเท่านั้นเอง
เรียกว่า ถ้าดีก็ดีสุดๆ ถ้าไม่ดีก็ไม่ดีสุดๆเหมือนกัน

ส่วนตัวอื่นไม่ได้ติดตามครับ
คงต้องขอแรงเพื่อนๆคนอื่นมาเล่าให้ฟัง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 11, 2005 9:45 pm
โดย ปรัชญา
ผมอ่านข้อเขียนของคุณวิบูลย์ ใน นสพ.อาทิตย์นี้แล้ว
ฮืม เห็นด้วยครับที่เขียนอย่างนั้น
เรื่องหุ้นอีเลกโทรนิค ผมก็แค่ชวนคุยเล่นครับ
หุ้นกลุ่มนี้ดูลำบากพอๆกับ ฝันถึงอนาคต
แบบอาหารจานด่วน มาเร็วไปเร็ว
เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วครับ

แบบผมกลัวตกรุ่น มากกว่ากลัวตกรถ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 14, 2005 1:45 pm
โดย VIB007
สวัสดีครับพี่ปรัชญา

บทความเขียนขึ้นมาเพราะเห็นแต่โบรกเชียร์ซื้อ
ไม่ค่อยเห็นเชียร์ขายกันสักเท่าไหร่
เลยมาคิดดูว่าทำไมชอบเชียร์ซื้อให้ไป"ติดดอย"กันจัง

ก็มีสองสามเหตุผล
ซึ่งนักเขียนต่างประเทศก็มีเหตุผลคล้ายๆกัน
ที่ทางพวก Wall Street ก็ชอบเชียร์ซื้อเหมือนกัน
พวกโบรกคงเป็นอย่างนี้ทั่วโลก

ให้แฟนคอลัมน์ลองอ่านดูคอลัมน์ที่ผ่านมาของอาทิตย์ที่แล้ว
เขาบอกไม่ค่อยจ้าบเท่าไหร่

พอดีทางนสพ ให้เนื้อที่ลดลง เลยเขียนได้น้อยลง

ไว้อ่านของคุณมนวันศุกร์นี้ดูนะครับ
เห็นคุณมนบอกว่า "แดกดัน"ชาวบ้านเขาอีกแล้วครับท่าน
เป็นเรื่องอะไรลองติดตามดูครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 15, 2005 8:14 pm
โดย MO101
ถามเรื่องจิม โรเจอร์ หน่อยครับ
เข้าไปดูเวปเขาแล้วเขามาเมื่อไทยด้วยนะครับ
ทราบไหมครับว่าเขาถือหุ้นตัวไหนอยู่ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 16, 2005 4:37 pm
โดย VIB007
MO101 เขียน:ถามเรื่องจิม โรเจอร์ หน่อยครับ
เข้าไปดูเวปเขาแล้วเขามาเมื่อไทยด้วยนะครับ
ทราบไหมครับว่าเขาถือหุ้นตัวไหนอยู่ครับ
ไม่ทราบครับ
จิมบอกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นขาลง ยกเว้นเอเซีย
ตอนนี้คอมมอดิตี้น่าสนใจที่สุด

มีคนถามจิมว่า ตอนนี้ซื้อทองคำดีมั๊ย
จิมบอกว่า จะดีกว่าถ้าคุณเปลี่ยนทองคำของคุณเป็น"ตะกั่ว"ได้
เพราะราคาตะกั่วสูงขึ้นกว่าทองมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เพราะเหมืองตะกั่วไม่ได้มีการเพิ่มจำนวน
แต่ดีมานเพิ่มสูงขึ้นมากจากจีนและอินเดีย
และยอดขายอุปกรณ์อีเลคโทรนิคที่สูงขึ้นทั่วโลก

จิมติดใจ"เมืองจีน"มาก
จนตอนนี้จะซื้อบ้านและย้ายไปอยู่เมืองจีนแล้ว
เชื่อหรือไม่

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 16, 2005 5:58 pm
โดย harry
ถามพี่วิบูลย์ และท่านอื่นๆบ้าง

