หน้า 47 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 12:58 pm
โดย VIB007
กระทู้นี้ผ่านการอ่าน 90,000 ครั้งไปแล้ว
ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548

ขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารของเวป TVI ด้วยครับ
ที่มีสถิติมีกระทู้ที่มีการอ่านมากที่สุดในเวปบอร์ดหุ้นของเมืองไทย

จะสังเกตุว่า หลังๆเราไม่ได้พูดถึงเรื่องเทคนิคการวิเคาระห์หุ้นสักเท่าไหร่
เพราะใครสนใจก็หาอ่านได้จากหน้าเก่าๆของกระทู้นี้

มีสมาชิกใหม่หลายท่านเข้ามาอ่านหน้าหลังๆแล้ว
อาจจะพบว่า กระทู้นี้ไม่ค่อย"เข้าท่า"เท่าไหร่
เพราะพูดถึงเรื่องอะไรก็ไม่รู้
ก็ขอฝากให้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบลองดูว่าเป็นอย่างไร
ใช้เวลาเท่าไหร่ มีบางท่านอ่านเป็นเดือน

ยังไงก็ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามกระทู้นี้มาโดยตลอด (ถึงแม้จะไม่ได้โพส)
ก็หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิกไม่มากก็น้อย

ขอบคุณครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 2:17 pm
โดย ปรัชญา
:arrow: ยังเข้าท่าครับ มาอ่านตลอด พี่เทพไปไกลแล้วยังไม่ถูกใจอีก :mrgreen:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 2:38 pm
โดย yoyo
thanwa เขียน:สวัสดีครับคุณวิบูลย์

อิจฉาคุณมนจริงๆ ครับ พอร์ตโตเอาโตเอา แล้วยังมีเวลาชื่นชมต้นไม้อีก
ผมก็กอดหุ้นเต่า ค่อยเป็นค่อยไปอยู่เลยครับ แก่แล้วกลัวหัวใจวายนะ :wink:
เรื่องงาน ดูดูแล้ว นี่อยู่ที่ทำงานวันหนึ่งๆ ประมาณ 12-14 ชม. เลย
อย่างนี้เรียกว่า ตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต ก้นเป็นสว่านเลยละครับ

ที่พูดมานี่เพราะอิจฉาคุณฉัตรชัย คุณลูกอิสาน คุณมน จังเลยครับ
เอาเป็นว่า ร้องเพลงสักวันหนึ่งพอร์ตเราจะโตๆ กันก่อนนะครับ

ถ้านัดเจอกันจะส่งข่าวให้คุณวิบูลย์ทราบครับ
หุ้นพี่ไก่ก็ใช่ว่าเต่าที่ไหน ...
แต่ละตัวหลังๆมานี่ก็เดินหน้าขึ้นทางเดียวเลยนะครับ ...
เวลาเห็นหุ้นห้างสีเขียวอยู่เรื่อยๆ ไม่สนภาวะตลาด ยังนึกอิจฉาพี่ไก่อยู่เนืองๆเลย

มีเรื่องอยากถามพี่วิบูลย์ด้วยครับ
เรื่องพี่เทพนี่ปกติหลัง xd มันตกแรงว่าปันผลมากมั๊ยครับ
ถ้าปัน 9 ลงซัก 10-13 จะเข้าไปซื้อก่อน xd ซักวันเอาเครดิตน่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 3:09 pm
โดย VIB007
yoyo เขียน: มีเรื่องอยากถามพี่วิบูลย์ด้วยครับ
เรื่องพี่เทพนี่ปกติหลัง xd มันตกแรงว่าปันผลมากมั๊ยครับ
ถ้าปัน 9 ลงซัก 10-13 จะเข้าไปซื้อก่อน xd ซักวันเอาเครดิตน่ะครับ
ปีนี้ได้ข่าวมาว่าจะปันผล 7 บาท
ถามว่าปันผลแล้วตกลงมากว่าปันผลหรือเปล่า
อันนี้จำไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ได้สนใจราคาหุ้นระยะสั้นเลย
เท่าที่จำได้เลาๆก็คือ
พอปันผลแล้วก็ตกลงมาสักระยะหนึ่ง
จากนั้นก็เดินหน้าต่อทุกที

ถ้าจะซื้อเอาปันผลเพื่อเอาเครดิตปันผล
ผมว่าไม่น่าสนใจนะครับ ถ้าถือสั้น
มีโอกาสขาดทุนสูงพอสมควร
แต่ถ้าคิดถือยาวก็พอได้ครับ
แต่...อีกแล้ว ที่ราคานี้ผมก็ยังว่าไม่ค่อย Undervalue สักเท่าไหร่
เรียกว่าค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร

ถ้าจะเสี่ยงเอาปันผล แล้วรอราคาหุ้นกลับมาที่เดิมแล้วขาย ก็ไม่ว่ากัน

อันนี้ต่างจิตต่างใจครับ

ผมเคยซื้อหุ้นบางตัวมาเพื่อเอาปันผล
ปรากฏว่าเพื่อนร่วงมากกว่าปันผลหลัง XD
เลยขายขาดทุนไป
พอเวลาผ่านไป หุ้นตัวนั้นกลับมาที่ราคาสูงกว่าเดิมให้เจ็บใจเล่น
ตั้งแต่นั้นมาเลยไม่เคยซื้อหุ้นเพื่อเอาปันผลระยะสั้นอีกเลย

เล่าให้ฟังเป็นอุทธาหรเฉยๆ

ลองตัดสินใจดูเอาครับ
ปรัชญา เขียน:ยังเข้าท่าครับ มาอ่านตลอด พี่เทพไปไกลแล้วยังไม่ถูกใจอีก
ขอบคุณครับพี่ปรัชญาที่ยังติดตามผลงาน

คือที่ออกตัวก่อนนี่เพราะกลัวสมาชิกใหม่มาอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่
เพราะหลังๆมีคนเข้ามาโพสในกระทู้นี้น้อยลง
แล้วก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆออกมาสักเท่าไหร่

ถึงยังไงก็ถือว่ามาคุยกันแล้วกันครับ พี่ปรัชญา

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 4:46 pm
โดย kachamas
สมาชิกใหม่มาส่งเสียงเฉยๆครับ เพิ่งเจอเว็บนี้ได้สองวัน ตามอ่านกระทู้นี้อยู่ เพิ่งจะถึงหน้า 11(จาก 49หน้า) ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 5:55 pm
โดย nanchan
VIB007 เขียน:
ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิด

ถ้าเลิกแบ่งแยกระหว่าง VI หรือ VS
ทุกคนก็เป็นนักลงทุนหมือนกันหมด

วีไอบางคนก็ไม่ได้ซื้อหุ้นกินปันผล
วีเอสบางคนก็ไม่ได้ขายหุ้นเสมอไป

หุ้นเบริคไชน์ก็ไม่เคยปันผลเลยมาเป็นเวลาหลายสิบปี

ถ้าผมบอกว่า
การเก็งกำไรแบบDaytrade และ VI ใช้หลักการเดียวกัน คุณจะเชื่อหรือไม่

เลิกแบ่งแยกเถอะครับ
แล้วคุณจะเข้าใจ
อันนี้ เห็นด้วยจริงๆครับ

Vs Vi นี้ ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน
แต่Day trade นี่ไม่แน่ใจนะครับ เพราะมีหลายรูปแบบเหลือเกิน

คือผมก็ไม่รู้ว่าผมVi หรือ VS

เพราะบางที ก็ถือหุ้นเอาปันผล บางทีก็ขายก่อนXd

แต่แน่ๆ คือผมมักใช้ ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป็นเกณฑ์ ในการตัดสินใจซื้อ

และดูราคา เป็นตัวสำคัญที่จะซื้อ

ส่วน การขาย อาจจะไม่รอนานมาก บางที5-10% ก็ปล่อย

หรือ2-3% ก็ปล่อย

แต่ที่น่าจะต่างกันบ้าง ผมว่าVi คงต้องบอกตัวเองว่ารู้เกี่ยวกับตัวธุรกิจที่ตัวเองถือหุ้นอยู่พอควร ถ้ารู้ไม่มากจริง ผมว่าแค่ถือหุ้นรอปันผล ก็คงไม่น่าใช่ Vi ตัวจริง

ส่วน Vs แค่ให้รู้พื้นฐานหุ้น ดูผลประกอบการ ดูลักษณะธุรกิจ พอจะรู้เรื่องบ้าง
ไม่ใช่ใบ้แน่นอน จะรู้จักตัวหุ้นมากกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทั้งหมดของบริษัทนั้น อาจจะใช้ประเด็นสำคัญๆ ในการเก็งกำไร เช่น กำไร ผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือภาพรวมธุรกิจ

แน่นอนVs น่าจะเปลี่ยนตัวหุ้นบ่อยกว่า และก็ขี้เกียจเข้าประชุมผู้ถือหุ้น

หลักการที่เหมือนกันแน่นอน น่าจะเป็นการหวังผลกำไรจากตัวหุ้น
ให้มากที่สุด ส่วนระยะเวลาในการลงทุน ผมว่าคงไม่เกี่ยว ถ้าหุ้นอยู่ดีๆขึ้นมากๆ ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงมาก ผมว่าVi ก็คงทนไม่ได้ ที่จะขายทำกำไรมั้งครับ

ส่วนท่าน วอร์เรน บัพเฟต นี่ผมว่าเป็นสุดยอด VI ตัวจริง
ผมว่าคงหา Vi ที่ไหนเทียบได้นะ
เหตุผลของผมก็คือ ท่านวอร์เรน ไม่เพียงแต่รู้ถึงข้อมูลในบริษัทนั้นๆ
ท่าน ยังเป็นผู้ที่ระดมทุน เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทนั้นๆ ให้สามารถ เข้าไปเป็นผู้บริหารได้ด้วย สามารถบริหาร ออกนโยบาย จนบริษัทเติบโตจนถึงทุกวันนี้ได้

สุดยอด VI

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 6:06 pm
โดย harry
คุณ nanchan ครับ

quote ย่อยนั้น ผมไม่ได้เป็นคนพิมพ์นะครับ ไม่ทราบว่าดึงมาแล้วเป้นชื่อผมได้ยังงัย รบกวนช่วยแก้หน่อยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 10:49 pm
โดย nanchan
แก้ไขแล้วครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 1:24 pm
โดย VIB007
nanchan เขียน:
ส่วนท่าน วอร์เรน บัพเฟต นี่ผมว่าเป็นสุดยอด VI ตัวจริง
ผมว่าคงหา Vi ที่ไหนเทียบได้นะ
เหตุผลของผมก็คือ ท่านวอร์เรน ไม่เพียงแต่รู้ถึงข้อมูลในบริษัทนั้นๆ
ท่าน ยังเป็นผู้ที่ระดมทุน เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทนั้นๆ ให้สามารถ เข้าไปเป็นผู้บริหารได้ด้วย สามารถบริหาร ออกนโยบาย จนบริษัทเติบโตจนถึงทุกวันนี้ได้

สุดยอด VI
บางบริษัทวอร์เรนก็ไม่ได้เข้าไปบริหารแต่อย่างใด
แถมไม่รู้จักผู้บริหารเป็นการส่วนตัวอีกด้วย เช่น
Petro China ที่ Berkshire ถือหุ้นอยู่หลายหมื่นล้านบาท