ปีใหม่ผ่านมาเดือนครึ่งแล้ว คิดว่าภาวะโดยรวมเมืองไทยดีขึ้นบ้างมั้ยครับ ผลประกอบการที่ออกมางวดปี 47 และไตรมาสที่จบเดือนธันวาคม ส่วนใหญ่เป็นที่พอใจกันมั้ยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 18, 2005 10:14 pm
โดย ปรัชญา
วันนี้คุณมนเขียน มืออยู่บ่สุข หุหุ :mrgreen:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 18, 2005 11:36 pm
โดย Stock Broker
ปรัชญา เขียน:วันนี้คุณมนเขียน มืออยู่บ่สุข หุหุ :mrgreen:
ต้องฝึกความอดทนโดยจับมัดมือไว้ แล้วให้ดู ticker กับ bid-offer หน้าจอทั้งวัน ติดต่อกัน 1 สัปดาห์ ถ้าทนได้ถือว่าผ่านครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 4:03 pm
โดย Tao Investor
พี่ๆครับ ผมมีข้อสงสัย อยากถามพี่ๆ ทุกคนหน่อยนะครับ

ระหว่าง vs ที่เทรดเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี

กับ vi ที่เทรดหุ้นตัวเดียวกัน

ทั้งสองคน ก็ซื้อตอนที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน

แล้ว vs ก็ขายไปเอา capital gain

และ vi ก้เก็บไว้ เอาปันผลมาซื้อตัวมันเอง

แสดงว่าตอนซื้อไม่ได้บอกว่าเราเป็น vi หรือว่า vs

ตอนหลังถึงจะบอกได้ใช่ไหมครับว่า ใครลงทุนแนวไหน :?:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 8:21 pm
โดย harry
ผมว่าบอกได้ตั้งแต่เราคิดจะซื้อ และวิธีการที่เอามาใช้เลือกหุ้นแล้วครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 1:06 pm
โดย VIB007
harry เขียน:ถามพี่วิบูลย์ และท่านอื่นๆบ้าง

ปีใหม่ผ่านมาเดือนครึ่งแล้ว คิดว่าภาวะโดยรวมเมืองไทยดีขึ้นบ้างมั้ยครับ ผลประกอบการที่ออกมางวดปี 47 และไตรมาสที่จบเดือนธันวาคม ส่วนใหญ่เป็นที่พอใจกันมั้ยครับ
ผลประกอบการกำลังทยอยประกาศออกมา
ผมไม่ทราบว่าหุ้นบริษัทของท่านอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง
แต่ของผม ผลประกอบการก็ใช้ได้ดีทีเดียว
แต่ปัญหาคือ ราคาหุ้นไม่ยอมวิ่ง
ชาวบ้านเขาขี่กระทิงไปถึงไหนแล้ว
ส่วนหุ้นผมก็นิ่งสนิท

ต้องทำใจครับ ถ้ารักจะเป็นแวลู ก็ต้องโดนทดสอบบ้างเป็นธรรมดา

นี่ถ้าซื้อหุ้นโรงงานตามคุณมนก็"รวย"ไปแล้ว
แต่ผมมองไม่เห็นอนาคตบริษัทเลยขอบาย
ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ซื้อหุ้นที่ตนเองไม่เข้าใจ
เพราะเจ๊งมาหลายทีเพราะซื้อหุ้นที่เขาว่ากันว่าดี
แต่สุดท้ายออกของไม่ทันสักที......เลิกดีกว่า

ไม่เป็นไรครับ วันพระไม่ได้มีหนเดียว
หนทางยังอีกยาวไกล
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

ส่วนภาวะเศรษฐกิจเมืองไทย
ผมไม่ใช่โหรเศรษฐกิจ
เพียงแต่อาศัยสิ่งที่เห็นรอบตัวมาวิเคาระห์ (หรือวิแคะกันแน่)

ตลาดบ้าน......กำลังแข่งกันสร้างโครงการ
ผู้บริโภคเริ่มมีกำลังซื้อน้อยลง
สงครามราคาบ้านกำลังจะเกิด
หรือเกิดขึ้นแล้ว
บ้านแลนแอนเฮาส์แถวบ้านผม ปลายปีที่แล้วตั้งราคา 5 ล้าน
ตอนนี้ลดเหลือ 4.5 ล้านยังขายไม่หมด
ดอกเบี้ยกำลังปรับตัวขึ้น บ้านก็ขายยากขึ้นแน่นอน

ตลาดรถยนต์
คนเปลี่ยนรถกันเป็นว่าเล่นในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา
ถามว่าจะมีสีกกี่คนที่เปลี่ยนรถทุกปี
ถ้าไม่มีดีมานด์จากคนที่จะซื้อรถคันใหม่
ตลาดรถยนต์ก็จะถดถอย

ชาวบ้านเป็นหนี้กันถ้วนหน้า
ทั้งมือถือ มอไซค์ ทีวี เครื่องเสียง ฯลฯ
ตอนนี้หาเงินใช้หนี้เก่าก็ยากอยู่แล้ว
คงไม่มีเงินมากพอจะ"ผ่อน"จ่ายหนี้ก้อนใหม่

การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภคคงจะถึงภาวะอิ่มตัว

การส่งออกคงไปได้ แต่อัตราการเติบโตคงไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา
ดอลล่าอ่อน เงินบาทแข็งทำให้การส่งออกชะลอตัว

พระเอกสำหรับปีนี้และปีหน้า คือ
การลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน
เนื่องจากกำลังการผลิตของเอกชนกำลังจะเต็ม
เพราะไม่ได้ขยายกำลังการผลิตมาตั้งแต่ลดค่าเงินบาท
จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มในปีนี้ ปีหน้า

ส่วนภาครัฐก็เข็นโครงการก่อสร้างออกมามากมาย
ทั้งรถไฟใต้ดิน ทางด่วน ท่าเรือ สนามบิน ฯลฯ
ถ้าสร้างจริงก็ช่วยให้มีเงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
แต่ปัญหาคือ จะเอาเงินก่อสร้างมาจากไหน
ทุกวันนี้ก็ตั้งงบประมาณขาดดุลอยู่แล้ว
........นั่นนะซินะ
อ้อ นึกออกแล้ว....ก็ขายรัฐวิสาหกิจไงล่ะ
แล้วเอาเงินมาอัดเข้าระบบสร้างฟองสบู่ลูกใหม่ ฮา ฮา

ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ขอให้ทุกท่านจงดำเนินชิวิตด้วยความไม่ประมาทเป็นดีที่สุดครับ
ไม่ว่าจะทั้งการลงทุน หรือ การใช้จ่ายประจำวันก็ตาม
ปรัชญา เขียน:วันนี้คุณมนเขียน มืออยู่บ่สุข หุหุ
ผมชอบบทความนี้มากเลยครับ พี่ปรัชญา
เลยชมคุณมนไปหนึ่งที ตัวลอยเลย

ผมว่าเป็นบทความที่ชี้ภาพได้ชัดเจนมากครับ
ถึงการได้กำไรขาดทุนในการเก็งกำไรจริงๆ
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า วีไอ กำไรช้า
เลยหันไปเก็งกำไร
แต่สุดท้ายมักจะพบว่าคนที่กำไรจริงๆก็คือ โบรกเกอร์มากกว่า
ส่วนคนเล่นมักจะเท่าทุน หรือเสียซะส่วนมาก

คนเล่นเก็งกำไรสั้นๆแล้วได้เป็นกอบเป็นกำอย่างสม่ำเสมอ
ผมว่ามีน้อยถึงน้อยทีสุด
ส่วนใหญ่จะพ่ายตอนหลังแล้วตอนเสียก็คืนกำไรหมด
เพราะช่วงแรกมีกำไรเลยได้ใจ ใส่เข้าไปเต็มๆ
ปรากฏว่า ขาดทุนมากกว่าที่หามาได้ทั้งหมด

ผมว่า คนที่เล่นเก็งกำไรให้ได้เสมอต้องมี"วินัย"มากกว่า VI ซะอีกครับ
Tao Investor เขียน:พี่ๆครับ ผมมีข้อสงสัย อยากถามพี่ๆ ทุกคนหน่อยนะครับ

ระหว่าง vs ที่เทรดเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี

กับ vi ที่เทรดหุ้นตัวเดียวกัน

ทั้งสองคน ก็ซื้อตอนที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน

แล้ว vs ก็ขายไปเอา capital gain

และ vi ก้เก็บไว้ เอาปันผลมาซื้อตัวมันเอง

แสดงว่าตอนซื้อไม่ได้บอกว่าเราเป็น vi หรือว่า vs

ตอนหลังถึงจะบอกได้ใช่ไหมครับว่า ใครลงทุนแนวไหน
ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด

ถ้าเลิกแบ่งแยกระหว่าง VI หรือ VS
ทุกคนก็เป็นนักลงทุนหมือนกันหมด

วีไอบางคนก็ไม่ได้ซื้อหุ้นกินปันผล
วีเอสบางคนก็ไม่ได้ขายหุ้นเสมอไป

หุ้นเบริคไชน์ก็ไม่เคยปันผลเลยมาเป็นเวลาหลายสิบปี

ถ้าผมบอกว่า
การเก็งกำไรแบบDaytrade และ VI ใช้หลักการเดียวกัน คุณจะเชื่อหรือไม่

เลิกแบ่งแยกเถอะครับ
แล้วคุณจะเข้าใจ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:31 pm
โดย thanwa
มาเซ็นต์สมุดเยี่ยมหน้า 49 ครับ
พร้อมทั้งเอาใจช่วยให้ถึง 90,000 ครั้ง :wink:

โห.. อ่านความเห็นคุณวิบูลย์แล้วต้องให้ความระมัดระวังมากเลยครับ
กิจการการรถยนต์คงมีผลกระทบเรื่องดอกเบี้ย ค่าน้ำมัน แต่มีลุ้นเรืองส่งออก กับอิโคคาร์ครับ
หุ้นที่เป็นหุ้นส่วนกะคุณวิบูลย์กอดไว้แน่น ปันผลงานปีนี้ :) แต่ไม่ลงมาให้ซื้อเพิ่มเลย :(
เรื่องน้ำมันดีเชลลอยตัวนี่น่าจะมีผลกระทบในหลายกิจการทีเดียว อย่างน้อยก็คาราวานขนส่งของเสริมสุขละหนึ่ง
เอ... คิดดูอีกที อาจจะเป็นข้ออ้างในการขึ้นสินค้ากันยกใหญ่ก็ได้นะ
สรุปคือกิจการที่สามารถผลักภาระให้ผู้ซึ้อและผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบน้อย
เตรียมรับมือกันหรือยังครับ

อ้อ.. ทราบข่าวจากคุณมน
ขอแสดงความยินดีกะอาซ้อและคุณวิบูลย์ด้วยครับ
คราวนี้จะมีสิ่งที่ให้คุณวิบูลย์ใช้ความสามารถอีกด้านด้วยครับ :)

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:44 pm
โดย Mon money
เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเขียน "มืออยู่บ่สุข" อาทิตย์ที่ผ่านมาเขียน "มือบ่อยู่สุข...หลายๆ" ครับ

เห็นแล้วต้องตกสะดุ้งครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่เชื่อก็ลองคิดดูดิ

เรื่อง VS VI นี่ ไม่รู้จะแยกกันทำไม่หนอ?

ก็คุณซื้อหุ้นอยู่บนพื้นฐาน เมื่อราคาวิ่งอยากขายก็ขาย ไม่อยากขายก็ถือ(กำปันทุบดินจริงๆ) อันนี้มันขึ้นอยู่กับข้อมูล อารมณ์ ความรู้สึกของแต่ละคนครับ

ส่วนผมยังบ่ได้ขายโรงงานออกเลย เห็นราคาแย่งลงแบบนี้สงสัยเพื่อนๆชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัวอาศัยเลขสวยๆปล่อยของกันเรียบร้อยแล้วมัง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2005 2:38 pm
โดย VIB007
ขอบคุณครับพี่ไก่

ตอนนี้งานยุ่งมากเลยไม่ค่อยมีเวลาโพสเท่าไหร่
ก็กำลังลุ้นกระทู้ให้ผ่าน 9 หมื่นเพื่อไปถึงเป้าหมายอ่าน 1 แสนครั้ง
ผมว่าจะกลายเป็นกระทู้ที่มีคนอ่านมากครั้งที่สุดในเวปบอร์ดหุ้นเมืองไทย
เพื่อที่ TVI จะได้ดังลง Guiness Book ฮ่า ฮ่า