มีหลายท่านคิดว่า วอร์เรนใช้ข้อมูลอินไซค์ก่อนซื้อหุ้น
ต้องบอกว่าสำหรับบางบริษัทที่ Berkshire ได้รับการติดต่อให้เข้าไปช่วยเหลือทางการเงิน
เช่น Geico, Gilleette, US Air, หรือ Solomon

ส่วนหุ้นที่บัฟเฟตซื้อมาในตอนแรกๆนั้น
ผู้บริหารบริษัทนั้นส่วนใหญ่มองว่าจะเป็นการ Hostile Takeover
เช่น Washington Post หรือ Coke
จนบัฟเฟตต้องออกมาบอกว่า ไม่ต้องการเทคโอเวอร์แต่อย่างใด
เพียงต้องการเป็นแค่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น

หลักการของบัฟเฟตไม่ต้องใช้อินไซค์ก็ทำได้
เพียงแต่ต้องรู้เรื่องธุรกิจนั้นอย่างละเอียดและเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ทั้งบัฟเฟตและจิม โรเจอร์พูดเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งว่า
"ถ้ามีข้อมูลอินไซค์เพียงพอ ก็อาจทำให้คุณหมดตัวเอาได้ง่ายๆ"

เรามักจะได้ยินเรื่องของคนที่ใช้ข้อมูลภายในแล้วได้กำไร
แต่เราไม่ค่อยได้เห็นคนใช้ข้อมูลภายในแล้ว"ขาดทุน"
เพราะเขาไม่กล้าบอกว่า"ขาดทุน"เพราะข้อมูลภายในให้คนอื่นรู้
มันเสียฟอร์ม และเสีย Self ได้มากๆ
กลัวถูกหาว่า "โง่"

ดังนั้น เราจึงมักจะได้ยินเรื่อง"กำไร"จากตลาดหุ้นเสมอๆ
จนคนอื่นๆที่อยู่นอกตลาดคิดว่า หาเงินจากตลาดหุ้นเป็นเรื่องง่ายๆ
เลยขนเงินเข้ามากันใหญ่
จน"ขาดทุน"
และเลิกจากตลาดหุ้นไปมากก็เยอะ
แถมบอกใครๆว่า "ถ้าไม่อยากหมดตัวก็อย่ามาเล่นหุ้น"
จนคนส่วนใหญ่มองว่าตลาดหุ้นเป็นแหล่งพนันไป

ก็เล่าให้ฟังเฉยๆเรื่องเก่าๆ ทุกท่านคงรู้อยู่แล้วมั้ง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 2:55 pm
โดย harry
คุณ nanchan ขอบคุณครับที่แก้ ผมเพิ่งเข้ามา ก็เพิ่งเห็นว่าแก้แล้ว เพราะข้อความมีที่แก้ จะไม่รู้ว่าแก้แล้ว ถ้าไม่กดเข้ามาอ่าน ไม่เหมือนโพสต์ตอบใหม่ จะรู้ได้จากหน้าบอร์ด

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 4:48 pm
โดย nanchan
ต้องขอบคุณพี่วิบูลย์มากครับ ที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติม เรื่องวอร์เรน บัฟเฟต

แต่ก็เคยอ่านว่า ปกติ บัฟเฟต จะไม่ค่อยสนใจด้านปิโตร หรือแทบไม่เคยซื้อหุ้นแนวนี้เลย แต่นี้มาซื้อ นั้นจะหมายถึงว่าความคิด ท่านบัฟฟเฟต เปลี่ยนไปไหม
หรือว่า บัฟเฟต กำลังมองว่าธุรกิจ ตามแนวที่ตัวเองถืออยู่เริ่มมาสู่จุดอิ่มตัวแล้ว
เลยเปลี่ยนแนวบ้าง

คือผมก็คิดว่าการใช้ข้อมูลInside นี่น่ากลัวจริงๆ และผมก็ไม่เคยใช้เลย

แต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจที่ถือแบบลึกมากๆ อาจจะคอยติดตามแนวโน้มโดยภาพรวมมากกว่า และผลประกอบการรายไตรมาสมากกว่า หรือไม่ก็คอยเก็งกำไร
การประกาศปันผลอะไรอย่างนี้ ซึ่งก็ใช้ได้ผลมาตลอด

จึงคิดว่าตัวเองคงเป็นVSได้ดี แต่เป็นVI ที่ดีไม่ได้แน่

คนที่นี่ ให้ความรู้ดีครับ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 02, 2005 2:40 pm
โดย VIB007
nanchan เขียน: แต่ก็เคยอ่านว่า ปกติ บัฟเฟต จะไม่ค่อยสนใจด้านปิโตร หรือแทบไม่เคยซื้อหุ้นแนวนี้เลย แต่นี้มาซื้อ นั้นจะหมายถึงว่าความคิด ท่านบัฟฟเฟต เปลี่ยนไปไหม
หรือว่า บัฟเฟต กำลังมองว่าธุรกิจ ตามแนวที่ตัวเองถืออยู่เริ่มมาสู่จุดอิ่มตัวแล้ว
เลยเปลี่ยนแนวบ้าง
ความคิดบัฟเฟตคงไม่ได้ปลี่ยนแต่อย่างใด
เพียงแต่วอร์เรนมาเริ่มเข้าใจในธุรกิจพลังงาน
หลังจากเข้าไปซื้อบริษัทขายแกสผ่านท่อของ Enron ที่ล้มละลายไป
และการเติบโตของธุรกิจพลังงานของเมืองจีนยังไปได้อีกไกล
ถ้าผมมีเงินมากพอและเอาไปลงทุนต่างประเทศได้
ผมก็จะไปลงทุนบริษัทพลังงานที่เมืองจีนเช่นเดียวกัน
เพราะไปที่ปักกิ่งมาเมื่อปีที่แล้ว
โอ้โห....เห็นแล้วตกใจ
กรุงเทพกลายเป็นบ้านนอกไปเลยครับ
ทั้งรถไฟใต้ดิน ไฮเวย์ สภาพแวดล้อม เขาทำได้ระดับโลกจริงๆ
ยกเว้นการเก็บตั๋วรถไฟใต้ดิน
ยังใช้อาซิ้มเป็นคนเก็บตัวก่อนลงไปชานชาลาอยู่ ฮา