ขอฟ้องพี่ไก่หน่อย
คุณมนตอนนี้กำลังสุขกับโรงงานและต้นไม้
เห็นไปเดินสนามหลวง 2 ทุกวัน
ซื้อต้นไม้กลับมาปลูกที่บ้าน
อิจฉาจัง
ส่วนผมกับพี่ไก่ก็นั่งจุมปุ๊กทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อตอยู่ต่อไป

ไว้ว่างๆเจอกันนะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 21, 2005 9:43 pm
โดย ปรัชญา
8)

Value Way : อยู่ไม่สุข...จริงๆ

มนตรี นิพิฐวิทยา
เรื่องราวของการอยู่ไม่สุขไม่ใช่มีแค่การไม่รู้จะไปทำอะไรถ้าไม่ซื้อขายหุ้น การที่อยู่ไม่สุขยิ่งขึ้นไปอีกก็คือการซื้อๆ ขายๆ ยิ่งทำกิจกรรมทั้งสองอย่างนั้นอย่างรวดเร็วและหลายรอบในวันเดียวกันนั้น ถือเป็นการอยู่ไม่สุขเป็นอย่างยิ่ง

ผมเองเมื่อเริ่มลงทุนเองก็ทำการซื้อขายในวันเดียวกันบ่อยมาก เรียกว่าทำได้ทุกวันและวันละหลายรอบเป็นที่สนุกสนานยิ่งนักเพราะได้เงินใช้ทุกวัน แม้ว่าบางวันจะพลาดบ้างก็ยังไม่ค่อยเจ็บตัวเท่าไรในความรู้สึกตอนนั้น

การจะทำการซื้อขายแบบหักลบกันในวันเดียวหรือ Net settlement แล้วได้เงินนั้น มักจะเกิดในช่วงหุ้นนั้นๆเป็นขาขึ้น และที่สำคัญต้องรู้ข่าวมาบ้าง ไม่อย่างนั้นจะได้บ้างเสียบ้าง จนสุดท้ายเสียมากกว่าได้

ถ้าหากเป็นช่วงตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นและหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นจะเล่นง่ายมาก เพราะซื้อตัวไหนมันก็ขึ้น ได้เงินใช้จนเกิดอาการผยองกันเลยก็ว่าได้

...เล่นไม่ยากนี่หว่า!

มาดูตลาดหุ้นช่วงหลังๆนี่เล่นยากขึ้นมาก โอกาสได้เงินใช้น้อยกว่าโอกาสเสียเงิน เพราะแม้ตลาดหุ้นจะขึ้นแต่ก็ขึ้นไม่มาก แกว่งตัวแคบๆ ไม่ค่อยมีช่วงให้ทำกำไรเร็วๆ ยิ่งบางช่วงผันผวนเสียจนสิงห์ Net ทั้งหลายกระเป๋าฉีกไปตามๆ กัน

เมื่อวันก่อนเก็บกวาดบ้านก่อนวันตรุษจีน เกิดไปเจอกับข้อมูลที่ผมเคยซื้อขายหุ้นเมื่อหลายปีก่อนที่ทั้งซื้อและขายอย่างรวดเร็วปานกามนิตหนุ่มก่อนหมดสภาพกลายเป็นกามนิตติดยา ก็เลยเก็บเอามาดูและนึกสนุกเอามาคิดเล่นๆยามว่างหลังตรุษจีน ผลที่ได้เป็นที่น่าตกใจยิ่งนัก...

เมื่อแรกก็คิดเหมือนกันว่า เล่นหุ้นได้บ่อยๆ ทำไมเงินทองมันไม่ค่อยจะเพิ่มขึ้นเท่าไรเลย แต่มันก็มีความสุขที่ได้เล่นและได้เสีย นี่ถ้าไม่หมดสภาพซะก่อนก็คงไม่รู้ตัวหรอกว่าเป็นเพราะอะไร

การเล่นเร็ว ซื้อขายหุ้นบ่อยๆ นั้นมันมีต้นทุนที่แฝงอยู่ครับ นั้นคือค่าคอมมิชชั่น และภาษีมูลค่าเพิ่ม บางคนอาจจะคิดว่า มันจะเท่าไรกัน ก็แค่ 0.25 % กับ อีก 7% จากค่าคอมมิชชั่นนั้น รวมๆ แล้วก็แค่ 0.267%