ผมเดาว่าจีนจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแข่งกับอเมริกาภายใน 20 ปี
nanchan เขียน: แต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจที่ถือแบบลึกมากๆ อาจจะคอยติดตามแนวโน้มโดยภาพรวมมากกว่า และผลประกอบการรายไตรมาสมากกว่า หรือไม่ก็คอยเก็งกำไร
การประกาศปันผลอะไรอย่างนี้ ซึ่งก็ใช้ได้ผลมาตลอด

จึงคิดว่าตัวเองคงเป็นVSได้ดี แต่เป็นVI ที่ดีไม่ได้แน่

คนที่นี่ ให้ความรู้ดีครับ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย
ยินดีต้อนรับครับ

ผมว่าเราทุกคนเป็นนักลงทุนด้วยกันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไร ก็ไม่น่าจะมาแบ่งแยกกัน
เรียกว่า "แมวสีอะไรก็จับหนูได้"
ถ้าแมวมาทะเลาะกัน แบ่งพรรคแบ่งพวก
สุดท้ายก็ถูกหมากัดตายหมด

เพื่อนผมบางคนก็เป็น Daytrade
บางคนก็เป็นนักเทคนิค เวลาคับขันผมยังโทรไปถามความเห็นเขาเลย
บางคนก็ซื้อหุ้นกินปันผลอย่างเดียวก็มี
แต่ทุกคนก็ยังคุยกันได้สนุกสนานเหมือนเดิม

ผมไม่เคยสนใจเรื่อง VI VS
แถมคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระที่มาแบ่งแยกตัวเอง
เป้าหมายของทุกคนเหมือนกัน
คืออยู่รอดได้ในตลาดหุ้น
แต่วิธีการอย่างไร ต่างคนต่างก็มีวิธีการของตัวเอง

ผมว่าเลือกวิธีการที่เหมาะกับตัวเองน่าจะดีที่สุด
แต่สิ่งสำคัญ คือ"เราหาเจอแล้วหรือยัง???"ต่างหาก

โชคดีในการลงทุนครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 02, 2005 3:03 pm
โดย chatchai
VIB007 เขียน: เพื่อนผมบางคนก็เป็น Daytrade
บางคนก็เป็นนักเทคนิค เวลาคับขันผมยังโทรไปถามความเห็นเขาเลย
อย่างวิบูลย์ ยังมีเวลาคับขันอีกหรือครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 02, 2005 5:01 pm
โดย VIB007
chatchai เขียน:
อย่างวิบูลย์ ยังมีเวลาคับขันอีกหรือครับ
5 5 5
ชอบใจมากครับ พี่chatchai

ก็ไม่เชิงเวลาคับขันอะไรหรอกครับ
เพียงแต่เวลาผมหมายตาหุ้นตัวไหนไว้ว่าจะซื้อ
ก็จะโทรไปถามเพื่อนนักเทคนิคว่า เขามีความคิดเห็นอย่างไรในทางเทคนิค
เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในจังหวะเข้าซื้อ

ส่วนใหญ่นักเทคนิคจะมองจุดซื้อได้ดีทีเดียว
เพราะดูที่ปริมาณซื้อขายและกราฟย้อนหลัง
แต่จุดขายนั้นเท่าที่สังเกตุดู
นักเทคนิคก็ไม่ทราบจุดสูงสุดของราคาหุ้นเหมือนกัน
จนกว่าราคาหุ้นจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

ดังนั้น ผมก็เลยใช้พื้นฐานของหุ้นเป็นหลักในการตัดสินใจว่าหุ้นไหนน่าสนใจ
แต่ตอนเข้าเก็บก็เลยอาศัยนักเทคนิคช่วยด้วยเล็กน้อย
ก็ได้หุ้นราคาต่ำๆมาหลายที

ถ้าเล่นเทคนิคอย่างเดียวเห็นสัญญานไม่ดีก็จะขายไปก่อนแล้วซื้อกลับ
ส่วนผมซื้อมาแล้วส่วนใหญ่ก็ลืมไปเลย
จนเพื่อนผมบอกว่า เขาใจเย็นไม่พอคงรออย่างผมไม่ได้
แต่เขาก็"ขาดทุน"เหมือนกัน
ในระยะยาวแล้ว ถือนานน่าจะปลอดภัยกว่าถือสั้นๆครับ
เพราะผมซื้อหุ้นมาทีไร ราคามันลงต่อทุกที
ถ้าไม่มีความอดทนพอ ก็ต้อง"ขาดทุน"แน่นอน

ผมมั่นใจครับที่ว่า
"ในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจจะผันผวนไปมา
แต่ในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นจะเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานของบริษัท"

สิ่งที่สำคัญที่เราควรมีก็คือ ความรู้และความอดทนครับ

ส่วนใหญ่จะมีความรู้กัน แต่ไม่มีความอดทนมากพอ
จนบางท่านถึงกับมาบอกว่า
"จะให้อดทนไปถึงไหน"ก็มีเหมือนกัน

แต่ผมก็ยังยืนยันอยู่ดีว่า
ความอดทนเป็นปัจจัยหนึ่งในความสำเร็จของนักลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นการอดทนต่อการไม่ทำอะไรในช่วงตลาดไม่ดี สำหรับนักเก็งกำไร
(หรือที่คุณมน เรียกว่า อยู่ไม่สุข)
หรืออดทนที่จะเห็นหุ้นที่ตนถืออยู่ราคาแกว่งไปมา