มันไม่มากเลยครับ เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด เช่นซื้อหุ้น 1,000,000 บาท ค่าคอมฯ รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วแค่ 2,875 บาท แต่ถ้าเอามาเทียบกับมูลค่าของผลตอบแทนที่ได้รับแล้วน่าคิดครับ

ผมไม่ได้บอกว่ามันสูงหรือต่ำแต่กำลังบอกให้คิด ลองคิดดูว่า วันหนึ่งคุณซื้อหุ้นราคา 70 บาท จำนวน 10,000 หุ้น เป็นเงินลงทุน 70,000 บาท เสียค่าคอมมิชชั่น 1,872.5 บาท ปรากฏว่าหุ้นนั้นขึ้นไปหนึ่งบาท ได้กำไรแล้วหนึ่งบาทต่อหุ้น หรือหนึ่งหมื่นบาท ถ้าขายเลย (เก็บไว้เดี๋ยวลงจะอด) คุณจะเหลือเงินกำไรนี้หลังหักค่าคอมฯและภาษีทั้งสองขาแล้วเท่ากับ 6,228.25 บาท คิดเป็นผลตอบแทนเท่ากับ 0.89% ทั้งนี้คุณจ่ายค่าคอมฯและภาษีฯสองขาเท่ากับ 3,771.75 บาท คือแบ่งผลกำไรของคุณไปให้โบรกเกอร์และรัฐบาลเท่ากับ 37.72%

ในกรณีอย่างนี้ผลกำไรที่คุณจะได้ทั้งสิ้น ถูกแบ่งไป 37.72% สำหรับผมแล้วมากเอาการ แต่บางคนบอกก็ได้ฟรีนี่นา ซื้อเช้าขายบ่าย ได้ก็ถือว่าดีแล้ว

อาจจะจริงครับ ถ้าได้แล้วเลิกเลยก็ได้เงินใช้ แต่ถ้าวันต่อมาเสียละก็...

วันรุ่งขึ้นซื้อหุ้นเดิมอีกเพราะลงมา 70 บาทให้ซื้อได้อีก ซื้อเท่าเดิมคือ 10,000หุ้น วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวานหุ้นลงมาที่ 69 บาท คิดง่ายๆขาดทุนไป 10,000 บาท ยังไม่หมดครับ ยังมีค่าคอมฯและภาษีฯอีกนิดหน่อย (?) รวมๆ แล้วต้องจ่ายทั้งสิ้น 13,718.25 บาท เวลาได้เงินได้แค่ 6,228.25 บาท เวลาเสียทำไมจ่ายมากกว่า 2 เท่าเลยละนี่? สรุปรวมแล้วสองวันจ่าย 7,490 บาท

ถ้าคุณโชคดีเล่นได้สองครั้งเสียหนึ่งครั้ง คุณยังเสียเงินอยู่ดีครับ แต่ถ้าได้สามครั้งเสียหนึ่งครั้งคุณถึงจะได้เงิน แต่ก็แค่ 4,966.5 บาท ไม่ใช่ 20,000 บาท

ตัวอย่างนี้ยกมาให้เห็นง่ายๆ ว่าถ้าคิดจะรวยเพราะเล่นเร็วละก็ "ยากส์..." โอกาสจะรวยก็มี แต่ผมว่าน้อยมาก และเห็นมีไม่กี่คนหรอกครับ เพราะพวกนี้เขามีอะไรดีๆ เช่นวงใน หรือไม่ก็ขาใหญ่ ส่วนถ้าไม่ใช่พวกวงในหรือขาใหญ่แล้วต้องมีวินัยอย่างสูง ได้แล้วต้องเลิก ขาดทุนน้อยๆ แล้วต้องรีบขาย คือเอาไว้ก่อนไม่อย่างนั้นอด...