ช่วงเวลาที่หุ้นตกๆเท่านั้นหละครับ
ที่จะทดสอบจิตใจนักลงทุนได้ดีที่สุด

ตอนตลาดดีๆ
เซียนขาขึ้นมีกันเต็มบ้านเต็มเมือง
แต่ตอนขาลงเท่านั้นครับที่จะวัดความเก๋ากันจริงๆ
ว่าใครจะเอาตัวรอดได้ดีว่าใคร

จริงมั๊ยครับ พี่chatchai

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 02, 2005 7:11 pm
โดย chatchai
เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้คนสนใจเข้ามาอยู่ในวังวนตลาดหุ้นก็เพราะต้องการรวยเร็วๆ รวยสบายๆ รวยง่ายๆ และชอบความตื่นเต้น

ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่มีความอดทนรอคอย ให้ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานของบริษัท

ผู้คนส่วนใหญ่เลยไม่ชอบลงทุนแนว VI เพราะคิดว่ากำไรช้า ปีละไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ตื่นเต้น ไม่เหมือนเล่นหุ้นเก็งกำไร บางวันขึ้น 20% -30% แต่บางวันก็ Floor ให้เห็นเหมือนกัน ชีวิตตื่นเต้นดีครับ ได้ลุ้นแทบทุกวัน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2005 11:12 am
โดย VIB007
chatchai เขียน:เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้คนสนใจเข้ามาอยู่ในวังวนตลาดหุ้นก็เพราะต้องการรวยเร็วๆ รวยสบายๆ รวยง่ายๆ และชอบความตื่นเต้น

ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่มีความอดทนรอคอย ให้ราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานของบริษัท

ผู้คนส่วนใหญ่เลยไม่ชอบลงทุนแนว VI เพราะคิดว่ากำไรช้า ปีละไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ตื่นเต้น ไม่เหมือนเล่นหุ้นเก็งกำไร บางวันขึ้น 20% -30% แต่บางวันก็ Floor ให้เห็นเหมือนกัน ชีวิตตื่นเต้นดีครับ ได้ลุ้นแทบทุกวัน
น่าจะจริงนะครับ เพราะเพื่อนผมที่เริ่มลงทุนมาด้วยกัน
ตอนนี้ไปเก็งกำไรรายวันไปหมดแล้ว
ก็มีได้มีเสีย
บางวันก็ได้เยอะหลายตังค์ บางวันก็เสียมาก

ส่วนใหญ่เวลาเสียจะเป็นการคืนกำไรที่หามาได้ซะส่วนมาก
เวลาได้กำไรจะกำไรน้อย เพราะขายเร็ว
ส่วนเวลาเสียจะเสียเยอะ เพราะขายไม่ทัน

เหตุผลส่วนใหญ่ที่ไม่ลงทุนแนว VI ต่อ
เพราะ ช้า ไม่ทันใจ และไม่ตื่นเต้น
รวมทั้งคิดว่าได้ผลตอบแทนน้อยกว่าเก็งกำไร

รวมๆแล้วน่าจะเป็นเหตุผลเหมือนกับที่พี่บอกมาจริงๆ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2005 1:40 pm
โดย chatchai
วิบูลย์ พอทราบไหมว่าค่าการกลั่นตอนนี้กี่เหรียญ แล้วเทียบกับตอนปลายปีกี่เหรียญ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2005 4:52 pm
โดย VIB007
chatchai เขียน:วิบูลย์ พอทราบไหมว่าค่าการกลั่นตอนนี้กี่เหรียญ แล้วเทียบกับตอนปลายปีกี่เหรียญ
ตัวเลขเปะๆจำไม่ได้ครับ

แต่เล่าความหลังให้ฟังได้ครับ

เมื่อราวๆปี 2001 ราคาน้ำมันอยู่ระดับต่ำกว่า 20 เหรียญ
ธุรกิจขุดเจาะ โรงกลั่น รวมทั้งน้ำมันทั้งหมด
แทบอยากจะปิดบริษัทหนี เพราะกำไรแทบจะไม่มี
แถมขาดทุนมหาศาล โดยเฉพาะโรงกลั่นที่สร้างเสร็จใหม่ๆหนี้บานเบอะ
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันลดลงก็คือ
เศรษฐกิจที่ตกต่ำของประเทศในเอเซีย
ทำให้ดีมานด์น้ำมันลดฮวบอย่างรวดเร็ว
จนซัพพลายลดตามไม่ทัน

ช่วงนั้นค่าการกลั่นประมาณ 1 เหรียญต่อบาร์เรล
ต่ำกว่าต้นทุนการกลั่นเสียอีก
โรงกลั่นทุกโรงขาดทุนกันถ้วนหน้า
แต่ก็ต้องเปิดโรงกลั่นตลอดเพราะหยุดไม่ได้

เจ้าของโรงกลั่นอยากจะฆ่าตัวตายหนีหนี้กันทุกคน

เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี

จนมีอัศวินม้าขาวของเหล่ากองทัพพลังงาน
นั่นคือ ประเทศจีน

หลังจากจีนเริ่มเปิดประเทศมาเป็นเวลา 10 ปี
รวมทั้งเศรษฐกิจเกิดการขยายตัวติดต่อกันมาเป็นเวลานาน
ทำให้คนจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น
รวมทั้งรัฐบาลจีนเริ่มขยาย Infrastructure อย่างมาก
ทั้งสร้างทางด่วนระหว่างเมืองคุณภาพระดับโลก
(เทียบกับทอเตอร์เวย์เราแล้ว ของเราห่วยแตกไปเลย
ของเราทั้งแคบ ทั้งเป็นคลื่น ถนนก็ไม่เรียบ
ของจีนเทียบชั้นได้กับถนนฟรีเวย์ในอเมริกาเลยทีเดียว
ทั้งกว้าง ทั้งเรียบ)

ดีมานของน้ำมันจึงเพิ่มสูงขึ้น
จากความกระหายน้ำมันของคนจีนและเศรษฐกิจจีน
ประกอบกับกำลังการผลิตน้ำมันของจีนเองไม่พอกับความต้องการ
และประสิทธิภาพการผลิตอยู่ในระดับต่ำ
ทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวนมาก

ราคาน้ำมันดิบโลกจึงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
จนขยับมาอยู่ที่ระดับ 20 เหรียญปลายๆในปี 2002

และแล้วด้วยสงครามอิรัก
ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันลดลงมาก
อิรักไม่สามารถส่งออกน้ามันได้
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ซัดดัมก็แอบขายน้ำมันหลังบ้านมาตลอด

เมื่อดีมานจากจีนเพิ่ม แต่ซัพพลายจากอิรักลด
ราคาน้ำมันจึงเพิ่มสูงขึ้นมายืนอยู่ที่กว่า 30 เหรียญต่อบาร์เรลในปี 2003

ราคาน้ำมันมาดุเดือดสุดขีดในปี 2004
เมื่อถูกผสมโรงกับการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าน้ำมันจากพวกเฮดฟันด์
ราคาน้ำมันจึงทะลุ 50 เหรียญต่อบาร์เรลอย่างง่ายดาย
แถมมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
ตราบใดที่อิรักยังผลิตน้ำมันออกขายไม่เต็มที่
และเศรษฐกิจจีนยังเตบโตในอัตราสูง

ปี 2004 เป็นปีทองของโรงกลั่น
จากที่อยากจะฆ่าตัวตาย พวกเจ้าของโรงกลั่นก็อยากจะกลับมาเกิดใหม่
เพราะค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 5-6 เหรียญต่อบาร์เรล

เรียกว่ากำไรเพิ่มขึ้น 5 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี

คำถามที่ว่าค่าการกลั่นตอนนี้กลับปลายปีต่างกันมากหรือไม่
คงบอกได้ว่า ไม่ต่างกันมากนัก
แต่ถ้าพี่ต้องการข้อมูลละเอียด
ถึงทศนิยมสองตำแหน่ง
คงแนะนำให้โทรไปแผนกนักลงทุนสัมพันธ์บริษัทไทยออยส์ครับ 5 5 5

เท่าที่จำได้ตอนนี้น่าจะอยู่ราวๆ 5 เหรียญต่อบาร์เรลครับ
บางแหล่งข่าวก็บอกว่าอยู่ที่ 7 เหรียญต่อบาร์เรล
คงยู่ที่ประสิทธิภาพของโรงกลั่นแต่ละโรงด้วยครับ

สนใจโรงกลั่นหรือครับ พี่Chatchai

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 05, 2005 7:15 pm
โดย jaychou
มาเยี่ยมครับ แต่ละหน้านี่เขียนเป็นบทความลงนสพ. ได้หลายเลยนะท่านวิบูลย์
ขอบคุณมากสำหรับเรื่องโรงกลั่นครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 05, 2005 9:52 pm
โดย Mon money
ใกล้แสนเข้ามาทุกที ไม่รู้มีกระทู้ไหนทำได้อย่างนี้บ้างหนอ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 06, 2005 1:41 pm
โดย charnwud
It is such a joy & pleasure to see such a great website like this in Thailand. All of you are demonstrating investment society and our society as a whole the class of intellectual & matuarity which Thais can achieve.

Khun Mon, Khun Jeng, Khun Viboon, Khun Chatchai and other members (I can't name you all), to me you are examples of proud products of our country.

To website moderator, good job!

P.S. Sorry. my Thai typing is very poor.., sincere apology for using English.

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 06, 2005 10:38 pm
โดย Mon money
คุณ ba 2l อยากจัดอยู่แต่สถานที่ และเวลาวิทยากรไม่ลงตัวเลย

คุณ ชาญวุฒิ ขอบคุณครับสำหรับคำชม เชิญหาความรู้กับความสำราญได้ตามสบายครับ มีอะไรแนะนำก็บอกเลยครับ

ภาษาไม่ใช่ปัญหาครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 06, 2005 11:24 pm
โดย kachamas
Mon money เขียน:คุณ ba 2l อยากจัดอยู่แต่สถานที่ และเวลาวิทยากรไม่ลงตัวเลย
อยากให้มี meeting อีกครับ จะได้ไปร่วมด้วย ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือ ยินดีนะครับ :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 07, 2005 1:56 pm
โดย VIB007
jaychou เขียน:มาเยี่ยมครับ แต่ละหน้านี่เขียนเป็นบทความลงนสพ. ได้หลายเลยนะท่านวิบูลย์
ขอบคุณมากสำหรับเรื่องโรงกลั่นครับ
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม ท่านนักดูดาวนามใหม่
นึกว่าลืมกันไปเสียแล้ว

เรื่องบทความผมยังมีสต๊อคอยู่อีกเยอะ
ก็คุ้ยๆจากกระทู้นี้หละครับ เอาไว้หากิน
แต่คุณมนบอกว่า ส่วนของแกชักตื้อๆแล้ว
คิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี
สงสัยกำไรหุ้นช่วงนี้เยอะเลยไม่มีกะจิตกะใจเขียน ฮา ฮา
Mon money เขียน:ใกล้แสนเข้ามาทุกที ไม่รู้มีกระทู้ไหนทำได้อย่างนี้บ้างหนอ
เอาไว้ลงกินเสบุ๊คดีมั๊ยครับ
แต่ผมว่าอย่าเลย
เราภูมิใจของเราเองดีกว่า
อย่าให้ใครมาหมั่นไส้พวกเราเลย