ทีนี้มาดูว่าถ้าเราปล่อยให้กำไรมันสูงขึ้นแล้วเราขาย เราจะมีต้นทุนค่าคอมฯและภาษีมากน้อยอย่างไรครับ จากการคำนวณแล้วพบว่า ถ้าขายที่ผลตอบแทน 10% เราจะต้องจ่ายค่าคอมฯและ ภาษี เท่ากับ 5.62% ที่ผลตอบแทน 20% จ่าย 2.94% ที่ผลตอบแทน 30% จ่าย 2.05% ยิ่งผลตอบแทนยิ่งสูงมากขึ้นเท่าใดเรายิ่งจ่ายน้อยลง กำไรก็จะเป็นของเรามากขึ้น

ลองคิดว่าถ้าเราลงทุนซื้อหุ้นราคา 10 บาท 100,000 หุ้น ใช้เงิน 1,000,000บาท ถ้าเราขายที่ผลตอบแทน 1% เราจ่ายค่าคอมฯ กับภาษีฯ เท่ากับ 5,376.75 บาท คิดเป็นร้อยละจากผลตอบแทนแล้ว เท่ากับ 53.77% เงินกำไร 10,000 เหลือแค่ 4,623.25 บาท แต่ถ้าขายที่ผลตอบแทน 20% เราจ่ายค่าคอมฯกับภาษีฯ เท่ากับ 5,885 บาท คิดเป็นร้อยละจากผลตอบแทนแล้ว เท่ากับ 2.94% เงินกำไร 200,000 บาท ได้จริงๆ 194,115 บาท

มันต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ และถ้าคุณปล่อยให้ผลตอบแทนมากถึง 100% คุณลองคิดดูว่ากำไรที่ได้มาอีกหนึ่งล้านบาท เสียค่าคอมฯกับภาษีฯแค่ 8,025.214บาทเอง คุณเอาเงิน 992,054.70 บาท เข้ากระเป๋ากับบ้านสบายๆ

ดังนั้นแทนที่จะอยู่ไม่สุขในทางซื้อๆ ขายๆแล้วละก็ ลองที่จะกลับนิสัยมาอยู่ไม่สุขโดยการเลือกสรรหาบริษัทดีๆ ค้นให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เมื่อได้หุ้นดีๆ แล้วก็ควรจะอยู่เป็นสุขเสียที รอเวลาคอยนับเงินดีกว่าครับ

ไม่เช่นนั้นคนที่จะคอยนับเงินของคุณจะเป็นโบรกเกอร์ของคุณนั่นแหละ

ถนนนักลงทุน
กรุงเทพธุรกิจ

จากคุณ : MengOdean - [ 20 ก.พ. 48 23:10

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 22, 2005 11:25 pm
โดย thanwa
สวัสดีครับคุณวิบูลย์

อิจฉาคุณมนจริงๆ ครับ พอร์ตโตเอาโตเอา แล้วยังมีเวลาชื่นชมต้นไม้อีก
ผมก็กอดหุ้นเต่า ค่อยเป็นค่อยไปอยู่เลยครับ แก่แล้วกลัวหัวใจวายนะ :wink:
เรื่องงาน ดูดูแล้ว นี่อยู่ที่ทำงานวันหนึ่งๆ ประมาณ 12-14 ชม. เลย
อย่างนี้เรียกว่า ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต ก้นเป็นสว่านเลยละครับ

ที่พูดมานี่เพราะอิจฉาคุณฉัตรชัย คุณลูกอิสาน คุณมน จังเลยครับ
เอาเป็นว่า ร้องเพลงสักวันหนึ่งพอร์ตเราจะโตๆ กันก่อนนะครับ

ถ้านัดเจอกันจะส่งข่าวให้คุณวิบูลย์ทราบครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 4:31 pm
โดย VIB007
ขอบคุณครับพี่ไก่

หุ้นผมก็หุ้นเต่าเหมือนกัน
ชาวบ้านเขาไปถึงไหนแล้ว
ก็ยังต้วมเตี้ยมต้วมเตี้ยมอยู่ที่เดิม

วันนี้ดัชนีเพิ่มขึ้นอีก 8 จุด
จากต้นปีที่ 668 ตอนนี้ 738
เรียกว่าเพิ่มขึ้นกว่า 10%

ถ้าหุ้นใครไม่ขึ้นก็ต้องอดทน
เรียกว่า เป็นช่วงเวลาที่ทำการทดสอบจิตใจได้ดีที่สุดครับ
ท่านใดทนผ่านเวลาเช่นนี้ไปได้
รับรองว่า ผ่านขั้นที่หนึ่ง ไม่ต้องกลัวตลาดหุ้นแล้ว