ขอแสดงความยินดีกับผู้บริหารเวปทุกคนด้วยครับ
แสดงให้เห็นว่า เวปนี้ได้รับความนิยมมาโดยตลอด
ถึงแม้จะโดน กลต มาควบคุมก็ตาม

ผมอยากให้ กลต มาอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายสักรอบ
แล้วช่วยบอกหน่อยว่า ทำไม กลต ไม่มีกระทู้ให้ความรู้กับนักลงทุนบ้าง
เวลาจัดงานมหกกรมนักวิเคาระห์ หรือ Set in the City
เห็นมีแต่โบรกเกอร์มาเชียร์ซื้อหุ้น และ
เอาสาวๆมาเชียร์เปิดพอร์ตซื้อขาย
ส่วนจะซื้อขายอย่างไร....ก็แล้วแต่ดวง

โอกาสที่นักลงทุนไทยจะพัฒนา
โดยที่อาศัย กลต และตลาดหลักทรัพย์ อย่างเดียวคงเป็นไปได้ยาก
เพราะตั้งแต่ลงทุนมา
ผมยังไม่เคยเห็น กลต และตลาดมาให้ความรู้กับนักลงทุนอย่างจริงๆจังๆสักที

กระทู้ด่า กลต นี่จะเข้าข่ายปั่นหุ้นและโดนตรวจสอบไหมครับ คุณมน
charnwud เขียน:It is such a joy & pleasure to see such a great website like this in Thailand. All of you are demonstrating investment society and our society as a whole the class of intellectual & matuarity which Thais can achieve.

Khun Mon, Khun Jeng, Khun Viboon, Khun Chatchai and other members (I can't name you all), to me you are examples of proud products of our country.

To website moderator, good job!
ขอบคุณคุณ charnwud ครับ
นานๆจะมีคนชมที

ในเวปนี้มีคนเก่งๆอีกเยอะเลยครับ
ต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกัน
ทำให้เวป TVI ของเราเป็นเวปหุ้นที่"น่ารัก"ที่สุดในประเทศไทย

เรากำจัดอคติ
เรากำจัดมิจฉาทิติ
เรากำจัดมุสาวาทะ
เรากำจัดสิ่งที่ไม่ดีออกจากเวปของเรา
ช่วยกันคนละไม้คนละมือ
ก็จะทำให้เวปของเราสะอาด
ปราศจากการใส่ร้ายป้ายสีกัน
หรือจงใจกระทำมิดีมิร้ายต่อคนอื่น
(รวมทั้งปล่อยข่าวหลอกให้ซื้อหุ้นที่ราคาสูงๆเพื่อปล่อยของด้วย)

ขอบคุณทุกท่านครับ
คำชมของคุณcharnwud ควรมอบให้กับสมาชิกทุกๆคนในเวปครับ

ส่วนเรื่อง Meeting ต้องถามคุณมนและคุณจินนีนะครับ
ผมแค่กองเชียร์ครับ ไม่ใช่หรีด

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 07, 2005 8:55 pm
โดย chatchai
กลต. และตลาดหลักทรัพย์ คิดอย่างเดียวครับ คือให้รายย่อยซื้อกองทุนรวมเอาครับ คงคิดว่าถ้าให้รายย่อยเรียนรู้เรื่องการลงทุนเอง แล้วค่อยลงทุน คงจะช้าไปมั๊งครับ สู้เชียร์ให้ไปซื้อกองทุนรวมดีกว่า คุณกิติรัตน์ก็เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการบลจ.วรรณ มาก่อนนิครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 08, 2005 1:19 pm
โดย VIB007
chatchai เขียน:กลต. และตลาดหลักทรัพย์ คิดอย่างเดียวครับ คือให้รายย่อยซื้อกองทุนรวมเอาครับ คงคิดว่าถ้าให้รายย่อยเรียนรู้เรื่องการลงทุนเอง แล้วค่อยลงทุน คงจะช้าไปมั๊งครับ สู้เชียร์ให้ไปซื้อกองทุนรวมดีกว่า คุณกิติรัตน์ก็เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการบลจ.วรรณ มาก่อนนิครับ
อันนี้ท่าจะจริงนะครับ
เพราะพวกท่านชอบบอกให้ไปซื้อกองทุน
ไม่ต้องมาเล่นเอง
แต่ถ้าเล่นเองก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง
ถ้ารอดตายก็รอด ถ้าตายก็ตายไป

มิน่าถึงจับพวกปั่นหุ้นไม่ได้สักที
ที่แท้ก็ปล่อยให้รายย่อยเจ็บตัวไป
ท่านคงสมน้ำหน้าพวกรายย่อย
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นหุ้นปั่น ก็ยังเข้าไปไล่ซื้อได้
ขาดทุนมาแล้วจะมาโวยวายได้อย่างไร

ถ้ารายย่อยเหลือน้อยๆ พวกท่านคงสบายขึ้น
เพราะกองทุนคงไม่มาโวยวายสักเท่าไหร่
แถมตลาดก็ไม่ผันผวนมากๆด้วย (จริงๆหรือ)

ดูมูลค่าซื้อขายต่อวันตอนนี้
รายย่อย 70%
ต่างชาติ 20%
กองทุน 10%
ถ้ารายย่อยตายหมด โบรกเกอร์คงเจ๊ง
เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่น

สุดท้ายตลาดและกลต คงปล่อยโบรกเกอร์เจ๊งไม่ได้
ก็ต้องสนับสนุนให้รายย่อยมาซื้อขายหุ้นต่อไป
ยิ่งซื้อขายมากๆยิ่งดี
เพราะโบรกรวย

ปีที่แล้วลองไปเก็งกำไรดูประมาณ 1 เดือน
ปรากฏว่า ค่าคอมมิชชั่นคิดเป็น 30% ของยอดขาดทุนเลยทีเดียว
เราขาดทุน 100 บาท โบรกเกอร์ได้ตังค์เรา 30 บาท
ขอสรุปว่า
ไปเก็งกำไร โบรกเกอร์จะเรียกคุณว่า เทวดา
เป็นวิ โบรกเกอร์ไม่เคยโทรมาหา หุ้นจองอย่าหวังว่าจะได้
ซื้อขายทางอินเทอร์เนตจะเหมาะสมกับวิมากกว่า
เพราะยังไงโบรกก็ไม่ค่อยได้ค่าคอมสักเท่าไหร่อยู่แล้ว
ยังมาเสียเวลารับโทรศัพท์เราอีก

ยังดีที่โบรกเกอร์ผมรู้จักกัน
และเขาอยากเรียนรู้วิธีการแบบวิด้วย
เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่
ได้หุ้นจองมานิดหน่อย พอค่าขนม
(แต่หลังๆไม่ได้หุ้นจองแล้ว เพราะเทรดน้อย)
เขาบอกว่า เล่นแบบผม มันช้า ไม่ทันใจ

ทำให้ผมคิดถึงคำพูดของ คิโยซากิ ที่ว่า
"การลงทุนเป็นเรื่องน่าเบื่อ และไม่น่าตื่นเต้น
คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้
เพราะเราชอบในสิ่งที่น่าสนุก น่าตื่นเต้น เร้าใจ
ทำให้ออกนอกจากแผนที่เราวางไว้

เหมือนขับรถไปสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกล
ถ้าเราไม่มีความมุ่งมั่นเพียงพอ
และเห็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ข้างทาง
เราก็ขับออกนอกเส้นทาง
ถ้าหลับเข้ามาเส้นทางเดิมได้ก็เสียเวลาไปพอสมควร
แต่ส่วนใหญ่ก็จะออกนอกเส้นทางไปเลย
และเปลี่ยนจุดมุ่งหมายไปเรื่อยๆ
ทำให้ทำตามที่เราวางแผนไว้ตั้งแต่แรกไม่ได้สักที"

ผมได้เห็นชีวิตคนอื่นๆมามากพอสมควร
โดยเฉพาะคนใกล้ชิด
บางคนบางช่วง มีชิวิตที่รุ่งโรจน์ มีเงินมากมาย
แล้วก็จนลง เพราะเงินหมด
จากนั้นก็กลับขึ้นมาใหม่ แล้วก็ตกลงไปอีก เป็นเช่นนี้หลายๆครั้ง
ผมลองสังเกตุดูพบว่า
เขาเหล่านั้นไม่ได้วางแผนไว้ดีพอ
หรือวางแผนแต่ทำตามแผนที่วางไว้ไม่ได้
รวมทั้งปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามดวง
มากกว่าที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆด้วยความมุ่งมั่นด้วยตนเอง

ที่เล่ามานี้ ไม่ได้ตั้งใจจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
แต่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆว่า
การลงทุนนั้นไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นอะไร
เพียงแค่ทำตามแผนที่วางไว้อย่างมุ่งมั่น
และคอยปรับให้เหมาะกับสถานการณ์อยู่เสมอ
โดยไม่ละทิ้งเป้าหมายเดิมที่วางไว้
ก็ช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้แน่นอน
ถึงแม้วันนี้ท่านจะมีน้อยหรือไม่มีอะไรเลยก็ตาม

วันนี้ขอบ่นเพียงเท่านี้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 08, 2005 6:35 pm
โดย yoyo
VIB007 เขียน:
วันนี้ขอบ่นเพียงเท่านี้
เป็นการบ่นที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวมมากเลยครับ :P

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 08, 2005 9:27 pm
โดย house
ผมคนนึงละ ที่เกลียดเรื่องตื่นเต้น ผมชอบอะไรไปเรื่อยๆ แล้วคาดการณ์ได้มากกว่า 8)

เพื่อนๆที่เล่นหุ้นเขาเลยหาว่าผม เฉื่อย หุ้นขึ้นเอาแต่ดู หุ้นลงก็เอาแต่ดู เออดูๆไปเราก็เฉื่อยจริงๆแหละ :oops:

แต่ทำไงได้ ชอบแบบนี้มากกว่านี่ นอนหลับฝันดี ไม่ต้องเอาเวลาทำงานไปดูหุ้น

เฮ้อ สบายใจ :P

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 09, 2005 11:50 am
โดย yoyo
แต่ก่อนเพื่อนผมก็พูดแบบนี้เหมือนกันครับ
แต่หลังจากเวลาผ่านไปปีกว่า เพื่อนๆผมขาดทุนกันทุกคน ผมยังยิ้มแฉ่งกำไรดีเหมือนเดิม
เลยเลิกแล้วครับ .. หลังๆผมพูดอะไรไปซื้อตามกันเป็นแถวเลย :lol:
เอาผลงานพิสูจน์ดีกว่าครับ ชัดเจนกว่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 09, 2005 8:57 pm
โดย house
พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็ยังสงสัยอยู่ครับ ว่าผลงานปีแรกผมนี่ ฝีมือ หรือ ฟลุ้ค กันแน่ เพราะเอากันจริงๆ ผมก็ไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์ DCA แบบคุณวิบูลย์ เก็บก้นบุหรี่ก็ไม่เก่ง DCF ก็เพิ่งหัด แล้วก็ประมาณกำไรแบบคุณ Blueblood ไม่ได้

อาศัย แค่ ซื้อในเวลาที่ไม่มีคนสน ตลาดตกหนักสุดๆ เทรดให้น้อยครั้ง แล้วก็หนีหุ้นปั่นเท่านั้น

ผมว่าในระยะยาวแล้ว แค่นี้คงจะไม่พอ คงต้องหาความรู้เพิ่ม แต่ช่วงนี้ยุ่งชะมัดเลย :cry:

หนทางสู่อิสรภาพยังอีกยาวไกล :?